เถรวาท แตกต่างกับ อาาจริยาวาท
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
3 ความคิดเห็น
อาจาริยวาท หมายถึงคำพูดของผุ้เป็นอาจารย์ค่ะ ใช้เรียกนิกายที่ไม่ยอมรับการทำสังคายนาครั้งแรก แต่ยึดถือตามที่ผู้เป็นอาจารย์ของตนสอนสั่ง มีหลายนิกายค่ะ แต่ว่าเสื่อมไปหมดแล้ว ปัจจุบันน่าจะเหลือมหายานนิกายเดียวค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ถ้าอย่างไร ลองหาเพิ่มเติมใน GG นะคะ
ส่วนเถรวาท เป็นนิกายหนึ่งของพุทธศาสนาค่ะ ประเทศไทยเรานับถือพุทธนิกายเถรวาท เป็นนิกายที่ยึดถือเอาคำสอนและหลักปฏิบัติตั้งแต่การทำสังคายนาครั้งแรกเป็นต้นมาโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ภาษาที่ใช้ในพระไตรปิฏกก็เป็นภาษาบาลีค่ะ
ภาษาบาลีที่บันทึกในพระไตรปิฎกฉบับดั้งเดิมนั้น เป็นบาลีเก่าแก่มาก จนคนสมัยนี้ยากที่จะตีความได้ชัดเจนทั้งหมด จึงต้องอาศัย อรรถกถา และ ฎีกา ซึ่งเป็นของ อาจารย์รุ่นหลังๆ อธิบายความหมายในบาลีฉบับดั้งเดิมนั้นออกมา คนรุ่นหลังๆก็เข้าใจพระไตรปิฎกจาก อรรถกถา และ ฎีกา ซึ่งจริงๆแล้ว ก็คือถ้อยคำจากอาจารย์ในรุ่นหลังแหละครับ แต่เราเรียก เถรวาท แปลว่าถ้อยคำจากพระเถระ
จุดประสงค์ของพุทธศาสนาไม่ใช่การท่องจำคำบาลีเหล่านี้ ถ้าไม่นำไปปฎิบัติให้รู้ให้เห็น ศาสนาจะเสื่อมหรือไม่ขึ้นอยู่กับการปฎิบัติได้หรือไม่ เพราะผู้ที่ปฎิบัติได้จริงจึงจะรู้ความหมายที่แท้จริงในบันทึกของพระไตรปิฎก ผู้ไม่ได้ปฎิบัติก็เพียงท่องจำไปแบบนกแก้วเท่านั้นเอง
ทิฏฐิวิบัติ
วัตถุ 10 ก็ย่อนเกิน คือ ถือวัตรปฏิบัติของอาจารย์ของตนเป็นใหญ่ (ถ้าอาจารย์วัตรปฏิบัติเคร่งครัดก็ดีไป),ดื่มสุราอ่อนและยินดีในเงินทอง ส่วนข้อที่เหลือผ่อนปรนได้ แล้วแต่เงื่อนไขในกรณีนั้นๆ
วัตถุ 5 ก็ตึงเกิน (ถ้ามีถือวัตรทรมาณร่างกายด้วยนี้ ศาสนาเชนชัดๆ) *การปฏิบัติตาม ท่านมหาวีระ ผมเห็นว่า น่าจะไปสูงสุดก็แค่ พรหมชั้นสุทธาวาส เพราะยังมีกรรมจากการทรมาณตนอยู่จึงไม่บรรลุ ปล. รอพระพุทธองค์ไปโปรดชี้นำทางนะ ท่านมหาวีระ (ครูทั้ง 6 ที่ร่วมสมัยกับพระพุทธองค์ ต่างก็ต้องเป็นสาวกของพระพุทธองค์ทั้งนั้น ไม่มีใครมีภูมิธรรมเทียบเท่าพระพุทธองค์เลย)
เดินทางสายกลางดีกว่าครับ เพราะพุทธศาสนาที่ทำให้บรรลุธรรมนั้น ไม่มีนิกาย การถือนิกายนั้นนิกายนี้ถือว่าเป็นสังฆเภท อยู่ที่ว่าคุณถือยังไง ถ้าปรารถนาพุทธภูมิ ก็ถือเป็นอนันตริยกรรม เพราะต้องไปบำเพ็ญตนต่อไปอีกนานเลยเทียว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?