Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากถามพวกพี่ๆที่มีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้านหน่อยคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอเกริ่นไว้ก่อนเลย ว่าผมเป็นเพศที่สาม อาจจะไม่ดีในสายตาใครต้องขอโทษด้วยนะครับ -/\- เสียใจ 
   คือต้องบอกว่า ช่วงนี้ใกล้จะเรียนจบแล้ว [เหลือเรียนมหาลัยเท่านั้น] ที่บ้านก็ถามเรื่องอนาคตว่าอยากทำอะไรดี (ในใจคงคิดแล้วล่ะว่าจะให้ผมเป็นอะไร ถ้าไม่โดนกะที่เขาต้องการโดนสับแหลกแน่) ถามเกือบทุกวัน แต่ก็ไม่ตอบ เพราะรู้คำตอบที่จะตามมาหลังจากที่ตอบไป (แต่ในใจก็เล็งไว้แล้วจะเปิดร้านเล็กๆ กำไรไม่มากก้น้อย เพราะเป็นคนไม่ค่อยโลภ ซึ่งต่างที่บ้านมาก) ถามได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่ก็โดนไซโคให้คิดตามเขา จนบางครั้งทะเลาะกันเรื่องนี้ เพราะความคิดผมกะเขามันต่างกันนะสิพูดไม่ออก  จนกระทั่งช่วงนึงที่ทะเลาะกัน ที่บ้านเผลอหลุดปากมาว่า "กูไม่สนหรอกนะว่าแกจะชอบหรือไม่ชอบ ถนัดหรือไม่ถนัด เพราะงานนี้มันได้เงินเยอะกว่างานของพวกชาวบ้านที่แกคิด แกต้องทำงานนี้เท่านั้น" (งานชาวบ้านที่เขาคิดคือ งานที่ได้เงินน้อยกว่าที่เขาทำได้ ซึ่งงานที่ผมคิดมันอยู่ในหมวดนี้ซะด้วย) พอเราได้ยินคำนี้เราถึงกับช็อกกระอัก  พูดไม่ออกเลยว่า ได้แต่คิดว่าอนาคตตูต้องโดนกำหนดให้เป็นแบบนี้หรอ คุณไม่สนใจเลยหรอว่า ต่อไปผมจะมีความสุข หรือแค่มีเงินเท่านั้นจะมีความสุข แล้วก็คิดไปเรื่อย จนได้คำถามที่อยากให้พี่ๆหลายคนที่จะให้ตอบ คือ สภาพสังคมแบบนี้ ถ้าเราจะทำงานธุรกิจส่วนตัว ปัจจัยแบบไหนมันจะไปรอด 1เอาเงินก่อน เห็นคนอื่นไซโคว่าดี เงินเยอะไว้ก่อน ความสามารถตัวเอง ความชอบตัวเองมันไม่ใช่ แต่ช่างหัวมันจะเอาเงินเว้ย หรือ 2หางานที่ตัวเองถนัด ชอบ เดี๋ยวถ้าใจมันรักจริงๆ เดี๋ยวเงินก็เข้ามาหาเราเองแหละ *รู้ว่าไม่อยากให้เราลำบาก แต่ใช่ว่างานนี้เท่านั้น ที่ทำให้ไม่ลำบาก งานอื่นๆก็มีที่ไม่ลำบาก แต่มันจะใช่หรอที่อยากให้เกิดมาแล้วไม่ลำบาก ถ้าเป็นอย่างนั้นหาผัวไม่ได้กันพอดี ทำห่าไรไม่เป็น ลำบากหน่อยเป็นต้องร้อง กูขึ้นคานแน่ๆ*
สุดท้ายนี้ ถ้าพี่ๆงงกันตรงไหน ไม่เข้าใจ ก็บอกได้นะครับ เพราะเป็นกระทู้แรกเลยในเว็บนี้
ปล. ผมไม่ได้ใส่ร้ายเขา เพราะเจอกับตัว ได้ยินกับหู ซึ่งบางทีแทบอยากท้อกะชีวิต 
ขอบคุณที่พี่เสียสละเวลาอ่าน ถ้ามีคำแนะนำดีๆ ผมจะเก็บเอาไปคิดนะครับเยี่ยม  

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

AAAGGG 4 มิ.ย. 57 เวลา 17:39 น. 1

ขอถอดล็อกอินค่ะ (แล้วแต่พิจารณา)

ที่บ้านก็ทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ มีเยอะ พูดตรงๆว่าไม่ถึงขั้นไฮโซ แต่อยู่ในค่ายที่ครอบครัวมีเงินมาก

เป็นลูกคนเล็กในตระกูลเลยค่ะ ใช้คำว่าตระกูลนะเพราะ...

บ้านเราเป็นคนจีนญาติพี่น้องวัยรุ่นๆเรา 20-35 มีประมาณเกือบ 20 คน

ทุกคนโปรไฟล์ดี เรียนจบดี บางคนไม่ทำงาน ก็เรียนเอาปริญญาเล่นๆ

จะพูดเฉพาะในครอบครัวเราแล้วกัน

เรามีพี่น้อง 3 คน พี่เรา 2 คนจบปริญญาตรี ศึกษาต่อปริญญาโทแต่งงานมีลูกกันไปเมื่อปีสองปีที่แล้ว

ส่วนตัวเรา คนเล็กสุดมีปัญหาคนเดียวในบ้าน เพราะเราเป็นคนเอาแต่ใจ อารมณ์ร้อน

ตอนจะเข้ามหาลัย เราทะเลาะกับที่บ้าน เค้าอยากให้เราเรียนบริหาร บัญชี ตลาด บลาๆ

อะไรก็ได้ที่จบมาแล้วดูแลธุรกิจครอบครัวต่อได้ ไม่น้อยหน้าญาติพี่น้อง

เราไม่ยอม เราอยากตามฝัน ตอนนั้นเรารักชีวิตในแบบที่เราเป็นอยู่ เรารักคณะนี้ เราอยากเรียนแบบนี้

เราอยากเรียนที่นี่ เราไม่ยอม ไม่ยอมเด็ดขาด เราทะเลาะกับป๊าม้า จนเราเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน

ไปเรียนในสิ่งที่เราอยากเรียน ถามว่าเอาเงินมาจากไหนเพื่อเรียน?

เรามีเงินเก็บ เงินที่ป๊าม้าให้มานั่นละ เราเป็นคนประหยัดรู้จักใช้เงิน ฟุ่มเฟือยบางเวลา

เก็บเสื้อผ้าไปอยู่หอได้ไม่ถึงปี ป๊าม้ายอมแพ้ให้เราเรียนในสิ่งที่เราอยาก เราก็กลับบ้าน

พอเรียนจบ ต่อให้เราจะเกรดดีแค่ไหน แต่คณะนี้ตระกูลเราไม่ยอมรับค่ะ เค้าไม่ชอบ

พี่น้องคนอื่นๆเค้าก็ดูถูกเรา เราเสียใจมาก แต่ทำอะไรไม่ได้

มีอยู่ช่วงนึงเรายอมแพ้ เลยตกลงไปทำงานที่บริษัท แต่ได้ไม่นานเราก็ออกเพราะเราไม่ชอบ

เราไม่สามารถทำงานในสิ่งที่เราไม่รักได้ เราจึงไปสมัครงานที่เกี่ยวกับสายเรา

งานแรกผ่าน แต่ทำได้แปบเดียวเราก็ออกเพราะเรามีปัญหากับลูกค้า (เป็นคนไม่ยอมคน)

งานที่สอง เราคิดว่าไปได้สวย ไม่เชิงชอบมากพอทำได้ แต่สุดท้ายก็ต้องออกเพราะมีปัญหา

เวลารวมญาติ ทุกคนในตระกูลเค้าชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนนุ้นคนนี้

ดูสิ (ชื่อเรา) จบมาจะ 2 ปีละ ยังไม่มีงานทำเลย ก็งี้ละคณะ...... บลาๆๆ

เราเสียใจมาก เราสงสารป๊าม้า แต่เราพูดไม่ได้เพราะเราทำในสิ่งที่เค้าพูดจริงๆ เราหางานทำไม่ได้

เราเริ่มมานั่งคุยกับตัวเองว่าเราอยากเป็นอะไร เราอยากทำงานแบบไหน

แบบนี้ชอบไหม คิดว่าทำได้ไหม เราต้องอดทนกับลูกค้านะ เราพูดกับตัวเองทุกวันว่าเราจะทำให้ได้

เราจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเราอีกแล้ว เราลองผิดลองถูกกับงานที่เราชอบมาหลายสาย

มีปัญหากับเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน รุ่นพี่ ลูกค้า งาน เราร้องไห้จนนับครั้งไม่ถ้วนเวลามีคนพูดถึงเรา

ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว

ทุกวันนี้เราทำงานในแบบที่เราชอบ แบบที่เรารัก เราทำงานแล้วเรามีความสุข เราทำตามความฝัน

เงินเดือนเรา 6 หลัก มากกว่าพี่น้องเราอีก ทุกวันนี้เวลารวมญาติเราจะมีความสุขมาก

กลายเป็นป๊าม้าเราเองที่มีหน้ามีตาไปคุยกับญาติว่าเราเงินเดือนดีกว่าพวกลูกหลานคนอื่นอีก

เพราะฉะนั้นก็อย่ายอมแพ้ ถ้าคิดว่าทำแล้วมีความสุขทำไปเถอะ

ทำให้เค้าเห็นว่าเห้ยเราทำได้นะเว้ย สิ่งที่เราคิดมันถูกนะ เราจะพิสูจน์ให้ดูเอง

อย่าไปกลัวว่าจะไม่มีงานทำ จบมาแล้วหางานไม่ได้

ต่อให้หนูจะหางานไม่ได้จริงๆ ก็ยังมีงานที่บ้านรองรับอยู่ป่ะ

เรามีต้นทุน ครอบครัวเรามีทุน กอบโกยความสุขไว้ก่อนเถอะ

(เล่าให้ฟังเฉยๆ จะเลือกทางไหนก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาเองด้วยนะ)

0
yoyo berryz 4 มิ.ย. 57 เวลา 17:52 น. 2

ใจจริงก็อยากพิสูจน์ให้ที่บ้านเห็นว่า เราถนัดอะไร เรามีความสามารถแบบไหน แต่โดนคำว่าเงินกลบหมดเลย (เพราะว่าอาชีพนี้มันได้เงินดีอยู่แต่จะมาช้า แต่ที่บ้านอยากเห้นงานที่ทำได้เร็ว แต่เราดันไม่ถนัด) กำลังใจก้ไม่มี แทบท้อ แต่ก็ยังปลอบใจตัวเองอยู่อย่างคือ เรามีมือมีเท้าไม่พิการ ยังไงเราก็ต้องมีทางทำมาหากินนั่นแหละ จนทุกวันนี้ไม่ฟังล่ะ ยอมทำหูทวนลม ทั้งๆที่บางคำมันแทงใจมาก แต่ก็ต้องสู้ๆเนอะ สักวันต้องมีวันของผม ผมคิดอย่างนั้น 555 ตลกจัง

0