10 อันดับบุคคลขายวิญญาณให้กับปีศาจเพื่อความยิ่งใหญ่
ตั้งกระทู้ใหม่
10 อันดับบุคคลขาย วิญญาณ ให้กับ ปีศาจ เพื่อได้มาซึ่งความยิ่งใหญ
ที่มา : ทีมงาน toptenthailand,prontera.in.th
มนุษย์เป็นผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าโลภมาก หาหนทางให้ได้มาซึ่งความต้องการของตน ด้วยการโกงบ้าง ทางลัดต่างๆ นานาแม้กระทั้งยอมขายวิญญาณของตัวเอง วันนี้เรานำเสนอบุคคลที่ทำสัญญากับเหล่าปีศาจมาดูกันว่าจุดจบของบุคคลเหล่านี้เป็นอย่างไร
สมเด็จพระสันตะปาปา ซิลเวสเตอร์ที่ 2 (ราว ค.ศ.945 – 1003) เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความรู้กว้างขวาง มีความหลงใหลวิทยาศาสตร์ของโลกอาหรับ รอบรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ กลศาสตร์ และท่านยังเป็นผู้ประดิษฐ์นาฬิกาลูกตุ้ม ลูกโลกดารา (armillary sphere) และยังนำเลขอารบิกไปเผยแพร่ในยุโรปตะวันตก นอกจากนี้ท่านยังเขียนหนังสือเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ดนตรี เทววิทยา และปรัชญา หลังจากการตายของท่านก็เริ่มมีข่าวลือแพร่กระจายว่า ท่านเป็นนักเวทมนต์ อีกทั้งเบื้องหลังอัจฉริยบุคคลและความสามารถในการประดิษฐ์ของท่านเป็นผลลัพธ์ที่ได้มาจากการทำข้อตกลงกับปีศาจ บางตำนานเล่าว่าท่านได้ทำสัญญากับปีศาจหญิงสาวที่ชื่อลาเมอริเดียนา (Meridiana) ที่ช่วยเหลือท่านให้ขึ้นครองบัลลังก์ของสมเด็จพระสันตะปาปา (อีกตำนานบอกว่าท่านได้รับเลือกเป็นสันตะปาปาจากการเล่นลูกเต๋ากับปีศาจ)
นิคโคโล ปากานินี (ค.ศ.1782 - 1840) เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีพรสวรรค์ไวโอลินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลก ในช่วงที่เขามีชีวิต เขาสามารถเล่นแมนโดลินเมื่ออายุเพียง 5 ปี และเริ่มเล่นไวโอลินเมื่ออายุ 7 ปี ต่อมาก็เริ่มเล่นต่อหน้าสาธารณชนในขณะอายุ 12 ปีและเป็นที่รู้จักในฐานะนักไวโอลินวิโอลา แต่เมื่ออายุ 16 เขามีอาการเจ็บป่วยและโรคพิษสุราเรื้อรัง ก่อนที่จะกลับมาเล่นอีกครั้งจนมีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายไปทั่ว ด้วยเทคนิควิธีการเล่นไวโอลินแบบแปลกๆ ชนิดที่เรียกว่าไม่มีนักไวโอลินคนไหนเหนือกว่าเขาในเวลานั้นได้ ด้วยภาพลักษณ์ของปากานินีที่ผอมซีดและชอบใส่ชุดสีดำ ทำให้หลายคนเชื่อว่านิคโคโลทำสัญญากับปีศาจเพื่อแลกพรสวรรค์และความสามารถ ซึ่งผู้ชมบางคนได้อ้างว่าเห็นปีศาจช่วยเหลือเขาในระหว่างการแสดงของเขา ซึ่งข่าวลื่อดังกล่าวอาจเป็นเพราะเขาปฏิเสธพิธีรับศีลครั้งสุดท้ายของคริสตจักร ทำให้หลังเขาเสียชีวิตทางโบสถ์ได้ปฏิเสธทำพิธีฝังศพทางศาสนาในเจนัว ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 4 ปีในการอุทธรณ์โดยตรงต่อองค์พระสันตะปาปาเพื่อขอให้ขนส่งศพไปเจนัว แต่ยังไม่ได้รับการฝัง จนกระทั้งปี 1876 จึงมีพิธีฝังศพเขาที่โบสถ์แห่งหนึ่งในสุสานปาร์มา
กิลล์ เดอ เรยส์ (ค.ศ.1404 – 1440) เป็นอัศวินที่กล้าหาญของประเทศฝรั่งเศส ที่มีจุดเด่นคือมีหนวดเคราสีดำค่อนไปทางสีน้ำเงิน (จนเป็นที่มาของเคราสีน้ำเงิน) เขาเกิดในครอบครัวที่มีชื่อเสียงในเบรเตญ เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตลง เขาก็มีฐานะมั่งคั่งและมีอำนาจ ต่อมาก็ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการในกองทัพและต่อสู้ร่วมกับโจน ออฟ อาร์ค (Joan of Arc) ได้รับชัยชนะในการต่อสู้กับประเทศอังกฤษหลายครั้ง จนกลายเป็นวีรบุรุษของฝรั่งเศส
หลังโจน ออฟ อาร์คเสียชีวิตลง กิลล์ก็ออกจากการเป็นทหาร และชีวิตของเขาก็เริ่มตกต่ำลง ในความสิ้นหวังเขาเริ่มหลงใหลไสยศาสตร์ภายใต้คำแนะนำของชายคนหนึ่งชื่อฟรานคอยส์ เปรลาติ (Francesco Prelati) ที่สัญญาจะช่วยกิลล์ในการชดใช้หนี้สิน โดยบอกเขาว่าให้สังเวยเด็กจำนวนมากเพื่อบูชาปีศาจที่ชื่อ “บารอน” (Baron) ส่งผลทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องข่มขืนทรมานและฆ่าเด็กจำนวนประมาณ 80 - 200 คน สุดท้ายเขาก็ถูกจับและตัดสินให้ประหารชีวิตโดยการแขวนคอและนำศพไปเผาไฟ
โจนาธาน มอลตัน (ค.ศ.1726 – 1787) เป็นบุคคลในตำนานของนิวแฮมป์เชียร์ เขาเริ่มต้นเป็นเด็กฝึกงานทำตู้ แต่ในปี 1745 เขาก็ทิ้งงานและเริ่มต้นอาชีพเขาในกองทัพที่นิวอิงแลนด์ เข้าร่วมรบในสงครามพระเจ้าจอร์จ (King George's War ) และสงครามฝรั่งเศส-อเมริกันอินเดียน (French and Indian War) เขาแต่งงานในปี 1749 เป็นพ่อเด็ก 11 คน และกลายเป็นหนึ่งในชายที่ร่ำรวยที่สุดในนิวแฮมป์เชียร์ เนื่องจาก ความร่ำรวยของโจนาธาน ทำให้เกิดข่าวลือว่าเขาได้ทำสัญญากับปีศาจ ในคฤหาสน์ที่เขาสร้างขึ้นบนพื้นที่ของคนจนเมื่อปี 1769 มีความเชื่อว่าปีศาจจะปรากฏตัวเพื่อใส่เหรียญทองเต็มรองเท้าบู๊ตของเขาที่แขวนไว้หน้าเตาผิงในวันแรกของเดือนล่ะครั้ง แต่โจนาธานโลภมากเลยคิดอุบายหลอกปีศาจด้วยการตัดพื้นรองเท้าบูตให้เป็นรูใหญ่เพื่อให้ปีศาจใส่เหรียญยังไงก็ไม่เต็มเสียที และเมื่อปีศาจรู้ว่าโดนโจนาธานหลอก จึงแก้แค้นด้วยการเผาบ้านของเขาและทำให้เหรียญทองหายไป เล่ากันว่าเมื่อโจนาธานเสียชีวิตลง ศพของเขาก็หายไปจากโลงศพและถูกแทนที่ด้วยกล่องใส่เหรียญประทับตรามาร โลงของโจนาธานถูกฝังในหลุมฝังศพที่ไม่มีเครื่องหมายและที่ตั้งยังไม่มีใครทราบ
หลวงพ่อเออร์เบน กรานเดียร์ (ราว ค.ศ.1590 – 1634) เป็นนักบวชคาทอลิกชาวฝรั่งเศสที่ถูกเผาทั้งเป็น หลังถูกตัดสินในข้อหาใช้เวทมนต์คาถา เขาทำหน้าที่เป็นนักบวชในโบสถ์ เซนต์ครอยในลูดอง (Loudun) นิกายโรมันคาทอลิก ในสังฆมณฑลแห่งปัวตีเยเขาเป็นนักบวชที่รู้จักในเรื่องละเมิดคำสาบานรักษาพรหมจรรย์ เป็นคนมักมากในกามมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิงและมีชื่อเสียงในเรื่องเจ้าชู้ ในปี 1632 กลุ่มแม่ชีจากสำนักแม่ชีเออซูลิได้กล่าวหาว่า เขามีเวทมนต์เรียกปีศาจอัสโมดาอีกหนึ่งในปีศาจเจ็ดบาปราคะเพื่อใช้ทำความชั่ว หลังจากเขาถูกจับและถูกนำตัวไปทรมาน ก็ได้พบหลักฐานใบสัญญาที่เขาทำไว้กับปีศาจหลายตัวเป็นภาษาลาติน รวมถึงลายเซ็นที่เชื่อว่าเป็นของซาตาน สัญญาระบุว่าเขาจะจงรักภักดีต่อปีศาจและสละความเชื่อต่อศาสนาเพื่อบรรลุข้อตกลงเพื่อให้ได้ผู้หญิงที่ตนต้องการ รวมไปถึงความมั่งคั่งและชื่อเสียง ปัจจุบันใบสัญญาของเขายังคงเก็บอยู่ในหอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศสจนถึงปัจจุบัน
จูเซปเป้ ตาร์ตินี่ (ค.ศ.1692 – 1770) เป็นนักแต่งเพลงและนักไวโอลินชาวอิตาเลียน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนักประพันธุ์เพลงดนตรีบรรเลงที่มีผลงานมากกว่า 400 ผลงาน ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่ใช้ในโบสถ์ไม่ก็โอเปร่า และผลงานที่โดดเด่นมีชื่อเสียงที่สุดคือ เพลงที่ชื่อ “เดวิด ทริล โซนาต้า” (Devil's Trill Sonata) ที่ใช้เดี่ยวไวโอลินด้วยท่วงทำนองอันร้อนแรง จุดเริ่มต้นของเพลงดังกล่าว จูเซปเป้ได้เล่าให้เฌโรม ลาล็องด์ (Jérôme Lalande) นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสฟังว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากปิศาจที่ปรากฏตัวต่อเขาในความฝันบนเตียงนอน จากนั้นก็ปีศาจก็บรรเลงไวโอลินโซนาต้าที่มีความไพเราะมากบทหนึ่ง ซึ่งเมื่อเขาฟังแทบหมดเรี่ยวแรงจนลืมหายใจ แต่เมื่อตื่นขึ้นมาเขากลับไม่สามารถจดจำบทเพลงนั้นได้เลย เขาจึงลองแต่งโซนาต้าเพื่อเลียนแบบเพลงในฝัน แม้ว่าเพลงจะสร้างประทับใจแก่ผู้ชมมากเท่าใดก็ตาม แต่จูเซปเป้ยังคงผิดหวังที่ผลงานเพลงยังห่างไกลจากเพลงที่เขาได้ยินในความฝันของเขา ถึงกับกล่าวภายหลังว่า “ผมยอมพังไวโอลินทิ้งและเลิกเล่นดนตรีตลอดไปถ้าผมได้เป็นเจ้าของบทเพลงนั้น”
ต่อด้านล่างค่าาาาาาาาาาาาา
31 ความคิดเห็น
โรเบิร์ต จอห์นสันสร้างสรรค์ผลงานถึง 29 บทเพลงก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยวัยเพียงแค่ 27 ปีด้วยอาการป่วยลึกลับที่ยังเป็นที่ถกเถียงไม่เลิก หลายคนเชื่อว่าปีศาจได้เอาวิญญาณเขาไป แต่ข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเขาถูกวางยาพิษในแก้ววิสกี้โดยภรรยาจับได้ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ เขาถูกฝังในหลุมฝังศพที่ไม่มีเครื่องหมายและที่ตั้งไม่มีใครทราบ
กระทู้นี้ทำให้เรานึกถึง black butler
555555555555555
เราก้อชอบบบบบชิเอลก่ะเซบาสจังฟินเว้ออออ>,,<
ยังขาดโกสต์ ไรเดอร์
ผมว่าหลายๆคนในนี้ ถูกฆ่าเพราะมีความคิดนอกกรอบมากเกินไป ว่ากันว่าในสมัยที่คริตจักรเรืองอำนาจ วิทยาศาสตร์ แทบจะเป็นศาสตร์มืดที่ผู้คนรังเกียจเดียจฉันท์ เอาง่ายๆ แค่นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังหลายๆท่านที่สร้างทฤษฏีชั้นสูงมากมาย ต่างถูกโจมตีอย่างหนักจาก พวกคริตจักร
ถ้าใครเคยอ่านนิยายเรื่อง เทวากับซาตาน ของแดน บราว์แล้วละก็ขอให้รู้ไว้เลยว่านั่นแหละคือประวัติศาสตร์ที่เป็นข้อเท็จจริงในมุมมองหนึ่ง
สังเกตได้ว่าส่วนมากคนที่ถูกกล่าวหา มักเป็นคนที่มีบุคคลิกแปลกๆ เป็นคนใหญ่คนโต ก้าวหน้าในตำแหน่ง
เป็นคนที่มีความคิดก้าวหน้าที่ไม่เห็นด้วยกับความเชื่อดั้งเดิม คนอัจริยะ หรือเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทั้งนั้นเลย
คนที่มีลักษณะเหล่านี้มักจะโดนกล่าวหาว่าเป็นพ่อมด แม่มด ขายวิญญาณให้ปีศาจบ้าง
สุดท้ายก็เกิดการล่า ทำลายล้าง ตามฆ่าคนเหล่านี้
เราคิดว่าถ้าไอสไตล์ หรือนักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ไปเกิดในสมัยนั้น ก็โดนนน555
ถ้าทำได้ ผมก็อยากลองนะ
แล้ว amy winehouse อ่าาา
เสก โลโซก็เคยบอกว่าขายนี่
น่ากลัว
เราก็คิดอย่างนั้นนะ คิดถึงชิเอลเลยล่ะ
รัสปูติน น่าจะเป็นอีกคน
ไม่มีโวลเดอร์มอล์เหรอ
คิดมากไปๆ น่ากลัวจริงๆ แต่ยังไงในตัวพวกเขาก็ต้องมีความดีอยู่บ้างแหละน่า
ตอนแรกที่เห็นหัวข้อกระทู้ก็นึกถึงคนนี้
โวลเดอร์มอ เขาเปนพ่อมดที่เกิดจากพ่อมด เอาง่ายๆนะ พวกคนที่อยากมีเวทมนต์จะขายวิญญาณให้ซาตาน แต่เขามีเวทมนต์แล้วอ่ะ แล้วก้ ภาพยนตร์เขาไม่ยกเรื่องแบบนี้มาสร้างแน่นอนค่ะ นอกจาก The Omen
Gilles de Rais เรื่องที่ไปเป็นทารุณกับฆ่าเด็กเป็นข่าวลือนะครับรู้สึก
น่าจะมี ciel phantomhive ...#ผิด
5555+
มันมีจริงเหรอ สัญญาที่ซาตานลงนามเปนลายเซ็น ขำนะ
ในความคิดนะ สงสัยว่าแม่ชีกลุ่มนั้นคงทนพฤติกรรมความเจ้าชู้ของหลวงพ่อนั้นไม่ไหวซะมากกว่า
เลยสร้างเอกสารปลอมขึ้นมาโดยอ้างว่าหลวงพ่อทำสัญญากะซาตาน ซะมากกว่ามั้ง
ความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?