Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คำแนะนำสุขภาพจากหมอประจำในหลวง #โรคหัวใจ #เมมโมแกรม #HDL #น้ำเย็นทำพิษ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หลายคนอาจมองการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องของคนแก่ หรือผู้ใหญ่ จริงๆมันไม่ใช่นะ มันเหมาะกับทุกเพศและทุกวัยนะ กันไว้ดีกว่ามาแก้ทีหลัง โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้คนเยอะแทบจะเหยียบกันตายก่อนจะได้รักษา ในต่างประเทศ เช่น ใน ไถเผ่ย์ คนจะมาโรงพยาบาลด้วยการตรวจสุขภาพมาก เพราะเขาเล็งเห็นถึงการดูแลรักษาสุขภาพ ต่างจากไทยแลนด์ ที่มาโรงพยาบาลกันเพราะมารักษาซะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าไม่เป็นอะไรก็ไม่มา.....

นพ.ดำรง หมอประจำ ในหลวง.....มีคำแนะนำดีๆ

Vitamin B 1,ุ6,9,12 ช่วยป้องกันโรคหัวใจ

สำหรับการป้องกันโรคหัวใจ คือให้ทานวิตามิน B 1, 6, 12 และ B 9 เพียง 2 อย่างนี้ อย่างละเม็ดก่อนนอน…. คุณหมอรับประกันว่า จะไม่เป็นโรคหัวใจเลย

ปล. วิตามิน B1 พบมากในข้าวซ้อมมือ ถั่ว เนื้อหมู ตับ และไข่

วิตามิน B6 พบมากใน ธัญพืช กล้วย ถั่วต่างๆ เมล็ดแตงโม เมล็ดทานตะวัน

วิตามิน B9 พบมากใน ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ แล้วก็ตับ

วิตามิน B12 พบมากในสัตว์ เช่น ไต กล้ามเนื้อสัตว์ เนื้อปลา นมและผักใบเขียวเข้ม

มี High density lipoprotein เยอะจะดี

สำหรับเรื่องคอเลสเตอรอลสูง และไตรกลีเซอไรด์สูงนั้น คุณ-ืนยันว่า เป็นเรื่องทางธุรกิจการแพทย์ และเรื่องผลประโยชน์ทางการค้าที่มหาศาล โดยกำหนดให้คนปกติ มีระดับคอเลสเตอรอลไม่เกิน 200 และไตรกลีเซอไรด์ไม่เกิน 150 ซึ่งยาที่ให้ทานหากคอเลสเตอรอลสูงกว่าเกณฑ์นั้น มีผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก… ไขมันไม่ได้ถูกขับออกจากร่างกาย แต่จะย้ายไขมัน ไปไว้ที่ตับแทน และยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ… กับผู้ที่ทานยาลดคอเลสเตอรอล ในที่สุดก็เป็นโรคหัวใจกันเป็นแถวๆคุณหมอบอกว่า จากการวิจัยที่บอสตัน 30 ปีที่แล้ว ยังคงเป็นจริงคือ คนเราจะมีคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ได้มากเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับไขมันตัวดี ที่เรียกว่า HDL หากเรามี HDL สูง แม้ว่า คอเลสเตอรอลสูงและไตรกลีเซอไรด์สูง เราก็ปลอดภัย ไม่ต้องทานยา วิธีดูระดับปลอดภัยให้คำนวณดังนี้คอ เลสเตอรอล: ให้เอาค่าคลอเลสเตอรอลตั้ง หารด้วยค่า HDL หากได้ผลลัพท์ไม่เกิน 4 จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ต้องทานยา แม้ว่า คอเลสเตอรอลจะสูงถึง 300 ก็ตามไตรกลีเซอไรด์: ให้เอา ค่าไตรกลีเซอไรด์ตั้ง หารด้วยค่า HDL หากได้ผลลัพท์ไม่เกิน 3 จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ต้องทานยา แม้ว่า ไตรกลีเซอไรด์จะสูงเกิน 150 ก็ตามทั้งคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย

เมมโมแกรมอันตราย

        การตรวจแมมโมแกรม เป็นการตรวจทางรังสีชนิดหนึ่ง คล้ายกับการเอกซเรย์ แต่เครื่องตรวจแมมโม-แกรม จะเป็นเครื่องเฉพาะ ที่ใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป แต่มีความสามารถในการตรวจที่ละเอียดกว่ามาก ในการตรวจแมมโมแกรม โดยทั่วไป จะฉายรูปเต้านมด้านละ 2 รูป โดยการบีบเนื้อนมเข้าหากัน และ ถ่ายรูปจากด้านบน และ ด้านข้างอย่างละหนึ่งรูป รวมการตรวจแมมโมแกรมในระบบมาตรฐาน 4 รูป ในกรณีที่พบจุดสงสัย อาจมีการถ่ายรูปเพิ่มหรือ ขยายรูป เพื่อให้เกิดความชัดเจน   

การทำเมมโมแกรม เป็นอันตราย เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านม ที่เราไม่รู้กันเลย… ว่าการบีบอย่างแรง สมทบด้วยรังสี...… ตอนนี้อัตราการเป็นมะเร็งเต้านมของเมืองไทย พุ่งสูงติดอันดับของโลกแล้ว… คุณหมอบอกว่า ในต่างประเทศ เขาเลิกใช้เครื่องเมมโมแกรมกันนานแล้ว

ดื่มน้ำเย็นทำพิษ

ดื่มน้ำเย็น&อาการปวดหลัง ใครจะไปเชื่อว่า..การดื่มน้ำเย็นจะมีพิษมีภัยและให้โทษได้ถึงขนาดนี้หมอ ได้พบผู้ป่วยที่มีอาการแขนขาอ่อนแรงหรือ ที่เรียกกันว่าโรคอัมพฤกษ์ซึ่งสืบค้นต้นตอไปๆมาๆก็พบว่า สาเหตุมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำเย็นหรือ น้ำแข็งเป็นประจำนั่นเองผู้ป่วยเล่าให้ฟังว่า ไม่กินผักมาตั้งแต่เล็กๆรับประทานแต่เนื้อสัตว์ที่สำคัญคือชอบดื่มน้ำเย็นเป็นประจำมาตั้งแต่เด็กและ ต้องเป็นน้ำเย็นจากตู้เย็นเท่านั้นก่อนที่จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นร่างกายผู้ป่วยได้ส่งสัญญาณเตือนมาหลายครั้งเช่น มึนเวียนศีรษะง่ายเห็นเหมือนแสงไฟแวบๆขณะกระพริบตาการพูดเริ่มติดๆขัดๆ สุดท้ายเกิดอาการวูบกะทันหันต้องนำส่งโรงพยาบาล เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งผู้ป่วยก็ไม่สามารถขยับร่างกายซีกซ้ายได้แล้วนี่คืออาการของโรคเส้นเลือดตีบที่สมองในวัยเพียง40 ปี ที่ชอบทานแต่น้ำเย็นมาตลอดเวลาการดื่มน้ำเย็น สำหรับคนไทยนั้น ทำให้ไตต้องรับกำจัดความเย็นออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ขับน้ำเย็นมากักเก็บไว้ที่กระเพาะปัสสาวะเตรียมขับออกเป็นน้ำปัสสาวะทำให้ผู้ที่ชอบทานน้ำเย็นก็ยิ่งขาดน้ำจนเลือดข้นหนืดไปหมดประกอบกับหลอดเลือดที่เริ่มแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่นทำให้มีคราบไขมัน และของเสียไปยึดเกาะตามผนังหลอดเลือดจนเกิดการพอกพูนกลายเป็นโรคหลอดเลือดตีบก็เพราะน้ำเย็นที่ชอบทานเป็นประจำนั่นเองไตของเราเปรียบเสมือนเครื่องกรองน้ำอันน่าอัศจรรย์ทำหน้าที่ช่วยกรองของเสียออกจากเลือดแล้วขับออกทางปัสสาวะ การทำหน้าที่ตลอด 24 ชม.ไม่มีวันหยุดของไตนั้น ถ้าเราไปซ้ำเติมด้วยการรับประทานสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกายรวมทั้งน้ำเย็นด้วยก็จะทำให้เกิดภาวะไตอ่อนแอและ จะส่งสัญญาณร้องให้เราทราบดังนี้1.ปัสสาวะบ่อยขึ้น อั้นปัสสาวะไม่ได้นานดื่มน้ำเข้าไปแล้วต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆกลางคืนก็ต้องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำหลายเที่ยว2.มีอาการปวดหลัง ปวดเอวบ่อยๆโดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ3.ปวดเมื่อยตามข้อ และ ร่างกายง่ายเช่น ปวดข้อเข่า ปวดต้นคอ4.หลอดเลือดตีบตันหรือ หลอดเลือดแข็งได้ง่าย หากใครยังทานน้ำเย็น นมเย็นกาแฟเย็น น้ำอัดลม น้ำหวานเย็นชาเย็น อยู่เป็นประจำ มีอาการปวดหลังแน่ๆก็ต้องดูแลตนเองง่ายๆ ดังนี้1.ปรับเลือดที่หนืดข้นให้หายข้นด้วยการเพิ่มน้ำเข้ากระแสเลือดโดยทานน้ำอุ่นให้ได้ 8-10 แก้ว ทุกวัน2.ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกอย่างต่อเนื่องด้วยการออกกำลังเป็นประจำที่สามารถทำได้หรือ อาจใช้การจัดกระดูกช่วยให้เลือดไหลเวียนสม่ำเสมอ3.ไม่กินอาหารเนื้อสัตว์ ของทอดของหวานจัด เพราะทำให้เกิดอนุมูลอิสระปริมาณมากจนทำให้หลอดเลือดแข็ง หรือ ตีบตันได้ง่าย4.งดการทานน้ำเย็นเด็ดขาด. รู้แล้วอย่าเฉยเมยนะ. ควรปฎิบัติด้วยและรู้แล้วอย่าเก็บไว้คนเดียว. โปรดแบ่งปันให้คนรอบข้างของตัวเรา/. เพราะ. ถ้า. เขา อ่าน. และ. ทำตาม. อาจช่วยชีวิต. เขาได้. ครับ

บทความจากแม่ เรียบเรียงโดย Nobita Manoki ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น