Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เสียใจที่ทำไม่ได้ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ (ฝากถึงเด็กแอด58)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หวัดดีค่ะทุกคน
เราเป็นหนึ่งในเด็กแอดปี57 ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อเร็วๆนี้
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของตัวเราในระหว่างช่วงสอบแข่งขันเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา เพื่อเป็นข้อคิดให้กับรุ่นน้องต่อไป ว่าอย่าได้ทำผิดพลาดจนต้องเสียใจเหมือนรุ่นพี่คนนี้

เราเป็นเด็กต่างจังหวัดธรรมดาๆ ผลการเรียนก็อยู่ในระดับดีประมาณหนึ่ง มีความใฝ่ฝันตั้งแต่เข้าม.ปลายว่าอยากจะเรียนมนุษย์ศาสตร์ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นเด็กสายวิทย์
สภาพแวดล้อมของโรงเรียนบ้านนอกไม่เหมือนโรงเรียนดังๆ เทียบกับโรงเรียนระดับจังหวัดไม่ได้ด้วยซ้ำ นักเรียนจึงมีความกระตือรือร้นต่ำ ไม่มีการแข่งขัน เพราะส่วนใหญ่นักเรียนที่นี่จะเข้าเรียนต่อมหาลัยราชภัฏใกล้บ้าน จนถูกมองว่ามหาลัยแห่งนั้นเป็นบ้านหลังที่สองของโรงเรียนเราไปแล้ว แต่เราไม่คิดอย่างนั้น เราอาจจะเป็นแกะดำของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ที่คิดอยากจะเข้ามหาลัยดังๆอย่างจุฬา ธรรมศาสตร์ ใครๆก็บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่เด็กบ้านนอกจะสู้เด็กในเมืองได้เลย ณ ตอนนั้นความฝันของเราเริ่มเกิดรอยร้าวขึ้นนิดๆ

จนกระทั่งเราขึ้นชั้นม.6 ช่วงนั้นเราเรียนพิเศษหนักมากจนถึงกับเป็นลม แม่เป็นห่วงจึงให้เราเรียนน้อยลง ช่วงนั้นก็มีรับตรง โควต้าตามมหาลัยต่างๆมามาก เราเคยไปลองสอบตรงหลายที่ แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง เฝ้าถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่าทำไมเราถึงสอบไม่ติดเหมือนคนอื่นเขา ระหว่างนั้นเพื่อนๆรุ่นเดียวกันก็ทะยอยกันติดรับตรงกันเกือบหมดโรงเรียน หมดห้องก็เหลือแค่เราคนเดียว เราเครียดมาก ประกอบกับญาติๆที่สนิทกันเอาเราไปเปรียบเทียบกับเพื่อนคนอื่น ว่าเขาติดที่นั่นที่นี่ ทำไมไม่เรียนที่นั่นมันดีนะ พอต้องกลับไปว่าอยากเข้าอักษรจุฬา เขาก็หัวเราะเยาะและบอกว่าอย่าฝันกลางวันได้มั้ย มันไม่มีทางเป็นจริงหรอก พอได้ยินอย่างนั้นน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม รีบวิ่งขึ้นไปหมกตัวอยู่ในห้อง ตัดสินใจละทิ้งความฝันเพราะหมดกำลังใจ ขนาดคนที่เราเชื่อใจยังไม่เชื่อใจเรา แล้วเราจะเอากำลังใจมาจากไหน หลังจากวันนั้นเราไม่ได้แตะหนังสืออีกเลย
สอบ O-net และ gat pat รอบแรกผ่านพ้นไป คะแนนน้อยตามระเบียบ แต่gat pat ยังอยู่ในเกณฑ์ดี อาจเป็นผลจากการเรียนพิเศษหามรุ่งหามค่ำ ใกล้วันสอบGat Pat รอบ2เข้ามาทุกที แต่เรายังนอนโทรมเป็นผีตายซาก ไม่มีกะจิตกะใจจะอ่านหนังสือ คิดขึ้นมาว่าไม่อ่านมันแล้วหนังสือ จะไปเข้าเอกชนดีกว่า เพราะไม่อยากตั้งความหวังให้ตัวเองต้องเจ็บปวดอีก
แต่จู่ๆพี่เราก็โทรมาหา พี่ถามเราว่าจะไปสอบgat patรอบสองหรือเปล่า เราก็ปฏิเสธไป เพราะไปสอบก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี เราตั้งใจจะเข้าเอกชนแล้ว พี่ก็บอกว่าไปสอบเถอะ คิดซะว่าไปสอบเพื่อแม่ก็ได้ แม่ต้องทำงานหาเงินส่งเราเรียนคนเดียว ถ้าเราไปเข้าเอกชนคงทำให้แม่ลำบากกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ เราร้องไห้ออกมาเลยตอนนั้น บอกกับพี่ไปว่าไม่อยากสอบแล้ว เพราะถ้าไปสอบเราก็จะมีความหวังอีก ถ้ามีความหวังแล้วไม่ได้อย่างที่หวังก็ต้องเจ็บ เราไม่อยากเจ็บอีกแล้ว แต่พี่บอกกับเราว่าถึงเราจะผิดหวัง เราจะเจ็บแต่ยังไงเราก็ได้ลงมือทำแล้ว มันดีกว่าผิดหวัง เสียใจเพราะไม่ได้ทำไม่ใช่เหรอ ได้ยินอย่างนั้นเราก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก เหลือเวลาไม่ถึงเดือนก็จะสอบรอบสองแล้วด้วย ณ ตอนนั้นเรารู้ดีว่าไม่มีทางที่จะทำอะไรได้แล้ว มันสายเกินไป
ถึงอย่างนั้นเราก็ยังอ่านหนังสือแม้จะเหลือเวลานิดเดียว ประกาศผลออกมาปรากฏว่าคะแนนรอบนี้ได้น้อยกว่ารอบแรกซะอีก ซึ่งเราก็รู้ตั้งแต่ตอนทำข้อสอบแล้วล่ะ

อักษรจุฬา อยู่ไกลเกินกว่าเราจะเอื้อมถึง

ในรอบแอดมิชชั่นเราจึงหวังศิลปศาสตร์ มธแทน แต่พอวันประกาศผลเราก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง เราไม่ติดคณะที่เราหวังไว้ แอบเสียใจอยู่ แต่ทั้งหมดหมดเป็นเพราะตัวเองที่รู้ตัวช้าเกินไป มัวแต่ไปใส่ใจคำพูดคนอื่นจนตัวเองพลาดโอกาส ในหัวก็คิดแต่ว่าถ้าเราอ่านหนังสือมากกว่านี้คงติดแล้วแท้ๆ ถ้าเราตั้งใจกว่านี้คงติดแน่ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับผลของการกระทำของตัวเราเอง

อยากฝากถึงเด็กแอด58 ทุกคน อย่าได้ลังเลเมื่อมีความฝัน จงทำให้สุดกำลัง อย่าเอาคำพูดของคนอื่นมายึดติดมากเกินไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าปล่อยความฝันให้หลุดมือเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต้องเสียใจภายหลังแน่


แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

เด็กแอด57 4 ก.ค. 57 เวลา 10:59 น. 1

เราก็คล้ายๆกับจขกทแหละ เราหวังที่จะอยากได้มหาลัยที่สูงมากกกกกกก ฬ มธ เลย แต่ที่บ้านเราก็ไม่กล้าหวังอะไรเลยอ่า ขนาดบอกเราแทบทุกวันว่าได้ราชภัฏแน่ๆ (ไม่ได้ดูถูกสถาบันนะคะแค่ไม่ได้อยากเรียน) แต่สุดท้ายเราก็ติดม.รัฐแห่งหนึ่งที่ดีพอสมควร พ่อแม่ก็ภูมิใจกับเรามากเลยแหละถึงจะไม่ได้ ฬ มธ ก็ตาม สู้ๆนะ
โกรธแล้วนะ

0