ทำไม รัฐศาสตร์ กับ นิติศาสตร์ ต้องใช้ PAT 1 ในการเข้ามหาลัย ?
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ดีๆนะครับ
40 ความคิดเห็น
แนะนำรัฐศาสตร์จุฬาฯค่ะ ใช้แกทล้วนเลย จะสายไหนเอาแกทมาป๊ะกัน ส่วนนิติฯ ถ้าจำไม่ผิดมีทั้งแบบแพท 1 และภาษานินา (ของจุฬาฯ) ถ้างั้นก็ถือว่าแฟร์ๆกับเด็กทุกสายแล้วน้า (ถ้าจำผิดขออภัยด้วย)
ปล.เราศิลป์คำนวณ แต่โง่เลขมากกกก ใช้แกทล้วนยื่นเข้า ir จุฬาฯค่า เลขนี่สะบัดบ๊อบทิ้งไป (เพราะคะแนนแพทหนึ่งห่วยมากกกก)
ครับ แล้วสำหรับ มออื่นละที่ไม่ใช่ จุฬา ผมว่ามันยังไม่ยุติธรรมอยู่ดี ฮือๆ
มีคนบอกว่าภาษากฎหมายคือภาษาแห่งตรรกศาสตร์ คือเบื้องหลังของการเขียนกฎหมายนั้นมีรากฐานของความเป็นคณิตศาสตร์รองรับอยู่น่ะ
อาจจะเป็นการทดสอบความจำหรือเปล่า
เพราะนิติศาสตร์ต้องจำกฏหมายหลายมาตรา
ส่วนคณิตศาสตน์ก็ต้องสารพัดสูตร
ก็เดาไปเรื่อยอะ....
ตรรกศาสตร์บทเดียว เองอะ แต่pat1ไม่ค่อยจะเจอตรรกศาสตร์ซักเท่าไหร่เลย มาทีแคลคูลัส เมททริกซ์ T-T
คิดว่าเพราะ คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ต้องมีหลักการคิด คณิตศาสตร์มีสูตรคล้ายกับหลักกฎหมาย และมีกระบวนการคิด(การแสดงวิธีทำ)เสมือนกับการนำหลักกฎหมายมาปรับกับข้อเท็จจริงอย่างเป็นลำดับขั้น จนกว่าจะได้ข้อสรุปหรือผลลัพธ์นั่นเอง อย่าคิดว่าเข้าไปเรียนแล้วไม่ได้ใช้คณิตศาสตร์นะ มีแน่นอนแต่ไม่มากเท่านั้นเอง
คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานของการคิดอย่างเป็นระแบบ และการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลครับ จำเป็นมากในวิชานิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ที่ต้องมีการคิดอย่างเป็นระแบบและวิเคราะอย่างเป็นเหตุเป็นผล ไม่ใช่แค่ว่าจำ ๆ
ที่ รปศ จุฬาฯ ใช้ pat1 เพราะมันมีวิชาบัญชีด้วยมั้ง
แต่ภาคอื่นก็ gat ล้วนหนิ
พี่ไม่รู้เหมือนกัน ของพี่ติดรับตรง มธ. ไม่บอกละกันว่าตอนนี้อยู่ปีอะไรเเล้ว
ตอนนั้น pat1พี่ได้ประมาณ 30กว่าๆ/300 เเต่ปัจจุบันพี่ก็เรียนนิติรู้เรื่องนะ
ก็พอเข้าใจว่าคณิตศาสตร์อาจมีส่วนในการคิดเป็นระบบ เเต่
pat 1 (ของไทย) มันวัดอะไรไม่ค่อยได้ มันเน้นสูตร เน้นการไปเรียน
พิเศษ โรงเรียนดังๆถึงจะได้คะเเนนเยอะ อย่างโรงเรียนพี่มี200กว่าคน
ได้pat1 100กว่าๆ เเค่3คนเอง
สรุปง่ายๆ พี่ว่าคณิตศาสตร์มันพอเกี่ยวกับนิติบ้างเเหล่ะ
เเต่pat 1 มันไม่ค่อยเกี่ยว พูดเเบบนี้ไม่งงนะ
ง่ายๆระบบการสอบpat 1 ของไทยมันห่วยเเตก ไม่เน้นความเข้าใจ
เน้นเรียนเกินความจำเป็น เน้นให้รู้สูตร ที่บางทีในห้องเรียนในโรงเรียน
หลายเเห่งก็ไม่ได้สอน
รปศ ของ จุฬา มีเรียนวิชาบัญชี ครับ เลยต้องใช้แพท1 และยังมีวิชาโทในภาค อย่างสายการคลังด้วย เลยจำเป็นต้องใช้ครับ^^
คือผมว่าเขาต้องการให้โอกาสเด็กสายวิทย์น่ะครับ คือที่เขารับถ้าผมจำไม่ผิดเนี่ย อย่างรัฐศาสตร์ มธ เนี่ย เขาก็รับรวมๆนะแบบรับสาขานี้ 100 คนก็คือคนที่ยื่นทั้งแพทเลขแพทภาษาเข้ามาเขาก็จะถือเกณฑ์การคิดคะแนนเดียวกันเลย ไม่ได้แยกว่ารับวิทย์แยก จุฬาเนี่ยส่วนใหญ่ก็แกทล้วนอยู่แล้ว ยกเว้น รปศ ส่วนพวกนิติ เนี่ยมันต้องใช้ความเป็นเหตุเป็นผลมั้งครับ เป็นขั้นตอนก็เลยอาจมีเลขบ้าง
อย่างที่มันไม่เกี่ยวกว่าอย่างอักษรศาสตร์ ยังเปิดโอกาสให้ยื่นเลขเลยครับ
ปล.ผมว่านะสอบภาษาได้เปรียบกว่าเยอะนะ เข้าไปมั่วๆยังได้เป็นร้อย ยิ่งถ้าเป้นเด็กศิลป์ภาษาด้วยแล้วตามหลักคือก็ต้องทำได้ ก็เหมือนที่เขาคิดว่าเด็กวิทย์ต้องทำเลขได้แต่เลขมันยากจริงๆ มีทั้งช้อยทั้งเขียน แต่แพท7นี่ช้อยล้วนๆนะครับ
น่าจะเป็นอย่างนี้มั้งครับผมคิดอ่ะนะ
โดยหลักแล้วควรจะเป็นการเพิ่มทางเลือกนะครับ เพราะต้องมีทั้ง คิดคะแนนพื้นฐานวิทย์ และพื้นฐานศิลป์จริงๆ ควรจะรับแยกนะครับ ให้ทั้งเด็กศิลป์และเด็กวิทย์เข้าได้เท่าเทียมกัน
ส่วนเรื่องความจำเป็นในการใช้เรียนนั้น ที่จำเป็นจริงๆคือ บริหารรัฐกิจ หรือ รัฐประศาสนศาสตร์ พวกนี้จะเรียนเหมือน คณะบริหาร หรือการจัดการเลยครับ มีคิดคำนวน สถิติ ด้วย แต่แตกจากพวกนั้นต้องที่ เราต้องบริหารกิจการสาธารณะ ไม่ใช่เอกชนครับ จำเป็นมากเลย ส่วนเอกอื่นๆอย่าง การปกครอง กรือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะไม่ค่อยหรือไม่ได้เจอเลขเลยครับ
สำหรับนิติศาสตร์ การนำเอาเหตุผลที่ว่าควรมีความสามารถทางคณิตศาสตร์เพื่อให้คิดอย่างเป็นเหตุผลนั้น เป็นการมองโลกในแง่ดีทีเดียวครับ แต่เราต้องเข้าใจก่อนครับ PAT1 หรือความถนัดทางคณิตศาสตร์ มัน เกินกว่าคำว่า คิดอย่างเป็นเหตุผลมากครับ เพราะเป็นแบบทดสอบสำหรับผู้ที่ต้องใช้ความสามารถคณิตศาสตร์เฉพาะทางเลยนะครับ การนำคะแนน PAT1 มาใช้กับวิชาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการคำนวน จึงไม่ค่อยเหมาะ เหมือนตรรกะที่ว่า เราทุกคนควรเรียนไวรัสวิทยา เพราะเราเจอไวรัสได้ทุกที่ นั่นแหละครับ
ส่วนตัวผู้โพสต์นี่ เรียนทั้งรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ครับ
เพื่อถ่วงความเจริญของประเทศชาติ 55555
นิติศาสตร์ใช้พื้นฐานทางคณิตในเรื่องของตรรกศาสตร์เพราะตรรกศาสตร์เกี่ยวในเรื่องการให้เหตุผล คิดวิเคราะห์
พึ่งจะรู้ๆ 55
เหมือนจุฬาจะให้เด็กศิลป์ยื่นรอบรับตรงหน่ะครับ รอบรับตรงนี่ไม่ให้ยื่นเลขเลยภาษาล้วน
อันนี้น่าจะคณะอักษรนะคะ แต่ก็แบบว่า
1.สาขาวิชาอักษรศาสตร์
รับตรง
-PAT 7 เลือก1ภาษา (รอบแรกของปีที่เข้า เช่นเข้า59 ก็รอบ1/59) ส่วนเด็กซิ่วไม่แน่ใจ น่าจะเหมือนกัน
- 9 วิชาสามัญ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษา
แอดมิชชั่น
GPAX 20% GAT 30% O-NET 30% และPAT 1 20%
2.สาขาภูมิศาสตร์และภูมิสารสนเทศ
รับตรง
-PAT 1 (รอบแรกของปีที่เข้า เช่นเข้า59 ก็รอบ1/59) ส่วนเด็กซิ่วไม่แน่ใจ น่าจะเหมือนกัน
- 9 วิชาสามัญ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษา
แอดมิชชั่น
GPAX 20% GAT 30% O-NET 30% และPAT 1 20%
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- http://www.arts.chula.ac.th/prospective/admission-undergraduate.html
- http://www.atc.chula.ac.th/admission2/home.html
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?