Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์จากพี่สู่น้อง “อย่าให้ตัวเองต้องพูดว่ารู้งี้”

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่นต้องสวัสดีน้องๆ เพื่อนๆและทุกๆคนที่กดเข้ามาอ่านกระทู้นี้ พี่เป็นเด็กรุ่น 56 ค่ะ สิ่งที่พี่จะมาเล่าต่อไปนี้คือประสบการณ์ในชีวิตการเรียนที่พี่เจอและผ่านมาทั้งเรื่องการสอบตอนม.6 เพื่อจะเข้ามหาวิทยาลัยจนถึงตอนนี้และอีกหลายอย่าง ซึ่งมันอาจจะยาวมากแต่พี่หวังว่าทุกอย่างทั้งหมดที่พี่จะเล่าต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์ เป็นอุทาหรณ์ เป็นแรงบันดาลใจหรือเป็นอะไรก็ได้สำหรับน้องๆ ม.ปลาย โดยเฉพาะ ม.6 หรือน้องปี1ที่เพิ่งจะเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยปีนี้แล้วคิดจะซิ่ว

พี่เป็นเด็กต่างจังหวัดคนนึงค่ะ แน่นอนว่าชีวิต ม.6 ของพี่ไม่ได้สวยหรู พี่เรียนสายวิทย์ เกรดตอนมัธยมก็ถือว่าดี พี่ติด 1 ใน10คนที่ได้เกรดดีของรุ่น (สิ่งที่พี่จะบอกน้องคือน้องอย่าคิดว่าเกรดดีของ ร.ร. ต่างจังหวัดจะเก่ง พี่เป็นคนนึงที่เพิ่งจะรู้ตัวตอนอยู่ ม.6 ว่าจริงๆแล้วเราคือหางแถวของนักเรียนในกรุงเทพหรือ ร.ร. ใหญ่ๆ) ตัวพี่เองไม่เคยมีโอกาสเรียนพิเศษเลย เพราะฐานะทางบ้านไม่เอื้ออำนวย คิดดูว่าค่าเรียนพิเศษเดี๋ยวนี้แพงขนาดไหน พี่สงสารพ่อแม่ที่ต้องเอาเงินก้อนมาทุ่มกับเราเลยคิดว่าไม่เรียนดีกว่า ซื้อหนังสือมาอ่านเอาเองแล้วกัน

ใช่เลยค่ะ พี่คิดแบบนี้มาตลอดพ่อแม่พี่พาไปซื้อหนังสือทุกๆปิดเทอม แต่พี่ซื้อมาแล้วหนังสือยังใหม่ (เยินแค่ครึ่งเล่ม แรกค่ะ) เพราะรู้สึกว่าอ่านยังไงก็ไม่เข้าหัว อีกอย่างพี่เป็นคนที่แบ่งเวลาไม่เป็น และพี่เป็นคนที่ไม่มีเวลาเท่าที่ควร พี่ต้องช่วยพ่อแม่ทำงาน พี่คิดว่าเด็กหลายคนๆคงเข้าใจและเผชิญอยู่บ้างนะคะ ครอบครัวของเราไม่ได้มีฐานะที่ดีมาก เด็กหลายคนจะต้องตื่นมาช่วยพ่อแม่ กลับจาก ร.ร.ก็ต้องช่วยพ่อแม่ ชีวิตเด็กม.6 พี่คิดว่าเราต้องมีเวลา เวลาคือสิ่งสำคัญมากๆ พี่รู้ว่าทุกคนบนโลกนี้มีเวลาเท่ากันแต่สำหรับบางคนเราไม่ได้มี 24 ชั่วโมงในการเรียนและอ่านหนังสืออย่างเดียว เด็กหลายคนต้องมีหน้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งตรงนี้พี่อยากบอกน้องว่าน้องต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ดี ต้องแบ่งเวลาให้เป็น การอ่านหนังสือคือสิ่งสำคัญมาก

นอกจากนั้น ร.ร.พี่ค่อนข้างคลั่งกิจกรรมมากกกกกกกกก ตอนม.6 ตั้งแต่เปิดเทอมมากิจกรรมทุกอย่างตู้มมมมม มาเลยค่ะ พี่คิดว่าเป็นแค่ ร.ร.พี่นะคะที่เยอะแต่เคยได้คุยกับเพื่อน ร.ร.ต่างจังหวัดหลายๆที่ก็พอๆกัน พี่ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมร.ร.พี่เอากิจกรรมมาลงที่ม.6 พี่อิจฉาบางคนมากที่มาเล่าว่าตอนอยู่ ม.6 เค้าหยุดอ่านหนังสือไม่ไปเรียนกันเลย พี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ร.ร.อื่นเค้าไม่ว่า แต่พอพวกพี่คิดจะหยุดก็โดนว่ากันแล้ว อาจารย์นี่คอยเช็คตลอดว่าใครไม่มา คิดดูนะคะเราต้องไปเรียนเช้า ไหนจะกิจกรรมเยอะอีก กว่าจะกลับบ้านอีก มีเวลาอ่านหนังสือแค่ไม่เท่าไหร่ แต่ทั้งหมดนี้พี่ไม่โทษอะไรนอกจากตัวของพี่เองที่แบ่งเวลาไม่เป็น

พี่เวิ่นมาเยอะมาก มันอัดอั้นมากค่ะ ขอโทษนะ อิอิ สำหรับพี่ พี่คิดไปความผิดพลาดของพี่มีเยอะมาก พี่ไม่เคยแน่ใจเลยว่าตัวเองอยากเป็นอะไร พ่อแม่พี่อยากให้เป็นครู อยากให้รับราชการ แต่พี่รู้ตัวว่าพี่ไม่ชอบพี่สอนใครไม่เป็น จากผลการสอบ PAT5วิชาชีพครูพี่ยิ่งแน่ใจว่าเป็นไม่ได้แน่ พ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไรถ้าไม่อยากเป็นก็ไม่เป็น ตามใจ พอมา ม.6พี่เริ่มรู้สึกว่าพี่อยากเป็นหมออันนี้เป็น “ความอยาก” ล้วนๆเลยนะ พี่อยากช่วยคน ไปรพ.ทีไรพี่เห็นคนป่วยที่ไม่มีเงินไรงี้ยิ่งทำให้พี่อยากช่วยเค้า คลินิกแถวบ้านพี่แพงมาก พี่เลยมีอุดมการณ์แบบสวยๆ อยากช่วยคนจนไรงี้ 5555 จากนั้นพี่เลยจะลองสอบหมอดูแล้วจิตใจพี่ก็มุ่งมั่นไปทางนั้นเลยค่ะ คิดแค่อยากเป็นหมอๆๆๆ แต่ไม่ทันคิดถึงเรื่องอื่น ทีนี้สนามสอบแรกที่ใครๆก็รู้จักมาถึงพี่จะสอบหมอค่ะน้อง แต่ว่ามีเหตุทำให้พี่สมัครสอบที่นี่ไม่ได้ สุดท้ายพี่ก็พลาดไม่ได้ลองสอบอะไรสักอย่างเลย (600บาทไม่ได้กินเงินพี่ค่ะ พี่อยากจะบอกน้องว่าถ้ามีโอกาส สอบๆไปเถอะนะ ถึงไม่ใช่ที่อยากเรียนก็เอาที่ใกล้เคียงไปก่อนอย่าให้ทุกย่างมันพลาดไปหมดโดยที่เราไม่ได้ลองอะไรเลย) หลังจากนั้นที่พี่พลาดไป รับตรงอื่นๆก็มาเรื่อยๆ พี่จำไม่ได้แฮะว่าสมัครไรไปบ้างแต่จำได้ว่าจิตใจพี่จ้องอยู่กะการสมัครหมออย่างเดียว จนพี่พลาดรับตรงแล้วรับตรงเล่า มีโครงการดีๆมามากแต่พี่ก็ไม่ได้สมัครเพราะคิดแต่ว่าตัวเองต้องสอบหมอได้ เป็นครูไม่ได้พี่ก็ยากจะเป็นหมอให้พ่อแม่ชื่นใจบ้าง

จากนั้นการสอบแกทแพทรอบแรกก็มาถึง ก่อนสอบพี่ได้โหลดข้อสอบเก่ามาทำหลาย พ.ศ. อยู่ พี่ไม่เก่งอังกฤษ “ไม่เก่งเลย” พี่เลยมุ่งมั่นไปทางพาทเชื่อมโยงแทนหวังว่าจะได้เต็มแล้วพาทอิ้งก็จะงูๆปลาๆให้ได้เยอะที่สุด ตอนลองทำพี่ได้เต็มหมดทุกอันเริ่มมั่นใจว่าอย่างน้อยต้องสองร้อยขึ้นแน่ๆ น้องคะผลสอบออกมาพี่แทบช็อค มันไม่ถึงสองร้อยยยยยย!! ส่วนอันอื่นก็อย่าถามพี่เลย พี่จะร้องไห้รับตรงที่พี่ยื่นคะแนนหลุดหมดทุกอัน TT_TT ต่อมามีโครงการของมหา’ลัยชื่อดังเป็นโควตาเรียนดี พี่สมัครครู(เพื่อพ่อแม่)ไปกับเพื่อนๆอีก 4 คน วันสอบสัมภาษณ์ โชคชะตาช่างแกล้งพี่มาก พี่เจอ อ.โหดมากสัมภาษณ์ครึ่งชั่วโมงแล้วคู่แข่งพี่เยอะมาก ขณะที่เพื่อนพี่ทุกคนชิวเว่อ บางคนก็คู่แข่งไม่มา พี่กลับมาก็คิดแล้วว่าพี่ไม่ได้แน่ ก็ไม่ได้จริงๆ เฟลมากค่ะ เพื่อนติดหมดเราไม่ติด! ใจก็คิดแระว่า เออ!กรูมาทางครูไม่ถูกจริงๆเลยไม่เสียใจมาก เพราะพี่หวังว่าถ้าจะไม่ติดอะไรจริงๆเอาไว้แอดกลางก็ได้วะ

แต่ความหวังยังไม่หมดไงพี่รอสอบ กสพท คิดว่าชั้นต้องทำได้สิ! นั่งหาสถิติคะแนนดูทุกอย่างที่เกี่ยวกะการสอบ อ่านกระทู้ต่างๆเยอะแยะเกี่ยวกับหมอ อ้อ!ก่อนสอบ กสพท พี่เป็นเด็กต่างจังหวัดเลยมีโครงการแพทย์ชนบท เค้าจะให้เราสมัครแล้วไปเข้าค่ายก่อนแล้วก็จะมีการติวให้ทุกวิชาก่อนสอบจริง ตอนนี้พี่เลยได้เรียนพิเศษฟรีๆแล้ว ปิดเทอม1พี่ไปติวทุกวัน น้องรู้มั้ยระหว่างที่พี่ติว พี่ก็ยิ่งเริ่มรู้ตัวว่าพี่โง่มากกกกกกกก ทำไมพี่เพิ่งมารู้ตัวตอนนี้ มันไม่ทันแล้ว! T^T วันไปสอบจริงพี่ต้องไปสอบไกลมาก ตื่นตีสามกว่าจะถึงเกือบ 8 โมง คิดดูนะไกลขนาดไหน ข้อสอบแพทย์ชนบทที่พี่เจอพี่บอกได้เลยว่ามันค่อนข้างง่าย แต่!!!!!!!!พี่เตรียมตัวไม่ดี พี่อ่านข้อสอบแล้วน้ำตาจะไหลพี่คิดตลอดว่าพี่ไม่น่าพลาด ไม่น่าเลย พี่ควรจะตั้งใจให้มากกว่านี้ สุดท้ายเด็กจังหวัดพี่ติดแค่คนเดียว

หลังจากนั้นพี่ก็เลยฟิตวิชาเฉพาะแล้วก็ไปสอบ กสพท ที่ธรรมศาสตร์ (แอร์เย็นมว๊ากกกกกก) รัศมีความเทพของนักเรียนที่อื่นแผ่กระจายมาอย่างแรงพี่คิดว่าพี่สู้ทุกคนไม่ได้แน่ คนอื่นดูเก่งกันจริงๆ เก่งกันของแท้ แต่ก็เอาวะมาถึงแระลองดู! ตอนทำข้อสอบนะน้องสิ่งที่พี่อ่านมามันใช่ค่ะ แต่ แต่ แต่…… พี่ทำไม่ทันนนน!!! ออกจากห้องสอบมาคิดแล้วว่า เฮ้ย!กรูพลาดอีกแล้ว T^T พี่ทำใจแล้วค่ะ พี่รู้แล้วว่าพี่เทียบกับคนอื่นๆไม่ได้เลย ความฝันการเป็นหมอของฉันมันยากขึ้น ยากขึ้น ยากขึ้น พี่หวังว่าพี่จะทำ7วิชาสามัญได้ดี แต่ระหว่างนั้นก่อนที่จะสอบ กิจกรรมพุ่งมาอีกแล้วค่ะ พี่ต้องทำกีฬาสีเรียกได้ว่ากีฬาสีจบ หยุดปีใหม่แล้วรุ่งขึ้นต้องไปสอบเลย พี่ไม่มีเวลาแล้วน้องเอ้ย!! จะอ่านหนังสือ ก็ต้องมาทำกิจกรรมอีกไม่ทำก็โดนว่า อาจารย์ในโรงเรียนนี่ถึงขั้นแบ่งฝ่าย แกไม่ทำของชั้นไม่จบ แกทำอันนั้นแกไม่สนใจของชั้น สนใจกิจกรรมมากก็โดนอีกฝ่ายว่า แกแกแกแกแก!!! ชีวิต ม.6 พวกพี่ทรหดมาก

ระหว่างการสอบของพี่นั้นมีกิจกรรมแทรกเข้ามาไม่ขาดสาย พี่นอนดึกทุกวัน ไม่ได้อ่านหนังสือนะ! ทำการบ้าน ทำกิจกรรม ทำนั่นนี่ เวลาอ่านหนังสือพี่แทบไม่มี แต่ก็ไม่โทษใครอ่ะเนอะ ทั้งหมดนี้เกิดจากความผิดพลาดของตัวพี่เอง พี่แบ่งเวลาไม่เป็น พี่คิดแต่ว่าเราคงจะทำได้ แต่ความจริงแล้วเราเทียบกับใครๆเขาไม่ได้เลย
วันไปสอบ 7 วิชาสามัญ พี่ต้องไปสอบต่างจังหวัดกัน ถึงขั้นมีการจองโรงแรมไรงี้ (พี่คิดว่ามันเปลืองมาก) ถึงเวลาสอบค่ะ เจอข้อสอบพี่หงายเงิบ ต้องบอกก่อนว่าพี่ไม่ถูกกะฟิสิกส์และภาษาอังกฤษ ความรู้พี่อ่อนด๋อยมาก วันสอบพี่เครียดมากกดดันมากเพราะคะแนนวิชาเฉพาะพี่ห่วยแตก พี่ต้องทำ 7 วิชาให้ได้ดีระดับดีมากๆ แต่พี่ไม่คิดว่านอกจากฟิสิกส์และอิ้งยังมีสังคมสำหรับพี่ที่ออกอยากมาก พี่เตรียมตัวมาได้ไม่ดีด้วยแหละ พอสอบวันที่2พี่ยิ่งกดดัน เพราะอะไรรู้มั้ยเพื่อนพี่โดดสอบไปดูคุณนายโฮกันหมด! ไม่มีใครสอบต่อทิ้งให้เหลือพี่คนเดียว ก็เอาวะ! สู้เว้ยอุตส่าห์เอาเงินแม่มาผลาญ ได้ไม่ได้ก็ต้องลอง

หลังจากสอบเสร็จมาอ่านแชร์คำตอบพี่เริ่มรู้ตัวแหละว่าคงไม่ได้ พี่ไม่เก่งพอ ไม่เก่งจริงเท่าคนอื่นๆ นอกจากทำไม่ได้เวลาสอบอะไรก็แล้วแต่พี่มักจะทำไม่ทัน พี่อยากให้น้องๆฝึกฝนกันเยอะๆ “ความไวในการทำข้อสอบเป็นสิ่งสำคัญเพราะต่อให้น้องทำได้แต่ถ้าน้องทำไม่ทันมันก็จบ”

และแล้วเวลาก็มาถึงเมื่อคะแนนออก ความฝันพี่สลายไปแล้วคะแนนพี่มีวิชาที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ถามว่าเสียใจมั้ยพี่ก็เสียใจค่ะ แต่มาคิดอีกทีพี่ก็คงไม่เหมาะกับการเป็นหมอ เพราะพี่ไม่เก่งจริง พี่ยังขยันไม่พอ พี่ถอดใจกับการเป็นหมอของพี่เลย แต่อาชีพนี้ก็ยังเป็นอาชีพที่พี่รักและอยากเป็นจนถึงทุกวันนี้นะ

หลังจากอกหักมาหลายรอบพี่ก็ไม่สอบตรงอีกเลย พี่คิดเสมอเลยว่าพี่ยังมีแอดมิชชั่น พี่คิดแบบนี้จนพี่พลาดแล้วพลาดอีก พี่พลาดที่ไม่รู้จักสอบตรง ไม่ลองสนามสอบให้ชิน พี่พลาดที่ไม่กล้าทำตามความฝันของตัวเองเพราะคิดว่ามันยาก เพราะอะไรรู้มั้ยเพราะพี่ไม่รู้ตัวจริงๆๆว่าความจริงแล้วเราถนัดทางไหนเราชอบอะไรที่สุด พี่สอบหมอเพราะพี่คิดว่าพี่อยากเป็นอยากช่วยคน จนลืมไปว่าความจริงพี่ไม่ถนัดหลายๆอย่างทางด้านนี้ เราชอบคิดกันว่าอยากเรียนอันนี้ๆเพราะคิดว่าชั้นถนัดแต่เราไม่มีวันรู้หรอกว่าเราชอบมันจริงหรือเปล่าจนกว่าเราจะได้เข้าไปเรียน พี่อยากให้น้องถามตัวเองให้ดีจะได้ไม่ตัดสินใจพลาด

และไหนๆพี่ก็อกหักจากหมอแล้ว สนามสอบรับตรงก็หมดแล้วสิ่งที่พี่ต้องเจอก็คือโอเน็ตและแกทแพทรอบ2 เพื่อเอาไว้แอดมิชชั่น และมันก็มาถึง

พี่ไปสอบกับความรู้อันน้อยนิด คิดว่าชั้นทำได้แน่ ตอนทำพี่มั่นใจมากว่าพี่ทำถูก แต่ออกห้องมาทำไมคนอื่นมันพูดกันอีกอย่างวะ ? ชั้นพลาดอีกแล้วเหรอแกร!! โอเน็ตพี่เรียกได้ว่ากาก ส่วนแกทแพทได้มากขึ้นกว่าเดิมว่ะเฮ้ยย!!

ในขณะที่เพื่อนๆมีที่เรียนกันไปบ้างแล้ว เขามีความสุขกับคณะที่เขาได้เรียนกัน แต่พี่เครียดเพราะพี่ยังไม่มีที่เรียน พี่เจอกับคำถามของมนุษย์ป้าตลอดว่าเรียนที่ไหนๆ ยิ่งทำให้พี่เสียใจเพราะพี่ผิดพลาดมาตลอดเลย พี่ทำให้พ่อแม่ผิดหวังมาตลอด พี่ไม่รู้ใจตัวเองไม่กล้าที่จะเดินตามความชอบ จริงๆแล้วพี่มีความชอบส่วนตัวที่หักมุมกับการเป็นหมอมาก แต่พี่ไม่กล้าที่จะทำตามความฝันเพราะพี่กลัวว่ามันคงเป็นไปไม่ได้หรอก พี่ไม่กล้าที่จะเป็นไม่กล้าที่จะต่อสู้

ก็ตามนั้นเมื่อแอดมิชชั่นมาถึง คณะที่พี่อยากเรียนคะแนนพี่ไม่ถึงเลย เครียดมาก จนอาจารย์ที่สนิทเขาเล่าให้ฟังถึงน้องสาวเค้า แล้วประกอบกับการที่พี่เขวไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดีแล้ว พลาดนั่นนี่มาตลอด พี่เลยหาข้อมูลเกี่ยวกะอาชีพนี้ก็เออนะ แอดนี่ก็ได้วะ! ทั้งที่พี่ไม่มีความชอบทางนี้เลย พี่ติดมหา’วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตอนติดพี่ไม่เคยดีใจเลยเพราะพี่ไม่อยากเรียน แล้วพี่ก็ไม่กล้าที่จะคุยกับพ่อแม่ว่าไม่อยากเรียนอันนี้ พี่ทำให้พ่อแม่ผิดหวังมาตลอด คนอื่นมีที่เรียนแต่พี่ไม่มี ใจนึงพี่คิดจะไปเรียนม.เปิดก่อน แต่พี่ก็ไม่กล้าเพราะพี่กลัวว่าพี่จะไม่มีความรับผิดชอบพอ ก็เลยตัดสินใจเอาอันที่พี่แอดติด

ระหว่างการเรียนพี่อึดอัดอยากที่จะซิ่วมาก พี่ไม่มีความสุข ไปเรียนพี่ก็เหมือนไปเฉยๆ ไม่มีความสนใจ ไม่มีจิตใจอยากจะเรียน อีกอย่างพี่ผิดหวังกับการเข้ามหาวิทยาลัยมาก พี่เคยคิดว่าเข้ามาจะมีรุ่นพี่รุ่นน้อง มีกิจกรรม มีการรับน้องที่น่าสนุก เปล่าเลยค่ะ คณะที่พี่เข้ารับน้องแบบธรรมดาๆ(พี่ฝันไว้เยอะอ่ะ) กิจกรรมก็น่าเบื่อ ชีวิตการเรียนของพี่ก็น่าเบื่อมาก ที่มันน่าเบื่ออาจเป็นเพราะพี่ไม่ชอบอันนี้ด้วยมั้ง พี่อยากกลับบ้านตลอด พี่กลับบ้านบ่อยมาก จิตใจพี่คิดว่าอยากซิ่วๆ แต่อีกใจพี่ก็กลัวว่าพ่อแม่พี่จะไม่โอเค พี่กลัวเสียเวลา กลัวหลายอย่าง จนพี่ก็พลาดสอบตรงรุ่น 57 อีกนั้นแหละค่ะ แล้วพี่ก็พลาดแกทแพทรอบแรกอีกด้วย พี่เสียดายมาก เพื่อนพี่ไปสอบนางมาเล่าให้ฟัง โอยพี่จะร้องไห้เลยตอนนั้น เสียดายยยยยยย

หลังจากนั้นพี่ก็เลยคิดว่าจะมาแอด ความหวังของพี่ทั้งหมดยู่กับการแอดมิชชั่นเหมือนปีที่แล้วไม่มีผิด ก่อนหน้านี้พี่เคยคิดแต่ว่าถ้าจะซิ่วพี่ต้องสอบตรงติด แล้วค่อยหาเงินมาจ่ายค่าเทอมเอง แต่ตอนนั้นพี่ก็ลังเลกลัวหลายอย่างดังที่กล่าวมาข้างต้น พี่สับสน อีกอย่างคณะที่พี่จะเข้าคะแนนสูงรับน้อยคู่แข่งเยอะ คะแนนของพี่เทียบกับเด็กที่เค้าเก่งกันจริงๆไม่ได้เลย ตอนแอดที่ผ่านมาพี่คิดแต่ว่าพี่จะแอดแต่สิ่งที่พี่อยากเรียน พี่กลัวว่าถ้าแอดไปที่มันไม่ใช่ มันจะเป็นแบบเดิมเป็นแบบที่ผ่านมาแล้วจะเสียเวลาอีก พี่เลือกเอาแต่ความฝัน สิ่งที่พี่แอดไปก็อย่างว่าคู่แข่งสูงมาก พี่กะว่าคงไม่หลุดอันดับ 3 หรอก พี่คิดว่าคงไม่หลุดและอันดับสุดท้ายพี่ก็ไม่รู้จะเลือกอะไรดีที่มั่นใจว่าไม่หลุด พี่อยากได้แต่สิ่งที่พี่อยากเรียน อีกอย่างพี่อยากอยู่ใกล้ครอบครัว อยากกลับบ้านง่ายๆ จนลืมนึกถึงมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด พี่มีความหวังว่าพี่จะติด แต่แล้วสุดท้ายพี่ก็หลุดแอด TTTTTTTTTTTTT_TTTTTTTTTTTTTT

ตอนนี้พี่เครียดมากเพราะพี่หมดความหวังแล้ว พี่ไม่มีโอกาสใดใดอีกแล้ว พี่ต้องกลับไปเรียนที่เดิมพี่ลองนึกว่าพี่จะต้องไปเจอสิ่งที่พี่ไม่ชอบอีก 3 ปีกว่าจะจบ พี่เครียดมากมันไม่ใช่ชีวิตของพี่เลย แต่พี่ไม่มีโอกาสอีกแล้วจริงๆพี่ภาวนาตลอดว่าจะมีรอบหลังแอดในคณะที่พี่ชอบแต่มันก็ไม่มีแล้ว พี่ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกตัวเองยังไง ตอนประกาศแอดพี่ร้องไห้เลย แม่ไม่เคยเห็นพี่ร้องไห้ขนาดนี้ พี่ผิดหวังมากมันเครียดและกดดันกว่าปีที่แล้วซะอีก เพราะว่าปีที่แล้วพี่ยังมีความหวังว่าอาจจะซิ่วแต่หลุดแอดครั้งนี้พี่หมดหวังแล้วพี่ซิ่วอีกไม่ได้แล้ว พี่เครียดหน้ามุ่ยมาเป็นหลายอาทิตย์ใครถามเรื่องเรียนหน้าพี่จะร้องไห้แล้ว ทุกวันนี้พี่นอนร้องไห้ตลอดที่พี่พลาด ตอนแอดพี่น่าจะคิดให้รอบคอบ พี่มาดูมหา’ลัยนึงทีหลังคะแนนพี่เกินมาเยอะ พี่โคตรเสียใจทำไมพี่ลืมทำไมพี่ไม่ได้ดูที่นี่ แต่มาตอนนี้ทุกอย่างมันก็สายไปแล้วจริงๆ พี่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ และต้องทนก้มหน้าเรียนคณะเดิมต่อไปจริงๆแล้ว T^T

ตอนนี้พ่อกับแม่เข้าใจพี่มากอนุญาตจะให้พี่หยุดเรียน แต่พี่ก็รู้ว่าท่านไม่อยากให้หยุดสักเท่าไหร่เพราะมันเสียเวลา ถ้าพี่หยุดก็เท่ากับว่าเสียเวลา 2ปี พี่เองก็คิดมาก คนอื่นที่มีฐานะทางบ้านดีอาจจะไม่เข้าใจว่าพ่อแม่รอให้เราเรียนจบอยากให้เรามาแบ่งเบาภาระบ้าง ตรงนี้พี่รู้เสมอว่าครอบครัวพี่ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะให้ซิ่วแล้วซิ่วอีก ชีวิตพี่ไม่ได้สวยหรูขนาดที่อยากจะเรียนอะไรเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าจะไปเอกชนค่าใช้จ่ายก็เยอะพี่ไม่อยากให้พ่อแม่พี่ต้องมาเสียเงินมากๆเพราะความผิดพลาดของพี่เอง พี่สงสารพ่อแม่

สุดท้ายพี่อยากจะบอกน้อง ม.6 และน้องที่คิดจะซิ่วตอนนี้น้องเหลือเวลาไม่มาก ขอให้น้องตั้งใจมากๆ ทำเพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่ น้องอาจจะเหนื่อยก็ขอให้คิดว่าเหนื่อยเพื่ออนาคต ถามตัวเองว่าอยากเป็นอะไร เพราะน้องจะต้องอยู่กับอาชีพนี้ไปอีกทั้งชีวิต ทำมันให้เต็มที่ซะ อย่าลืมว่าเราพยายามเท่านี้เราคิดว่าเยอะแล้ว แต่คนที่เขาพยายามมากกว่าเรามีอีกเป็นสิบ แล้วยังมีคนที่พยายามมากกว่าคนพวกนี้มีอีกเป็นร้อยเป็นพัน อย่าลืมว่า 1 คะแนนที่น้องพลาดก็สามารถหลุดคณะได้ ท่องไว้เลยนะ 1คะแนนหลุดคณะ
1คะแนนหลุดคณะ
1คะแนนหลุดคณะ
1คะแนนหลุดคณะ แปะฝาบ้านไว้เลยยิ่งดี

จำไว้ว่าโอกาสไม่ได้มีมาหาทุกคนเสมอ อย่าให้ตัวเองต้องพูดคำว่า รู้งี้! กลับไปอ่านหนังสือ กลับไปตั้งใจให้มากๆ แล้วน้องจะไม่มีคำว่าเสียใจ ขอให้สิ่งที่พี่เล่ามาและสิ่งที่น้องทนอ่านมาจนหมดเป็นข้อเตือนใจ! อีกอย่างสิ่งศักดิ์สิทธิเป็นแค่ที่พึ่งทางใจไม่มีใครช่วยน้องได้นะ ต่อให้น้องบนอะไรมากแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆนอกจากคำว่าพยายาม สู้ๆนะ


อ้อ!! มีอีกอย่างพี่ได้ไปสอบทุน ODOS ทุนนี้ให้ไปเรียนต่างประเทศ น้องบางคนอาจจะไม่รู้จักแต่ทุนนี้มันดีมากๆ ตอนม.6พี่สอบไปรอบนึงแต่ไม่ติด ทุนนี้เคยเอาเกณฑ์คะแนนแค่ 60% สามรุ่นที่ผ่านมามีคนสอบได้เยอะมาก ทุนนี้จะสอบแค่ 4 วิชา คือ วิทย์ คณิต สังคม อังกฤษ แล้วก็จะมีความถนัดทางการเรียน คนที่ได้ ได้ไปเรียนต่างประเทศกันอย่างน่าอิจฉา แต่ตั้งแต่รุ่น4นี้มาเค้าปรับเกณฑ์เยอะขึ้นมีคนผ่านไปน้อยมากกกกกกกก รุ่น4เปิด3รอบก็ยังมีคนได้ไปน้อยสุดๆต่างจากรุ่นก่อนฟ้ากะเหว บางคนคะแนนขาดไป1คะแนนก็มี น่าเสียดายมากถ้าเป็นเกณฑ์เดิมก็ได้ไปล่ะ พี่อยากจะบอกว่ามันดีมากจริงๆ พี่ยังอยากได้มากถ้าเปิดรุ่น5แล้วยังสมัครได้พี่ว่าจะลองอีกรอบ น้องคนไหนที่สนใจอยากจะไปหาประสบการณ์ต่างระเทศก็เตรียมฟิตไว้ให้ดี พี่ตามอ่านข่าวทุนนี้อยู่เรื่อยๆเห็นบอกว่าค้ากำลังร่างรุ่นที่5อยู่ แต่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะมีแน่นอนหรือเปล่า ยังไงก็ใครอยากไปก็เตรียมตัวไว้ก่อนก็ได้นะ หรือใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับทุนนี้ก็เข้าไปในกรุ๊ปรุ่นพี่โอดอสกันได้จะมีพี่ๆอยู่ตั้งแต่รุ่นที่ 1 เลย ชื่อกรุ๊ปคือ “โครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน รุ่นที่3”

พี่หมดเรื่องเวิ่นล่ะ จากนี้พี่คงทำได้แค่ทำใจ ขอให้น้องๆที่เข้ามาอ่านสมหวังกับอนาคตของน้องนะ

แสดงความคิดเห็น

1 ความคิดเห็น

ผ่านมา 31 ก.ค. 57 เวลา 18:05 น. 1

ทำไมน้องพลาดสอบบ่อยจัง ปกติน่าจะคนเป็นชิวๆหรือเปล่า น่าจะลูกคนเดียวด้วยเปล่า ตอนนี้พี่แนะนำให้เผื่อน้องจะได้ไม่พลาดอีก ที่เรียนอยู่ตอนนี้ไม่ชอบให้เลิกเรียนทันที ลองมองดูตัวเลือกที่เราชอบดีที่สุด ลองดูว่าคณะอย่างในรามหรือ มสธ. มีไหม ถ้ามีก็เรียนซะ หรือไม่ก็เลือกที่เรียนใกล้บ้าน เพราะน้องต้องทำงานไปอีกนาน อย่าไปใส่ใจเรื่องอื่นมาก พ่อกะแม่อยากให้เราเลี้ยงตัวเองได้ น้องเรียนตอนนี้จบไปก็ไม่ทำงานที่เรียนมาอยู่ดี เสียเวลาเปล่าอีก ตอนนั้นอาจจะได้เสียใจอีกรอบ หยุดวันนี้ทันทีมุ่งหาสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ถ้าไม่สำเร็จ ก็อย่าไปเสียเวลาเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ ไปทำอย่างอื่นก็ได้ เช่นค้าขาย, ขายอาหาร เรียนวิชาชีพ ฯลฯ

0