Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มาดู! 9 พฤติกรรม เสี่ยงต่อระยะเริ่มต้นของอาการทางจิต (psycho)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
1. การเก็บกด (Repression) หมายถึง การเก็บกดความรู้สึกไม่สบายใจ หรือความรู้สึกผิดหวัง ความคับข้องใจไว้ในจิตใต้สำนึก จนกระทั่งลืม กลไกป้องกันตัวประเภทนี้มีอันตราย เพราะถ้าเก็บกดความรู้สึกไว้มากจะมีความวิตกกังวลใจมากและอาจทำให้เป็นโรคประสาทได้


2. การป้ายความผิดให้แก่ผู้อื่น (Projection) หมายถึง การลดความวิตกกังวล โดยการป้ายความผิดให้แก่ผู้อื่น ตัวอย่าง ถ้าตนเองรู้สึกเกลียดหรือไม่ชอบใครที่ตนควรจะชอบก็อาจจะบอกว่าคนนั้นไม่ชอบตน เด็กบางคนที่โกงในเวลาสอบก็อาจจะป้ายความผิดหรือใส่โทษว่าเพื่อนโกง


3. การหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง (Rationalization) หมายถึง การปรับตัวโดยการหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง โดยให้คำอธิบายที่เป็นที่ยอมรับสำหรับคนอื่น ตัวอย่างเช่น พ่อแม่ที่ตีลูกมักจะบอกว่า การตีทำเพื่อเด็ก เพราะเด็กต้องการการทำโทษเป็นบางครั้งจะได้เป็นคนดี พ่อแม่จะไม่ยอมรับว่าตีเพราะโกรธลูก นักเรียนที่สอบตกก็อาจจะอ้างว่าไม่สบาย แทนที่จะบอกว่าไม่ได้ดูหนังสือ บางครั้งจะใช้เหตุผลแบบ “องุ่นเปรี้ยว” เช่นนักเรียนอยากเรียนแพทย์ศาสตร์ แต่สอบเข้าไม่ได้ ได้วิศวกรรมศาสตร์ อาจจะบอกว่าเข้าแพทย์ไม่ได้ก็ดีแล้ว เพราะอาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่เหน็ดเหนื่อย ไม่มีเวลาของตนเอง เป็นวิศวกรดีกว่า เพราะเป็นอาชีพอิสระ “การหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง” แตกต่างกับการโกหกเพราะผู้แสดงพฤติกรรมไม่รู้สึกว่าตนเองทำผิด


4. การถดถอย (Regression) หมายถึงการหนีกลับไปอยู่ในสภาพอดีตที่เคยทำให้ตนมีความสุข ตัวอย่างเช่น เด็ก 2-3 ขวบ ที่ช่วยตนเองได้ มีน้อยใหม่ เห็นแม่ให้ความเอาใจใส่กับน้อง ความรู้สึกว่าแม่ไม่รักและไม่สนใจตนเท่าที่เคยได้รับ จะมีพฤติกรรมถดถอยไปอยู่ในวัยทารกที่ช่วยตนเองไม่ได้ ต้องให้แม่ทำให้ทุกอย่าง


5. การแสดงปฏิกิริยาตรงข้ามกับความปรารถนาที่แท้จริง (Reaction Formation) หมายถึงกลไกป้องกันตน โดยการทุ่มเทในการแสดงพฤติกรรมตรงข้ามกับความรู้สึกของตนเอง ที่ตนเองคิดว่าเป็นสิ่งที่สังคมอาจจะไม่ยอมรับ ตัวอย่างแม่ที่ไม่รักลูกคนใดคนหนึ่งอาจจะมีพฤติกรรมตรงข้าม โดยการแสดงความรักมากอย่างผิดปกติ หรือเด็กที่มีอคติต่อนักเรียนต่างชาติที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน การจะแสดงพฤติกรรมเป็นเพื่อนที่ดีต่อนักเรียนผู้นั้นโดยทำตนเป็นเพื่อนสนิทเป็นต้น


6. การสร้างวิมานในอากาศ หรือการฝันกลางวัน (Fantasy หรือ Day dreaming) กลไกป้องกันตัวประเภทนี้เป็นการสร้างจิตนาการ หรือมโนภาพเกี่ยวกับสิ่งที่ตนมีความต้องการ แต่เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นจึงคิดฝัน หรือสร้างวิมานในอากาศขึ้นเพื่อสนองความต้องการชั่วขณะหนึ่ง เป็นต้นว่านักเรียนที่เรียนไม่ดีอาจจะฝันว่าตนเรียนเก่ง มีมโนภาพว่าตนได้รับรางวัล มีคนปรบมือให้เกียรติ เป็นต้น


7. การแยกตัว (Isolation) หมายถึงการแยกตนให้พ้นจากสถานการณ์ที่นำความคับข้องใจมาให้ โดยการแยกตนออกไปอยู่ตามลำพัง ตัวอย่างเช่น เด็กที่คิดว่าพ่อแม่ไม่รักอาจจะแยกตนปิดประตูอยู่คนเดียว


8. การหาสิ่งมาแทนที่ (Displacement) เป็นการระบายอารมณ์โกรธ หรือคับข้องใจ ต่อคนหรือสิ่งของที่ไม่ได้เป็นต้นเหตุของความคับข้องใจ เป็นต้นว่า บุคคลที่ถูกนายข่มขู่หรือทำให้คับข้องใจ เมื่อกลับมาบ้านอาจจะใช้ภริยา หรือลูกๆ เป็นแพะรับบาป เช่น อาจจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อภริยาและลูกๆ นักเรียนที่โกรธครู แต่ทำอะไรครูไม่ได้ ก็อาจจะเลือกสิ่งของเช่น โต๊ะ เก้าอี้ เป็นสิ่งแทนที่ เช่น เตะโต๊ะเก้าอี้


9. การเลียนแบบ (Identification) หมายถึง การปรับตัว โดยการเลียนแบบบุคคลที่ตนนิยมยกย่อง ตัวอย่างเช่น เด็กชายจะพยายามทำตัวให้เหมือนพ่อ เด็กหญิงจะทำตัวให้เหมือนแม่ในการพัฒนาการขั้นฟอลลิคของฟรอยด์ การเลียนแบบนอกจากจะเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมือนบุคคลที่ตนเลียนแบบ แม้ยังจะยึดถือค่านิยมและมีความรู้สึกร่วมกับผู้ที่เราเลียนแบบในความสำเร็จ หรือล้มเหลวของบุคคลนั้น การเลียนแบบไม่จำเป็นจะต้องเลียนแบบจากบุคคลจริงๆ แต่อาจจะเลียนแบบจากตัวเอกในละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์โดยมีความรู้สึกร่วมกับผู้แสดง เมื่อประสบความทุกข์ ความเศร้าโศกเสียใจ หรือเมื่อมีความสุขก็จะพลอยเป็นสุขไปด้วย


credit :
http://pantip.com/topic/32409386

ตกใจ

แสดงความคิดเห็น

38 ความคิดเห็น

natty 3 ส.ค. 57 เวลา 20:07 น. 2

ของเราอ่ะ เป็นมันทุกข้อคือเราจิตใช่ป่ะ
เริ่มกลัวตัวเองนิดๆนะเนี่ย

0
burassa marin 3 ส.ค. 57 เวลา 20:44 น. 3

เป็นไปแล้วหลายข้อ --*   อยากไปปหาหมอชะมัด  รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นประสาทไงไม่รู้

0
Tanachi 5 ส.ค. 57 เวลา 12:10 น. 8
55555+....

เป็นทุกข้อเลยโว้ย!!!

//รู้ตัวว่าตัวเองโรคจิตมานานละแต่ไม่รักษา...เฮ่ออๆๆๆๆ..

0
YouKW 6 ส.ค. 57 เวลา 08:38 น. 10
เชิญชาวเด็กดีทุกคน รับยาที่ช่องหมายเลข 9 คับ



#ผมว่ามีคนเป็นไม่น้อยนะ โรคจิตกันทั้งเว็บนี่ละ 5555+
0
Shalnark Diabolus 6 ส.ค. 57 เวลา 16:25 น. 14

1.เก็บกด อันนี้จริงเคยมีช่วงนึงที่เก็บกดมากๆจนมันล้น รู้สึกเหมือนมีใครอีกคนอยู่ในหัวบางทีก็เหมือนความทรงจำมันเว้นช่วงหายไปเป้นระยะสั้นจำไม่ได้ได้ว่าตอนนั้นทำอะไรไปบ้าง แต่บางทีก็มีเพื่อนมาบอกว่าเราทำอะไรซึ่งตัวเราเองจำไม่ได้ด้วยละ

2.อันนั้นโรคจิตอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องสันดานเสียด้วยถึงจะโรคจิตแบบนั้น แต่เอาจริงๆก็มีทั้งส่วนที่น่าสงสารและน่าหมั่นไส้

3.หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง สมัยนี้เป็นแทบทุกคนละ จะมีใครเยอะแค่ไหนเชียวที่ผิดพลาดแล้วยอมรับตรงๆว่าพลาด

4.ถดถอย อันนี้น่าจะจริงเห็นบ่อยในพวกขาดความอบอุ่นที่ชอบเรียกร้องความสนใจ

5.อันนี้ก็นะ...ช่างมัน ไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไร

6.รู้ได้ไงว่าเค้าวาดวิมานแบบไหน และรู้ได้ไงว่าวิมานที่เค้าวาดเป็นไปไม่ได้ โลกนี้ยังมีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกมาก จะมาตัดสินความคิดคนอื่นว่าฝันกลางวันหรือเพ้อเจ้อมันงี่เง่าสิ้นดี

7.แยกตัว...เห็นคนเยอะแยะวุ่นวายแล้วปวดหัวเลยหนีไปอยู่คนเดียวนี่โรคจิตสินะ นิยามไหนวะเนี่ย

8.เป็นกันแทบทุกคนนะข้อนี้ งั้นก็โรคจิตก็แทบหมดโลกเลยสิ

9.อันนี้ก็...ช่างมันละกัน

0
KKKK 6 ส.ค. 57 เวลา 17:25 น. 16

อันนี้มันเป็นกลไกการป้องกันตัวเอง(Defense Mechanism)นะคะ ซึ่งทุกคนนั้นมีอยู่ในจิตใต้สำนึกอยู่แล้ว เราใช้กันแบบไม่รู้ตัวหรอกค่ะ แต่ถ้าใช้บ่อยๆเข้ามันจะทำให้เกิดอาการได้ แนะนำว่าการคัดลอกเอามาแค่เนื้อหากลางๆโดยไม่เกริ่นเหมือนเครดิตที่เอามามันจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้นะคะ ^^

0
ตรรกะผู้ดี 6 ส.ค. 57 เวลา 18:03 น. 17

ผมว่าสมัยนี้คนเป็นโรคประสาทไม่ค่อยน่ากลัว เท่าพวกนักจิตวิทยา บางคนนะ จำ กรณี ของ เปมิกา กับ หมอเผ่า กันได้เปล่า พวกนักจิตวิทยา เหมือนพวกนักล้างสมอง พวกนักเชิดหุ่น เคยเจอพวกจิตวิทยา สันดันเ-้ย กันมั้ย พอโดน จับได้ไล่ทัน พวกนี้มักไช้ตรรกะว่า คิดมากเกินไปบ้างหล่า มองโลกร้ายเกินไปบ้างหล่า ทั้งทั้งที่ถ้าทำแบบนี้แล้วอาจจะมีผลร้ายตามมาเห็นเห็น และพวกตรรกะหลายหลายอย่างก็มา ความคิดของ พวกที่มีจิตวิทยาดี แล้วหลงตัวเองว่าฉลาดกว่าคนอื่น ที่จริงตรรกะอขงพวกจิตวิทยา ที่จะไช้คุบคุมคนอื่นนี่มีเยอะนะ

0
wa_babo 6 ส.ค. 57 เวลา 19:22 น. 19

เป็นเกือบทุกข้อเลยอ่ะ ช่วงนี้เครียดกับชีวิต อยากพบหมอจิตตงิดๆอยู่ทุกวัน ยิ่งมาอ่านกระทู้นี้แล้ว สติใกล้ไปแล้วจ้ะ 

0