เด็กไทยว่าไง ? แนวคิดการปฏิรูปการศึกษาไทยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สำหรับข้อหนึ่งถึงข้อสาม
ผมว่าเป็นความพยายามที่จะให้คนในประเทศมี multi-skill ผมบอกเลยนะครับ ว่าการเป็นคนไทยเป็นอะไรที่สุดยอดมาก "เด็กไทยทำได้ทุกอย่างครับ" ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ
เรื่องเวลาผมว่ามันอยู่ที่่การบริหาร ผมเรียนมัธยมทำงานเยอะ กิจกกรมเยอะ แต่ผมก็ผ่านมันมาได้... และชีวิตก็ไม่ได้แย่อะไร ผมรู้สึกขอบคุณชีวิตตอนนั้นด้วยซ้ำ ที่ทำให้ผมสบายในตอนนี้

ส่วนตัวผมไม่อยากให้เอาประเทศเราไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่น มันมีหลายอย่างนะครับ ที่เราทำได้ แต่เขาทำไม่ได้ ผมไม่อยากให้เราลด "ความเป็นตัวของตัวเองลง" แต่ใช้เวลาพัฒนาการศึกษา ภายใต้รูปแบบของความเป็นประเทศไทยใ้ห้มากขึ้น

ผมเคยเจอครูที่สอนเก่งมากครับ แล้วครูท่านนี้ที่ทำให้ผมได้รู้ว่า เนื้อหามันไม่ได้มากมายเกินไปเลย มันแค่ฝึกให้เราำได้คิด แต่ปัญหาคือ... เราแทบหาครูแบบนี้ไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ผมคิดว่า... ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขส่วนใดๆ ของระบบก็ตาม เราควรมีมาตรฐานการพัฒนาบุคลากรที่ดีกว่านี้

เด็กถูกบังคับให้เรียนกวดวิชา
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่ชอบมากที่สุด... ตอนนี้ไปถามดูได้เลยครับ เด็กที่สอบเข้ามหาลัยดีๆ ได้... น้อยๆๆๆยิ่งกว่าน้อยที่จะพูดว่า ตัวเองไม่เคยกวดวิชา หรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ 
ที่บังคับ บางทีก็ไม่ใช่พ่อแม่หรือครูหรอกครับ ไม่ได้เกิดจากการบังคับเคี่ยวเข็ญ เป็นความเครียดของเด็กเอง ที่เห็นเพื่อนทำได้ ตัวเองทำไม่ได้ เพื่อนไปเรียนมาจากข้างนอก แล้วครูไม่สอน แล้วกลับมาต้องมานั่งร้องไห้คนเดียว มันใช่หรอครับ!!!! 
เด็กไทยเริ่มชินกันไปเสียแล้ว กับการที่ความรู้ในโรงเรียนมันหาไม่ได้... ขนาดว่ามาเรียนมหาลัยก็ยังมีคนเรียนกวดวิชาอยู่ สำหรับผม ผมว่ามันแปลก... คนเรียนเพราะคิดว่าต้องเรียน ไม่ได้เรียนเพราะคิดว่าจะได้ความรู้

อยากรู้ว่าเขาจะแก้ยังไงครับ?

เอาจริงๆนะครับ ที่มันผิดตั้งแต่
1 คุณบังคับเด็กเรียน
2 คุณไม่ให้เด็กซ้ำชั้น
3 คุณไม่ให้เด็ก ติด0 ติด รอ
4 คุณไม่ให้เด็นโดนไม้เรียว

และเรื่องประเมิณที่โคตรไร้สาระเลย
โรงเรียนต้องเตรียมนู้น นั้นนี่เพื่อประเมิณทำให้ไม่ค่อยมีเวลาสอน 

แก้ไข  เลิกบังคับเรียนซะ  ถ้าเขาไม่อยากเรียน บังคับไปก็ไร้ผล

เคยคิดน่ะ ตอนยุ มอ3อ่ะ ว่า เรียนไปชิวไปสบายจะตาย ทำไมพี่เขา มัธยมมปลายมันถึงดูเคร่งๆกันจัง เอารัยกะชีวิตมาก ตอนนั้นหนังสือ เหยียดแม่มไม่แตะหรอก  มันจะยากขนาดนั้นเลยหร๊ออ ปฏิวัติการศึกษาอะไรแม่มไม่สนใจ ไม่ไช่เรื่องของเราคนเดียวชะหน่อย  พอขึ้น มอ4 ปุ๊บ รู้เลยอ่ะ แม่มเหนื่อยสลัด หลักสูตรบ้าบอรัยไม่รู้ สมองไม่ไช่เมมเมอรี่ บันทึกข้อมูลที่หน่วยมันเยอะๆน่ะ สมองเราก็แค่ฟองน้ำอ่ะ ที่ดูดน้ำบ้างจนเต็ม แล้วบีบน้ำออกวนเวียนไปวนเวียนมาอ่ะ  ถ้าถามว่าอะไรเป็นตัวบีบ ก็ ลืม+ขี้เกียจ อ่ะ บีบน้ำออกชะเยอะเลย มันไม่ได้อิ่มตัวตลอดหรอกน่ะ แล้วถ้ามันเต็มมันก็ไม่อยากรับน้ำอีกแล้วป่ะ? แล้วนี้คือไร การศึกษาไทย ยัดความรู้เหมือนหัวเด็กเป็นระบบคอมพิวเตอร์อ่ะ เราไม่ไช่หัวสมองที่ดีเลิศประมวลผลตลอดเวลาหรอกน่ะ เข้าใจกันหน่อยสิ มันเหนื่อยน่ะ จนอยากจะย้อนไปบอกตัวเองเมื่อก่อนว่า โถ่ว อิเด็กน้อย คิดได้เเค่เนี้ย โตไปแล้วจะรู้ ขนาดตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นมัธยมปลายน่ะ ยังเหนื่อยขนาดนี้ ถ้าระดับสูงๆกว่านี้ ไม่เหนื่อยตายหรอ ฝากคนที่เคยถามว่า ถ้าไม่เหนื่อยไม่พยายาม มันจะประสบความสำเร็จหรอ มันก็จริงกับข้อความนี้น่ะ แต่ถ้าจะมาพยายาม มาเหนื่อยกับหนังสือตำรา ที่มันไม่มีประสบการณ์แบบจริงๆอ่ะ มันจะเหนื่อยเปล่ารึไม่กับประสบการณ์ในหนังสือที่ใช้ได้แค่ในข้อสอบอ่ะ ดูต่างประเทศสิเน้นทั้งในตำรา และการปฏิบัติอ่ะ อันไหนมันจะช่วยให้จำมากกว่า? เรียนรู้เพื่อ อยากรู้ ไม่ใช่ เรียนเพื่อสอบ ที่ท่องแล้วไม่มีความเข้าใจ แต่ จำจำไปเหอะ มันออกข้อสอบยุแล้ว?? อยากให้เป็นอย่าง หยั่งหลังนี้หรอ? ซึงปัจจุบันก็เปนยุแล้วอ่าน่ะ ขอร้องเหอะ ปัฏิวัติแบบต่างประเทศเหอะ กฏระเบียบที่มันเคร่งๆเกินไปอ่ะ มันยิ่งทำให้เด็กอยากจะแหกกฏมากกว่าที่จะทำตามน่ะ เลิกหัวโบราณยุกับที่ แล้วพัฒนาเหอะประเทศไทย

คือแบบ...หลักสูตรเดียวกัน แต่ละห้องยังเรียนไม่ค่อยเหมือนกันเลยค่ะ

เห็น ด้วยกับข้อ3มากๆเลยค่ะ อยากมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้นค่ะ นอกจากการเรียนแล้วเรายังเอาเวลาไปทำเรื่องดีๆได้อีกตั้งเยอะ ไม่ใช่ทุกคนที่พอเลิกเรียนก็เข้าร้านเกมส์


ทางโรงเรียนมีนโยบายใหม่ทุกปี...และใช้ปีเดียว เหมือนถูกทดลองอ่ะ ไม่อยากเป็นรุ่นที่"ผิดพลาด"หรอกนะ55+


เรื่อง เด็กถูกบังคับให้กวดวิชา เอาตามความคิดเรานะ ความจริงไปเรียนก็ดีเหมือนกัน การที่เราไปเรียนหมายความว่าเรารู้ว่าคนอื่นเขาเรียนอะไรกันนอกเหนือจากที่ เรียนในห้อง เรื่องไหนคนอื่นรู้ เรื่องไหนคนอื่นไม่รู้ เพื่อจะได้กลับไปทบทวนได้ตรงประเด็นยิ่งขึ้น ได้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนต่างโรงเรียนและสร้างความกระตือรือร้นได้อีกทางหนึ่ง เลย

แต่ว่าการที่เด็กต้องไปเรียนอีกนัยหนึ่งคือ เรียนไม่รู้เรื่องค่ะ สะท้อนให้เห็นเลยว่าการเรียนวันละ8ชั่วโมงอย่างหนักหน่วง(เน้นค่ะว่าแบบหนัก ด้วย แต่ละคาบเหมือนกับเรียนหลายวิชาพร้อมกันเพราะฟังอาจารย์ไปด้วยปั่นการบ้านไป ด้วย 55+) มันไม่ค่อยได้ผลค่ะ เพราะถ้าเกิดนักเรียนถึงขั้นต้องหันเข้าหาสถาบันกวดวิชาเป็นหลัก อันนี้ทางผู้สอนต้องลองพิจารณาดูด้วยนะคะ เด็กแต่ละห้องใช้วิธีการสอนไม่เหมือนกัน ชอบไม้อ่อน ชอบไม้แข็ง หรืออาจต้องปรับทัศนคติกันใหม่

ถ้าเกิดเด็กสอบตกเกินครึ่งห้องให้ลอง ดูก่อน อย่าเพิ่งโทษว่าเด็กโง่ บอกครั้งก็ไม่ถูกจริต บางครั้งก็เรียนไม่รู้เรื่องจริงๆ อารมณ์แบบถ้าไม่ได้เรียนพิเศษหรือหาอ่านเพิ่มเติมคือร่วง...อะไรแบบนี้


เรื่องนี้หาไม่เหมาะสมกับวัยก็เห็นด้วยค่ะ แต่น่าจะเพิ่มไม่เหมาะสมกับแผนการเรียนด้วย (555+)
มีหลายอย่างที่เรียนแล้วก็ไม่ได้ใช้...ไม่ได้ใช้จริงๆ สรุปคือได้แค่เรียนแล้วสอบแล้วเอาเกรด จากนั้นก็ลืมคืนให้กับอาจารย์ไป


เน้นพัฒนาเด็กฉลาดก็ดีค่ะ แต่ไม่อยากให้ทิ้งเด็กไม่เก่งนะคะ เขายังพัฒนาได้อีกสักวันเขาต้องเก่งแน่


สุดท้ายเรื่องเนื้อหาหลักสูตรมีมากมาย อันนี้ถ้าแก้ได้ก็ดีค่ะ
ไม่ส่งผลแรงเท่าไหร่ในตอนนี้ แต่มีผลตอนอ่านไปสอบแน่ๆค่ะ
เกือบทุกปีค่ะที่เรียนไม่ทัน สอบกลางภาคปลายภาคก็มา... อย่างนี้ก็ปัญหาใหญ่สิคะ



ขอคุณที่เห็นใจเด็กไทยนะคะ///ก้มกราบงามๆ

คนเเบบนี้ล่ะค่ะที่ตามหามานาน ช่วยทีเถอะค่ะ ถึงจะไม่ได้ขนาดเก่ง เเต่ขอให้จบไปมีชีวิตที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ลำบาก ไม่ใช่เรียนท่องจำอย่างเดียว สุดท้ายจบไปทำงานจริงๆ ทำได้ค่ะ เเต่ค่อนข้างอ่อนประสบการณ์ในการต่อสู้กับงาน

มันผิดตั้งแต่แรกแล้วค่ะผิดตั้งแต่คอรัปชั่นการเมืองแล้ว ได้คนไม่ดีไปบริหารราชการ การศึกษาถึงไม่เจริญ
ผิดๆๆๆๆๆ#ผิด

เห้นด้วยอย่างมากกกกกก
คิดดูดิ เด็ดต่างประเทศเรียนวันละไม่กี่ ชั่วโมง เเต่คุณภาพเด็กเขาออกมาดี
เเต่ดูเราดิ เรียนวันละตั้งหลายชั่วโมง โดนอัด อัด อัด เข้าสมอง ซ่ะไหลออกเเล้วไหลออกอีก ไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลย กลับมาก็นั้งทำเเต่การบ้าน
เราเรียน ม.5 ละ มีคนบอกว่า ม.5 เรียนสบาย ไม่เป้นจริงเลย งานหนักโคตรๆๆๆๆๆๆ เวลานอนก็ไม่ค่อยจะมี 
เเล้วหลักสูตร สามัญมีการเเบ่งสาย ต่างประเทศไม่เห็นมีเลย เรียนเเบบเดี่ยวกันหมด มีความรู้เท่ากัน เเล้วเเต่ใครจะหาความรู้เพิ่ม

มีเยอะกว่านี้นะ เเต่ขี้เกียดพิมพ์ละ
คิดเเล้วนอยยยยยย

น้องความคิดเห็นที่  314  ที่อายุ  12  เรียนอยู่ป.6  
ถ้าหากน้องมาเรียนมัธยมก็จะรู้เองว่าพวกพี่ๆมัธยมเหนื่อยแค่ไหน
โดยเฉพาะม.3  กับม.6  ที่ต้องฟิตกว่าคนอื่น
ม.3  อ่านทบทวนที่เรียนมาตั้งแต่ม.1  เพื่อสอบเข้าม.4
ม.6  งานจะหนักกว่าพวกน้องม.1-ม.5  มาก
ปั่นงานที่ครูบางคนที่ไม่เคยสอนห-่าอะไรก็เอาแต่สั่งแต่การบ้าน
อ่านทบทวนที่เรียนมาตั้งแต่ม.4  เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียนเพื่อเอาไปใส่ลงในพอร์ต
โดยเฉพาะสายวิทย์-คณิตที่ต้องทำโครงงานวิทยาศาสตร์
พี่กับบางคนเรียนได้เกรดดีๆ  2.50  ขึ้นไปมาตลอดตั้งแต่เรียนประถม
แต่เกรดมาตกต่ำกว่า  2.50  เมื่อตอนเรียนอยู่ม.ปลาย
ส่วนคนที่เรียนไม่เก่งอยู่แล้วและได้เกรดน้อยๆก็ได้น้อยลงยิ่งกว่าเดิม
น้องคิดว่าพี่กับพวกเขาเก่งหรือโง่คะ 

ไม่รู้ว่าโรงเรียนอื่นเป็นไง แต่โรงเรียนเราแค่ม.2ก็เรียนหนักจะตายละ วิชาวิทย์ม.2 เรียนเรื่องธาตุ เราลองเอาไปเทียบกับของพี่ม.5เหมือนกันเป๊ะ คือนี่เรียกว่าเรียนไม่หนักหรอ แค่ม.ต้น กับประถมต่างกันราวฟ้ากับเหว วิชาอังกฤษก็มี3รหัส ครูสอนอังกฤษพื้นฐานพูดได้เลยว่าครูกลับไปเรียนอังกฤษอีกรอบเถอะ สอนนักเรียนแต่ตัวเองไม่ได้ภาษาอังกฤษแล้วจะสอนใครรู้เรื่อง แล้วพวกครูชอบถามว่ารู้รึยังพอมีคนบอกว่ารู้แค่คนเดียวก็เปลี่ยนไปเรียนเรื่องถัดไป (เราอยู่ห้องคิง)ครูชอบบอกว่าเด็กห้องคิงต้องขยัน เก่ง ทำได้ทุกอย่าง ห้องคิงแล้วไงก็เป็นคนเหมือนกันไม่ใช่หรอ อยากให้อบรมครูด้วยก็ได้นะคะ แล้วก็ฝากบอกสทศ.ด้วยว่า ทุกวันนี้สอบมากกว่าเรียนแล้วค่ะ ลดการสอบบ้างก็ได้ ขอบคุณค่ะ

กำลังจะเห็นด้วยกับความเห็น314ละนะ แต่ลองน้องโตขึ้นอีกกว่านี้น้องจะเข้าใจว่าสมัยนี้การแข่งขันทางการเรียนสูงมาก ใครที่ไม่ถูกสนับสนับก็จะไม่มีอะไรไปสู้กับเขาเลย ส่วนพวกที่มีแรงสนับสนุนก็จะได้เปรียบกว่าคนอื่น ไม่ได้จะว่านะแต่จะบอกว่าเหนื่อย 555555

เห็นด้วยมากกกกก เพื่อนๆในห้องก่อเซงกับเรื่องพวกนี้อยู่ ขอบคุณที่เข้าใจเด็กๆนะครับ

เราเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยนะกับความคิดนี้นะ เราว่าเรียนมากเกินไปเนี่ยยิ่งจริง  แถมวันนึงเรียนไม่ตํ่ากว่า6วิชา การบ้านมีทุกวิชาส่งพร้อมกันด้วย พอบอกอาจารย์ว่ามีการบ้านตั้งหลายวิชาคําตอบที่ได้กลับมาคือ "ครูคนอืนสั่งได้แล้วทําไมครูถึงสั่งไม่ได้ล่ะ" อยากจะบอกอาจารย์ว่าก็ใช่ไงว่ามีการบ้านเยอะแล้วยังจะสั่งอีกเหรอ เดี๋ยวนี้เรียนเพื่อเอาไปสอบทั้งนั้นอ่ะ  เรื่องเน้นแต่เด็กเก่งจริงมากกกกกกกกกกกกกกกกใช่เราเรียนไม่เก่ง ครูก็ได้แต่พูดว่าไม่เข้สใจให้ถามให้ถาม แต่พอถามเท่านั้นอ่ะทําหน้าไม่พอใจ ถอนหายใจใส่ มันเป็นความรู้สึกแย่สุดๆอ่ะ ใครจะกล้าถามอ่ะ อยากให้ปรับปรุงระบบการศึกษามานานแล้วล่ะ

ตื่นเช้า 
รีบไปเรียน
เรียน
เลิกเรียน
รีบไปเรียนพิเศษ
กลับบ้านดึก
ทำการบ้าน
นอน
ตื่นเช้า 
รีบไปเรียน
เรียน
เลิกเรียน
รีบไปเรียนพิเศษ
กลับบ้านดึก
ทำการบ้าน
นอน
-----------------------------
ไอแอมโรบอต !

ขอแสดงความคิดเห็น เรื่อง เด็กถูกบังคับให้เรียนกวดวิชา

ไม่ใช่แค่ พ่อแม่ หรือ ผู้ปกครอง ที่บังคับ  ในส่วนของหัวข้อนี้ 
มี บรรดาครู และอาจารย์ บางท่านได้ทำการบังคับให้เด็กทั้งหมดที่เรียนด้วยนั้น ต้องเรียนกวดวิชา วิธีที่ท่านใช้คือ การส่งผลต่อเกรดหรือ การให้การเรียนกวดวิชามีผลต่อเกรดของนักเรียนที่ท่านสอน เด็กที่ไม่เรียนกวดวิชาจะได้แค่ 3 หรือ B (ประมาณนี้น่ะ) ซิ่งไม่มีทางได้ 4 หรือ A 

มันสมควรแล้วหรือที่ท่านทำแบบนี้ 

ในความคิดเห็นนี้ เป็นเรื่องที่ผ่านมาและยังมีอยู่
ครูหรืออาจารย์ท่านมิได้กระทำเช่นนี้  ผมขอขอบพระคุณท่านอย่างสูง

สำนึกและใตร่ตรองสิ่งที่ท่านควรทำ คือ การสอนเด็กให้เด็กได้รับความรู้ อย่างเต็มที่ แม้จะเป็นเวลาในคาบเรียนหรือนอกคาบเรียน(อาจจะเป็นเวลาว่างหรือเวลาที่เด็กถาม)

มิใช่ การใช้ เกรด บังคับให้พวกเข้านั้นต้องเข้าเรียนเสริมหรือเรียนกวดวิชาทุกคน เพื่อผลประโยชน์ของตัวท่านเอง และ ต่อเกรดของตัวเด็ก

เห็นด้วยมากๆ กับเวลาเรียนเยอะไป และเนื้อหาเยอะมาก!

เราอยู่ม.5 สายวิทย์เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก! เนื้อหาเน้นหนักมากๆจนจะอ้วกตายอยู่แล้ว หลายคนย้ายออกไปเรียนสายอาชีพกันเยอะ

เวลาเรียนมากแต่ไม่มีอะไรเข้าหัวเลยสักอย่าง แล้วทำไมต่างประเทศเรียนกันไม่กี่ชม.เค้าฉลาดกว่าเรา??

เพราะวันๆนึงเรียนมากไปหรือเปล่า? วันละสี่ห้าวิชาอย่างงี้ใครจะไปจำหมด ทำไมไม่ลองเปลี่ยนเป็นวันละสองสามวิชาแต่ชม.เรียนแต่ละวิชาเพิ่มขึ้นล่ะ?? จะดีกว่านี้มั้ย?

เราก็ยังเด็กออกความเห็นอะไรไม่ได้มาก แต่ก็เข้าใจนักเรียนไทยหลายๆคนที่เรียนหนักมากจนคิดหลายครั้งว่าไม่อยากเรียนแล้ว

คนนะคะไม่ใช่หุ่นยนต์ ไม่ใช่ว่าคิดจะยัดข้อมูลใส่สมองก็ยัดๆเข้ามา เด็กมันจะแย่เพราะแบบนี้แหล่ะ

มันก็มีส่วนที่ต้องแก้เยอะแหละ แต่ตัวเด็กก็ต้องรู้หน้าที่ตัวเองด้วย ไม่งั้นก็จะโง่ดักดานอยู่แบบนั้นแหละ โง่เองแล้วยังไม่ตั้งใจเรียนอีก อันนี้ก็ไม่ไหว