Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กไทยว่าไง ? แนวคิดการปฏิรูปการศึกษาไทยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เด็กไทยว่ายังไง ? แนวคิดการปฏิรูปการศึกษาไทยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)


ขอขอบคุณภาพประกอบทาง FB : Xkp Surattakul
เห็นด้วย
ไม่เห็นด้วย
-------
---------
3,000 โหวต
187 โหวต

แสดงความคิดเห็น

901 ความคิดเห็น

Sun Infinity Moment 11 ส.ค. 57 เวลา 16:15 น. 842

คห. ที่839

ผมเห็นด้วยนะครับในบางส่วน

เพราะผมเองก็เป็นในแบบนี้
คาบเช้า เรียนรู้เรื่อง อะไรก็เข้าหัว  
แต่พอบ่ายมา  อะไรก็ไม่เข้าหัวเลยสักอย่างครับ

มันเป็นเพราะร่างกายเหนื่อยล้า หรือเปล่า?

อันนี้ความคิดและความรู้สึกส่วนตัวนะครับผม

0
ไอ้มายด์ อยากมี ยู.เอฟ.โอ 11 ส.ค. 57 เวลา 17:38 น. 843

เห็นด้วยนะคะที่จะมีการเปลี่ยนแปลง การศึกษา'
    
         แต่ๆไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบนี้
เพราะ 1. จริงที่เนื้อหาหลักสูตรมันเยอะเกินไป ตรงนี้ยอมรับ แต่หากว่าไม่ให้มีหลักสูตรเยอะๆพวกนี้ ในเวลาที่ไปสอบหลายๆอย่างเพื่อที่จะหาที่เข้าเรียนต่อ หริอแม้กระทั้งข้อสอบที่ออกมาเพื่อวัดความรู้ ก็ต้องออกมายุดี เพราะทุกวันนี้มันก็มีตัวอย่างเห็นกันยุ
       
        2. ที่เน้นให้เด็กเก่งเพียงไม่กี่คน ที่เหลือโง่ อยากจะบอกว่า เราเปนเด็กบ้านนอก พูดกัลตรงๆเรยว่า ติดเล่น มีสิ่งเสพติดที่เข้ามาเยอะมาก ทั้งมีเด็กที่ติดเกม คือพูดกัลง่ายๆว่า เด็กที่โง่ในโพลของอะไรก้แร้วแต่น่าจะมาจากเด็กบ้านนอกๆ กลุ่มนึงที่เค้ายังไม่เหนความสำคัญขอ การแข่งขันข้างนอก เพราะเค้าคิดที่จะเรียนแค่จบๆ ผ่านๆ เพราะทางบ้านยังมีงานรับจ้าง ทำไร่ ทำนา และอีกอย่างเป็นเพราะ ระดับความรู้ของเด็กบ้านนอกส่วนมากนั้นมันมีไม่มากพอที่จะแข่งกับเด็กในเมือง ตรงนี้เอง เลยเป็นเหมือนช่องโหว่ ที่ทำให้การศึกษาไทยอยู่ในระดับล่าง

     3. สรุปง่ายๆๆๆๆที่สุด ในเรื่องที่เด็กต้องเรียนกวดวิชา เรียนหนักๆ เรียนในเนื้อหาที่ใช้ในชีวิตประจำวันก้ไม่ได้ แต่!!!! ทั้งหมดที่เรียนๆๆๆๆกันมาเนี่ย เพื่อสิ่งๆเดียวเรย คือ "การสอบ!!"


                 เอาง่ายๆ เด็กไทยเรียนเพื่อสอบ!

สังเกต จะเข้ามหาลัย' ต้องสอบ โอเน็ต GAT PAT  7 วิชาสามัญ ทั้งโควตาของ ม. อิก

      เอามารวมแค่ O - Net อย่างเดียวไม่ได้หรอ เพราะยังไงมันก็สอบวัดผลของเรายุแล้วป่ะ 

#อาจจะไม่ถูกใจใคร แต่นี่คือความคิดเห็นของเด็กบ้านนอกคนนึงที่คิดต่าง แต่ก็ยังอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ



      แก้ที่ต้นเหตูมันไม่ OK กว่าหรอ กับการแก้ที่ปลายเหตุ



0
junjuneff 11 ส.ค. 57 เวลา 18:01 น. 844

ปัจจุบัน การศึกษาต้องใช้ชื่อว่า ระบบจำไปสอบไม่ต้องประยุกต์ ถ้ามีการเปลี่ยนการเรียนการสอน ไม่ต้องจำพวกsincostan ตารางธาตุ แต่ตอนสอบออกข้อสอบแบบประยุกต์เพื่อให้เด็กคิดเชื่อว่าเด็กจะมีศักยภาพมากขึ้นและระบบการรับเข้ามหาวิทยาลัยที่มีการเหลื่อมล้ำคือคนมีเงินเยอะมีโอกาสเยอะเงินน้อยมีโอกาสน้อยเป็นต้น

0
therip time 11 ส.ค. 57 เวลา 18:35 น. 845
เน้นพัฒนาเด็กฉลาดเพียงไม่กี่คน
ที่เหลือโง่ทั้งประเทศ


เอาจริงๆใครชอบไม่ชอบไม่สนแหละ รู้แต่ว่าฉันรอคอยคำนี้ประโยคนี้มาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557
0
idonthavetotry 11 ส.ค. 57 เวลา 18:46 น. 847

ดีใจมากกกกๆค่ะ ตอนแรกนึกว่ากุข่าวที่ไหนได้พอรู้ว่าจริงน้ำตาแทบไหลค่ะ ทุกวันนี้ (เราเด็ก gifted) จันทร์กับศุกร์เรียนถึง 15.45 น. แต่อังคาร-พฤหัสบดี เลิก "17.40 น." ค่ะ ตอนแรกเราไม่รู้ว่าจะหนักขนาดนี้ อยากเก่งอยากมีงานทำเลยขอพ่อแม่เรียนห้องนี้

คุณ คห.14 คะ จำเอาไว้นะคะที่คุณเคยพูดวันนี้ คุณอายุ 12 น่าจะอยู่ประมาณป.6 หรือ ม.1 ใช่มั้ย ถ้าม.1 ห้องอะไรคะและก็ถ้าป.6จะบอกว่าเมื่อก่อนเราก็เคยคิดว่าเรียนมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เกรด 4 ทุกวิชาได้มาง่ายจะตายไป พอมาอยู่ปัจจุบัน ม.1 (อายุ 12 เหมือนกันค่ะ) เราแทบจะร้องไห้ รู้ซึ้งแล้วว่าเกรด 4 ทุกวิชาได้มายากมาก อีกอย่างนึงจะบอกให้นะคะ
1.เนื้อหาหลักสูตรมากมาย
   เราก็ไม่ค่อยจะเห็นกับข้อนี้นะ เรียนเยอะๆดีแล้ว
-ประเทศไทยเรียนเยอะแต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยค่ะ ดูจากผลการสอบ PISA ก็ได้ค่ะ เอาของปีที่แล้วไทยร่วงไปอยู่อันดับท้ายๆนะคะ
2.เนื้อหาไม่เหมาะสม
   สมติคุณอายุ13 แล้วเค้าเรียนเรื่องเลขกัน คุณคิดว่ามันไม่เหมาะตรงไหน จะให้พวกคุณไปเรียน บวกลบกันหรอ พวกคุณโตขึ้นเนื้อหามันก็ต้องยากขึ้นเป็นธรรมดา
-เอ้า!เราอายุ 12 เหมือนกัน! เรียนทฤษฎีพีทากอรัสคิดว่าไงล่ะ!
3.ใช้เวลาเรียนมากเกินไป
   มีเวลามากก้เอาตังไปให้ร้านเกม นั่งสิบเอ็ดร.ดกันตามถนนคนเดิน หรือคุณกลับบ้านมาแม่ไม่อยู่เสาร์ อาทิตย์ ไม่เจอพ่อแม่หรอ เรานี่แทบจะไม่ค่อยได้มีกิจกรรมกับพ่อแม่เลย กลับบ้านมาแม่ก็มานั่งทำงานงกๆ เราไม่เห็นจะเรียกร้องอะไรเลย หนิ เสาร์อาทิตย์ยังไงก้ได้เจอพ่อแม่
-เราไม่แรดนะ (ออกจะทอมๆด้วยซ้ำ -..- แต่หญิงแท้นะ) แล้วร้านเกมเราไปซะที่ไหนล่ะ จริงๆนะเราไม่ค่อยอยู่กับพ่อแม่เลยเดี๋ยวนี้ กลับมาหลับ!เสาร์-อาทิตย์ พ่อตีกอล์ฟ แม่ไปทำงาน เมื่อก่อนตอนที่เราไม่ได้เรียนอย่างนี้เราใกล้ชิดกับพ่อแม่มากกว่านี้นะ
4.เน้นพัฒนาเด้กฉลาด
   เราก้ไม่ได้เก่งอะไรนะ ตั้งใจเรียนสิ ฟังครูสิ อย่าดื้อสิ ทำตัวดีๆเดี่ยวครุเขากสนใจ เราก็ไม่ได้โง่นะเราพอเรียนเก่งอยู่ ครูไม่เห็นจะสนใจเราเลย มันเป็นเฉพาะครูบางคนหรือปล่าว
-จริงเหรอ? เราก็พอเรียนเก่งอยู่เหมือนกัน ทำไมครูสนใจเราจังล่ะ เดี๋ยวเรียกๆ ส่วนพวกที่เรียนไม่ค่อยได้ไม่ค่อยเรียกนะ (สำหรับครูไทยนะ)
5.บังคับเรียนกวดวิชา
   ก้ดีแล้วไง เราหน่ะอยากเรียนจะตาย แต่ไม่มีดอกาสจะได้เรียน พวกคุณอ่ะดีแค่ไหนแล้วที่พ่อแม่บังคับ ถ้าไม่บังคับใครจะเขี่ยวเข็นพ่อแม่เขาไม่ได้ว่างที่จะมาสอนการบ้านนะคะ
-คือเข้าใจไหมคะ เราเรียน 11 คาบ 3 วัน เลิก 17.40 น.
   เราไม่ใช้ป้านะคะ เราก้แต่เด้กอายุ 12 ที่มีความเห็นต่างจากพวกคุณ 
-ปล.จากเด็กอายุ 12 เหมือนกัน
-ปล.ที่ 2 เขียนให้ถูกนิดนึงได้มั้ยคะ? เรางง

0
JuNe July August 11 ส.ค. 57 เวลา 19:30 น. 848
ขอเข้ามาตอบเม้น 314 หน่อยค่ะ อดรนทนไม่ไหว

1.เนื้อหาหลักสูตรมากมาย
   เราก็ไม่ค่อยจะเห็นกับข้อนี้นะ เรียนเยอะๆดีแล้ว
มันดีแล้วจริงอ่อน้อง? คิดง่ายๆ สมมติน้องเป็นคอมพิวเตอร์ แล้วครูเป็นเจ้าของ ครูใส่ไฟล์ขยะไม่จำเป็นมาให้น้องแบกรับเอาไว้ทั้งหมด หนักเครื่องเปล่าๆ ใช้ประโยชน์อะไรก็ไม่ได้ น้องชอบแบบนั้นหรอคะ
2.เนื้อหาไม่เหมาะสม
   สมติคุณอายุ13 แล้วเค้าเรียนเรื่องเลขกัน คุณคิดว่ามันไม่เหมาะตรงไหน จะให้พวกคุณไปเรียน บวกลบกันหรอ พวกคุณโตขึ้นเนื้อหามันก็ต้องยากขึ้นเป็นธรรมดา
แล้วสมมติน้องอยากเข้าบัญชีแต่เรียนเลขอย่างเรื่องลอการิทึม ฯลฯ ที่มันยากเกินแถมไม่ต้องเอาไปคิดบัญชีแต่น้องก็ต้องเรียนเพราะเขาเอาเกรดน้อง พอจบมาก็ลืมมันจะมีประโยชน์อะไรอะน้อง ถ้าจะเป็นวิดวะนะพี่ไม่ว่าเลย มีมั้ยไปบอกแม่ค้า "ป้าคะ หนูจะเอาส้ม 2z+xy ของ logสี่ฐานสามของจำนวนองุ่นทั้งหมดในลังป้าหน่อยค่ะ" งี้อ่อ?? ไม่ใช่นะน้อง คิดผิดคิดใหม่ได้
3.ใช้เวลาเรียนมากเกินไป
   มีเวลามากก้เอาตังไปให้ร้านเกม นั่งสิบเอ็ดร.ดกันตามถนนคนเดิน หรือคุณกลับบ้านมาแม่ไม่อยู่เสาร์ อาทิตย์ ไม่เจอพ่อแม่หรอ เรานี่แทบจะไม่ค่อยได้มีกิจกรรมกับพ่อแม่เลย กลับบ้านมาแม่ก็มานั่งทำงานงกๆ เราไม่เห็นจะเรียกร้องอะไรเลย หนิ เสาร์อาทิตย์ยังไงก้ได้เจอพ่อแม่
ก็ไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรมกับครอบครัวตลอดป้ะ พ่อแม่น้องแค่ทำงานงกๆ แต่พ่อแม่พี่เลิกกัน ทะเลาะกันแถมแยกกันอยู่แล้วก็ต้องทำงานงกๆ เหมือนกัน พี่ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกร้อง (ส่วนนั่งแรดนี่สิทธิส่วนบุคคลมั้ยน้อง อย่าให้พี่เห็นว่าโตมาน้องก็ทำนะอิอิ) แล้วน้องลองมองคนที่ต้องทำงานพิเศษหาเงินเลี้ยงตัวเองดูบ้างรึเปล่า? ถ้าหากทุกวันนี้เขาต้องเรียนเลิกเย็นๆ ไปทำงานต่อยันห้างปิดแล้วรุ่งขึ้นก็ต้องไปเรียน วนเวียนอย่างงี้ทุกวันน้องว่าเขาไหวไหม? ถ้าลดเวลาเรียนลงเอาแต่ส่วนที่ตรงกับที่สายอาชีพนั้นต้องใช้ เขาคนนั้นก็จะมีเวลาไปทำงานพิเศษเพิ่มขึ้น อย่างน้อยก็ชั่วโมงสองชั่วโมง มันไม่ดีกว่าหรอคะ? ไม่ใช่แบบน้องและแบบหลายๆ คนที่ยังสบาย บางคนก็งอมืองอเท้าขอเงินพ่อแม่เพิ่มเพื่อไปเที่ยวด้วยซ้ำ ลองมองคนที่อยู่ต่ำกว่าตัวเองบ้างสิ
4.เน้นพัฒนาเด้กฉลาด
   เราก้ไม่ได้เก่งอะไรนะ ตั้งใจเรียนสิ ฟังครูสิ อย่าดื้อสิ ทำตัวดีๆเดี่ยวครุเขากสนใจ เราก็ไม่ได้โง่นะเราพอเรียนเก่งอยู่ ครูไม่เห็นจะสนใจเราเลย มันเป็นเฉพาะครูบางคนหรือปล่าว
น้อง...ตอนพี่อยู่ประถมพี่ก็คิดแบบน้องนี่แหละ ตอนนั้นพี่เรียนเก่งมาก ได้ที่หนึ่งที่สองตลอด ครูก็ไม่ได้สนใจมาอะไรพี่เป็นพิเศษนัก (เดี๋ยวนี้ไม่เก่งเหมือนแต่ก่อน แต่เกรดพี่ก็ยังพอดูได้) พอขึ้นมัธยมน้องจะรู้ ว่าความรู้สึกเวลาที่ครูที่สอนเขาจะเริ่มเพ่งเล็งไปที่เด็กเก่งๆ และคาดหวังเขาก่อน ส่วนคนอื่นที่มักจะโดนปล่อยทิ้งปล่อยขว้างน่ะมันเป็นยังไง
5.บังคับเรียนกวดวิชา
   ก้ดีแล้วไง เราหน่ะอยากเรียนจะตาย แต่ไม่มีดอกาสจะได้เรียน พวกคุณอ่ะดีแค่ไหนแล้วที่พ่อแม่บังคับ ถ้าไม่บังคับใครจะเขี่ยวเข็นพ่อแม่เขาไม่ได้ว่างที่จะมาสอนการบ้านนะคะ
น้องว่ามันดีหรอคะ ที่ต้องมาเสียเงินเพิ่มทั้งที่ไม่จำเป็นให้กับโรงเรียนกวดวิชา? แทนที่จะได้เอาไปใช้กับอย่างอื่น พ่อแม่น้องต้องทำงานเหนื่อยเพิ่มขึ้นเพราะต้องหาเงินมาจ่ายส่วนนี้ให้น้อง จะดีกว่าไหมถ้าเราพัฒนาการศึกษาไทยในโรงเรียนซะใหม่ ครูสอนดีเหมือนกวดวิชาและเด็กตั้งใจรับจะมันมา กวดวิชาแทบไม่จำเป็นเลยค่ะลองคิดดูดีๆ ไม่จำเป็นเลยค่ะที่ว่าถ้าไม่มีกวดวิชาแล้วจะทำการบ้านไม่ได้ ลองไปให้ครูที่เป็นคนให้การบ้านนั้นเขาสอนดีกว่าไหม มันตรงและไม่ต้องใช้เงินเลยด้วยซ้ำ ครูทุกคนจะยินดีมากเลยค่ะถ้าเราเดินเข้าไปให้เขาสอน เขาจะได้รู้ว่าเรานั้นสนใจเรียนด้วย สุดท้ายนี้ เคยได้ยินคำนี้ไหมคะ "ถ้ารัฐบาลไหนพัฒนาการศึกษาดีจนโรงเรียนกวดวิชาเจ๊ง รัฐบาลนั้นดีที่สุดในโลก"
   เราไม่ใช้ป้านะคะ เราก้แต่เด้กอายุ 12 ที่มีความเห็นต่างจากพวกคุณ 
พี่ก็ไม่ใช่ป้าค่ะ พี่เป็นแค่เด็กม.5 อายุ 16 ที่มีความเห็นไปทางบวกซึ่งต่างจากน้อง 


รีบเปลี่ยนความคิดซะนะ ก่อนจะสายไปมากกว่านี้ "ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" เว้นซะว่าน้องจะเป็นไม้แก่ไปแล้ว ;)

0
sindoisunday 11 ส.ค. 57 เวลา 19:31 น. 849
 เน้นพัฒนาเด็กฉลาดเพียงไม่กี่คน ที่เหลือโง่ทั้งประเทศ
ข้อนี้แหละค่ะโดนใจสุดแล้ว เด็กเก่งก็ถูกให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถึงแม้จะเป็นบาง รร.ก็ตามนะคะ เราก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ เหมือนกันค่ะ

0
雪☆だるま 11 ส.ค. 57 เวลา 19:56 น. 851
เม้นที่ 314

ไม่รู้ว่ายังไงดีล่ะนะ เดาว่าประถมไม่ก็เพิ่งม.1  จะขอตอบความเห็นของคุณสักหน่อย.....


1.เนื้อหาหลักสูตรมากมาย
   เราก็ไม่ค่อยจะเห็นกับข้อนี้นะ เรียนเยอะๆดีแล้ว

- โปรดจำคำนี้จนคุณขึ้น ม.ปลายนะคะ  คุณเคยเห็นอันดับการศึกษาไทยบ้างมั้ยว่ามันรั้งท้ายขาดไหน  เราเรียนเยอะก็จริงแต่ทำไมไม่เก่งเหมือนเด็กฟินแลนด์บ้างล่ะค่ะ? ทั้งๆที่เนื้อหาของเขาก็น้อยกว่า   
2.เนื้อหาไม่เหมาะสม
   สมติคุณอายุ13 แล้วเค้าเรียนเรื่องเลขกัน คุณคิดว่ามันไม่เหมาะตรงไหน จะให้พวกคุณไปเรียน บวกลบกันหรอ พวกคุณโตขึ้นเนื้อหามันก็ต้องยากขึ้นเป็นธรรมดา
-แน่นอนค่ะว่ามันต้องยากขึ้นไปตามวัย ประถมมันก็มีแต่บวกลบคูณหารไม่ยากอะไร แต่บางครั้งเอาเนื้อหาที่มันยากเกินไปและไม่จำเป็นมาสอนเนี่ยคิดว่าสมควรเหรอคะ
3.ใช้เวลาเรียนมากเกินไป
   มีเวลามากก้เอาตังไปให้ร้านเกม นั่งสิบเอ็ดร.ดกันตามถนนคนเดิน หรือคุณกลับบ้านมาแม่ไม่อยู่เสาร์ อาทิตย์ ไม่เจอพ่อแม่หรอ เรานี่แทบจะไม่ค่อยได้มีกิจกรรมกับพ่อแม่เลย กลับบ้านมาแม่ก็มานั่งทำงานงกๆ เราไม่เห็นจะเรียกร้องอะไรเลย หนิ เสาร์อาทิตย์ยังไงก้ได้เจอพ่อแม่
-นั่นใช่คุณรึเปล่านะ...อืม.....ทุกคนไม่ได้เป็นแบบนั้นมองใหม่ซะบ้าง เรานั่งทำการบ้านงกๆอ่านหนังสือทุกวันยันตี1ได้นอน3ชั่วโมงครึ่งแล้วต้องตื่นไปรร. อยากอยู่กับครอบครัวนานกว่านี้ การที่กับครอบครัวน้อยเนี่ยมันไม่ดีค่ะจะเกิดปัญหาตามมาได้ มันทำให้เด็กเริ่มห่างจากพ่อแม่ไปเรื่อยๆ คำพูดคำจาคุณดูยังไงก็เมือนเด็กขาดความอบอุ่นชอบกลนะคะ.......
4.เน้นพัฒนาเด้กฉลาด
   เราก้ไม่ได้เก่งอะไรนะ ตั้งใจเรียนสิ ฟังครูสิ อย่าดื้อสิ ทำตัวดีๆเดี่ยวครุเขากสนใจ เราก็ไม่ได้โง่นะเราพอเรียนเก่งอยู่ ครูไม่เห็นจะสนใจเราเลย มันเป็นเฉพาะครูบางคนหรือปล่าว
-อย่างแรกเลยนะคะ  คุณเคยเจอกรณีแบบนี้บ้างมั้ย ตั้งใจเรียนแทบตายแต่มันไม่เป็นไปตามผล ครูไม่สอนและไม่สนใจเด็กที่ไม่เก่งคณิตเลยน่ะ เราถนักสังคมกับประวัติศาสตร์ค่อนข้างจะแย่วิชาคณิต  ครูไม่สอนไม่สนใจ ครูเอาแต่สนใจเด็กที่เก่งคณิตเหมือนแบบเด็กไม่เก่งทำยังไงก็ไม่กระเตื้องสุดท้ายแล้วยังไง...เราก็ต้องไปเรียนพิเศษเอาสิ  
5.บังคับเรียนกวดวิชา
   ก้ดีแล้วไง เราหน่ะอยากเรียนจะตาย แต่ไม่มีดอกาสจะได้เรียน พวกคุณอ่ะดีแค่ไหนแล้วที่พ่อแม่บังคับ ถ้าไม่บังคับใครจะเขี่ยวเข็นพ่อแม่เขาไม่ได้ว่างที่จะมาสอนการบ้านนะคะ
-คุณคงชอบมากสินะที่ไปเรียนพิเศษทุกวันแล้วกว่าจะได้กลับบ้านก็ปาไป2ทุ่ม พ่อแม่เราสอนการบ้านให้ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะท่านยุ่งกันทั้งคู่ไง  พอเรียนพิเศษก็โดนครูด่าว่าเรียนทำไมเพราะพวกเธอไม่ตั้งใจก็จะบอกกลับไปว่าครูไม่สอนหนูเลยต่างหากล่ะ..
   



เราไม่ใช้ป้านะคะ เราก้แต่เด้กอายุ 12 ที่มีความเห็นต่างจากพวกคุณ 

-อ่านคอมเม้นดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ป้าดูยังไงก็เด็กประถมแหล่ะค่ะ ทุกคนมีความเห็นต่างกันแต่อยากให้รู้ในบางเรื่องบ้างว่ามันไม่ได้เป็นแค่เท่าที่คุณเห็น

หวังว่าจะเข้าใจ 

เราก็ไม่ใช่ป้าเหมือนกันแค่เด็กอายุ14ที่อยู่ม.3ที่มีความเห็นต่างจากคุณ :v
0
Xixer 11 ส.ค. 57 เวลา 20:21 น. 852

แนวคิดที่ดีคับบ
แต่ติดใจตรงที่เด็กฉลาดกับเด็กโง่ครับ
ทำไมไม่ส่งเสริมเด็กฉลาดไปเลยหล่ะครับ
แล้วค่อยมาช่วยกันพัฒนาเด็กที่เหลือหล่ะคับ

อย่าตัดโอกาสของคนเลยครับ

อันนี้เป็นคห.ส่วนตัวสุดๆเลยนะครับ
ทุกๆข้อก็เป็นข้ออ้างของเด็กขี้เกียจ
วิธีแก้นั้นง่ายมาก เพียงแค่ตั้งใจ
คนที่ชอบอ้างโน้นอ้างนี่ ก็มันยาก บทเรียนเยอะ เรียนอะไรไม่รู้เรื่อง ถามตัวเองอย่างจริงๆจังๆ หรือยังครับว่า "ตั้งใจ" หรือยัง

การแก้ปัญหาเริ่มจาก"ตัวเรา"ครับดีีที่สุด

0
CottonCandy-T 11 ส.ค. 57 เวลา 21:13 น. 853

1. เนื้อหามากไป  >>>อันนี้เห็นด้วย

2. เนื้อหาไม่เหมาะสมกับวัย >>> ไม่รู้ดิ เราว่าก็เหมาะกับวัยนะ (ปล. ตอนนี้ ม.1) ยังไม่เคยเห็นที่เกินวัยอ่ะ

3. ใช้เวลาเรียนมากเกินไป >>> มันก็ใช้แหละ เห็นด้วยๆ

4. เน้นพัฒนาแต่เด็กเก่ง >>> ควรจะพัฒนาทั้งคู่นะ ไม่ใช่พัฒนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าไม่พัฒนาเด็กเก่งก็อาจจะทำให้ไม่ทันประเทศอื่นเค้า แต่ถ้าไม่พัฒนาเด็กอ่อนจะทำให้ในอนาคต อาจจะมีคนว่างงานเพิ่มขึ้น จึงต้องพัฒนาควบคู่กัน

5. ถูกบังคับให้เรียนกวดวิชา >>> ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ถูกบังคับหรอกนะ เช่นเราก็ไม่ได้โดนบังคับแต่อยากเรียนเอง มันแล้วแต่ครอบครัวด้วยแหละ

แต่ถ้าทุกคนตั้งใจเรียน ไม่มีการลอกการบ้านทำด้วยตนเอง ขยัน/ตั้งใจอ่านหนังสือ ปัญหานี้จะลดลงไปมาก
สรุปคือ ถ้าตั้งใจ ไม่มีอะไรเกินที่ทำไม่ได้หรอก ^^

PS. มันคือความคิดเห็นส่วนตัว


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

T O N G:/ 11 ส.ค. 57 เวลา 21:53 น. 855

เราอยู่ม.2 เรียนโปรแกรมมินิอิงลิชค่ะ 
เหนื่อยมากจริงๆ เนื้อหาหลักสูตรเยอะมากแล้ววิทย์คณิต
ก็ต้องมานั่งแปลนั่งทำความเข้าใจเพราะไม่ได้เรียนเป็นภาษาไทย


และทีชเชอร์ชาวฟิลิปปินส์ของเราที่สอนคณิตท่านจบวิศวะที่ฟิลิปปินส์ค่ะ เนื้อหาบางเรื่องที่เราเรียน ที่ฟิลิปปินส์ท่านไม่เคยเรียนเลยค่ะ เนื้อหาของเราเหมาะสมมากจริงๆ ^^ (เหมาะสมน่ะประชดค่ะ เหอะๆ นี่ไม่ได้แต่งนะ)


0
Thanadech Aun 11 ส.ค. 57 เวลา 22:03 น. 856

อ่านแล้วไม่เข้าใจว่าเด็กสมัยนี้เป็นอะไรกัน พวกคุณจะมามัวอ้างว่าเราเรียนเยอะไปแต่ไม่สามารถใช้ได้เอยนั่นนี่โน่น ส่วนตัวผมก็ไม่พอใจในบางเรื่องเช่นสมมติผมอยากเรียนสายแพทย์ แต่ในคาบเรียนต้องมานั่งเรียนดนตรี ศิลปะ บลาๆ แต่ก็ไม่คิดมากเพราะเป็นเหมือนวิชาที่ผ่อนคลาย บางคนอาจคิดว่าผ่อนคลายตรงไหนงานเป็นกอง เราก็แบ่งเวลาสิครับ จะเสร็จไหมถ้าวันๆนึงอาจารย์สั่งงานมา กลับถึงบ้านกองไว้นั่งแชทเฟส ตีดอท จีบสาว โทรหาแฟน ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวคุณทั้งนั้น ไม่ขอพูดพร่ะทำเพลงละ เข้าประเด็นปเ็นข้อๆเลยละกัน (อาจแบ่งเป็นข้อๆเหมือนคห.อื่น ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้)
1.เนื้อหาหลักสูตรมีมากมาย คุณจะมาเรียนแค่ผิวเผิน บวก ลบเลขตั้งแต่อนุบาล ยันม.6 คุณก็ไม่ต้องเรียนหรอกครับ เรียนจบอนุบาลละทำงานเลย คุณเก่งนี่!! พวกเกลียดคณิตก็จะบ่นว่าเรียนแคลไปทำไม เรียนล็อก ตรีโกณทำไม ทุกอย่างเป็นบ่อเกิดของอนาคตทั้งนั้น วิศวกรแบกงานของบริษัทนึงไว้อยู่ มีข้อผิดพลาด เกิดพังขึ้นมาโดนฟ้องเป็นเงินมหาศาลถามว่าป้องกันการเสียหายอย่างไร ก็ต้องนำแคลมาช่วย จะตั้งเสาไฟฟ้าส่องถนนทั้งที ถ้าเราไม่สามารถวัดได้ว่าต้องใช้มุมเท่าไร ความสูงเท่าไร จะครอบคลุมพื้นที่ที่ต้องการจะให้แสงสว่างส่องไปทั่วถึงถ้าไม่ใช้ตรีโกณมิติ มากมายมหาศาลเหตุผลที่ต้องใช้เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่แค่คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอื่นๆก็เช่นกัน
2.เนื้อหาไม่เหมาะสมกับวัย จากข้อ1ตอนต้น ได้กล่าวไว้แล้วว่าถ้าเรียนแค่ผิวเผินก็เรียนแค่อนุบาลก็พอแล้ว จริงไหม??
3.ใช้เวลาเรียนมากเกินไป เด็กไม่มีเวลาว่าง ไม่มีเวลาอยู่กับพ่อแม่ ทำกิจกรรมอื่นๆ 4.เน้นพัฒนาเด็กที่ฉลาดเพียงไม่กี่คน ที่เหลือโง่ทั้งประเทศ 5.เด็กถูกบังคับให้เรียนกวดวิชา 3อันนี้ขอรวบยอดเลยละกันนะ ทำไมเขาถึงเน้นพัฒนาเด็กที๋ฉลาดล่ะ เพราะพวกเด็กเหล่านี้คือความหวังของประเทศชาติที่จะสามารถกอบกู้หน้าตาของประเทศเราไว้ได้ บอกไว้ก่อนว่าเด็กที่โง่กับเด็กที่ขาดโอกาสนั้นต่างกันนะ เด็กโง่คือพวกที่คิดไม่เป็นเวลาเรียนไม่เรียนเอาแต่เล่นเกเรไม่สนใจเรียน ถึงเวลาสอบทำไม่ได้ก็หาว่าอาจารย์สอนไม่ดีบ้าง ไม่บอกข้อสอบบ้าง พิเศษไม่ยอมเรียน ไม่หาความรู้เพิ่มเติม เด็กที่ขาดโอกาสส่วนมากขยันทั้งนั้น อยากที่จะศึกษาอยากที่จะเล่าเรียนเด็กเหล่านี้จะได้รับทุนการศึกษาทั้งนั้น เรื่องการเรียนกวดวิชานี่ไม่ใช่การบังคับให้เรียน แต่เป็นสิ่งที่เด็กเรียนเขาคิดได้ว่า เดี๋ยวนี้เนื้อหามันยากเราต้องไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มให้เข้าใจถึงแก่นแท้ และสามารถพิชิตฝันได้เรียน ได้เป็นในอาชีพที่ตนเองใฝ่ฝัน ผมเองก็เป็น1ในเด็กที่เรียนกวดวิชา เรียนหนักยอมรับว่าหนักมากๆ ม.4-5 เรียน10โมง ถึงประมาน6โมงเย็น เดินวนเรียนขึ้น-ลงในอาคารรวมศูนย์กวดวิชาชื่อดังย่านพญาไท ม.6ยิ่งไปกันใหญ่เรียน7.30-2ทุ่มกว่า เพราะเป็นคอร์สที่สำคัญที่สุดในชีวิตเด็กพิชิตมหาวิทยาลัย แล้วทำไมผมถึงไม่เคยรู้สึกอยากมีเวลาว่าง อยากมีเวลาครอบครัว อยากเที่ยวกับเพื่อน คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมไม่อยาก การเรียนนะคุณยิ่งเรียนกวดวิชาเด็กเก่งๆทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นการแข่งขันไปหมด เหนื่อยก็เหนื่อย ท้อก็ท้อ แต่ถอยไม่ได้ เปิดเฟสบุ้ค(ผมก็เล่นเหมือนคุณๆแล่ะแต่ไม่ได้ขลุกอยู่ทั้งวัน)เห็นเพื่อนโพสต์รูปไปเที่ยวที่นั่นนี่อยากไปก็อยาก แต่เราต้องยอมเพือความสุขที่รอคอยอยู่ ซึ่งในที่สุดวันนั้นก็มาถึง วันที่1 ก.ค.57 เวลา18.00น. หลังจากประกาศผลแอดมิสชั่นว่าผมได้สอบติดในสิ่งที่ใฝ่ฝัน ปัจจุบันผมเป็นเฟรชชี่แห่งมหาวิทยาลัยแห่งเสรีภาพ เป็นสิ่งที่รอคอยมานานแสนนาน ความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา3ปี ที่พวกคุณ(บางคน)ใช้เวลาว่างไปเที่ยวเตร่ สนุกสนาน เฮฮา มีความสุข ไม่อาจรับรู้ได้ ความเหนื่อยเหล่านั้นมันแปรเปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจ ได้เห็นรอยยิ้มของคนในครอบครัว ของคนปเ็นพ่อเป็นแม่ที่ได้เห็นลูกตัวเองประสบความสำเร็จหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมา เรามีความสุขกันทั้งบ้าน เราไปเที่ยวกัน กินข้าว ทำทุกอย่างที่ผ่านๆมาไม่มีเวลาได้ทำ ผมไม่เคยรู้สึกขาดเลยจริงๆ แล้วคุณล่ะครับถ้าคุณไม่อยากโดนเรียกว่าเป็นคนโง่ คุณวางแผนไว้หรือยังว่าคุณอยากเรียน อยากทำ อยากเป็นอะไร ทุกสิ่งอย่างไม่เคยมีคำว่าสายเกินไป แค่คุณคิดที่จะทำ ถ้าคุณยังเห็นด้วยกับอุดมการณ์บ้าๆนี้ คุณก็อย่าหวังว่าจะสามารถหาหมอ หาวิศวกร หรือหาบุคคลากรทางการศึกษาที่เป็นรากฐานของอนาคตลูกหลานชาวไทย ที่เก่ง และฉลาดได้เลย เพราะคุณอย่าลืมว่าคุณในตอนนี้ คือบุคคลในตอนหน้า ถ้าคุณไม่เก่ง แล้วเด็กในอนาคตล่ะ จะเก่งกันไหมถ้ามีคนแบบคุณ เป็นผู้สั่งสอน ฝากไว้เท่านี้ครับ ผมรู้ว่ามีคนที่ไม่เห็นด้วยกับผมเพราะดูได้จากผลโหวตว่ามีไป98%ที่เห็นด้วย ผมเชื่อว่าเด็ก2%คิดคล้ายๆผมครับ ขอบคุณครับ
ปล.ผมคิดต่างเรื่องการศึกษา แต่ผมได้ข้อคิดดีดีหลายอย่างจากครูกวดวิชา

0
454รหัส 11 ส.ค. 57 เวลา 22:13 น. 857
เรื่องแบบนี้ เราเองก็คิดมานานแล้วว่าจะมีผู้ใหญ่คนไหนมาเปลี่ยน และในที่สุดก็มี...(โครตดีใจเลยโว้ยยยยยยยย!!)

ตอนนี้เราเองก็เรียนอยู่ "กิฟเต๊ด" เรียนๆไปงั้นๆ น่าเบื่อสุดๆ แค่ขยันทำงานส่ง...(แค่นี้คะแนนมันก็ดีพอที่จะเข้าห้องนี้ละ เราไม่ได้เก่งหรือฉลาดอะไร พอที่จะโดนเรียกว่า "หัวกะทิ"ได้เลย ไม่เลยสักนิด= = เราเรียนไปวันๆตามเพื่อนไปแค่นั้น ไม่รู้หรอกว่าทำไม แค่อยากอยู่ห้องที่คนน้อยๆ55+)
ระบบการศึกษาไทย เราเริ่มรู้สึกว่ามันงี่เง่าตั้งแต่ขึ้นมา ม.2 เป็นอะไรที่ คิดมาตลอดเลยว่า "ที่กูตั้งใจเรียนทั้งหมดนี่ กูจะได้ใช้มันบ้างสักนิดไหม?" คิดแบบนี้ทุกครั้งที่เรียนในแต่ละวิชา บางวิชาเราก็ว่ามีประโยชน์ เช่น อังกฤษ ที่จะต้องใช้ในอนาคต ส่วนวิชาอื่นๆ ถ้าได้เรียนอย่างพอประมาณก็คงดี...
มีเพื่อนเราหลายคนที่ไม่รู้ว่าที่เรียนอยู่นี่ จะเรียนไปเพื่ออะไร แล้วจะเอาไปใช้กับอาชีพไหน? ห้องกิฟเต็ด เป็นห้องที่ใช้สร้างนักวืทยาศาสตร์...หมอ..(และอื่นๆ)..งั้นหรอ? ก็คงเป็นแบบนั้นสินะ เราพูดจริงๆเลยว่า ที่เข้าห้องนี่นะ ไม่ได้อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ หมอ หรืออะไรทั้งนั้น เพียงแต่ห้องนี้คนน้อยและบางทีเขาก็สอนอะไรที่ไม่เหมือนห้องอื่น(เนื้อหาที่เรียนมันสูงกว่า//หนักสมองชิบ!!= =) "เราแค่อยากได้ประสบการณ์"

เพื่อนห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องกิฟเต็ด มีเก่งกว่าเราตั้งเยอะ แต่พวกเขาไม่เข้าห้องนี้เพราะ"เรียนหนัก" อืม...= =;//แปลว่าเราคิดผิดใช้ไหมที่เข้าห้องนี้55+(เพราะเราเป็นพวกที่เรียนแล้วลืมด้วย...ก็มันมีประโยชน์แค่ใช้สอบนี่ ชิวิตจริงแม่งไม่ค่อยได้ใช้T^T)
ตั้งแต่ขึ้น ม.1 จนตอนนี้เราอยู่ ม.2 เวลาที่จะอยู่บ้านแทบไม่มี (เราไม่ได้เรียนพิเศษเสริมอะไรนะ = =แค่เรียนกับทำการบ้าน..//การบ้านแม่งให้ทำยังกะ กูเป็นตัวอะไรที่ไม่ต้องนอนก็ได้ ทำการบ้นอย่างเดียว= =;)ไม่ค่อยได้คุยกับคนในครอบครัวด้วย เพราะเราเครียดและขี้เกียจไปบ่นเรื่องการบ้านให้ท่านฟัง= =
การบ้านที่ครูหนึ่งคนสั่งในแต่ละคาบ...ตั้งแต่คาบ 1 ยัน คาบ9...บางวันแม่งเล่นมา 7-8วิชา/งาน แบบนี่เนี่ยนะ สุขภาพตรู..ไปหมดละT T
อยู่ห้องนี้นอกจากการบ้านเยอะแล้ว กิจกรรมอื่นนี่...ไม่ค่อยได้มีส่วนรวมอ่ะ= =(อย่างเล่นกีฬาหรือดนตรี)
คือ..อยู่ห้องกิฟแล้ว ให้เรียนอย่างเดียวสินะ? สินะ? สินะ? สินะ?ๆๆๆๆๆ โว้ยยยยยยยยยย!!!
ยิงทิ้ง ++++...ระบบการศึกษาไทย...ได้โปรด...+++ยิงทิ้ง
-เปิดโอกาสให้เด็กคนอื่นๆด้วย อย่าปล่อยพวกเขาไว้ และสนใจแต่เด็กเก่งๆ
-ได้โปรดหันกลับไปดู เด็กที่เขามีปัญหาบ้าง เขาเรียนไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะทำอย่างอื่นไม่ได้...
-ได้โปรดอย่าเอาแค่เกรดมาเป็นมาตราฐานวัดพวกเรา
-ได้โปรด ช่วยหาวิธีที่ทำให้พวกเราได้พบกับสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง
-ได้โปรดอย่าปล่อยให้ เด็กหลายคนเรียนไปแบบไร้จุดหมาย
-ได้โปรดอย่าทำให้การเรียนน่าเบื่อไปมากกว่านี้
-ได้โปรดใส่ใจครูด้วย ให้งานครูเยอะ ครูไม่มีเวลาสำหรับเตรียมการสอนให้พวกเราแบบเต็มที่ มันจะทำให้การสอนน่าเบื่อ
-ได้โปรดอย่าทำให้เราคิดว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่ใครๆก็เป็นได้(เพราะปัจจุบันฉันคิดแบบนั้น)
-ได้โปรดคิดให้ดีกว่านี้ เรามีรัฐบาล มีนักวิชาการ มีนักวิทยาศาสตร์ มีครู ข้าราชการ มีผู้ใหญ่หลายๆท่าน ที่เป็นเหมือนผู้ปกครองเราทั้งหมด ได้โปรดช่วยกันคิดแก้ปัญหานี้...
-ได้โปรดช่วยพัฒนาให้ดีขึ้นด้วย อย่าให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป
-ได้โปรดอย่าทำแค่เอาหน้า (ผักชีโรหน้า)ช่วยจริงจังกันด้วย และปัญหาอื่นๆไปด้วย ไม่ใช่แค่เรื่ิองการศึกษา อย่าทำแค่ผักชีโรหน้า!!!!
-ได้โปรดช่วยพัฒนาโรงเรียนให้ดีไปพร้อมกัน แบบที่ทำให้เราคิดว่า"เรียนโรงเรียนไหนก็ดีเหมือนกัน ไม่เห็นจำเป็นต้องเดินทางไปไกลเพื่อหนังสือ โรงเรียนใกล้บ้านเราก็ดีแล้ว" ถ้าทุกโรงเรียนได้รับการพัฒนาเหมือนกัน เด็กก็ไม่ต้องแย่งกันสอบเข้าและเดินทางไกลๆหรือกลับบ้านดึกๆด้วย
-ได้โปรดอย่าทอดทิ้งโรงเรียนที่เห็นว่าเป็นแค่โรงเรียนเล็กๆ
-ได้โปรด...อย่าให้คนในห้องเรียนหนึ่งมากเกินไป มันดูแลไม่ทั่วถึง ไม่ควรมีเกิน 30 คน
-ได้โปรดอบรมผู้จะมาเป็นครูให้เป็นครูโดยแท้จริงก่อน
-ได้โปรดเลิกเอาเราเป็นหนูทดลองระบบการศึกษาไทย
-ได้โปรดอย่าให้เราต้องมาสอบแบบมาตรฐาน พวกเราทุกคนไม่ได้มีความสามารถเหมือนกันทั้งหมด
-ได้โปรดเลิกออกสอบในสิ่งที่นอกเหนือความสามารถของเรา(อย่าง ป.6สอบเข้า ม.1เอาข้อสอบม.1มาให้เด็กป.6สอบ...แล้วจะให้ตรูเรียน ป.6เพื่ออะไร!! ในเมื่อข้อสอบเป็นของ ม.1!!!)
-ได้โปรดช่วยหาทางพัฒนาด้วย!!!
-ได้โปรดอย่าโกงแม้กระทั้งการศึกษา (เข้าใจใช่ไหม?!!!)
*******
******
**** [ ยังมีอีกเยอะแต่แค่นี้ก่อนก็ได้^^...ขอบคุณมากๆคะ]


"ได้โปรดช่วยพัฒนาด้วยนะคะ(_ _)"
เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยมยิงทิ้ง

0
Kantichadiabatic 11 ส.ค. 57 เวลา 22:52 น. 859

เราว่าน่าจะปรับเปลี่ยนการบ้านหรือเเบบฝึกหัดหรือข้อสอบที่มันมีความคิดปลายเปิดนะ  เราเห็นคนลอกการบ้านกัน ลอกข้อสอบกัน ถ้าพูดกันตรงๆมันก็คือการก๊อปลิขสิทธิ์ความคิดคนอื่น ส่งผลอย่างมากเลยที่ทำให้เราคิดกันไม่เป็น อีกอย่างเป็นการส่งเสริมการทุจริตด้วย ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของญี่ปุ่น เเต่เราไม่เคยผลิตรถยนต์ที่เป็นของประเทศของเราเอง ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียมีรถยนต์ที่เป็นยี่ห้อของตัวเองคือ"โปรตอน" มันน่าคิดนะว่ามั้ย???

อีกอย่างบทลงโทษสำหรับการ "ลอก" มันก็เบามากๆ ถ้าเทียบกับประเทศฝั่งอเมริกา เเค่การบ้านคล้ายๆกันเค้าก็เรียกไปสอบสวนเเล้ว ถ้าเกิดลอกจริงๆ โทษร้ายเเรงสุด คือ "เชิญออก"
(เราฟังมาจากพี่ที่เค้าไปเรียนที่อเมริกา)



ปล. เราเคยลอกการบ้านนะยอมรับ เเต่เราเลิกเเล้ว ทำเองมันได้อะไรมากกว่าเยอะ

0
Kim RFC 11 ส.ค. 57 เวลา 23:01 น. 860

เราว่าจะว่าเป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจก็ไม่ถูกทั้งหมดนะคะ
เราเป็นเด็กคนนึงที่ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่
ที่บ้านเปิดร้านขายของ จะให้ขายไปทำการบ้านไปก็กระไรอยู่ ไม่ใช่ว่ามันทำไม่ได้เลยนะ แต่จะให้ทำวิชายากๆที่ต้องใช้สมาธิ บอกตรงๆว่าไม่ไหว กวา่จะได้ทำการบ้านอย่างเต็มที่ก็สองสามทุ่ม แล้วการบ้านแต่ละวิชา เยอะมากกกกก เราไม่ได้เล่นเฟสไปทำงานไปหรอกนะ แต่มันเยอะมากจริงๆ บางวิชาครูก็ไม่สอน แต่สั่งการบ้านครั้งละบท? ครูบางคนก็โม้ทั้งคาบ พอจะสอบก็โยนงานให้นกเรียนทำ ต้องอ่านหนังสือเอง หาศึกษาเอง คือควรพัฒนาครูด้วยนะ =='
อีกเรื่อง
การไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐจริงๆค่ะ
เราเป็นโรคภูมิแพ้ แพ้อาหาร แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น แพ้ๆๆๆ - - บางทีอากาศหนาว หรือฝนตก ก็ปวดหัว เป็นผื่น แน่นหน้าอก จะฝืนทำการบ้านก็ไม่ไหว แต่การบ้านก็เหลือเป็นกองๆ 
ยิ่งเรียนสูงขึ้น สุขภาพก็ดูจะแย่ลงเรื่อยๆ จากที่เคยสดใสร่าเริง สภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างไปจาก "ศพเดินได้"

แล้วเรื่องที่บังคับให้เด็กเรียนกวดวิชา
มันตีความได้หลายความหมายนะ สำหรับเราน่ะ
ไม่ใช่แค่เด็กถูกพ่อแม่บังคับ แต่มันรวมไปถึง
- ครูไม่สอน เด็กเรียนไม่เข้าใจ ถามก็โดนด่า (ตกลงคุณจะเอายังไงคะ) 
- เด็กบางคนเรียนไม่เข้าใจตั้งแต่ชั้นเรียนก่อนหน้า ครุก็ไม่สอนมทบทวนให้ ก็ต้องถามเพื่อน หรือหาเรียนพิเศษเพิ่มเติม
- เนื้อหามันเยอะจริงๆค่ะ ทำไมถึงว่าเยอะล่ะ? เพราะว่าเวลาเรียนมันมีน้อยไง เรียนหลายวิชาเกินไปรึป่าวคะ? 8-9 คาบต่อวันไม่หนักไปหรอ? ก็ต้องพึ่งโรงเรียนกวดวิชาอีก

สภาพแวดล้อมคนเรามันต่างกัน
ครอบครัวของคนเรามันต่างกัน
ฐานะคนเรามันต่างกัน
สุขภาพคนเรามันต่างกัน
อะไรหลายๆอย่างของคนเราก็ต่างกัน
คุณเอาอะไรมาตัดสินเค้ากันคะ?
พูดไม่ออก 


0