Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไมเราต้องพนมมือเวลารับพรด้วยครับ???

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือ ผมสงสัยว่า การพนมมือเวลารับพรนี่  มันจะช่วยในการนำพรเข้าตัวได้ดีขึ้นหรือครับ  ผมว่าถึงเรารับพรมา แต่ถ้าเราไม่ตั้งใจ  แล้วมันจะได้ผลเหรอ???  ทุกวันนี้เวลาใครๆให้พรผมก็จะนั่งนิ่งๆสงบเสงี่ยม  แต่แม่ก็บอกว่าพนมมือสิลูก  ผมก็นึกค้านในใจทุกทีว่าทำไมต้องพนมมือด้วย  ไม่เข้าใจเลย???  ทุกอย่างมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเหรอครับ???

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

White Frangipani 21 ส.ค. 57 เวลา 05:32 น. 1

สวัสดีค่ะ

รับพร=รับฟังพระให้พร = พระให้พร=คือประสิทธ์ประสาทคำสั่งสอนของพระศาสดาให้เราเพื่อให้เรารู้ซึ่งและรำลึกถึงปรัชญาแห่งท่าน=พร=หมายถึงความปราถนาอันประเสริฐ(หรือใครๆเช่นที่คุณยกมาค่ะ)ที่จะให้ต่อผู้รับ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างการรับพรจากพระนะคะ (คือธรรมคำสั่งสอนของศาสดา) คือความสว่างที่จะนำมาซึ่งความเข้าใจในธรรมนั้นจะนำมาเพื่อความสุขสงบแก่ผู้รับ และในที่นี้อีกครั้งคือเพื่อคุณนั้นถูกต้องตามที่คุณเข้าใจ (ตามความเข้าใจของดิฉันะคะ)นั้นคือ การนำพรไปปฎิบัติหลังรับพรนั้นคือผลของพรจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณฎิบัติ=จากการกระทำของตนนั้นเองนั้นแล


พนมมือ=คือวัฒนธรรมของชาวพุทธ=คืออาการแสดงซึ่งความนอบน้อมต่อพระศาสดาและศาสนา  (หรือแสดงความนอบน้อมต่อผู้ที่ให้พรให้ปราถนาอันประเสริฐกับเราการพนมมือรับพรนั้นก็เป็นวัฒนธรรม เช่นกันค่ะ เป็นวัฒนธรรมที่สวยงามด้วย)


ซึ่งเป็นมาอย่างไรและเริ่มขึ้นเมื่อที่ไหนดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ แต่ที่รู้ๆเมื่อฟังพระหรือรับพรหากเราพนมมือจะทำให้เราสงบภายในและสำรวมและจิตใต้สำนึกรู้ตัวทั่วพร้อมทันทีว่าเรากำลังเข้าพิธีทางศาสนา(หรือแม้เวลาที่เรารับพรจากใครๆ)จิตใจจะรับรู้อย่างอย่างแปลกประหลาด

(มีส่วนนะคะ หากคุณไม่เชื่อคุณลองทำดูและลองสังเกตุความรู้สึกของตัวเองดูในขณะที่ทำ นี่คือการพิสูจน์คำบอกเล่าของคุณแม่คุณด้วยตัวคุณเองค่ะ คุณแม่คุณ ท่านก็รับอิทธิพลนี้มาจากบรรพบุรุษดั้งเดิมอีกทีอย่างแน่นอน เราๆชาวพุทธ(ชาวไทย)ทุกๆคนปฎิบัติตามๆกันมาเช่นนี้ค่ะ และได้เกิดเป็น ศาสนาและวัฒนธรรมของชาวพุทธค่ะ)

นี่เป็นความเห็นและเข้าใจส่วนบุุคลเท่านั้นซึ่งอาจจะผิดก็ได้เห็นคุณใส่เครื่องหมายนี้ ??? มาหลายตัวอยากช่วยอธิบายค่ะ

หากแต่เพื่อนๆท่านใดรู้ในแง่มุมที่แตกต่างไปจากนี้อาจจะเป็นได้รอฟังคำตอบต่อๆไปด้วยนะคะ ^__^

0
เด็กวัด 21 ส.ค. 57 เวลา 12:53 น. 2

เพื่อให้ขลังละมั้ง

ผมว่าอาจจะพนมมือเพื่อขอบใจ หรือแสดงความเคารพ แต่หลักๆเพื่อให้ขลัง555 คล้ายๆกับถ้าเรามีความตั้งใจ(แล้วทำด้วย) ความสำเร็จก็จะตามมา

0
นิลมังกร 21 ส.ค. 57 เวลา 13:01 น. 3

.






จริงๆหากเราจะไม่อยากพนมมือก็ได้ หากรู้สึกว่าสามารถทำจิตใจให้สงบ
แล้วน้อมรับสิ่งดีๆที่อยู่ตรงหน้าได้ดีกว่า


การพนมมือไหว้ ก็คือให้ร่างกายนำไป แล้วจิตใจน้อมตามไงคะ 
บางครั้งร่างกายก็ส่งผลต่อจิตใจ
ระหว่างคนที่ยืน กับคนที่นั่ง สภาวะจิตใจก็แตกต่างกันแล้ว ถ้าสังเกตเห็น

เหมือนกับเราปรับสภาพแวดล้อมของร่างกายตัวเอง
ให้อยู่ในสภาวะที่น้อบน้อมจะรับพรดีๆที่อยู่ตรงหน้าได้เต็มเปี่ยม


คือถ้าเทียบแบบให้เห็นภาพชัดๆก็คือ
อย่างเช่นเวลาพระท่านกำลังให้พร หรือมีใครซักคนกำลังอวยพรสิ่งดีๆให้เรา

ระหว่าง 

1. คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ไม่ได้แม้แต่จะหยุดหันมามอง 
คิดว่าคนๆนี้จะได้รับคำอวยพรที่ลอยลมมาได้มากน้อยเพียงไร

2. คนที่หยุดเดิน แล้วหันมามอง ยืนฟังคำอวยพรนั้น
คิดว่าคนๆนี้จะสามารถรับคำอวยพรที่อยู่ตรงหน้าได้มากน้อยเพียงไร

3. คนที่หยุดยืน หลับตา สงบ เปิดใจรับฟังคำอวยพรตรงหน้า
คิดว่าคนๆนี้จะซึมซับคำอวยพรดีๆที่อยู่ตรงหน้าเขาได้มากเพียงไร

4. คนที่ลงนั่นพับเพียบ พนมมือ หลับตา ก้มศรีษะ
ทำจิตใจให้สงบ น้อมรับฟังสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่มีอาการต่อต้านใดๆแล้ว
คิดว่าทั้งร่างกายและจิตใจเขา จะน้อมรับสิ่งดีๆที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า
ได้มากขนาดไหน เมื่อทั้งกายและใจเขาเปิดพร้อมรับสิ่งที่งดงาม
ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้านี้แล้ว 





^____^   นี้เป็นเพียงการเปรียบเทียบให้เห็นภาพแบบง่ายๆนะคะ

ลองนำไปปรับใช้ดูได้นะคะ  แล้วแต่เลย









.

1
abcd 10 พ.ค. 59 เวลา 10:31 น. 3-1

ผมก็สงสัยเหมือนเจ้าของกระทู้ครับ แต่คุณอธิบายได้ดี ผมจึงเข้าใจและหายสงสัยแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

0
YouKW 21 ส.ค. 57 เวลา 17:56 น. 4

ผมคล้ายๆกับเจอคำถามแบบคุณนะ แต่เขาถามว่า

"ทำไมเราต้องทำบุญให้คนอื่นด้วย"

แต่คุณถามประมาณว่า "ทำไมเราต้องพนมมือไหว้รับพรพระด้วย"


อยากรู้เหมือนกันว่ามันทำไมต้องตั้งคำถามอะไรมากมาย

ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำ มันต้องมีเงื่อนไขมีประโยชน์กับคุณก่อนเหรอคับ

คุณถึงจะทำมัน ผมว่ามันก็ดีออก อย่างคำถามแรกเราก็ให้คนอื่นมันก็ดีแล้วนี่คับ

ส่วนคำถามของคุณมันแสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน มันเป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำ

ไม่ได้ส่งผลแง่ร้ายใดๆกับชีวิตของคุณเลย ก็แค่พนมมือรับสิ่งดีดีเข้าตัวจะได้

เป็นศิริมงคล มันไม่เห็นต้องไปตั้งคำถามอะไรมากมายแบบนั้นเลยคับ


อันนี้จาก คหสต. ผมนะ แล้วถ้าคุณต้องเหตุผลมากขนาดนั้นจริงๆ

เพื่อมาตอบคำถามของคุณว่าเพราะอะไร ทำไมผมถึงต้องไหว้ด้วย

ไหว้แล้วมันได้อะไร ก็ลองอ่าน คห.บนๆดูนะคับ 


อีกอย่างการไหว้ก็ไม่จำกัดเฉพาะรับพรนะคับ การไหว์มันใช้ได้หลายอย่าง

ทั้งไหว้ในชีวิตประจำวันเป็นการทักทายที่เป็นเอกลักษณ์ของชนชาติไทย

ทำไมคุณไม่ไปตั้งคำถามนี้ด้วยละว่า "ทำไมถึงต้องไปไหว้คนอื่นๆด้วย"

แค่ใจเราเคารพนับถือไม่ต้องไหว้ก็พอแล้วมั้ง? งั้นเหรอคับ ผมว่าคำตอบ

ข้อนี้คุณรู้ดีอยู่แก่ใจเชียวละ มันอยู่ที่ว่าคุณจะเลือกมองด้วยอคติ หรือเลือก

ที่จะมองอย่างหลายๆด้าน เปิดกว้างทางความคิดอย่างไร้ขีดจำกัด โดยไม่

ค้านไปซะทุกสิ่ง แต่เลือกที่จะทำความเข้าใจวิถีชีวิตของคนอื่นๆ โดยไม่เอา

อคติส่วนตนไปตัดสินการกระทำของเขาว่ามันน่ากังขา 


เคยมีอาจาร์ยคนนึงได้กล่าวไว้ว่า "การที่เราจะเข้าใจวิถีชีวิตหรือสิ่งที่สืบทอด

กันต่อๆมาของชุมชนนั้นๆ เราจำเป็นต้องลบอคติจากตนเองออกให้หมดซะก่อน

และศึกษาแนวคิดที่เปิดกว้างของกลุ่มคนนั้นๆ โดยไร้ซึ่งคำค้านที่มาจากส่วนลึก

ของจิตใจ อันเนื่องมาจากอิทธิพลของความคิดที่เหนือศีลธรรมและจิตใจ"


น่าจะประมาณนี้คับ ผมก็เรียนมานานละวิชานี้ มันสอนได้หลายอย่างนะ จากที่

ผมคอยถามอยู่ตลอดว่าทำไมเขาไม่ทำแบบนั้น ทำไมต้องทำแบบนี้ ทุกอย่าง

ต้องมีวิทยาศาสตร์ ต้องมีเหตุผล เราทำแบบนี้ก็ได้นี่นาไม่ใช่รึไง? 


คำถามพวกนี้คุณลองสลัดมันออกแล้วลองมองในอีกแง่ดู แล้วคุณจะเห็นว่า

บางทีทุกอย่างก็ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบตายตัวเสมอไป เพราะนี่คือ "วิถีชีวิต"

0
Nellsphia 21 ส.ค. 57 เวลา 21:46 น. 5

ขอบคุณครับที่ช่วยมาอธิบายให้ผม
ที่ผมใส่ ??? หลายตัว เพราะผมติดเวลาพิมแบบตั้งคำถามน่ะครับ เพราะผมเป็นคนที่ใช้คำไม่ค่อยเก่งด้วย
คือ เจตนาจริงๆ คือผมก็ไม่ได้อยากค้านเรื่องวัฒนธรรมหรอกครับ แต่แค่สงสัยว่า สาเหตุที่แท้จริงมันเกิดจากอะไรครับ
และพอผมอ่านความคิดเห็นแล้วผมก็คิดว่า มันก็ไม่เสียหายอะไรที่จะทำตาม เพราะผมลองพนมมือรับแล้ว ก็รู้สึกอย่่างที่คุณบอกจริงๆ มันคงเหมือนการพนมมือคือการรวมสมาธิละมั้งครับ เพราะถ้าไม่ลองทำอะไรซักอย่างมันก็รวมสมาธิไม่ค่อยได้เท่าไร
สุดท้ายนี้ก็ขอ ขอบคุณทุกคนที่มาแสดงความคิดเห็นกันนะครับ และก็ คือ ไม่รู้จะจบไงดี เอาเป็นว่าขอบคุณครับดีจ้า

0
White Frangipani 21 ส.ค. 57 เวลา 23:11 น. 6

สวัสดีค่ะ

ไม่เป็นไรนะคะ ก็เข้าใจว่าคุณอยากรู้จึงถามมา "อยากรู้ก็ถาม" ไม่มีอะไรผิดหรือน่าเกลียดนะคะ (เป็นความถูกต้องต่างหากล่ะ ที่ไม่รู้และไม่ถามต่างหากสิที่ไม่ดี แม้ว่ามาวันนี้เข้าใจว่าเรื่องทุกเรื่องคำถามทุกคำถามนั้นแทบทุกอย่างสามารถหาเองเรียนเองได้จากเน็ตต่างๆนั้นก็ทำได้เช่นกัน แต่ก็ไม่ไช่ว่าจะหาเจอเสียทุกอย่างเข้าใจว่าครั้งสิ่งละพันละน้อยหรือละเอียดอ่อนมากๆบางครั้งก็ยังหาไม่พบเจอก็มีนะ เพราะเน็ตต่างๆก็อัพโดยคน มีผิด ถูก ตกหล่น ขาดเกิน นั้นยังคงเกิดขึ้นได้ในวันนี้เข้าใจคุณค่ะ

เห็นว่าคุณอาจจะผ่านมาและที่คุณถามนี้ก็เป็นประเด็นเกี่ยวกับศาสนาวัฒนธรรมด้วยซึ่งตรงจุดมุ่งหมายของบอร์ด คือถูกบอร์ดนั้นเอง ดิฉันเห็นว่าคุณรู้จักที่ทางพอสมควรที่อยากถามนั้นดิฉันรู้สึกว่าคุณอยากรู้จริงๆ จึงใด้ถามความหมายดังที่กล่าวมา ที่กล่าวว่าคุณใส่เครื่องหมายดังกล่าวหลายตัวนั้นคือรู้สึกว่า คุณคงอยากเรียนรู้จริงจังค่ะ จึงช่วยตอบ และที่ตอบมานี้ก็มาจากความเข้าใจและวิจารณญาณของตนเองอาจจะผิดหรือถูกก็ให้เพื่อนๆหลายๆคนช่วยกันพิจารณา และช่วยตอบ ดังที่กล่าวมาข้างต้นค่ะ


ไม่เป็นไรนะคะ ไม่รู้ก็ถามมาค่ะ ดีเสียอีกผู้ที่รู้จะได้มีโอกาสประศิตประสาทวิชาลงเน็ตกันบ้าง ซึ่งที่เราๆพิมพ์ๆเขียนๆนี้ก็จะแสดงขึ้นมาเมื่อหลายๆคนต้องการรู้ ทั้ง ประเด็น ของ คำถาม และ ตอบ ไม่ต้องกลัวที่จะถามนะคะ แต่บางครั้งคำถามหลายๆอย่างอาจจะไม่มีคำตอบเพราะมันเป็นเช่นนั้นและต้องเป็นเช่่นนั้น นั้นก็อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่นคุณความเห็นที่ 4 อธิบายมานั้นก็เกิดขึ้นได้เช่นกันค่ะ

เจอกันใหม่ในกระทู้หน้านะคะ ^____^

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม