Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เพิ่งเข้ามหา'ลัยได้แค่ 3 อาทิตย์ แต่รู้สึกว่าโง่กว่าเพื่อนมาก ไม่ชอบเลย :((

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราเป็นเด็กสายวิทย์ที่เข้ามาเรียนในคณะสายศิลป์ เข้ามาแค่ไม่กี่วันก็รู้สึกโง่มากๆ :((( จากตอนแรกเป็นเด็กอันดับต้นๆ ของห้อง ไม่ว่าจะทำอะไร ไม่เป็นที่โหล่แน่นอน ถึงจะไม่อ่านหนังสือมาสอบ ก้ยังได้คะแนนที่ถือว่าดีสำหรับคนที่ไม่อ่านหนังสือ บางครั้งยังได้ดีกว่าคนที่ตั้งใจอ่านซะอีก แต่พอเข้ามหา'ลัย เรารู้สึกว่าเราเป็นฐาน เป็นฐานที่ให้คนอื่นเหยียบขึ้นไปเพื่อให้เค้าอยู่สูงกว่าเรา เรามีเพื่อนคนนึงมาจากห้องเดียวกัน แล้วได้มาอยู่คณะเดียวกันอีก ตอนอยู่รร คะแนนเราดีกว่ามาก แต่พอเริ่มเรียนเรื่องใหม่ๆ พร้อมกัน เราก้เข้าใจนะ แต่ว่าเพื่อนเข้าใจได้ดีกว่าเรา พอทำแบบฝึกหัด เราก้งงตรงนู้นติดตรงนี้ ในขณะที่เพื่อนทำได้ถูก และเร็วกว่า เพื่อนคนอื่นๆ ในคณะก้เหมือนกัน
เราก้เลยเกิดท้อใจขึ้นมา จากปกติที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ตัวเองไม่ฉลาด เพราะตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะเพื่อนจะผู้ใหญ่ไม่ว่าใครก้ตามที่ได้รู้ชื่อร.ร. รู้เกรดเราก้จะชมว่าเราเก่งทั้งนั้น ตอนสอบนี่เพื่อนจะมาขอให้เราเเง้มกระดาษคำตอบให้ดูตลอด เวลาไปเรียนพิเศษเราก้จะเรียนรู้เร็ว ทำข้อสอบได้ดีกว่าเด็กคนอื่น บางทีทำไวจนครูยังพูดว่า 'อ้าว เสร็จแล้วหรอ เร็วจัง' เราจึงมั่นใจในตัวเองมากๆ
แต่พอมาตอนนี้เรารู้สึกว่าตัวเองโง่ โง่มาก ทุกคนเริ่มเรียนเรื่องใหม่พร้อมกัน แต่ทำไมเราไปช้ากว่าคนอื่น ทำไมเราทำไม่ได้ ทำไมเรื่องแค่นี้เรายังไม่เข้าใจ ทำไมคนอื่นเค้าเก่ง เค้าฉลาดกว่าเราทั้งนั้นเลย ทั้งๆที่เราพัฒนาตัวเองขึ้นมาก จากคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ จากคนที่ชอบลอกการบ้านเพื่อนตอนเช้า เราก้พยายามทบทวนบทเรียนให้มากขึ้น อดหลับอดนอนเพื่อทำการบ้าน แต่ทำไมผลที่ได้มันแย่กว่าคนอื่นแบบนี้ T^T
เราเศร้าอะ T_T อยากระบาย แต่ไม่อยากบอกที่บ้านเลยมาระบายในนี้แทน คนอื่นที่เพิ่งเข้ามหา'ลัยเป็นแบบเรามั่งมั๊ยอะ หรือว่าเราดันฟลุ๊คติดเข้าคณะที่มีแต่คนโหดๆ กันนะ =_=^^^ จากนี้ไปเราคงต้องขยันให้มากขึ้นสินะ ฉันจะไม่ยอมเป็นฐานให้คนอื่นหรอก ฉันต้องอยู่บนยอดเฟร้ย ฮึ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!! เซ็งงงงงงง ไปละ จุ๊ฟฟฟฟฟฟฟ โกรธแล้วนะ

แสดงความคิดเห็น

>

73 ความคิดเห็น

ตดชบ 5 ก.ย. 57 เวลา 12:58 น. 1

ยังเรียนไม่ถูกวิธีน่ะ จะเรียนแบบมัธยมไม่ได้แล้วนะ อยากเก่งใช่ไหม อยากเกรดเจ๋งใช่ไหม รีบหาข้อสอบเก่ามานั่งทำ แล้วเปิดหนังสือดูว่าอยู่เนื้อหาตรงไหน

0
[ PaY ~ เป้ ] Columnist 5 ก.ย. 57 เวลา 16:01 น. 2

ถ้ารู้สึกว่าคนอื่นเก่งกว่า ก็เข้ากลุ่มกับเค้าเลยค่ะ เกาะกลุ่มไว้ เราจะรู้ว่าคนไหนเก่งแล้วใจดี ไม่หวงวิชา(บางคนหวงวิชา กั๊ก) ให้เค้าติวให้ อยู่กับคนเก่งที่อยู่แล้วสบายใจ เราก็จะสบายใจ ได้เพื่อน และได้วิชาด้วยค่ะ

0
Shalnark Diabolus 5 ก.ย. 57 เวลา 18:50 น. 3

ยึดติดไปนะ มหาลัยไม่เหมือนมัธยมนะครับ ต้องได้เกรดดีกว่าคนอื่น ต้องเก่งกว่าคนอื่น ต้องเอาชนะคนอื่น ถามจริง...มีใจรักในสายวิชาที่เรียนรึป่าวครับ?

0
taniiji 5 ก.ย. 57 เวลา 20:05 น. 5

เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เลิกมองเรื่องเกรดเถอะ เหนือฟ้ายังมีฟ้า ตอนอยู่โรงเรียนคุณอาจจะเกรดดี แต่พอมาเรียนมหาวิทยาลัยแล้วคนที่เก่งๆกว่าคุณมีอีกเยอะ // อย่าไปแข่งกับคนอื่นให้แข่งกับตัวเอง มีแค่เราเท่านั้นแหละที่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้ถึงเป้าหมาย  สู้ๆๆๆๆ^^

0
พี่เจ็บมาเยอะ 5 ก.ย. 57 เวลา 20:06 น. 6

อย่าไปยึดติดครับ - -" ตอนแรกพี่เข้าเรียนมหาลัยก็ติด 1ใน 10ของแซ็คที่เรียนสอบเข้าก็ได้ที่ 3 (ของสาขา) ตอนนี้เหรอ? เหอๆ ไร้สาระไปวันๆจนเทียบกับคนที่อ่อนกว่าไม่ได้แล้วครับ

ที่จะสื่อก็คือน้องไม่ต้องเครียด ยิ่งน้องรู้ตัวว่าต้องอัพตัวเองน้องจะยิ่งเก่งวิธีเรียนมันมีหลายวิธี ค่อยๆหาไป เดี๋ยวจะขึ้นมาเทียบหรือแซงพวกที่เก่งๆเองแหละครับ

แต่ห้ามขี้เกียจไปวันๆเด็ดขาดไม่งั้นจะตกมาอยู่ที่โหล่แบบคนแถวนี้บางคนเยี่ยม

0
Jessicalikah 5 ก.ย. 57 เวลา 20:07 น. 7

แนะนำให้ยึดกับสิ่งที่เป็นปัจจุบัน สิ่งที่เราทำได้ดีเมื่อครั้งอดีตอย่าไปยึดติดมาก จะเป็นการหลงตัวเองเสียเปล่าๆ ชีวิตมันเป็นการเรียนรู้อยู่ทุกวัน ให้ถามใจตัวเองว่าชอบหรือเปล่า หมายถึงในวิชาเรียน ไม่ใช่คะแนน ไม่มีอะไรเกินความพยายาม 'เรามาเรียนเพื่อให้มีความรู้' หมายความว่าตอนนี้เราไม่รู้เราถึงเรียน พยายามต่อไป คนอื่น เพื่อนๆทำได้ น้องก็ต้องทำได้นะคะ สิ่งที่เป็นปัจจุบันตอนนี้ ขอให้พัฒนามันไปเรื่อยๆค่ะ

0
xxxxxxxxxxxx 5 ก.ย. 57 เวลา 20:10 น. 8

ผมว่าอย่าไปซีเรียสเรื่องเกรด หรือว่าใครฉลาดกว่าใครเลยครับ
จบจากมหาลัยไปเกรดมีส่วนน้อยกว่าตอนจบมัธยมครับ
(ยกตัวอย่างให้ครับ สมมุติเราเลือกลงวิชาง่ายๆ เกรดเราออกมาสวย แต่วิชาที่ลงไม่ได้คล้องกับที่เราอยากนำไปใช้เลย พอจบออกมาเราก็มีเกรดที่สวยหรู แต่พอไปทำงาน ทำไม่เป็น กลายเป็นคนความรู้เฉพาะด้านน้อยมาก กับอีกคนที่เกรดจบมาไม่สวย แต่ได้ความรู้จากที่เราอยากเรียนเต็มที่ วิชาที่อยากเรียนยากขนาดไหนก็ขวนขวายเรียนให้จบ ได้ความรู้มา จบออกไปถึงแม้เกรดจะไม่สวยแต่พอทำงาน เราได้นำความรู้นั้นมาใช้ได้เต็มที่ แถมทำงานเก่ง งานดีได้เลื่อนขั้น อนาคตไกลแน่นอนครับ)
เรียนในมหาลัยจำไว้ครับ แข่งกับตัวเอง

0
mungkornlub 5 ก.ย. 57 เวลา 20:12 น. 9
อาจเป็นเพราะความเคยชิน ตอนสมัยมัธยม คือเราเรียนพิเศษมาบ้างแล้ว พอถึงในคาบเราก็จะไม่ค่อยฟังครู เพราะคิดว่าเราเก่งแล้ว แถมผลสอบออกมาเราก็ได้คะแนนสูงด้วย เป็นเพราะว่าเราเรียนพิเศษไงล่ะ ซึ่งเป็นการเรียนที่ผิดวิธีค่ะ

พอมาเรียนมหาลัย ทุกคนเริ่มต้นพร้อมกัน ไม่มีใครเรียนมาก่อน เราเคยชินกับการไม่ฟังครูสอน  ก็เลยอาจจะเรียนไม่รู้เรื่อง

อันนี้เราต้องปรับปรุงนะคะ ด้วยการตั้งใจฟังครูเรียนในคาบ เปลี่ยนทัศนคติใหม่ในการฟัง เราว่าน่าจะดีขึ้นนะคะ จขกท. สู้ๆค่ะ
0
kookkkai 5 ก.ย. 57 เวลา 20:18 น. 10

ก่อนอื่นเธอต้องยอมรับความจริงก่อน ตอนที่เราเข้ามหาลัยใหม่ๆ เราสอบเข้าสายวิทย์-สุขภาพได้เพียงคนเดียวของ รร. ก็คือเราเป็นที่1ของ รร.นั่นแหละ ไม่มีใครเลยที่พูดว่าเราไม่เก่ง ทุกคนชื่นชม มั่นใจตัวเองเหมือนเธอ แต่พอ ปี1เทอม1จบลง เกรดที่ออกมาก็2.63 ช็อคค่าาาาาาา แต่หลังจากนั้นปลงได้ว่าเพราะเราเองที่มั่นใจเกินไป บางคำตอบที่คิดว่าถูก พอได้ไปถามเพื่อนดีๆแล้ว มันคือผิด เราอย่าไปนอยว่าเพื่อนเก่งกว่า การคบคนเก่งเป็นเรื่องดีแล้ว เค้าจะได้พาเราไปด้วย ไม่ได้หมายถึงเกาะไป แต่จับมือไปด้วยกันตะหาก พอคิดได้อย่างนั้น ปี1เทอม2 เกรดที่ออกมาคือดีขึ้นแบบสุด ซึ่งพอมันบอกกับเทอม1ก็ยังไม่พออยู่ เรายังเสียดายอยู่เลย เสียดายที่มั่นใจเกินตัว เสียดายที่หยิ่ง เสียดายที่ไม่คบเพื่อน T^T

0
Kiwi-wiwii 5 ก.ย. 57 เวลา 20:21 น. 11

คนตั้งกระทู้คืออะไร? เข้าใจว่าคุณกำลังเครียด แน่นอน คุณหวังอะไรกับมหาลัยให้ครูหรือระบบการสอนเหมือนเดิมเหรอคะ? เราค่อนข้างจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณเขียน(ค่อนข้างไม่ชอบใจด้วยซ้ำเพราะเหมือนคุณกำลังจะดูถูกคนอื่นๆด้วย) จากที่อ่านเหมือนคุณจะselfในระดับหนึ่ง บอกว่าต้องเป้นที่หนึ่ง ไม่ให้คนอื่นเหยียบ เราว่าคุณควรจะปรับมุมมองไม่งั้นคุณได้เก่งแต่แค่เกรดแต่จบออกมาทำอะไรไม่ได้ คือเราไม่ได้จะว่าคุณนะเพียงแค่ว่าจากสิ้งที่คุณเขียนมันบอกถึงตัวคุณได้ดีในระดับหนึ่ง เราแนะนำให้คุณปรับมุมมองไหม อย่าไปคิดว่าคุณจะต้องอยู่เหนือกว่าคนอื่นตลอดเวลา มันเป็นไปไม่ได้ คุณควรจะเรียนรู้จากจุดต่ำๆเช่นกันกับจุดสูงๆ ยอมรับว่าตัวเองโง่บ้างก็ไม่ตายนะค่ะ ลองอยู่ใต้คนอื่นเห็นเรียนรู้ จะได้เริ่มเปิดใจพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆแล้วทำให้ตัวเองฉลาดขึ้น

สุดท้ายยอมรับว่าเรามีอารมณ์ร้อนนิดส์หนึ่งตอนอ่านข้อความของคุณ อย่างไงก็ขอโทษที่ข้อความอาจจะดูเหมือนโจมตี แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากให้ลองพยายามดูค่ะ เราจะเอาใจช่วย ค่อยๆเรียนกันไปอย่ามอง(กด)เพื่อนว่าต่ำกว่าเราหรือเขาเก่งกว่าเรา มองเขาเป็นเพื่อนช่วยคิดช่วยเรียนแล้วenjoy with the uni life


ปล.ถ้าผิดพลาดประการได้ก็ขออภัยด้วยนะค่ะ สู้ๆเปลี่ยนความคิดพยายามตั้งใจเรียนมีเพื่อน(จริงๆ)เยอะๆเยี่ยม

0
monomini 5 ก.ย. 57 เวลา 20:24 น. 12

เราเรียน สายวิทย์มาแล้วมาเรียนคณะ บริหาร คือเริ่มใหม่หมดเลย แถมเรียนแบบ อินเตอร์ เข้ามาแรกๆ รู้สึกด้อยมาก เพราะทุกคนจบนอกมา หรือเรียน นานาชาติมา ตอนแรกก็เรียนไม่เข้าใจเลย เกรดตกไปมาก ร้องไห้ คิดว่าคงไม่เหมาะกับด้านนี้ คิดจะซิ่ว ตอนหลังพยายามอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียนในห้อง ได้เกรดดีขึ้น ตอนนี้เรากลายเป็นคนติวให้เพื่อนแล้วจ้า สู้สู้ พี่อยู่ปี 2 ล้ะ สู้สู้จ้า :)ตั้งใจ

0
.p sychx ❀ 5 ก.ย. 57 เวลา 20:32 น. 14
เหมือนกันเลยค่ะ เพื่อนๆเก่งกันทั้งนั้น แต่เป็นพวกห่วงความรู้ ไม่ยอมบอก พอถามก็จะเกี่ยงๆไม่อยากตอบ เราจึงต้องพึ่งตัวเองค่ะมหาลัยไม่มีใครช่วยใครต่างจากมัธยมมาก
สู้ๆค่ะ


0
ใใใใ 5 ก.ย. 57 เวลา 20:50 น. 15

อยากบอกว่าทุกคณะมันต้องเรียนรู้ใหม่หมดแหละครับ ต่อให้ ม.ปลายสายวิทย์-ตณิต ติดเข้ามหาลัยทางสายวิทยาศาสตร์ ยอมรับว่าปี1ยังพอกินบุญเก่าได้เพราะเรียนฟิ เคม แคล เหมือนมปลาย แต่พอปี 2 เข้าวิชาภาคมันก็ต้องเรียนรู้กันใหม่หมดครับวิชาในภาคมันคนละเลเวลเลย
ผมเห็นเพื่อนๆหลายคนเข้ามาปีหนึ่งหวังเกียรตินิยม เพราะคิดว่าเรียนเก่งมาตอน ม.ปลาย เข้ามาแป๊กครับ เรียนมหาลัยแนะนำให้ไปเป็นทีมพากันติวครับได้กันยกกลุ่ม ได้สังคม มีเพื่อนทำงานกลุ่ม บางคนผมเห็น 4 ปีแทบไม่มีสังคมกับคนอื่น เก่งจิงแต่อ่านคนเดียวเข้าสังคมกับคนอื่นไม่ค่อยได้ พอไปทำงานไม่รอดครับปรับตัวไม่เป็น

0
จากใจพี่ปี 4 5 ก.ย. 57 เวลา 21:08 น. 16

ชีวิตในระดับมหาวิทยาลัยจะแตกต่างจากชีวิตในระดับมัธยมเยอะครับ ในระดับมหาวิทยาลัยไม่มีรั้วมาคอยปิดไม่มีคะแนนมาเรียนจิตพิสัยคะแนนเก็บเยอะๆแบบมัธยมแล้วนะ สอบเพียวๆ บางมหาวิทยาลัยก็มีคะแนนเก็บ 10 ถึง 20 คะแนนเท่านั้น ฉะนั้น พี่อยากให้น้องทิ้งเกรดระดับมัธยมไปซะ ปล่อยวาง และ เดินไปข้างหน้าเรียนรู้และพัฒนาตัวเองในรั้วมหาวิทยาลัยแข่งกับตัวเองเปรียบเทียบกับตัวเอง อย่าไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ในมหาวิทยาลัยคนเรียนหลายพันคน บางคณะตัดเกรดรวมกันอิงกลุ่ม ฉะนั้น แน่นอนต้องมีคนที่เก่งและไม่เก่งปะปนกันไป คนเก่งก็จะได้ A คนที่ไม่ค่อยเก่งก็จะต้องเป็นฐานนั่นถูกต้องแล้ว วิธีที่จะทำให้เราเก่งและได้คะแนนดีขึ้นคือ คบเพื่อนที่เก่ง ไม่หวงวิชา และหมั่น การทบทวนข้อสอบเก่าบ่อยๆ เพราะคะแนนสอบเยอะจริงๆในระดับมหาวิทยาลัยเนี่ย ต้องทำใจ และ จะเรียนหนักและเจาะลึกขึ้นเรื่อยๆใน ปี 2 ปี3 และ ปี4 น้องยังต้องเจออะไรอีกมากมายนี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น อย่าไปเครียดพยายามสนุกกับสิ่งที่เราเรียนอะไรที่ไม่รู้แล้วมีโอกาสได้รู้ก็ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ๆ อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ไม่มีใครเขาเอาอาหารมายัดใส่ปากให้คุณเหมือนตอนมัธยมแล้ว คุณต้องหัดกินเองถ้ากินไม่ได้ก็อดตาย อาจารย์ไม่มีใครมาโอ๋ มาปลอบ เหมือนมัธยมหลอกนะ อาจารย์มหาลัย เขาสอนๆๆ สอนเสร็จปล่อย นัดสอบนู้นนี่นั่น ตกคือตกเลย เขาจะไม่มาเทคแคร์เอาใจเหมือนมัธยม ยิ้มฟันขาว

0
**ซาตานกับกาแฟ** 5 ก.ย. 57 เวลา 21:14 น. 18

รู้สึกเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่างานเราห่วยมาก
ทำงานดีไซน์ออกมา ทำทั้งวันทั้งคืนอดหลับอดนอน
พอเอางานไปส่งเท่านั้นแหละค่ะ
โดนจวกเละเป็นขรี้เลยทีเดียวเชียว
ไหนจะวิชาอังกฤษที่ได้ไข่ต้มมากินเพียวๆ
ท้อแท้.....กลับหอเฟลไปสามวันค่ะ...ตอนนี้กำลังใจเริ่มกลับมา
ไม่อยากไปเจออาจารย์ดีไซน์อีกแล้ว...แค่เห็นหน้าก็จะร้องไห้แล้ว

0
JOMTU:P 5 ก.ย. 57 เวลา 21:17 น. 19

ต้องอยู่บนยอดไม่ยอมให้คนอื่นเหยียบ? คำคำนี้มันเหมือนกับความทะเยอทะยานของคุณมันมีมากจนคุณต้องกำจัดคนอื่นๆทิ้งหมด แบบนี้ต่อให้คุณเรียนเก่งแค่ไหนก็ไม่มีใครอยากได้คุณเป็นเพื่อนหรอกครับ

0
ยัยแป้ง 5 ก.ย. 57 เวลา 21:33 น. 20

จริงๆช่วงแรกๆเราก็เป็นนะคะ ทิฐิที่ว่าเรียนอะไรก็เข้าใจยังมีอยู่ แต่พอผลสอบออกมานี่เปลี่ยนเลยค่ะ ทิฐิที่ว่าต้องลบเลย พยายามคบเพื่อนที่เก่งดูแต่เหมือนจะไม่สำเร็จเพราะเทอมแรกเราหยิ่งไปแล้ว แต่ใช่ว่าเพื่อนที่คบปัจจุบันไม่เก่งนะคะ ก็เริ่มจากพอๆกันแล้วช่วยกันติว เราคณะนิติศาสตร์เลยมีอะไรให้ท่องเยอะ มีเพื่อนก็ช่วยกันหาเทคนิคจำ พอเทอมสองนี่เห็นผลเลยค่ะ ไม่ได้สุนัขกลับไปเลี้ยงเหมือนคราวก่อน ยิ่งขึ้นปีสองยิ่งเข้าสู่เนื้อหาจริง ท่อง ท่อง ท่องและเข้าใจ ท่องคนเดียวมันยากนะคะ หลายคนมาแชร์เทคนิคกันนี่ดูจะสบายขึ้นเยอะเลยค่ะ
         เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ

0
oueez 5 ก.ย. 57 เวลา 21:33 น. 21

ถ้ารู้ว่าตัวแย่ไม่ทันเพื่อนและอยากจะมีคะแนนสอบดี อนาคตดี ต้องสู้นะคะ สู้ๆๆๆ
สู้สู้

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

DarkHeroine 5 ก.ย. 57 เวลา 21:59 น. 25

ชีวิตมหาลัย แค่นั่งอ่านหนังสือไม่พอหรอกค่ะ ต้องทั้งทบทวน ทั้งอ่านล่วงหน้า ทำแบบฝึกหัด ต้องคบกับเพื่อนให้มากๆ ยิ่งเพื่อนคนไหนเก่งๆก็เข้าไปตีซี้เลย(แต่ถ้ามันหยิ่งก็เชิดใส่ซะ) เพื่อที่เขาจะติวเนื้อหาให้เราได้ อย่าอายที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อน และที่สำคัญมากๆถ้าเราเรียนไม่เข้าใจจริงๆ อย่ากลัวที่จะถามอาจารย์ค่ะ

0
Aoki Lapis 5 ก.ย. 57 เวลา 22:04 น. 26

แบบมัธยมมันเป็นเเบบที่ไม่อ่านหนังสือก็ได้คะเเนนน่ะ เพราะทำคะเเนนกับพวกท่าทางนิสัยจากตัว เเต่ไม่ได้เเบบเรียนจริงๆนะรู้สึก

0
guest 5 ก.ย. 57 เวลา 22:12 น. 27

เกิดกะผมเหมือนกัน ตอนประถมเรียนเก่ง มีแต่คนชม พอขึ้นมัธยมเริ่มเปนสิว แล้วติดแกะ เปนแผลเปน แล้วก้หมดความมั่นใจ แล้วก้เรียนไม่ได้เรื่องไปเฉยๆ จากที่เคยยุบนๆ แต่ลงมากลางๆ แต่พอมาเหนกระทู้นี้ มีคนที่เกิดอาการแบบเดียวกันด้วย เริ่มมีกะลังใจไปต่อ สู้ๆนะคับ พยายามมั่งๆเยี่ยม

0
yoli 6 ก.ย. 57 เวลา 00:34 น. 29

สู้ๆๆนะคะน้องแต่เรื่องของพี่เป็นอีกแบบ1นะคะคิดว่าตอนเรียนมอปลายพี่โดดเรียนประจำเลยหนังสือสอบไม่อ่านคะพอมาต่อมหาวิทยาลัยขยันแค่เทอมแรกและไม่ค่อยอ่านหนังสือเลยแต่ในสิ่งที่พี่ทำคือเข้าเรียนทุกคาบไม่ขาดนั่งตรงแถวหน้าตลอดเพราะจะได้เห็นชัดฟังชัดๆเวลาอ.แก่ใบ้แนวข้อสอบเราจะหาจุดได้เร็วมากเลยคะแนนสอบก็ผ่านทุกครั้งบางวิชาก็ออกมาท็อปของห้องเลยเพราะพี่ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือทุกหน้าแต่พี่อ่านตรงจุดสำคัญตามอ.สอนอะคะบางครั้งการที่เราเรียนในม.สิ่งเร้ามันเยอะมากทั้งเสียงรบกวนจากเพื่อน ร่วมปีที่เรียนทีละหลายร้อยคน เวลาที่เราเล่นโทรศัพท์อีกละเพราะชะนั้นนั่งแถวแรกฟัง อ.สอนแค่นั้นเองคะว้าว

0
อภิรักษ์ 6 ก.ย. 57 เวลา 03:10 น. 30

ตอนพี่เรียน มัธยม เกรด 3.94 มานี่ 2 กว่าๆ 55 // พี่แนะนำว่า น้องไม่ได้โง่หรอก น้องแค่ยังปรับตัวไม่ทัน ก้ออย่างที่มีคนบอก มหาลัยไม่เหมือน มัธยม อย่าไปยึดติดว่าจะทไได้ไม่ได้มากครับน้องมาแรกๆ พี่ปรับตัวไม่ทันทำไรไม่ได้ แต่พี่หันไปหาเพื่อนครับ แล้วนั่งเรียนกับเพื่อน ุยกันแลกเปรี่ยนความคิดกับเพื่อน อีกเทอมเกรดพี่ดีขึ้นครับ 3+ สู้ๆ (การเรียนไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด)

0
Rest 6 ก.ย. 57 เวลา 07:28 น. 32

รู้้สึกแบบนี้เหมือนกันค่ะตอนนี้ตอนม.ปลายเรียนสายวิทย์-คณิต พอเข้ามหาลัยมาเรียนด้านภาษารู้สึกตามไม่ทันเพื่อน....แอบเสียใจนิดๆน่ะค่ะทำไงได้ก็ต้องพยายามตั้งใจต่อไปค่ะ.....สู้ๆน่ะค่ะ

0
i am me 6 ก.ย. 57 เวลา 08:22 น. 33

อย่าไปแข่งขันกับคนอื่นค่ะ ถ้าจะแข่งต้องแข่งกับตัวเอง มหาลัยก็แบบนี้แหละค่ ไม่ง่ายเหมือนมัธยม.. พี่ไม่ชอบทัศนคติที่น้องคิดว่าตัวเองโง่นัะ ถ้ารู้ว่าทำไม่ได้ก็ต้องพยายาม อ่านหนังสือเตรียมตัวก่อนไปเรียน ลองทำแบบฝึกหัดก่อนไปเรียน ลองดูบทเรียนว่ามันเกี่ยวกับอะไร ถ้าไม่เข้าใจก็หาในเนฺ็ทเอา แล้วอ่กอย่าง อย่าพยายามเหยีบหัวคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูสุงขึ้นนะคะ

0
อิอิ 6 ก.ย. 57 เวลา 08:30 น. 34

ใช่แล้วๆๆ ต้องอยู่บนยอดเท่านั้น!! สู้ๆนะ เป้าหมายคือการเป็นแต่หนึ่ง แต่บางครั้งก็จงเรียนรู้การเป็นที่โหล่ไว้บ้างก็ดี "ไม่มีผู้ชนะที่ไม่เคยแพ้" (วันนี้รู้สึกหล่อจริงๆ)พูดไม่ออก

0
PuffMagicDragon 6 ก.ย. 57 เวลา 08:45 น. 35

เรียนมหาวิทยาลัยไม่ต้องคิดเรื่องเกรดมาก เกรดน้อยเเล้วค่ะ จริงอยู่ว่าคะเเนนก็สำคัญ เเต่สำหรับเราที่เรียนสายศิลป์มา จนถึงทำงาน ขอบอกเลยว่าสายนี้เน้นประสบการณ์เเละการลงมือทำมากกว่า วิชาการเอามาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้ จริงอยู่ว่าเกรดจะเป็นประตูให้ได้งานดี เเต่ถ้าลงมือทำจริงๆเเล้วไม่ได้อย่างที่เขาหวัง โดนว่าจบมาดีเเต่เกรดเเน่ค่ะ

อาจออกนอกเรื่องไปไกล จะบอกว่ามหาลัยต้องช่วยกันเรียนค่ะ ไม่มีใครเก่งไปคนเดียวโดดๆได้หรอก ต้องช่วยกันเรียนค่ะ ใครเก่งเรื่องอะไรก็ช่วยกันติวเรื่องนั้น อย่าไปคิดว่าต้องแข่งกัน เราทำอย่างนี้ตอนเรียน ซึ่งตอนเเรกเพื่อนในเอกมาจาก ตจว.กัน คะเเนนห่างกันคนละทิศละทางค่ะ เเล้วเราก็มาคุยกัน ใครเก่งภาษา เก่งตรรกะ ก็เปลี่ยนกันติว จบสี่ปี เเต่ละเทอมคะเเนนกลุ่มเราไม่ต่างกันมากเลยค่ะ 2.9 อัพ คนสูงสุด 3.6 เกียรตินิยมของกลุ่ม 2 คน สี่ปีนี้เรียนรู้ให้คุ้มค่ะ สู้ๆๆ

0
Barba 6 ก.ย. 57 เวลา 08:54 น. 36

เราก็เป็นค่ะ ตอนเรียนมัธยม ทำอะไรก็ได้ที่ 1 ตลอด เวลาจะสอบหรือทำอะไรเพื่อนก็จะถามตลอด แต่พอเข้ามหาลัยรู้สึกว่าตัวเองดูอ่อนไปเลย อาจจะเป็นเพราะคณะที่เราเลือกนั้น เราอาจไม่ถนัดก็ได้นะ แต่เราก็ไม่ทันเพื่อนแค่ตอนช่วงแรกๆ นะ พออยู่ ปี 2 ปี 3 แล้วตอนนี้เวลามีงานอะไรเพื่อนก็จะมาถามเราตลอดเหมือนเดิมละ อิอิ สู้ๆนะ

0
minkeydolphinus 6 ก.ย. 57 เวลา 09:25 น. 37

สู้ๆนะน้อง ตอนที่พี่เข้ามหาลัยตอนแรกคิดว่าสายที่เลือกนี่โอเคกับตัวเองแล้วมั่นใจว่าวิชานี้คงจะทำให้เกรดดี  แต่เอาเข้าจริงวิชาที่เราคิดว่าถนัดพอเรียนมหาลัยมันก็เหมือนกับเริ่มใหม่ทั้งหมด  ที่เรียนมาช่วงก่อนๆ แทบล้างสมองกันเลยทีเดียว  น้องลองเปิดใจกว้างๆนะ  พี่ว่าอย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับใครเลย  แล้วก็ไม่ต้องเอาความสามารถคนอื่นมาเป็นบรรทัดวัดตัวเราด้วย  เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ลองแข่งกับตัวเองดีกว่านะ  น้องจะได้มีความสุขกับชีวิตมหาลัย  เรียนไปเรื่อยๆเอาที่สบายใจ  ไม่ต้องคิดว่าเราต้องเป็นที่หนึ่งเสมอลองตามคนบ้าง  ลองเป็นผู้รับจากคนอื่นบ้าง  แล้วน้องจะไม่เครียดนะ  ^^

ปล. เพราะพี่เคยเป็นแบบนี้  พี่เข้าใจดีนะ  โลกมหาลัยมันกว้างลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆดูนะ  ไม่มีอะไรเกินความสามารถของคนหรอก

0
ใหม่ปริญ 6 ก.ย. 57 เวลา 09:26 น. 38

ผมก็เป็นนะ เเต่ผมยึดหลักคำพูดที่ว่า "เมื่อใดที่เราว่าเราเก่งเราฉลาด เมื้อนั้นเเหละเราจะโงขึ้นมาทันที" คิดเอาเองนะครับไม่เเปลให้

0
น.ส.น.(PBW) 6 ก.ย. 57 เวลา 09:49 น. 39

ถ้ามีความทะเยอทะยานอยากอยู่บนยอดก็ดีแล้ว พยายามต่อไปเถอะ ใครตั้งใจแบบนี้จริงควรชื่นชม สมัยนี้มีแต่พวก "สอบตก อ๊ะ ไม่เป็นไร ช่างมัน" แล้วมาอ้างว่า "ไม่ยึดติดกับคะแนน" เต็มไปหมด ไม่ยึดติดกับคะแนนห่_ไร พวกแกแค่ขี้เกียจตั้งใจตะหาก จขกท.คิดอยากจะดันตัวเองขึ้นไปก็ดีแล้ว
แต่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ก็มากับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง(-Spiderแมง?) พอถึงมหา'ลัยในคณะจะมีแต่พวกที่เก่งวิชานั้นเต็มไปหมด ไม่เหมือนตอนอยู่มัธยม วิชาที่ตัวเองเก่งจะมีคนอื่นที่ไม่เก่งไว้ใช้ปลอบใจมากมาย แต่เข้ามหา'ลัยแล้วทุกคนจะเข้าได้เฉพาะคณะที่ตัวเองคะแนนดีทั้งนั้น หมายความว่าทุกคนเก่งวิชานั้นนั่นเอง แล้วคนที่ถนัดสายศิลป์มาเข้าคณะสายศิลป์เขาก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกับจขกท.นะ "ฉันตั้งใจจะเข้าคณะนี้มาทั้งชีวิต -พวกสายวิทย์หัวดีเรียนเก่งจะเก่งมาจากไหน ก็ไม่ยอมยกยอดเขาให้หรอกโว้ย! -ห่_เอ๊ย!(สบถไม่มีความหมาย)" พวกที่คิดแบบนี้มีถมไป
เอาตัวรอดดีกว่า สมัยนี้เกรดเริ่มด้อยความสำคัญลงเรื่อยๆ แล้ว หลายที่ทำงานเขาทดสอบความสามารถผู้สมัคร เกรดน่ะเขาก็ดู แต่ดูแค่ F มีกี่ตัว มีตรงไหนบ้าง แค่นั้น เกรดเฉลี่ยเขาดูพอผ่านๆ เห็น A เยอะๆ แล้วไง เกิดคนสัมภาษณ์เป็นคนที่ได้แต่ CCCCC แล้วไต่เต้ามาได้ เขายิ่งมีอคติกับพวกเกรดดีอีก(เคยคิดแบบนี้กันบ้างไหม ว่าเกรดดีจะทำให้ตกงาน?) เรียนมหา'ลัยแค่ 4 ปี เดินเตะฝุ่นหางานไม่เกิน 2 ปี แต่ต้องทำงานนั้นเป็นสิบยี่สิบปี เอาเนื้อหาเถอะเกรดช่างบรรพบุรุษมัน

0
พี่ปีสูงๆ 6 ก.ย. 57 เวลา 09:59 น. 40

เลิกมองเรื่อง ชื่อ โรงเรียนเก่า กับเกรด แล้วก็สายที่เรียนมาเถอะ
พวกนั้นมันบอกแค่ว่า พื้นฐานคุณเป็นยังไง

เราจะยกตัวอย่างเราให้ฟัง
เพื่อนเราคนนึงในสาขาเรียนจบโรงเรียนที่ติด1-10ของโรงเรียนที่ดีที่สุด
จบสายวิทย์ เกรดเฉลี่ย 3.5
เราจบโรงเรียนที่ไม่ติด1-100ด้วยซ้ำ จบสายศิลป์คำนวณ เกรด3.3

พอมาเรียนมหาลัย อยู่สาขาเดียวกัน ตอนแรกเพื่อนก็คนใจคนที่ดูเหมือนจะเก่งคนนั้น สุดท้าย พอเกรดออก เราได้ 3กว่าๆ เพื่อนได้แค่2 คนก็เลิกสนใจมันเลย

เราจะบอกว่า ไอพวกชื่อ ร.ร. สายที่เรียนมา รวมถึงเกรดตอนเด็ก มันไม่ช่งยอะไรคุณหรอก ถ้าคุณมาเรียนมหาวิทยาลัยแล้วยังทนงตัว ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับมัน ถ้าไม่ทบทวน คุณจะไม่มีวันได้ดีๆ

0
ohoaha 6 ก.ย. 57 เวลา 11:09 น. 42
เข้ามหาวิทยาลัยมันคือครึ่งหนึ่งของชีวิตจริงแล้วนะคะ ไม่มีใครมาคอยช่วยคุณได้ นอกจากคุณจะพยายามไขว้คว้ามันด้วยตัวเอง เกรดไม่มีผลกับชีวิตในมหาวิทยาลัย แต่มันก็มีผลตอนสมัครงานอยู่บางส่วน
ถ้าถามว่าคุณจำเป็นต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆไหม ไม่ควรอย่างยิ่ง มันจะทำให้คุณไม่กล้าที่จะขอความช่วยเหลือใครๆ หรือเข้ากลุ่มกับคนที่ช่วยเหลือคุณได้
ลองปรับทัศนคติเรื่องนี้นะคะ คุณจะค้นพบเพื่อนดีๆที่ช่วยเหลือคนอีกมากเลยล่ะ
สำหรับน้องๆที่เรียนมหาวิทยาลัย อย่างที่บอกนี่แค่ครึ่งหนึ่งของชีวิตจริง ในโลกของการทำงาน คุณก็ต้องโดนตัดเกรดเหมือนเดิม (ที่เขาเรียกกันว่า KPI นั่นล่ะ) มันจะมีผลต่อหน้าที่การงาน และเงินเดือน แต่สิ่งที่เหนื่อยกว่านั้นคือ จะไม่มีใครมาคอยอุ้มชูช่วยเหลือคุณแล้ว ไม่มีเวลาแก้ตัวใดๆ นอกจากเอาตัวรอดในสายงานที่คุณทำให้ได้
สู้ๆนะคะ
0
Akanat Luangsurong 6 ก.ย. 57 เวลา 11:10 น. 43

ลองปรับความคิดดูคับ
นกใหญ่ในกรงเล็กไม่สามารถโตได้อย่างเต็มที่

การที่เรามาอยู่ในสังคมที่มีคนเก่งเยอะๆมันเปิดโอกาสให้เราพัฒนาตัวเองคับ
นอกจากจะได้เรียนรู้ถึงศักยภาพของตัวเองว่าต้องพัฒนาอะไรอีกขนาดไหนไปได้ไกลอีกแค่ไหนยังได้เรียนรู้จากเพื่อนๆที่เก่งๆด้วยคับ

เค้าเก่งปล่อยเค้าเก่งอย่าไปอิจฉา เรียนรู้จากเค้าดีกว่าคับ

0
ครุคริ จิบุ จุบิ 6 ก.ย. 57 เวลา 12:23 น. 44

จะบอกว่า เรียนสายวิทย์มา จะคิดว่าตัวเองเก่งแบบสายศิลป์ไม่ได้ เพราะวิชาสายศิลป์ ใช้ความเข้าใจ วิเคราะห์ให้เป็น ไม่เน้นจำนะ เน้นเข้าใจ และประยุกต์ใช้นะ ลองเข้าใจตัวเองก่อนนะ การอ่านหนังสือดึกไม่ช่วยอะไร อ่านให้เข้าใจดีกว่า เนอะ

0
G opening 6 ก.ย. 57 เวลา 12:50 น. 45

ที่หนึ่งแล้ว? แค่พยายามให้ดีที่สุดก็พอ ไม่ต้องเป็นที่หนึ่งหรอก กดดันตัวเองเพื่อ?

0
ChanChow 6 ก.ย. 57 เวลา 13:53 น. 46

นี่แหละค่ะที่เรียกว่า การปรับตัวในมหาวิทยาลัย :)) แต่ละคนต้องลองปรับดูนะคะ จูนติดเมื่อไหร่ก็มันส์เลยค่ะ 555 เราเรียนกายภาพฯ วันนึงไปลองลงเรียนวัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศสดู มันมากเลยนอกจากได้เพื่อนใหม่ได้ภาษาเจออ.ต่างชาติ สนุกมากๆๆเลย เรียนตอนแรกก็ไม่ทันใครเค้าเลยค่ะ เรียนเป็นภาษาอังกฤษ(สำเนียงอ.ฝรั่งเศส) ตอนแรกๆเรียนไม่รู้เรื่อง อ.เค้าเหมือนรู้ก็เรียกถามๆ อึดอัดอับอายปนๆกันไป หลังๆเราอ่านหนังสือ ย้ายที่นั่งไปนั่งกลางๆเข้าเรียนทุกครั้ง พยายามตอบคำถามอ. สุดท้ายอ.ก็ให้Aเรานะ :)) แถมพาไปเลี้ยงอ.ฝรั่งเศสไปกันทั้งคลาสเลย พวกเราไม่โง่หรอกแค่ไม่ถนัด 555 โอเคป่ะ สู้ๆนะ 

0
TheSpace 6 ก.ย. 57 เวลา 14:18 น. 47

พยายามให้ดีที่สุด อย่าไปเทียบตัวเองกับคนอื่นซิครับ จบมาก็แยกย้ายกันไปทำงานแล้ว ก็ต้องแข่งกับตัวเองแล้วครับ ถึงเราชนะคนอื่นเราก็ไม่ได้อะไร อย่าไปสนว่าคนอื่นจะเก่งยังไงซิครับ 

0
23758 6 ก.ย. 57 เวลา 14:39 น. 48

อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น ไม่มีใครดีกว่าใคร และก็ไม่มีใครด้อยกว่าใคร เอาจริงๆเราก้เคยเรียนได้อันดับดีๆในตอนม.ปลาย แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยมาเรากลับเป็นฐานให้คนอื่น ถึงจะมีท้อ มีเหนื่อยบ้างว่าทำไมเรียนไม่ได้เท่าเค้า แต่กลับมาคิดใหม่แล้วว่า จะเอาตัวเองไปเทียบกับเค้าทำไม คิดแล้วก็เหนื่อยก้ท้อ ทำไมไม่มาแข่งกับตัวเองล่ะ ว่าที่ผ่านมาเราทำให้กับมันสุดๆแล้วหรือยัง ไงก้สู้ๆนะ ตอนนี้เราก็กำลังต่อสู้กับตัวเอง ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามหรอก

0
❥Zavear 6 ก.ย. 57 เวลา 16:28 น. 49
ทุกคนเริ่มพร้อมกัน
เรียนเหมือนกัน 
ครูเหมือนกัน 
อวัยวะครบเท่ากัน 
มีสมองเหมือนกัน 
มีความสามารถเหมือนกัน



0
kaikaikaiexo 6 ก.ย. 57 เวลา 16:37 น. 50


หนูอยู่ม.6 อ่ะตอนนี้เห้นกะทู้นี่แล้วทั้ง กดดัน ท้อแท้ ทั้งรู้สึกมีกำลังใจ เป็นคนเรียนอยู่ระดับกลางๆ อ่า ตกบ้าง ผ่านบ้าง แล้วนิสัยส่วนตัวแบบเป็นคนไม่ค่อยพูด พูดน้อย จะสนิทกับเพื่อนไม่ค่อยเยอะ เท่าไร แล้วเวลาเห็นเพื่อนคนอื่นไปไหนก็มีเพื่อนรู้จักเยอะแยะ เลย  รู้สึกว่าตัวเองควรจะเข้าสังคมกับเพื่อนบ้างก็แต่พูดกับคนอื่นบ้าง มันจะยากอะไร แต่เพื่อนที่สนิท กันกับเราก็เป็นคนคุยเก่งนะ  แล้วแบบเราเรียนไม่เก่งด้วยรึป่าว ไม่รู้??
แล้วไม่รู้สิ คิดว่าันมีผลต่อการเรียนใน มหาลัยมากอ่ะ เรียนก้องั้นๆๆ

0
นตทครับผม 6 ก.ย. 57 เวลา 18:31 น. 52

เกรด ไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จในอนาคตจ้า เราก็ทำให้ดีที่สุดของเรา
แต่ถ้าเก่งคณิตวิทย์มากๆนี่ น่าจะไปสอบเป็นนักเรียนเหล่านะ
พี่เห็นน้องๆเขาไปสอบกันเยอะ ได้ใส่ชุดเท่มากเลย อนาคตแน่นอนด้วย
ถ้าปัจจุบันทางที่น้องเลือกมันไม่ใช่ ก็ลองค้นหาตัวเองดีๆ
เพิ่งจะเปิดเทอม ตอนนี้ยังเปลี่ยนแปลงอะไรทันอยู่นะ
ถ้าปล่อยเวลาผ่านไป มันจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วจ้า
สู้ๆ

0
PURT 6 ก.ย. 57 เวลา 18:56 น. 53

คุณอยู่ในสังคมแคบๆมาตลอด พอมาเจอสังคมที่กว้างขึ้น ด้วยความที่คุณเก่งในสังคมแคบๆจนอาจจะเรียกได้ว่าเหลิง ทำให้คุณรับไม่ได้เมื่อเจอคนที่เก่งกว่าแล้วคุณก็อยู่ต่ำกว่าเขา

ตอนที่คุณกำลังเทียบตัวเองกับคนอื่น แล้วคิดว่าชั้นจะต้องดีกว่า นั่นคือคุณกำลังอิจฉา

เราว่าคุณเริ่มนับ 0 ใหม่เถอะ เอาตัวเองเป็นหลัก ไม่ต้องไปเทียบกับใคร ทำให้ดีที่สุด ถ้ายังไม่ได้ก็เอาใหม่ เครียดไปแล้วมีอะไรดีขึ้น นอกจะตีนกา สุขภาพแย่ อ่านหนังสือเครียดๆไม่เข้าหัว บลาๆ

ให้กำลังใจตัวเอง ยังมีคนที่เรียนไม่เข้าหัวมากกว่าคุณเยอะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่ได้เรื่องและอย่าคิดว่าตัวเองเทพเกิน

การเรียนรู้ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียน ออกไปเดินดูข้างนอกบ้างก็ดี เรียนรู้สิ่งรอบๆตัว แล้วเอามาประยุกต์กับสิ่งที่เรียนดู

เวลาว่างๆก็ไปเที่ยวผ่อนคลายบ้าง อ่านหนังสือธรรมะก็ดีนะ :)

0
zatanman 6 ก.ย. 57 เวลา 22:08 น. 54

ประถม กับ มัธยม เรียนต่างกันลิบลับครับ

ประถม ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
แต่มัธยม โจทย์จะมีความซับซ้อนมาก

มีเยอะมากครับ ที่ประถมเก่ง มัธยมไม่เก่ง

ยกตัวอย่าง ถ้าวัด IQ เต็ม 10
ประถม คนที่มี IQ ระดับ 4-10 จะถือว่าเก่งเท่ากัน ทำข้อสอบได้เท่ากัน เพราะยังไม่ซับซ้อน
มัธยม คนที่มี IQ ระดับ 7-10 จะถือว่าเก่ง ดังนั้นจะมีคนเก่งระดับประถมที่ IQ 4-6 จะกลายเป็นไม่เก่ง ในระดับมัธยม เป็นต้น

0
ข้าวปั้น 6 ก.ย. 57 เวลา 23:28 น. 56
เยี่ยม lสู้ๆน้าา แล้วก็อย่าคิดว่าแข่งกับคนอื่น แข่งกับตัวเองดีกว่าา
ถ้าไม่เข้าใจก็ถามเพื่อนก็ได้น่ะ ยิ่งมหาลัย ยิ่งช่วยเหลือกัน ก้ยิ่งสนิทกันด้วย ได้เพื่อนด้วยน่ะ สู้ๆน้าา เยี่ยม
0
จิ้งจก 7 ก.ย. 57 เวลา 08:47 น. 57

คือน้องคะ พี่ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยเป็นแบบนั้น ตอนมัธยมติด 1 ใน 3 ของชั้น เกรดเฉลี่ยสวยหรู แต่พี่เข้ามาในสาขาด้วยคะแนนที่ตำ่สุดของบัณฑิตแนะแนว เพื่อนในกลุ่มพี่เก่งกันหมด พี่เป็นคนเดียวที่ตกมีนตลอด แต่ว่าทุกคนก็ช่วยพี่นะ พี่เป็นคนเดียวที่มี D มาเยือนตั้งแต่ปีแรกเลย (ดีนะที่ไม่F) แต่พอเริ่มปรับตัวได้ เริ่มชินกับการสอบ ก็เริ่มสนุกนะ พี่ก็แข่งกับตัวเองมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้เกียรตินิยม มาแบบงงๆ สุดท้ายแล้วพี่เชื่อว่าถ้าน้องมีความสามารถติดเข้ามาได้แล้ว ยังไงน้องก็ต้องเรียนได้แน่นอน เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้!!!!!!!!
เยี่ยม

0
athyna 7 ก.ย. 57 เวลา 11:36 น. 58

เวลาเลือกคณะ เลือกที่ตัวเองชอบ รึเลือกที่ตัวเองถนัด?
ถ้าเลือกที่ถนัด ทำยังไงก็เข้าใจ จะพลิกถามยังไง ทำงานไหนส่งก็ดี
ถ้าเลือกที่ชอบ แต่ทำได้ไม่ดี ต้องหาแล้วล่ะว่าวิธีเรียนรู้แบบไหนที่จะทำให้เราเข้าใจ-ทำได้เท่าเพื่อน วิธีเรียนเหมือนเพื่อนคงไม่พอ

เพื่อนในคณะส่วนมากที่เก็ตไว ตอนเรียนมัธยมเขาใช้เวลากับการคิดในสายนี้มาตลอดรึเปล่า เข้าใจระบบวิธีการคิดมาแล้วอะไรแบบนี้

เรียนมหาวิทยาลัย ความเข้าใจในตัววิชานี้แล้วมองภาพออกว่าหลังจากจบไปแล้ว จะใช้สิ่งนี้ในการทำงานยังไง ต้องจินตนาการออกว่าเราต้องใช้มัน

ถ้าคิดภาพไม่ออกมันคือการเรียนไปวันๆ
มหาวิทยาลัยควรเป็นการเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้ และอยากทำงาน ถ้าไม่สนุกกับมัน ย้ายไปเรียนสิ่งที่ตอนเรียนจะมีความภูมิใจว่าเป็นที่ 1 ส่วนตอนทำงานค่อยคิดหาอีกทีดีมั้ย

0
เหมียวพรุ้งพริ้ง 7 ก.ย. 57 เวลา 12:10 น. 59

ลองเปลี่ยนความคิดสิคะ อย่าคิดอย่างนั้น ไม่มีใครเค้าคิดว่าคุณเป็นฐารหรอก เข้าใจค่ะว่าเคลียด แต่ว่าถ้าคิดอีกมุมนึงคิอคุณโตขึ้นในอีกระดับเพราะฉนั้นก็ควรพยายามให้มากกว่านี้และก็ถ้าไม่เข้าใจก็ถามเพิ่อนสิคะ จ้ะได้สนิทกะเพื่อนไปในตัวด้วย

0
คิดว่า 7 ก.ย. 57 เวลา 14:42 น. 60

ผมคิดว่านะ เพราะตอนมัธยมพึ่งการเรียนพิเศษมากไปรึปล่าวครับ พอเข้ามหาลัย เรียนอย่างเดียวตามเพื่อนไม่ทัน

0