ห้องคิงแต่โง่ที่สุดกับห้องท้ายแต่เก่งที่สุดในห้องอันไหนดีกว่า??
ตั้งกระทู้ใหม่
ห้องคิงแต่โง่สุด
ห้องท้ายแต่เก่งสุด
อยู่ห้องคิงแต่โง่ที่สุดในห้อง
อยู่ห้องท้ายๆแต่ฉลาดที่สุดในห้อง
40 ความคิดเห็น
เราคิดว่า ห้องท้ายที่เก่งที่สุดนะ
เพราะ บุคคลคนนี้ จะมีประโยชน์ กับคนในห้องมากมากเลยนะ
เขาจะสามารถ ช่วยยื้อชีวิต เด็กน้อยผู้ตาดำดำ น่าสงสารสมองกลวงกลวง มี่ไม่รู้เรื่องเวลาครูสั่งงาน หรือเรื่องต่างต่างมากมายนะคะ
แต่คนที่อยู่ห้องคิง แต่โง่สุด เหมือนจะไม่มีประโยชน์ กับคนในห้องเลย ก็เก่งกันทั้งห้องอยู่แล้วนี่
เคยหลงมาอยู่ในห้องคิงอ่า มันทำให้เราขยันขึ้นตามเพื่อนๆนะ
จากที่เคยหลับๆในห้องก้ตั้งใจเรียนมากขึ้น
จนเราติดมหาลัยดีๆคณะที่พอใจอ่า
เราเคยเป็นเด็กเรียนหลังๆในห้องคิง แต่สังคมเพื่อนจะฉุดเราขึ้นมา ทำให้เราขยันขึ้น
เราส่งงานครบทุกชิ้น เพราะอะไร เพราะเพื่อนทุกคนส่งกันหมด
เราอ่านหนังสือหนัก เพราะอะไร เพราะเพื่อนทุกคนอ่านกันหมด
เราว่าต่อให้เราโง่ที่สุดในห้องคิง แต่สุดท้ายสังคมรอบข้างจะส่งผลให้เราเปลี่ยนแปลงไปโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งก็เป็นทฤษฎีเดียวกันกับที่เขาว่า 'คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล'
ปล.เราไม่ได้ว่าเด็กห้องท้ายไม่ดีเลย หรือเด็กห้องคิงดีเลิศนะ ทุกสังคมมันก็เหมือนกันล่ะ บางคนก็ดี แต่บางคนก็ไม่ดี แต่เราพูดในรูปของสังคมโดยรวม
เวลาเราอยู่ห้องท้ายจะรู้สึกเหมือนเฮ้ย เพื่อให้ห้องเราดูดีขึ้นเราต้องพยายามนะ เวลาประกาศที่หนึ่งได้เกรดเท่าไหร่คนอื่นจะได้ไม่ดูถูกห้องเรา (เรามโนไปเองนะว่าคนอื่นดูถูกอาจจะไม่มีก็ได้) แม้จะสู้ห้องต้นๆ ที่เรียนสายเดียวกันไม่ได้ก็ตาม แต่เราทำให้ดีที่สุดของเราก็โอเคแล้ว
เราว่าคนที่อยากจะพัฒนาตัวเองควรจะไปอยู่ห้องคิงค่ะ ถึงเราจะเป็นที่สุดท้าย แต่ความรู้ความเข้าใจที่อาจารย์ให้กับเราจะมากกว่าห้องอื่นค่ะ เพราะคิดว่าห้องนี้เป็นความหวังอะไรประมาณนี้ และที่สำคัญเพื่อนในห้องเป็นตัวเเปรสำคัญค่ะ ถ้าเราเห็นเพื่อนเรียน เห็นเพื่อนขยัน เราจะไม่เป็นอย่างนั้นเหรอ? (เราเชื่อว่าสภาพแวดล้อมในห้องเรียนมีผลมากค่ะ) อีกอย่างสังคมในห้องคิงไม่ได้หมายความว่าต้องแข่งขันกันตลอดเวลา ความช่วยเหลือมีเหมือนกัน บางครั้งเราเรียนไม่เข้าใจ อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง เพื่อนที่เก่งกว่าเราจะเป็นคนช่วยเราเองค่ะ(ในกรณีที่บอกว่าเราเป็นที่สุดท้ายของห้อง ไม่ได้หมายความว่าเราโง่ที่สุด แต่อาจหมายความว่าความมานะ ความขยันของเราสู้เพื่อนคนอื่นไม่ได้)
ดังนั้น การที่เราได้ไปอยู่กับคนเก่ง เราเชื่อว่าเราจะได้พัฒนาความรู้ความสามารถค่ะ (สำหรับคนที่ไม่กดดันตัวเอง ประมาณว่าทำไมเราสู้เพื่อนไม่ได้อะไรแบบนี้นะ)
การเรียนที่เข้มข้นจะทำให้เราพัฒนาได้เรื่อยๆค่ะ อาจเป็นคนเก่งในห้องคิงในอนาคตก็ได้
ถ้าเป็นคนเก่งในห้องท้ายอาจจะไม่แข่งขันกับใคร ไม่พยายามมากพอ ก็ยังอยู่กับที่ ไม่ได้พัฒนาตนเอง
ถึงผมจะเลือกฝ่ายห้องคิงส์ แต่ผมก็คิดว่าควรดูที่ความสามารถดีกว่า ถ้าใครทำได้ดีกว่าโอเคกว่าก็ฝ่ายนั้นเก่ง แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นเด็กห้องคิงส์มันคือระดับเซียนๆของโรงเรียนนั้นๆแล้ว แม้อยู่อันดับสุดท้ายของห้องแต่ก็จะปรามาสว่าอ่อนหรือจะว่าโง่ก็ไม่ได้ แต่ในทางเดียวกันถ้าเด็กเก่งของห้องสุดท้ายก็จะไปบอกว่าเค้าสู้เด็กห้องคิงส์ไม่ได้ก็ไม่ถูก แต่ละคนพัฒนาได้และถอยหลังได้เหมือนกัน บางคนมันถนัดด้านคำนวนมากๆแต่ดันไม่เป็นอันจะหารับประท่านด้านท่องๆจำๆมันก็ด้อยด้านท่องจำ บางคนเก่งท่องจำ จำได้หมดท่องตำรามาเป็นเล่มแต่คำนสณไม่เอาไหนก็เป็นจุดอ่อนไป บางคนไม่ได้เรื่องทั้งสองอย่าดันมีพรแสวงมากเกินคนมันก็เก่งก็ถนัดได้ จะไปนับไปตัดสินว่าใครเก่งใครโง่จากแค่การเรียนในระบบแบบปัจจุบันของไทยนี้นะหรือ ผมว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า เพราะดูง่ายๆเกรดของเด็กห้องคิงส์ของแต่ละโรงรียนการได้มามันต่างกัน บางที่สั่งงาน ลอกๆ มาก็ได้คะแนนมากน้อยแล้วแต่ตั้งไว้ บางที่สอบสะเป็นส่วนใหญ่ บางที่ไม่พอกดเกรดด้วย บางโรงเรียนครจะสอนวิชานั้นๆยังไม่มีเลย การจะนับว่าใครเก่งใครด้อยควรไปวัดกันตอนที่โอเค การศึกษาไทยเปิดกว้างให้เด็กพัฒนาสมองและศักยภาพเพื่อจะเอาไปใช้เอาไปประยุกต์พัฒนาในขั้นๆต่อไปให้ได้ก่อน แต่ถ้าจะมาวัดตอนที่ยังจมปักจมเลนอยู่อย่างนี้แค่เรียนๆไปสอบไปเรียนเพื่อใช้งานจริงๆก็ตอนอยู่มหาวิทยาลัยละก็อย่าหวังเลยว่าคุณหรือใครๆจะสามารถตัดสินได้ว่าอันไหนดีกว่ากัน
อยู่ห้องคิงแต่โง่ที่สุดดีกว่าค่ะ
(ปกติอยู่แต่แบบ ห้องท้ายแต่เก่งที่สุดมาตลอด)
อย่างน้อย ก็มีคนช่วยฉุดให้เราเก่งขึ้นและขยันขึ้นละค่ะ
เราอยู่ห้อง gifted
แต่ครูชอบเอาไปเปรียบเทียบกับห้องธรรมดา
โดยเฉพาะวิชาสังคม อาเซียน ไรงี้
ทั้งๆที่โปรแกรมที่เราสอบเข้า สอบวิทย์คณิตอังกฤษแบบเข้มข้น
...
...
...
...
อะไรอะไรก็ห้องเก้า
ห้องคิงแต่โง่สุดค่ะ ของเราเคยอยู่ห้องควีนค่ะ ตอนย้ายมาเทอมแรกได้ที่เกือบสุดท้าย แถมเกรดตก มันเป็นแรงผลักดันค่ะ พอเทอมสอง ขึ้นมา 0.5 ถือว่าโอเคค่ะ ถ้าอยู่ห้องปกติเเต่เก่งสุด มันเหมือนกับเราเก่งแล้ว จะไม่สนใจเรียนค่ะ ( คหสต นะคะ เราเป็นแบบนี้ )
เทสๆกกกกกกกก
เพื่อนเราบอก เป็นหางเสือดีกว่าเป็นหัวหมา
แรงไปหรือเปล่า - -??
เราก็เคยเกรดตกมากๆนะ อยู่ห้องคิง
แต่พอเพื่อนว่างี้ โมโห พยายามฉุดเกรดขึ้น
เพื่อนเราก็ช่วยด้วย เพราะมีแต่คนกลัวติด ร ติด 0
เลยต้องขยันกันยกใหญ่
สำหรับเรา ห้องคิงเป็นห้องที่เห็นแก่ตัวสุดๆ ยิ่งเราโง่สุดในห้องคิง ทำให้แทบจะไม่มีใครช่วยเลย
ไม่รู้เมือนกัน แต่ห้องเราเป็นแบบนี้
ใจจริงอยากเลือกอีกอันนึงนะ เเต่อาจารย์เคยพูดว่า
"ถ้าคนโง่หนึ่งคนมาอยุ่กับเด็กเก่งๆ ห้องนั้นจะมีคนเก่งเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง เเต่ถ้าคนเก่งหนึ่งคนไปอยู่ในห้องท้ายๆห้องนั้นจะมีคนโง่เพิมขึ้นมาอีกคนหนึ่ง..เธอลองคิดดูเเล้วกัน"
เเละมองอีกมุมหนึ่งถึงเราจะเป็นคนเก่งใน้องนั้นเเต่ถ้ามาเทียบกับห้องคิงเเล้วเราก็ยังเป็นที่โหล่่อยุ๋ดี ค่ามันก็เท่ากัน
อีกอย่างเราคิดว่าสังคมห้องเก่งมันจะบีบให้เราขยันขึ้น ถึงจะไม่ได้ทำให้เราเก่งขึ้นถึงขนาดที่จะเทียบเท่าตัวท็อปของห้องเเต่มันก็น่าจะทำให้เราทิ้งห่างห้องอื่นมากขึ้น
การเปรียบเทียบที่ดี เราควรจะเปรียบกับคนที่เขาเก่งกว่าเราหรืออยู่ในระดับที่เท่าๆกับเราไม่ใช่ไปเทียบกับคนที่อยุู่ล่างกว่าเรา
เราคิดเเบบนี้เเหละ
#จากใจเด็กที่โหลของห้องคิง
อยู่กับเพื่อนห้องคิงค่ะ...
เราว่าห้องคิงแต่โง่บางทียังคะแนนดีกว่า สังคมดีกว่า อะไรๆดีกว่า...
แล้วแต่สังคมร.รด้วยนะคะ ไม่เอาดราม่า อันนี้เราคิดเอง ใครไม่พอใจก็ขอโทษด้วย
คนเคยมีประสบการณ์!
ถ้าสังคมโรงเรียนเราที่เคยเรียนนี่ ห้องท้ายแต่เก่งสุด จะดีกว่า
เพราะเพื่อนจะจริงใจกว่าไม่แก่งแย่งเอาเปรียบกันแบบห้องคิง คิดดูนะเราป่วยแค่ 1 วัน ไม่มีใครมาบอกว่ามีงานอะไรต้องทำและส่งบ้าง
ห้องท้ายไม่จำเป็นว่าจะมีแต่พวกเกเรเสมอไป บางคนเขาก็เก่งก็มีเวลาจะหาเพื่อนมันจะแยกเป็นกลุ่มย่อยๆ ของมันเอง โดยธรรมชาติ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?