Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คน′เกาหลีใต้′ มีสิทธิสูญพันธุ์!ภายในปีค.ศ.2750!?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

คอลัมน์ ไฮไลต์โลก
โดย มนต์ทิพย์ ธานะสุข hilight@matichon.co.th


http://www.matichon.co.th/online/2014/09/14109295781410929876l.jpg

อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งจะเขียนถึงความเสี่ยงกลายเป็นเมืองร้างของหลายพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นอันเป็นผลจากปัญหาอัตราการเกิดต่ำสวนทางกับประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราด


วันนี้ขอฉายซ้ำปัญหาทำนองเดียวกันที่อาจเกิดกับเกาหลีใต้ได้เช่นกัน หากไม่คิดหามาตรการป้องกันจัดการให้ดี เนื่องจากมีรายงานการคาดการณ์ออกมา เมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่าภายในปี ค.ศ.2750 หรืออีก 736 ปีข้างหน้า ชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดอาจสูญพันธุ์ไปจากโลก หากอัตราการเกิดของประชากรเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในระดับต่ำเยี่ยงปัจจุบัน 

การคาดการณ์ข้างต้น ได้มาจากการศึกษาและการจำลองสถานการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มประชากรของเกาหลีใต้ ที่จัดทำโดยสำนักงานวิจัยสมัชชาแห่งชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่า หากสภาพการณ์ทางประชากรในเกาหลีใต้ยังคงเป็นไปเหมือนปีที่แล้ว คืออัตราการเกิดในประเทศยังคงอยู่ที่ ทารก 1.19 คนต่อผู้หญิง 1 คน ก็จะทำให้ประชากรเกาหลีใต้ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 50 ล้านคน จะสูญพันธุ์ไปภายในปี ค.ศ.2750

ภายใต้การจำลองสถานการณ์การเกิดของทารกที่ยังอยู่ในอัตราต่ำดังข้างต้น จะทำให้ประชากรเกาหลีใต้ลดลงเหลือ 50 ล้านคนในปี ค.ศ.2056 และภายในปี ค.ศ.2100 จะหดลงเหลือ 20 ล้านคน ซึ่งจะอยู่ประมาณเดียวกับยุคที่เกาหลีใต้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงปี ค.ศ.1930 

ปี ค.ศ.2200 เกาหลีใต้จะเหลือประชากรอยู่ราว 3 ล้านคน และ 1 ล้านคนในปี ค.ศ.2556 จนกระทั่งถึงกาลสูญพันธ์ในปี ค.ศ.2750 

ปูซาน เมืองท่าสำคัญที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดเมืองหนึ่งของเกาหลีใต้ ขณะที่มีการไหลออกของคนวัยหนุ่มสาวและวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว จะกลายเป็นเมืองแรกของเกาหลีใต้ที่ร้างผู้คน และจะเห็นการเกิดของประชากรในเมืองปูซานคนสุดท้ายในปี ค.ศ.2413 ส่วนชาวโซล (เมืองหลวงเกาหลีใต้) คนสุดท้ายจะเกิดมาดูโลกในปี ค.ศ.2621

อัตราการเกิดต่ำในปีที่แล้วของเกาหลีใต้ ถือว่าต่ำกว่าระดับที่ต้องการให้มีการเติบโตของประชากรอย่างยั่งยืนอยู่มาก และยังต่ำกว่าอัตราการเกิดของจีน ทั้งๆ ที่จีนบังคับใช้นโยบายลูกโทนหรือให้แต่ละครอบครัวมีลูกได้เพียง 1 คน และยังต่ำกว่าญี่ปุ่น หนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเช่นกัน

แนวโน้มนี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของความไม่สมดุลทางประชากรที่น่าห่วง ซึ่งหลายประเทศกำลังเผชิญ แน่นอนว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกเยอะไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดี การรักษาสมดุลเอาไว้จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด 




มติชนรายวัน 
ฉบับวันที่ 17 ก.ย. 2557



แสดงความคิดเห็น

>

112 ความคิดเห็น

nefertari 18 ก.ย. 57 เวลา 10:11 น. 1

มันก็พูดยากนะคะ เพราะ ในจีน มันมีประชากรเยอะมานานแล้ว ให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำต้องใช้เวลา อย่างเกาหลีใต้จะมาแรงคือการเป็นนักแสดง นักร้อง แต่บ้านเขาแฟนคลับบางส่วนไม่สนับสนุนให้มีแฟน และแฟนคลับบางกลุ่มก็บ้ามากที่ฆ่าตัวตาย เพื่อเรียกร้องความสนใจจากสตาร์ของพวกเขา และหลายๆที่ก็เกิดความเครียดจากเรื่องต่างๆ เพราะเกาหลีใต้เศรษฐกิจเติบโตไม่นานนัก ถ้าเศรษฐกิจโตพอ ทัศนคติอาจจะต้องเปลี่ยน เพื่อให้ลูกรับช่วงตำแหน่ง ก็อาจจะทำให้มีบุตรมากขึ้นก็ได้ค่ะ

0
PetShall 18 ก.ย. 57 เวลา 11:45 น. 2

ของพี่ไทย นี่ ทำแท้งเกลื่อน ไม่รู้ว่าชอบวางไข่ไปไหน เดือดร้อนเด็กที่ยังไม่เกิดมาดูโลกด้วยการสังเวยชีวิตเพราะความมักง่ายของคน


แต่ที่เกาหลีก็ไม่แน่หากเวลานานไปความคิดเขาอาจจะเปลี่ยน ค่านิยมก็อาจจะเปลี่ยน ทำให้อยากมีลูกมากขึ้นก็ได้  ก่อนหน้านั้นเขารณรงค์ควบคุมการเกิดแทบตาย  คราวนี้อาจรณรงค์เพิ่มจำนวนบุตรต่อบ้านได้รางวัล ทุน บลาๆ ก็เป็นไปได้  อนาคตไม่แน่ไม่นอน

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และทะเลาะกันอย่างรุนแรง หรือมีเนื้อหาต่อว่า วิจารณ์ หรือประจานผู้อื่น ที่มิได้เป็นบุคคลสาธารณะ

Lumin Exo\'fan 18 ก.ย. 57 เวลา 17:12 น. 8

ดีๆ จะได้ไม่มีติ่งเกาหลี...แล้วถ้าเป็นคุณๆ คุณชอบ นักแสดงเมืองไทย ชอบนักร้องไทย บ้าง ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างกันหรอกค่ะ มีความชอบเหมือนกัน แล้วแต่จะชอบมากหรือจะน้อย...ใจเขาใจเรา นะค่ะ #ติ่งเกาหลีก็ไม่ได้จะไม่ดีทุกคน

0
nefertari 18 ก.ย. 57 เวลา 17:27 น. 9

ทำไมคะ ติ่งเกาหลีแล้วยังไง แล้วคุณเป็นติ่งไหนคะ สาวกพวกแอปเปิ้ล หรืออนุรักษ์ไทยแท้ หรือคุณไม่เคยใช้ผลิตภัณท์ของเกาหลีเลย เช่นซัมซุง อย่างนั้นใช่ไหมคะ เพราะถ้าคุณใช้ก็ไม่ต่างอะไรกับติ่งที่คุณอ้าง เราไม่ใช่ติ่งเกาหลี หรือติ่งไหนทั้งนั้น แต่บางทีเราก็รู้สึกรำคาญ พวกที่แอนตี้เกาหลีเหมือนกัน จะแอนตี้หรือติ่งก็ไม่ต่างกันเลย

0
Anemone2526 18 ก.ย. 57 เวลา 18:17 น. 11

คนจีนอยากมีบุตรเพิ่ม ด้วยเหตุผลของการมีทายาท สำรอง ไว้อีกคนด้วยค่ะ

ตอนเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่โรงเรียนในจีน พ่อแม่หลายคนนี่แทบจะตายตามลูกเลย เพราะนั้นคือ ลูกคนเดียว จะให้มีแรงมาท้องใหม่เอาวัยตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ทำเอาหลายตระกูลหมดสิ้นทายาทสืบสกุลกันเลย เขาถึงอยากให้รัฐบาลช่วยอะลุมอะล่วยในการมีลูกคนที่สองด้วย

ไหนจะเหตุผลของการมีลูกผู้หญิงคนแรกด้วย คนจีนส่วนหนึ่งก็ยังเชื่อเรื่องยังไงลูกชายก็คือผู้สืบทอดสกุล ถ้ายังใช้กฎหมายลูกคนเดียว พ่อแม่บางคนจำต้องฆ่าหรือทำแท้งลูกสาว เพื่อจะให้มีลูกชายสืบสกุลในท้องต่อไป (ถ้ายังได้ลูกสาวอีกก็ต้องทำแท้งต่อ...เฮ้อ กรรม)

ตอนนี้เหมือนรัฐบาลเค้าจะยอมเรื่องลูกสาวได้ คือ ถ้าบ้านไหนมีลูกสาวคนแรก เค้าอนุญาตให้ท้องลูกคนที่สองได้อีก เพื่อลุ้นจะมีลูกชายค่ะ (แต่ถ้าเกิดเป็นลูกสาวอีก จะว่าไงหว่า ทำแท้งอีกฤา?)

0
rubieismx 18 ก.ย. 57 เวลา 18:17 น. 12

ผู้หญิงเกาหลีที่แต่งงานจำเป็นต้องทำทุกอย่างให้สามีและ 'ครอบครัวสามีทั้งหมด' เราว่านี่ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาไม่อยากมีลูกไม่อยากแต่งงานนะคะ เพราะผู้หญิงของเขาก็ไม่ได้ก้าวตามหลังผู้ชายมากเกินไปพึ่งพาตัวเองได้แถมยังรู้จักป้องกันตัวซะอีก .. การจะให้ต้องไปตามใครงกๆ แถมกฎหมายสามีทำร้ายภรรยาให้ถือว่าเป็นการสั่งสอนไม่มีความผิดนี่มันก็ ..

0
Anemone2526 18 ก.ย. 57 เวลา 18:20 น. 13

การมีลูกคนนึง ก็คือมีค่าใช้จ่ายตามมาแล้วค่ะ สวัสดิการเกาหลียังไม่เท่าสิงคโปร์หรือประเทศในยุโรปเหนือ อังกฤษ ที่ว่าถ้ามีลูก รัฐจะออกนโยบายจูงใจ เช่น สวัสดิการเลี้ยงดู หรือให้เงินค่าเลี้ยงดูกับพ่อแม่ เป็นแรงจูงใจให้มีลูกเยอะๆ แต่เกาหลีใต้ ยังไม่เคยได้ยินนโยบายขนาดนั้น อีกอย่างค่าครองชีพในเกาหลี ต่อให้แปลงเป็นเงินไทยถือว่าถูก แต่ถ้ากินอยู่ในบ้านเมืองเค้าก็ถือว่าแพง ยิ่งญี่ปุ่นด้วยยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีลูกกันทีคิดค่าใช้จ่ายหนักเลย...ไหนจะคนรุ่นเจเนอเรชั่นเรา ที่มองว่า การมีลูก ต้องใช้เงินในการเลี้ยงดูสูง เลี้ยงดูมาจะดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาเงินไปทุ่มทุนกับอย่างอื่น หรือเลี้ยงสัตว์เลี้ยงดีกว่า

0
xiuyun [K:Grand duke] 18 ก.ย. 57 เวลา 18:29 น. 14

ผมว่ามันแรงไปนะครับ ความชอบของแต่ละคนนั้น มันพูดยากครับ เป็นเรื่องของใครของมัน ไม่ควรก้าวก่ายครับ

0
dklove9955 18 ก.ย. 57 เวลา 19:04 น. 16

ติ่งเกาหลีเเล้วยังไงคะ เราทำงานหาเงินได้เองนะคะไม่เคยเดือดร้อนใคร ถ้าว่างๆก็ลองมาติ่งด้วยกันนะเพื่อจะติดใจอย่าโลกเเคบค่ะ

0
[P E A R L] 18 ก.ย. 57 เวลา 19:53 น. 18

"ดีๆ" งั้นเหรอคะ? นี่คือเรื่องดีเหรอคะ ถึงคุณจะเกลียดติ่งยังไงแต่ในฐานะมนุษย์ด้วยกันแล้ว การที่มนุษย์ประเทศหนึ่งจะ "หายไป" มันดีเหรอคะ??

0
PetShall 18 ก.ย. 57 เวลา 21:07 น. 19

นี่กำลังพูดถึงเรื่องอนาคตไม่ใช่หรือ ปัจจุบันเขามีการควบคุมการกำเนิดบุตร แต่ถ้าหากคนเขากำลังสูญพันธุ์ อนาคตมันก็ไม่แน่เสมอไปจริงหรือไม่ ถ้าห่วงแต่ว่ากลัวเสียเงินเขาก็ต้องยอมรับการสูญพันธุ์ ถ้าเขากลัวยังไงเขาก็คงหามาตรการทำแน่นอน หากไม่ใช่เรื่องการเพิ่มจำนวนบุตรในครอบครัว การแต่งงาน ก็คง ให้หญิงสาวรับอสุจิ(บริษัทผลิตอสุจิจากพันธุกรรมยอดเยี่ยม)ให้ตัวเองมีท้องลูกอัจฉริยะ เหมือนที่มีการวิจัยอยู่

ถ้ามองในปัจจุบัน ที่ว่า อะไรๆก็แพง สูง ยังไม่มี ตอนนี้เกาหลีคนเขาก็ยังไม่สูญพันธุ์นี่นา อนาคตอีกยาวไกล เรามองการแก้ปัญหาในหลายๆแง้ไว้ป้องกันก็น่าจะดีนะคะ ข้าพเจ้าคิดแบบนั้น (แต่ในใจจริงๆคิดว่า ประชากรทั้งโลกมันเยอะเกิดไปต่อกำนวนอาหารแล้วละ ฮะฮะฮะ)

0