Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องแปลกในห้วงอวกาศที่หลายๆคนอาจไม่เคยรู้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ทุกๆ วันนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศออกมาเรื่อยๆ แต่ก็มีบางเรื่องที่มีการค้นพบจากการศึกษาข้อมูลในอดีตมาจนถึงปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น ก็ยิ่งค้นพบเรื่องราวที่แปลกและน่าสนใจขึ้นมาอีกมากมาย และแน่นอนว่าหลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้ หรือเป็นเรื่องแปลกที่ไม่น่าเชื่อก็เป็นได้


1.ดาวเสาร์เบาจนลอยน้ำได้
จากการศึกษาพบว่าดาวเคราะห์บางดวงในระบบสุริยะของเรานั้นเกิดขึ้นจากการจับตัวของกลุ่มก๊าซ แต่รู้หรือไม่ว่าดาวเสาร์ที่ใหญ่โตมโหฬารนั้นมีน้ำหนักเบาขนาดที่ว่าสามารถลอยตัวอยู่บนน้ำได้สบายๆ เพราะมีความหนาแน่นของดาวแค่เพียง 0.687 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตรเท่านั้นเอง ในขณะที่ความหนาแน่นของน้ำอยู่ที่ 0.998 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร จึงทำให้ดาวเสาร์มีขนาดที่เบาอย่างเหลือเชื่อ


2.มีน้ำบนดาวอังคาร
ดาวอังคารยังคงเป็นดาวปริศนาต่อไป เพราะเมื่อมีแหล่งน้ำย่อมหมายความว่าที่นั่นต้องมีสิ่งมีชีวิต ก่อนหน้านี้ก็มีการค้นพบความสำคัญเกี่ยวกับน้ำแข็ง ในพ.ศ.2545 แต่ก็ไม่มีใครนึกภาพออกว่ามันอยู่ในสภาวะเหลวได้อย่างไร อีกทั้งยังมีการพบร่องรอยที่เป็นทางน้ำไหล แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายก็ยังคงไม่มั่นใจและต้องการข้อมูลมากกว่านี้ ซึ่งตอนนี้ยานอวกาศโอเดเซย์(Odyssey ของนาซ่า) ก็ยังคงโคจรรอบดาวอังคาร เก็บหลักฐานมาเรื่อยๆ ต่อไป


3.ดวงจันทร์เคลื่อนตัวห่างออกจากโลกปีละ 3.8 cm
ดวงจันทร์ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดิมอย่างที่ใคร ๆ คิดกันหรอก เพราะในทุก ๆ ปีดวงจันทร์จะเคลื่อนตัวห่างจากโลกออกไปราว ๆ 3.8 เซนติเมตรต่อปี สาเหตุนั้นก็สืบเนื่องมาจากที่โลกหมุนรอบตัวเองเร็วกว่ารอบโคจรของดวงจันทร์ ซึ่งแรงกระทำดังกล่าวเป็นแรงกระทำเดียวกับที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงนั่นเอง นอกจากนี้ยังทำให้โลกโคจรรอบตัวเองช้าลง 0.002 วินาทีทุก ๆ ศตวรรษด้วย แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าดวงจันทร์จะเคลื่อนตัวออกจากโลกเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหายไปจากการเป็นบริวารของโลกได้ง่าย ๆ เพราะการเคลื่อนที่ออกจากโลกปีละเพียง 3.8 เซนติเมตรนั้นช่างน้อยนิดจนเรียกได้ว่า อีกล้านปีก็ยังไม่มีผลกระทบใด ๆ กับโลกเลย



4.ส่วนสูงของเราจะเพิ่มขึ้น 2 นิ้วหากอยู่บนอวกาศ
ไม่ว่าเป็นใครก็ตามหากได้ขึ้นไปอยู่ในห้วงอวกาศแล้ว ความสูงของคุณจะเพิ่มขึ้น 2 นิ้วทันที นั่นเป็นเพราะว่าในห้วงอวกาศไม่มีแรงดึงดูด ส่งผลให้กระดูกสันหลังของเรายืดตัวได้ยาวยิ่งขึ้น แต่อย่าเพิ่งดีใจไปว่า ความสูงจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เพราะหลังจากที่คุณกลับมาบนพื้นโลกแล้ว ความสูงของคุณก็จะหดกลับมาเท่าเดิม

5.ดาวเพชร
ในปี ค.ศ. 2004 นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวที่มีโครงสร้างเดียวกับเพชรทั้งหมด โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างกว่า 4,000 กิโลเมตร และตีค่าออกมาเป็นกะรัตได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านล้านกะรัต โดยอยู่ห่างจากโลกออกไปประมาณ 50 ปีแสง ลักษณะภายนอกของดาวดังกล่าวห่อหุ้มด้วยผลึกสีขาว ส่วนภายในประกอบด้วย ผลึกคาร์บอน ซึ่งนับว่าเป็นเพชรที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเลยทีเดียว


6.ดวงอาทิตย์หดตัว
ทุก ๆ การปะทุของลมสุริยะที่พวยพุ่งออกจากพื้นผิวของดวงอาทิตย์แต่ละครั้ง จะสูญเสียมวลรวมไปราว ๆ 2 ล้านกิโลกรัมต่อวินาที คล้ายกับคนที่กำลังอดอาหารแล้วต้องสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปนั่นแหละ แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะบนดวงอาทิตย์จะเกิดลมสุริยะมาแล้วกี่ครั้งกี่ครา แต่ทว่าดวงอาทิตย์ก็ยังคงมีขนาดที่ใหญ่โตและสามารถให้แสงสว่างได้อยู่เสมอ



7.รอยเท้าบนดวงจันทร์ไม่มีวันลบเลือน
รอยเท้าที่ประทับลงบนดินหรือหาดทรายเพียงไม่กี่นาทีก็จางหายไป แต่สำหรับเหล่านักบินอวกาศที่เคยฝากรอยเท้าเอาไว้บนพื้นผิวของดวงจันทร์นั้น รอยเท้าของพวกเขาจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์โดยไม่ลบเลือนนานเป็นล้านปี ซึ่งนั่นเป็นเพราะบนดวงจันทร์ไม่มีอากาศและลมนั่นเอง

8.หนึ่งวันบนดาวศุกร์เท่ากับ 243 วันบนโลก
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าประหลาดใจไม่แพ้กันก็คือ ระยะเวลาโคจรรอบตัวเองของดาวศุกร์กินเวลานานร่วมปี หรือราว ๆ 243 วัน ในขณะที่ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์เพียง 225 วันเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นดาวเคราะห์ที่มีลักษณะการหมุนแตกต่างไปจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ เพราะดาวศุกร์จะหมุนวนตามเข็มนาฬิกา ในขณะที่ดาวที่เหลือหมุนทวนเข็มนาฬิกา


9.น้ำแข็งบนดาวพลูโตแข็งกว่าโลหะ
ว่ากันว่าบนโลกของเรายิ่งสูงยิ่งหนาว แต่สำหรับดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรานั้นคงต้องใช้คำว่า ยิ่งไกลยิ่งหนาว โดยพิสูจน์ได้จากอุณภูมิบนดาวพลูโตที่มีอุณหภูมิติดลบถึง 234.4 องศาเซลเซียส ซึ่งว่ากันว่าน้ำแข็งที่อยู่บนพื้นผิวของดาวพลูโตแข็งแรงกว่าโลหะที่อยู่บนโลกของเราเสียอีก


10.โลหะต่อติดแบบอัตโนมัติ
โดยปกติแล้วการเชื่อมติดวัตถุที่เป็นโลหะจะต้องใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อเข้ามาช่วย แต่เมื่อในห้วงอวกาศเราไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย เพราะโลหะจะเชื่อมติดกันโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า เชื่อมแบบเย็น (Cold Welding) ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้ทางนาซาจำเป็นต้องเคลือบชิ้นส่วนของยานอวกาศด้วยสารป้องกันการเกาะติด เพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนของยานอวกาศติดกันนั่นเอง

ถ้าซ้ำ ขออภัยด้วยน้าาา

แสดงความคิดเห็น

>