Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สิ่งที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับFrozen (ใหม่และเยอะ)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
1. เอลซ่า เคยถูกกำหนดให้เป็นตัวร้าย และสาปเมืองเอเรนเดลล์ด้วยความตั้งใจ

2. ในตอนแรก เพลง Let it go ถูกกำหนดให้เป็นเพลงที่เอลซ่าใช้สาปเมืองเอเรนเดลล์ แต่ผู้กำกับเห็นว่า มีทำนองที่ไพเราะเกินไป จึงเปลี่ยนให้เอลซ่าไม่เป็นตัวร้าย

3. สีม่วง เป็นประจำราชวงศ์ของนอร์เวย์ ดังนั้น ในเพลง Let it go ฉากที่เอลซ่าปล่อยผ้าคลุมสีม่วงไปตามลมนั้น เป็นการสละราชบัลลังก์

4. เอลซ่า มีเส้นผม 420,000 เส้น ซึ่ง อันนา มีเพียง 140,000 เส้นเท่านั้น

5. อันนามีอายุ 18 ปี, เอลซ่า และ คริสตอฟอายุ 21 ปี, ฮานส์อายุ 23 ปี

6. Frozen เคยถูกวางแผนให้สร้างเป็นภาพยนตร์ 2 มิติ

7. อันนา เคยถูกกำหนดให้เป็นเจ้าหญิงที่สมบูรณ์แบบ

8. ทางสตูดิโอได้มีการเชิญ ดร.Kenneth Libbrecht ผู้เชี่ยวชาญด้านเกล็ดหิมะ มาช่วยในการออกแบบเกล็ดหิมะในเรื่อง

9. ผู้สร้างต้องพัฒนาโปรมแกรม Tonic เพื่อทำผมเอลซ่าโดยเฉพาะ

10. ฉากที่ใช้เวลาประมวลผลมากที่สุดคือ ฉากที่เอลซ่าเดินร้องเพลงLet it goกับชุดใหม่ของเธอออกมาจากปราสาทน้ำแข็ง ซึ่งใช้เวลาถึง 132 ชั่วโมง

11. เอฟเฟคบางส่วนในเรื่องถูกวาดด้วยมือ เช่น ฉากที่เอลซ่าใช้พลังน้ำแข็ง หรือ ฉากที่อันนาสะบัดกระโปรงในเพลง For the fisrt time in forever

12. Frozen เป็นภาพยนตร์ที่มีตัวประกอบเยอะที่สุดเท่าที่ดิสนีย์เคยทำมา

13. เอลซ่าถนัดมือซ้าย

14. วลีสุดฮิตของอันนา "Wait What?" วลีนี้ไม่เคยมีในบท แต่เป็นเสียงของ Kristen Bell หลุดปากเองทั้งสิ้น

15. ในตอนจบ ทางดิสนีย์ได้เขียนทิ้งท้ายไว้ว่า "เราไม่ได้มีอคติว่าผู้ชายทุกคนชอบแคะขี้มูกมากิน" เพื่อกันดราม่าจากมุขของคริสตอฟ

16. เพลง Love is an open door เป็นเพลงแรกที่เจ้าหญิงของดิสนีย์ร้องคู่กับตัวร้าย

17. โอลาฟ เป็นน้องชายของ มาชเมโล มนุษย์หิมะที่เอลซ่าเสกเพื่อไล่อันนา กับ คริสตอฟ

18. ในตอนแรก โอลาฟ เป็นทหารยามในปราสาทน้ำแข็งของเอลซ่า

19. ฉากที่เอลซ่าสร้างปราสาทน้ำแข็ง ต้องใช้แอนิเมเตอร์กว่า 50 ชีวิต และเกือบจะใช้เวลาตลอดการเรนเดอร์

20. We know better เคยถูกกำหนดให้เป็นเพลงเริ่มเรื่อง ซึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเอลซ่าและอันนา และถูกแทนที่ด้วย Do you want to build a snow man

21. Spring pageant เป็นเพลงที่ใช้เล่าถึงคำทำนายว่าเมืองเอเรนเดลล์จะตกอยู่พายใต้น้ำแข็ง แต่ถูกตัดออก

22. More than just the spere เป็นเพลงที่อันนาแสดงความไม่ได้อิจฉาที่พี่ได้ครองบัลลังก์ แต่ตัวเองเป็นส่วนเกิน และต้องการตามหารักแท้ และผู้กำกับเห็นว่า ดูคล้ายฮานส์เกินไป จึงเปลี่ยนเป็น เพลงFor the first time in forever

23. You'er you เป็นเพลงที่ทีมงานตั้งใจจะให้เป็นเพลงที่ฮานส์ใช้จีบอันนา แต่มันทำให้ฮานส์ดูเด่นเกินไป จึงแทนด้วยเพลง Love is an open door

24. Life's too short เป็นเพลงที่อันนา เข้าไปในปราสาทน้ำแข็งของเอลซ่า และชวนกลับเอเรนเดลล์ แต่เอลซ่าไม่ยอม จึงทะเลาะกัน แล้วเอลซ่าเผลอสาปหัวใจอันนา แต่เพลงมีเนื้อหารุนแรก จึงแทนด้วยเพลง For the first time in forever (reprise)

25. Life's too short (reprise) เป็นเพลงปิดท้ายเรื่อง โดยใช้ในฉาก ที่เอลซ่าถูกแข็ง และอันนาถูกปล่อยให้แข็งตาย ซึ่งทั้งคู่รู้สึกผิด โดยเพลงนี้เอลซ่ากับอันนาต้องร้องด้วยกัน แต่ถูกตัดออกไป

26. Frozen ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1940 ในชื่อ "Snow Queen" แต่ไม่สำเร็จ และได้กลับมาสร้างสำเร็จในปี 2013 ในชื่อ "Frozen"

27. ชื่อของโอลาฟได้มาจากเสียงภาษาอังกฤษว่า Oh laugh
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
28. คนขายของในร้านโอคเค่น เป็นเกย์...

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

AlizbetMailzaa 20 ต.ค. 57 เวลา 15:55 น. 7
24. Life's too short เป็นเพลงที่อันนา เข้าไปในปราสาทน้ำแข็งของเอลซ่า และชวนกลับเอเรนเดลล์ แต่เอลซ่าไม่ยอม จึงทะเลาะกัน แล้วเอลซ่าเผลอสาปหัวใจอันนา แต่เพลงมีเนื้อหารุนแรก จึงแทนด้วยเพลง For the first time in forever (reprise)

เราว่าไม่เห็นรุนแรงแถมดูสนุกน้ะ เราว่า เพลง For the first time in forever (reprise) มันซ้ำกับอันแรก แต่อันนี้เอลซ่าจะร้องด้วย เนื้อเพลงคนละแบบ แต่ออกเศร้ามากกว่า Life's too short  
0