ม.5 เตรียมตัว! รับตรงปี 59 ทุกมหาลัยใช้ข้อสอบเดียวกัน "9 วิชาสามัญ"
ตั้งกระทู้ใหม่
ภาพประกอบจาก FB: PRSWU
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ในฐานะรักษาการประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ทปอ. ว่า ที่ประชุมมติเห็นชอบให้ในปีการศึกษา 2559 มหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิก ทปอ. ทั้ง 27 แห่งดำเนินการรับตรงกลางร่วมกันโดยใช้ข้อสอบกลางที่พัฒนามาจากข้อสอบสามัญ 7 วิชา แต่จะเพิ่มอีก 2 วิชา ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์ทั่วไป รวมเป็นข้อสอบกลาง 9 วิชาเพื่อรองรับนักเรียนที่จบสายศิลป์จากเดิมจะเน้นสายวิทย์
ทั้งนี้ จากนี้ คณะ/สาขาของมหาวิทยาลัยต่างๆ จะต้องไปกำหนด-ส่วนและองค์ประกอบที่จะใช้ในการคัดเลือกว่ามีอะไรบ้าง และประกาศให้นักเรียนทราบ เพราะฉะนั้นในการรับตรงกลางนั้น นักเรียนทุกคนไม่จำเป็นต้องสอบทุกวิชา แต่สามารถเลือกสอบได้เฉพาะวิชาที่ต้องการนำคะแนนไปยื่นเพื่อเข้าศึกษาต่อในคณะ/สาขาที่ต้องการเท่านั้น
รศ.ดร.ประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การรับตรงกลางร่วมกันครั้งนี้ ไม่ได้ใช้เฉพาะคะแนนข้อสอบกลาง 9 วิชาเท่านั้น โดยมหาวิทยาลัยยังสามารถกำหนดองค์ประกอบของคะแนนอื่นๆ มาใช้เพื่อคัดเลือกเพิ่มเติมได้เหมือนเดิม ทั้งคะแนนการทดสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT และคะแนนการทดสอบความถนัดทางวิชาวิชีพ/วิชาการ หรือ PAT และคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) และที่ผ่านมา ทปอ. ได้ขยับเวลาการทดสอบต่างๆ ให้อยู่ช่วงเวลาใกล้กัน โดยการสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 1 สอบในช่วงเดือนพฤศจิกายน ,การสอบรับตรงกลาาง สอบเดือนมกราคม และการสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 2 สอบเดือนมีนาคม ซึ่งนักเรียนสามารถนำคะแนนทั้งหมดไปใช้ได้ทั้งการรับตรงกลางผ่านระบบเคลียริงเฮาส์ ของสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) ซึ่งเด็กจะต้องเลือกว่าจะเรียนในคณะที่สอบรับตรงได้หรือไม่ หากไม่ก็จะต้องสละสิทธิ์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไปกันที่คนอื่น จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิชชันต่อไป
“เชื่อว่าระบบนี้จะทำให้การรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมีความสมบูรณ์ขึ้น และนักเรียนไม่ต้องวิ่งรอกสอบ ในทุกมหาวิทยาลัยอีกต่อไป ผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากลงได้ เพราะต่อไป นักเรียนจะสอบเพียงครั้งเดียว แต่สามารถนำคะแนนไปยื่นเข้าศึกษาต่อไปทั้งระบบการรับตรงและแอดมิชชัน” รศ.ดร.ประดิษฐ์ กล่าวและว่า ส่วนระบบโควตา และโครงการพิเศษต่าง ๆ ผู้มีความสามารถทางด้านกีฬา ดนตรี ยังคงมีอยู่
ด้าน ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดี มศว กล่าวว่า เฉพาะ มศว จะนำร่องรับตรงกลางร่วมกัน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 โดยเมื่อเด็กสอบผ่านข้อเขียนมาแล้ว ในขั้นตอนการสอบสัมภาษณ์ มศว จะมีข้อสอบย่อย เพื่อใช้ทดสอบความสมารถในกาปฏิบัติของเด็ก ไม่ใช่มานั่งสัมภาษณ์อย่างเดียว เพื่อให้รู้ว่าเด็กมีความสามารถที่จะเรียนต่อในสาขาที่เลือกเรียนจริงๆ เช่น การวาดภาพ การแสดง เป็นต้น ซึ่งคะแนนทั้งหมด เด็กสามารถยื่นได้หลายที่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์
ชอบมาก
ไม่ชอบ
ชอบนะ ไม่ต้องวิ่งรอกสอบ อีกทั้งสายศิลป์ยังมีโอกาสด้วย เพราะเพิ่มมาอีก 2 วิชา
เห็นว่าเป็นข้อสอบจาก สทศ.ยังไม่มั่นใจอยู่ดี อีกทั้งยังไม่ครอบคลุมคณะเฉพาะด้าน
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
0 โหวต
87 ความคิดเห็น
ถ้ารับตรงยังต้องสอบข้อสอบจาก สทศ ผมสอบแอดเอาไม่ดีกว่าหรอ?
แล้วจะมีพวกคณะแพทย์กับทันตะด้วยเข้ามารวมด้วยป่ะครับ หรือจะไปเพิ่มจำนวนรับตรงทาง กสพท. อ่ะครับ
เดิมทีเด็กสายศิลปก็ไม่ต้องสอบ วิทย์หนักๆอยู่แล้วนี่... แล้วนี่จะสร้างข้อสอบวิทย์กับเลขขึ้นมาให้สายศิลป์โดยเฉพาะ?
เพลียจัง
เราว่ามันก็ดีสำหรับเด็กที่ไม่ได้มีเงินมากๆ แบบสอบครั้งเดียวเสียไม่เยอะเขาคงคิดแบบนั้นแหละมั้ง แต่คงไม่คิดถึงอนุภาพสมองของเราด้วยนะสิ5555555555555
ดีแล้วค่ะ เพราะจากที่เคยสอบมา ข้อสอบสามัญ7วิชาไม่ได้ยากเวอร์อะไรเหมือนข้อสอบPAT
มีแค่โจทย์ที่หลอกว่าง่ายแค่นั้น และยังแยกวิชาชัดเจนด้วย
ถ้าน้องๆลองทำดูจะรู้ว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ
แพทย์มีสอบกสพท.เหมือนเดิมค่ะ
งั้นอย่างเช่นโควตา มข(ภาคอีสาน) ก็ยังมีใช่ป่ะคะ ถ้ามี ก็ไม่ได้สอบข้อสอบกลางหรอคะ??
มันก็ดีตรงที่ไม่ต้องวิ่งสอบหลายๆ รอบนะ
แต่ถ้าเราพลาดแล้วพลาดเลยงี้มันก็แย่สิ U_U
อย่างน้อยชอบที่ไหนสอบที่นั่นไปเลย ไม่ได้ก็แก้ตัวใหม่อ่ะะะ T__T
7 วิชาสามัญ 70%
ความถนัด 30%
ไม่ใช่เกรด ใช่มั้ยครับ
ไม่ชอบเป็นเด็กสายศิลป์ค่ะเห็นข่าวแล้วเอิ่ม...
เราคิดไม่ออกเลยว่ามันเป็นผลดียังไงและที่สำคัญมี
ข้อสอบผิดพลาดตลอด
เราว่าปรับเป็นแบบใหม่มันดีนะ ไม่มีปัญหาวิ่งรอกสอบ มีสิทธิ์ติดตั้งแต่สอบตรงเพิ่มมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ส่วนเรื่องข้อสอบของสทศ. เราเองก็ไม่มั่นใจเพราะฉะนั้นต้องขยันอ่านทำโจทย์กันบ่อยๆ ข้อสอบมันไม่ได้สอบหมดทั้ง 9 วิชา มันอยู่ที่คณะกำหนดมาอีกด้วย ถ้าสอบตรงไม่ติดยังมี Admission ให้สอบอีกเป็นอีกโอกาสนึงที่จะสอบติดมหาลัย
ความคิดเห็นเราเป็นแบบนี้อะ อย่าว่ากันนะ
รู้สึกไม่เชื่อมั่นใน สทศ อ้ะ
ไม่ต้องวิ่งสอบก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ถ้าไม่ให้เลือกมหาลัยเลย มันไม่ช่ายยยยย
เราอ่านแล้วไม่เข้าใจคือรับตรงเริ่ม มกราคมปีหน้าเลยหรอคะ หรือยังไงยังไม่เตรียมตัวเลยไม่รู้ต้องสอบอะไรกันแน่ งง คะ อธิบายหนูที55555
วิชาคณิตศาสตร์ 2 แตกต่างจากวิชาคณิตศาสตร์อันเดิมยังไงอ่ะ ?????,
แล้วถ้าเราเป็นเด็กที่ยังอยากลองสอบตรงในคณะทั้งสายวิทย์และสายศิลป์นี่ไม่ต้องสอบหมดเลยหรอ บางทีเราก็อยากลองสอบทั้งนิติและวิศวะไปพร้อมกัน เราก็ต้องมาสอบทั้งคณิตของวิทย์กับศิลป์แถมวิทย์ของทั้งสองสายอีก เด็กวิทย์ทุกคนใช่จะเก่งจนสอบติดคณะสายวิทย์ที่อยากเรียนหมดนะ !!!!
ผมว่าก็ไม่ได้ต่างอะไรกับ Admission เลยนะครับ เหมือนกับปีนึงแอดกัน 2 รอบแหน่ะ
การสอบแบบนี้ข้อดีก็มีอยู่จริงๆคือทำให้ลดรอบสอบน้อยลง แต่ก็มาพร้อมกับข้อเสียเหมือนกันคือทำให้เครียดในการสอบมากขึ้นเพราะอัตราการแข่งขันจะสูงขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน
ข้อสอบคณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์พื้นฐานผมมองว่าไม่จำเป็นนะครับ เพราะอย่างไรก็ตามเด็กสายศิลป์ถ้าจะเข้าคณะสายศิลป์ก็ไม่จำเป็นต้องสอบวิชาเหล่านี้ แม้ว่าเด็กศิลป์คำนวณจะเข้าคณะที่ใช้คณิตศาสตร์ในการเรียน ก็ต้องสามารถสอบคณิตศาสตร์อันแรกได้อยู่แล้วครับ มันจะเกิดการสอบซ้ำซ้อนชวนงง เผลอๆสมมุติว่าไปๆมาๆเดี๋ยวมหาลัยบังคับสอบทั้งคณิตศาสตร์ 1, 2 และถ้าคณะสายวิทย์อาจให้สอบวิทย์พื้นฐานกับวิทย์เพิ่มเติม (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) ภาระก็ตกอยู่ที่คนสอบอยู่ดีครับ
ส่วนเด็กสายศิลป์ที่จะเข้าสายวิทย์มีจำนวนน้อย และพวกเขาเหล่านั้นมีความสามารถด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไม่ต่างจากเด็กสายวิทย์แน่นอนครับ ดังนั้นข้อสอบอีก 2 วิชาที่เพิ่มมาไม่จำเป็นเลย
ผมเข้าใจว่า สทศ. กำลังพยายามทำให้โอกาสความเลื่อมล้ำของโอกาสในการสอบลดน้อยลง แต่ตอนนี้ สทศ. กำลังแก้ไขมาผิดทางครับ เพิ่มวิชาสอบโดยจุดประสงค์แบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นครับ ทางที่ดีควรลดการสอบน้อยลง และพยายามใช้สิ่งที่ต้องทดสอบกันเป็นประจำอยู่แล้วมาปรับปรุงและพัฒนาหรือเกณฑ์การวัดอะไรก็ได้ที่มีมาตรฐานกว่านี้มาวัดระดับเพื่อยื่นเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยครับ
อยากให้ช่วยอธิบายตรงจุดนี้ให้หน่อยนะคะ คือหมายความว่ารับตรง เริ่มสอบเดือนมกราคมเลยหรอ หรือยังไงกันแน่คะ หนูยังไม่ค่อยเข้าใจ
ไม่ว่าจะสอบแบบไหนยังไงก็ข้อสอบ สทศ.
เราคิดว่าทั้ง2แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
แต่ถึงยังไงก็ข้อสอบสทศ.เอาเวลาไปอื่นสือดีกว่าคิดไปๆมาๆปวดหัวคับ
ลาออกจากโรงเรียน ไปสายอาชีพแปป ชีวิตไปต่อยังไง เรียนสายสามัญ ครูก็กดดัน พ่อแม่ก็กดดัน
ทำไมชอบกดดันเด็กจังห่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สอบรอบเดียว ถ้าพลาดคือจบ
นี่ถ้ามีเงิน จะย้ายไปเมืองนอกและแหม่- -
เด็กที่จะสอบคณะสายศิลป์ก็ต้องสอบวิชาวิทย์พื้นฐานกับคณิต2 ด้วยใช่ป่ะ โอ้วว
วิชาที่เลือกนะ
ต้องสอบเพิ่มหลอ ตายคัก
สมัยนี้ ถ้าไม่มีตัง คงไม่ได้สมัครรอบรับตรงนะ ทั้งค่าสมัคร ค่าสอบ ถ้ามองในมุมมองของเรา ส่วนเรื่องข้อสอบ ทำได้อย่างเดียว ทำใจ เเล้วโยนปากกา 555
แล้วคณะที่เกี่ยวกับศิลปะหละ
แล้วพวก CU-TEP , CU-AAT , CU-TAD , CU-ATS ยังสอบ ยังใช้ อยู่มั้ยอ่าา
ทำไมกุไม่เกิดเร็วกว่านี้
ผมขอถามอะไรหน่อยครับ
1. โควต้า มช จะมีอยุ่ไหมครับ
2. SMART-I ใช้อยู่ไหมครับ
ขอบคุณครับ
ทำไมเราถึงไม่เกิดเร็วกว่านี้!!!!!!!!!!!!!
พลาดคือพลาด ไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยง่าาาาาา!!!!
ดีนะเราเด็ก58รอซิ่ว59
คือ อะไรๆก็รุ่นตรู
เซงจิต !!!
สายศิลป์คำนวณไม่เท่าไหร่ แต่ศิลป์ภาษาต้องทำไงต่อไป
เรียนเนื้อหาก็ไม่เท่ากับศิลป์คำนวณ
สอบวิทย์ กะคณิตอ่ะ เเค่โอเน็ตนะ เนื้อหาก็ของสายวิทย์ทั้งนั้น
แล้วนี่อะไรอีกล่ะเนี่ย โอ๊ย เพลียค่ะ
ก่อนจะทำอะไรท่านเคยถามพวกผมมั้ย???
เราว่าก็ดีค่ะ ไม่ยุ่งยาก หรือจะเอาแบบเก่าที่มี GAT PAT 7วิชาเหมือนเดิมก็ได้ แต่ตัด O-NET กับ GPAX ออกเหอะ เราว่ามันไม่ยุติธรรมเรื่องเกรด กับไม่ตรงจุดที่จะเข้าสายใดสายหนึ่งแต่ต้องสอบ o-net ทุกวิชา แค่นี้พอใจและ ข้อสอบก็มาตรฐานนะ ตรงที่สอบเหมือนกันทั่วประเทศไง /โดนถีบ
กรุณาอย่าคิดแทนเด็กได้มั๊ย สอบหลายรอบเสียตังหลายรอบแต่มีโอกาสให้เลือกมากกว่าเราก็ยอม!
เพิ่มมาอีกสองวิชาเด็กสายศิลป์ก็แย่สิค่ะ
ให้รับตรงมันอยู่เหมือนเดิมของมันไม่ได้หรอคะ ? ขอแค่ข้อสอบของมหาลัยเถอะะะะ ความยากง่ายจะได้ไม่เท่ากัน มาข้อสอบเหมือนกันหมดถ้ายากแล้วทำไม่ได้คือเงิบนะคะ ฮื้อออ
อยากให้ ปรับตั้งแต่ขั้นต้นๆ เพราะแต่ละโรงเรียน ทั้งการเรียนการสอน ไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะหนังสือรวมถึงระดับของครูที่สอน
ทำไมชอบแยกๆ ไปแต่ละโรงเรียนแต่พอระดับ ประเทศกลับเหมือนกันหมด เด็กจาก โรงเรียนที่ไม่เข้ม ลำบากนะคะ
แล้วโครงการทุนล่ะคะ? อย่างโควต้าสอวน อะไรงี้? เอาไง?
ถ้าข้อสอบมาแบบ PAT นี่ ขอลาตายดีกว่า - -
ปรึษาพวกเราก่อนไหม? ว่าต้องการแบบนั้นหรือเปล่า
อยากจะบ้าตาย
จะตัดอนาคตเด็กไทยไปถึงไหนฟระ
สมองหมูหรอ? เค้าไม่ได้ให้เด็กสอบทุกวิชาซักหน่อย
ดีจะตาย..เปิดโอกาศเด็กสายศิลป์ที่จะไปทางวิทย์
ก็คนที่ไม่เอะอะโวยวายใช่สิไม่ใช่คนที่จะต้องสอบเองนิ คิดบ้างไหมว่าเด็กจะเครียดแค่ไหน โอกาสสอบมันมีแค่ครั้งเดียวนะเว้ย กดดันกันไปไหมร้องไห้แม่ง
มันยากนะ สอบแบบนี้
เด็กไทยคืออนาคตของชาติ
เราจะหมดอนาคตเพราะสทศนี้แหละ ไม่ถงไม่ถามสุขภาพสักคำ
ความเห็นที่ 51 สมองหมูหรอ? เค้าไม่ได้ให้เด็กสอบทุกวิชาซักหน่อย
ดีจะตาย..เปิดโอกาศเด็กสายศิลป์ที่จะไปทางวิทย์
ถ้าจะไปเรียนด้านสายวิทย์ ก็ควรจะเรียนสายวิทย์ตั้งเเเต่แรกสิค่ะ ไม่รู้หรอว่าเด็กสายวิทย์เขาเรียนมาเหนื่อยเเละหนักเเค่ไหน ลำพังเเข่งกับเด็กสายวิทย์ก็เยอะเเล้ว ยังจะให้แข่งกะสายศิลป์อีก บ้าไปแล้วคะ !!!!
เด็กสายวิทย์มันเหนื่อยนะโว้ยย สอบทั้งวิทย์ทั้งคณิตอะไรหลายรอบอ่ะ แล้วต้องมาลุ้นกับข้อสอบแบบ...สุดจะคาดเดาของ สทศอีก ข้อสอบมันคงไม่เฉพาะของของแต่ละคณะสาขาอีก อ่านแบบครอบจักรวาลอีก พลาดแล้วพลาดเลยอีก ใจมันหวิวนะเห้ยTT
หันมาคิดว่าพัฒนายังไงให้พวกสถาบันกวดวิชาที่ผุดขึ้นมาทุกวันเป็นดอกเห็ดเนี่ยมันลดลงไปแบบไม่มีความหมายดีกว่าไหม เพราะระบบการศึกษาประเทศไทยมันแย่ไง สอบ สอบ สอบ ข้อสอบก็ดันแย่ วัดอะไรไม่ได้ ประเทศถึงไม่พัฒนาสักที เห้อความคิดเห็นส่วนตัวที่เซ็งมากๆ
น่าจะลองถามความคิดเห็นเด้กนะ เอาส่วนที่ดีของเด็กมาใช้ ไม่ใช่คิดเอาเองแบบนี้ ความคิดเรานะโคตรเหนื่อยเลยยยถึงจะมีความรู้สะสมมาก็เหอะต้องอ่านหนังสือครอบจักรวาล จะเปลี่ยนแนวปีไหนก็ไม่รุ้ เครียดนะบอกเลยบางทีตอนใก้ลสอบอาจจะมีข่าวเด็กฆ่าตัวตายก้ได้นะ สอบเยอะก็ไม่ได้ช่วยอะไรข้อกาเดาได้เอาแน่ข้อเขียนเลยจ้าาาาถ้าอยากจะวัดเด็กอ่ะนะ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะค้ะทำอะไรก็สำรวจเด็กหน่อยนะขอร้องเหอะเด็กบางคนความคิดดีกว่าผู้ใหญ่อีกนะ
งี้มันจะต่างไรกับแอดมิชชัน
มันไม่ต้องสอบหลายรอบก็ใช่อะ
แต่ว่า ถ้าเราสอบไปแล้วพลาดมันก็อดดิ
อย่างน้อยนะ เราว่า วิ่งสอบแบบเมื่อก่อนยังมีโอกาสให้ไปแก้ตัวอะ
นี่ครั้งเดียวจบแล้วมันแบบ...สำหรับเรานะ เราบอกเลย "โครตตัดอนาคตเด็กเรียนไม่เก่ง"
อย่างน้อยทำแบบนี้ถามคิดเห็นเด็กๆก็ยังดีไม่ใช่ว่าคิดอะไรแล้วก็เอาเด็กๆ มาทำเป็นหนูไปหมด มันเครียดนะคะ
เราเด็ก 59 เราบอกเลย เรารับไม่ไหวจริงๆถ้าต้องสอบแบบนี้นะ
คือ ถ้าจะบอกว่าขยายโอกาสเด็กสายศิลป์หรืออะไร เราก็ไม่รู้นะ
แต่นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเรา ที่เรากล้าพูดว่า "ทำแบบนี้ไมาต่างจากฆ่าเด็กทางอ้อม"
อยากให้ทำอะไรเห็นใจเด็กเรียนไม่เก่งด้วยนะคะ ไม่ใช่มโนไปว่าประเทศนี้เด็กนักเรียนมันเรียนเก่ง 100%
#คห.ส่วนตัวค่ะ
เราว่าแบบเก่าดีกว่า แบบนี้มันเยอะๆ ยังไงไม่รู้ #คหสต
เด็กนักเรียนปี 2540 ได้เป็นหนูทดลองก่อน ก้เลยซวยตั้งแต่ เข้าม.1 ถึง จะเข้ามหาลัย
1.เป็นปีที่เริ่มเปลียนหลักสูตร51
2.จะเข้ามหาลัยก้มาเปลียนการสอบรับตรงใหม่เข้าใหม่อีก
สรุปซวยตลอด
ห่วงเรื่องวันสอบจะเร็วเกินไปนี่แหละค่ะ แล้ว 9 วิชาอัดกันติดๆกันใน 2-3 วันตีกันหัวหมุนแน่ๆ
เป็นไปได้มั้ย ว่าจากการล้มเลิกการสอบ u-net ทำให้ หน่วยงานบางหน่วยงานขาดรายได้ และอาจจะเป็นการผิดสัญญากะหลายบริษัทที่มีเอี่ยวกะการสอบ u-net
เลยมีการจัดสอบ 9 วิชาขึ้นมา เพื่อเพิ่มวิชาสอบ เพื่อผลประโยชน์ของหน่วยงานนั้นๆ และบริษัทที่มีเอี่ยว
คิดคร่าวๆค่าสอบวิชาละ 150 สองวิชา 300 เด็ก 400000 คน มูลค่าทั้งหมด 120 ล้านบาทเลยนะ!!
บางทีการทำแบบนี้ก็ไม่ดีเสมอไป เราไม่เชื่อมั่น สทศ เลย
ข้อสอบ ที่จะออกน่ะ เคยมานั่งเรียนไหม?
หลักสูตรเป็นไงรู้บ้างไหม? อย่าสักแต่จะเปลี่ยนนู่น เปลี่ยนนี่
โรงเรียนนี่เรียนอีกอย่าง โรงเรียนนู่นเรียนอีกอย่าง
มาตรฐานอยู่ที่ไหน เหรอ? น่าจะยุบ สทศ ซะนะ
เอาแค่ กระทรวงศึกษาธิการ ก็เหนื่อยอยู่แล้ว
ONET น่ะ > บางข้อสอบนึกว่าไม่ใช่คนแต่ง
จากเดิม 7วิชาสามัญ ปี59 9วิชาสามัญ -_-
ข้อสอบเดียวกัน เอิ่ม นะ
โรงเรียนที่นักเรียนเก่งๆ ไม่แย่งที่นั่งไปหมดหรอ Oops !
เสียงจาก #dek58 ขอบคุณครับ
รู้สึก #dek58 รุ่นเราจะได้เป็นปีสุดท้ายตลอดเลยนะ รู้สึกเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้หลักสูตรเก่าใช่มะ นี่ก็รุ่นสุดท้ายที่จะใช้รับตรงแบบเก่าอีกละ
ส่วน #dek59 ก็เป็นรุ่นที่เริ่มใช้หลักสูตร51 และก็เนี่ย สามัญ9วิชา
เอาแต่ว่านู่นว่านี่กัน แล้วทำไมไม่เอาเวลาสนใจเรื่องพวกนี้มานั่งอ่านหนังสือ ทำการบ้านอ่า ถ้าเราเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ยังไงก็ทัน แม้เรื่องที่ เค้าเอามาออกเรจะไม่เคยเรียน แต่มันก็ทำให้เราภูมิใจได้เหมือนกันนะว่าเราทำเต็มที่ทำดีที่สุดแล้ว คหสต.
ฟังดูยุ่งยากชะมัด
สอบตรงก็ไม่ต่างอะไรไปจากแอดเลยอะดิ
is this thinking from ur head????
โควตา มช มีอยู่เถอะนะครับ (-/\-) (-/\-)
แล้วถ้าสอบแบบนี้ คือเราจะมีสิทธิ์สอบครั้งเดียว? ถ้าครั้งนั้นครั้งเดียวเราทำคะแนนออกมาไม่ดี เราก็อดดิจริงป่ะ? แล้วซวยดิจริงป่ะ? รอแอดแล้วถ้าแอดไม่ได้? เราก็ตายดิจริงป่ะ?
ม่ายยยยยยยยยยยย
โอเคมากเลย ไม่ต้องลำบากพ่อแม่มากนัก ค่าใช้จ่ายประหยัดขึ้น แต่สอบแค่ครั้งเดียวนี้โหดสุดๆ วัดความรู้กันจริงๆ ถ้าพลาดนี่พลาดเลย
แค่ปกติก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว โว้วว แบบนี้ไม่สมองไม่ระเบิดเลยหรอ
มันจะทำให้เราพลาดโอกาสในหลายที่ที่ต้องการจะเรียน สทศ. ยังไม่เคยเข้าเกือกกลั่วกับเด็กเลย จะรู้ถึงมันสมองของเด็กรึป่าวว่าเด็กไทยส่วนใหย๋เป็นยังไง ส่วนน้อยก็มีคนเก่ง ยอมรับคะ *แต่ประเทศเราเป็นประเทศประชาธิปไตยนะ ควรจะมองคนส่วนใหญ่บ้าง
จะสอบตรง การสอบจะเปลี่ยนมั้ยเนี่ย น่าจะแจ้งล่วงหน้าสัก 3 ปี
มันก็ดีกันคนละอย่างนะคะ แต่คิดว่าอะไรที่มันเดิมๆก็ดีอยู่แร้วเรื่องค่าใช้จ่ายการวิ่งรอกสอบมันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากขนาดนั้นจริงๆไม่ควรจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลยก็น่าจะดีที่สุดเพราะว่าตอนนี้เองก็คิดไม่ตกกลับปัญหาการสอบ เข้ามหาลัยหรือแอดมินชั่น มันมีทั้งความสับสน และไม่มั่นใจในหลายๆด้านทั้งยังต้องติดตามข่าวสารเกี่ยวกับพวกนี้ตลอดซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่ละเล็กละน้อยอยุ่เรื่อยๆ ในมุมมองของผู้ใหญ่คิดว่าแบบไหนดีที่สุดสำหรับเด็กๆค้ะมีใครพอจะแนะนำบ้างมั้ยคะ
-อยากจะเปลี่ยนแบบใหม่ก็น่าจะถามเด็กก่อนว่าต้องการมั้ย?ไม่ใช่คิดว่าดีแล้วก็เปลี่ยน...น่าจะเห็นใจกันบ้าง!!!!!!!
-การสอบแบบนี้จะให้เราพลาดที่จะไปสอบที่อื่นๆ และคนที่ยังไม่รู้ว่าถ้าไปสอบแล้วจะติดรึเปล่าอาจทำให้ไม่มีที่เรียน
-เด็กเราไม่ได้เก่งขนาดนั้น ถ้าสอบแบบนี้มีแต่กับ ตาย กับ ตาย
-การแจ้งข่าวสารช้าเกินไป ให้ข้อมูลการสอบแบบใหม่กับเด็กน้อยและช้าเกินไป ทำให้ศึกษาและเตรียมตัวไม่ทัน!!!
#เสียใจแปป
ปล.ความคิดเห็นส่วนตัว อาจทำให้ใครไม่พอใจ ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ
มันเหมือนตัดโอกาสเด็กนะ เพราะเราเองก็เป็นเด็กสายวิทย์คนนึงที่เรียนไม่เก่งเลยยยย อยู่โรงเรียนเอกชนธรรมดา เราคิดว่าวิธีการเเบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย ข้อสอบมาตรฐานยังไม่ได้เลย
//อ่านหนังสือเเล้วจำ+เข้าใจอ่ะ มันยากนะ สมองเด็กมีน้ำหนักประมาณ1.4กิโลกรัม เเต่ความจุไม่ได้ขนาด64TB เเล้วสมองเราก็ไม่ได้เป็นคอมพิวเตอร์นะ ที่จะสามารถจัดเก็บข้อมูลทุกเม็ดเเล้วเซฟเข้าสมองจัดเรียไฟล์อย่างดีเเล้วติดทนนานนะเห้ยยย!!!//อารมณ์เสีย
อีกอย่างนะ ทำงี้มันดูบีบรัดคล้ายกับว่าไม่ให้เด็กเขาได้รับการศึกษาที่ควรได้เลยอ่ะ ไม่ได้ก็ซิ่ว เสียเวลาอีกปีนึงหรือได้ก็เอา ได้ก็เรียน บอกตรงๆเลย ไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่
ถามเด็ก 59 ยังคิดอะไรได้ก็ทำๆ รู้ไหมว่าเด็กจะเคลียดแค่ไหน ไหนจะงานกิจกรรม ไหนจะการบ้าน โครงงาน รายงาน กว่าจะแบ่งเวลามาอ่านหนังสือแทบไม่ได้นอนคือแบบต้องการอะไรจากเด็กหรอ แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้วแทนที่จะเพิ่มวิชาอะลดๆบ้างวิชาไหนที่มันไม่จำเป็นจริงๆก็ตัดออกบ้างเถอะ
จากใจ #เด็กแอด 59
แล้วถ้าสอบตรงโอกาศของเด็กที่เขาเรียนไม่เก่งไม่สู้คนอื่นไม่สู้คนที่เรียนเก่ง สอบไม่ติดแล้วรอรอบ มิชชั้น พอสอบไม่ติดอีกมันก็แย่สิค่ ะ น่าจะเอาแบบเดิม ถึงจะใช้จ่ายเยอะแต่ขอให้เราได้สู้กับอนาคตมันไม่ดีกว่าเหรอค่ะ แล้วต้องให้เด้กคิดเรืองสอบยังไม่พอ ต้องให้คิดเรื่องกลัวสอบไม่ติดหรือเปล่าค่ะ เพราะ มันมีโอกาสแค่ครั้งเดียว พูดมาแล้ว เสียววอนาคตตัวเองค่ะ
ดูแล้วเหมือนแอดมิชชั่นนะคะ ที่มีรับตรงกลางขึ้นมา เพื่อ???
1. ไม่อยากให้นักเรียนวิ่งรอกสอบหลายมหาวิทยาลัย
2. ผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก คือ ยังไงมันก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากอยู่ดีแหละค่ะ เพราะต้องเอามาจ่ายค่าสมัครสอบ GAT / PAT และ 9 วิชาเนี่ย จริงที่ว่าไม่จำเป็นต้องสอบทั้ง 9 วิชา แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่จะสอบแค่ 2-3 วิชาหรอกนะคะ อย่างน้อยๆก็ต้อง 7 วิชา แล้วถ้าเกิดว่า นักเรียนสอบมาแล้วผลคะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่อยากจะเข้า นักเรียนก็ไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยสิค่ะ นอกจากรอแอดมิชชั่น และที่ว่าประหยัดเงินผู้ปกครองนะคะ บางทีการสอบตรงแบบเดิมช่วยลดภาระของผู้ปกครองได้มากกว่าอีกนะคะ เพราะจ่ายทีละเล็กละน้อย ในการสอบแต่ละครั้ง แต่ถ้ารับตรงกลาง ก็ต้องจ่ายครั้งเดียวเพื่อสอบ 7 วิชา 9 วิชา ซึ่งทาง ทปอ. ต้องคิดนะคะว่าประเทศเรา(ส่วนใหญ่)ค่อนข้างจะยากจน แต่ก็อยากให้ลูกเรียน ควรจะคิดนะคะว่าแบบใหนมันลดรายจ่ายมากกว่ากัน
และก่อนที่ควรจะคิดระบบอะไรขึ้นมาควรจะถามความคิดเห็นจากผู้ที่จะได้รับผลจากระบบนั้นด้วยนะคะ ว่าคิดเห็นอย่างไรต่อระบบที่คิดขึ้นมา ไม่ใช่ว่าอยากทำก็ทำโดยคิดว่ามันดี แล้วคนที่จะเคราะห์ร้ายก็คือเด็กนักเรียนนะคะ ขอความกรุณาเห็นใจเด็กด้วย
มันไม่โอเลยง่า
คณิต 2 กับ วิทย์ทั่วไป มันคืออะไร
ไม่เข้าใจการศึกษาไทยทุกวันนี้มันเป็นอะไรไปกันหมดว่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?