หากวันนึงโลกไร้ไฟฟ้า อยู่ได้ไหมครับ ( อยากรู้ )
ตั้งกระทู้ใหม่
ทุกอย่างจะเป็นไปในแบบไม่มีไฟฟ้า อาจจะเป็นด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
จะนอนหลับกันไหม ถ้าต้องนอนแบบก่อนนอนไม่มีอะไรเล่น นอนเงียบๆ
เราอาจจะได้เห็นคุณค่าของการมีเพื่อนมากขึ้น เพื่อนที่ต้องทำความรู้จัก
โดยการไปพบเจอที่ตลาด หรือ การจัดกิจกรรมประจำหมูบ้านแบบสมัยก่อน
ผมว่าผมก็คิดถึงวันที่ เขียนจดหมายฉบับแรกถึงเพื่อนจัง ผมอยู่ได้นะ แบบนี้
145 ความคิดเห็น
- - ผมว่าถ้าโลกนี้ไม่มีไฟฟ้าจริงๆ คนอื่นก็ต้องหาอะไรมาทดแทนเองแหละครับ
พวกฉลาดมีเยอะแยะจะตาย555 คิดในแง่ของอนาคตนะ
แต่ถ้าไม่มีจริงๆก็อยู่ได้ครับถ้าโลกไม่ร้อนเหมือนตอนนี้อะนะ สมัยก่อนนอนเปิดหน้าต่างยังหนาวอย่างกับขั้วโลกเหนือเลย 555 จักรยานก็มีให้ปั่นเผลอๆพาสาวซ้อนท้ายได้ด้วยฟินสุดๆ ควันพิษก็ไม่ต้องมี ก็ดีไปอีกแบบ
ผมคงจะต้องหาอะไรมาแทนจักรยาน ขี่ไม่เป็นมาจนถึงทุกวันนี้
ขี่หมู หรือ นกกระจอกเทศไปพลางๆก่อน
สวัสดีครับคุณนมสด
เอาจริงๆผมว่าก็อยู่ได้นั่นแหละครับ แต่ก็เสียความสะดวกสบายในหลายๆเรื่องไป ซึ่งก็น่าจะมีคนคิดอะไรขึ้นมาแทนกันได้อยู่ดี..
แต่ผมชอบบรรยากาศตอนไม่มีไฟฟ้านะ บางทีเวลาที่บ้านไฟดับก็คว้าหนังสือไปนอนเปล ชิล
หาคนนั่งซ้อนท้ายคงจะง่ายกว่าขี่หมู หรือ นกกระจอกเทศนะครับ ฮาๆๆ
เพิ่งเริ่มเล่นเว็บนี้พอดี ชอบแต่งนิยายค่ะเพื่ิอนแนะนำเว็บ Dek-D write แต่เรา ไม่รู้ว่าจะเริ่มแต่งยังไงช่วยสอนหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ ยังเป็นมือใหม่อยู่ค่ะ ไม่ค่อยมีประสบการณ์
คือตอนเด็กเคยอยู่บ้านนอก อยุ่กับแสงขี้ใต้ นอนมุ้ง หลับสบายมาก
ตื่น 6 โมงเช้า ได้ทุกวัน ตอนนี้ยากและ 555
นั่นสิ.. อาจจะเป็นกลไกตามธรรมชาติล่ะมั้งครัับ :E
ถ้าอินเตอร์เน็ตแล่นได้โดยไม่ใช้ไฟฟ้าก็อยู่ได้ค่ะ #อ้าวโกงนี่
แต่เอาตามตรงถ้ามันไม่มีจริงๆยังไงก็อยู่ได้นะคะ
เพราะมัน "ไม่มี" เราก็เลือกไม่ได้อยู่แล้ว ผิดกับ "มีแล้วไม่ได้ใช้" อันนั้นอาจจะทนไม่ได้ ^_^
จริงๆก็อยู่ได้ครับ แค่วิถีชีวิตเปลี่ยนไปเฉยๆ
ในบอรฺ์ฺดนักเขียนมีนักเขียนเก่งๆอยู่หลายคน
ลองหาดูตามหน้าบอร์ดก็จะมีคำแนะนำมาเสมอๆครับ
ย้อนดูจากวันเก่าๆก็น่าจะมีเทคนิคการเขียนที่ผู้รู้มาตอบเสมอ
ผมก็เขียนเรื่องสั้น จบในตอน หากคนออกไปนอกบ้าน
หรือไปเที่ยวบ่อยๆ จะได้เปรียบนะ เพราะไอเดียแรกเริ่ม
คือสิ่งที่สำคัญที่สุด มันจะเป็นตัวชี้เลยว่านิยายจะสนุกไหม
ผมก็ใช้แบบพื้นๆนะ หาไอเดียจากสถานที่แปลกๆ เช่น
กองเศษซาก รถเก่า เราก็คิดเลยว่าจะทำยังไงให้มันน่าสนใจ
หัวข้อหลักของผมมันจะง่ายไง แค่หาจุดใหญ่และบรรยายย่อยๆ
เพราะเป็นเรื่องสั้น มันจะไม่ยุ่งยาก นิยายจะต้องใช้เวลาอยู่กับมัน
คือต้องห้า่มทิ้งนิยายตัวเอง อัพบ่อยๆ ความตั้งใจและการรับฟัง
สำคัญที่สุดครับ หากอยากเขียนเดี๋ยวเข้าบอร์ดนักเขียนบ่อยๆ
ก็จะรู้วิธีการ ตามที่ได้บอกไว้ในบรรทัดแรกๆ
คนสมัยก่อนก็อยู่ได้นะ อาจจะกลายเป็นโลก steampunk ก็ได้ใครจะรู้ แต่ที่แน่ๆถ้าแสงตอนกลางคืนลดลง ดาวบนฟ้าคงสวยขึ้นมากแน่ๆ#อยากเห็นทางช้างเผือก
บรรทัดสุดท้ายนี่คมบาดไส้ขาดเลย
คนเราหากเลือกได้ ก็จะเลือกสิ่งที่สบายเสมอ
แต่ถ้าหากเลือกไม่ได้ ก็จะปรับตัวได้เองแหล่ะนะ
การงานก็อาจจะทำขนมไทยขาย
หรือขายปลาเผา ขายผักที่ปลูกเอง
เป็นเรื่องดีๆ ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นค่ะ
ถามว่าอยู่ได้ไหม อยู่ได้นะ เคยอยู่มาก่อนมันก็เป็นอะไรที่ธรรมดาแหละ
ชีวิตจะดีขึ้นมากด้วย 555
มันก็ดีนะ โลกทุกวันนี้มันอืดพองไปด้วยตึก รถ ถนน
ดูอึดอัดคับแคบ เจ็บแปลบจิตวิญญาณ อนิจจา
เด็กเมื่อก่อน หัวเราะกับการเล่นอะไรง่ายๆ
และมีความน่ารัก ไม่ดื้อเหมือนเด็กสมัยยนี้ เหอๆ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ :)))))
ผมว่าควรตั้งกระทู้แยกแล้วเขียนรายละเอียดให้มากกว่านี้นะครับเดี๋ยวจะทำลายบรรยากาศคนเข้ามาเสียเปล่าๆ
ผมว่ามันก็คง... ต้องปรับตัวกันยกใหญ่ แต่ที่แน่ๆ เราจะได้ความคลาสสิคกลับคืนมาครับ
แหม่แค่คิดก็ฟินแล้ว อารมณ์ประมาณว่า 'แม่สาวงามประจำหมู่บ้าน' แม้แท้จริงแล้วนางอาจไม่ได้สวยเริดขนาดนั้น แต่ความคับแคบของสังคมก็ผลักดันให้เธอเป็นได้ แล้วไหนจะการละเล่นที่ต้องใช้ร่างกายเพียวๆ ผสมผสานกับมันสมองเพียงเล็กน้อยเช่นการวิ่งไล่จับหรือหุ่นแปะแข็ง ซึ่งทุกวันนี้มันกลายเป็นวิ่งไล่จับกันในเกมเศรษฐีไปหมดแล้วก็จะได้กลับมาเห็นอีกครั้ง พวกธุรกิจโรงงานก็สลายโต๋กลายเป็น Otop แบบบ้านเรามีปลาทู บ้านนายมีข้าวสวยเรามาจอยด์กันเถอะ อะไรพรรณนั้น
สรุปแล้ว... ก็คงได้อีกรสชาติแหละครับ แค่ว่าจะชอบรสนั้นไหม จะอุมามิรึเปล่า? ก็ต้องลองวัดกันอีกที
เกี่ยวกันนะแม่เกี่ยวเอิงเอย เกี่ยวกันนะแม่เกี่ยว
555555 ระวังเดี๋ยวเคียวจะเกี่ยวก้อยเอย คลาสสิคไหมละ??
การแลกของกิน ของใช้ ก็ดีนะ ย้อนกลับไป
ในยุคที่ เขาร่ำลือว่า สยามเมืองยิ้ม
อุมามิไหมล่ะ
โออิชิ โคจิโร่เลยครับ(อะไรวะ) 555
ไม่มีไฟฟ้าก็น่าจะอยู่ได้นะคะ คิดถึงตอนนอนกางเต็นท์บนภูกระดึงอยู่หลายวัน...ก็อยู่ได้นะ แต่เรื่องทำอาหารการกินน่าจะลำบากหน่อย (จุดไฟเตาถ่านลำบากเกิ๊น)
แต่ที่แน่ๆ ถ้าอากาศยังร้อนขนาดนี้ก็ขอให้มีไฟฟ้าต่อไปเถอะค่ะ ยิ่งในเมืองไม่ต้องพูดถึงร้อนตับแลบ ลมก็ไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ด้วย
ผมน่ะ(อาจจะ)อยู่ได้นะครับ
แต่ผมเกรงว่าคนที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อต่อชีวิตอย่างเพซเมกเกอร์ เครื่องช่วยฟัง เครื่องช่วยหายใจ รวมไปถึงพวกสัตว์ที่ใช้ไฟฟ้าเพื่อการดำรงชีวิตและเอาชีวิตรอดจะไม่รอดเอาน่ะสิครับ
สมมุติว่าทุกคนสุขภาพดี = 3 =
ให้มันยากเข้าไว้ผมว่าดีนะ จะได้เห็น
คุณค่าของอาหารแต่ล่ะมื้อและกินไม่ต้องเหลือ
ทุกวันนี้หลานผมเอง กินข้าวก็ไม่หมด กับเหลือเพียบ
คือเด็กยุคนี้สบายจนลืมลำบากซินะ ที่ผมอ้วนน่ะ
เพราะเสียดายของเหลือ เหล่านั้น
นี่แหล่ะ สาเหตุที่ผมไม่ผอมสักที เรื่องมันเป็นแบบนี้
ผมว่าที่คุณอ้วนคงไม่ใช่สาเหตุเพราะเสียดายแน่นอน เพราะคุณ ไม่ออกกำลังกาย ใช่ไหมฮ่าๆๆๆ
ใครก็ได้ อุ้มหมอนี่ไปเก็บใส่ลิ้นชักซิ - w -
แทงใจดำละซี่ //แอบหัวเราะเบาๆ
เด็กๆ เตรียมเตาย่างเนื้อขนาดใหญ่ จะย่างคน
ผิด ทู้ครับ!!! เชิญสู่กระทู้เรื่องกินเนื้อคนอร่อยไหมได้เลยครับ 555
ไปดีกว่าเราคุยกับผู้ชายนานๆไม่ได้ คุยและเวียนหัว หน้ามืด
แต่ถ้าไร้ไฟฟ้า แผงโซล่าก็ใช้ได้นะคะ
ไม่อนุมัติ ไร้ คือ ไร้ ไม่มีการต่อรอง = w =
เอาจริงๆก็อยู่ได้มั้งคะ มนุษย์เราน่ะปรับตัวได้อยู่แล้ว แต่ช่วงแรกๆคงแย่...
คงหาทางปรับตัว... แต่ก็คาดว่ายากและนานกว่าจะปรับตัวได้ มนุษย์เราเคยชินกับเหล่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลายมาก ถ้าเกิดไม่มีขึ้นมาก็ยากที่จะทนไหว นานๆไปก็คาดว่าน่าจะปรับไปได้เอง... ความจริงแค่ขาดเน็ตเราก็จะตายแล้วล่ะค่ะ...
พอถึงหน้าหนาวก็กรอกข้าวกรอกน้ำใส่บ้องไม้ไผ่ทำข้าวหลามขายกันก็ดีไปอีกแบบนะท่าน
ถ้าผ่านช่วงลงแดงเพราะขาดไวไฟช่วงแรกไปได้ก็น่าจะอยู่ได้นะคะ... ถ้าผ่านไปได้น่ะนะ...
ไม่มีไฟฟ้า อยู่ไม่ได้ครับ พูดจากใจเลย
งานผมส่วนใหญ่ต้องทำในคอมอย่างเดียว ไม่สามารถทำใส่กระดาษเป็นแผ่นได้ แม้ว่าต้องปริ้นออกมาก็ตาม
และเวลานอนอากาศร้อนผมอยู่ไม่ได้แน่ๆ ขนาดมาอยู่เหนือหน้าหนาวเขาผมยังนอนแบบไม่เปิดแอร์ไม่ได้เลย
แต่ถ้าไม่มีไฟฟ้า แล้วลมมันเย็นตลอดเวลาอยู่ประมาณต่ำกว่าสิบ ก็พออยุ่ได้นะครับ
แต่โลกเรายากที่จะไม่มีไฟฟ้า เพราะไฟฟ้าเกิดจากมนุษย์คิดค้น พอไม่มีเดี๋ยวก็มีคนคิดค้นขึ้นมาอีกนะแหละ มนุษย์ฉลาดจะตาย
ลงน้ำยาว~เบรยย
I gonna sell some.
ผมอยู่ได้อยู่แล้วละ ก็ผมเป็นต้นดอกกุหลาบนี่นะ
เซลล์ไฟฟ้าอิเล็กโทรไลต์ก็ด้วยเหรอครับ?
มิวว่า...มิวอยู่ได้นะคะ เพราะอยู่ไปนานๆ เดี๋ยววิถีชีวิตก็แปรเปลี่ยนและชินไปเองค่ะ (ทีคนสมัยก่อนยังอยู่ได้เลยนี่คะ?)
น่าจะอยู่ได้นะคะเพราะเราเองก็ไฟดับอยู่บ่อยจนชินกันการกินข้าวใต้แสงเทียน..55
อา.. นึกถึงเมื่อก่อนที่เคยปีนต้นไม้ โหน ไต่หลังคา กระโดดหน้าต่าง
อยากจะกลับไปเล่นแบบนั้นอีก แต่ดันโตมาแล้วกลัวความสูง TOT
อ่า... ขอบคุณสำหรับคำถามครับ //เสียงนายสาวไทย// ดิวคิดว่า... อยู่ไม่ได้!!!!! T T จินตนาการหากโลกนี้ไม่มีไฟฟ้า จะอ่านหนังสือสอบ(?)ได้ยังไง TT ไหนจะ อาบน้ำ ดูทีวี กินข้าว T T เเต่ดิวก็ชอบเวลาไฟดับตอนกินข้าวนะครับ ใต้เเสงเทียนในบ้านของเรา 555555 อบอุ่นฮะ..
ข้าเจ้าทนได้น๊า ข้าเจ้าชอบแสงเทียนและบ้าตะเกียงสุดๆ
ขอแค่มีหนังสือ สมุด ดินสอ ยางสบ ก็โอเครแล้วล่ะ เจ้าค่ะ
มันคงดีถ้าได้ตากอากาศเย็นๆที่มีลมธรรมชาติพัดผ่านและนอนดูดาวยามค่ำคืนเนอะ
ปล.อยากมีบ้านติดทะเลT T
อยู่ได้ไม่ตายหรอกค่ะแต่คงทรมานเหมือนตายทั้งเป็น T_T ให้อยู่แบบชิลๆ โอเควันสองวันพอรับได้ แต่ถ้าตลอดชีวิตคงไม่ไหว ไม่ไหวแน่ๆ 55555
ผมคิดว่า คงเหมือนเรื่อง Dawn of Planet อ่ะนะซีซ่าภาคสองอ่ะ ใช่เลย
ชีวิตเราคงมีความสุขน่าดูทีเดียวเชียวแหละ ใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การติดต่อสื่อสารอาจลำบากหน่อย แต่ทำให้เราใส่ใจและคิดถึงกันมากขึ้น. สำหรับเราคงคล้ายเพลง 'เหตุเกิดจากความเหงา' ของ 'EMOTION TOWN'
เราคิดว่าอยู่ได้นะ ไม่งั้นคนสมัยก่อนจะอยู่ไดเร้อ
มันมีซีรี่ย์ฝรั่งอยู่เรื่องนึงนะชื่อ Revolution เป็นเรื่องที่อยู่ๆ ไฟก็ดับพร้อมกันทั่วโลก
เราว่านานๆ ไปก็น่าจะปรับตัวจนอยู่ได้นะ แต่แรกๆ นี่คงโกลาหลมากๆ เลย ติดต่อสื่อสารกันก็ไม่ได้ แล้วเรื่องอาหารการกินอีก จะซื้อ-ขายกันยังไง ต้องมีโจรมีขโมยเยอะมากแน่ คงจะจัดระเบียบสังคมได้ยากมาก อาจมีคนตายเยอะเลย ทั้งพวกที่ต้องการอุปกรณ์ในการช่วยชีวิตในรพ. แล้วก็พวกที่ฆ่ากันเพื่อแย่งผลประโยชน์ เพราะรัฐคงดูแลได้ไม่ทั่ว น่าจะใช้เวลาเป็นปีๆ หรือมากกว่านั้น กว่าสังคมจะมีระเบียบ สามารถดำรงชีวิตได้โดยปกติ ตกลงหน้าที่ของตัวเองได้.. ยังไงซะการปรับเปลี่ยนอะไรที่เราคุ้นชินมันก็ยากอ่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ คงต้องใช้เวลากันพอสมควรเลย
โลกที่ไม่มีไฟฟ้านี่อยู่ได้นะ
แต่ถ้าโลกนี้ไม่มีเธอนี่สิ ไม่รู้จะอยู่ยังไง
อุ๊ต่ะะะะะะ
โดยหลักแล้วคิดว่าคงอยู่ได้แหละ
เพราะไม่ใช่ปัจจัย 4 ที่มนุษย์จำเป็นต้องมีในการดำรงชีวิต
แต่คงต้องปรับตัวกันมากพอสมควร
นึกถึงการ์ตูนมุนินฺเรื่องหนึ่งที่ถ่ายทอดเรื่องราวทำนองเดียวกันนี้
เด็กหญิงติดละครเด็กชายติดเกมคอมพิวเตอร์
พอไฟดับถึงได้เรียนรู้การเล่นในบ้านสวนจากพ่อแม่
ทั้งเมล็ดต้อยติ่งโดนน้ำแล้วระเบิด เล่นขายข้าวแกง
บางทีเทคโนโลยีก็ทำให้คนมีความสะดวกสบายมากเกินไป
ถ้าไฟดับเราอาจจะเห็นวิถีชีวิตหรือการละเล่นแบบเดิมๆ
อาจต้องใช้เวลาในการ 'ชิน' แต่เสน่ห์ของสิ่งที่จะเหล่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่า
อย่างน้อยคู่รักก็มีเวลามองหน้ากันมากกว่านั่งอัพไอจี
ได้เห็นภาพเด็กเล่นกระโดดยาง ดีดลูกแก้ว การ์ดพลัง โซ่ แทนไอแพต
อะไรที่มันง่ายๆไม่ซับซ้อน ผมว่ามันก็เหมาะสมดีนะ
เด็กเดี๋ยวนี้แค่อนุบาล เล่นมือถือ เล่นคอมกันคล่องกว่าผู้ใหญ่อิีก
อยากเห็นเด็กแบบธรรมดา แบบที่คุณบรรยายมา อบอุ่นดี
กำลังมีความรักใช่มั้ย 55
แต่หากจะใจหาย คงจะเป็นเรื่องเพื่อนที่รู้จักในเวปนี่แหล่ะ
หากไม่มีไฟฟ้า คงใจหาย จะหาตัวกันมาคุยก็คงยากมากเลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?