ถ้าสามุติคุณมีเพื่อนนิสัยเข้ากับคุณได้ทุกอย่าง แต่มาเกาะคุณ คุณจะเลือกทางไหน ระหว่างเลิกช่วย<เสียเพื่อน> กับช่วยต่อไปเรื่อยๆ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
15 ความคิดเห็น
คบค่ะ เพราะยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว
ง่ายมากครับ ถ้าเป็นเพื่อนกันจริงแสดงว่าสิ่งที่คุณกำลังคิดว่าเขามาเกาะนั้นอาจจะไม่ใช่ ตัวเขาเองอาจไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่
ดังนั้นทางออกที่ผมคิดว่าง่ายที่สุดคือ 'คุยกัน' แล้วทุกอย่างจะดำเนินไปในทิศทางที่มันควรจะเป็นเองครับ
อย่ากลัวครับ ถ้าคุณแน่ใจว่าเขาเป็นเพื่อนคุณจริง เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหาแน่นอนครับ
คบครับ แต่แทนที่จะช่วยทำงานแทนเขาทุกอย่าง ก็เปลี่ยนมาให้คำแนะนำแทน มีปัญหาอะไร ก็ให้คำแนะนำเขาไปเท่าที่ตัวเราจะช่วยได้ และจะไม่เข้าไปทำงานแทนเขาเด็ดขาด ใจเด็ดไว้ครับ ถ้าเขาบ่นโอดโอยเมื่อไหร่ ก็จัดการคุยปรับความเข้าใจกันไปเลยขอรับ
คบต่อไปค่ะ แต่มิวจะคุยกับเขาดีๆ ว่าควรทำยังไง ให้คำแนะนำเขา ให้เขามีความรับผิดชอบมากขึ้นค่ะ และเราไม่ควรทำทุกอย่างแทนเขามากนัก เพราะเขาก็จะไม่มีความรับผิดชอบเหมือนเดิมค่ะ (คนที่ลำบากสุดจะกลายเป็นเราเสียเอง)
คบ แต่เราจะไม่ยุ่งเรื่องงาน
ถ้าแบ่งงานกันเรียบร้อย รับผิดชอบไม่ได้ ก็ปล่อยมันโดนประนามไปนั่นแหละ
ถ้างานเป็นงานกลุ่มละครับ แล้วถ้าคุยแล้วเขาทำมา แต่สภาพแบบ ทำตอนเช้าก็อบวางๆ สภาพแบบส่งไม่ได่ สุดท้ายก็ต้องทำเอง บอกแล้วว่าควรแก้ยังไงแต่ก็เหมือนเดิม
อืม เคสนี้ยากนะฮะ ครั้นจะฟ้องครู ก็คงโดนเรียกมาด่าแล้วปล่อยไป ไม่มีอะไรดีขึ้น หรือจะตีงานกลับไปให้เพื่อนทำใหม่ ก็คงโดนโวยเป็นแน่
งั้นเอางี้มั้ยครับ ท่านจขกท.ลองเอางานส่วนที่เพื่อนท่านทำไปให้ครูดูก่อน แล้วรายงานสภาพงานตามความเป็นจริงให้ครูฟัง บอกว่าท่านไม่พอใจงานพาร์ทที่เพื่อนทำ เพราะก๊อปมา หรืออะไรก็ว่าไป พอคุยกับครูเสร็จ จากนั้นก็...
ขอโทษครูที่อาจจะส่งงานช้า
เพราะจนกว่าเพื่อนท่านจะทำงานออกมาได้ดีตามที่คาดหวัง จึงจะส่งงาน แล้วก็อย่าลืมบอกเพื่อนท่านด้วยนะว่า ถ้างานออกมาไม่ดี ก็จะไม่ส่ง ไม่ต้ององต้องเอาคะแนนกันมันทั้งกลุ่มละ (แนะนำว่าใช้คำพูดให้ซอฟท์กว่าที่ผมพูดมานี้นะขอรับ ^^')
ทีนี้ผมมี 2 ทางให้ท่านเลือก
1.คั้นให้เพื่อนท่านทำจนกว่าจะพอใจกับงาน วันเดดไลน์จะมีงานส่งหรือไม่ แต่งานของแกต้องออกมาดี ถ้าไม่ดี ก็ไม่ต้องเอาคะแนนกันทั้งกลุ่มนั่นแล //ผมเริ่มรู้สึกสงสารเพื่อนท่านจังครับ ฮ่าาาาา
2.คั้นเพื่อนท่านให้ทำต่อไป แต่จริงๆแล้วก็แอบแบ่งงานส่วนนั้นให้เพื่อนคนอื่นในกลุ่มทำกันไปอย่างลับๆ พอถึงกำหนดวันส่ง ถ้างานเพื่อนท่านออกมาไม่ดี ก็เอาอีกงานที่แอบทำกันมาอย่างลับๆส่งไปแทนครับ //แถมยังส่งทันเวลาด้วยนะ
หลังจากฝ่าฟันลมพายุที่โหมกระหน่ำมาได้ ก็เข้าสู่ฉากจบ ผมมี 2 ending ให้เลือกครับ
1.Bad Ending - ครั้นเราบีบคอให้เพื่อนทำแล้ว แต่เขายังยืนกรานจะไม่ทำ ขอย้ำว่า "เขาไม่ยอมทำเลยแม้แต่นิดเดียว พอเราตีงานกลับไปก็เงียบ หรือส่งกลับมาในสภาพที่เน่าเฟะเช่นเดิม" ก็บอกครูครับ ครูจะหักคะแนนหรือไม่ก็ขึ้นกับการตัดสินใจของครูแล้ว จะคะแนนจิตพิสัย หรือคะแนนงานของเพื่อนท่านก็ว่าไป
2.Good Ending - ถึงแม้สุดท้ายแล้ว เพื่อนท่านจะทำงานออกมาได้ไม่ดี แต่ถ้าเพียงแค่เขา แสดงถึงความตั้งใจ ท่านตีงานกลับ เขาก็ทำงานมาส่งอีกรอบได้+งานออกมาในเกณฑ์ที่น่าพอใจมากขึ้น(แม้นจะบ่นโอดโอยก็ตาม)
แค่นี้ก็บรรลุวัตถุประสงค์ที่แท้จริงแล้วขอรับ นั่นก็คือ "การทำให้เขาแสดงถึงความตั้งใจกับการทำงานกลุ่มนั่นเอง" //ปรบมือ
*หมายเหตุ
- ฟังดูเหนื่อย แค่อ่านก็เหนื่อยแล้ว แต่ถ้าทำได้ เพื่อนท่านก็คงจะปรับปรุงตัวได้ไม่มากก็น้อยครับ
- เมื่อตามงานเพื่อน ระวังการใช้คำพูดที่รุนแรงขัดหูด้วยนะขอรับ เข้าใจว่าหงุดหงิด แต่งานจะเดินได้ก็ควรจะคุยโดยไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งนะขอรับ
- อาจจะมีเลี้ยงฉลอง หรือรางวัลอะไรงี้ ตอบแทนเพื่อนท่านที่สามารถปรับปรุงตัวได้
"เฮ้ยเพื่อน มื้อนี้เราเลี้ยง"
และ...สำคัญที่สุดคือ "จุดประสงค์ของงานนี้ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อนท่านเป็นหลัก คะแนนเป็นรอง" ถึงสุดท้าย งานจะออกมาไม่ดี แต่ถ้าเพื่อนท่านตั้งใจทำอย่างเต็มที่แล้ว ก็สมควรจะได้คะแนนเช่นกันครับ
ถูกต้องที่สุดครับ
แต่เอาเข้าจริงพอเริ่มเข้าสู่วัยทำงานมันไม่มีแล้วครับ ...เพื่อน เหลือแต่การติดต่อกันช่วยเหลือกันในระดับที่เหมาะสมไม่ทำให้งานของเราเสียหาย
เขาถึงได้บอกว่าเพื่อนสมัยมัธยมนี่เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด เพราะสมัยนั้นแต่ละคนคบกันไม่สนใจเรื่องผลประโยชน์ ระดับมหาลัยเริ่มซับซ้อนมากขึ้น พอถึงวัยทำงานแทบจะเหลือแค่สังคมที่ทำตามหน้าที่ครับ
ผ...ผมยังไม่ถึงวัยนั้นนะครับ ;[];
ตอนยังเรียน ผมจะคบไว้ครับ หาคนคุยเรื่องที่ชอบยาก จะให้ช่วยอะไรก็ช่วย ไม่หนักหนาอะไร
แต่พอโต เข้าวัยทำงาน เพื่อนที่เป็นภาระ ผมคงต้อง Say Goodbye เพราะคราวนี้มันเป็นภาระที่ไม่ธรรมดา เป็นภาระที่ส่อแววทำเราล้มจมด้วย ตอนโตถ้าเขายังไม่ปรับปรุงตัว ผมแนะนำให้ถอยห่าง คบกับคนที่สามารถช่วยเราได้จริงๆจะดีกว่า
ผมเรียนมหาลัยครับ จับกลุ่มเอง อาจารย์สนใจแค่งานที่พรีเซ็นเท่านั่น ไม่มีหรอกครับใครไปฟ้องครู เคยบังคับให้ทำ เกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้
1. งานเน่าก็อปวาง และไม่เสร็จ แต่ก็เอามาทั้งอย่างนั้นละ
2 ลืม คำสั้นๆที่แสนเจ็บปวด
3 วันนั้นมันหยุด หายไปเลย แล้วก็ปล่อบเพื่อนทิ้งไว้ให้เผชิญหน้ากับอาจารย์
4 เคยแอบทำแล้วไปส่งอาจารย์ ทำชิ้นสำรองไว้ แล้วรองานจากมัน ปรากฏว่ามันทำงานหลังจากหมดกำหนดส่งแล้ว กำหนดส่งวันอังคาร แต่มันส่งงานให้ผมช้ากว่ากำหนดหนึ่งอาทิตย์คุณภาพแบบข้อหนึ่ง
5 คำพูดมีหลายรูปแบบคุยดีๆ พูดแดกดัน ด่า เป็นสเตปไป แต่เหมือนเดิม
6 ผมไม่ได้สนิท กับมันเหมือนที่เขียนไว้ในหัวกระทู้ มันโดดเรียน หยุดเรียนตามใจมัน ใครจะมีเวลาไปสนิทกับมันได้ แต่วิชาที่อาจารย์โหดมันกลับมาได้ทุกวันอย่างน่าประหลาดใจ
7 ขนาดงานเดียวมันยังทำกากๆ ลอกเพื่อนส่งเลย จะหวังให้งานกลุ่มระดับ มาสเตอร์พีสก็เป็นไปไม่ได้
8 มันไม่ยอมพรีเซ็นหน้าห้อง มันบอกว่าอาย - -!!
9 ธุรกิจมากมายนัดให้มาทำงาน พอถึงวันก็ไม่มา โทรไปก็ไม่ติด พออีกวันถามบอกว่าอ่าวนัดด้วยหรอ
10 งานไหนมันทำไม่เป็น มันก็ไม่ทำ ส่วนใหญ่งานที่มันทำไม่เป็นจะเป็นวิชาเอก และยากๆ ต้องใช้เวลาทำเป็นเดือน ทั้งอาทิตย์
สุดท้ายจบแบบแบดเอนครับ
ถ้าท่านได้กลับมาอ่าน ท่านช่วยวิเคราะห์หน่อย ว่าควรจะแนะนำเพื่อนคนนี้ยังไงดี แต่ปัจจุบันเลิกยุ่งแล้ว
ตามนั้นครับ สำหรับมหาลัยนะครับ การทำงานคนเดียวทั้งหมดเป็นแค่นิทานเฟ้อฝันของเด็กอนุบาลเท่านั้น ต่อให้ทำได้จริง คุณก็ถูกตราหน้าเป็นแค่ i โง งานระดับมหาลัย ไม่ใช่ชิ้นหนึ่งใช้เวลาทำวันเดียวเสร็จ แต่ละชิ้น ต้องทำเป็นอาทิตย์ บางชิ้นเป็นเดือน ลองคิดภาพ ห้าวิชารุมสั่งงาน กำหนดส่งสองอาทิตย์พร้อมกัน ถ้าส่งไม่ทัน ติดเอฟ
เรียนก็ไม่ได้เรียนด้วยกันถ้าเราติดเอฟวิชาต่อไปเราก็ลงเรียนไม่ได้ เราต้องเรียนทีหลังเพื่อน อาจารย์ที่แจกเกรดก็จะโดนแย่งกันลงเรียนหมด ถ้าเราลงทะเบียนเรียนไม่ทันเพื่อนเราก็ต้องเรียนคนเดียว ถ้าเราไม่ได้เรียนด้วยกันบ่อยๆ ความสนิทมันก็กลายเป็นเหินห่างได้
อาเมน (จากคห.3-3) ถ้าเพื่อนท่านเข้าข่ายลักษณะข้อ 8 แค่เพียงข้อเดียวนี่ยังพอช่วยเหลือได้นะ
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความรับผิดชอบแล้ว จนอายุปูนนี้ยังไม่มี ก็คงแก้ไม่ได้แล้วล่ะครับ นิสัยขาดความรับผิดชอบมันคงจะฝังรากลึกเข้าไปในสมองเสียแล้ว(สันดานนั่นเอง)
ได้แต่รอให้ถึงสักวันหนึ่ง วันที่เขาประสบความล้มเหลวในชีวิต แล้วเมื่อนั้นเขาก็คงจะคิดได้ครับ //ขออภัยที่ผมไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลยขอรับ
สุดท้ายแล้ว เมื่อเพื่อนช่วยเพื่อนด้วยกันไม่ได้ก็คงทำได้แค่ปล่อยผ่านไป ทำใจครับ
เราช่วยเหลือใครไม่ได้หมดทุกคนหรอกท่าน ความหวังสุดท้ายก็คงอยู่ที่พ่อแม่ของเพื่อนท่านแล้วล่ะครับ
ทิ้งท้ายนิดนึง ถ้าผมเป็นท่าน ผมก็คงเลือกได้แค่ว่า จะคบเขาต่อไปมั้ยก็เท่านั้น ส่วนเรื่องงานนั้น..."โนว"
อืม...รู้สึก ผมมีไอเดียแว๊บขึ้นมาแฮะ
ชวนเขาไปทำกิจกรรมมั้ยครับ ปลูกป่า หรือกิจกรรมอะไรที่เขาสนใจ ประมาณนี้ จะมีสาระ/ไร้สาระก็จัดไป เผื่อเขาจะชอบการทำงานขึ้นมาบ้าง
ขอบคุณที่อุส่ากลับมาตอบครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?