จริงหรือ!! ไม่ว่าจะเรียนจบมาสูงเเค่ไหน ม.ดังขนาดไหน สุดท้ายก็เเค่ลูกจ้าง
ตั้งกระทู้ใหม่
การศึกษาไทยทุกวันนี้เเย่ยิ่งกว่าเเย่ ระบบรวนเร ไม่มั่งคงสักนิดเปลี่ยนนั้นเปลี่ยนนู่นมันเเทบทุกปี ถ้าการศึกษาไทยได้ครึ่งของต่างประเทศก็ยังดี คงเจริญกว่านี้
ความคิดเห็นส่วนตัวนะ ทุกคนเห็นว่าไงกันบ้างมาเเชร์กัน
5 ความคิดเห็น
ก็จริงค่ะ ทุกอย่างมันต้องเริ่มจากฐานก่อนอยู่แล้วป่ะ คนที่จะมาเป็นหัวหน้างานก็ต้องเริ่มจากการเป็นลูกน้องก่อนทั้งนั้นล่ะ สั่งสมประสบการณ์ จนเก่งกล้าแล้วถึงจะมีสิทธิได้ขึ้นเป็นหัวหน้า เป็นฝ่ายบริหาร แต่ด้วยหลายๆอย่าง ทำให้คนไทยล้าหลัง สุดท้าย เมืาอเปิดอาเซียน คนไทยเนี่ยแหละจะเป็นผู้ใช้แรงงานในประเทศตัวเอง
ถึงเป็นหัวหน้าก็ยังเป้นลูกจ้างนะครับ
ถูกครับ สังคมเรามันสังคมโลกสวยยกยอปอปั้นอาชีพนู้นอาชีพนู้นอาชีพนี้ว่ามีเกียรติมีศักดิ์ศรี เชิดชูคนเงินเดือนมากดูถูกคนเงินเดือนน้อย หาได้ตระหนักไม่ว่าหากพิจารณาจริงๆแล้วทั้งหมดที่ว่ามานั้นก็ยังวนเวียนอยู่ในวงจร "เข้างานเช้า เลิกงานเย็น สิ้นเดือนรับเงิน" (หรืออะไรคล้ายๆกันนี้) ซึ่งก็นับได้ว่าล้วนแต่อยู่ในสภาวะของ "ลูกจ้าง" ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหมอ วิศวกร ตลอดจนพนักงานบริษัท หรือแม้กระทั่งคนงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะอาชีพใดหากยังต้องรับเงินจากคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าก้ล้วนแต่เรียกได้ว่าเป็นลูกจ้างไม่แตกต่างกัน และขณะเดียวกันกับที่สร้างค่านิยมเชิดชูกันเองนั้น ตัวสังคมเองก้ได้สร้างกรอบขัดขวางความทะเยอทะยานของเหล่าคนที่ตระหนักถึงจุดนี้และพยายามดื้นรนให้พ้นไปเพื่อที่จะดึงคนกลุ่มนั้นลงมาร่วมอยู่ในวัฏจักรเดียวกัน ผู้ที่สามารถผ่าฟันกรอบนี้ออกไปได้นั่นแหละถึงจะคู่ควรเรียกว่า "ผู้ประสบความสำเร็จ" อย่างแท้จริง"
คุณทํางานคุณไม่หวังเงินหรอครับพูดอย่างกับว่าจะทํางานอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ลูกจ้าง งั้นถ้าคุณเป็นลูกจ้างได้เงือนเดือนละ90000กับคุณออกมาทําธุรกิจเองได้เดือนละ9000 แบบนี้ยอมเป็นลูกจ้างดีกว่าครับ(ไม่ได้จะบอกให้หวังแต่เงินนะครับเป็นแค่ยกตัวอย่างไห้เข้าใจได้ง่ายเฉยๆครับ)
ปล.เห็นค.คิดคุณแล้วผมสงสารประเทศไทยเลย
เกิดรับไม่ได้ว่าตัวเองเป็นลูกจ้างเหรอครับ? ผมแค่อธิบายว่าแบบไหนเรียกลูกจ้าง เผื่อคนโลกสวยบางคนจะหลงเข้าใจผิดว่าตัวเองไม่ใช่ทั้งที่ก็ทำงานอยู่ในวงจรแบบที่ผมว่า ส่วน "ผู้ประสบความสำเร็จ" ที่ผมพูดถึงคือระดับ ตันอิชิตัน หรือ ต๊อบเถ้าแก่น้อย ที่ฝ่าฟันคำถากถางจากเหล่าผู้ที่ติดอยู่ในกรอบแสนแคบยอมรับว่าตัวเองไม่สามารถตะเกียกตะกายไปให้สูงกว่านี้ได้เหมือนกับคุณ จนกระทั่งเค้าสามารถไปอยู่ในจุดที่พวกคนที่เคยถากถางเค้าได้แต่ฝันถึง ไม่ได้พูดถึงพวกที่เปิดกิจการเล็กๆน้อยๆกะแค่พอยังชีพเลย ดังนั้นถ้าจะสงสารประเทศ ก็สงสารที่คนส่วนใหญ่เป็นคนที่ถอดใจเถอะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?