แม่หรือเราที่ไม่ปกติ=_=บ้านอื่นเป็นแบบนี้มั้ย
ตั้งกระทู้ใหม่
ชอบด่าว่าเราพูดไม่ดี<<<<แม่ด่าเราก่อนเราเลยพูดไม่ดีกลับ พูดไม่ดีนี่=พูดเสียงดังนะไม่ได้ด่าเหมือนที่แม่ด่าเรา
เห็นหน้าเรานี่คือจะด่าเอาอย่างเดียว แต่เดี๋ยวก็มาทำดีด้วยซื้อโน่นนี่มาให้กินแปปๆไม่กี่นาทีก็หาเรื่องด่าเรา
=__________=แม่เราผิดปกติป่ะเนี่ย?แถมมีอะไรก็ชอบใช้กำลังตั้งแต่เราเด็กๆคือเราจะบอกว่าเราสู้ได้นะเเต่เพราะตอนนี้เราโตแล้วเนี่ยแต่เราก็เลือกที่จะทำแค่เซฟตัวเองไว้ไม่ให้เจ็บมาก แต่พอทำแบบนั้นแม่ก็จะไม่พอใจ ปกติคนเป็นแม่เนี่ย ตีเพราะรักหรือตีเอาสะใจ-__-MMMพอแม่ตีเราเสร็จเหมือนระบายอารมณ์แม่ก็จะอารมณ์ดีขึ้นเราสงสัยมาตลอดเลยนี่คือตีเพราะหวังดี??????ยิ่งพ่อนี่แล้วใหญ่หนักกว่าแม่อีกเพราะฉะนั้นอย่าพูดถึง
ตอนนี้อยู่บ้านคือเราต้องอยู้แต่ในห้องจนเราจะเป็นบ้าแล้ว พออกไปนอกห้องแม่ก็จะหาเรื่องแขวะทันที.....คือเอะอะอะไรก็ด่าๆๆๆแล้วพอเราพูดเรื่องจริงแม่ก็จะรับไม่ได้ประมาณว่าชั้นต้องถูก ชอบพูดประมาณว่า ก_ูป็น แม่ ม_ึงนะ บลาๆๆๆ คือ เราเข้าใจนะว่าเป็นลูกต้องทน แต่คือจะพูดเรื่องจริงไม่ได้เหรอ
เรื่องไร้สาระเช่น เราซื้อขนมมาแล้วเราก็ตั้งทิ้งไว้ พ่อมาเห็นก็กินขนมของเราหมดพอเรามาหาขนมของเรา เราไปถามแม่ก็บอกเออใครกินก็แล้วไงบลาๆๆๆกลายเป็นเราที่ถุกด่า แทนที่จะไปถามพ่อหน่อยมั้ย คือขนมมันก็แพงเราเก็บเงินค่าขนมไปซื้อนะ พ่อกินหมดเเล้วเราล่ะคือแม่ไม่ว่าอะไรพ่ซักนิดแล้วด่าเราพอเราพูดประมาณวาเราคนซื้อไม่ใช่เหรอ เราก็มีสิทธิ์กินขนมของเรานะ แม่ก็ด่าอีกนั่นมันเงินที่ชั้นให้แก บลาๆๆ คือเรางง นี่เงินที่พ่อแม่ให้มาแล้วเราซื้อของกินๆก็กลายเป็นของพ่อแม่เหรอ ตกลงนี่เราซื้อแต่ถ้าพ่อแม่จะกินเราไม่มีสิทธิ์กินเหรอ พอเถียงกลับไปว่าก็ควรจะขอก่อนนะบลาๆๆก็โดนด่าอีก ยังมีอีกหลายอย่างเลยคือเพลียสุขภาพจิตตก ปกติครอบครัวคนอื่นพ่อเค้าแย่งขนมลูกกินแล้วแม่มาด่าลูกเหรอ คือเราไม่เข้าใจเลยจริงๆ=_______=
แถมอีกเรื่อง สมมติว่าที่บ้านมีคนทำน้ำหกแม่ก็จะมาด่าเราบลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆทั้งที่เราเพิ่งกลับมาจากโรงเรียนคือพ่ออยู่บ้านทั้งวันแต่เราเพิ่งมานะ กลับมาก็โดนเลย จริงๆเด็กอนุบาลก็น่าจะคิดได้มั้งว่าใครทำกลับมาจากโรงเรียนว่าเหนื่อยเเล้วกลับบ้านเหนื่อยยิ่งกว่า
เรื่องมีสาระเช่น เราจะสอบแล้วไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ด่า ว่าเนี่ยไม่มีปัญญาสอบติดหรอกโง่ๆอย่างนี้บลาๆๆด่าๆๆๆ
คือปกติกลับบ้านต้องมีพ่อแม่ให้กำลังใจใช่ป่ะ ของเรามีแต่บั่นทอนกำลังใจ =___=ไม่อยากกลับบ้านนี่ถ้าบ้านอยู่ใกล้โรงเรียนเราคงนอนที่โรงเรียนไปแล้ว
อีกเรื่องเช่น เราชอบประดิษฐ์ของใช้ของเล่นไรงี้ตั้งแตเด็กๆแล้วพอแม่โกรธแม่ก็เอาของที่เราทำอ่ะไปฉีกเอาไปทิ้งคือเราโคตรเสียใจอ่ะเราทำมาตั้งนาน คือแม่ตีเนี่ยเราไม่ร้องไงคือเราโดนจนชินแล้วแม่ก็ตีจนเลือดออกเราก็ไม่ร้อง พอแม่ทำงี้เราก็ร้องเลย แล้วแม่ก็บอกว่าเออวันหลังทำงี้ดีกว่าหัวเราะสะใจด้วย<<<<<=____=คือแม่เราผิดปกติป่ะคนปกติเ้าทำกับลูกเค้าแบบนี้ตั้งแต่ลูกเด็กๆเลยเหรอ
ทุกคนมักจะบอกว่าเป็นลูกต้องทน แต่คือเราทนจนจะประสาทกินแล้ว เราเคยคิดฆ่าตัวตายด้วยนะคือมันเยอะไปเราอยากทำอะไรก็ไม่ได้ทำเราชอบวาดรูปแต่แม่บอกว่าอยากให้เราเก่งคณิตมากกว่าทั้งๆที่เราทำไม่ได้ ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วดึกประมาณหกโมงเย็นนี่ด่าเหมือนเราไปฆ่าคนตายทั้งๆที่แม่เคยบอกเราว่าจะไปไหนก็ไปกูก็ไม่สนหรอกไม่ตามด้วย เรื่องเรียนก็โดนกดดัน แล้วก็อีกหลยเรื่องมันทำให้เราแทบจะเป็นบ้าและอยากตายมากๆเลย แบบเหมือนเด็กเก็บกด55555+ แต่คือเพื่อนด่าเรายับเลยว่าอย่าทำแบบนั้นทนๆไปก่อนอย่าคิดสั้นเราก็เออเราคิดสั้นไปฆ่าตัวตายหนีปัญหามันไม่ดีก็พยายามอดทน แต่แม่ด่าเราตีเราแบบไม่มีเหตุผลทำร้ายร่างกายเราด่าเรากับอีแค่เรื่องไร้สาระเนี่ยเราต้องทนอีกนานแค่ไหน???ตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมคือเราโดนตลอดอ่ะ แม่เราผิดปกติหรือเราผิดปกติเนี่ย???
ถ้าคนที่เป็นแม่มาอ่านกระทู้นี้//แม่ทุกคนทั่วๆไป จำไว้นะคะกรุณาอย่าตีลูกคุณเลยถ้าไม่จำเป็น นอกจากลูกของคุณจะถูกทำร้ายร่างกายโดยคนที่เค้าไว้ใจแล้ว ยังถูกทำร้ายจิตใจด้วย
9 ความคิดเห็น
สู้ๆนะคะ ปัญหาแบบนี้เราก็มี แต่เรามีแค่แม่ 55555 แต่แม่เราไม่ได้เป็นแบบแม่จขกทขนาดนั้นนะ อารมณ์ขึ้นๆลงๆเหมือนกัน คิดว่าตัวเองถูกตลอด พอพูดความจริงก็ด่า ประมาณว่ารับไม่ได้ค่ะ บอกเรา- ช่างเถอะ ทำใจ ชินจนเราเมินเป็นนิสัย จนไม่มีใครให้ด่าอ่ะ 5555555
แม่เราก็เป็นอย่างนี้ค่ะ(ดีกว่าจขกท.หน่อย เป็นแต่แม่)
เราว่า จขกท. ต้องระเบิดอารมณ์คุยเลย
เราเคยร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วก็พูดๆๆๆๆๆ มันทนไม่ไหวแล้ววววว
แม่ก็ลดๆลงนะ แต่ก็แค่แรกๆแหล่ะ555555 นานไปเหมือนเดิม
เอาเป็นว่าปล่อยๆมัน อย่าเก็บมาคิดมาใส่ใจเลย
พูดเสียงดังใส่แม่ก็อย่าไปพูด ถึงแม่พูดไม่ดีก็เหอะ
ยิ่งเราดังใส่ ก็เหมือนสาดอารมณ์ใส่กัน ตัวเราจะโดนเองนี่ล่ะ
เราเองก็ปล่อย เวลาแม่พูดไม่ดี เมื่อก่อนเราเถียงกลับ เสียงดังใส่
มันเลยไม่จบ ทะเลาะยาว
เดี๋ยวนี้เราปล่อย แม่ก็เลยลดๆ(แต่บางทีก็เผลอเหมือนกัน)
เอาเป็นว่า ปลงซะ รอเข้ามหาลัย แล้วสอบที่ไกลๆเอา
เราว่าการไม่ใส่ใจแม่ ไม่เถียง ไม่ไร มันทำให้ดีขึ้นจริงนะ
ยังไงแม่ก็ต้องรักแหล่ะ ไม่งั้นไม่ให้ตังค่าขนม ไม่เลี้ยงดูหรอก
555+โอเค ขอบคุณทุกคนมากนะจะลองเอาวิธีที่แนะนำไปใช้ดู
สู้ๆค่ะ ยังไงก็แม่เรา
แรกๆมันอาจจะยากหน่อย ในการหักห้ามอารมณ์ไม่ให้เถียงกลับ เสียงดังกลับ พอนานๆไปมันจะชินเองค่ะ ถึงในใจแรกๆจะโมโห ทำไมแม่อย่างนั้นอย่างนี้น้า= = แต่ก็เปลี่ยนเป็นคิดถึงคนที่เค้าแย่กว่าเราเอา
รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะค่ะ55555555
พี่อ่านมายังอึดอัดแทนเลย. ไม่เข้าใจจิงๆ. ว่ากันว่าไม่มีแม่คนไหนไมีรักลูก แต่อันนี้พี่ไม่ค่อยเชื่อและ. คือไม่บ่งบอกเลยว่ารัก เลี้ยงดูไปแค่รับผิดชอบรึป่าว. คนเราเกิดมามีสิทธิเป็นของตัวเอง มีสิทธิที่จะอยู่ต่อ แต่เรื่องตีไม่แน่ใจอ่ะ. คือถ้าเป็นพี่ จะหูทวนลมใส่ ไม่สนใจไปยุห้อง เล่นข้างนอกบ้าง. เข้ามหาลัยละใช้ชีวิตอิสระดีกว่า. ถ้าโตกว่านี้ก้ลองหางานทำดูเผื่อจะเป็นคนที่ดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร. เหนื่อยแต่มันดูอิสระและมีความสุขกว่างละมั้ง
โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) “อัล” เป็นนักประดิษฐ์แถวหน้า ผู้นำแสงสว่างมาขจัดความมืดมิด ในฐานะผู้คิดค้นหลอดไฟ และคิดค้นสิ่งแปลกใหม่อื่นๆอีกมากมายกว่าพันชนิด
ในวัยเด็ก “อัล” ได้ร่ำเรียนหนังสือจริงๆแค่ 3 เดือนเท่านั้น เพราะเริ่มเข้าเรียนประถมตอนอายุ 8 ขวบ แต่ไม่ค่อยจะสนใจเรื่องที่ครูสอนจากตำรา มัวไปมองเรื่องรอบตัว จนครูพวกอยู่แต่ในกรอบทนไม่ไหว ดุด่าว่ากล่าวว่าเป็นเด็กแสนทึ่ม จนสุดที่คุณแม่ แนนซี่ แมทธิวส์ เอลเลียตต์ (Nancy Matthews Elliott) จะทนไหว ก็เลยพาลูกออกจากโรงเรียนไปสอนเองที่บ้านประสาแม่ลูก
โทมัส อัลวา เอดิสัน
เอดิสันพูดถึงคุณแม่แนนซี่ว่า “แม่คือผู้สร้างผมขึ้นมา เป็นผู้หญิงที่เชื่อมั่นในตัวผม แม่ทำให้ผมรู้สึกว่ามีคุณค่าที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อคนที่ผมต้องไม่ทำให้ผิดหวัง”
คุณแม่แนนซี่ยังเปิดโอกาสให้ “อัล” ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ทั้งๆที่ครอบครัวเอดิสันก็ไม่ได้ร่ำรวย แต่คุณแม่แนนซี่ก็หารือกับคุณพ่อแซมมวล (Samuel Edison) และช่วยกันสร้างห้องทดลองใต้ดินให้พ่อหนูอัล ซึ่งอายุแค่ 10 ขวบ เพื่อให้ลูกชายได้ทดลองอะไรต่อมิอะไรได้ตามใจปรารถนา
หากไม่ใช่เพราะมีคุณแม่แนนซี่ โลกนี้ก็คงไม่มีนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ กับผลงานหลายหลากที่ทำให้โลกเราพัฒนาไปอย่างมีความสุข เช่น เครื่องเล่นจานเสียง กล้องถ่ายภาพยนตร์ เครื่องบันทึกเสียง ฯลฯ และผลงานสำคัญที่สุด คือ การประดิษฐ์หลอดไฟ แสงสว่างของโลก
เราเอาเรื่องนี้ไปให้แม่เราอ่านในเฟส และแม่เราไปโพสต์สเตตัสในเฟสว่า รู้สึกผิด ลูกสาวบอกเราดีแต่ด่าๆ แล้วหนูจะเป็นอัจฉริยะได้ยังไง (ลองพูดแบบเราดูมั้ย)
และในคอมเม้นโพสแม่เราอะแม่เราคอมเม้นว่า ลูกสาวส่งมาให้อ่าน พออ่านเสร็จอึ้งเลย สำนึกได้ 555
แม่เราคอมเม้นนี้จิงๆนะ เอาเป็นว่าส่งไปให้แม่อ่านนะค้ะ แล้วบอกแบบที่เราบอกแม่เราอาจจะได้ค้ะ สู้ๆ
แม่เราก็เป็นมีครั้งนึงที่เเม่ด่าแล้วเราร้องไห้แม่กลับหาว่าเราบีบน้ำตา ต่อมาเวลาโดนแม่ด่าเราก็จะสกัดกั้นอารมณ์ด้วยการทำตัวนิ้งๆ แล้วต่อมาเวลาแม่ด่าเราก็ทำตัวนิ่งๆแม่ก็ด่าเวลาแม่ด่าไม่สนใจแม่ ชอบทำหน้าแบบนี้ (ใครโดนด่าแล้วยิ้มละค่ะ)ห้องรกด่าถึงขั้นไล่ออกจากบ้าน ไม่ได้ทำรกเองด้วยน้องทำแล้วก็มาด่าเรา ทีพี่ของเราปีนห้องเอากุญแจขโมยรถแม่ไปดูดน้ำมัน แม่พูด แค่ว่า อย่าเอาไปอีกนะแม่ไม่ชอบ เราคือนี้อะร๊ายยยยสองมาตรฐานชัดๆ
มาดูยอดหญิงอัจฉริยะ
ทนค่ะ
- -
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?