อยากเรียนสายศิลป์ แต่โดนบังคับให้เรียนสายวิทย์
ตั้งกระทู้ใหม่
เซงค่ะ!!! จะจบ ม.3 อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนสายอะไร เป็นคนที่ชอบเรียนภาษาจีนค่ะ แต่โดนบังคับให้เข้าสายวิทย์-คณิตอ่ะค่ะ ทำไงดีคะ อยากเรียนสายศิลป์ แม่บอกให้เข้าสายวิทย์ (ออกแนวบังคับค่ะ) ไอ่เราก็ไม่ได้พูดอะไร จนมาถึงตอนนี้อยากเข้าอีกสาย ไม่กล้าพูดกับเเม่ค่ะ ต้องพูดยังไงกับท่านดีคะ
66 ความคิดเห็น
เราก็จะเข้าศิลป์สุดท้ายจบที่วิทย์เลยอยากจะให้กำลังใจ5555555
พยายามบอกเหตุผลที่ดีที่สุดว่าทำไมถึงจะเลือก
ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ลองคุยกันดูนะคะ
เราเลือกสายวิทย์ทั้งที่อยากเข้าสายศิลป์นี่ทรมานมากTTมันโหดเกินสมองเรา
ลองคุยกับคุณแม่ดีๆค่ะ ตอนนั้นพี่ก็เป็นเหมือนกับเราแหละ
แต่ก็ตื้อจนได้5555
บอกเหตุผลท่านค่ะว่า ทำไมเราถึงอยากเข้า จบแล้วจะทำอะไร และก็แสดงให้เขาเห็นว่าเราทำได้ค่ะ เข้าไปแล้วต้องตั้งใจเรียนมากๆเลยนะคะ ไม่งั้นจากหลุดพ้นจากจุดนี้ไป ไปเจอแรงกดดันวันข้างหน้าอีกว่า "บอกแล้วทำไมไม่เชื่อว่าให้ทำแบบนี้ๆนะ เห็นมั้ยพอตามใจก็เป็นแบบนี้ ฟหกดเ้่าสว" (ไม่ได้ว่านะคะ แต่เจอมากับตัวแล้ว55)
สรุปง่ายๆคือ อดทน อย่าเถียงท่าน
สู้ๆนะคะ จกขท.
ไม่มีคำแนะนำอะไรเลย แค่อยากมาระบายมั่ง ToT
ไปหาเหตุผลมาเถียงสู้เลยครับ เรียนแล้วดียังไง มีโอกาสงานไงบ้าง เดี๋ยวนี้อาชีพมันหลากหลายแล้ว ไม่ใช่อะไรๆก็หมอครูวิศวะการเมืองชาวนา
เกรดพี่ร่วงกราวววววววววววววจากม.ต้นมากกกกก
เรียนที่เราสนใจดีกว่าน้าา เค้าก็เป็นแบบนี้เลย อยากเรียนศิลป์แต่โดนบังคับเรียนสายวิทย์ แล้วเครียดมาก ๆ เราไม่ชอบเลย ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เกลียดหมด บอกไปเลยว่าเราชอบอะไรกันแน่ ถ้าเกิดว่าความคิดของเรามันผิดพลาด เราจะได้โทษได้ว่า มันเป็นความผิดพลาดของเราเอง ดีกว่าเรียนไปแล้วมันไม่ใช่แล้วไปโทษว่าเป็นความผิดพลาดของพ่อแม่นะคะ
อาชีพภาษา ยังไงก็ไม่อดตาย
สู้ ๆ นะคะ
สู้ๆนะคะ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าชอบอะไร ควรไปตามทางที่เราตั้งไว้ค่ะ เราเป็นคนชอบสายศิลป์-ภาษาเหมือนกัน แต่พ่อแม่บังคับอาจเป็นเพราะเป็รเลขห้องของรร.เราด้วยมั้ง ขึ้นชื่อว่าห้อง1 พ่อแม่ก็ดีใจเราก็เข้าสายวิทย์ได้ แต่เราพึ่งมารู้ตอนนี้ ว่ามันไม่ใช่เลย TT . ครูก็กดดัน เร่ชอบทำกิจกรรม เพิ่งรู้ตัวก็สายไปแล้วละค่ะ
สู้ๆนะครับ ขอให้ได้อย่างที่หวัง แต่ทั้งนี้ ลองถามคุณแม่ด้วยสิว่า ทำไมอยากให้เราเรียนสายวิทย์หล่ะ คุณแม่อาจเป็นห่วงอนาคตของเรา เพราะในปัจจุบันนี้ คนที่จบด้านสายศิลป์มีเยอะเกินไปแล้ว เป็นกลุ่มแรงงานที่ล้นตลาด และความรู้ทางสายศิลป์ก็ยังเอาไปทำอะไรต่อยาก
ส่วนเรื่องภาษาจีนหน่ะ มันเรียนเพิ่มเติมได้ ถ้าเป็นเด็กจบสายวิทย์ที่พูดจีนได้มันจะเท่กว่าจบสายจีนที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดเขียนภาษาจีนเลยทีเดียวนะ ลองตรองดูก่อนนะ ในระยะยาว เราอยากจะทำอะไร
ภาษาจีนเอาไปทำอะไรต่อได้มากมายก็จริง แต่เราจะเอาไปทำอะไรต่อได้ถ้าไม่มีความรู้หรือหลักวิชาการ ลองนึกๆดูนะ ถ้าวันหนึ่งที่เราจบสายวิทย์ที่และเป็นภาษาจีนด้วยไปแล้วพบว่า ฉันอยากใช้ภาษาจีนไปทำอาชีพสายศิลป์ ถึงตอนนั้นก็ยังไม่สาย แต่ถ้าวันหนึ่งที่จบสายศิลป์จีนแล้วพบว่า แรงงานสายศิลป์อย่างฉันมันล้นตลาด และความรู้ด้านภาษาจีนที่มีก็เอาไปทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดเจรจากับคนจีน เพราะสิ่งที่บริษัทต้องการคือวิศวกรที่พูดจีนเป็น หรือหมอ หรือพยาบาล หรือนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นภาษาจีนมากกว่าเพียงคนที่พูดจีนได้ ตอนนั้นเราที่จบสายศิลป์มาก้จะทำอะไรไม่ได้เลย
อันนี้แค่ยกตัวอย่างนะ ถ้าคุณมีเป้าหมายใดๆอยู่แล้ว ก็จงมุ่งไปอย่างตั้งใจต่อไป
เราก็บอกการวางเเผนของอนาคตของเราไปเลยว่า ต่อม.4ที่ไหน สายอะไร เรียนจบเเล้ว จะต่ออะไร ที่ไหน ด้วยเกรดเท่าไร ถึงปริญญาอะไร เเล้วทำงานอะไรต่อ มีเเฟนเเล้วจะเเต่งงานอายุเท่าไร พอเเก่เเล้วจะทำอะไรต่อ (รู้สึกหลังๆไม่ใช่ละ - .- ) ลองพูดกับเขาดีๆใจเย็น พูดด้วยเหตุผล พูดด้วยความมั่นใจ เขาจะได้เชื่อเรา เเต่ถ้าพูดกับเขาเเรกไปก็ขอโทดเขาด้วยเเล้วกัน (ดีกว่าเราอีก อย่างน้อยก็รู้ว่าตัวเองเก่งอะไรเเละชอบทอะไร เรานี้ยังไม่รู้ว่าเก่งอะไร เเล้วชอบทำอะไรจะจบอยู่เเล้ววววว)
ฝากถึงเจ้าของกระทู้นี้นะจ้า พี่เป็นคนหนึ่งที่โดนแม่บังคับ (เข้าขั้นกดดันมากที่สุด) ให้พี่เรียนวิทย์-คณิต เพราะทางตระกูลที่จบเป็น วิจัย เภสัช วิศวะ กัน มีพี่เพียงคนเดียวที่เลือกเรียนสายศิลป์ พี่ขัดใจกับคนทางบ้านมาก ถึงขั้นจับพี่ไปเรียนครอสวิชา เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา คณิต เลย พี่เรียนได้ปีนึง มันหนักมากครับน้องหนักสุดๆสูตรแม่งโครตเยอะเลย555ศัพท์เฉพาะก็โครตยาก
อืม....กรณีเดียวกับเพื่อนพี่เลยจ้ะ ^_^
ตัวพี่เองก็อยู่สายศิลป์-ภาษาจ้า ตอนสมัยม.3เพื่อนพี่ก็โดนแม่บังคับให้เรียนสายวิทย์-คณิต ตัวเราไม่ชอบ แต่คนรอบข้างอยากให้เป็นในสิ่งเขาเป็น ถึงพวกท่านจะหวังดีกับเรามากแค่ไหนอยากให้เรียนอาชีพดีๆ ทางเลือกเยอะก็ตามแต่....ถ้าหนูไปจมปลักกับสิ่งที่ไม่ชอบเรียนไปก็ไม่มีความสุขหรอกจ้ะ จงอย่าเสียเวลาเปล่ากับสิ่งที่เราไม่ชอบ ลองบอกเหตุผลกับท่านดีๆเพราะ"ไม่มีพ่อแม่คนไหน...เห็นลูกทำในสิ่งที่ชอบแล้วไม่มีความสุขกันหรอกนะ"
ตรงนี้ถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตถ้าเราเข้าใจชีวิตได้ เราสามารถมองเห็นเป้าหมายที่ไกลจากตัวเราในตอนนี้ได้นะ ในปีหน้าจะเข้าAECแล้ว ภาษาจีนตอนนี้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในการทำอาชีพเลยล่ะจ้ะ พี่เชื่อว่าหนูมีความสุขกับภาษาจีน ภาษาที่สามรถติดต่อเป็นวงกว้างๆได้
ขอให้มีแรงฮึดผลัดดันและสู้ต่อไปนะ!! พี่เชื่อว่าพวกท่านต้องฟังหนูอย่างแน่นอนจ้ะ ^^
คือถ้าหัวดี เรียนได้เกรด 4 สายวิทย์คือขนมหวาน เรียนวิทย์ดีกว่าค่ะ ภาษาไปเรียนพิเศษเสริมได้ สายวิทย์ได้เปรียบกว่านะ จบวิทย์แต่ไปเป็นไกด์ก็ยังได้อะ
แต่ถ้าหัวไม่ดี ปานกลาง พอไปไหว จะไปวิทย์ต้องมั่นใจหน่อยนะว่าไปแล้วรอด ม.ปลายจะยากกว่าเดิม ป.ตรีจะยิ่งยากขึ้นไปอีก ถ้าเรียนแล้วเกรดดิ่งลงเหว เรียนเพื่อสอบ ความรู้ไม่มีติดหัว จบมาไม่ได้ใช้ หางานยากเพราะเกรดไม่ดี เรียนศิลป์ดีกว่า
การแข่งขันในตลาดมันสูง ถ้าเราสู้คนที่เรียนดีด้วยใจรักด้วยไม่ได้ก็ลำบาก
ที่สำคัญ ม.ปลายคือการปูพื้นฐานสู่อาชีพในอนาคต อาชีพอะ เราต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิต
แม่อยากให้ทำอะไรละ ถึงให้เรียนวิทย์ แม่ต้องมีธงในใจแล้ว ไปหาข้อมูลว่าอาชีพนั้นจริง ๆ เป็นยังไง อย่าเอาที่ชาวบ้านเขาเพ้อ ๆ มาลง หรือคนภายนอกมองนะ เอาประสบการณ์จากคนเรียนและทำงานด้านนี้จริง ๆ แล้วดูสิ แม่เราเข้าใจถูกไหม
แต่พี่ว่านะ เข้าใจผิดแน่ ๆ อะ เหอ ๆ ขนาดคนเรียนไอทีบางคนยังโดนเรียกไปซ่อมทีวีเลย ช่างไฟเรียกไปซ่อมแอร์ ช่างแอร์เรียกไปซ่อมไฟ ใครจะทำได้
คนประสบความสำเร็จในอาชีพ = คนที่อยู่แถวหน้าของวงการนั้น
คนที่รวย = คนที่มีสินทรัพย์ มากกว่าหนี้สิน และมีเงินใช้แม้จะไม่ได้ทำงาน
พี่ทำงานที่สบาย เงินดี แต่พี่ก็ยังไม่รวย ไม่ประสบความสำเร็จ แถมไม่มีความสุข ไม่มีวันเป็นคนแถวหน้าของวงการไปยันแก่ตาย (เพราะเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ)
เบื่อเหมือนกัน อาชีพมีเยอะแยะ อะไร ๆ ก็หมออยู่นั่น วิศวะอีกอย่าง เอาเข้าจริงพ่อแม่ไม่รู้หรอกมันแบ่งสาขาย่อยหลายอย่างและลูกจะได้เรียนและทำงานเกี่ยวกับอะไร รู้แต่เงินดี ดูมีเกียรติ
ก็…ลองดูก่อนว่าเราเก่งวิท-คณิตรึป่าว ถ้าไม่เก่งก็เอาไปบอกแม่ประมาณว่า'หนูไม่เก่งคณิตค่ะแม่ สมองหนูมันไม่ให้ เรียนภาษาดีกว่า หนูชอบ'อะไรประมาณนี้นะคะ
จขกท. เรียนสาย วิทยื-คณิตเก่งหรือป่าวละ เราเป็นคน1 ที่เรียนพวก วิทย์-คณิตไม่เก่ง แม่เราก็ถามนะว่าอยากเรียนอะไร เราก็บอกว่าไม่รู้สิ แม่บอกว่างั้นเรียนสาย ศิลปืปเลยละกัน เพราะถ้าเรียน วิทย์-คณิตสงสัยจะไม่จบ 555+ พ่อเราก็บอกให้เรียนสายวิทย์ เหมือนกันเพราะบ้านเราจบ วิทย์-คณิตมา แต่เรารู้ตัวอยู่แล้วว่าไปไม่รอด พ่อแม่เราเลยบอก ตามใจเราเลย จะเรียนอะไรก็ตามใจ ลองคิดดูว่าอยากเป็นอะไร ถนัดด้านไหน ลองดูแล้วไปปรึกษาดู สู้ๆ
ผมก็โดนนะแต่ไม่ได้ขนาดนั้นพอบอกพ่อว่า เรียนแล้วกลัวเครียด พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร -3- //จริงๆก็แค่ขี้เกียจแหล่ะเอาตรงๆ แต่พอเรียนแล้วสายศิลป์ก็ใช่ว่าจะง่ายนะ
#ใครถามว่าทำไมเรีนสายศิลป์วะ
ผมก็ถามกลับนะครับแล้วทำไมต้องเรียนสายวิทย์หล่ะมีกฎบอกเหรอ - -
ชีวิตผมกำหนดเองได้ บางคนเข้าสายวิทย์เพราะไม่รู้ตัวเองอยากเป็นอะไรก็มีบางคนก็แค่ตามเพื่อน บางคนพ่อแม่บังคับเข้าใจพ่อแม่นะ คงคิดว่าเรียนสายวิทย์อนาคตดีกว่า แต่บางครั้งก็ต้องมองลูกตัวเองด้วยว่าชอบอะไร -3-
#เขาบอกสายศิลป์เถื่อน
ผมบอกเลยผมเรียนมาเพื่อนผมก็ไม่ได้เเย่นะ มีโดดเรียนบ้างแต่ก็ไม่ได้ยกพวกตีกันอะไรปานนั้น เวลาบอกให้เรียนก็นั่งเรียนนะ แถมเทอมนี้ก็เรียนดีขึ้นนะจากที่สังเกต ผมว่าสายศิลป์มันก็ไม่ใช่ทุกคน อย่างห้องผมนี่ครูก็บอกรุ่นนี้เรียบร้อยสุดละ แล้วสายวิทย์เถื่อนก็มีเยอะแยะ อย่าพูดให้มากเดี๋ยวปั๊ดเลี้ยงหนม
#ลองขอแม่เรียนดูก่อนได้ไหม โรงเรียนผมจะให้เรียนก่อนแล้วะมีช่วงย้ายสายไม่รู้โรงเรียนอื่นมีไหม -3- เผื่อจะได้รู้ว่าชอบไหม
ขอโทษที่นอกเรื่องมานะที่นี้ครับ //อพยพหนีรองเท้า
ปล.ยังไงก็สู้ๆนะ ถ้าได้เรียนในแนวที่ชอบผมว่าน่าจะมีความสุขกว่าคนอื่นนะ (อิจฉานิดๆ T^T) เรียนสายภาษาไม่อดตายหรอกครับ
ลองมาสอบเตรียมสายศิลป์ดูไหม?
เชื่อผมเรียนวิทย์(เพราะผมเรียนสายวิทย์ 555)
เรียนสายวิทย์จะไปสอบของสายศิลป์ก็ได้ ตามประสบการณ์ของผมที่เรียนสายวิทย์นะ ครูที่สอนอะจะตั้งใจสอนสายวิทย์มากกว่าสายศิลป์นะ ผมอยู่ห้อง 2 นะ รู้สึกจะได้ครูที่เก่งๆของโรงเรียนมาสอนด้วย แต่ถ้าสายศิลป์ผมละสงสารเพื่อนจริงๆเรียนกับครูอะไรไม่รู้(ตามรุ่นพี่บอกมา) สอนไม่รู้เรื่องอะไรประมาณนี้
อีกอย่าง ถ้าตอนแรกเราอยากเป็นอาชีพที่เกี่ยวสายศิลป์ แล้วพอผมขึ้น ม.6 เราสามารถกลับมาเรียนสายวิทย์ได้ ตอน ม.5 อยากเรียนเศรษฐศาสตร์ พอขึ้น ม.6 คือก็อยากเรียนเศรษฐศาสตร์นั้นแหล่ะ แต่จำเป็นต้องเรียนวิศวะ เลยสามารถเปลี่ยนได้ แต่ถ้าน้องเรียนสายศิลป์จะไปสอบสายวิทย์ก็คงไม่ได้นะครับ
เลือกให้ดีน้อง
มาแนะนำค่ะ พี่เจอเหตุการณ์เดียวกับน้องเป๊ะเลย คือแม่บังคับให้เรียนวิทย์ แต่พี่รู้ตัวเองตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ถนัดวิทย์คณิต ยิ่งเรียนก็ยิ่งแย่ แล้วยิ่งถ้าในอนาคต จะเข้ามหาลัยคณะที่ไม่เอาวิทย์เนี่ย สู้มุ่งมาเรียนทางภาษาเลยน่าจะดีกว่านะคะ พี่ยอมแม่เรียนสายวิทย์ได้สองอาทิตย์ สุดท้ายพี่ก็ขอย้ายมาเรียนสายศิลป์ค่ะ มันไม่ไหวจริงๆ และอยากจะบอกว่าคิดถูกมากที่ย้ายมา คือเรียนแล้วมีความสุข ได้คะแนนดี เข้ามหาลัยก็สบายๆ ไม่ต้องเครียดว่าเกรดฉันแย่ จะเข้าได้มั้ย เพราะเรียนในสิ่งที่ชอบ แรงบันดาลใจมันมี คะแนนมันก็เลยดีไปด้วย ยิ่งเรียนยิ่งชอบยิ่งทำได้ดี จนตอนนี้พี่ได้ทุนมาเรียนที่ต่างประเทศ พี่ทำให้แม่เชื่อใจและภูมิใจ ว่าวันนั้นพี่เลือกทางไม่ผิด
ดังนั้นก่อนอื่นน้องต้องมองไปให้ไกลอีกนิดนึงค่ะ ว่าจบม.ปลายแล้วอยากจะเรียนคณะอะไร แล้วคณะนั้นจำเป็นต้องใช้คะแนนวิชาไหนบ้าง แล้วถ้าน้องมั่นใจแล้วว่าจะโบกมือบ๊ายบายคณะสายวิทย์แน่ๆ ก็บอกแม่ไปเลยค่ะ ว่าหนูวางแผนไว้แล้วแบบนี้นะ อธิบายให้แม่เข้าใจค่ะ อย่าเถียง แม่เค้าก็หวังดีอยากให้เราได้ทำงานดีๆในอนาคต ก็บอกแม่ไปว่างานดีๆ ไม่จำเป็นต้องเรียนวิทย์อย่างเดียว เรียนภาษาก็มีงานดีๆที่มั่นคงทำได้ แล้วถ้าน้องมองไปให้ไกลกว่านั้นอีก ว่าเรียนจบแล้วจะทำงานอะไร แล้วน้องคิดว่างานนั้นต้องใช้ทักษะหรือความรู้อะไรบ้าง น่าจะทำให้ตัดตัวเลือกได้มากขึ้นนะคะ
พี่เป็นกำลังใจให้นะคะ พี่เข้าใจเลยว่าตอนนี้มันกดดัน มันเครียด มันสองจิตสองใจ อยากจะทำตามใจตัวเองแต่แม่ก็ไม่ยอมรับ แต่ถ้าจะตามใจแม่ตัวเองก็จะลำบากอีก น้องต้องค่อยๆคิดนะคะ ค่อยๆคุยกับแม่ บอกความต้องการของเรา บอกว่าเราวางแผนอนาคตไว้อย่างไรบ้าง แล้วเมื่อเลือกได้แล้วก็ต้องทำตามที่พูดนะคะ มุ่งมั่น ตั้งใจเรียน ทำให้แม่เห็นว่าเราเลือกทางไม่ผิด ทำให้พ่อแม่ภูมิใจให้ได้นะคะ สู้ๆค่ะ !
ปล. อันนี้เล่านิดหน่อย เด๋วจะคิดว่าวิทย์คณิตไม่สำคัญ พี่เคยไปฝึกงานเป็นล่ามโรงงาน อยากจะบอกว่าลำบากมาก เพราะไม่มีความรู้เรื่องวิทย์คณิตเลย เรื่องง่ายๆก็แทบจะไม่รู้ จะแปลแต่ละทีก็ต้องถามให้เค้าอธิบาย บางทีก็ต้องกลับมานั่งอ่านหนังสือเรียนวิทย์ 5555 คืออยากจะบอกว่า คนเรามันถนัดต่างกันไปนะคะ บางคนเรียนวิศวะก่อนแล้วค่อยมาฝึกภาษาทีหลังก็มี หรือจะเป็นแบบล่ามที่เรียนภาษามาก่อนแล้วค่อยมาเอาความรู้ด้านอื่นทีหลังตอนเข้าทำงานก็ได้ แล้วแต่จะชอบค่ะ น้องคิดว่าตัวเองถนัดแนวไหนก็เอาแบบนั้นนะคะ ไฟท์ติ้ง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?