ทำไมพวกผู้ใหญ่ชอบบังคับให้เข้าที่นู้นที่นี่ผิดสัญญาด้วย
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
31 ความคิดเห็น
ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แบบนี้ น่ากลัวมากอ่ะ
เธอเรียนที่ไหนบอกด้วยนะ เราจะได้ไม่ไปเรียนที่นั่น
น่ากลัวจัง ทำไมไม่คุยกับแม่ด้วยเหตุผล ใช้อารมณ์ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ของพังอีก
แย่นะครับ ลูกอกตัญญู แถมอารมณ์รุนแรงแบบนี้ เรียนอะไรมาก็ไม่เจริญหรอก
ใจเยนๆนะคะ เราเข้าใจเลยว่าคุณรุสึกยังไง เพราะเราก้อยากไปเรียนต่อยุ่น แต่ทางที่ดีตอนนี้คุณควรรอให้คุณแม่อารมดีขึ้นก่อนแล้วคุยด้วยเหตุผลดูว่า เรายืนยันอยากจะไปเรียนที่สุดแล้วเราก้ทำตามสัญญามาตลอดแล้ว หรือลองพาคุณแม่ไปคุยกับjassoดูนะคะ เค้าจะแนะนำดีมากๆ แนะนำทุนไรให้เยอะแยะเลย คุณแม่คงรับฟังขึ้นบ้างแหละค่ะ สู้ๆนะคะ อย่าใช้อารมณ์เลยมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
ทำขนาดนั้นนี่หมือนเอาวีซ่าทิ้งน้ำอะค่ะ รุนแรงจริงๆ พังข้าวของขนาดนี้นอกจากของเสียแล้วแม่ก็ยังได้เหตุผลเพิ่มอีกข้อที่จะไม่ยอมให้เราไปสานฝัน มันถูกของแม่จริงๆที่เราคุมอารมณ์ไม่ได้อันตรายเหลือเกินที่จะให้ไปคนเดียว สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมแห่งมารยาทนะคะ การที่เราสอบจนได้มหาลัยอันดับดีในญี่ปุ่นแสดงว่าเก่งมากแล้วนะถ้าพูดคุยกันต่อไปเชื่อว่าต้องได้ไปแน่ๆ เคยขอพ่อไปเรียนภาษาญี่ปุ่นเหมือนกันแต่พ่อไม่ยอมจะให้เรียนจีน เราเลยยกเลิกแผนการเรียนภาษาทิ้งดักดานกับภาษาไทยต่อไป จนวันนึงพ่อเราเห็นประโยชน์ของการมีภาษาที่สามและยอมให้ไปเรียนจนได้ น่าจะบอกถึงข้อดีการไปเรียนที่โน้นให้แม้ฟังนะเทียบกับมหาลัยที่แม่ชอบ เทียบให้เห็นกันเต็มๆไปเลน ทำไมแม่ว่าดีมันสู้ของเราได้ตรงไหน จบในไทยมันดีกว่าจริงๆหรอ จบญี่ปุ่นมายิ่งมีดีกรีมีภาษติดมาทำไมไม่ดี ถ้าของเราดีจริงสุดท้ายแม่ต้องหมดข้ออ้างแน่นอน ถ้าข้ออ้างสุดท้ายคือแม่อยากให้เรียนที่นี่ ถามแม่นะ ว่าแม่อยากให้เราเป็นเหมือนกันหรอ มีฝันที่ไม่ได้ทำแม่ต้องเข้าใจความี้สึกสิ ฝันของแม่แม่ทำไม่สำเร็จ แต่ของหนูใกล้แล้วนะ อีกนิดเดียวเอง เหลือแค่แม่จะสนับสนุนหนู ใจเย็นและคุยด้วยเหตุผลคือคำตอบค่ะ
แรกๆก็สงสาร แต่ตอนจบนี่แบบ ...... กระทู้ล่อเป้าสุดๆ
ที่ทำไปได้อะไรบ้าง คงคิดได้นะ 18-19 แล้วด้วย เห้ออ~
แรกๆก็เห็นใจนะ แต่ตอนท้ายก็ขอพูดคำเดียวกับแม่ค่ะ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้แบบนี้ไปเรียนเมืองนอกไม่ได้ โตแล้วนะคะอย่าใช้อารมณ์ตัดสินเลย โวยวายหยั่งกะเด็กอยากได้ของเล่น ยิ่งทำแบบนี้ถ้าเรามีลูกเราก็ไม่ให้ลูกไปหรอก มีแววอารมณ์รุนแรงถ้าไปแล้วไปทำแบบนี้ที่นู่นจะทำไง แนะนำหาจิตแพทย์ดีกว่า นี่ยังดีที่เป็นแม่ เขาทนได้ไม่ว่าลูกตัวเองจะแย่แค่ไหน ถ้าไประเบิดอารมณ์แบบนี้ใส่เพื่อนหรืออาจารย์จขกท.หมดอนาคตเรียนมหาลัยแน่ค่ะ เพราะเขาไม่รับคนจิตไม่ปกตินะ สรุปจขกท.เรียนเมืองไทยเถอะ ไม่ก็ไปหัดควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดีก่อน คิดให้เป็นผู้ใหญ่ก่อนถึงค่อยไปนะ
ก็อย่างที่แม่พูดนั่นแหละ วุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่มีแล้วไปอยู่ในสังคมที่คนเขาสงบๆอย่างญี่ปุ่นยากนะ
รู้ว่าอยากไป รู้ว่าเป็นความฝัน แต่เราว่าคนผิดในเรื่องนี้คือเธอ ไม่ใช่พ่อแม่เธอหรอก เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะเธอทำตัวงี่เง่า ไร้เหตุผล ทำตัวยังกะเด็กอนุบาล แน่ใจเหรอว่านี่คือคนที่กำลังเรียนปริญญาตรี เราว่าแม่เธอพูดไม่ผิดหรอก วุฒิภาวะเธอมัยไม่เหมาะที่จะไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองในต่างประเทศเลย เป็นบ้านเราทำลายข้าวของงี้ โดนตบค่ะ บอกเลย อายุขนาดนี้เราว่าจริง ๆ น่าจะคิดเองได้ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร รู้จักฟังเหตุผลบ้างแล้วนะ ไม่คิดบ้างเหรอว่าที่พ่อแม่ขัด เค้าอาจมีเหตุผล หนึ่งเลย พ่อแม่รักลูก เป็นห่วง ไม่อยากให้ไปอยู่ไกลหูไกลตา บ้านเรานะ แค่ไปอยู่หอยังไม่อยากให้ไปเลย เคยพูดเรื่องไปต่างประเทศเหมือนกัน พ่อเราบอกว่า พ่อแม่ไม่สามารถอยู่กับหนูได้ชั่วชีวิต เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกัน จะเหลืออีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ พ่อกับแม่อยากใช้เวลากับหนูให้นานที่สุด ไปอยู่ไกลๆแบบนั้น พ่อแม่ต้องคิดถึงหนูมากแน่ๆ และต่อให้คิดถึงขนาดไหนไกลขนาดนั้นก็ไม่สามารถไปหาได้บ่อยๆแน่ เรานี่ร้องเลยอ่ะ ทุกครั้งที่นึกถึง น้ำตามันก็ไหลนะ แม้กระทั่งที่พิมพ์อยู่นี่ เราก็จะร้องแล้วเนี่ย ประการที่สอง เธอบอกใช่ไหม ว่าเงินช๊อต แปลว่าพ่อกับแม่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน แล้วจะเอาเงินจากไหนมาให้เธอไปญี่ปุ่น มันไม่ใช่แค่ค่าเครื่องนะคะ ต่อให้สอบได้ทุน ค่ากินค่าอยู่ ค่าที่พัก มันก็ต้องจ่ายเองอยู่ดี ไม่นับกรณีเกิดป่วยไข้ไม่สบาย ค่าหมออีก แล้วพ่อแม่เธอจะหาเงินมาจากไหน ถ้าส่งเธอไปต่างประเทศ แล้วทั้งครอบครัวต้องอดตาย แบบนั้นเธอก็ยังจะดึงดันไปให้ได้เหรอ ถ้าอยากไปจริง ทำงานเก็บเงินไปเองสิ อย่าพึ่งเงินพ่อแม่แม้แต่บาทเดียวสิ เก็บได้ครบพอเป็นค่าสารพัดนั่นเมื่อไหร่ เราว่าเธอก็คงมีวุฒิภาวะพร้อมพอจะไปต่างประเทศพอดี หวังว่าจะกลับไปคิดซะใหม่นะ เพราะถ้าขนาดนี้ยังคิดไม่ได้ เธอก็คงเป็นลูกที่เลวมากๆแล้วล่ะค่ะ
หนูรู้ค่ะว่าการที่ผิดคำสัญญา มันน่าโมโหขนาดไหน แต่นั่นคือแม่เราเลยนะคะ ยังกล้าทำขนาดนี้ ถ้าให้ไปอยู่กับคนอื่นล่ะคะ พี่จะหนักขนาดไหนเวลาพี่โกรธ บางทีเราก็ควรคิดดีๆนะคะว่าสาเหตุที่ทะเลาะมันมาจากอะไร
พี่บอกว่าเอาเก้าไปทุบรถ เอาไม้ไปทุบห้องแม่ ถ้าโตขึ้นพี่มีลูกทำแบบนี้ขึ้นมา พี่จะรู้สึกยังไงคะ?
อย่าท้อนะค่ะสู้ๆต่อไป คุยกับแม่ด้วยเหตุผลนะค่ะ
1.ถ้าเป็นเพื่อน เขาก็จะรังเกียจและไม่อยากให้เข้าทำงานเป็นกลุ่มเพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
2.ทั้งรุ่นพี่และอาจารย์ต่างรังเกียจเพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ถ้าเป็นตอนรับน้อง เผลอๆถูกเรียกซ่อม(โดนลงโทษ)ทั้งรุ่น
3.รุ่นน้องจะไม่ให้ความเคารพ ถึงให้ก็ให้ด้วยความไม่เต็มใจเพราะกลัวพี่คนนี้จะวีนใส่และเอางานไปไกลๆเพราะกลัวรุ่นพี่คนนี้โกรธขึ้นมาแล้วพาลมาฉีกงานเป็นชิ้นๆ
เข้าใจการกระทำนะ คุณอาจจะเก็บกดจนไม่รู้จะระบายยังไงแล้ว ตอนนี้คุณคงจะพอคิดอะไรได้บ้างแล้ว ว่าการที่คุณระเบิดอารมณ์ มันทำให้อะไรดีขึ้นบ้างมั้ย แล้วกลับไปแก้ไขอะไรได้รึปล่าว
ส่วนของข้อแนะนำ
ขอให้ทนเรียนจนจบป.ตรีครับ แล้วหลังจากจบ ป.ตรี คุณจะทำอะไรก็ได้ เพราะคุณมีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ ที่มากพอแล้ว เล่าปี่ยังรอเกือบ 20 ปี ถึงได้ครองแคว้น แค่รอ3-4ปี คงไม่หนักหนาหรอกครับ
อันนี้นอกเรื่อง
การโตเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่จะทำอะไรได้ตามใจได้ง่ายๆหรอกครับ
ดีเนาะ พ่อแม่หวง พ่อแม่เรานี่ ปล่อยเราลอยเกาะ ทิ้งให้เราอยู่ญี่ปุ่น ผจญภัย สุดมันส์ พ่อกับแม่พูดเพียงคำเดียว ลูกพ่อแม่ ต้องทนได้! จขกท ยังดีพ่อแม่เป็น ห่วง ดีนะ อย่าปฏิเสธ ความหวังดีของพ่อแม่เลย เรานิ นั่งเพ้ออยู่ทุกวัน พ่อแม่จะคิดถึงไหม ปล.เราก็อยู่ญี่ปุ่น อยู่นี่ เก็บกฏมากๆ ภาษาก็พูดไว เราอยู่โอซาก้านะ โหดจริงไรจริง คิดถึงไทยยยยยยยยยย
-ที่ไปว่าจขกท.อ่ะ
ตอบเค้าก่อนสิ ว่าก่อนหน้าที่จขกท.จะทุบรถ เค้าทำไรผิด
ตัวแม่ก็ใช้จะมีเหตุผลนักหนา
ลูกทำลายข้าวของ ลูกสำนึกผิด ทำงานเก็บเงิน ไม่นานก็หาใหม่มาคืนได้
ตัวแม่ทำลายความฝันลูก พอแม่สำนึกได้ว่าไม่ถูกต้อง ถามหน่อย เวลาที่เสียไป แม่เอามาคืนได้เหรอ
ถ้าจะด่าว่าจขกท.ไร้เหตุผล มันก็ไร้เหตุผลมาตั้งแต่อาม่าแล้ว
สมองมีก็คิดหน่อยนะครับ...รุนแรงแบบนี้คุณอยู่ญี่ปุ่นไม่ได้หรอกนะที่นั้นน่ะมารยาทจัดมากเลยนะครับ ผิดพลาดหน่อยเดียวเขามองคุณแบบเอาเป็นเอาตายเลยนะ อายุก็โตแล้วนะครับแต่ยังหาเหตุผลไม่ได้เเบบนี้ถ้าผมเป็นแม่คุณผมก็ไม่ให้ไปครับ ให้ตายก็ไม่ให้ไปครับ อยู่บ้านยังเป็นแบบนี้ ออกไปข้างนอกจะขนาดไหนกันครับเนี่ย คนแก่คนจีนเขาโกรธแค้นญี่ปุ่นผมอ่ะเข้าใจครับเพราะบ้านผมก็จีนจีนแท้100%กันทั้งเกือบหมดทางญาติฝั่งม๊าผมก็มีแต่คนพูดจีนครับ มีผมกับน้องชายนี้แหละที่ออกมาครึ่งจีนครึ่งไทยเพราะม๊าแต่งงานกะป๊าที่เป็นคนไทย แต่ผมอ่ะชอบญี่ปุ่น มาตายเอารุ่นผมนี้แหละที่ผ่าเหล่าชอบญี่ปุ่นมากๆ และไม่มีใครห้ามผมได้ด้วย ผมเองก็อยากไปแต่ผมไม่มีโอกาสเหมือนกัน แต่ผมจะเก็บเงินไปเองครับ ไม่งอมืองอเท้าหรอก ไม่รอให้ใครมาออกเงินให้หรอก อยากทำอะไรก็จะทำเอง เก็บเอง ถ้าเป็นเงินเราทีนี้ใครก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามแล้วล่ะครับ แล้วอารมณ์น่ะระงับไว้บ้างนะครับ ให้จำไว้ให้ขึ้นใจว่าญี่ปุ่นเป็นเมืองแห่งมารยาท เป็นเมืองแห่งความกดดัน ถ้าคุณไปทำกริยาแบบนี้ที่นั้นเขาจะมองคุณว่าเถื่อนกุ้ยทันที=_=
ปล. เม้น15อ่ะ ผมจะบอกให้นะ คุณพูดงี้ไม่ถูกหรอก ถ้าคุณคิดแบบนั้นแปลว่าความคิดคุณยังเด็กมากมายเลยล่ะ คุณแม่เขาก็ผิดครับที่ผิดสัญญา ผมเองก็เคยโดนผิดสัญญาเหมือนกัน ใครๆก็เคยโดน แต่ก็ไม่ควรทำแบบนี้ครับ การทำลายข้าวของนี้ไม่ใช่เรื่องครับ นอกจากผู้ใหญ่เขาจะมองไม่ดีแล้ว เขายังจะยิ่งไม่ปล่อยเราครับ คนอื่นเขาจะมองว่าเป็นพวกใช่ความรุนแรง อย่าอ้างว่าเดี๋ยวก็หาเงินมาคืนได้ ใช่ครับ มันคืนได้ แต่สิ่งที่พ่อแม่เลือกยังไงก็เป็นสิ่งที่ดีกับลูกเหมือนกัน แต่บางทีเขาอาจจะไม่เข้าใจความฝันของลูกครับ น้องชายผมมันจะเข้าคณะที่มันอยากเข้า มันเองก็ไม่เคยเถียงนะครับเวลาม๊าผมจะด่ามันหรือห้ามมัน ไม่พูดครับ ไม่ใส่อารมณ์ไม่โกรธ แต่มันจะพูดนิ่มๆครับ ทีเดียวม๊าผมเงิบและไม่ยุ่งกะมันเลย อยากเรียนก็เรียนไปเลย จบครับ ผู้ใหญ่ถ้าเราค่อยๆอธิบายให้เขาเข้าใจว่าสิ่งที่เราจะเรียนนั้นมีดียังไง ยังไงเขาก็เข้าใจเราได้ครับ ต้องดึงจุดที่ดีออกมาอธิบายสิครับไม่ใช่ทำลายข้าวของแล้วบอกว่ามันเป็นอารมณ์โกรธ ถ้าแบบนั้นผมโกรธใครผมต้องไปทำลายข้าวของทิ้งงั้นเหรอครับแหม จบนะครับ- -
เราก็เคยนะ สัญญาว่าจะให้เรียนสิ่งที่อยากเรียน ผลัดมาสี่ปีก็ยังรอ แล้วสุดท้ายความฝันก็มาพังลงดื้อๆ พูดหลอกให้เราระเบิดอารมณ์ แล้วให้เหตุผลแบบแถๆว่า ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อย่างนี้แหละถึงไม่อยากให้ไป ไม่อยากให้เรียน ถามหน่อยเถอะว่าเวลาทะเลาะกัน ใครตะโกน ใครกะทืบเท้า ใครทำตาเหลือกใส่ พูดด้วยเหตุผลดีๆ ใช้น้ำเสียงดีๆ ยังควบคุมให้ตัวเองทำอย่างนั้นไม่ได้เลย
แต่ก็นะ พ่อแม่นี่เนอะ
ป.ล. พ่อแม่ว่าเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้แค่เพราะขอคุยเรื่องนี้ตอนเขาจะนอน ยังไม่ได้ขึ้นเสียงใส่ด้วยซ้ำ
#ระบาย
คงต้องรออีกสองสามปีนั่นแหละ
เราก็เข้าใจความรู้สึกของ จขกท.อยู่นะ รู้อยู่แล้วว่าถ้าไปหาเรื่องตอนนี้ต้องโดนว่าว่าควบคุมอารมณ์ไม่ได้แน่ๆ แต่นั่งคิดอยู่ตั้งเกือบสองชั่วโมง คำตอบก็คือยังไงก็จะไปเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่รอจนถึงเช้าหรอก เพราะยังไงก็คงไม่ให้เราไปอยู่ดี แต่การทำลายข้าวของมันก็เกินไปหน่อยนะ ทำให้ข้ออ้างของพวกผู้ใหญ่มีน้ำหนักขึ้นเยอะ
ไปเหอะ แล้วจะได้รู้ว่าตัวเองจริงๆ เป็นไง ไปอยู่ในที่ที่คิดว่ามันดี แต่ต้องดิ้นรนทำเองทุกอย่างให้ได้ด้วยตัวเองดูเหอะนะ
เข้าใจที่โมโหที่ไม่ได้ไปตามสัญญา แต่ที่เอามาพูดว่า ทั้งยุอาม่า ทั้งแม่อยากให้ทำตามฝันแม่ เพื่อไรอ่ะ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นใช่ป่ะ ไม่ผิดที่โมโห มีเหตุผลที่จะอาละวาดทุบรถแม่ ทุบห้องแม่
แล้วที่บ้านเงินช็อต ก็ยังไปทำลายของ ถามจริงออกค่าซ่อมไหม ค่าใช้จ่ายไปญี่ปุ่นเท่าไรตกปีละกี่แสน บางทีเป็นล้าน มีเงินไหม เก็บเงินตัวเองไหม ความฝันตัวเองนี่ เตรียมอะไรบ้างอ่ะ ไม่ใช่แค่สอบจนผ่านแล้วนอนรอให้เขาเอาเงินให้ ไม่หาทุนเองล่ะ ทุนเรียนฟรีรัฐบาลญี่ปุ่นมีไม่เอา (มีเงินเดือนให้ด้วยนะ)
ความฝันตัวเองแต่ดิ้นรนครึ่งๆ กลางๆ มักง่ายไม่เต็มที่ แล้วยังจะมาโวยวายอะไร ถึงจะถูกผิดสัญญาก็ต้องรู้ว่าตัวเองทำเต็มที่จริงๆ หรือยัง
ส่วน-คนอ้างว่าแม่ทำลายความฝันลูก ถ้าแค่ไม่ได้เงินจากแม่เลยฝันพัง ฝันคุณโคตรรรรรรราคาถูกเลย งี้คนทำธุรกิจ ทำความสำเร็จมากมาย ทั้งร้องเพลง ทำละคร เรียนต่อนอก จนถึงเป็นเจ้าของร้าน เอาเงินบ้านทั้งนั้นอะดิ เลิกแบมือขอเงินแล้วโวยวายได้แล้ว (หรือพวกชอบกรอกประวัติพ่อแม่จ้างเรียนอ่ะ)
ฝันคุณน่ะ มีค่าแค่นี้เองเหรอ ไม่ได้ครั้งนี้ก็ฮึดสู้ชิงทุนเอาสิ ทนลำบากทำงานเก็บตังสิ หรือไม่อยากลำบาก ต้องให้พ่อแม่จ่ายทั้งชีวิต
เหรอออออ ทำงานเก็บเงิน หารถใหม่ แน่ใจนะ ว่าเก็บไม่นาน หาคืนได้ จะเก็บจริงไหม พอถึงเวลาก็ไม่ใช้คืนอะดิ
แล้วฝันตัวเองยังไม่รับผิดชอบเอง รอให้คนอื่นมาช่วย มันจะสำเร็จได้ไง ชิงทุนสิ ทุนมีเยอะแยะ มีทุนแบบเสียแค่ค่าตั๋ว แถมได้เงินเดือนจากรัฐบาลด้วยทุกเดือน ทำสิ ความฝันตัวเองอ่ะ หรืออยากสบายพ่อแม่ต้องทำให้ทุกอย่างแล้วโวยวายว่าฝันฉัน
อาม่าไร้เหตุผล แต่คนคิดว่าตัวเองน่าสงสารไร้เหตุผลกว่า เพราะความฝันตัวเองยังทำแบบไม่เต็มที่เลย ไม่เก็บเงิน แค่คิดว่าเรียนอย่างเดียวก็พอ มักง่ายดีนะ
มองอะไรก็อย่ามองมุมเดียว ใช่ค่ะพ่อแม่ผิดที่ผิดสัญญา แต่ลูกก็ผิดเหมือนกันที่ใส่อารมณ์ทำลายข้าวของ นี่มันนิสัยเด็กเล็กๆ ไม่ใช่คนที่กำลังเรียนระดับปริญญาตรี และไม่ว่าพ่อแม่จะผิดสัญญายังไง เงินที่จะไปญี่ปุ่นก็เงินเขา ถ้าเขากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน จนอาจต้องอดตายทั้งบ้าน ก็ยังดึงดันจะไปให้ได้เหรอ ในเรืื่องนี้เราว่าคุณ จขกท ควรรู้จักฟังเหตุผลของพ่อแม่บ้าง เปิดใจคุยเลย ว่าเพราะอะไร ไม่ใช่วิ่งไปทำลายข้าวของแบบนี้ คุณเองก็ควรมองในมุมของพ่อแม่ จขกท. บ้างนะคะคุณ จขคห.
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?