Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

55 วัน สายวิทย์ vs ภาษาฝรั่งเศส #รีวิว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
          ผมก็เป็นเด็กสายวิทย์ทั่วๆไป ไม่มีพื้นฐานด้านภาษาอื่นๆ สามารถเรียนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ได้นะครับ เกรดคือไม่ได้ย่ำแย่มาก แต่เมื่อช่วงปิดเทอมแรก ได้ลองทบทวนตัวเอง สุดท้ายได้คำตอบว่าชอบด้านภาษา แล้วก็คิดได้ว่า ถ้าไปเอาดีทาง PAT1 คงจะไม่รอด ก็เลยลองทุ่มซักตั้งกับภาษาฝรั่งเศส โดยผมจะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทนะครับ

1. ช่วงปิดเทอม ตั้งแต่ 1 - 31 ต.ค.
         เป็นช่วงที่มีเรียนพิเศษตัวต่อตัว
2. ช่วงเริ่มเปิดเทอม ถึงวันสอบ ประมาณ 1 - 25 พ.ย.
         หมดคอร์สติวแล้วครับ ก็จะเริ่มอ่านเอง เน้นทำข้อสอบ

           ผลคะแนน อาจจะได้ไม่ดีมาก แต่ผมก็พอใจนะครับ เพราะรู้สึกว่าทำเต็มที่แล้ว ได้ 186 คะแนนครับ ก็จะมารีวิวให้ดูว่า ถ้าเด็กวิทย์หัวใจศิลป์ต้องการเรียนภาษาอย่างเร่งด่วนนั้น ไม่อยากเลย ถ้ามี 3 สิ่งนี้
1. ความตั้งใจ แน่วแน่
2. ความขยัน
3. ความอดทน


           เริ่มกันเลยดีกว่านะครับ เริ่มแรกพอผมสนใจว่าจะสมัครสอบ PAT7.1 ก็เลยไปลองหาที่เรียนตัวต่อตัวดูเลยครับ เพราะว่าถ้าติวปกติก็คงจะไม่ทันแน่ๆ ก็ไปเจอเว็บ Tutorfrench ครับ ก็ลงคอร์ส 30 ชม. จากไม่มีพื้นฐาน เห็นว่าน่าสนใจก็เลยติดต่อไป แล้วก็ลองเรียนดู แบ่งออกเป็นการเรียน 15 ครั้ง ครั้งละ 2 ชม. เรียนวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ (ในส่วนนี้เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้)

ก่อนจะเรียนผมก็ไปลองศึกษาด้านตัวอักษร การออกเสียงอะไรมาบ้างครับ เราต้องพยายามขวนขวายด้วยตัวเอง ก่อนที่จะรอคนอื่นมาป้อนเรานะครับ การลองอ่านเองเบื้องต้น จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาคร่าวๆ แล้วจะทำให้การเรียนไปได้อย่างรวดเร็วขึ้นครับ วันแรกๆก็จะไปอย่างรวดเร็วมาก เพราะมันเป้นคอร์สรวบรัด ก็จะเริ่มตั้งแต่ การออกเสียง การใช้ La Le L' การใช้ accent ชนิดต่างๆ พื้นฐานทุกอย่างจะประดังเข้ามาเยอะมาก ซึ่งถ้าใครมีพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษที่ดีก็จะได้เปรียบ

ต่อมาก็จะเริ่มเรียนเรื่องการผัน Verbe เบื้องต้น การผัน Adj ตามประธานต่างๆ ไปจนถึงเรื่องของ Temp หรือ Tense ซึ่งในส่วนพวกนี้ถือว่ายากมาก เพราะภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่มีกฎเกณฑ์มาก แล้วก็แหกกฏมากเช่นกัน ถ้ามีเวลาก็ควรเก็บให้หมดเอาให้แม่น แต่ถ้าไม่เหลือเวลาแล้วจริงๆจะสอบอยู่แล้วก็อ่านผ่านๆให้เข้าใจก็พอครับ เพราะข้อสอบส่วน Grammaire ของ PAT7.1 สำหรับผม ผมรู้สึกว่ามันยากมาก 555 สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนพวกนี้คือการทบทวนนะครับ หลังจากเรียนเสร็จต้องทบทวนทุกวัน พยายามหาอะไรอ่านไปล่วงหน้าถ้าว่าง

พอเราเรียนทุกอย่างยัดจนจบภายในเวลาไม่ถึงเดือนแล้ว ก็จะมาเข้าสู่
เนื้อหาการสอบ PAT7 กันนะครับ ซึ่งมีทั้ังหมด 100 ข้อ แบ่งออกเป็น 5 ส่วน
1. Vocabulary
2. Grammar
3. Culture & History
4. Conversation
5. Passage

ในส่วนของ Conver และ Passage ต้องเก็บให้หมดนะครับ เพราะมันง่ายกว่าพาร์ทอื่น 555 แค่รู้คำศัพท์ก็ทำได้แล้ว Vocab นี่ก็ต้องแล้วแต่บุญแต่กรรมน้อง ส่วน Culture นี่ออกไม่ถึง 5 ข้อเลยครับ สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน และมีเวลาน้อย ส่วนที่ยากที่สุดคือ Grammar เลยครับ เพราะ เทนส์มันเยอะ แล้วการใช้ก็งงๆ มีการใช้คำบุพบทต่างๆ ซึ่งมีข้อยกเว้นยิบย่อยที่ต่างกัน แต่ความหมายคล้ายกัน

 
    สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำข้อสอบนี้คือ คำศัพท์ นะครับ เพราะฉะนั้น หาข้อสอบเก่ามาทำให้มากที่สุด ทำให้ครบทุกปี ศัพท์คำไหนไม่รู้ จดออกมาท่องทุกวัน ท่องจนกว่ามันจะจำได้ เพราะพาร์ท conver ออกเยอะ แล้วคำศัพท์ก็จะออกในหมวดเดิมๆ เช่นไปร้านขายเสื้อผ้า ไปสนามบิน ถ้าเราทำข้อสอบบ่อยๆเราก็จะทำได้เอง ไม่ต้องเน้นการจำการ verbe ไม่ต้องเน้นเรื่องเพศของคำ ไม่ต้องจำจนสะกดถูกเป๊ะๆ ในช่วงเวลาเร่งด่วน แล้วเป็นข้อสอบช้อยส์ จำแค่ให้เวลามองเห็นแล้วรู้ว่าแปลว่าอะไรก็พอแล้วครับ

      ก็ไม่รู้ว่าที่มาบ่นๆให้ฟังนี่จะมีประโยชน์กับผ้อ่านหรือเปล่า แต่อยากจะบอกว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ แต่ขึ้นกับว่าเราตั้งใจทำมันหรือเปล่า ก็ขอให้ เด็กวิทย์หัวใจศิลป์ที่กำลังลังเลทุกคนว่า จะเลือกไปทางไหนดี ลองไปตัดสินใจดูนะครับ ความฝันของเรา ถ้าเราไม่กล้าเดิน ชีวิตนี้เราก็ไปไม่ถึงหรอกครับ

 สู้ๆนะครับทุกๆคน มีอะไรลองถามได้ เผื่อเขียนอะไรตกหล่นไป พึ่งมาลองเขียนครั้งแรก ผิดพลาดประการใดของอภัยนะครับ

ปล. การเรียนแบบนี้ เมื่อน้องๆเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้วต้องไปหาเรียนเพิ่มด่วนๆเลยนะครับ เพราะ เป็นการเรียนสำหรับทำข้อสอบเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้งานจริงได้ แต่พี่เชื่อว่าถ้าน้องตั้งใจมาขนาดนี้ แค่ไปเรียนเพิ่มก็คงไม่ยากสำหรับน้องแล้วล่ะครับ


แสดงความคิดเห็น

>

46 ความคิดเห็น

lovechully 26 ก.พ. 58 เวลา 13:24 น. 2

สู้ๆนะค่ะ ภาษาฝรั่งเศสยากจริง นี่เรียนในระดับมหาลัยอยู่ด้วย
ตั้งใจอ่านศัพท์ กระจายแว๊บ และแกรมม่านะค่ะ กฏยกเว้นเยอะมาก ฮ่าๆ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Angelo 26 ก.พ. 58 เวลา 15:47 น. 4

แย่งพวกฉันเข้าไปปปปปปปปป เด็กศิลป์กันสู้ไปสิ พวกนี้เกรดเยอะ ยังจะมาส้อยที่พวกฉันอีก

0
Davine_rainne 26 ก.พ. 58 เวลา 16:08 น. 5

เราคิดว่ามันไม่ได้เป็นการแย่งที่นะคะ เพราะเด็กวิทย์ถ้าเทียบกับเด็กศิลป์ที่เรียนภาษามาตลอด และระยะเวลาเท่านี้ถือว่าต้องพยายามหนักกว่า มุ่งมั่นมากกว่าหลายเท่าตัว
เราว่าดีซะอีกที่ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบในตอนนี้ ดีกว่าการที่เรียนๆไป สอบติดคณะที่ไม่ใช่ แล้วต้องมานั่งซิ่วอีก ดีกว่าต้องมานั่งทนกับคณะที่ไม่ใช่ เรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ

คุณเจ้าของกระทู้โชคดีมากนะคะที่ค้นพบความชอบ ค้นพบสิ่งที่อยากเรียนในตอนนี้
มีเวลาอยู่ค่ะ มุ่งมั่นทำให้เต็มที่เลย สู้ๆนะ! ลุยไปเลยยย
0
Ellonaire 26 ก.พ. 58 เวลา 16:19 น. 6

ผมคิดว่า ถ้าคนที่เก่งจริง เค้าก็คงได้คะแนนมากกว่าผมอยู่ดี ล่ะครับ ทำไมต้องไปดูด้วยละครับ ว่าคนนู้นสายวิทย์ คนนี้สายศิลป์ กว่าผมจะได้คะแนนเท่านี้ ผมก็ต้องสู้มากกว่าพวกคุณไม่ใช่หรอครับ ในขณะที่ผมต้องอ่านฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เพื่อสอบของภายในโรงเรีน ก็ต้องมาอ่านฝรั่งเศสเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก

จริงๆแล้วผมคิดว่าเราไม่เห็นจำเป็นต้องดูเลยครับว่าคู่แข่งเรามีใครบ้าง ถ้าเราทำตัวเองให้ดี จะมีคู่แข่งเป็นหมื่นเป็นแสน แต่ถ้าเราดีจริง เค้าก็ต้องอยากรับเราเข้าแน่นอน 

0
Ellonaire 26 ก.พ. 58 เวลา 16:22 น. 7

สู้ๆครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องคิดว่าเราทำได้ เพราะเราคงไม่มีกำลังใจอ่านหรอกครับ ถ้าตัวเองคิดว่าทำไม่ได้แน่ๆ ถ้าเราขยันอ่าน ทบทวน ความฝันไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ

0
` ?-iCOn. 26 ก.พ. 58 เวลา 19:21 น. 8

เข้ามาแบบบังเอิญๆ เพราะเป็นเด็กวิทย์ที่สอบฝรั่งเศสเหมือนกัน อยากจะบอกว่า เราเรียนพิเศษที่เดียวกันแหละค่ะ 555555555 เราเรียนกับพี่ก้อย tutorfrench ราวๆ 6 เดือนก่อนสอบ (ซึ่ง 4 เดือนแรกไม่มีค่าเท่าไรเลย อู้มาก) ได้มา 201 คะแนนค่ะ :)

ฝรั่งเศสถ้าตั้งใจจริงๆ เราว่าไม่ยากเท่าไรนะคะ ถ้ามีพื้นฐานทางด้านภาษาอังกฤษอยู่แล้ว คำศัพท์บางคำคล้ายกันมากๆ เลยค่ะ แนะนำให้ลองทำข้อสอบย้อนหลังหลายๆ ปีนะคะ จะได้คุ้นเคยกับข้อสอบมากขึ้นค่ะ

0
X Z e e n ♕ 26 ก.พ. 58 เวลา 19:47 น. 9
'ทำไมต้องมาแย่งที่สายศิลป์'
ตรรกะตลก... รู้จักคำว่า Deserve ไหมคะ ? 
ถ้าคุณไม่เหมาะสม คุณก็ไม่ควรได้รับมัน 
และที่สำคัญ อย่าโทษคนอื่นถ้าตัวเองยังพยายามไม่มากพอ
จขกท.ใช้เวลา 55 วัน หลังจากค้นพบ และพยายามฝึก
แต่คุณอยู่สายศิลป์มาโดยตลอด แล้วสิ่งที่คุณทำคืออะไร ? 
บอกว่าคนที่คะแนนสูงกว่าไม่เหมาะสม มาแย่งที่ อย่างนั้นเหรอ? 
สู้ๆนะคะ จขกท. คุณเก่งมาก เราก็เด็กวิทย์หัวใจศิลป์คนหนึ่ง (เราเลือกสอบ Pat บาลี อิอิ)
0
Ellonaire 26 ก.พ. 58 เวลา 20:41 น. 11

ตอนแรกเราก็หวังไว้ 200+ เหมือนกัน แต่ทำไม่ได้ 5555 เราแบบโง่แกรมม่ามากเลย แค่จำศัพท์ก็จะไม่ทันละ แต่เรื่องข้อสอบเก่านี่จริงเลย คือมันออกเหมือนๆเดิมตลอด ช่วยได้เยอะมาก แต่คราวนี้เราคงไม่ไหวละ รอบ 2 นี่ ไม่มีเวลาอ่านเลย ปล่อยวางเลยเชียว 555
เศร้าจัง

0
Chanyanuch 27 ก.พ. 58 เวลา 15:48 น. 12
เด็กสายวิทย์หัวใจศิลป์ทั้งหลายต้องทำใจอย่างเดียวค่ะ
ต้องทำใจกับพวกเด็กสายศิลป์ขี้อิจฉาที่เป็นพวกแพ้แล้วพาล
ที่พวกน้องๆสายศิลป์สอบเข้าคณะทางสายศิลป์ไม่ได้เพราะอะไร
ทำไมไม่เคยโทษตัวเองและโทษเด็กสายวิทย์หาว่ามาแย่งที่ไป
ตารางเรียนของเด็กสายวิทย์เรียนภาษาไทย  สังคมศึกษา 
ภาษาอังกฤษ  วิทย์พื้นฐาน  คณิตพื้นฐาน  ศิลปะ  การงาน  
และสุขศึกษาเหมือนกับเด็กสายศิลป์ทุกอย่างเลย
แต่วิชาที่เรียนกันเป็นคณิตเพิ่มเติม  ฟิสิกส์  เคมี  ชีววิทยา
ไม่มีวิชาที่เกี่ยวกับภาษาเลยต้องไปเรียนพิเศษเพิ่มเติมข้างนอก

พี่เป็นเด็กสายศิลป์และไม่เคยรังเกียจเด็กสายวิทย์
กลับสนับสนุนให้เด็กสายวิทย์มาเรียนภาษาด้วยซ้ำ
เพราะเด็กสายวิทย์บางคนชอบเรียนทางด้านศิลป์
แต่กลุ่มคนที่เด็กสายศิลป์อย่างพี่รังเกียจมากที่สุดก็คือ
เด็กสายศิลป์บางคนที่เป็นพวกแพ้แล้วพาลไงล่ะ
ไม่อยากจะนับเด็กสายศิลป์กลุ่มนี้เป็นรุ่นน้องด้วยซ้ำ


0
caramel 27 ก.พ. 58 เวลา 18:16 น. 13

เราเป็นเด็กศิลป์ฝรั่งเศสค่ะ
ขอเชียร์เ้จ้าของกระทู้นะคะ
เราชอบคนมีความพยายามสูง

0
5678 28 ก.พ. 58 เวลา 00:40 น. 15

เราศิลป์ฝรั่งเศสค่ะ เรานับถือเจ้าของกระทู้มากๆมีความพยายามมากค่ะกับเวลาที่ไม่มากแบบนี้ เราไม่ได้คิดว่าเป็นการมาแย่งเด็กศิลป์ ของอย่างนี้อยู่ที่คน ถ้าเป็นเด็กศิลป์และเตรียมตัวดีก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใคร

0
Ellonaire 28 ก.พ. 58 เวลา 07:30 น. 16

http://forum.02dual.com/index.php?topic=1471.0

เว็บนี้เลยจ้าา มีไม่ค่อยเยอะหรอก แต่ต้องทำทุกปีน้า ทำแล้วก็จดศัพท์มาให้หมดเลย มีประโยชน์มากมาย หรือว่าจะลองหาหนังสือรวมข้อสอบก็มีนะ จะแยกเป็นเรื่องๆให้เลย
รักเลย

0
จจจจจ 28 ก.พ. 58 เวลา 16:30 น. 17

พวกที่บอกว่าเด็กวิทย์เเย่งที่เด็กศิลป์ก็เเค่พวกLoser วิชาเรียนน้อยกว่า ง่ายกว่า เเต่ยังเรียนไม่ได้เเละเกรดน้อย สอบเข้าก็เเพ้ทั้งๆที่เรียนภาษามาโดยตรงนานถึงสามปี! เเต่คะเเนนกลับเเพ้เด็กวิทย์ที่ต้องมานั่งเรียนภาษาใหม่ด้วยตัวเอง ถ้าไม่เรียกว่าพวกขี้เเพ้เเล้วจะให้เรียกอะไรดีล่ะ?

0
jkjk 28 ก.พ. 58 เวลา 17:48 น. 18

คิดว่าสายวิทย์เอาเกรดง่ายนักรึไงครับ เศร้าจัง
-จากเด็กวิทย์-คณิต ภาคอีพีคนนึง-

0
EnieMenie 28 ก.พ. 58 เวลา 17:49 น. 19

เราเองก้เปนหนึ่งในเด็กวิทย์หัวใจศิลป์ค่าาาา  แต่ของเราจะเป็นภาษาญี่ปุ่นเฉยๆ อิอิ ตอนนี้เราเพิ่งจบ ม.5 กำลังจะขึ้น ม.6 ค่ะ เพิ่งมารู้ตัวว่าจริงๆแล้วตัวเองชอบภาษาญี่ปุ่นมากแค่ไหนก็เมื่อประมาณเทอมที่แล้ว ทีแรกก็เสียดายจริงๆนะคะที่เลือกผิดสาย คิดว่าอาจไม่ทันแล้ว เพราะจะ ม.6 อยู่แล้ว มีเวลาเรียนไม่ถึงปี มันจะไปสอบสู้คนที่เรียนมาสามปีหรือหกปีได้เหรอ  คือมันก็ยังลังเลอยู่ว่าตกลงจะต่ออะไรกันแน่ แต่ว่าพออ่านกระทู้นี้แล้วก็รู้สึกว่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ไม่ลังเลแล้ว ได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากัน ทุ่มเทก็พอ  ขอเรียนภาษาญี่ปุ่นที่เราชอบดีกว่า ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ดีๆนี้ขึ้นมาค่ะ ^^

0