ประโยคที่ฟินที่สุดในนิยายของท่านคือ...?
ตั้งกระทู้ใหม่
พอดีผมเห็นกระทู้แต่งงาน วิธีเขียนฉากรัก ฯลฯ
เลยนึกขึ้นได้ว่านักเขียนแต่ละท่านคงจะมีฉากฟินของตัวเองกันแน่ ๆ
แต่ถ้าเลือกมาประโยคเดียวล่ะ?
จากนิยายผมที่ผมชอบที่สุดคือ "ถึงไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น...แต่ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก"
ประโยคที่ฟินจะเป็นฉากรัก ภาษาสวย คล้องจอง อะไรก็ได้ครับ แต่ขอประโยคเดียวนะครับ :)
ปล. ถ้ารกแจ้งลบได้เช่นเคยนะครับ ^^
372 ความคิดเห็น
อยากบอกว่า "จบบริบูรณ์" เนี่ยแหละ ฟินสุดแล้ว \\หลบตา
มารอเก็บประโยคฟินจากท่านอื่น
อันนี้ประโยคในฝันของผมเลยครับ 55
ไม่ได้แต่งนิยายรักค่ะ ช่วงนี้
แต่ถ้าเป็นคำพูดที่ชอบที่สุด ก็คือฉากปะทะคารมของพระเอก นางเอก
พระเอก : อย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนั้น คุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องเธอ
นางเอก : ไม่มีใครเคยสอนเหรอคะว่า...อย่าบอกจุดอ่อนให้ศัตรูรู้
"ฉันหลงใหลในตัวตนของนาย"
ฉากที่ตัวเอกชายสองคนพูดกันค่ะ 5555
ครับ ไม่ต้องเป็นนิยายรักหรือฉากรักก็ได้ครับ
อันนี้นางเอกเด็ดมากครับ ^^
นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชม!
#ชอบสุดละคิดเองเมื่อ5ปีที่แล้ว ธรรมดาแต่ว่าชอบมาก ^^
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อไปเหรอครับ? 555
ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ เดี๋ยวจะสปอยล์ครับ :)
บอกได้ค่ะ 555555
คนฟังได้ยินก็บอก "ขอบคุณ" //ซึ่งในเรื่องตัวเอกคนนี้ยังงงๆเลยว่าต้องบอกขอบคุณรึเปล่านะ เพราะไม่รู้ว่ามันคือคำชมรึอะไร 5555
พอเห็นประโยคนี้ผมนึกได้ 2 อารมณ์ครับ
จริงจัง กับ เอาฮา 55
คนฟังจิตใจใสสะอาดมากจริง ๆ ครับ 55
พอดีเขียนนิยายแนวฆาตกรรม-สืบสวน-ดราม่า ไม่ค่อยมีฉากฟินเท่าไหร่อะค่ะ
มีแต่ดราม่า...งิ ;w;
“ถ้าเป็นคุณน่ะ...คุณจะเหนื่อยไหม กับการที่มอบทุกอย่างในชีวิตให้ใครบางคนมาตลอดแต่เขาก็ไม่สนใจ
แล้วคุณจะเหนื่อยไหม กับการที่ต้องไขว่คว้าหาบางสิ่งด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา
แล้วคุณจะเหนื่อยไหม กับการที่ต้องวิ่งไล่ตามใครคนนั้นโดยไม่ได้หยุดพักเลยสักนิด แต่เขากลับวิ่งเร็วกว่า
คุณจะไม่เหนื่อยเหรอ ถ้าหากทุ่มทุกอย่างลงไปอย่างสุดตัวแล้ว...แต่กลับไม่ได้ซึ่งสิ่งที่ปรารถนา”
ไม่เป็นไรครับท่านเดียร์
เอาจริง ๆ ผมหมายถึงคนเขียนฟินก็ได้ครับ
คำพูดคมมากเลยครับ ถ้าเป็นผมจะตอบว่าไม่เหนื่อย เพราะอย่างน้อยก็ได้พยายามแล้วครับ :)
นั่นสินะ 5555 แต่ตัวละครอีกคนก็จิตใจใสสะอาดจริงๆค่ะ ไม่คิดลึกอะไรเลย
“ฉันชอบเธอ ชอบ ชอบ ชอบ ชอบ ชอบ ชอบ ชอบมาก”
เป็นประโยคที่พระเอกสารภาพความในใจกับนางเอกค่ะ โดยส่วนตัวแต่งแนวรักวัยรุ่น เลยมักจะใช้คำว่า 'ชอบ' มากกว่าคำว่า 'รัก' เพราะรู้สึกว่าอายุของตัวละครยังไม่บรรลุนิติภาวะ คำว่ารักดูจะเป็นอะไรทืี่ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คนเราจะค้นพบได้ง่ายๆในช่วงวัยนั้น ก็เลยตัดสินใจใช้คำว่าชอบไปก่อน เพราะเป็นคนที่หลงใหลในคำว่า 'ฉันชอบเธอ' มากกว่า 'ฉันรักเธอ' อยู่แล้วค่ะ
อึ่ยยย จับมือๆๆๆ เราเหมือนกันเลย ฟินกับคำว่า 'ชอบ' มากว่าคำว่า 'รัก' ค่ะ คือมีฉากนึงที่พระเอกบอกรักนางเอกหน้าเสาธงโรงเรียนอ่ะว่า '<ชื่อนางเอก> ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ' 3 ครั้ง ถ้าเป็นคนอื่นจะฟินบิดหมอนขาดไปแล้ว แต่เรากลับเฉยๆ แต่ถ้าลงเปลี่ยนเป็นคำว่า 'ชอบ' ดูสิ หมอนเหมินขาดกระจุยหมดอ่ะค่ะ =w=
ครับ ผมก็ชอบประโยค "ผมชอบเธอ" มากกว่าเหมือนกัน :)
พระเอกดูท่าทางจะเป็นคนน่ารักมุ้งมิ้งนะคะ ><
โอ้โห ท่านโซ่ตอบได้พระเอกจังเลยค่ะ
เห็นกระทู้นี้แล้วถึงกับมือสั่น เรานี่โยนหนังสือสอบทิ้งแล้วเปิดไฟล์นิยายขึ้นมาเลย ฮ่าาาาา
อันนี้จากเรื่องแรก เป็นคำพูดของตัวประกอบหญิงรายหนึ่งที่มาปรับทุกข์กับนายเอก และทำให้นายเอกฉุกคิดขึ้นมาได้
//ไม่เชิงประโยคฟินสักเท่าไหร่แฮะ 555
เรื่องที่สอง ที่จริงยาวกว่านี้ แค่ จขกท. บอกขอแค่ประโยคเดียว โอเค งั้นเราตัดมาเฉพาะส่วนก็ได้ =w=
ผมหันหน้ากลับมา ก่อนจะเห็นว่าเฮียคริตกำลังส่งยิ้มมาให้ผมอยู่ ไม่รู้ว่าตอนไหนที่หน้าเฮียเขาอยู่ใกล้กับผมขนาดนี้ ใกล้มากจนผมเห็นแม้กระทั่งขนตาสีน้ำตาลทองรับกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนใสคู่นั้น...
ท่านโพแดง ใจเย็นครับ อ่านหนังสือก่อนครับ สู้ 555
นิยายวายทั้งคู่หรือเปล่าครับ? อันนี้ผมเดาจากบริบทล้วน ๆ
55 ผมเป็นแค่ตัวประกอบก็พอครับ :)
ปิ๊งป่องงงงง! ถูกต้องนะค้าาาาาา ท่านโซ่เดาเก่งมาก เอ๊ะ...หรือมันชัดเจนเกินไป
...ส่วนหนังสือสอบ ช่างงงงงงง มันเถอะค่ะ 5555555555
ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะครับ
"ด้วยเลือดด้วยเนื้อข้า ข้าสาบาน! ข้าสาบานว่าข้าจะฉีกเนื้อถลกหนังพวกเจ้า! ข้าจะเผาทำลายอาณาจักรเจ้า ฝังพวกเจ้าทุกตัวให้ตายในกองไฟ ไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด ข้าสาบานจะทำให้เจ้าได้เห็นความแค้นของข้า! คอยดูข้าจะกลับมาแก้แค้นเจ้า ข้าขอสาบาน!"
แปลตรงตัวคือสาปพวกมันทั้งหมดให้ตายไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด ตายในกองไฟ ทรมานเฉกเช่นเดียวกับตัวข้าให้มากยิ่งขึ้นร้อยเท่าพันทวี
ว่าแล้ว ไม่ค่อยสวยจริงๆด้วย
#เสียใจ
สัมผัสได้ถึงความมุ้งมิ้งค่ะ นางเอกคงละลายวันละสามเวลาหลังอาหารถ้าพระเอกจะบอกชอบมากขนาดนี้
นายเอกคงไม่คู่กับนางเอก แล้วผมกับเฮียนี่คงไม่ใช่ผู้หญิงน่ะครับ 55
สู้ครับสู้ สอบถึงเมื่อไหร่ครับ?
ไม่ต้องสวยมากก็ได้ครับ :)
อ่านแล้วรู้สึกถึงความสะใจอย่างประหลาด
สอบวันพฤหัสสองวิชา เช้าบ่าย แล้วก็วันศุกร์อีกวิชานึงค่ะ แต่ไม่ปิดเทอมนะคะ เรียนต่อ 5555 ชีวิตในมหา'ลัยช่างโหดร้าย
นั่นสินะครับ เขียนจบนี่ล่ะฟินสุด T T
-ตัวที่พ่นคำนี้ออกมามันมีสาเหตุอยู่
เรื่องมีอยู่ว่ามันน่ะมีพลังเยอะโคตรๆเลยเกรียนระเบิดทวีปหนึ่งทิ้งโชว์ต่อหน้าต่อตาพวกพระเอก
ทีนี้พวกพระเอกมันไม่พอใจเลยยกพวกไปประมาณสองสามแสนคนไปเคาะประตูหน้าบ้านมันเพื่อไปตบเกรียนมัน พอตบไปตบมาจนเกรียนมันหายแล้วลงไปทรุดกับพื้น พวกพระเอกเลยจับยัดลงผนึก มันไม่พอใจเลยใช้คำสาปเลือดสาบานสาปแช่งพวกพระเอกกับเผ่าพันธุ์มนุษย์น่ะครับ
ครับ ผมเข้าใจดีถึงความโหดร้ายนั่น 555
สู้ครับ ^^
เป็นฉากที่พระเอกเข้าไปขโมยของจากห้องในดรงแรมแล้วโรยตัวออกทางหน้าต่าง คราวนี้พอได้ของพวกพระเอกก็บอกว่าให้รีบปีนหน้าต่างออกมา พระเอกไม่ทำครับแกเดินออกประตูเฉยเลย แล้วประโยคเด็ดขวางโลกก็พ่นออกมาว่า
"พ่อฉันสอนว่าเวลาเข้าทางประตูก็ต้องออกทางประตู
แต่ไม่เคยสอนว่าถ้าฉันเข้าทางหน้าต่างจะต้องออกทางหน้าต่างด้วย"
ขอบคุณค่าาาาา
อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เองนะครับ
" หากเราต้องจากกันจริงๆ
ฉันจะแช่แข็งหัวใจของฉันเอาไว้
เพื่อรอให้เธอนำไออุ่นที่คุ้นเคย
กลับมาละลายความเย็นชา
ออกไปจากใจฉัน..ในซักวันหนึ่ง "
^^
แล้วพระเอกรอดไหมครับ? 555
เป็นฉากในEP2ที่ผมชอบที่สุดแล้วละครับ
ท่านหลับปุ๋ยครับ ผมขอโทษครับ ผมว่าผมอ่านกระทู้จิ้นมากเกินไป
ผมอ่านคำว่า "อุ่น" เป็น "อุน" เฉยเลยครับ//ขยี้ตาอ่านทวนอีกรอบ 555
แต่อ่านแล้วอบอุ่นดีจังครับ :)
"ฝนกำลังจะตก" ริชาร์ดพยักหน้ามั่นใจ โชว์พาวให้รู้ว่าเขาสามารถบอกอนาคตอันใกล้ให้ทุกคนทราบ
ผมเป็นคนชอบแต่งอะไรบ้าๆบอๆ ฉากนี้คิดสดแล้วก็นั่งฮา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครฮากับผมรึเปล่า
ฮาเบา ๆ ครับ
แต่ผมสงสัยมากกว่าว่าคิดได้ยังไงครับ? 555
โดน DPS ต่อเนื่องถึงตอนนี้เลยสินะครับ
แหะๆๆ
ฮะ! เอาอุนๆ ที่คุ้นเคยมาละลายความเย็นชา...
(ขยี้ตา)
...อ้าว ไม่ใช่นี่หว่า
ตอนนั้นผมคิดคาแรคเตอร์ตัวละครตลกๆสามคน แล้วคนสุดท้ายความคิดนี้ก็เข้ามาในหัวอะครับ แต่ส่วนใหญ่ตัวละครของผมติงต๊องกันเกือบทุกคน 5555 เหมือนคนแต่งครับ
555 ถึงกับร้อง หือ!?! (อะไรผ่านตาแวบ ๆ) แล้วเบิกตาอ่านซ้ำเลยครับ
พูดถึงคู่ท่าน ผมยังไม่ได้วาดเลยครับ ลืมเอา note 10 มาหอ
10-3 # ง่ะ ท่านก็เป็นไปด้วยอีกคน
10-4 # ขอบคุณล่วงหน้าครับ สำหรับน้ำใจ
ที่มีให้ เอาไว้ผมจะล่อลวง(?)ซอร์ไปเดทกับ
ท่านเป็นการแลกเปลี่ยนนะครับ(ฮา)
เกรงว่าผมจะเป็นฝ่ายโดนล่อลวง(?)แทนนี่สิครับ 555
โอ๊ยย แอบขำง่ะ =w=
ทำไปได้
"ฉันชื่อ 'เอนคิ' "
ฟินที่สุดแล้วค่ะ นักอ่านที่อ่านเรื่องของเรากรี๊ดสลบกับฉากนี้กันเป็นทิวแถว..
มันดูธรรมดาเนอะ
แต่ประโยคนี้อยู่ในตอนที่20แล้วนะคะ.. หุหุ
ไรท์ก็ฟินด้วย เพราะคิดฉากนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่กว่าจะหาจุดยัดเยียดเข้าไปได้นี่แทบแย่ค่ะ 5555
เหมือนจะเคยอ่านเจอที่ไหนสักแห่ง บอกว่าชื่อเป็นเวทมนตร์ที่สั้นที่สุดครับ :)
"หลังจากนี้จะมีเด็กคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตของเธอ เขาจะเข้ามาเป็นเพื่อนคนแรกของเธอ แต่ว่า... ปฏิเสธไปซะ"
ยูริเอลพูดออกมาทั้งน้ำตา ในขณะที่อีกฝ่ายที่ขดตัวด้วยความกลัวอยู่ตรงมุมห้องที่เธอกำลังพูดด้วยก็คือ ...ตัวเธอในสมัยยังเด็ก
ใช่ซะเมื่อไหร่ล่ะครับ มันต้องประโยคนี้ต่างหาก
เรื่องมีอยู่ว่า ผมมีอยู่ประโยคหนึ่งที่คิดว่าน่าจะเรียกความ "ฟิน" ได้มากที่สุดแล้ว แต่ว่านิยายเรื่องนั้นก็โดนทิ้งร้างมาตั้งปีกว่าแล้ว ถ้าจะให้กลับไปรื้อจากจำนวนตอนที่มีมากกว่า 100 ตอนก็เห็นจะลำบากเกินไป ดังนั้น จะขอแถให้ใกล้เคียงที่สุดนะครับ
"ถ้าอย่างนั้น มันมีใครที่ไหนบ้างเล่า!" เจ้าพระเอกตะโกนอย่างสุดทน
"มีใครที่ไหนบ้างที่บอกว่าไม่อยากมีเพื่อน... แต่กลับหัวเราะด้วยกันอย่างสนุกสนาน มีใครที่ไหนบ้างที่ปากบอกว่าไม่อยากมีความผูกพัน... แต่กลับเข้ามาทำความรู้จัก มีใครที่ไหนบ้างที่บอกว่าไม่อยากรู้จักกับใคร... แต่กลับเข้ามาแขวะคนนั้นคนนี้แล้วหัวเราะอย่างมีความสุข ที่ผ่านมาเธออยากจะมีเพื่อนมาตลอดเลยไม่ใช่เหรอ!"
อา... จำไม่ได้ถึงกับต้องย้อนกลับไปอ่านเลยไหมล่ะ
“ถ้าข้ากลับมา ...ให้ข้าเป็นเพื่อนพวกเจ้านะ” เมพูด ถึงแม้จะเป็นคำธรรมดา แต่สำหรับเมที่ไม่เคยมีเพื่อน กลับสำคัญมากพอๆ กับชีวิตของเธอเลย เพราะแค่ประโยคเดียวมันบอกอะไรหลายๆ อย่าง สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของนางเอก ว่ารู้สึกยังไง ชีวิตที่ผ่านมาต้องเจออะไรมาบ้าง ก็แค่นั้นแหละค่ะ
ป.ล ที่จริงคำที่ฟินทีุ่สดคือคำว่า the end นั่นแหละค่า!
ผมขอเดานิสัยของ "เธอ" คนนั้นว่าปากแข็งรึเปล่าครับ?
หรือไม่ก็คงมีอดีตหรือเหตุผลบางอย่าง
อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงการให้ความสำคัญต่อนางเอกจริง ๆ ครับ :)
ครับ เพื่อนเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ นะครับ :)
ปล. The end หรือจบบริบูรณ์นี่ที่สุดแล้วจริง ๆ ครับ 55
พระเอกของเราเป็นเจ้าชายนะคะ
คำพูดที่ตัดสินใจว่าจะปกป้องนางเอก
"แค่คน ๆ เดียวยังดูแลไม่ได้ แล้วผมจะดูแลประชาชนของผมได้ยังไง"
คำพูดที่ตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับนางเอก
"คุณคือผู้หญิงที่เหมาะจะเป็นแม่ของลูกผม เหมาะที่จะเป็นราชินีของผม"
บทนี้รีดเดอร์ฟินมาก เพราะผู้หญิงจะมีค่ามากที่สุด คือผู้หญิงที่ผู้ชาย เลือกให้เป็นแม่ของลูก
เอาหลายประโยคได้มั้ย 5555555 คือมันเป็นคำพูดยาว ที่เราชอบมาก
ปล.ยังไม่ปรากฎในเรื่องตอนนี้ แต่แต่งเป็นบทสนทนาฉากสั้นๆเอาไว้เล่นๆ ก็...ไม่น่าจะ spoil มากมายนักมั้ง ฮาาา
ที่ชอบเพราะเราอยากแสดงให้นางเอกตระหนักว่าสิ่งที่นางเอกพยายามทำมาตลอด มันคุ้มค่าหรือเปล่า
ตัวร้ายพูดกับนางเอก---
" มนุษย์ดีแต่เห็นแก่ตัว โลภมาก และต้องการอำนาจยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ทำลายทุกสิ่ง ทิ้งทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจในมือ ต่อให้โลกนี้จะสูญสลาย บางคนก็ไม่สนใจ ขอเพียงกอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเองได้มากที่สุดก็พอ แล้วเธอเอง...จะยังปกป้องพวกเขาอยู่งั้นหรอ?
เธอก็เห็นอยู่ว่าขณะที่พวกฉันบุกโจมตีแต่ละเมืองไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ยังมีคนบางกลุ่มที่คอยช่วยเหลือด้านอาวุธและสรรพยากร ขอเพียงได้เงินทอง ได้อำนาจในชั่วระยะเวลาหนึ่งก็พอใจ บางคนยังโกงกินต่อประชาชนแคว้นตัวเอง ทั้งที่ไม่ช้าก็เร็ว แคว้นนั้นก็จะต้องถูกทำลาย หายไปพร้อมกับโลกใบนี้
แล้วในขณะที่ตัวเธอเอง พยายามปกป้องทุกคนบนโลก ทำตัวเป็นฮีโร่ ใช้พลังกาย พลังใจทั้งหมดที่มีปกป้องพวกเขา ซึ่งนั่นหมายถึงปกป้องพวกคนเลวๆเหล่านั้นด้วย เธอจะยังปกป้องพวกเขาอยู่งั้นหรอ?
ทุกคนส่งเธอมาให้เผชิญหน้ากับฉัน แล้วก็รอดูผลการต่อสู้อยู่ห่างๆ ถ้าเธอชนะพวกเขาก็รอด ถ้าเธอแพ้ พวกเขาก็สิ้นหวัง พวกคนเหล่านั้นที่ได้แต่ยืนรอและไม่ทำอะไรเลย สมควรที่เธอจะปกป้องหรือ?
คิดสิยู...พวกเขาส่งเธอมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เธอต้องฝืนต่อสู้เพื่อปกป้องคนที่เธอไม่รู้จัก ปกป้องพวกคนเลวๆเหล่านั้นที่บางทีเลวยิ่งกว่าปีศาจด้วยซ้ำไป...มันคุ้มค่าที่เธอจะต่อสู้หรือเปล่า?
สุดท้ายเธอก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่พวกเขาหลอกใช้เท่านั้น พวกเขาเห็นเธอมีพลังมากกว่าใครๆ ถึงส่งเธอมาสู้ ลองเธอไร้พลัง ลองเธอไม่ใช่ราชาแห่งแดนเหนือที่ทุกคนยกย่องดูสิ...พวกเขาจะยังต้องการเธอหรือเปล่า?"
แต่ละมุกของน้องเจ ผมนี่ยิ้มเลยครับ
น่าจะเป็นจุดหักมุมได้เลยนะครับ ^^
ใช่ค่ะ ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ^^"
ผมสปอยล์หรือเปล่าครับ ถ้าสปอยล์ขอโทษนะครับ
ไม่นะคะ 555 ไม่ต้องคิดมากค่ะ เพราะจากบริบทโดยรวม มันก็พอเดาต่อได้อยู่แล้ว ว่าน่าจะเป็นจุดสำคัญของเรื่อง เพราะหลังจากคำพูดนั้น ก็ต้องลุ้นกันว่านางเอกจะตัดสินใจอย่างไร ^^"
ครับ ท่านนัท :) (ผมจำถูกไหมครับ?)
จำถูกต้องแล้วค่ะ ^^"
เหตุผลที่เธอ (ตัวอย่างที่ 2 ใช่ไหมครับ) ต้องพูดอย่างนั้นก็คือ...
เธอ คนที่เจ้าพระเอกพูดด้วยเป็นชีวอาวุธครับ เธอถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้และกำจัดชีวอาวุธรุ่นเก่าที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนหน้าเธอให้หมด แล้ว "เพื่อน" ที่พระเอกพูดถึงก็คือคนที่เธอต้องกำจัดครับ (พระเอกเป็นพวกเดียวกับเธอครับ)
ถ้าหากว่าเป็นการแสดงเพื่อการเข้าใกล้และฆ่าทิ้งก็ว่าไปอย่าง แต่เธอดันจริงจังกับการเข้าหามากเกินไปจนขัดแย้งกับคำพูดที่เคยพูดก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิงและในศึกครั้งสุดท้ายระหว่างพวกพระเอกกับเซย์ริ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องต่อสู้กันอีกแล้ว พระเอกก็เลยตั้งใจจะโน้มน้าวเธอให้อยู่ร่วมกับเซย์ริเหมือนกับที่เขาสามารถทำได้ และเหมือนกับสิ่งที่เธอแสดงให้เห็นมาโดยตลอด
จริงๆแล้ว อดีตของเธอ (อาคาริ) ก็ถูกทิ้งขว้างจนต้องอยู่คนเดียวมาทั้งชีวิต และใจจริงเธอก็อยากมีเพื่อนใจจะขาด แต่เธอก็ยกเรื่องภารกิจมาอ้างจนพระเอกต้องใช้คำพูดข้างต้นกับเธอ ผลสุดท้ายก็คือ อาคาริก็ถูกเซย์ริอัดจนหมดสภาพ ก่อนจะยอมรับความต้องการของตัวเองแล้วเข้าร่วมกับเซย์ริจนถึงการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเธอครับ
คำพูดสุดฟินเหรอครับ?
ก็คงจะเป็นฉากในบทที่ 6 ในนิยายที่ผมแต่งจบไปแล้วเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
ที่เป็นฉากสนทนาระหว่างตัวละครที่ชื่อ "แจ็คครอส" กับ "ไมค์" น่ะครับ
“นายอยากรู้ไหม ว่าทำไมพวกเราถึงได้มาเป็นนักลอบสังหาร”
ไมค์ เริ่มต้นด้วยประโยคคำถามที่ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับชะงัก ก่อนจะปล่อยตัวนั่งพิงเก้าอี้ภายในร้านจนล้มลงไปนอนบนพื้นเพราะตัวหนักเกินไป ทำให้คนในร้านหันมามองแล้วหัวเราะเยาะให้กับความซุ่มซ่ามของไมค์
เด็กหนุ่มนิ่งเงียบแล้วอ่านหนังสือต่อไปจนจบเล่ม ก่อนจะดึงผ้าปิดปากลงแล้วดื่มกาแฟจนหมด มองอีกฝ่ายที่ลากสังขารลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม
“นั่นเพราะ…เส้นทางที่พวกเรากำลังเลือกเดินยังไง นายไม่เคยคิดเลยเหรอว่าการที่มีพวก ‘กลุ่มอัศวิน’ ออกมาเพ่นพ่านภายในเมือง เพราะว่ามีคนอย่างพวกเราอาศัยอยู่ ซึ่งนายก็รู้นะว่าที่แกรนด์ โอเวอร์เซียร์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่สงครามในตำนานนั้นได้เริ่มขึ้นและจบลงที่นี่” ไมค์ บอกรายละเอียดให้เด็กหนุ่มฟังพร้อมเหตุผล
“และแน่นอนว่านักลอบสังหารอย่างพวกเรา ก็เหมือนกับเป็นเส้นทางหนึ่งที่ ‘ท่าน’ ได้วางเอาไว้ เพื่อให้พวกเรามีหน้าที่ที่ในการให้เราสามารถวางเส้นทางต่อไปได้ตามที่ตัวเองต้องการ แตกต่างจากพวก ‘กลุ่มอัศวิน’ ที่มีหน้าที่ปกป้องเมืองแห่งนี้และเคารพบูชาพระเจ้าอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ไม่แน่ว่าพระเจ้าอาจจะทอดทิ้งโลกนี้ไปแล้วก็ได้”
ก็ประมาณนั้น...
ลึกซึ้งมากเลยครับ :)
13-2 เราอยากอ่านเลยค่ะ 5555 พล็อตดูน่าสนใจ
สตีฟมองออกไปนอกระเบียง แมทธิวจ้องไปที่เขาอย่างสนใจอยากรู้ในเรื่องเล่า
"วันแรกที่รู้ว่ามีแพนดอร่า ฉันดีใจมาก แต่ที่ดีใจกว่าก็คือวันที่เธอออกมาดูโลก ได้เฝ้ามองเธอเติบโต ฟังคำแรกที่เธอพูด วันแรกที่เธอเดิน ฉันสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะดูแลเธอไปชั่วชีวิต..."
"ตอนที่เธอคบกับไซม่อน ฉันรู้เลยว่าหมอนี่ไม่ดีแน่ พยายามห้ามเธอแล้ว แต่วัยรุ่นก็ยังเป็นวัยรุ่น ทนดูความสัมพันธ์ง่อนๆ แง่นๆ จนสองคนนั้นเลิกกันไป เธอเสียใจมาก จมอยู่กับตัวเอง... จนกระทั่งเธอรู้จักแก"
แมทธิวเริ่มทำตัวไม่ถูก ปกติเขาจะโดนสตีฟส่งสายตาจะฆ่าจะแกงมาให้ตลอด
"เธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ฉันไม่ไว้ใจแก..."
"...รู้ครับ"
"นี่ แกกล้าสาบานมั้ยว่าจะดูแลลูกฉันให้ดี ห้ามทำให้เธอต้องผิดหวังเด็ดขาด"
"ผมจะดูแลเธอจนวันสุดท้ายของชีวิตเลยครับ"
แมทธิวรับคำด้วยรอยยิ้ม...
Chapter: ???
วิ่งอยู่ในหัวตลอด แต่ไม่รู้ว่าจะได้เขียนเมื่อไหร่ ฉากพูดของพ่อตากับว่าที่ลูกเขย =u= อิๆ ตามไปอ่านกันได้ที่นี่นะจ๊ะ #ไม่ค่อยจะโฆษณาเท่าไหร่เลยยยย
V
V
V
http://my.dek-d.com/loveyounormal/writer/view.php?id=1240749
@ท่านหลับ
สงสัยกระทู้ฟีดของท่านจะทำพิษเราแล้วล่ะค่ะ 55555555
อืม... ยังไม่แต่งเลยนี่สิปัญหา(ฮา)
ประโยคฟินๆทีเราลองๆคิดไว้ก็มี...
"-เว-เอ้ย" เอ่อ... คือประโยคนี้มันออกมาจากปากของคนที่สุภาพอยู่เสมอ ด่าก็สุภาพ โมโหก็สุภาพ ที่ว่าด่าสุภาพนี่คือไม่ด่าตรงๆน่ะค่ะ ด่าอ้อมแบบจิกกัดที่ทำให้คนโดนด่าแอบคิดว่า 'ถ้าจะด่าแบบนี้ก็ด่าตรงๆมาเถอะ' ที่สำคัญ เขามักทำท่าเหมือนจะไม่สนใจใยดีอะไรอยู่เสมอ ใครจะเป็นจะตายนาง(?)ก็ดูชิลๆ แต่สาเหตุที่พูดออกมาเพราะคนสำคัญของเขาถูกทำร้ายอย่างหนักค่ะ คนอื่นๆที่เขารักก็ถูกทำร้ายทั้งกายและจิตใจจนทนไม่ได้เลยออกมาสูบบุหรี่พร้อมลั่นวาจาคำด่าโดยตรงเป็นการบอกว่า 'กล้ามาทำแบบนี้เอ็งบรรลัยทั้งโคตรแน่' ...เราว่าฟินดีนะคะแบบนี้... ;w;
แต่ถ้าเป็นประโยคของพระ-นาง... "ฉันว่าเธอนี่หล่อจนแมลงสาบยังหลงรักเลยล่ะ..." คำนี้ออกมาจากปากของพระเอกผู้หวาดกลัวในแมลงสาบค่ะ ที่พูดคำนี้เป็นการเปรียบเปรยว่า 'ขนาดไม่ใช่คนก็ยังหลงใหลในความหล่อของเธอได้เลยล่ะ!' ที่ใช้แมลงสาบมาแทนเป็นเพราะตอนนั่นคุณพระเอกแกลนลานจนพูดอะไรผิดๆถูกๆ สุดท้ายจึงสารภาพออกไปเป็นคำแบบนั้น นางเอกคนหล่อ(?)ของเราจึงตอบกลับไปว่า "ขอบคุณสำหรับคำชม... แต่แมลงสาบที่มาหลงรักฉันทั้งหลายคาดว่าต้องถูกกำราบล่ะ... มันจะได้ไม่มายุ่งกับ 'คนรัก' ของฉัน...ไง..." นางเอกก็พูดไผเขินไปล่ะนะ... ตายละ สองคนนี้เขาเลี่ยนกันจัง(ฮา)
ประโยค "ฟิน" ในนิยายของผมเอาจริงๆไม่ค่อยมีนะ แต่ประโยคที่คิดว่าเด็ด และบ่งบอกถึงเนื้อแท้ของนิยายนี่ก็มีหลายอยู่ เช่น (ไม่ได้ต่อกันนะครับ)
"ในสงครามไม่มีผู้ชนะหรอก มีแต่ผู้รอดชีวิต เพราะสงครามคือหายนะแห่งมนุษยชาติ"
"ข้าพยายามทำลายมนุษยชาติ ข้าล้มเหลว จากนี้จึงเป็นหน้าที่ของพวกเจ้าแล้วที่จะไม่ทำลายตัวเอง"
"ลาก่อน ศัตรูที่รักของข้า"
แอบซุ่มมานาน ._. เอาบ้างค่ะ
เธอใจเด็ด...เธอกล้าหาญ...เธอมีน้ำใจ...เธอเสียสละ ถึงจะปากร้ายไปหน่อยแต่ก็ช่างมัน เธอน่ารักอ่ะ ชอบ ♥
ชอบจนต้องสารภาพรักเธอให้ได้เลย...
เป็นฉากที่ให้พระเอกพรรณนาพร่ำเพ้อถึงนางเอกค่ะ 5555 อาจจะดูธรรมดาไปหน่อย แต่ตอนที่เราแต่งเราชอบประโยคนี้ค่ะ รู้สึกว่าพระเอกจริงใจดี ถึงนางเอกจะปากไม่ดีแต่ก็ยังชอบ ประมาณนี้ค่ะ 555555
ท่านอันเอาอิมเมจพระเอกที่กลัวแมลงสาบมาจากตัวเองรึเปล่าคะ 5555 //ว่าแล้วก็ปาแมลงสาบใส่ //เราทักทายกันด้วยแมลงสาบ <3
สารภาพตรงๆ เรารออ่านทุกคอมเมนต์เหมือนเจ้าของกระทู้เลยนะคะเนี่ย 5555
แบบถ้าเรื่องไหนดูคำพูดหรือมีstoryที่น่าสนใจ เราจะตามไปส่องดูด้วย 555555
เจอคนเป็นเหมือนกันแล้ว
จับมือค่ะพี่นัท 555555
-- “ ‘ดวงตา’ อาจสำคัญอย่างมากในการมองเห็น
แต่ ‘ใจ’ สามารถเห็นได้มากกว่าตาเสียอีก
ถึงตาคุณจะบอด คุณก็แค่มองไม่เห็นภาพต่างๆ
แต่ถ้า ‘ใจคุณบอด’ ต่อให้คุณตาดี
คุณก็จะไม่เห็นอะไรเลย” --
จากเรื่อง My Mind ตอนที่นางเอกตาบอด กำลังลองของพี่เลี้ยงคนใหม่ที่พ่อส่งมาให้ดูแลตนในวันแรกที่พบกัน คำพูดนี้ของพี่เลี้ยงทำให้เธอรู้สึกว่ายังไม่ควรไล่คนนี้ให้กลับไป เพราะเธอคิดว่าจะได้ลับคมปากกับคนที่คู่ควร
-- “พระท่านสอนว่า...
ความทุกข์เกิดจากเหตุเพียงสองประการ คือ...
ทุกข์จากการที่ไม่ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ กับ
ทุกข์จากการได้ในสิ่งที่ตนไม่ต้องการ" --
จากเรื่องเดียวกันกับข้างบน เป็นตอนที่พี่เลี้ยงแสนดี พยายามจะปรับทัศนคติของวัยรุ่นที่เพิ่งตาบอดให้มองโลกด้วยสติปัญญามากกว่า การคิดท้อแท้เพราะไร้สายตา
แถมอีกอันเดี๋ยวจะคิดว่ามีแต่เรื่องหนักๆ อิอิ
เป็นตอนที่พี่เลี้ยงผู้จริงจังกับชีวิตขอลางานไปหาแม่ที่มาจากต่างจังหวัด
“นานๆ จะเจอแม่ซะที พี่กอดแม่ไหมคะ เวลาเจอกัน” น้องออมอยากรู้
“ไม่ได้กอดแม่นานแล้วค่ะ น่าจะตั้งแต่เริ่มเข้ามัธยม” มายด์พยายามคิดถึงครั้งสุดท้ายที่ตัวเองกอดแม่
“ทำไมเลิกซะล่ะคะ มีใครที่ไหนบอก หรือ กำหนดว่าพอลูกโตแล้วต้องเลิกกอดพ่อกอดแม่หรือคะ ออมจะรีบไปประท้วง” ออมพูดขึงขัง
“ก็ไม่หรอกค่ะ แต่ว่าอายน่ะ โตแล้ว” มายด์ตอบตามที่ตัวเองคิด
“แล้วไม่คิดเหรอคะว่า... พ่อ แม่ เค้าจะคิดว่าเรารักเค้าน้อยลง” ออมตั้งข้อให้สังเกต
ผมชอบประโยคแบบนี้นะครับ ดูเป็นกึ่ง ๆ นามธรรมดี
แต่ที่ผมสงสัยคือทำไมเป็นอีโมตัวหัวเราะเหรอครับ? 55
ตัวนี้น่ะครับ
เราเป็นนักเขียนนิยายรักหวานแหววนะ
.
.
.
แต่เรายังเขียนไม่ฉากฟินจิกหมอนอ่ะ #เศร้าแป้บ
บทบาทของตัวละครที่มาคุยกันนี่เกือบนึกไม่ถึงเลยครับ
โฆษณาได้ครับ :)
สงสารหนูอัน พบน้องเดียร์ทีไร
แมลงสาบบินมาทุกที
ท่าทางจะมีความหลังฝังใจกับ
แมลงสาบนะครับนี่
ท่านอันกับท่านเดียร์ดูรักกันดีนะครับ 55
@ท่านอัน คนสุภาพพอโกรธขึ้นมานี่น่ากลัวจริง ๆ แหละครับ
จริงๆแล้วพล็อตมันก็น่าสนใจนั่นแหละครับ แต่คนเขียน (ผมนี่แหละ) ดันใช้ทักษะทำให้ความน่าสนใจลดลงนี่สิ
http://keedkean.com/novel/KK0006196.html
นี่คือลิงค์สำหรับนิยายเรื่องดังกล่าวครับ จริงๆแล้วมันเป็นภาคสองของเรื่อง แต่ผมเชื่อว่าต่อให้ไม่ได้อ่านภาคแรกมาก่อนก็เข้าใจเนื้อหาภายในได้ไม่ยากครับ ดีไม่ดีจะอ่านได้สนุกกว่าคนที่อ่านภาคแรกมาแล้วซะอีกนะครับ (ตัวนิยายมีสี่ภาค สำหรับอีกสามภาคที่เหลือสามารถเข้าไปอ่านได้โดยคลิกเข้าไปที่ชื่อผู้เขียน แต่ให้มันจบที่ภาคสองนั่นแหละครับ)
เป็นประโยคสั้น ๆ แต่มีพลังมากเลยครับ :)
ไม่ต้องซุ่มครับ ผมไม่กัด ฉีดยาแล้ว//ผิด
ดูเป็นคู่รักฮา ๆ จริงใจดีนะครับ ^^
ผมแอบไปส่องหลายเรื่องแล้วครับ 55
ผมว่าประโยคหนึ่ง ๆ มันบอกอะไรได้หลายอย่างน่ะครับ
ทีแรกนึกว่ากระทู้จะร้างซะแล้วครับ ช่วงนี้บอร์ดครึกครื้นดีจังครับ :)
ก็ไม่รู้สินะครับ...บางทีเวลาแต่งๆ เรื่องประโยคแบบพวกนี้
ผมมักจะเขียนออกมาบ่อยๆ น่ะครับ
จนบางทีก็แอบงงเล็กน้อย ว่าเขียนไปได้ยังไง 555
.....The End.....
ฟินสุดค่ะ
ชุดแรกเหมือนเป็นธีมเรื่องเลยใช่ไหมครับ?
อันนี้ผมเดานะครับ :)
สู้ ๆ ครับ เขียนไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึงครับ
ปล. ไม่ต้องจิกหมอนก็ได้ครับ ตอนนี้เอาประโยคที่ท่านชอบก็ได้ครับ ^^
กว่าจะถึงจุดนั้นยากมากจริง ๆ ครับ ^^
ช่วงนี้ปิดเทอมกันนะคะ ท่าทางจะครึกครื้นมากขึ้นค่ะ ^^"
พอมหาลัยไม่ตรงกับโรงเรียนแล้วแอบงง ๆ นะครับ 55
เราไม่ได้แต่งนิยายแนวแบบนี้ก็ไม่ค่อยรู้ประโยคฟินๆอ่ะ Q^Q
เพราะว่าเราแต่งแนวดราม่าอ่ะT_T
"ชั้นน่ะ...ก็แค่คนรักเธอที่ถูกลืม และไม่ว่ายังไงชั้นก็...แค้นเธอไม่ลง..."
คือ...เนื้อเรื่องจะเป็นแบบพระเอกจะล้างแค้นนางเอกอ่ะ แต่สุดท้ายก็แค้นไม่ลง
แล้วนางเอกก็ลืมพระเอกในตอนเด็กที่เคยเจอกันอ่ะ ประมาณนี้อ่ะ
ประโยคฟินๆสำหรับหนูคือ ประโยคแนวเศร้าๆ อารมณ์ประมาณบอกเลิกแบบตัดขาดกันไปเลย (หนูไม่ได้แปลกใช่ไหม???) ที่เด็ดสุด อันนี้ค่ะ...
“โอเค!! ถ้านายอยากเลิก ก็เลิกไปเลย บ๊ายบาย ขอให้ไม่ได้เจอกันอีก!!”
(คิดไว้ในสมองเล่นๆค่ะ)
ปล. คำว่า ไม่มาตามง้อหรอก มันหมายถึง เหมือนยังอยากกลับมาคบต่อไงไม่รู้ อธิบายไม่ถูกค่ะ TwT
ไม่งงหรอกค่ะ แนะนำว่า รอดูว่าถ้าช่วงไหนมีกระทู้ผิดบอร์ด แอบรัก รุ่นพี่ พร่ำเพ้อเขารักฉันมั้ย เขามองฉันหรือเปล่า บลาๆพวกนี้เยอะๆ...ใช่แน่ มันมาแล้ว 55555555555
"ฆ่าฉัน นั่นแหละ คือการปกป้องฉันที่ดีที่สุด"
เพราะนางเอกมีพลังแข็งแกร่งกว่าใคร และมีแนวโน้มจะถูกตัวร้ายเข้าควบคุมให้นางเอกใช้พลังที่มีอยู่ทำลายโลก
นางเอกเลยพูดประโยคนี้กับพระเอก
บอกรักหวานๆ เหรอ ไม่มี๊ มีแต่จะฆ่ากันเยี่ยงนี้แล (หึๆ)
เราอ่านเรื่องไหน ฟินทั้งเรื่อง
ตั้งเเต่ต้นเรื่อง จนจบ
เศร้าจังครับ หวังว่าสุดท้ายจะจำได้นะครับ :)
ทั้งเจ็บปวดทั้งสะใจในเวลาเดียวกันหรือเปล่าครับ?
พระเอกคงเศร้าน่าดูเลยนะครับ
ดีแล้วครับ :)
เรายังเขียนไม่ถึงฉากฟินเลย ฮ่าๆๆๆ
เท่าที่มีก็แค่เนี้ยแหละค่ะ
นางเอกกำลังจะย้ายโรงเรียน
พระเอกพยายามปลอบ
อย่ากลัวดิ การบ้านไม่เข้าใจเดี๋ยวช่วยสอนให้ ไม่มีเพื่อนเดี๋ยวไปนั่งทานข้าวด้วย มีคนมาตบเดี๋ยวต่อยคืนให้ เคป่ะ
แนวคิดคล้ายๆเรื่องของเราเลย 555555555
ขออนุญาตใช้พื้นที่เสนอความเห็นนิดนึงแล้วกันนะคะ ไม่รู้จะเสียมารยาทกับคุณโซ่มั้ย ขออภัยนะคะ - -"
เราลองไปส่องของคุณมา ไม่รู้ใช้เรื่องที่คุณยกมามั้ยนะคะ เรื่อง Be careful !! เด็กอันตราย
(ถ้าไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับที่ยกมา รบกวนบอกด้วยนะคะว่าเรื่องไหน เราจะขอตามไปส่องน่ะค่ะ 5555)
เสียดายที่เป็นแนวโรงเรียนในช่วงแรกๆ(คือเราไม่ชอบอ่านแนวโรงเรียนน่ะค่ะ = =")
เราชอบวิธีการนำเสนอไอเดียที่ค่อนข้างซีเรียสดีนะคะ คือแนวเด็กมีพลัง 4 ธาตุ เป็นพล็อตค่อนข้างพื้นๆ แต่คุณเอามาทำได้น่าสนใจได้
เราอ่านผ่านๆนะ สำนวนการบรรยายใช้ได้เลยค่ะ ส่วนตัวเราชอบบทที่คุยว่า ถึงตัวนางเอกจะตาย ชีวิตนางเอกก็ไม่ได้มีค่าพอที่จะหยุดการต่อสู้ ซึ่งคำพูดและฉากแบบนี้ใกล้เคียงกับเรื่องของเราที่จะสื่อออกมาเหมือนกัน
สารภาพว่าติดใจเรื่องของคุณเป็นพิเศษ เพราะความคิด 4 ธาตุ ว่าจะใช้พลังไปในทางไหน ปกป้อง หรือว่าทำลาย ไอเดียหลายๆเรื่องของคุณ เคยเป็นแนวเดียวกับที่เราเคยแต่ง ซึ่งที่พูดนี่คือ ชอบไอเดียนะคะ 555 ถูกใจเลย ทำให้ค่อนข้างคิดถึงเรื่องเก่าๆของเราเหมือนกัน
ปล.ชื่อนึกว่าเป็นแจ่มใสรักวัยรุ่น 555 ลองพิจารณาเปลี่ยนชื่อให้เข้ากับแนวเรื่องดูน่าจะดีนะคะ ^^"
พระเอกเท่ดีนะครับ :)
ก็กะว่าสุดท้ายจะให้นางเอกจำพระเอกได้แต่ไม่รู้ว่าตอนจบจะให้พระเอกตายรึเปล่าหรือจะเป็นยังไงเพราะว่านางเอกก็ชอบอีกคนนึงแต่ก็ยังรักพระเอกอยู่อ่ะ T_T
@ท่านนัท ไม่ครับ ผมตั้งใจให้เป็นกระทู้พูดคุยกันอยู่แล้ว ตามสบายเลยครับ ^^
นิยายเราถึงจะเป็นนิยายรัก(ฟิค) แต่ก็หาฉากฟินๆได้น้อยมากเพราะดันมีพระเอกปากแข็ง แถมมึนขั้นเทพ แต่ก็มีอยู่หนึ่งประโยคค่ะที่ทำให้รีดเดอร์หลายคนกรีดร้องกันได้
"ตัดใจไม่ได้ก็ไม่ต้องตัด อยากจะรักฉันก็รัก... คิดถึงมากเลย รู้มั้ย?"
มันเป็นฉากที่พระเอกจอมมึนไปง้อนางเอกค่ะ ย้ำว่าไปง้อเขานะ แต่ดูประโยคที่พี่แกใช้ -.- แต่เพราะมีประโยคสุดท้าย รีดเดอร์ก็เลยมองข้ามความน่าหมั่นไส้แล้วกรีดร้องแดดิ้นฟินกระจายกันค่ะ
ปล. ฉากนี้ปรากฏอยู่ในตอนที่ 24 เป็นฉากแรร์ที่มีน้อยมากกกในนิยายของเรา
ขำพระเอก 5555555555
ประโยคเดียวแต่ท่าทางจะตายเกลื่อนนะครับ ท่านกวาง 55
ไม่ทราบค่ะ...
ขอบคุณมากค่ะ งั้นขอตามไปส่องนะคะ ^^
@ท่านโซ่ เป็นพระเอกของผมต้องทำใจครับ ถูกทำร้ายทั้งกายและจิตใจ(ฮา)
@ท่าน RAY เข้าไปถูกเรื่องแล้วล่ะครับ (=////=)
เนื้อเรื่องช่วงแรกจะยังวนเวียนอยู่กับชีวิตประจำวัน เลยเป็นเรื่องในโรงเรียนน่ะครับ แต่ไม่ได้เน้นมาก แค่เป็นฉากหลังนิดๆ หน่อยๆ
จะค่อนข้างฮาเฮลั้นลา ผิดกับเนื้อเรื่องช่วงหลังลิบลับ
ตอนแรกผมคิดมาตลอดว่าเนื้อเรื่องตัวเองเป็นอะไรที่ธรรมดามาก ที่มีตัวเอกได้รับพลัง แล้วก็ไปสู้กับตัวร้ายที่คิดทำลาย(ปกครอง)โลก
พอท่าน RAY ว่างี้ ถึงกับตัวลอยเลย(ฮา)
ขอบคุณที่สนใจน้า ><
ส่วนเรื่องชื่อ ผมเป็นพวกเซ้นส์การตั้งชื่อติดลบสุดๆ เลยล่ะครับ TvT
แหม่ พล็อตเบสิคก็จริง ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม มันก็แตกต่างได้นะคะ 5555
เราเองก็ชอบพล็อตเบสิคนี่ล่ะ เราก็แต่งเหมือนกัน แนวตัวเอกมีพลัง ตัวร้ายจะทำลายโลก แต่ว่าถ้าตัวร้ายมีเหตุผลเพียงพอ มันก็พอไหวแหละค่ะ (ยังอ่านเรื่องของคุณผ่านๆนะคะ เลยไม่ทราบแน่ชัดว่าตัวร้ายอยากจะทำลายโลกไปทำไม อันนี้เลยขอโนคอมเมนต์ไปก่อน)
ส่วนเรื่องช่วงแรกออกแนวลั่นล๊า ผิดกับช่วงหลังลิบลับ ตรงนี้เราก็เห็นด้วย เราว่ามันทำให้อารมณ์เรื่องเปลี่ยนเยอะอยู่นะคะ ยังไงก็ลองปรับๆให้โทนมันไปทางเดียวกันน่าจะดีทีเดียวค่ะ เพราะหลังๆมันดราม่าแล้วก็โทนเรื่องหนักมาก คนอ่านจะปรับอารมณ์ยากค่ะ
ส่วนตัวชอบฉากเอมตาย มันมีพลังดี ชอบที่เขาตะโกนว่าแค่อยากมีความสุข(แต่ทำไมต้องฆ่าคนวะ 55555555) แล้วก็เศร้ามากที่นางเอกต้องฆ่าเอม ทั้งที่ก็ไม่อยากทำ = ="
"หากความรักคือการเสียสละ ข้าก็พร้อมทำเพื่อเจ้า
แม้ร่างกายข้าต้องแหลกสลายไป...แต่จิตใจข้าจะไม่มีวันลืมเจ้าตลอดกาล! "
ดูภาษาโบราณไปนิด แต่สำหรับผมมันซึ้งกินใจ
พระเอกนี่ยอมเสียสละเพื่อนายเอก เฮ้ย นางเอก จริงๆ
"อย่าแม้แต่จะคิด"
สั้นๆ แต่เราชอบ
เป็นประโยคที่อ่านแล้วเกิด impact กับตัวผมเองได้มั้ยครับ ประโยคฟินๆ พอดีไม่ค่อยมีเยอะเท่าไร
"ฉันรู้สึกผิดเกินกว่าที่จะทำลายชีวิตของนายเป็นครั้งที่สอง"
ประโยคนี้ยังอยู่ในช่วงร่างพล็อตใหม่ครับ เป็นฉากที่พ่อลูกคุยกันโดยที่ลูกไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อ แล้วนายพ่อคนนี้ก็พยามปกป้องลูกอยู่ห่างๆ มาตลอด (แบบว่ามีเหตุผลที่ต้องแยกจากกันน่ะครับ)
ชอบเขียนบทสนทนาของตัวละคาสองตัว คือมันก็ไม่ได้พีคอะไรหรอกครับ แต่เขียนแล้วรู้สึกสนุกเท่านั้นเอง
'มาทำไหม๊!!!' วรรษรีบพิมพ์ข้อความกลับแทบจะเป็นรนราน
'พักนี้ตาซ้ายฉันกระตุกแปลกๆ สงสัยรางไม่ดี'
'แค่ตากระตุกถึงขั้นต้องมาข้ามน้ำข้ามทะเลมาเลยเหรอ ผมไม่ห่วงปู่หรอกนะ ผมห่วงย่ามากกว่าต้องนั่งเครื่องบินนานๆ แบบนั้น แล้วกรุงเทพรถติดจะตาย อากาศก็ร้อนจะมาทำไมกัน'
'ขี้เกียจเถียงกับแกว่ะ เถียงทีไรคันส้นเท้าทุกที นี่เมืองไทยอยู่ช่วงหน้าร้อนใช่ไหม ต้นมะม่วงหลังบ้านออกลูกหรือยังวะ ฉันแพ้ท้องอยากกิน-นั่น เขาเรียกอะไรนะ ที่เอาน้ำมะพร้าวรวดข้าวเหนียว กินกับมะม่วงสุกน่ะ'
'หมายถึงข้าวเหนียวมะม่วงนะเหรอ สติกกี้ไรซ์แอนด์แมงโก้? แล้วนั่นเขาเรียกน้ำมะพร้าวที่ไหน เขาเรียกกะทิต่างหาก ปู่นี่เชยชะมัดมีเมียเป็นคนไทยซะเปล่าป่านนี้ยังพูดไทยไม่ได้ นี่ถ้าร้องเพลงชาติไทยไม่ได้ ตม.เขาไม่ให้เข้าประเทศนะรู้ไหม'
'ไม่ต้องมาอำ ฉันไม่ใช่เด็กสี่ขวบ อีกอย่างภาษาไทยมันไม่ใช่หวัดนะโว้ย อยู่ด้วยกันแล้วจะได้ติดกันได้ ยังไงก็ช่างแกเตรียมหาสติกกี้ไรซ์กับแมงโก้ไว้ให้ฉันด้วย รู้ไหมฉันหลงรักย่าก็ตอนที่ย่าแกเอามะม่วงเขวี้ยงกบาลนี่แหละ นี่ถ้าตอนนั้นย่าแกไม่ได้เป็นแม่ค้ามะม่วงแต่เป็นแม่ค้าทุเรียนแทนนะ ป่านนี้พ่อแกกับแกไม่ได้เกิดมาหร๊อก'
"งั้นเป็นทุเรียนแทนไหมจะได้รำลึกอดีต' วรรษว่าไป
'ได้! เอาลูกใหญ่ๆ ไม่ต้องผ่า พอไปถึงฉันจะได้เอาทุบหัวแกถนัด'
'เอ่อ งั้นกินมะม่วงสุกน่ะดีแล้ว... แต่ปู่จะมาจริงๆ นะเหรอ'
'เออสิวะ แล้วนี่อยู่ทางโน่นแกอยู่กินยังไง อย่าบอกนะว่ากินแต่อาหารสำเร็จรูป"
'โหย เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกน่า มี่เขาดูแลทุกอย่างในบ้านดี คอยทำกับข้าวให้กินครบสามมื้อ แถมมีขนมแถมด้วย น่ารักที่ซู๊ดดดด นี่น้ำหนักผมเพิ่มขึ้นตั้งหลายกิโล หุ่นกำลังจ้ำม่ำน่ารักน่ากอด'
'สมเพชว่ะ แกเป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่มีปัญญาดูแลตัวเองบ้างหรือวะ'
'ปู่จะไปเข้าใจอาไร๊ กับข้าวที่ทำกินเอง กับกับข้าวคนที่รักทำให้มันรสชาติต่างกันนะจะบอกให้'
'เฮอะ -พวกหลงน้อง ซักวันถ้าไม่มีใครทำอะไรให้แกจะเป็นยังไง'
'เก๊าะกลายเป็นพี่มีปัญหาเพราะกำพร้าน้องไง แล้วตกลงปู่จะมาวันไหน ปุบปับมากันแบบนี้ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย'
'ไม่เห็นต้องเตรียมอะไร ตอนนี้นี่ฉันยังมีงานต้องทำอีกนิดหน่อย คงอีกสองสามวันถึงจะเดินทาง ที่จะบอกก็แค่นี้แหละ'
"อยากได้ความรักก็ต้องรักเขาให้มากกว่าที่เขารักเราสิ ถ้าไม่ทำตัวให้คู่ควรก็ไม่ได้มาหรอก" พระเอกพูดกับน้องชายตัวเอง
"ถ้าแค่ปกป้องลูกกับเมียยังทำไม่ได้ ผมว่าผมควรไปกระโดดแม่น้ำตายนะ" พระเอกพูดกับพี่ชายตัวเอง
"สบายมาก ถึงเลี้ยงแฝดจะเหนื่อย แต่มันยังลำบากไม่ถึงครึ่งที่...อุ้มท้องมาเลยนะ" พระเอกพูดกับพี่ชายของภรรยา
พระเอกคือคนเลวร้ายมาก นิยายเราไม่มีตัวร้าย(เพราะพระเอกร้ายสุด) เขาเปลี่ยนตัวเองมาได้ขนาดนี้ เขียนเองยังปลื้มเองเลยค่ะ (ฟินเงียบๆ คนเดียว)
ช่วงแรกเป็นช่วงที่เหมือนเป็นช่วงแนะนำตัวน่ะครับ ก็เลยยังเล่นบทหนักไม่ได้
ก็มีฉากแนวหนักๆ โผล่มาเป็นระยะๆ เหมือนกัน และหลังๆ จะเริ่มเยอะขึ้นตามลำดับ
ไม่ได้โผล่มาตู้มเดียว โทนเรื่องเปลี่ยนเอาดื้อๆ แน่นอน
แต่ผมเป็นพวกซีเรียสได้แป๊ปๆ เดี๋ยวก็ต้องมีฉากฮาคั่นบ้างไม่ให้เครียดเกินไปเหมือนกัน (ไม่รู้ว่าเป็นมุกฝืดรึเปล่านะ 555)
อีกนิด เอลไม่ใช่นางเอกนะครับผม เป็นเพื่อนสนิทของนางเอกน่ะ เลยบทค่อนข้างเด่นอยู่พอควร ^^
*กลั้นหัวเราะ
ซึ้ง ๆ มาสะดุดกึกประโยคสุดท้ายเลยครับ...
ตกลงนางเอกหรือนายเอกครับ? 55
ประโยคพื้นฐานแต่ใช้ได้เสมอเลยเนอะครับ ^^
"น้ำตาหยาดแรก คือจุดเริ่มต้นแห่งความเสียใจ
น้ำตาหยาดสุดท้าย คือจุดเริ่มต้นแห่งความแข็งแกร่ง"
ตอนนี้คิดออกแค่ประโยคนี้ที่มาจากนิยายแฟนตาซีที่แต่ง
ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา ^^
พลอตดูซับซ้อนและท่าทางจะดราม่านะครับ
ผมอ่านแล้วรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติมาก
ทำให้ทั้ง ๆ ที่คิดว่ายาวแต่รู้ตัวอีกทีก็อ่านจบซะแล้วครับ :)
มาฟินเป็นเพื่อนครับ :)
การกลับตัวกลับใจของใครสักคนเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่นะครับ ผมว่า
"อักกะน้อยของข้า มา รีบอาบน้ำแล้วกลับบ้านกัน"
"เดี๋ยว เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ! อักกะน้อยของเจ้าเช่นนั้นรึ!...เจ้าบ้า! เรียกแบบนั้นทำไมกัน ...ต่อให้ไม่เรียกว่าอักกะของเจ้า ข้าก็เป็นของเจ้าอยู่แล้ว...เรียกซ้ำซาก"
ประมาณนี้ค่ะ
"ข้าอาจเป็นเพียงเงา แต่เขาและข้าต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ข้าขาดเขาไม่ได้เหมือนกับที่เขาขาดข้าไม่ได้เช่นกัน พวกเราเป็นเหมือนแสงกับเงา ที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้… "ยังไม่จบประโยคค่ะ แต่ถ้าต่อมันจะเผยปมของนิยายขออนุญาตตัดแต่เพียงเท่านี้555 ความฟินอยู่ที่ตอนนี้เป็นฉากที่ตัวเอกด้านมืดพูดกับด้านสว่างของตัวเอง ไม่ต้องมีพระเอก นางเอกก็ฟินได้ด้วยตัวคนเดียว5555
ลึกซึ้งครับ :)
ปากแข็งนะครับคนพูด 55
ล้ำมากครับ ฟินกับตัวเอง 55
สะดุดกึกตรงนายเอก 5555555
ดีงามมมม ♥
เรื่องนี้นางเอกเราร้ายค่ะ จะว่าไปนิยายเราไม่มีพระเอกนางเอก มีแต่ตัวเด่นชาย กะตัวเด่นหญิง แต่ไม่รู้จะเรียกว่าไงเลยเรียกพระนางไป
ปล. นิยายเรา เป็น นิยายไม่รัก ค่ะ ดราม่า แก้แค้น ล้วนๆ
ขอบคุณค่ะ><
แฟนผมหาย...ผมแค่อยากได้คืน
จากเรื่อง"จอมนางคู่บัลลังก์"ค่ะ
จากเรื่องในไหดองครับ..
ฉากที่พระเอก(ปีศาจ)คุยกับผู้กล้าครับ
"คิดว่าปีศาจอยู่ได้โดยไม่ต้องกินรึไง พวกเราฆ่าแค่มนุษย์ พวกเจ้าฆ่าทั้งหมู ไก่ ปลา และสัตว์อีกตั้งหลายชนิด หากพวกเจ้านิยามปีศาจว่าเป็นความชั่วร้าย ข้าว่ามนุษย์อย่างพวกเจ้าเหมาะกับคำว่า'ปีศาจ'มากกว่าข้าอีก"
เป็นประโยคที่ชอบที่สุดครับ
อีกประโยคนึงจากเรื่องปัจจุบันที่ยังลงไม่ถึงครับ////////
"นายเป็นตัวของนายก็ดีอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องเปลี่ยนเลย ฉันไม่ได้ต้องการคนที่เพอร์เฟคมายืนข้างๆ แค่คนที่มีความสุขและอยู่ให้ฉันดูแลได้ก็พอแล้ว"
ครับ อันนี้ตีความได้หลายอารมณ์เลยนะครับ
ผมถามได้ไหมครับ อันนี้เอาไว้ประดับความรู้
ป๋ายพิงถิงหมายถึงอะไรเหรอครับ?
พอเดา ๆ ได้ แต่ถามเพื่อความแน่ใจน่ะครับ :)
อันแรกนี่ทำให้ต้องคิดเลยครับ
ส่วนอันที่ 2 ผมว่าอ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นดีครับ ^^
เป็นนิยายที่เคยแต่งและปัจจุบันหายไปแล้วค่ะ (อ้าว...) แต่ยังจำได้ว่า...
"ฉันไม่รู้นะว่าแม่เธอจะว่ายังไง แต่ฉันจะขอเธอเป็นคนรักเดียวนี้ ตอนนี้
แต่อาจจะช้าไป บางทีแม่เธออาจจะมาขัดขวางเราได้... งั้นตอนนี้ฉันจะขอเธอแต่งงานแทน ไม่สิ ข้ามไปตอนส่งตัวเข้าหอเลยดีกว่า
แต่เพื่อความมั่นใจ... ฉันว่าเรามา ... เร็ว ถอดเสื้อสิ ฉันอยากได้ลูกชาย"
#นี่ไม่ใช่นิยายอีโรติคนะคะ... (?)
ครับ ท่าทางจะรีบมากเลยนะครับ 55
นางเอกแซ่ป๋าย ชื่อพิงถิงค่ะ แปลว่า(หญิงผู้มี)ท่วงท่ากิริยางาม //นั่งเปิดเชิงอรรถ ฮา
ขอบคุณครับ 55
หือ.. หลานอันกลัวปีเตอร์เหรอจ๊ะ
“ถ้าหากข้าคือสิ่งที่พวกเจ้าเรียกว่า ‘แม่มด’ เช่นนั้นแล้ว บุคคลที่พวกเจ้าพึงหา ก็ไม่ใช่ 'มนุษย์' เช่นนางหรอก มีข้อแตกต่างระหว่างข้ากับนางอย่างที่เจ้าคาดไม่ถึงเชียวละ”
“จะอย่างไรก็ช่าง” ชายหนุ่มเลื่อนฝ่ามือไปกำชับดาบที่ลำเอว “ข้าจะรอคอยวันที่เจ้ากลับคืนเป็นมนุษย์ เพื่อลงดาบปลิดชีพเจ้าอย่างแน่นอน”
“ดีจริง” หญิงสาวอมยิ้ม “เมื่อถึงตอนนั้น ขอฝากเจ้าด้วยแล้วกัน...”
ในเรื่องนี้พวกแม่มดเป็นอมตะค่ะ และพระเอกก็รอวันชำระแค้น ฮ่าๆ XD
อีกอันหนึ่งที่ชอบคือตอนอาจารย์พระเอกให้คำสอน
“คนเราจะไม่เป็นตัวเองมากที่สุดเมื่อต้องพูดถึงเรื่องของตัวเอง”
ฉากที่นางเอกกำลังสับสนเรื่องชะนี(?)นางหนึ่ง แล้วพระเอกก็บอกว่า ไม่ได้รู้สึกอะไรกับชะนีนางนั้น จากนั้นก็บอกว่า...
"มองตาผม แล้วจะรู้ว่าคนที่ผมชอบคือใคร"
บ้าจริงงงงง ควักลูกตามาจ้องเลยได้มั้ยยยยยยยย #ผิด
ผมชอบประโยคสุดท้ายนะ ผมว่ามันใช้ได้แทบทุกแนว ทุกสถานการณ์เลยครับ :)
ควักออกมาก็จ้องได้แค่ตอนนั้นครับ เก็บที่เดิมจะมองตากันได้ตลอดไปดีกว่าครับ ^^
ปล. สอบเสร็จแล้วเหรอครับ?
ยังค่าาาา พรุ่งนี้ก็สอบ วันที่ 11 ก็สอบอีกเป็นวันสุดท้าย
ไม่ไหวแล้ว
สนใจมามองตาผมไหมละครับ #ผิดมาก
ผมล้อเล่นนะ 55 เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้น สู้ครับ อีกนิดเดียว
//เหม่อมองปิดเทอมอันไกลโพ้น
“ฉันสัญญาว่าทุกเวลาต่อแต่นี้ไปฉันจะเป็นคนปกป้องเธอเอง... และถ้าเธอไปอยู่ที่อื่น... ฉันก็จะตามหาเธอจนพบ แล้วปกป้องเธอ”
“ฉันจะปกป้องเธอตลอดไป แค่เธอเพียง ‘คนเดียว’ เท่านั้น ฉันสัญญา...”
ยกมาแค่ประโยค... ไม่ได้นำบทบรรยายมาด้วย เกรงจะยาวเกินไป ไม่ใช่ประโยคสุดฟิน ;)
สองประโยคนี้เกี่ยวเนื่องกัน เลยยกมาสองอันเสียเลย (ฮา)
ปล. เรื่องที่ว่าไม่ได้เขียนในไอดีนี้ ^^
เหมือนเป็นคำสัญญาที่แทบจะเทียบเท่าสัตย์สาบานเลยนะครับ :)
แต่สุดท้ายก็รักษาสัญญาไว้ไม่ได้ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้เกิดเรื่องราวบางอย่างตามมา :D
อา...ยากแฮะ 5555
บังเอิญถนัดแต่งเป็น(แฟนฟิค)เรื่องสั้นๆ 1-2 ตอนจบ เลยมีหลายเรื่องค่ะ ฮาา แต่ถ้าต้องเลือกมาสักฉากจริงๆ คงเป็นอันนี้
เป็นสถานการณ์ที่นายเอกกลับบ้านที่ต่างประเทศค่ะ แล้วก็วิดีโอคอลคุยกับพระเอก ขอยกทั้งฉากมาเลยแล้วกันนะคะ
...
[นี่ฉันอยู่บ้านนะ ที่นู่นน่ะหอต่างหาก]
ได้ยินปลายสายแอบหัวเราะคิก แต่เด็กหนุ่มไม่ได้พูดผิดหรอก เขาตั้งใจพูดว่าบ้านจริงๆ
"ไม่ดิ ไม่ได้หมายถึงหอ"
เขาเว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนจะยกมือข้างขวาขึ้นมา วางทาบลงบนอกด้านซ้าย ตำแหน่งหัวใจของเขาเอง
"ฉันหมายถึงตรงนี้อ่ะ... บ้านนาย"
...
เรานี่พิมพ์จบแล้วลงไปดิ้นเลยค่ะ
*ดิทแก้บรรทัดนิดหน่อยค่ะ
ท่านมิฮาฮ่าพิมพ์เองเขินเองสินะครับ 555
"ห้ามซนนะเด็กดื้อ .////////////."
แค่นี้ค่ะ 5555555555555555555555
ครับ :)
ไม่รอดครับ จ๊ะเอ๋กับรองบอสพอดี สู้กันโรงแรมระเบิดไปนิดหน่อยแต่ก็ปลอดภัยดีครับ
//เอาหัวโขกกำแพง
ไม่เอาครับ เดี๋ยวเจ็บนะครับ :)
ว่าแต่โขกเพราะอะไรครับ? สอบหรือมุกผมเนี่ย? 555
จริงๆ ค่ะ... พอดีส่วนตัวหลงใหลความอบอุ่นแบบ 'บ้าน'
ทีนี้พอเรื่องของตัวเองมีช่องให้ใส่อะไรแบบนี้ได้ ก็เลยจัดไปเลยค่ะ ฮาา
“ทำไมคุณชอบหันหลังหนีเวลาเถียงแพ้อยู่เรื่อย”
ร่างสูงหันกลับมา ดวงตาสีสนิมเหล็กทอดมองเด็กน้อยผู้แสนดื้อดึงอย่างอ่อนใจก่อนจะก้าวเข้ามาประชิด อุ้งมือขวาที่ยังห่อหุ้มด้วยเกล็ดและกรงเล็บเอื้อมไปกุมมือเล็กบางไว้อย่างหลวมๆเป็นการบังคับกลายๆให้เธอปล่อยมือจากเสื้อของเขา ขณะที่อีกมือของมังกรหนุ่มวางลงบนเอวของเธอ
แพทริเซียมองการกระทำนั้นอย่างแปลกใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจเมื่อบัลธาซาร์ออกแรงดึงทำให้เธอที่ไม่ทันตั้งตัวเซล้มไปปะทะอกกว้างเข้าเต็มๆ บริเวณที่แขนแกร่งสัมผัสอยู่รู้สึกได้ถึงไอเย็นจากเกล็ดมังกร ตัดกันอย่างชัดเจนกับความร้อนผ่าวที่กระจายมาจากร่างหนาส่งผลให้สองแก้มของเธอแดงก่ำอย่างห้ามไม่ได้
“เพราะข้าไม่ต้องการจะโต้เถียงกับเจ้า”
แพทริเซียที่ตั้งใจจะขืนตัวออกห่างด้วยหวังให้หัวใจที่เต้นกระหน่ำจะช้าลงบ้างถึงกับนิ่งไปเมื่อประโยคดังกล่าวผ่านออกมาจากปากนายเหนือแห่งปราสาทร้าง
“ไม่ต้องการให้เราทะเลาะกัน”
บัลธาซาร์ปล่อยมือแพทริเซียเป็นอิสระก่อนจะย้ายมือของตนมาแตะที่แผ่นหลังของเด็กสาวแทน
“หากการเดินหนีจะยุติรอยร้าวได้ข้าก็จะทำเช่นนั้นแหละแพทริเซีย ข้ารู้ดีว่าการกระทำเช่นนี้ไม่อาจลบเลือนปัญหาได้ แต่แค่ครู่เดียว...ครู่เดียวเท่านั้นช่วยทำเหมือนว่ามันไม่มีตัวตนจะได้หรือไม่”
เธอรู้สึกว่าอ้อมกอดที่ได้รับกระชับแน่นขึ้นขณะที่ใบหน้าคมคายฝั่งลงมาในกลุ่มผมสีทองคำของเธอ
ฉากนี้รีดเดอร์บอกว่าหวานที่สุดแล้วเท่าที่อ่านมา(สาบานได้ว่าแต่งนิยายรักแนวพารานอมอล แต่กว่าฉากหวานจะมาก็เกือบสามสิบตอน 555)
ปกติกระผมชอบแต่งให้ตัวละครแสดงความรู้สึกผ่านการกระทำเสียมากกว่าเลยไม่ ค่อยมีประโยคฟินเสียเท่าไหร่ #การกระทำที่ว่าอย่าคิดลึกกันนะท่าน ฮา
“อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไป ไหล่น่ะ ถ้ารับไม่ไหวก็ปล่อยมันบ้าง” เฟรินนอนเท้าแขนหันหน้ามาหาบาโร “หรือไม่ หาไหล่เล็กๆของใครสักคนมาช่วยแบกรับมัน แล้วเจ้าจะรู้…บางครั้งพวกผู้หญิงก็เข้มแข็งมากกว่าผู้ชายเสียอีก” ว่าไปก็กลั้วหัวเราะไปราวกับตัวเองไม่ใช่พวกผู้หญิงที่ว่า
ประ โยคฟินของฝ่ายหญิงขอรับ.. พระเอกรู้สึกเสียใจที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ของนางเอกต้องตาย แต่เจอนางปลอบเข้าไป หายทีเดียว >.<////
ส่วนนี่ของฝ่ายชาย กระผมพยายามตัดแล้วนะครับ แต่มันตัดไม่ได้จริงๆ TT ขออภัยด้วย
“ใจหายหรือ”
“ใครว่าล่ะ ข้าดีใจจะแย่ ขืนอยู่กับเจ้าต่อมีหวังโดนซิวจะไปนอนคุกกี่รอบก็ไม่รู้”
“ใช่ว่าข้าจะไปแล้วไปลับเสีย ไว้จะส่งจดหมายมา ดีมั้ย”
“พูดแล้วนะ” เจ้าตัวดีว่า
“นักรบรักษาคำพูด ข้าเป็นนักรบย่อมรักษาคำพูด” จบประโยคเฟรินถึงได้ยิ้มกว้าง
“ให้ตายสิ ยังจะมาเก๊กอยู่ได้นะลุง”
ประโยคตัวเอียงคือประโยคฟินขอรับPS.จากข้อความข้างต้นมาจาก 'ฟิค บารามอส' ขอรับ #รู้สึกผิดกติกานิดหนึ่ง ช่วงนี้มีแต่แต่งฟิคเลยไม่มีประโยคฟินจากนิยายเลย
"ถ้านายเลือกแบคฮยอนนายก็หันหลังกลับไป
แต่ถ้านายเลือกฉัน..รักฉัน...ก็คลานกลับมา"
มันเด็ดมากจริงๆค่ะ มันอาจจะดูหน่วงเนาะ ประโยคนี้คือตอนที่ใกล้จะจบแล้วค่ะ แต่หลังจากที่นายเอกพูดเสร็จพระเอกก็คุกเข่าและคลานไปหานายเอกค่ะ มันเป็นการแสดงออกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่นะสำหรับเรา การที่ใครคนใดคนนึงจะยอมทิ้งศักดิ์ศรี ชื่อเสียง ทั้งที่ตัวเองเป็นเดือนคณัะแต่กลับมาทำอะไรแบบนี้เราว่ามันสุดๆจริงๆค่ะ เราว่าถ้าใครได้อ่านฟิคนี้ก็ต้องชอบแน่ๆค่ะ เราถึงกับซื้อมาเลย สาเหตุที่มาของประโยคนั้นมันต้องพูดกันยาวสาวความไปถึงต้นเรื่องเลยค่ะ มันมีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้นายเอกต้องพูดอย่างงั้นค่ะ ถ้าลองอ่านเองแล้วจะเข้าใจ มันสุดๆจริงๆ
ปล.ฟิคชชของศิลปินเกาหลีค่ะ จขกท.คงไม่อ่านแนวนี้เนาะ 5555
ปล2.ชื่อฟิคว่างค่ะ vacuity kaido เผื่อใครชอบแลัะสนใจ
ผมชอบอารมณ์แบบนี้มากกว่าหวานชัด ๆ ไปเลยนะครับ โดยส่วนตัวแล้วมันลุ้นดี :)
เราเป็นเพียงแฟนคลับฟิคนี้ค่ะ ไม่ใช่เจ้าของฟิคเน้อ
ผมเคยอ่านบารามอสครับ ^^
ผมอยากรู้ว่าแล้วคาโลไปไหนเหรอครับ? 55
ครับ ไม่เคยอ่านแนวนี้เลยครับ 55
กระผมมาแหวกแนว คาโลไม่อยู่ อยู่แต่บาโร 555
เรื่องนี้ท่านจะกินเด็กครับ #ผมไม่ขอยุ่ง
ไม่บอกค่ะ เขิน :3
เรานี่ไปไกลเลยค่ะ #อย่าถามว่าเรื่องอะไร (ฮา)
32-1 ประโยคนี้เกิดจากมันสมองน้อย ของผมเลยนะครับ ส่วนจะเป็นนางเอกหรือนายเอก ผมคงต้องคิดอีกที เพราะตอนจบมันจะฟิตแบบเลย //เอาให้สับสนไป เกรงว่าไป มาจะกลายเป็นฮาเร็ม -w-
32-2 ขนาดนั้นเลยหรือครับ คุณราชินี *0*
"ความรักของข้ามิเคยใช่ห่วงโซ่พันธนาหทัยใคร แต่มันจะเป็นปีกติดหัวใจ ให้เจ้าโบยบินไปตลอดกาล"
แต่งแนวแฟนตาซีค่ะ (หัวเราะ)
"คำว่ารัก เดี๋ยวเฉียดเข้าใกล้ ประเดี๋ยวห่างออกไป บางคราน่าลุ่มหลง แต่บางครั้งกลับน่ารำคาญ ข้าไม่เคยคิดเข้าใจมัน"
อันนี้ก็ดูแฟนตาซีอีก
"ฉันชอบคนน่ารัก และเธอก็น่ารัก เพราะงั้นฉันชอบเธอ"
อันสุดท้ายค่อยดูปกติหน่อย แฮ่ะ
#หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่ะะ
"ก็แค่พวกที่ได้เเต่ชะเง้อคอมองแล้วเอาแต่มโนไปเอง..."
(. .) คือประโยคที่พระเอกคิด(นึกถึง)พวกแฟนคลับของตัวเองค่ะ รู้สึกชอบและฟินกับประโยคนี้มากกกกกก >////<;; ...ทำไมท่านอื่นๆถึงเป็นประโยครักๆกันหมดเลยล่ะคะ... หรือเราจิตอยู่คนเดียวที่ฟินกับประโยคแบบนี้ ? 55555555 แต่เอาจริงก็หินมากเลยนะ เหมือนประโยคด่าแบบ "อิพวกขี้มโน.." 5555555555555
จริงๆความฟินของวลีนี้ในสายตาเรา
ประโยคว่า สนใจตัวตนของนาย คือหมายถึงนิสัย การกระทำ การแสดงออกทั้งนอกและใน ทุกสิ่งทุกอย่างของอีกฝ่ายหนึ่งค่ะ เพราะไม่เหมือนใครและน่าสนใจ เจ้าตัวเลยพูดออกมาแบบนั้น //ง่ายๆว่าจิตใจใสสะอาดนั่นล่ะคือหนึ่งในนั้น
น่ารักดีเนอะ
พวกเราจะสู้เพื่อเผ่าพันธุ์
พวกเราจะสู้......
เพื่ออิสรภาพ!!! "
นี้เป็นคำพูดของพระเอก(ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ในเกมออนไลน์) ที่พูดปลุกใจกับกองทัพของตนเองก่อนจะไปสู้กับเหล่าผู้เล่นเป็นครั้งสุดท้าย
เขินอะไรครับ? 555
ผมชอบทุกอันนะ แต่ชอบอันแรกที่สุด
เหมือนความรักที่ไม่ยึดติดเกินไป :)
แปลกดีครับ 555
คำพูดปลุกใจสินะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?