Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Review!!สอบข้อเขียน+สัมภาษณ์BALAC2015(อักษรฯอินเตอร์ จุฬา)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีคะ วันนี้เราจะมารีวิวการสอบข้อเขียน และสัมภาษณ์BALACหรืออักษรอินเตอร์ จุฬานั่นเอง เอาเป็นว่าเริ่มตั้งแต่การยื่นคะแนนเลยละกันคะ

1.การยื่นคะแนนใช้SAT/CU-AAT 400+(อย่างใดอย่างหนึ่ง) และต้องยื่นพร้อมกับCu-Tep(ไม่แน่ใจว่าต้องใช้เท่าไหร่ใครรู้บอกทีน้าTT)/IELTS 6+/TOEFL(จำไม่ได้เช่นกันจ้า แหะๆ)ปล.เราใช้IELTS+CU-AATคะ ซึ่งคนที่คะแนนผ่านเกณฑ์มีสิทธิ์สอบข้อเขียน"ทุกคน"นะคะ

2.เอาหละ ฟังแล้วดูเหมือนง่ายใช่มั้ยคะแต่สำหรับเราคิดว่ามันจะมายากก็ตรงสอบข้อเขียนเนี่ยแหละคะ(ต้องบอกก่อนนะคะว่าเราชอบภาษาอังกฤษมากๆแล้วก็คิดว่าถนัดในระดับหนึ่งยังคิดว่ายากเลยTT)เพราะจากที่ดูข้อสอบเก่าๆคิดว่ายากขึ้นทุกๆปีเลยคะ มาถึงวันสอบข้อเขียนมีReadingให้ทำแล้วก็ให้เขียนEssayให้เขียนมี4คำถามให้เลือกด้วยกัน เราจำคำถามแบบเต็มๆไม่ได้แต่ว่าเอาคร่าวๆละกันนะคะ
2.1 Reading : Choices คล้ายๆของSAT/Cu-AATแต่คิดว่าง่ายกว่าประมาณนึงคะ แต่ว่าจะมีเติมคะว่าHe/She/They/It referถึงใคร แล้วก็ให้สรุปเรื่องโดยใช้"Your own words"อย่างต่ำ6-7ประโยคหรือครึ่งหน้ากระดาษA4คะ
2.2 Writing : มี4หัวข้อ คร่าวๆก็เรื่อง สงกรานต์ที่สิงคโปร์เลียนแบบไทยไป/เทรนด์การปั่นจักรยานในกรุงเทพ/การถูกคุกคามบนอินเทอร์เน็ตระหว่างญ,ช/Tourismเป็นการquoteข้อความมาให้แล้วถามว่าคิดอย่างไรเห็นด้วยไหม(จำได้แค่หัวข้อคร่าวๆต้องขอโทษด้วยคะรอผู้รู้มาตอบละกันเนอะ)
*ซึ่งPart writingคิดว่าสำคัญมากๆคะคะแนนเยอะกว่า แล้วโจทย์ที่เขาให้มาก็ต้องตีความอีกที มีเพื่อนๆหลายคนไม่ใช่ว่าเขียนไม่ได้นะคะแต่ตีโจทย์ไม่ออกเพราะคำถามค่อนข้างซับซ้อนพอสมควรคะไม่ได้ถามตรงๆ แต่ข้อคำถามไม่ซับซ้อนก้มีคะ แต่!(ส่วนตัว)คิดว่าถ้าทำข้อง่ายคู่แข่งก็จะเยอะโอกาสได้ลดลงEssayของเราจะไม่โดดเด่น อย่างไรก็ตามถ้าทำข้อยากเกินตัวเขียนไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้คะแนนเช่นกันนะคะ แล้วที่เขาเน้นไว้มุมกระดาษเลยคือเขาต้องการQualityไม่ใช่quantityนะจ้ะ แต่ก็ไม่ใช่เขียนน้อยเกินเอาให้พอดีกับเวลาที่เขาให้มานะคะ ส่วนตัวเราเขียนประมาณ450คำคะ*
-สอบข้อเขียนให้เวลา2ชั่วโมง ซึ่งที่กระดาษจะเขียนแนะนำ(ไม่บังคับ)ไว้ว่าควรทำPartละ1ชั่วโมง แต่เราทำReading40นาทีwriting80นาทีคะเพราะคิดว่าreadingไม่ยากขนาดนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ถึง1ชั่วโมง(แล้วแต่คนถนัดคะ)-


3.ทีนี้หลังจากผ่านข้อเขียนมาได้(ปีเราสอบข้อเขียนประมานเกือบ5ร้อยเอาเข้าสัมภาษณ์269)แต่ก็ยังดีใจไม่ได้เพราะเขาเอาออกอีกครึ่งนึง!(เกินครึ่งด้วยซ้ำTT)เพราะตัวจริงมีแค่100คนเท่านั้น เราสัมภาษณ์กับอาจารย์ต่างชาติ1คนและอาจารย์ไทย1คน ค่อนข้างใจดีทั้งคู่คะ
3.1 ตอนรอหน้าห้องตื่นเต้นมากๆเขาจะเรียกออกไปนั่งรอหน้าห้องทีละ3-4คน เฉลี่ยแล้วสัมภาษณ์คนละ10-20นาที ส่วนตัวเราสัมภาษณ์ประมาณ15เกือบ20คะ
3.2 เข้าไปอาจารย์ก็ให้แนะนำตัวคะ
อาจารย์ : เวลาว่างชอบทำอะไร
เรา : ชอบทำอาหาร ท่องเที่ยว และ เล่นกีฬาคะ
อาจารย์ : คิดว่าทำอาหารแล้วได้ปรดโยชน์อย่างไร
เรา : คิดว่ามันสนุกที่ได้เปิดหาสูตรอาหารในอินเทอร์เน็ต หรือไปร้านหนังสือเพื่อหาสูตรและนำมาปรับเป็นรสชาติของตนเอง และบางทีการทำอาหารให้คนอื่นก็ทำให้เขาและเรามีความสุขอีกทั้งยังฝึกให่ตัวเองเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย
อาจารย์ : คิดว่าวัฒนธรรมคืออะไร
เรา : ไม่ทราบว่าความหมายที่ถูกต้องจริงๆคืออะไรแต่ส่วนตัวคิดว่ามันคือ ความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี อาหาร ภาษา หรือ ขนบธรรมเนียม ในแต่ละสังคมซึ่งแต่ละสังคมก้จะมีวัฒนธรรมแตกต่างกัน
อาจารย์ : อ่านหนังสือบ้างไหม?
เรา : อ่านคะ เรื่องที่ชอบที่สุดก็The fault in our stars by John Green
อาจารย์ : หันหน้าพูดกันสองคน(โหpopularเนอะ55555)หลังจากอ่านจบแล้วได้อะไรบ้าง?
เรา : ได้มองชีวิตในหลายๆมุมมันทำให้เราหันกลับมามองตัวเอง อย่างพระเอกกับนางเอกเนี่ยถึงแม้ว่าเขาจะเป็นโรคแต่เขาก็ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ตามหาความฝันของตนเอง ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่าเราควรจะทำทุกๆวันให้ดีที่สุดเพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตเราไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่คนที่เรารักจะจากเราไปคือมันimpressiveมาก(แถสุดดด555555แต่อ่านจริงนะคะ)
และมีอื่นๆอีกเยอะคะ อย่างเคยไปต่างประเทศไหม ได้อะไรบ้าง คนประเทศนั้นเป็นยังไง/ทำไมถึงอยากเรียนที่นี่/สมัครที่อื่นไว้หรือเปล่า/ถ้าได้เอาไหม จำไม่ได้แล้ว555555
*สำหรับการสอบสัมภาษณ์ สิ่งที่แนะนำคือ อย่า"โกหก"เป็นอันขาดคะเพราะอาจารย์เขาดูออก เพราะเขาก็จะถามคำถามต่อจากที่เราตอบเนี่ยแหละคะอย่างพวกหนังสือถ้าไม่อ่านจริงอย่าตอบนะคะเพราะเขามีสิทธิ์ถามเจาะลึกได้ ซื่อสัตย์ไว้ดีที่สุดคะ อาจมีmakeขึ้นมาบ้างเล็กน้อยแต่เอาพอเหมาะพอควรนะคะ*

4.คำแนะนำนะคะ คนเกณฑ์ผ่ามีสิทธิ์สอบข้อเขียนทุกคนก็จริงคะแต่ ส่วนมาก ย้ำนะคะว่าส่วนมาก คนผ่านข้อเขียนได้คะแนนกันอยู่ที่SAT/CU-AAT4ร้อยปลายๆหรือ5ร้อยขึ้นแต่!อย่าพึ่งท้อไปคะคนได้4ร้อยต้นแล้วผ่านก็มีนะคะ เอาเป็นว่าอยากให้ขยันๆจะได้ไม่ต้องมากังวลที่หลังคะ
-ส่วนตัวเราเรียนโรงเรียนไทยแบบไทยจ๋าแต่ชอบภาษาอังกฤษคะถนัดกว่าวิชาอื่น เราได้CU-AAT480/IELTS6.5 และคิดว่ามันเยอะสำหรับเด็กไทยอย่างเราไม่ได้จะอวดนะคะแต่อยากจะบอกว่าให้ขยันและหมั่นฝึกฝนเยอะๆคะเราท่องศัพท์ ดูรายการฝรั่งเยอะมาก ไปsummerต่างประเทศบ้างเพราะอยากเพิ่มความมั่นใจและฝึกสำเนียง ตั้งใจว่าจะเข้าอินเตอร์ตั้งแต่ม.4 มีหลายๆคนที่พูดเหมือนกันว่าจะสู้เด็กที่มาจากนานาชาติได้หรอ เราก็ไม่รู้ว่าสู้ได้รึเปล่าแต่แค่อยากทำให้ดีที่สุดไม่ได้ไม่เป็นไรถือว่าเต็มที่แล้ว ยังไงเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆและน้องๆรุ่นต่อไปนะคะ^^ส่วนตัวเราเองก้ลุ้นประกาศวันที่25มี.ค.นี้แล้ว55

ขอปิดท้ายด้วยคำคมจากธรรมทานนะคะ : พระอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นหรือตกโลกต่างหากที่หมุน ชีวิตจะดีหรือไม่ดีไม่ได้ขึ้นกับใครตัวเราเองที่กำหนด

หวังว่ากระทู้นี่จะเป็นประโยชน์กับน้องๆที่อยากเข้าคณะนี้นะคะ เพราะตอนเราจะสอบหาอ่านค่อนข้างน้อย ยังไงใครอยากถามอะไรทิ้งเมลหรือไลน์ไว้ได้เลยจ้ายินดีตอบให้เท่าที่รู้จ้า

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

sarin 18 มี.ค. 58 เวลา 15:27 น. 1

โห ขอบคุณมากๆนะคะที่มาแชร์สิ่งดีๆให้เรา
เราก็มีแพลนจะสอบbalacค่ะแต่ปีนี้คะแนนเราไม่ถึงซักที่คะเรารู้สึกเฟลมากๆ เราอยากเข้าตั้งแต่เราอยู่ ม4แต่ก็ไม่เคยสอบคะแนนถึงซักทีคะ จขกท มีวิธีหรือเคล็ดลับในการสอบ ielts and cu-aat ไหมคะ5555อยากให้คะแนนถึงแต่ก็พลาดตลอดคะ
โดยเฉพาะ cu-aat คะ55555 ielts ก็ไม่เคยได้ตามเกณฑ์เลยคะ55555
เราเลยมีแพลนว่าจะซิ่วปีหน้าคะ ตอนนี้เราก็ค่อนข้างซีเรียสมากคะเพราะแต่ละปีคนก็สมัครกันเยอะมากขึ้น
แถมรุ่นน้องเก่งๆก็มีมากขึ้นคะ ฮือออ แต่เราอยากเข้าคณะที้จริงๆคะแต่ก็ไม่ทันแล้วสำหรับปีนี้ TT

Ps. ยังไงเราก็เป็นกำลังใจให้นะคะขอให้ จขกท ติดคณะนี้น้า สู้ๆคะ :D

0
maytap 18 มี.ค. 58 เวลา 21:08 น. 2

เราเคยสอบมาแทบทุกตัวที่สามารถยื่นได้แล้วคะ55 แต่ถ้าให้แนะนำเราว่าieltsกับcu-aatง่ายสุดแล้วเพราะเราถนัดฟังพูดอ่านเขียน ซึ่งถ้าไปสอบcu-tepมันจะโฟกัสในส่วนแกรมม่ามากกว่า ดังนั้นieltsน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเราคะ
*สำหรับการเตรียมตัวของเรา ielts : เราชอบดูหนังและดูพวกยูทูปสนุกและไม่น่าเบื่อดีคะ อย่างพวกbloggerฝรั่งเนี่ยชอบสุดๆได้ตามเทรนด์ต่างๆและได้ฝึกฟังด้วยพอฟังรู้เรื่องมันก็พูดออกมาได้เองคะ ส่วนการอ่านก็follow twitterของฝรั่งอ่านบทความสั้นๆเพราะอ่านอะไรยาวๆไม่ค่อยได้คะ55555การเขียนก็เช่นกันคะเวลาเราอ่านแล้วชอบประโยคไหนจะจำและนำมาเขียน ปล.เราฝึกเขียนเยอะมากๆๆ ทำการบ้านส่งให้อาจารย์ตรวจตลอดคะ
*For cu-aat/SAT ท่องศัพท์ให้ได้เยอะที่สุดเลยคะ(ขึ้นอยู่กับพื้นฐานแต่ละคนด้วยนะคะ)เราท่องหลายพันคำเลยคะจำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็ท่องให้ได้มากที่สุด รู้ศัพท์เยอะก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วคะ

0