Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แชร์ประสบการ์ณ์'คนสอบไม่ติด' น้องๆควรอ่าน!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ พี่เป็นเด็ก58 อยากจะมาเล่าประสบการณ์ ถึงแม้ว่าพี่จะไม่สอบติดหมอ ไม่ได้สอบติดรับตรง แต่ประสบการณ์ของพี่น่าจะเป็นข้อคิดดีดีให้กับใครหลายคนได้บ้าง น้องหลายคนอาจจะกดปิดกระทู้นี้ไป และก็ไปหากระทู้คนที่สอบติดแทน แต่พี่คิดว่าน้องควรจะเรียนรู้ประสบการณ์ของคนที่สอบไม่ติดบ้าง จะได้ไม่เป็นอย่างพี่ไงคะ จริงมั้ย?


พี่ก็เป็นเด็กเรียนดีมาตั้งแต่ประถมค่ะ ตั้งใจเรียนมาโดยตลอด พี่คิดเสมอว่า ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไร พี่ก็เป็นได้หมดแหละค่ะ เพราะพี่เป็นคนขยัน หัวสมองก็ไม่ได้แย่เท่าไร แต่รู้มั้ยคะ ด้วยความคิดแบบนี้ ทำให้พี่พลาดอะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ 

-------------------------------------------------------------------------------------------
อย่างแรก
พี่อ่านหนังสือเรียนทุกวันค่ะ แหมจะไม่ให้พี่คิดได้ยังไงล่ะคะ ว่าตัวเองต้องสอบติดทุกคณะแน่นอน แต่พี่เป็นคนที่อ่านไปเรื่อยๆค่ะ อ่านตามใจ วันไหนอยากอ่านวิชาไหนก็อ่าน นี่แหละค่ะ ความผิดพลาดของพี่คือ ไม่ได้วางแผนให้ดีค่ะ  พี่จะวางแผนแค่ว่า อ่านวิชานี้กี่โมงถึงกี่โมง เพราะเป็นแผนที่ทำได้ง่ายที่สุด ซึ่งพี่ว่ามันเป็นแผนที่น้อยไปค่ะ เราควรจะกำหนดว่าจะอ่านวิชานี้ บทนี้ กี่วัน เหลือเวลาทำโจทย์อีกกี่วัน  และสิ่งที่ยากที่สุด คือการทำตามแผนของตัวเองค่ะ 555 พี่นี่ล่มมาหลายหนแล้วค่ะ แย่จัง.. 

'วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง'
ประโยคนี้มันจริงมากๆเลยค่ะ อย่ากลัว อย่าขี้เกียจที่จะวางแผนนะ 

------------------------------------------------------------------------------------------

อย่างที่ 2
พี่มักคิดว่าตัวเองรู้แล้ว จำได้แล้ว เพิ่งเรียนมาจะลืมได้ไง เลยทำให้พี่ไม่ชอบทบทวนบทเรียนค่ะ พอมารู้ตัว ก็ลืมไปเยอะเลยค่ะ เสียเวลาทวนมากกว่าปกติ ทำให้อ่านหนังสือช้าไปเลย  


'ทบทวนบ่อยๆ เปิดผ่านๆพอให้ผ่านหูผ่านตาบ้างก็ยังดี'
ประโยคนี้ทำให้พี่เสียใจอย่างที่สุด ที่ไม่ทำตามค่ะ  มันสำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยจริงๆนะคะ

------------------------------------------------------------------------------------------
อย่างที่ 3
พี่ชอบคิดเสมอว่า  !!!!เดี๋ยวอ่านเนื้อหาจบก่อน แล้วค่อยทำโจทย์  เนื้อหาความรู้ไม่มี ไม่แน่นจะไปทำโจทย์ได้ไง  ยังไม่พร้อมทำโจทย์หรอก แต่น้องๆเชื่อเปล่าคะ ทุกสนามสอบที่ผ่านมา พี่ไม่เคยพร้อมทุกสนามเลยค่ะ 5555 และพี่ถามเพื่อนส่วนใหญ่ก็ตอบแบบนี้กันทั้งนั้นเลยนะ! อย่าไปคิดว่าตัวเองจะพร้อมในวันสอบ เอาเข้าจริงส่วนใหญ่ก็ใช้ความรู้ติดตัวทำข้อสอบกันซะมากกว่า ใครมีติดมากก็ได้คะแนนมาก น้องควรหมั่นทำข้อสอบเก่านะคะ เพื่อเช็คว่าน้องขาดเหลืออะไรตรงไหน จุดไหนอ่อน จุดไหนยังไม่รู้ พี่เพิ่งมาทำข้อสอบเก่าก็เอาช่วงจะสอบจริงๆ ซึ่งมันไม่ทันค่ะ พี่ไม่กล้าทำข้อสอบเก่าก่อน เพราะกลัวเสียของ แต่น้องเอ๋ย ลองทำไปเถอะค่ะ เดี๋ยวเราก็ลืม มาทำรอบสองก็จำไม่ได้แล้ว กับบางทีที่น้องๆเรียนพิเศษเขาก็เอาโจทย์พวกนี้มาให้ทำอยู่แล้ว โจทย์สมัยนี้ก็เยอะแยะไปหมด มีโอกาสก็รีบลองทำข้อสอบเก่าเยอะๆเลยค่ะ 

'ทำข้อสอบเก่าเยอะๆ ช่วยได้นะ'
ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอกค่ะ แต่พอเจอโจทย์จริงๆ คนออกเขาก็ดูแนวจากข้อสอบเก่านะคะ  จริงๆเดี๋ยวนี้ข้อสอบออกแปลกๆเยอะมากค่ะ พี่แนะนำให้น้องลองทำข้อสอบเก่าก่อนซักปีสองปี เพื่อเป็นแนวทางการอ่านก็ดีค่ะ อย่างpat2 ฟิสิก เคมี ออกคำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะออกแนววิเคราะห์ซะมากกว่า น้องอัดคำนวนมากเต็ม แต่ทฤษฎีแย่ ก็ทำไม่ได้อยู่ดีค่ะ อีกอย่าง ข้อสอบบางทีก็ออกแบบคิดไม่ถึงอ่ะค่ะ  บางข้อนี่พี่ว่ามันไม่น่าจะอยู่ในหนังสือด้วยซ้ำ เอาเป็นว่า น้องลองไปทำข้อสอบเก่าดู จะได้หาวิธีจัดการกับมันได้ 5555

------------------------------------------------------------------------------------------
อย่างที่ 4
อย่าลืมคำแนะนำของพวกผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน พี่ก็เป็นคนชอบอ่านประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จค่ะว่าทำไมเขาถึงสอบติดได้ สอบได้คะแนนดี อ่านแล้วก็ทำตามบ้าง แต่พอไปนานๆ ก็กลับมาทำนิสัยเดิมๆ อะไรที่เขาแนะนำก็ลืมไปหมด พี่ว่า น้องควรจะจดโน้ตย่อๆ เตือนใจไว้ด้วยก็ดีนะคะ 
'ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน ประสบการณ์ต่างๆก็ควรเรียนรู้ไว้บ้าง'


สุดท้ายนี้
พี่ๆคนไหนอยากมีอะไรบอกน้องๆก็แชร์กันมาได้นะ
ส่วนน้องคนไหนมีปัญหาอะไร ก็พิมพ์ระบายกันไว้ได้เลย

สู้ๆกันนะคะ  ถ้าน้องๆคิดว่าการอ่านหนังสือคือความสุข น้องๆก็จะมีความสุขกับมัน :D    

แสดงความคิดเห็น

33 ความคิดเห็น

Powder 24 มี.ค. 58 เวลา 14:24 น. 1
ฝากเพิ่มเติมสำหรับน้องม.6ปี59 หรือปีอื่นๆ 

บางคนที่ยังขี้เกียจอ่านหนังสือ พี่รู้นะคะว่ามันเครียด อยากจะบอกว่า พี่ก็มาหมดไฟอ่านหนังสือตอนม.6อ่ะ มันแย่มากๆเลย ขยันสู้ตอนม.4 ม.5 ไม่ได้ มันเหมือนจุดอิ่มตัวอะไรซักอย่าง (เพื่อนหลายคนพี่ก็เป็น555 แต่บางคนก็เพิ่งมามีไฟ ก็ดีไป) ชีวิตม.6สำหรับพี่คิดว่ามันก็ยุ่งยากอยู่นะ ไหนจะกิจกรรม ไหนจะเรื่องสอบ และโรงเรียนก็ชอบสั่งงานที่มันไม่ประเทืองปัญญาสักเท่าไร อาจารย์บางท่านก็สอนไม่รู้เรื่อง และก็ชอบบังคับให้ฟังเวลาสอน ตอนพี่เรียนนี่ปวดกบาลมากๆ เกรดก็ต้องใช้ ความรู้ก็ต้องหา น้องต้องใจเย็นๆ ค่อยๆคิดหาวิธีแก้ไปค่ะ สำหรับพี่ ไอ่พวกงานไม่ประเทืองปัญญา พี่ก็จะรีบๆทำรีบๆส่ง มันไม่สำคัญไงคะ เอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่า ได้ทั้งสอบที่รร และสอบข้างนอก ส่วนงานกลุ่มพี่ต้องแบ่งให้ทุกคนทำเท่ากันค่ะ เพื่อนอู้งาน พี่ไม่เว้นค่ะ เขามากินเวลาของเราไม่ได้หรอก เวลาเราสำคัญค่ะ อย่างน้อยๆ น้องสามารถเอาเวลาไปผ่อนคลายสมองให้ตัวเองมีความสุขได้ 
และพี่อยากจะบอกว่า หลังสอบเสร็จ(รอแอด) พี่โคตรๆว่างเลยอ่ะ ว่างจนเบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรดี บางทียังคิดถึงตอนอ่านหนังสือสอบเลยค่ะ 5555 น้องก็อดทนนะ เดี๋ยวก็ผ่านมันไปได้
0
Mamaw 24 มี.ค. 58 เวลา 15:25 น. 2

ตอนนี้รอแอด ว่างมากค่ะ แต่อย่างน้อยระหว่างที่รอแอด ก็อยากไปลองสมัครที่อื่นดูบ้าง แต่ช่วงนี้ที่เปิดรับสมัครก็ไม่ค่อยจะมีคณะที่อยากเข้า เลยต้องทำตัวว่างๆ ดูซีรี่เหมือนเดิม (แฮ่ๆ)

แต่อยู่มาวันหนึ่ง โทรศัพท์คุยกับพ่อ แล้วบอกพ่อว่า อยากไปเที่ยว พ่อเลยตอบกลับมาว่า อยากไปเที่ยวหรอ ยังไม่มีที่เรียนแล้วยังอยากไปเที่ยวอีกหรอ ? " โห ผมนี่จุกเลย -_- O_O
(แต่ทั้งๆที่เราก็บอกว่า รอแอดๆๆ อ่ะนะ )พูดไม่ออก

1
Powder 26 มี.ค. 58 เวลา 12:08 น. 2-1

555 ก็ต้องอธิบายให้พ่อเข้าใจนะคะ
แม่เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าระบบการรับเป็นยังไง
เยี่ยม

0
Bspl 24 มี.ค. 58 เวลา 19:51 น. 5

สอบติดคณะที่ไม่ได้อยากเรียนค่ะแต่ก็คล้ายๆกันอยู่ เลยสับสนว่าจะเอาดีมั้ยคะเพราะตัดสิทธิ์แอดด้วย แต่ที่เสียใจคือเพื่อนติดคณะที่อยากเรียนกันค่ะแต่เราไม่ได้อยากเรียน กดดันเหมือนกันค่ะไม่ต่างอะไรกับคนสอบไม่ติดเลย วันนี้ก็ประกาศผลหลายที่ก็ไม่ติดซักที่ค่ะเลยหวั่นๆกับตอนแอดเพราะคนมากขึ้นค่ะ อยากเข้าสถ.ค่ะแต่ถ้าใช้คะแนนแกทแพทรอบแรกคิดตอนนี้เต็ม3หมื่นได้ประมาณ1หมื่น7กว่าๆค่ะ รอแอดดีมั้ยคะ

1
Powder 26 มี.ค. 58 เวลา 12:12 น. 5-1

เราว่าติดคณะที่ไม่อยากเรียน ถึงเรียนไป มีสิทธิ์สูงที่จะไม่ชอบ
แล้วก็ต้องซิ่วอยู่ดี ลองเสี่ยงแอดเถอะค่ะ
เพื่อนเราก็กลัวยื่นคะแนนแอดเหมือนกัน
หลายคนเลย ติดรับตรงอะไร ก็เอาหมด ไม่รอแอด เพราะกลัวคะแนนน้อย
กลัวกันไปกลัวกันมา ปรากฎไม่มีใครยื่นคะแนน 5555

0
สู้อีกครั้ง 24 มี.ค. 58 เวลา 20:04 น. 6

เราก็เหมืนกัน มาหมดไฟตอน ม.6 ก่อนหน้านั้นขยันอ่านหนังสือมาโดยตลอด มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย ทำให้ตอนนี้ได้คณะที่ไม่ได้อยากเรียน TT
dek58 ^^~

1
เหนื่อยกับชีวิต 24 มี.ค. 58 เวลา 20:15 น. 7

จขกท เหมือนเราเลยคะ เราเด็ก58 สอบตรงแพทย์และกสพท ไม่ติดทุกที่เลย เราไปสอบทุกที่ ทุกสนามสอบ บอกเลยว่าเปลืองเงินมากกกกกก แต่ไม่ติด คะแนนสอบเราค่อนข้างคงที่ทุกสนามสอบ ไม่มีพัฒนาการ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่นวิชาเคมี รับตรงแพทย์มข ได้58 กสพทได้56 ยอมรับเลยว่าเราทำโจทย์น้อยมาก ส่วนมากเราจะอ่านเนื้อหาให้จบก่อนทำโจทย์ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเหลือในการทำโจทย์ ทางบ้านเราคาดหวังกับเรามากแต่เราก็ทำไม่ได้ รู้สึกแย่มากกกกเลยอ่ะยังไง จขกท ก็สู้ๆนะคะ ส่วนเราจะซิ่วสอบหมอคะ

1
Powder 26 มี.ค. 58 เวลา 12:09 น. 7-1

สู้ๆเช่นกันค่ะ อย่างน้อยปีนี้เราก็ได้ประสบการณ์อะไรมาบ้างแหละ
ขอให้ติดหมออย่างที่ตั้งใจไว้นะคะ :D

0
ซิ่ว59 24 มี.ค. 58 เวลา 21:20 น. 8

เราติดหมอที่นึงที่ไม่ใช่ทอป3 เราเลยสละสิทและคิดจะทำตามฝันตัวเองให้ได้ สู้ใหม่อีกปี สู้เพื่อหมอ ฬ ครั้งนี้เราว่าเรานังไม่แม่นเนื้อหาวิทย์พอ เลขทำพลาดเยอะด้วย คนไหนที่จะซิ่วเหมือนเราก็สู้ๆนะ เราต้องทำตามฝันให้เป็นจริง:)

1
loveNa 26 มี.ค. 58 เวลา 01:30 น. 8-1

ทำไมถึงคิดจะซิ่วอีกหละครับ ในเมื่อติดหมอไปแล้ว เชื่อในค่านิยมของชื่อสถาบันมากไปรึเปล่า ลองคิดดูครับว่า"เวลา1ปี ที่เสียไปตอนนี้ คุณอาจจะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ขณะเป็นหมอไปแล้ว 1 ปี "คุ้มค่ากว่ากันรึเปล่าครับ มาพูดด้วยความหวังดีนะครับ แต่ถ้าเชื่อมั่นในตนเองและสัญญากันตัวเองว่าจะไม่หมดไฟ ก็ทำเถอะครับ เป็นกำลังใจให้ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ติดหมอ ทอป3แต่ได้ยินประโยคข้างต้นละผมเลิกซิ่วเลยครับ55

0
Papas 24 มี.ค. 58 เวลา 22:20 น. 10

พี่ก็หมดไฟตอนม.6 เหมือนทุกอย่างมันยุ่งไปหมด ทำให้ไม่รู้จะไปเอาดีกับทางไหน งานที่รร ก็เยอะ ไหนจะเวลาเรียนพิเศษ พี่ก็เลยได้แต่เรียนแต่ไม่เคยมาทบทวน เลยอยากเตือนน้องๆว่าอย่าพึ่งหมดไฟเหมือนพี่นะคะ ควรจะทำให้เต็มที่ที่สุด dek59 สู้ๆ

0
เด็ดดวง 24 มี.ค. 58 เวลา 23:17 น. 11

ไหว้จริงๆอ่านหนังสือนะ เวลาเพื่อนติดเราไม่ติดนี่แมง เหมือนถูกแฟนทิ้งแล้วมีคนถามว่า เลิกแล้วหรอๆ........ หนังชีวิต เข้าใจฟีลช่ะ

0
มุกก 24 มี.ค. 58 เวลา 23:21 น. 12

เราว่าเลือกคณะที่ชอบมันดีที่สุดนะ ถ้าติดคณะ่เอาเพราะเรียนไปเราก็ไม่มีความสุขอยู่ดีตอนนี้เรารอแอดมหิดล เอกภาษาไทย แต่เราติดรับตรงวิศวะอุตของศิลปากรเราก็ไม่เอาเพราะเราไม่ชอบว๊าว

1
Powder 26 มี.ค. 58 เวลา 12:14 น. 12-1

ใช่ๆ แต่หลายๆคนไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร
หลายคนเลยที่ไม่ชอบค้นหาตัวเอง
เยี่ยม

0
ราชินีดอกไม้ 25 มี.ค. 58 เวลา 08:43 น. 13

สู้ๆนะคะ จขกท.  เป็นกำลังใจให้
สำหรับน้องๆที่กำลังจะเข้ามหาลัย หรือกำลังจะขึ้นม.6 อยากบอกว่าอย่าเพิ่งท้อนะคะ 
มอหกอย่าเพิ่งตาย มาตายมหาลัยนี่
555555 นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริงเลย

0
พี่เอง 25 มี.ค. 58 เวลา 17:37 น. 15

ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเน๊อะ
(ตอนนี้ติดรอบรับตรงคณะที่ใช่สำหรับเรา แต่ด้อยสำหรับคนอื่น แต่ช่างมันเถอะ)
สิ่งที่ต้องตระหนักไว้เสมอ คือ "เวลา" น้องต้องแบ่งเวลาถูก แบ่งเวลาเป็น เวลาไหนเรียน เวลาไหนอ่าน เวลาไหนพักผ่อน เวลาไหนกิจกรรม เวลาไหนการบ้าน เวลาไหนครอบครัว
บางคนอาจจะอ่านๆๆๆๆๆจนลืมเวลาทั้งหมด
เพื่อนพี่มีที่หยุดเพื่ออ่านหนังสือโดยเฉพาะ ผลที่ได้คือ ไม่ติด
เพื่อนพี่มีที่อ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำก่อนวันสอบ เดินเหมือนซากศพไปสอบ ผลที่ได้คือ ไม่ติด
พี่ไม่ได้สนับสนุนให้ขี้เกียจนะ แต่อยากให้เข้าใจธรรมชาติอย่างนึง
"สมองคนเราจะรับรู้และทำงานได้น้อยลงเมื่อมันไม่ได้พักผ่อน"
ก่อนสอบสาามวัน พี่จะดูทีวี อยู่กับครอบครัวเสียส่วนมาก นอนครบแปดชั่วโมง กินข้าวให้อิ่ม สมองโลดแล่นดีเมื่อถึงวันสอบ และจะลดความตื่นเต้นอะไรได้เยอะด้วย ไม่ลน ไม่เหนื่อยล้า ไม่สับสนง่าย
พอเราตัดสามวันก่อนสอบให้เป็นวันพักผ่อน เราก็จะมีเวลาอ่านที่น้อยลง ตอนที่พี่ติดไฟจริงๆตอนก่อนสอบประมาณสองสัปดาห์ (ก่อนหน้านั้นก็อ่านบ้างประปราย แต่เป็นคนค่อนข้างขี้เกียจเลยอ่านไม่ปะติดปะต่อ) สองสัปดาห์นั้นพี่ไม่ทำไรเลย นอกจากอ่านข้อสอบ อ่าน ทำ อ่านคำอธิบาย อ่านซ้ำๆปีเดียวกันประมาณสองรอบเพื่อให้เข้าใจจริงๆว่าทำไมตอบแบบนั้นแล้วจึงไปอ่านของปีอื่นต่อ พี่จะอ่านจากปีล่าสุดร่นขึ้นไปเพราะมหาลัยที่พี่สอบมักมีบทความที่เป็นเนื้อเรื่องต่อกันจากปีที่แล้ว
พอไปสอบก็ทำให้เต็มที่ ผลออกมาก็โอเค เป็นที่พอใจของตัวเองและครอบครัว
ทีนี้จบเรื่องสอบ ก็มาโฟกัสที่เรื่องในโรงเรียนบ้าง เพื่อนพี่บางคนทิ้งการบ้าน ทิ้งงาน ไม่สนใจเลย เกรดออกมาแย่มาก แล้วที่แย่กว่าคือการใช้เกรดในรอบแอด คนที่เสียโอกาสคือเราเองทั้งนั้นแหละ ดังนั้น งานในโรงเรียนก็อย่าได้ทิ้ง
ช่วงมอหกเป็นช่วงที่เหนื่อยล้านะ จิตตกง่าย เครียดง่าย สิ่งที่ต้องทำให้ดีคือหางานอดิเรกทำ
พี่ไม่รู้จะแนะนำอะไรอีก ก็ขอให้น้องๆทุกคนสู้นะ
ที่สำคัญเลย แอดอาจจะรอบเดียวก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการที่เราอยู่อย่างมีความสุขในทุกวัน
#สู้ๆนะเด็กแอด59สู้สู้

2
Powder 26 มี.ค. 58 เวลา 12:17 น. 15-1

ช่วงก่อนสอบของพี่ จะเป็นอะไรที่ลนลานมาก
อยากอ่านหนังสือมากก ไฟลุกพรึ่บเลย
แต่อ่านไปไม่มีทางสู้คนที่อ่านมาเรื่อยๆได้หรอกค่ะ
แล้วน้องจะเสียดาย ที่ไม่ได้อ่านมาตั้งแต่เนิ่นๆ

0
พี่เอง 26 มี.ค. 58 เวลา 19:17 น. 15-2

อีกเรื่องที่อยากเตือนน้องๆให้รับมือไว้ คือ"ภาวะกดดัน" ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหนก็เถอะ
จากพ่อแม่ คนข้างบ้าน ญาติ หรือเพื่อน
เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอคำถามชวนเครียด อยากให้น้องๆเลี่ยงด้วยการไปหางานอดิเรกทำซะ อ่านหนังสือ ดูหนัง หรือจะระบายความเครียดนั้นลงด้วยการตะโกนออกไป(อันนี้พี่ทำบ่อย) แต่น้องๆอย่าได้ฉุนเฉียวหรือเหวี่ยงใส่คนรอบข้างนะ เพราะน้อยคนที่จะรู้ว่าเราโดนอะไรกดดันอยู่บ้าง เพื่อนแต่ละคนของเรายังโดนกดดันกันคนละแบบเลย
และถ้าเมื่อไหร่ที่เจอเพื่อนประเภทที่ชอบมานั่งบอกว่า "เค้าอ่านเรื่องนี้จบแล้ว ชีวะเค้าอ่าจบไปเมื่อปีที่แล้ว" อะไรแบบเนี้ย ให้น้องตั้งสติ หายใจเข้าออก อย่าได้เสียสติและฟุ้งซ่าน เพราะพอเดือดดาล น้องจะอ่านอะไรไม่รู้เรื่องเลย
หวังว่าคำเตือนนี้จะช่วยได้บ้าง
//สู้ๆนะเด็กแอด59สู้สู้

0
kkkk 25 มี.ค. 58 เวลา 21:46 น. 16

อยากถามครับ....

เราจะหาข้อสอบเก่าๆได้จากทางไหนครับส่วนใหญ่หาจากเน็ต แล้วปริ้นมานั่งทำหรอครับเศร้าจัง

2
Powder 26 มี.ค. 58 เวลา 12:20 น. 16-1

ใช่ค่ะ
ของพี่จะเสิร์จหาตามอินเตอร์เน็ต ปริ้นข้อสอบเก่ามาทำ จับเวลาด้วย
แล้วก็หาเฉลยในเน็ต บางเว็บมีเฉลยละเอียดให้ ดีมากๆเลยค่ะ
บางทีหาคำตอบไม่ได้ พี่ก็เอาไปถามครู ไม่ก็เพื่อนที่เก่งๆ

หนังสือเดี๋ยวนี้ก็มีข้อสอบเก่าเยอะ ลองไปเลือกซื้อดูได้ค่ะ
เลือกด้วยตัวเองก็ดีนะ จะได้รู็ว่าชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน
ป.ล. พยายามหาหนังสือที่เฉลยละเอียดๆมาก็ดีน้าา

0
kong 26 มี.ค. 58 เวลา 12:25 น. 17

ขออนุญาตมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองนะครับ
*ของผมสอบผ่านข้อเขียน แต่ตกสัมภาษณ์T_T

สำหรับคณะที่มีสอบเขียนและสอบสัมภาษณ์ อย่าปล่อยวางทั้ง2อย่างนะครับ ถ้าผ่านสอบเขียนมาได้แล้วก็จริง อย่าปล่อยหลงละเลิง และคิดว่า การสอบสัมภาษณ์มันง่ายดายและผ่านสบายๆนะครับ คนที่ตกสัมภาษณ์เองก็เสียใจไม่แพ้กันครับ

ผมเองเคยสอบเข้าที่ลาดกระบัง ตอนนั้นเตรียมอ่านหนังสืออย่างดี และก็สอบติด จนกระทั่งมีการสอบสัมภาษณ์เพื่อจะคัดตัวจริงอีกรอบนึง แต่สุดท้ายผมตกสัมภาษณ์แถมไม่ติดตัวสำรองเลย เพราะตอนนั้นผมเตรียมตัวไม่ดีเอง ไม่ได้มีการซ้อมถามตอบอะไรมาให้ดีก่อน (เค้าจะให้แนะนำตัว และก็ถามเรื่องราวในแฟ้มสะสมงานที่เราต้องเตรียมไปสัมภาษณ์ หรือถามเกี่ยวกับความรู้นิดๆหน่อยๆเกี่ยวกับคณะที่เราจะเข้าไปเรียน) ฝากแนะนำว่า ก่อนถึงวันสัมภาษณ์ ลืมสิ่งรอบตัวที่อยากจะทำไปก่อน และเตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบสัมภาษณ์ ซ้อมแนะนำตัว(อันนี้มีแน่ๆ) ซ้อมแนวคำถามต่างๆ และถึงวันสัมภาษณ์ อย่าไปสาย อย่าเกร็ง เค้าถามอะไร ตอบไปตามความเป็นจริงนะครับ^^

สุดท้ายฝากน้องๆ ที่กำลังจะใกล้เข้าสู่รั้วมหาลัย ตั้งใจอ่านหนังสือให้เต็มที่ และ เตรียมตัวให้พร้อมมากที่สุด อย่าปล่อยวางทำตัวสบายๆนะครับ ถ้าผ่านไปได้มันจะโล่งมากๆครับ สู้ๆนะคร้าบ^^

นักศึกษา ปี2 ม.ราม

0
รุ่นแอด58 26 มี.ค. 58 เวลา 14:01 น. 18

สวัสดีคะ ถ้าน้องคนไหนที่อยู่รุ่นแอด59 พี่เป็นคนนึงที่ยังไม่ติดมหา'ลัยไหนเลย รอบรับตรงพี่สมัครมศว.ก็แหวกินทุกคณะทุกสาขา คะแนนที่ออกมาก็ง่อยจนแม่และพี่ยังเพลียคะ(คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์) แต่พี่ดีที่พ่อแม่สนับสนุนทุกทางที่เลือกถ้าไม่ติดรอบแอดก็สามารถเรียนเอกชนได้ ไม่เกี่ยวว่าต้องเรียนมหา'ลัยชื่อดังไม่เกี่ยวว่าถ้าเรียนเอกชนแสดงว่าเป็นพวกไม่มีที่เรียน พี่ก็เป็นคนหนึ่งที่ต่อต้านมาตลอดจนเกือบพลาดเสียโอกาส แต่ตอนนี้พี่ถึงไม่ติดก็ไม่ได้เครียดอะไร พี่อยากแนะนำว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะดีจะร้ายก็อยู่ที่ตัวเราจงเลือกในสิ่งที่เราอยากเรียนอย่าตามค่านิยมเพราะถ้าเราเรียนไปแล้วมันไม่ใช่จากเรียนอย่างมีความสุขจะกลายเป็นเรียนแบบทุกข์ และก่อนสอบควรอ่านเนื้อหามาให้พอเข้าใจแล้วลองทำข้อสอบเก่าถ้าเราทำเฉลยแล้วผิดก็มาอ่านซ้ำอีกครั้งให้เข้าใจว่าเป็นอย่างไร อย่ารอคอยเวลาให้ผ่านไปจนอีกอาทิตย์ใกล้สอบจะอ่านไม่ทันพี่พลาดเพราะความชะล่าใจมาหลายสนามแล้ว สิ่งที่อยากจะเตือนคืออย่าสอบแพทวิชาที่คิดว่าไม่ได้ใช้ เลือกสอบตามที่ดูว่ามหา'ลัยรับอันไหน เพราะสอบไปถ้าไม่ได้ใช้และไม่ถนัดจะทำให้เราไม่มีเวลาไปโฟกัสที่เราถนัดและทำให้เราลืมเพราะต้องจำสองอย่างสามอย่างจนสับสน และอย่างสุดท้ายเวลาเลือกสมัครรับตรงเชคข้อมูลให้ดีถามเพื่อนถามรุ่นพี่ที่เคยสมัครเพราะถ้าผิดพลาดจะเสียตังซ้ำซ้อน(แบบพี่)
จากนี้พี่ขออวยพรให้รุ่นน้องรุ่นต่อๆไปจงได้มหาวิทยาลัยที่อยากเรียน สาธุ เยี่ยม

1
mozelae 27 มี.ค. 58 เวลา 00:41 น. 18-1

จับมือ เราก๊ยังไม่ติดที่ไหนเลยไปสอบตรงที่ไหนก็แห้วคะแนนก็เ_ยจนแบอกว่าเรียนเอกชนก็ได้แม่ยอมจ่ายแถมอยู่ใกล้บ้านด้วยนะ อารมณ์ตอนนั้น น้ำตาแทบร่วง 555เยี่ยม

0
ฟฟฟฟ 26 มี.ค. 58 เวลา 18:00 น. 19

งั้นผมนี่มาแนวแปลกสินะครับ555 พี่ไม่ทำโจทย์เพราะกลัวเนือหาไม่แน่น แต่ผมนี่ยังเรียนไม่จบกลุยโจทย์ไปแล้ว55 ข้อไหนทำไม่ได้ ไม่เคยเรียนก็เปิดหนังสือทำมันตรงนั้นเลย หลงจากนั้นสองสามวันทำอีกรอบ จำไม่ได้เปิดอีก ซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั้น555

1
Powder 27 มี.ค. 58 เวลา 11:13 น. 19-1

5555 ดีมากเลย แสดงว่าน้องเป็นคนไม่กลัวโจทย์
เป็นกำลังใจให้นะคะ :D

0
waniwani 26 มี.ค. 58 เวลา 18:33 น. 20

กระทู้พี่เลอค่ามากค่ะ เป็นกรณีตัวอย่างได้ดีเลย ยังไงก็เอาใจช่วยพี่นะค่ะ คนเราเริ่มใหม่ได้ จอบคุณสำหรับการแขร์ประสบการณ์นะคะ จากเด็กแอด 59

1
อภินันท์ อ. 27 มี.ค. 58 เวลา 00:35 น. 23

... เราเปนคนรุ่นเก่า อาจจะเปนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเด็กที่โพสและแสดงความเห็นข้างบน แต่เรามาอ่านโพสนี้ แล้วมองย้อนหลังเปรียบเทียบสถานการณ์แล้ว ก็เหนว่าไม่แตกต่างกัน อยากจะบอกให้เด็กรุ่นลูกรุ่นหลานให้รักการอ่าน อ่าน และอ่าน -ตำราที่เรียนน่ะ มันยังน้อยเกินไป ถ้าเราเรียนให้สนุก ควรต้องสงสัยว่า ต่อไปจากนี้ ยังจะมีอะไรอีก ต้องหา นส.ที่เปนแนววิชาเดียวกันที่คนอื่นเขาเขียนมาเปรียบเทียบอ่านดู จะเห็นข้อแตกต่างในมุม อื่นๆ ในทุกๆวิชาหลัก ทั้งคณิตศาสตร์ ฟิสิคส์ เคมี ชีวฯ ภ.อังกฤษ ความรู้ทั่วไป ... หัดอ่านจนกระทั่ง อ่าน นสพ.10-15 นาที ก็จบหมด อ่านทบทวนจนเบื่อที่จะอ่าน จนอยากจะให้ถึงวันสอบเร็วๆ ... นี่ไม่ได้โม้นะ ... เราสอบ 5 ที่ สถาบันของรัฐทั้งนั้น ก็สอบติดหมด แถมแอบนึกในใจว่า ข้อสอบเอ็นทร๊านซ์นี่ ไม่ได้ยากมากอย่างที่คิดเอาไว้ ก็ไม่ได้ตอบถูกหมดหรอก แต่มั่นใจว่าส่วนใหญ่มันน่าจะถูก ประเมินแต่ละวิชาแล้ว ลองรวมคะแนนเองดู มันก็ยังสูงกว่าขั้นต่ำที่เขารับเข้าไป ในแต่ละคณะที่เลือก ... ก็เลยมั่นใจว่าต้องติดแน่ แต่สาขาที่เลือกตามลำดับนั่นน่ะ ไม่รู้ว่ากระบวนการคัดแยกตรวจข้อสอบเขาทำอย่างไร แต่ก็ติดคณะที่อยากเรียนที่ จฬ.พอดี ... แถมยังติดสถานที่อื่น ซึ่งสมัยนั้น เขามีจัดสอบตรงของเขาเองอีกด้วย ... เอาละ ถึงตรงนี้ ก็ขอยืนยันเรื่องการอ่านให้ครอบคลุม ทั้งในตำราเรียน และ นส.อื่นที่ใช้ประกอบการเรียน นส.อ่านเสริม ที่เราเข้าไปดูตามแผง นส,เก่า ตามร้านขาย นส. ถ้ามีเงินก็ซื้อมาอ่านประกอบให้รู้มุมอื่นๆของแนวทางที่เรียน ขยายให้รู้กว้างขึ้น หัดทำแบบฝึกหัดจนแน่นในแนวทาง ... อยากบอกว่า หลังสอบติดเอ็นทร๊านส์แล้ว เรายก นส.ตำราเรียน นส.อ่านเสริมให้ห้องสมุดของ รร.ทั้งหมดเลย ราคาก็ไม่ใช่น้อย แอบนึกในใจว่า ถ้าใครอ่านตามแนวทางเรา ต้องเอ็นติดแน่นอน แต่มันก็นานมากๆแล้ว นี่อยากจะลองเขียนมาให้เกิดความเข้าใจ เพื่อเปนวิทยาทาน หวังว่าคงไม่ได้คิดว่ามาขี้โม้ขี้คุยให้ฟังนะ ...

1
Pinmook_YGF 27 มี.ค. 58 เวลา 16:39 น. 24

ตอนนี้หนูจะขึ้น ม.1 นะคะ คือ ตอนประถมต้นๆหนูเรียนดีมากๆ ท็อปทุกครั้ง พอมาช่วงประถมปลายก็ยังดีอยู่ แต่คนแข่งหนูก็มี (เค้าเป็นเพื่อนสนิทหนูอ่ะ) พอมาช่วงนี้หนูเริ่มไม่ตั้งใจ เมื่อก่อนถ้าคะเเนนต่ำกว่าเดิมคงต้องรีบปรับตัว แต่เดี๋ยวนี้้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผ่านก็ผ่าน คะแนนหนูเริ่มน้อยกว่าเดิม และหนูติดรร.ดีได้แล้ว หนูเก็บกดมากจาก 3 ปีที่ผ่านมา หนูเล่น หนูไม่แคร์โลกทั้งนั้น อยากทำไรก็ทำ จะเล่นก็เล่น แล้วรู้สึกว่าขี้เกียจกว่าเดิมมากๆ รู้สึกไม่ใช่เราเลย อยากบอกว่าโง่กว่าเดิมเลยแหละ พอติดได้พ่อซื้อทรศ.ใหม่ให้ด้วย ได้ใจเลย แต่เข้ารร.ใหม่คงดีกว่านี้ ไม่อยากเป็นแบบนี้แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง หนูทำไงดี TT

2
Powder 27 มี.ค. 58 เวลา 17:51 น. 24-1

พี่ขอแนะนำว่า น้องไม่ต้องเครียดมากหรอกค่ะ ไม่ต้องกดดันตัวเองมาก พี่อยากให้น้องฝึกให้มีความสุขกับการเรียน กับการอ่านหนังสือ แล้วก็พยายามค้นหาตัวเองให้เจอว่าอยากเรียนไปทางไหน ทางสายศิลป์ หรือ ทางสายวิทย์ เพราะเพื่อนพี่หลายคน มาเลือกทางวิทย์ ทั้งๆที่ใจชอบศิลป์ด้วยซ้ำ อาจจะเพราะ ทางเลือกเยอะ พ่อแม่บังคับ หรือ ไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะเป็นอะไร ผลเสียมันเยอะมากค่ะน้อง เพราะมาม.ปลายเนี่ย แต่ละวิชาของสายวิทย์ไม่ใช่เล่นๆเลย พี่ไม่อยากให้น้องรู้สึกว่าต้องบังคับตัวเองให้อ่านหนังสือ แต่อยากให้น้องรักที่จะอ่านมันมากกว่า น้องต้องฝึกแบ่งเวลาระหว่างเล่น กับ เรียนให้ดีดี เนื้อหาตอนม.ต้นก็ต่อยอดไปของม.ปลายด้วย พื้นฐานไม่ดี ก็ต้องมานั่งฝึกกันยาว สู้ๆนะคะน้อง พี่เป็นกำลังใจให้ค่ะ:'D

0
Powder 27 มี.ค. 58 เวลา 18:30 น. 25-1

ไม่มีอะไรสายเกินค่ะคุณน้องง
บางคนเริ่มอ่านก่อนน้อง
แต่อ่านผิดวิธี ไม่มีการวางแผน
น้องอ่านทีหลัง แต่แผนน้องดี
น้องก็สู้เขาได้สบายค่าา

0
MueaylinG_JR 27 มี.ค. 58 เวลา 18:42 น. 26

พอดีเลยค่ะพี่ ปีนี้น้องขึ้นชั้นม.3 พอดีเลยค่ะ เป็นเครื่องเตือนใจน้องว่าน้องควรจะทำยังไงต่อไป ขอบคุณพี่ที่มาเล่าประสบการณ์ให้อ่านนะคะ น้องจะได้ข้อบกพร่องที่พี่ทำไป น้องจะได้นำมาแก้ไขไงคะ พอดี ม.4 นี้น้องจะไปเรียนโรงเรียนเอกชน สอบเข้ายาก แถมน้องอยากเรียนสายวิทย์อีก จะสู้ๆเลยล่ะค่ะ ^^

1
Powder 28 มี.ค. 58 เวลา 14:41 น. 26-1

ค่า พี่ก็ดีใจนะคะที่น้องจะเอาประสบการณ์พี่ไปใช้ :D
ขอให้น้องประสบความสำเร็จนะคะ

0
Pr.dekAd 27 มี.ค. 58 เวลา 20:15 น. 27

ตอนนี้สละรับตรงหมดแล้วค่ะ เพราะคณะยังไม่ใช่ตอนเลือกคณะก็เผื่อไว้(สำรองไว้น่าจะเรียนได้ อืมไม่หวังจะได้)แต่ดันติดทำให้ลังเลคิดหนักหลายสัปดาห์ไปสอบสัมภาษณ์ก็ผ่าน..สรุปก็ไม่เอา(แล้วเราจะทำไปให้เสียเงินทำไมคิดแล้วก็เสียดายอยู่ค่ะ)..มาถึงตอนนี้ก็รู้ว่าคิดผิดเราควรจะเลือกเฉพาะคณะที่อยากจะเรียนจะได้ไม่เป็นแบบนี้ ..แถมยังเจอแรงกดดันจากครูอีกต่างหากหวังอยากจะให้ติดมหาลัยที่มีชื่อเสียงของรัฐแต่ดันติดของเอกชน ซึ่งหลายคนมองว่าติดเพราะเขารับมากแล้วยังใช้คะแนนน้อย ความน้อยใจเพิ่มขึ้นมากอีกเมื่อเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทติดมหาลัยที่ครูหวังให้เราติด.ติดคณะเดียวกันแต่ต่างสถาบันอีกอย่างทำไมคิดแบบนั้นเราสอบได้คะแนนเยอะกว่าเพื่อน(ทุกคนที่ไปสอบด้วยกัน)นะT^T(ไปสอบกันไม่มากหรอก)ไหนเวลาที่เราทุ่มเทอ่านหนังสือถึงจะมีความขี้เกียจแทรกอยู่เวลาสอบที่โรงเรียนก็ตั้งสอบได้คะแนนดีถึงจะอยู่ในช่วงม.6 ต้องทำกิจกรรมาก งานการบ้านก็เยอะไหนต้องอ่านหนังสือสอบตรง ปวดจิตมาก เจอเรื่องแบบก็เงิบ! เราต้องการกำลังใจ..ก็ได้จากพ่อกับแม่ พี่ คนรู้จักและก็เพื่อนของแม่บ้าง รู้ในใจว่าแม่ก็หวังให้ติดมหาลัยที่ใหญ่ๆ แต่เพื่อนของแม่คิดเหมือนเราสอบไม่ติดปีนี้ก็อ่านหนังสือรอสอบปีหน้าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่เรียนเหมือนเพื่อน ด้วยความเป็นห่วงของพี่ก็บอกถ้าไม่ติดก็เรียนภาคพิเศษก็ไม่อยากเรียนพูดบ่อยจังไหนจะถามได้ที่เรียนยังถ้าไม่ติดหละ ตอนนั้นบอกทุกคนว่าต้องมีแน่.รอแอดๆ(คิดในใจติดดิ**wowไม่ค่อยกลัวอะไรตอนไปสอบสัมภาษณ์ก็ไม่กลัว เลยกล้าที่จะเสี่ยง แอด58) ตอนนี้เริ่มกลัวซึ่งมันเหมือนจะมีพลังอีกครั้ง อ่านทุกความคิดเห็นที่ผ่านมาดีทั้งนั้นเลยขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆว่าจะแสดงความคิดเห็นแค่นิดเดียวแต่ดันจัดเต็มระบายซะหมดขอโทษด้วยนะคะที่เยอะเกินไป เราเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะขอให้ติดแอด คณะและมหาลัยที่หวัง เราก็หวังเหมือนทุกคนว่ารายชื่อที่ประกาศจะมีชื่อของเรา ถึงผู้ที่มีความหวังแบบนี้เหมือนเรา**ขอให้สมหวังนะ**

1
ผีจีน 28 มี.ค. 58 เวลา 15:06 น. 28

อย่างที่จขกท. พูดนั่นแหละค่ะ บทเรียนอันไหนที่ไม่เข้าใจก็ต้องยิ่งอ่านเพิ่ม หรือถ้าเข้าใจแล้วก็อ่านทบทวนหน่อยอย่าคิดว่าเข้าใจแล้วไม่จำเป็นต้องอ่าน เราเองก็ไปสอบทุกสนามแต่ไม่ติดสักสนาม กว่าจะมาคิดได้ก็เกือบสายไป จดโน้ตเล็กๆเก็บเอาไว้เป็นข้อมูล ในห้องเรียนก็ตั้งใจฟังเวลาอาจารย์สอน จุดที่เราคิดว่าไม่สำคัญมักออกสอบบ่อยเสมอ จุดที่เราไม่คิดว่าออกก็ออกแทบทุกข้อ
  ก่อนปิดท้ายเรามีสามสิ่งที่อยากบอก Dek 59
1 อดทน
2 อดกลั้น
3 อย่าประมาท
แค่นี้แหละค่ะ

1
Misaki Akiko 28 มี.ค. 58 เวลา 15:49 น. 29

ขอเล่าบ้าง
พี่ก็เป็นคนนึงที่ประมาทเกินไป เพราะเรียนดีมาตลอดตั้งแต่ประถม
เลยพาลคิดไปว่า ยังไงเราก็สอบติดทุกคณะอยู่แล้ว
ทำให้เรายิ่งรู้สึกขี้เกียจมากกว่าเดิม
แล้วน้องๆรู้ไหมว่าพี่ทำอะไรตอนขึ้นม.6...
1.เรียนๆเล่นๆ
2.เพื่อนชวนไปไหน ไปหมด! แม้กระทั่งหนีเรียน (เด็กดีไม่ควรเอาอย่างนะ T.T)

และสุดท้าย...ลงไปลุยสนามแรกด้วยการไม่เตรียมตัวเลยจ้าาาา

ผลออกมางี้ก็เฟลไปเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว
ไม่เที่ยว ไม่ดี๊ด๊า ไม่เปิดรับข่าวสารอะไรเลย คือพูดง่ายๆว่าชีวิตพี่แย่ไปหมด
ยิ่งช่วงนั้นมีทุน + โควต้าต่างเข้ามาในรร. เยอะมาก(แต่พี่ไม่สนใจ)
เพื่อนพี่ก็ทยอยมีที่เรียนกันไปตามระเบียบทำให้เรายิ่งเฟลหนักเข้าไปอีก

ก็ตอนนั้นแหละที่พี่ได้มานั่งทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง ละเลยที่จะทำอะไรไปบ้าง แล้วคนที่เขามีที่เรียนกันแล้วเขาทำยังไงกันบ้าง
พอคิดได้ก็ตั้งสติใหม่
พี่เริ่มวางแผนตารางชีวิตตัวเองอีกครั้ง แล้วกลับมาเปิดรับข่าวสารต่างๆ
ใส่ใจกับการทบทวน ฝึกทำข้อสอบเรื่อยๆ
สอบผ่านไปหลายสนาม ผลออกมาพี่ก็ไม่ผ่านอีก แต่ครั้งนี้พี่จำเอาไว้เป็นบทเรียนค่ะ ไม่กลับไปซังกะตายเหมือนเดิมแล้ว
พี่กลับมาดูจุดที่พี่พลาดใหม่ อะไรที่ไม่ได้พี่ก็ทำความเข้าใจมันอีกครั้ง
จนตอนนี้ก็สำเร็จ!
ความพยายามของพี่ที่ผ่านมาไม่ศูนย์เปล่า เพราะสอบได้ทุนเรียนที่มรภ.สวนดุสิตเรียบร้อยแล้ว

เห็นไหมว่าความสำเร็จที่ได้มามันคุ้มค่ากับความขยันและความพยายามของเราจริงๆนะ
น้องๆปีหน้าและปีต่อๆไปก็พยายามเข้านะคะ

2
Misaki Akiko 28 มี.ค. 58 เวลา 21:40 น. 29-2

ขอบใจจ้า
แต่กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็นค่ะน้อง 555

0
ไอซ์ดราก้อน 28 มี.ค. 58 เวลา 16:15 น. 30
ขอแชร์ประสบการณ์บ้าง

พูดแบบเข้าข้างตัวเองเลยนะ...ผลการเรียนพี่เป็นอันดับต้นๆ ของคณะตัวเอง ตอนนี้เรียนปีสอง

มหาลัยก็ไม่ได้ไก่กา แต่ขอไม่บอกนะว่าที่ไหน :)

อ่านถึงตรงนี้บางคนอาจจะบอกว่า...ยัยนี่มันโม้รึเปล่า

พี่ก็คนธรรมดาแหละ ไม่ได้ฉลาดมาจากไหน 

คณะก็สายศิลป์ สมัยนี้เปิดสอนกันทั่วบ้านทั่วเมือง

แต่พี่เอาดีในสายของตัวเองได้เพราะพี่เรียนสิ่งที่ชอบไง

คนเราอะ พอชอบอะไร มันจะมีไฟในการทำสิ่งนั้นให้ดี

ทั้งที่สมัยม.ปลายเคยได้ 2 กว่า เคยได้ F เลข เคยโดนครูตีเพราะไม่ส่งการบ้าน

น้องๆ แอดมิชชั่นทั้งหลาย ถ้าอยากเรียนคณะไหน ขอให้ทำตามความฝัน

อย่าไปคิดว่าเข้าคณะคะแนนต่ำๆ ของจุฬาดีกว่า ม.ดัง

คิดดู...เรียนมหาลัยแค่สี่ปี แต่ต้องทำงานที่ไม่ชอบตลอดชีวิต มันคุ้มไหม?

ขอบอกเลย ชอบอะไรก็เรียนด้านนั้นไปเถอะ 

เพราะถ้าเรียนสิ่งที่ชอบ เราจะทำมันได้ดี สู้คนอื่นได้ 

ในขณะที่การเรียนคณะตามคนอื่นอาจจะทำให้เราเป็นที่ท้ายๆ ของรุ่น

พอหางานก็จะต้องแข่งขันอย่างดุเดือด 



บางคนอาจจะคิดว่า เรียนไปก็ไม่รู้จะมีงานมั้ย

ขอแย้งว่า...สมัยนี้คนทำงานไม่ตรงสายมีทั่วบ้านทั่วเมือง

งานหลายๆ อย่าง แค่จบป.ตรี เกรดดี เขาก็รับแล้ว 

ถึงจะไม่ได้งานตรงสาย แต่อย่างน้อยก็ได้เรียนสิ่งที่ชอบตั้งสี่ปี

เผลอๆ ในอนาคตอาจจะได้ทำงานตรงสายด้วยซ้ำ

อีกอย่าง...คณะบางอย่างตอนนี้ยังไม่ดัง แต่อีกหน่อยอาจจะบูมก็ได้

บ้านเมืองมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

สมัย 20 ปีก่อนคณะเกี่ยวกับภาษาจีนนี่แทบไม่มี เดี๋ยวนี้มีให้เห็นทั่วไป

สายศิลปะ เมื่อก่อนแทบไม่มีคนเรียน ตกงาน

ทุกวันนี้เป็นไง? บางคนเปิดแฟนเพจ นั่งวาดรูปอยู่บ้านก็ได้เงินเดือนเป็นแสนแล้ว
1
Nypanus 28 มี.ค. 58 เวลา 20:01 น. 31
ขอบคุณพี่ๆมากเลยนะคะที่มาแชร์ประสบการณ์และมาเตือนรุ่นน้องอย่างพวกหนู
ถือว่าทำบุญให้เนอะขอให้ผลบุญทำให้พี่แอดติดในมหาลัยและคณะที่ตัวเองอยากเข้านะคะ ขอบคุณมากค่ะ

   
1
ไรจิน 31 มี.ค. 58 เวลา 12:14 น. 32

ตอนเราสอบนะ เริ่มจากครั้งแรกเลย แกท/แพท รอบแรก อื้อหือ อ่านหนังสือหนึ่งอาทิตย์ก่อนสอบแล้วไม่ได้อ่านอย่างดียวนะ อ่านไปๆ เบื่อ เล่นเกมซะ สบายใจ โจทย์ไม่ได้ทำซักนิด แล้วก็ไปโรงเรียนปกติด้วยไม่หยุดสักวัน กลับบ้านก็เกือบทุ่ม อ่านหนังสือนิดๆหน่อยเล่นเกมซะ55555555 ก่อนสอบตอนเหลือเวลาเยอะๆก็ขี้เกียจอะ ตอนเหลือน้อยๆไฟมานิดหน่อยแล้วก็เซ็ง เล่นเกมดีกว่า

รอบสองตอนเจ็ดวิชาสามัญ ก็หลังจากสอบแกท/แพท รอบแรกเสร็จ เคยตั้งความหวังไว้ว่าจะอ่านหนังสือ กะทำโจทย์ ผลคือ..........เล่นเกมฮะ ความรู้เรื่องเกมนี่แน่นมาก5555555555

สอบรอบอื่นก็ประมาณนี้แหละ คือเป็นคนที่ขี้เกียจมากถึงมากที่สุด อ่านหนังสือก่อนสอบคืออะไรไม่เข้าใจ 55555555 ที่คิดว่าอ่านเลยก็มีแค่ตอนสอบแกท/แพท รอบสอง อ่านแค่แกทไทยนิดๆ กับฟิสิกส์ เพราะ โดยส่วนตัวสอบวิชานี้อะ (ดีที่ความรู้พื้นฐานทางวิชาฟิสิกส์แน่นอยู่) แล้วก็อ่านสังคมตอนสอบโอเนต แค่นี้แหละ นอกนั้นเล่นเกม ที่อ่านนี่ก็สลับกับเล่นเกมด้วยนะ 5555555555

ผลคือ คะแนนแบบส้น -ีน มาก แต่ไม่เป็นไร รับได้ เพราะ เอาแต่เล่นเกมเอง ไม่เสียใจสักนิดกับผลคะแนน ตอนประกาศผลรับตรงก็ได้ของ เกษตรรอบตัวสำรอง๕ณะฟิสิกส์ แต่ไม่ได้ไปสัมภาษณ์ เพราะ มหาลัย แ-่งไกล -ิบหาย เพราะ ดูจากระเบียบการสัมภาษณ์แล้วพอสัมภาษณ์เสร็จเค้าให้จ่ายตังประกันสิทธิ์เลย เหมือนบังคับเข้าอะ แล้ว ม.ไกลมาก แต่ดันอยู่ในวิสัยที่พอไป-กลับได้ แต่มันประมาณ 2 ชม.ต่อ 1 ขา 55555555 ไม่ไปฮะ แล้วก็สมัครมหิดลไปแต่ไม่ได้ ไม่แปลกใจฮะ รู้ตั้งแต่ออกจากห้องสอบเจ็ดวิชาแล้วว่าไม่ได้แน่ๆ แล้วก็สมัครรับตรงรูปแบบโควตาเรียนดีไปของ สจล. คณะฟิสิกส์ประยุกต์ (เดชะบุญเกรด 5 เทอมนับว่าสูงส่งอยู่ได้ 3.49) ก็กรอกข้อมูลส่วนตัวแล้วก็ตอบคำถามออนไลน์ว่าทำไมถึงอยากเข้าที่นี่ไป แล้วก็ได้แบบงงๆรอสัมภาษณ์ ที่ดันติดอีกแบบงงยิ่งกว่า (ไม่มีพอร์ท ไม่มีอะไรเลย ไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับตัว มหาลัย เลยด้วย มีแค่เอกสารนิดหน่อยที่ต้องใช้ยื่นกับเค้า) ตอนสัมภาษณ์ก็ใช้เวลานิดเดียวไม่เกิน 10 นาที เหมือนไปนั่งตอบปัญหาอะไรเอ่ยไม่มีผิด!!!!
ดีที่ความรู้ทางฟิสิกส์เราค่อนข้างแน่น แล้วรู้เยอะ ชอบอ่านไปหนังสือพวกนี้ เลยพอถูๆไถๆ ตอบคำถาม 'จารย์แกได้5555555


ที่บอกนี่ไม่ได้สนับสนุนให้ทำตามนะ อ่านหนังสือเถอะ ถ้าไม่ได้เป็นพวกชิลลืมโลกแบบเราอะ ต่อให้เป็นแบบเราก็บังคับตัวเองอ่านหนังสือเถอะ บอกตรงๆที่ได้นี่คือ ดวงนะ ดวงล้วนๆไร้สิ่งเจือปน55555 การดรอป 1 ปีไม่ได้ทำให้ชีวิตพังก็จริง แต่มันเสียเวลาชีวิตถ้าเกิดใช้ 1 ปีที่เสียไปไม่คุ้มค่า แล้วก็มันเสียเงินโดยใช่เหตุถ้าจะคิดว่าไม่ได้รัฐก็เข้าเอกชน เรียน 1 ปีแล้วออกมาแอดมิชชั่นใหม่ อ่านหนังสือแล้วเก็บคะแนนดีๆเถอะ กันไว้ดีกว่าแก้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีแบบเรา แค่นี้แหละ


I think a crazy man only read a book for examination more than 2 or 3 subject because Read book 2 or 3 subject was very tired. นักเรียนคนนึงในฟินแลนด์บอกไว้

"ชั้นคิดว่ามีแค่คนบ้าเท่านั้นแหละ ที่อ่านหนังสือสอบเกิน 2-3 วิชา เพราะ แค่ 2-3 วิชาก็เหนื่อยมากแล้ว"

1
Powder 1 เม.ย. 58 เวลา 17:56 น. 32-1

ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ เยี่ยม

0