ชื่อเสียงของมหาลัย สำคัญไฉนกัน !!
ตั้งกระทู้ใหม่
ถ้าเลือกที่คณะหรือสาขาวิชา อันนี้ผมยืนยันเลยว่าคุณจะมีความสุขกับการเรียนเพราะเป็นเรื่องที่ชอบสาขาที่ใช่สำหรับตัวเอง การที่เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบเป็นอะไรที่มีความสุขมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่ในระดับปานกลางถึงระดับอ่อนในตอน ม.ปลาย เพราะ ม.ปลายมีหลายวิชารวมกันจึงไม่อาจตัดสินได้ว่าใครเก่งใครไม่เก่ง (คนที่ชอบบอกว่าตอน ม.ปลาย คนนั้นได้เกรดนั้น คนนี้ได้เกรดนี้ผมโคตรเกลียดเลย บ่องตง) แต่พอมาอยู่มหาลัยแล้วถ้าเลือกคณะหรือสาขาที่ชอบ แล้วเรียนคะแนนไม่ดีเหมือนเดิม ผมว่าอันนี้คุณเลือกผิดครับ และเวลาจบไปบริษัทที่รับสมัครงานหรือที่ใดก็แล้วแต่เขาจะดูเกรดวิชาที่เราเรียนว่าได้เกรดโอเครึป่าว บริษัทหรือหน่วยงานที่เจริญแล้วเขาไม่ดูเกรดรวมมากนักครับ
และสำหรับคนที่เลือกมหาลัยใกล้บ้าน ผมขอบอกว่าสิ่งที่คุณจะได้รับอันดับแรกเลยคือ ความอบอุ่นจากครอบครัว ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเราอีกแล้วครับผมยืนยัน ตอน ม.ปลาย หลายคนก็มีความรู้สึกอยากไปเรียนที่ไกลๆ ห่างจากครอบครัว ใช้ชีวิตแบบอิสระ ฌทรขอเงินครอบครัวอย่างเดียว แต่พอเข้ามหาลัยได้แล้ว อยู่ไปซักพัก คุณจะรู้สึกนึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับจากครอบครัว อยากกลับไปอยู่บ้าน บางคนถึงกับซิ่วไปเรียนใกล้บ้านเพราะคิดถึงบ้านก็มีนะครับ
แจ่จะเรียนที่ไหนก็ตาม ผมอยากฝากว่าขอให้ตั้งใจเรียน เล่นได้ เที่ยวได้ เมาได้ แต่ให้รู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ อะไรคือจุดประสงค์หลักของชีวิต อะไรคือสิ่งช่วยให้บรรเทาความเครียด แบ่งเงลาให้ถูก หลายคนชอบบ่นว่าเวลาไม่พอ ไม่มีเวลาต่างๆ ผมอยากให้คุณถามตัวเองนะครับ ว่าที่จริงแล้ว ไม่มีเวลาหรือมีเวลาแต่ไม่ได้ลงมือทำ ที่สำคัญคือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าไปมองว่ามหาลัยอื่นนั้นไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ มหาลัยตัวเองไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ เพราะเวลาเราไปว่าคนอื่นหรือมหาลัยอื่น คนที่รับฟังที่มีความเจริญแล้วเขาจะไม่มองหรอกครับว่า คนที่คุณไปว่าหรือมหาลัยที่คุณไปเปรียบเทียบเป็นยังไง เขาจะดูว่าคุณต่างห่างได้รับการอบรมสั่งสอนมาหรือไม่ ทุกคน ทุกมหาลัย ทุกสถาบันมีศักดิ์ศรีเท่ากันครับ คือการเป็นสถาบันการศึกษาที่มอบมอบความรู้ให้นักศึกษาเพื่อไปประกอบอาชีพในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน ระบบปิด ระบบเปิด ถ้าคุณเป็นคนที่สถุนจริงๆ อยากถูถูกจริงๆ รอตอนเรียนจบแล้วไปทำงานครับ ว่าได้ทำงานที่ชอบหรือตรงกับที่เรียนมารึป่าว และมีความสุขหรือไม่
ฝากไว้คิดก่อนตัดสินใจนะครับ จาก GI RSU
40 ความคิดเห็น
จริงๆแหละ เราเลือกสาขา คณะที่เราชอบ
พี่สาวเราบอกว่า "เวลาไปทำงาน หากเราจบมหาลัยที่ดังจะได้เปรียบกว่าคนที่จบมหาลัยอื่น เช่น คณะอักษร ม.A ดังกว่า ม.B แต่ถ้าเราไปเรียนม.ฺB พอเราไปสมัครงานพร้อมกับคนที่จบม.A คนที่จบม.Aจะได้เปรียบกว่า เจ้านายก็น่าจะรับมAมากกว่า"
อันนี้จริงไหมคะพี่?
ทั้งนี้ทั้งนั้นติดมหาลัยสักที่ก่อน5555555555555555 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะคะพี่ ช่วยในการตัดสินใจได้เยอะเลยค่ะ
จริงงงงง เพื่อนของแม่เล่าให้ฟัง เพราะเพื่อนของแม่ จะว่าไงอ่ะ คือรู้อ่ะ! อยากบอกนะ เคยอยากตั้งอะทู้ด้วย แต่กลัวมีปัญหาอ่ะ หลังไมค์เอาเปล่า 5555
จริงครับน้อง แต่ไม่ใช่เอาที่ความดัง แต่เป็นการดูความสามารถในการเรียนรู้ แสดงถึงความสามารถที่จะเรียนรู้ต่อยอดการทำงานได้ ใน % ที่สูง เพราะผ่านการแข่งขันอยู่ในระดับ % สูงมาแล้วช่วงมหาวิทยาลัย แต่ทั้งนี้ ดู คะแนน การเรียน ประกอบด้วย
เพราะ ที่เรียน ไม่ใช่ตัวชี้บอกตัวตนทั้งหมด
ถ้าเอาตรงๆนะ ในโลกความเป็นจริงคือจริงอย่างที่พี่สาวว่า เพราะตอนสมัครงานใหม่ๆ เขาไม่รู้หรอกว่าเวลาทำงานใครจะทำได้ดีกว่า ไม่มีเวลามาพิสูจน์หรอกว่าคนไหนดีกว่า แต่ จะมีใบจบ/ใบเกรดเนี่ยแหละที่บอกได้ คนที่จบจากมหาลัยดังๆมันก็บ่งบอกได้ระดับนึงละกว่าคุณจะเข้าม.นี้ได้ คุณมีความตั้งใจ ขยันมากถึงแข่งขันต่อสู้ชนะคนหลายพันหลายหมื่นคนได้ ไม่งั้นเด็กม.6 จะพยายามร้องไห้อดหลับอดนอนแทบตายกันทำไม ยกเว้นจะมีผลงานดีจริงๆถึงจะสู้ม.ดังได้ #โลกมันโหดร้ายแบบนี้แหละครัช
และที่สำคัญอยู่ที่คนเลือกสมัครงานด้วยแหละครับ ว่ามีความสามารถมากขนาดไหน ทำตัวเองให้มีค่าหรือเปล่า เดี่ยวนี้ ม.เอกชนหลายๆ ที่ก็มีการโคกับบริษัทดังๆ ทั้งนั้นไป อย่างหอการค้า ก็มีกลุ่มธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชียรองรับ หรือรังสิตก็บริษัทต่างประเทศรอรับนักศึกษาจบใหม่ที่คะแนนดี เพราะเอกชนส่วนมากหลายๆ ที่ เขาจะเชิญวิทยากรแต่ละบริษัทดังๆ มาบรรยาย และทำข้อตกลงรับพนักงานใหม่ร่วมกันครับ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ตั้งใจเรียน มุ่งมั่น ไม่ทิ้งความฝันก็สุดเจ๋งมากครับ ^^
ขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบเลยค่า ^__^
เขาเลือกม.ดังกว่าครับ แต่ถ้าม.ดังกว่าแต่พูดจาไม่ดีดูแล้วทำงานกับคนอื่นไม่ได้เขาก็ไม่เอาครับ
อันนี้แล้วแต่บริษัทนะแต่บางทีเขาอาจจะไม่เอาเลยทั้งคู่ก็ได้ 555
มันเป็นจริงเฉพะสายเอกชน ส่วนสายราชการเขาไม่มาสนชื่อมหาลัยหรอกครับ เพราะยังไงทุกคนไม่ว่าจะจบจากจุฬาลงกรณ์ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ รามคำแหง สุโขทัยธรรมาธิราช ม.เอกชน ราชภัฎและราชมงคล รวมถึงมหาลัยอื่นๆทั่วประเทศจะต้องมาสอบ "กพ.ภาคก." ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันครับไม่ว่าจะจบจากมหาลัยไหน.....
เราว่าบางที่นะ แต่ส่วนมากอะ น่าจะมองมหาลัยที่มีชื่อเสียงด้านนั้นมากกว่า สำหรับเราคิดว่า ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ทักษะภาษาสำคัญอีกขั้น คนที่จบจากม.B ถ้าเขามีผลงานประสบการณ์ ทักษาภาษาหรือทักษะที่งานนั้นต้องการ คนๆนั้นก็น่าจะมีโอกาสได้มากกว่าอ่ะ แต่บางมหาลัยมีส่วนในบริษัทบางบริษัทโดยตรง เขาก็จะรับเด็กมหาลัยที่เขาสนับสนุน อันนี้ที่เราคิด
มหาวิทยาลัย a มอดัง ส่วนใหญ่รุ่นพี่จบไปก็ได้แต่งานดีๆจนทำให้มอนี้ดังอ่ะ มีแต่คนอยากเข้า เพราะชื่อมอดังไงได้งานทำง่าย ถ้ามีเด็ก มอa มอb มอc มอd มาสมัครพร้อมกันถ้าหัวหน้าหรือเจ้าของบริษัทเป็นรุ่นพี่ที่จบจากมอa เขาจะเลือกคนที่มาจากมอa โดยที่ไม่ต้องสอบแล้วปล่อยให้ที่เหลือสอบคัดต่อ เหตุผลเพราะจบจากสถาบันเดียวกับ จะเข้ากันได้ง่าย เหมือนรุ่นพี่รุ่นน้องช่วยกันอ่ะเอาง่ายๆ แต่ถ้ามีมออื่นมาสมัครโดยที่ไม่มีมอa ผสมเขาจะสอบ นี่คือเรืองจริงของคนที่จบมหาลัยดังๆได้งานง่ายกว่ามอธรรมดา
ความสำเร็จสูงสุดของเด็กม.6 คือ การสอบได้ใน "คณะที่ใช่" และ "มหาลัยที่ชอบ"
แต่ถ้าทำไม่ได้ทั้งสอง ให้เลือกอันแรก
#สู้ๆ
ตอนนี้เราเป็น เด็ก 58 ที่สอบติดที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแล้ว เราก็เลือกตามสาขาวิชาที่อยากเรียน เรารู้สึกว่าคุณค่าทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่มหาวิทยาลัย ที่ไหนย่อมมีคุณค่าของตัวเองซึ่งเกิดจากความพยายามที่เราลงมือ เราเชื่อแบบนี้นะ ไม่จำเป็นต้องต้องเป็น ม.ระดับ Top 5 เสมอไป :) เป็นกำลังใจให้ เด็กแอดทุกคน! สู้ๆ
เป็นเด็ก ปวช. ที่ไปสอบรับตรงมา 2 ที่ ไม่ติดเลยสักที่ค่ะ เริ่มท้อแล้วบ่องตง ข้อสอบมันไม่เคยเรียนหรือแตะเลยอ่า TT ว่าจะไม่ลองสอบแล้วค่ะ ตรงเอกชนเลย ไม่อยากแย่งกับคนอื่น แถมที่ไปสอบแม่ก้อยากให้เรียนโลจิส เลยไปสอบให้ มันไม่ติดอ้ะ (โง่หรือเปล่า?? = =") แถมเราชอบคอม อยากเรียนวิศวะ แต่พี่บอก ไม่ไหวมั้ง เลยตัดใจไปเรียน วิทยาการคอมแทน
โชคดีที่ตอนอยู่ ปวช. แข่งเอ็กเซลแล้วได้ใบเซอร์ แล้วโครงการอีกที่ไปแข่งทักษะภายนอกแล้วได้เหรียญทอง เลยกลายเป็นของยืนยันกะแม่ได้ว่า เราชอบจริง
สู้ๆน้าาา เด็กม.ปลาย ทุกคนมีที่เรียนแน่ๆ
จริงๆชื่อเสียง ม.มันไม่สำคัญ มันอยู่ที่ตัวคน. แต่เพราะะบางอย่างเองก็บีบให้ต้องมองชื่อเสียง. มันจะเป็นอย่างนี้ต่อไป ถ้าคนหัวเก่าตามที่ต่างๆเองยังตัดสินคนจากชื่อ ม. โดยเฉพาะ ตามบริษัท แย่นะ พวกเขาไม่นีกถึงเลยว่าคนเราไม่เหมือนกัน
เพราะคนเราไม่เหมือนกันเนี่ยแหละครับ เลยต้องทำแบบนี้ โลกนี้คือการแข่งขันครับ
เลือกเพราะใกล้บ้านงับ และก้เลือกเพราะรถมะติด มีคณะที่โอเคอยู่ ก้เลยเลือก
เราก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกคณะที่ใช่สาขาที่ชอบ
ถึงแม้มันจะไม่ใช่มหาลัยที่ใฝ่ฝันก็ตาม แต่การที่เราได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียนมันก็ดีมากเเล้ว
เอาตรงๆเลย คือ เราไม่สนชื่อเสียงมหาลัยเท่าไหร่ ขอให้มีที่เรียนและยิ่งเป็นคณะที่ต้องการแล้วเราก็หยุดเลย
และก็จะไม่เสียใจเพราะได้ตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองแล้ว
ถูกๆ. เห็นด้วย ญาติคนรุจักก็ด้วยนะ
เราเลือกทั้งคณะที่ชอบและมหาลัยด้วย เราติดคณะที่ชอบ มา2 ที่ละ และคะแนนแอดเราถึงคณะที่ชอบแถมเป็นมหาลัยที่ใช่เราเลยสละสิทธิ์รอแอดเลย
คห.2 คะ
อักษรมีอยู่สองที่ในประเทศไทย
ไม่ต้องใส่A. B. แทนก็ได้นะคะ อย่างงี้ก็พูดมาตรงๆเลยเหอะ
เห็นละแอบไม่พอใจ
มันก็เรื่องจริงไม่ใช่หรือครับ?
ไม่พอใจเรื่องอะไร ?
ถ้าไม่พอใจงี้ก็พูดมาเลยคะว่า
ฬ หรือ ศิลปากร แหม่ (ขัดใจแทน)
จย้าาาาา
คณะเอกลักษณ์ในไทย ภูมิใจค่าาา
ขอโทษที่ทำให้มองไแทางด้านนั้นจริงๆค่ จริงๆเราไม่ได้ตั้งใจจะแสดงเรื่องแอบแฝงอย่างที่คุณว่า ที่ยกตย.ขึ้นมาก็เพราะเราจะเข้าคณะนี้พอดี มันมีทั้งอักษรและมนุษยศาสตร์ เราถนัดพิมพ์ว่าอักษรมากกว่าเลยพิมพ์ค่ะ
สุดท้ายถ้าทำให้ไม่พอใจ ขัดใจจริงๆ ก็ขอโทษด้วยค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
เราเป็นคนหนึ่งนะที่เรียนม.ปลายสายวิทย์ แล้วเราก็เลือกคณะตามที่เจ้าของกระทู้บอกด้วย เราอยากเรียนครู ไม่ว่าจะครูในระดับไหนเราก็โอเคทั้งนั้นขอให้เราได้เดินตามฝัน เรายอมรับตัวเราเองนะว่าตอนม.ปลายเราเรียนกลางๆไม่เก่งมาก ตัวเราก็รู้ตัวเราอยู่แล้วว่าม.ดังๆเราคงไปไม่ถึง แต่เราก้อไม่เคยคิดจะละทิ้งฝันหรือเปลี่ยนคณะเลย ตอนนี้เราอยากเรียนมรภ.สวนดุสิตมากเลย หรือไม่ก็สวนสุนัน เรากำลังจะสอบตรงแล้ววันเสาร์นี้ เราหวั่นใจมาก เรากลัวเราไม่ติด เพราะคะแนนแอดเรา17000เอง คะแนนแต่ละปีของสถาบันนี้คณะนี้สูงมาก เราเคยได้ยินหลายๆคนนะที่ดูถูกสถาบันราชภัฎแต่เราก็ไม่แคร์จริงๆ เพราะคนที่เราแคร์คือ พ่อ แม่เราเท่านั้น เราเคยถามพ่อนะว่า พ่อจะอายมั้ยถ้าคนอื่นถามว่าหนูเรียนที่ไหน ติดที่ไหน? พ่อเราบอกแค่หนูมีใจรักที่จะเรียน แค่หนูหาฝันของตัวเองเจอ พ่อก็ภูมิใจแล้ว เราฟังแบบนี้แล้วทำให้เรามีแรงฮึดที่จะเข้าคณะในฝันเราให้ได้ เราเคยสอบตรงมรภ.สวนสุนันแล้วนะรอบแรก เราไม่ติด ขาด1คะแนนแต่เราจะไม่ท้อ เราจะทำครั้งนี้ให้สำเร็จ ขอบคุณกระทู้ดีๆนะคะ ขอบคุณพ่อแม่เราด้วยที่ใจดีกับเราขนาดนี้ทั้งที่เราเป็นลูกคนเดียว หวังของพ่อแม่TT
เป็นกำลังใจให้นะคะสู้ๆ dek58! เราเชื่อว่าถ้าเราพยายามเราต้องทำได้ค่ะ (^-^)v
ขอบคุณมากค่ะ
อ่านแล้วมีความสุขมากครับ ดูแล้วชีวิตของเจ้าของเม้นคือแฮปปี้จริงๆ เป็นกำลังใจให้ครับ เรียนม.กลางๆ แต่คณะใช่ พ่อแม่มีความสุข เราก็มีความสุข นี่คือสุดยอดครับ ขอให้ติดนะครับ ^^
ชีวิตคล้ายเราเลยอ่ะ เราไปสอบที่สวนสุนันทามารอบแรกแต่ไม่ติด เราขาด 1คะแนน เราอยากเป็นครูเหมือนกัน เอกภาษาอังกฤษแต่คะแนนแอดเราได้น้อยกว่าเธอนิดหน่อย ตอนนี้เราติด1ที่แล้วเป็นคณะที่เราชอบแต่เป็นของราชภัฎอีกทีนึง เราไม่รู้ว่าเราจะเอาดีหรือป่าว จนถึงตอนนี้เรายังตัดสินใจไม่ได้เลย ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะ เด็กไทยส่วนใหญ่เลือกเรียนมหาลัยที่มีชื่อเสียง มากกว่าสิ่งที่เราอยากเรียน ส่วนเรืองการเลือมหาลัยในการเรียนมันมีที่ทำงานหลายๆๆที่เลือกเด็กที่มาจากมหาลัยที่มีชื่อเสียงเข้าทำงานมากกว่าที่จะเลือกเด็กที่มีความขยันเเต่ไม่ได้จบจากมหาลัยที่มีชื่อเสียง เหมือนคนข้างบ้านผมจบมหาลัยดังอันดับ1ได้ทำงานเเละส่วนอีก1คนจบมา2ปีเเต่เป็นมหาลัยที่ไม่ค่อยมีชื่อเเละยังไม่ได้ทำงานวันสมัครงานก็ไปสมัครพร้อมกันสิ่งที่เขาถามจบมาจากมหาวิทยาลัยอะไรพอบอกไปรับเข้าทำงาน1คนอีกคนก็เเห้ว
ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย บางทีมันก็การันตีคุณภาพการเรียนการสอน คุณภาพบัณฑิตที่จบมาได้นะ ของไม่ดีจริง มันคงไม่ดัง จริงไหม ซึ่งแต่มหาวิทยาลัยก็จะมีชื่อเสียงในด้านต่างๆ แตกต่างกันไป ก็ลองพิจารณาช่างน้ำหนักดูนะ แล้วถ้าสมมติว่าจบมาเราไปสมัครงาน ที่บริษัท A ซึ่งมีรุ่นพี่เราอยู่ แล้วคนสมัครมีเรา และอีกคนที่จบจาก ม. อื่น ซึ่งเราและเค้า เกรด คุณสมบัติต่างๆเท่ากันหมด เขาก็อาจจะพิจารณารับเราก่อน ถามว่าเส้นไหม ก็คงตอบว่าไม่ใช่ เพราะถ้าเราเป็นคนรับ เราก็คงเลือก คนที่เราคุ้นเคยมาทำงานด้วย เพราะทำงานด้วยกันง่าย จริงไหม ลองๆคิดดู
ส่วนเรื่องใกล้บ้านหรือไกลบ้าน เราจะเลือก ม. ที่ไกลบ้าน เพราะการที่เราอยู่ไกลบ้าน ทำให้เราต้องรู้จักดูแลตัวเอง รู้จักรับผิดชอบตัวเอง มีประสบการณ์มากขึ้น โตขึ้น ได้เจอสังคมใหม่ๆ โลกใหม่ที่เราไม่เคยเจอ
ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ คนที่เราต้องเเคร์มากๆคือตัวเอง สิ่งที่ต้องเจออีก4-5ปีข้างหน้า เราจะอยู่กับมันได้นานแค่ไหนถ้าเราไม่ชอบ เราจะทำมันได้ดีมั้ย เราจะปรับตัวเข้ากับสิ่งนั้นได้มากแค่ไหน เราจะแข่งกับคนที่เค้าชอบแล้วเค้ามาเรียนในคณะเดียวกันได้รึป่าว? สิ่งเหล่านี้ควรถามตัวเอง ตอบตัวเองให้บ่อยๆนะ ชีวิตคุณไม่ได้หยุดอยู่ที่การศึกษา มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
เราเลือกใกล้บ้าน ค่าเทอมไม่แพงมากเกินไป แล้วก็เลือกคณะที่ใช่ สาขาที่ชอบ ตอนเรียน ม.ปลายเราได้เกรด 2 กว่าๆ แต่อยู่มหาลัยที่นี้เราได้เกรด A และ B เยอะมากๆเกือบทุกวิชา เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เรารักไง เราถึงทำได้ดี
เราเป็นเด็กแอด 57ค่ะ ติดทั้งคณะที่ใช่และมหาลัยที่ชอบ รู้สึกโชคดีมากๆ ตอนนี้มีความสุขดีค่ะ(แต่วิชาพื้นฐานของม.แอบยากไปนิด ดรอปไปตัวนึง55555) และเป็นมหาลัย top5 ตรงตามที่เราต้องการด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ได้ว่ามหาลัยอื่นไม่ดีนะคะ แต่เรารู้สึกว่าสังคมไทยถ้าจบม.ดังๆไปจะมีโอกาสถูกเลือกมากกว่าเราเลยเลือกค่ะ
เราก็อยู่รั้วสีชมพูเหมือนกัน
เลือกเพราะ wanna be the pillar of kingdom นะ
ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกเราติดทั้ง ชมพู และเหลืองแดงค่ะ
(แอบอยากเข้าทั้ง2ที่นะคะ ตัดสินใจยากมาก)
แต่ด้วยค่านิยมที่โดนปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กอะเนอะ(ไม่อยากโทดใคร)
เราจึงเลือกทางเดินนี้คะ... pink pink รู้กันเนอะ
แต่ its not my way อ่าาาา
ตอนนี้ตัดสินใจได้ว่าจะบินละคะ
บอกน้องๆเลยนะเลือกดีๆที่ชอบจริงๆ
อย่าเดินตามใคร อย่าเลือกที่มหาลัยที่ดังกว่าก่อนนะ
เลืงกในคณะที่ชอบ ตอบโจทตัวเองได้ทั้งความฝันและความจริง
บอกเลยการได้อยู่รั้วชมพูสะพรั่งนี้ประสบการณ์ล้ำมากค่า
(แบบเอิ่ม ดี ร้าย ร้ายเฟร่ออออมาหมด)
แต่ก็พยายามยิ้มรับคะ เหมือนเรียนพิเศษแบบจัดเต็ม1ปี
ถ้าแอดได้ครั้งนี้ก็จะโบกมีอลาอย่างมีเกียรติด้วยความรักชมพูนี้
แต่ถ้าไม่ได้ก็จะภาคภูมิในที่แห่งนี้ต่อไปคะ
ให้เหมือนกับที่เราอยากเข้าไว้ก่อนนี้ (อย่าเปนวัวลืมเท้าละ)
พี่ว่า มหาลัยก็เหมือนแบรนด์น่ะ
บ่งบอกคุณภาพและรสนิยม แน่นอน บริษัทที่จ้าง หรือหน่วยงานต่างๆก็อยากได้
แต่อย่างลืมไปว่า ของแบรนด์ธรรมดา คุณภาพดีราคาประหยัด ก็มีคนอยากได้เหมือนกันน่ะ
เพราะถ้าคุณภาพดี ราคาก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆเอง
อยู่ที่คนทำตัวครับ ของแบรนด์ดังบางทียังมีตำหนิเลยครับ
ส่วนพี่ได้คณะที่ชอบ และมหาลัยที่อยากได้ครับ
เอาใจช่วยครับน้องๆ
ประเด็นคืออยู่ในสังคมไทยไงครับ
คุณต้องเจอค่านิยมไทยๆแน่ ไม่ใช่มหาลัยต่างชาตินะครับที่จะพิจารณาความสามารถก่อน
ขนาดบริษัทต่างชาติมาเปิดในไทย ยังดูชื่อเสียงมหาลัยเลย เพราะคนคัดก็คนไทย
คุณจะเรียนที่ไหนเหมือนๆกัน แล้วบริษัทพิจารณาเท่าๆกัน มันเป็นไปได้ครับผมเชื่อ
แต่ต้องรอหน่อย อีกหน่อยค่านิยมเรื่องความสามารถมาก่อน มันมาแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ครับ
ต้องยอมรับความจริง
ต่างชาติก็ดูชืื่อเสียงมหาลัยครับ = =(เป็นทั่วโลกครับ) และผมคิดว่าบริษัทไม่มาเสียเวลาคัดคนโดยการให้ทดลองงานหรอกครับ(การพิจรณาที่ยุติธรรมที่สุด) ถ้าหากทำแบบนั้นแล้วคนที่จบจากม.ไม่ดังทำได้แย่กว่าล่ะครับ ไม่มีบริษัทไหนสวยหรูแบบนั้นหรอกครับ จริงมันก็มีแหละคนที่จบจากม.ไม่ดังแต่เก่งกว่าม.ดัง แต่มันน้อยครับ เพราะกว่าจะเข้าม.ดังไม่ใช่อยู่ๆก็เดินเข้าได้นะครับมันผ่านอะไรมาหลายอย่างมากๆๆๆมันเป็นตัวพิสูจน์ได้ระดับนึงแล้วครับ ถ้าเจ๋งจริงก็เอาม.ดังให้ได้แต่แรกครับ/ทำงานผลงานให้ดีกว่าม.ดัง ค่านิยมนี้ไม่น่าจะหายไปหรอกเพราะมันดีที่สุดแล้ว
ใช่ครับ เราอยุ่ในสังคมไทย สังคมที่คิดอะไรเองไม่เป็น มีอะไรก็ไปเอาแบบต่างประเทศเข้ามาแทบจะร้อยเปอร์เซ็น ก็คงต้องทำใจไปครับ อีกนานกว่าค่านิยมเหล่านี้จะหายไป เพราะเราคิดแต่รอให้คนอื่นทำ คนอื่นก็คงจะคิดเหมือนเราว่า รอให้คนอื่นทำเช่นกัน ^^ ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
อยู่ประเทศไหนก็ดูชื่อเสียงมหาลัยค่ะ ไม่ใช่แค่ไทย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?