Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เมื่อพ่อถามว่า "ลองเขียนหนังสือดูไหม"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
วันนี้ไปงานหนังสือค่ะ แล้วกลับมาก็โม้เรื่องหนังสือ ลากไปเรื่องโน้นเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องเรียนให้พ่อฟัง พ่อก็บอกว่า ถ้าชอบเรียนเกี่ยวกับวรรณกรรม ภาษา แล้วก็ชอบอ่านหนังสือ ลองเขียนหนังสือของตัวเองดูบ้างไหม ;-; ถึงกับเงิบไปชั่วขณะหนึ่ง คือพ่อคะหนูเขียนนานแล้ว คิดแบบนี้ แต่บอกพ่อไปว่า ก็ลองเขียนอยู่นะคะ จริงๆ คือเคยเขียน แต่เขียนไม่จบ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเขียนแล้ว คือหยุดมาอ่านก่อน อ่านเยอะๆ เพื่อซึมซับสกิลแล้วไปเกลาผลงานตัวเอง(แต่เอาจริงๆ ก็คือยัดลงไหฝังดินนั่นแหละค่ะ...)

ปกติแม่เราไม่ค่อยสนับสนุนให้เขียนนิยายกับวาดการ์ตูนค่ะ(ทั้งที่เราชอบมากแท้ๆ) แม่บอกไร้สาระ ก็เลยปิดๆ ไม่ค่อยพูดเรื่องว่าตัวเองเขียนนิยาย เขียนการ์ตูนเท่าไหร่ กะว่าไว้ทำสำเร็จ คือเขียนจบ ผ่านพิจารณาอะไรค่อยบอก แต่พอพ่อพูดแบบนี้ก็...ลอย แล้วก็เขินจนคิดว่าคงไม่กล้าเขียนต่อ กลัวพ่อมาเปิดดู #ผิด ส่วนหนึ่งก็เพราะพ่อชอบอ่านหนังสือด้วยแหละ ตั้งแต่เด็กๆ แล้วถ้าจะซื้อของอย่างอื่นจะต้องคิดนานหน่อย แต่ถ้าเป็นหนังสือพ่อจะสนับสนุนมากไม่ว่าจะวรรณกรรมหรือหนังสือเรียน

แล้วชาวบอร์ดล่ะคะ ถ้าคนในครอบครัวถามแบบนี้จะรู้สึกอย่างไร มีคำตอบแบบไหน เคยบอกคนในครอบครัวเกี่ยวกับที่ตัวเองเขียนนิยายหรือเปล่า มาเล่าสู่กันฟังดีกว่าค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

38 ความคิดเห็น

K.W.E. 27 มี.ค. 58 เวลา 23:32 น. 1

ก็เฉยๆนะ เพราะขึ้นชื่อว่างานอดิเรกนี่ผมไม่ค่อยบอกใครอยู่แล้ว เว้นแต่มีประเด็น หรือพูดเอาฮา

เอาเข้าจริงนี่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าพี่แม่ญาติๆที่บ้านก็ไม่รู้ครับว่าผมแต่งนิยายแนวไหน ... บางทีถ้าเขารู้จำนวนผลงานและความยาวทั้งนิยายและบทความที่ผมเขียนเอาไว้อาจจะตกใจก็ได้ ขำ


ไว้ถ้าเขาอ่านแล้วมาชมชอบจริงๆ นั่นล่ะครับอาจมีหลุดยิ้มให้เห็นกันบ้าง

1
Xandria 27 มี.ค. 58 เวลา 23:52 น. 1-1

ทีแรกเราก็ไม่กล้าบอกเลยค่ะ เพราะแม่ไม่สนับสนุน เขียนมาเงียบๆ เว้นแต่มีประเด็นหรือพูดเอาฮาเหมือนคุณกวีเลย จนพ่อบอกแบบนี้เลยดีใจมาก หลุดไปพอสมควร แต่ไม่มาก กลัวพ่อมาเปิดคอมฯ แล้วเจอนิยายที่เราแอบเขียนไว้ เขิน ไม่อยากให้อ่าน ยิ่งบางเรื่องเป็นนิยายวายด้วยแล้ว ;-; พ่ออาจตกใจได้

0
นุ้งซอร่า ไหชัชชาติ [COS] 27 มี.ค. 58 เวลา 23:37 น. 2

ญาติเราเขาก็รู้กันทั้งบางนะคะว่าเราเขียนนิยาย 5555555555

คือตอนเริ่มแรกๆ เหมือนเคยโดนว่าว่า "ไร้สาระ" ก็ติดสตั๊นท์ไป

แต่เราก็เขียนๆ เล่นๆ ใช้ชีวิตมาได้โดยเกรดไม่พังทลายหรือย่อยยับอะไรนัก แถมพยายามทำให้ดูว่าสิ่งที่เราทำมันทำให้รู้ว่าเรามาถูกทาง เราได้เข้าค่ายกล้าวรรณกรรมของซีพีออลล์ อย่างน้อยก็พอยืนยันได้ว่า เราไม่ใช่แค่เล่นโดยทั่วไป อย่างน้อยก็พอมีหนทางสำหรับที่จะไปบ้างนะ อะไรแบบนั้น

ทุกคนก็เริ่มเลิกบ่น 

จนพอเราบอกว่าจะเข้าคณะอะไร แรกๆ พ่อก็ไม่อยากยอมรับ เพราะคณะที่เราจะเข้าเป็นคณะของสายศิลป์เขา(เป็นคณะเกี่ยวกับการเขียนๆ และภาษานี่แหละค่ะ คงพอเดาออก 555) แต่เราเรียนสายวิทย์(พ่อก็ตั้งความหวังว่าจะให้เราเป็นเภสัช แต่ไม่เคยดูสมองเราเลย ถ่อววววว)

พอม.5 คณะในฝันเราก็ยังเป็นคณะเดิม พ่อก็เปลี่ยนมาสนับสนุน ถามว่าต้องทำอะไร ต้องใช้อะไรบ้าง พอเราอธิบายพ่อก็บอก

"จริงๆ ตอนนี้ควรมีผลงานได้แล้วนะ" (อารมณ์แบบ ได้ตีพิมพ์บ้างไรบ้าง จะได้เป็นพอร์ต)

"..." //เงิบ 

ก็พยายาม(อยู่นิดนึง)นะคะพ่อ แต่เอาลงไหซะส่วนใหญ่ ก็ไม่รู้ทำไง 5555555

#ซอร้องไห้ทำไม

ขึ้นสวรรค์ ขึ้นสวรรค์ 

2
Xandria 27 มี.ค. 58 เวลา 23:55 น. 2-1

จริงค่ะ เรื่องเรียนเราก็เรียนสายวิทย์มา ทั้งที่อยากเรียนด้านภาษามาตั้งแต่ประถมแล้ว คือแม่อยากให้เข้าหมอ(คือแม่ดูเกรดหนูก่อนค่ะ...) สุดท้ายเราก็สอบเข้าสถาปัตย์ แต่มันไม่ใช่ จนตอนนี้เลยซิ่วมารอแอดคณะสายภาษาอยู่(อักษร/มนุษย/ศิลปศาสตร์) ที่จริงคณะนี้ไม่ต้องมีพอร์ตเป็นงานเขียนก็ได้ ถ้าไม่ใช่คณะด้านออกแบบหรือศิลปะเขาก็ไม่ค่อยอะไรกับพอร์ตเท่าไหร่ ที่เรียนด้านนี้บางคนจบแล้วไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับหนังสือก็มี(แต่เพื่อนที่เรียนอยู่บอกว่าตอนเรียนต้องอ่านหนังสือเยอะมากจนอยากต้มกิน และบางเรื่องก็ไม่สนุกเอาซะเลย) ยังไงก็สู้ๆ นะคะ มาเรียนด้วยกัน

ขำ

0
โรลออนของโคเบน 27 มี.ค. 58 เวลา 23:38 น. 3

ข้าน้อยจะบินรอบบ้านสักสิบรอบค่ะ ตอนนี้ที่ข้าน้อยเป็นอยู่อยากจะร้องไห้
ข้าน้อยอยู่กับแม่ ท่านไม่ค่อยสนับสนุนด้านนี้เท่าไรแม้แต่ซื้อมาอ่าน ท่านสนับสนุนเรื่องหนังสือเรียนมากกว่า แล้วข้าน้อยอยู่ในบ้านนอก (ไม่ถึงกับชนบท) ร้านหนังสือก็ต้องเข้าไปในตัวอำเภอ ดังนั้นทางที่สะดวกที่สุดคือสั่ง แต่การใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ข้าน้อยต้องบอกแม่ แล้วถ้าแอบสั่งก็ต้องรับของที่หน้าบ้านอยู่ดี โอกาสที่จะได้อ่านคือห้องสมุดโรงเรียนอย่างเดียวค่ะ แต่ก็นะอยากมีหนังสือของตัวเองบ้าง ตอนนี้อาศัยอ่านในเว็บค่ะ แล้วก็เริ่มพยายามเขียน แต่ก็ไม่ค่อยได้แตะเพราะแม่ไม่ชอบเท่าไร นอนกลางวันมาแอบแม่เขียนดึกๆ ทุกที
#ร้องไห้หนักมาก #อยากมีแบบเจ้าของกระทู้

1
Xandria 28 มี.ค. 58 เวลา 00:00 น. 3-1

เราเองก็เคยค่ะ อย่างที่บอก แม่เราไม่ค่อยสนับสนุนให้เขียน ซื้ออ่านก็บ่นบ้าง แต่ก็ปล่อยๆ ไปเพราะถือว่าเราเอาค่าขนมของตัวเองซื้อ แม่เคยบอกด้วยว่าอ่านนิยาย เขียนนิยายไร้สาระ เราก็แอบๆ เขียนมากะว่าสักวันหนึ่งที่เราได้มีงานตีพิมพ์ค่อยบอก จริงๆ แม่ก็รู้แหละ แต่ผลการเรียนไม่ได้แย่ลงก็ไม่ได้ว่าอะไร(เอาจริงๆ ตอนทะเลาะกันก็มีว่าบ้าง แบบเห็นไหม เพราะเอาเวลาไปวาดรูปเขียนนิยายไงถึงคะแนนไม่ดี สอบไม่ติด โน่นนี่นั่น แต่เราก็ยังเขียนมาเรื่อยๆ เพราะเขียนแล้วมีความสุข เขียนแล้วสบายใจ) เมื่อกี้พอพ่อบอกแบบนี้เลยดีใจมาก ยังไงก็สู้ต่อไปนะคะ สักวันเขาจะเข้าใจเราค่ะ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องมีสักคนที่เข้าใจเราแน่ๆ

0
mbth96(จะออกไปแตะขอบฟ้า) 27 มี.ค. 58 เวลา 23:53 น. 4

อยากมีโอกาสได้ฟังแบบจขกท.สักครั้งเหมือนกันค่ะ ถ้าได้ฟังคงมีความสุขมากๆ บอกพี่ชาย เหมือนจะรับได้ ยังเดาใจพี่ท่านไม่ค่อยออก ไม่ได้ด่าอะไรก็เฉยๆ บอกแม่ แม่ก็ด่า บอกว่าไร้สาระค่ะ ยังไม่กล้าบอกพ่อ แม่มีปฏิกิริยาด้านลบมากเท่าไร ก็คูณสิบเท่าให้พ่อล่วงหน้าได้เลย พ่อแม่อยากให้เป็นหมอและหมอฟัน การข้องแวะกับหนังสืออ่านเล่นท่านไม่ปลื้ม แต่ถ้าหนังสือเรียนและหนังสือสอบ ต่อให้แพงแค่ไหนท่านก็จ่ายให้น่ะค่ะ...
 

2
Xandria 28 มี.ค. 58 เวลา 00:07 น. 4-1

สู้ๆ นะคะ ที่จริงแม่เราเมื่อก่อนก็เหมือนกันเลยค่ะ นิยายจะดูเฉยๆ ไม่ก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่ถ้าหนังสือเรียนหนังสือสอบจะยินดีมาก อยากให้เป็นหมอเหมือนกัน โชคดีที่พ่อค่อนข้างเข้าใจ แล้วก็สนับสนุนให้อ่านตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าจะหนังสือนิยาย วรรณกรรม หรือตำราเรียน

ไม่เป็นไรนะคะ สู้ๆ หมอหรือหมอฟันก็เขียนได้ค่ะ ดูอย่างพี่กัลฐิดาเป็นหมอฟันยังโด่งดังจากการเขียนหนังสือเลยค่ะ หรืออย่างคุณหมอพงศกรเองก็เขียนหนังสือเยอะเหมือนกัน นิยายเขายังได้ไปทำเป็นละครตั้งหลายเรื่องด้วยค่ะ

0
หลับปุ๋ย` 28 มี.ค. 58 เวลา 00:19 น. 5

ยังไม่เคยมีโมเม้นท์แบบนี้เลยครับ
ซึ่งโอกาสที่คุณพ่อจะเอ่ยแบบนั้นก็
เป็นไปได้ยากด้วยในความเป็นจริง
ครับผม T T

0
poroyo 28 มี.ค. 58 เวลา 00:47 น. 6

ยินดีด้วยค่ะที่มีโมเมนต์นี้
พิสูจน์ตัวเองให้คุณพ่อคุณแม่ได้ชื่นใจเลยค่ะ ว่าเราทำได้

เราก็เคยเรียนสายวิทย์มาก่อน ชอบวาดชอบเขียน
แต่ช่วงแรกพ่อแม่ไม่ค่อยเต็มใจสนับสนุนเท่าไหร่
ตอนหลังเราต้องพิสูจน์ตัวเอง
คุณพ่อคุณแม่ก็เปิดใจขึ้นมาพอสมควรแล้วค่ะ 

0
wat_r 28 มี.ค. 58 เวลา 01:18 น. 7

ครอบครัวเคยถาม โดยเฉพาะแม่ แต่ไม่เคยบอกพวกท่านเลยว่าลูกคนนี้กำลังลงมือเขียนจริงๆ แล้ว
:)

มีความหวังว่าจะเขียนให้จบจนส่ง สนพ. แล้วได้ตีพิมพ์ ถ้าความหวังไม่เป็นไปตามนั้น ก็คงเก็บเป็นความฝัน แล้วมุ่งหน้าในชีวิตจริงต่อไป :)

0
Vanilla Ice 28 มี.ค. 58 เวลา 01:41 น. 9

พ่อ :"เราเป็นสัตวแพทย์ ไปทำอะไรที่เราไม่ถนัดทำไม สู้เขาไม่ได้หรอก"

ผม : "แต่ส่งผลงานให้สำนักพิมพ์พิจารณาแล้วนะพ่อ"

พ่อ : "เริ่มเขียนมาไม่นาน สู้เขาไม่ได้หรอก อย่าไปหวัง มันไม่ใช่สิ่งที่เราถนัด"


ป้า : "นักเขียนไส้แห้งนะ เล่มหนึ่งได้ถึง 2 หมื่นรึเปล่า"

ผม : "มีตั้งแต่ 8,000-หลักล้านครับเท่าที่รู้มา"

ป้า : "เขียนแล้วจะขายได้รึ"


พ่อกับป้าผมพูดไว้แบบนี้ครับ....แต่แม่กับน้องสาวผมเชียร์สุดใจ...

เรื่องเกิดเมื่อราวๆ 3 ปีก่อน....

ณ วันนี้....พ่อพูดว่า


"พ่อภูมิใจและดีใจที่ลูกพบสิ่งที่ตัวเองรัก"

ส่วนแม่บอกว่า...


"ไม่มีอาชีพใดไม่มีความเสี่ยงลูก"


ตอนนี้ดูเหมือนผมจะเดินทางสายนี้เกือบเต็มตัวซะงั้น 5555


1
Xandria 30 มี.ค. 58 เวลา 23:46 น. 9-1

จำได้ว่าเคยอ่านกระทู้หนึ่งของคุณ Vanilla Ice ที่เคยพูดถึงการเรียนแพทย์แล้วตอนหลังก็มาเขียนหนังสืออยู่ แต่ไม่ได้แสดงความเห็นเพราะเปิดในมือถือ รู้สึกประทับใจมากๆ เลยค่ะ เป็นกำลังใจและแรงบันดาลใจอย่างดีทีเดียว

0
แกะขาวในฝูงหมาป่า 28 มี.ค. 58 เวลา 02:48 น. 11
มีอะไรก็บอกแม่หมดนะ  
ส่วนพ่อหลับไปตั้งนานแล้วว  
พี่ชายบอกว่า'ไร้สาระ'
น้องสาวบอกว่า 'เขียนให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูดเหอะ'<<<แอบจี้ใจดำเล็กน้อย ดองยาวไม่เคยอัพลง  ฮา..

แม่ข้าพเจ้าสนับสนุนทุกด้านเลย  ยกเว้นอะไรๆที่มันใช้เงินเยอะๆ  อาทิเช่น

เรา:แม่หนูอยากเป็นหมอศัลยกรรม แบบเรียนไปทางสายนั้นตรงๆเลยอะ

แม่:โอ้ย  อย่าไปคิดเถอะลูก ถึงเกรดหนูจะได้3.9 อัพตลอดแต่ครอบครัวเราไม่มีเงินส่งเรียนนะ
______________

เรา:แม่หนูอยากเรียน ร.ร.กวดวิชาค่ะ ที่ร.ร.สอนแล้วไม่เห็นจะตรงกับทีเขาออกสอบทั้งประเทศเลย และถึงตรงข้อสอบก็มีนิดเดียว  เวลาก็น้อย ฉุดเกรดหนูหมด

แม่:เก็บเงินไปเรียนเองเถอะนะ  แค่ค่าเทอมสามคนแม่ยังจ่ายเขาไม่หมดเลย(มีทุนช่วยนิดหน่อย) 
________________

เรา: แม่หนูอยากดัดฟัน  เวลาเคี้ยวข้าวปวดฟันมากเลย และเนื้อติดฟันตลอด 

แม่:ถ้าดัดฟันก็ต้องมีเงิน และถ้าดัดมาโครงเล็กที่ดัดฟันก็จะพัง  เพราะลูกชอบนอนกัดฟัน  ฟันเลยเบี้ยว ทรุด บลาๆ อีกอย่างลูกก็จะไม่ได้รับทุนอีก เพราะเขาคงคิดว่าถ้ามีเงินดัดฟัน ค่าเทอมก็ต้องมีจ่าย ถึงฟันจะเริ่มยื่นออกมาก็เถอะ
____________

เรา:แม่หนูเริ่มแต่งนิยายแล้ว  มี๊คิดว่าไงคะ

แม่:แต่งถึงไหนแล้ว  เอามาให้แม่ลองอ่านสิ เพื่อจะได้ทำเป็นเล่มขาย ยิ่งจินตนาการดีอยู่ด้วย เผลอๆจะได้เป็นนักเขียนมืออาชีพเชียวน้า  ขายได้เงินเยอะเชียวล่ะ  ถ้าเก่งๆนะ บลาๆๆ
___________
อายมากบอกปัดแม่เลย  บทนำได้ไม่กี่บรรทัดเองเจ้าค่ะ  _ _  คิดได้เรื่อยๆนะ  แต่ขี้เกียจพิมพ์  กลัวไส้แห้งเพราะความขี้เกียจสุดๆ  เสียดายเกรด...

ชาวเด็กดีท่านนี้  ยาจกเรียกพี่เลยเจ้าค่ะ...


2
Me14543 30 มี.ค. 58 เวลา 09:30 น. 11-1

อืม... เขียนวันล่ะ7หน้าไม่น่าเกรดตกหรอกมั่ง ผมยังเกรดไม่ตกเลย(คงที่ตลอดไม่ห่วยไม่เก่ง)

0
Xandria 30 มี.ค. 58 เวลา 23:48 น. 11-2

เหมือนคุณแม่ไม่สนับสนุนให้ใช้ตังแต่หาตังนะคะ น่ารัก สู้ๆ นะคะ

0
หนึ่ง คือสิ่งที่ฉันเป็น 28 มี.ค. 58 เวลา 05:21 น. 12

พ่อกับแม่เป็นนักแกะสลักต้นยาง  ความรู้ก็แค่ป.4
แต่ประสบการณ์ชีวิตระดับดอกเตอร์

ไม่เคยถาม  ไม่เคยสนใจ  บอกอย่างเดียวให้ตั้งใจเรียน  เพราะพ่อกับแม่ ไม่มีสมบัติหรือมรดกเก่าจะให้  มีแค่การศีกษานี่แหละที่จะนำพาให้มีงานเลี้ยงชีพได้

ผมก็ตั้งใจเรียนมาตลอด  จนมีงานมั่นคง  มีเวลาว่างมากขึ้น  เลยมาหยิบความฝันในวัยเด็กขึ้นมาทำอีกครั้ง  คือการเขียนนิยาย  ใช้เวลา เกือบปี  จึงเขียนจบ

แม้จะจบแบบกากๆ  แต่ก็จบนะ

1
หมี่เหลืองหมูไม่ผัก 28 มี.ค. 58 เวลา 09:47 น. 13

พ่อกับแม่เรารู้แค่ว่าเราเขียนนิยายจีน,นิยายแฟนตาซี

เพราะเรามีหลายไอดี เอาอีก2อันให้พ่อดู

ส่วนอีก2ไอดีที่แต่งนิยายวายก็ปิดไว้

2
Xandria 30 มี.ค. 58 เวลา 23:50 น. 13-2

อุ---หน้ากระต่ายโยโย่ได้อารมณ์มากค่ะ

0
Kinkmj 28 มี.ค. 58 เวลา 12:09 น. 14

เราเอาให้อ่านเลยน่ะค่ะ 
พอดีแม่ชอบอ่านนิยายอยู่แล้ว
(ส่วนมากเป็นงานแปล นิยายดัง
คือจริงๆเราซื้อมาอ่านค่ะ อ่านจบก็ให้แม่อ่านต่อ 55)

ฟีดแบ็คค่อนข้างดีอยู่แล้วค่ะ แม่ก็ตามอ่านอยู่ตลอด
เรียกว่าเป็นแฟนคลับเลย
ตอนแรกอ่านอย่างเดียว เพิ่งกลับมาเขียนก็ปีที่แล้ว
ตอนบอกแม่ แม่ก็ยังแปลกใจว่าเขียนด้วยเหรอ ฮ่าๆ

กิ่งทำธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้วน่ะค่ะ ดูแลตัวเองทั้งหมด
อยากจะทำอะไรเลยไม่มีใครมาห้ามหรืออะไรอยู่แล้ว
เรียกว่ารู้กันว่ามีสิทธิ์ที่จะทำได้ตามใจชอบ
ไม่กระทบกับงานประจำอยู่แล้วค่ะ

0
นุ้งเดียร์รี่ ไหหลังเขา [COS] 28 มี.ค. 58 เวลา 14:47 น. 15

แรกเริ่มไม่บอกใครเลยค่ะ อายด้วย กลัวโดนหาว่าไร้สาระด้วย แต่โดนพ่อแม่ด่าทุกวันว่านั่งอยู่แต่หน้าคอม แชทๆ เล่นเฟซบุ๊ก ทำตัวไร้สาระไปวันๆ อยู่ได้จนทนไม่ไหว...เลยต้องบอกความจริงไปว่าหนูเขียนนิยายค่ะ หวังว่ามันจะทำให้พ่อแม่มองดูแล้วมีสาระขึ้นนิดนึง แต่ว่า...

ไม่เลยค่าาาา เย้!! //หัวเราะทั้งน้ำตา

ตอนนี้ก็เป็นงานอดิเรกที่ทำได้อย่างเปิดเผย ไม่ต้องปิดๆ หลบๆ ซ่อนๆ มันก็ดีไปอย่างค่ะ แต่แค่ต้องทนฟังเสียงบ่นเท่านั้นเอง (ฮา)

แหม่ ถ้าพ่อเดียร์มาพูดอย่างพ่อจขกท.นี่ ตัวลอยเลย มีกำลังใจในการเขียนจนจบ+ส่งสนพ.มากขึ้น 20% (แต่มันคงไม่มีวันนั้นนี่สิคะ...)

1
Xandria 30 มี.ค. 58 เวลา 23:52 น. 15-1

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สู้ๆ บางทีอาจจะมีวันที่คุณเดียร์ต้องลับๆ ล่อๆ ออกจากบ้าน พอพ่อแม่ถามจึงต้องบอกความจริงไปว่า "หนูจะไปแจกลายเซ็นที่งานหนังสือ" ก็เป็นได้

0
Death With Love 28 มี.ค. 58 เวลา 15:28 น. 16

เข้ามาบอกว่าเป็นคนพ่อที่น่ารักมากครับ ให้ความสำคัญกับกิจกรรมของลูก(สาว)มากครับ

ตอนเด็กๆ ผมก็ชอบบังคับให้พ่อซื้อการ์ตูนให้บ่อยๆ แล้วแม่ก็ด่าทั้งพ่อและผม (ฮา)
สมมติ ถ้ามีคำถามจากพ่อ
"ลองเขียนการ์ตูนดูไหม"

ผมก็จะตอบกลับไปว่า...
"เคยดูลูกตัวเองไหม ความพยายามมีไม่พอเขียนการ์ตูนเป็นเรื่อง เป็นเล่มได้หรอก พ่อ (ฮา)"

1
Xandria 30 มี.ค. 58 เวลา 23:55 น. 16-1

พ่อเชื่อว่าเด็กทุกคนมีความอัจฉริยะหรือความเก่งกาจในตัวเองน่ะค่ะ ก็จะพยายามสนับสนุนเท่าที่ทำได้เพื่อให้เราค้นพบตัวเอง อุ แต่เราว่าคุณเดธทำได้นะคะ ชอบงานคุณเดธมากๆ เลย จะต้องมีสักวันแน่นอนค่ะ

0
Hanagika Alantasia 28 มี.ค. 58 เวลา 17:14 น. 17

อยากมีโมเม้นแบบนั้นบ้างเหมือนกันค่ะ 5555
ทุกคนที่บ้านเรารู้นะคะ พ่อเฉยๆ กึ่งไม่ค่อยชอบ แบบแนวกังวลมากกว่า (ส่วนนึงอาจเพราะเราไม่ค่อยสนิทกับพ่อด้วยมั้งเลยไม่เคยคุยเรื่องนี้ตรงๆ สักที มีแต่แม่มาบอกว่าพ่อเขาไม่ชอบนะลูก 555) แม่สนับสนุนบ้างบางครั้ง แต่ก็อยากให้งดๆ เพราะเราม.ปลายแล้ว แถมพอมีเรื่องการเรียนเข้ามาเกี่ยว แม่เราก็จะเอาเรื่องนี้ยายมาปนด้วยทุกครั้งเลย //เศร้ามาก ส่วนพี่สาวนี่สนับสนุนนะ แต่แนวว่าอยากทำไรทำไป มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีนิ ขอแค่อย่าทำเป็นอาชีพหลักก็พอ เธอต้องมีงานประจำนะ ฉันขี้เกียจหาเงินเลี้ยงเธอ ตังมันไม่พอยาไส้หรอก อะไรประมาณนี้ ขำเล็กๆ เหมือนกัน
โดยรวมของครอครัวเราก็พอโอเค ไม่ได้กีดกันอะไรมาก แค่เขม่นเท้านั้นเอง(ฮา)

0
maewair 28 มี.ค. 58 เวลา 21:38 น. 18

เราไม่ใช่สายการเขียนแต่อยากจะเขียนค่ะ ฮาา

ยินดีกับ จขกท. ด้วยนะคะที่มีคนสนับสนุน ทางเราได้รับการสนับสนุนมาตลอด (เราสายวาดค่ะ) จนตอนนี้เครียดที่โดนเร่งเร้าให้ไปหางานทำได้แล้วมากกว่า (ถี่มาก) เลยอยากจะบอกแม่เหลือเกินว่ามันไม่ง่ายและคิดว่าฝีมือยังไม่ถึง Y v Y

จขกท. สู้ๆ ต่อไปนะคะะ ขอให้ประสบความสำเร็จดั่งใจหวัง

1
Xandria 31 มี.ค. 58 เวลา 00:00 น. 18-1

สายวาดถ้าพอมีงบหน่อยน่าลองไปออกงานโดอะไรพวกนี้นะคะ เราก็ติดตามสายวาดอยู่ ชอบไปเดินเล่นงานโด หลังๆ นี้แต่ละงานมีนักวาดทั้งมืออาชีพมือใหม่ออกบูธเต็มไปหมดเลยค่ะ ยังไงก็สู้ๆ ขอให้ประสบความสำเร็จเช่นกันนะคะ

0
wQcmoa. 28 มี.ค. 58 เวลา 21:50 น. 19

ของเรานี่ไม่ค่อยสนับสนุนนะ เราซื้อมาอ่านก็โดนว่าตลอด เราไม่ค่อยบอกเรื่องนี้กับครอบครัวเท่าไหร่ เราก็ลองเขียนๆมาสักพักแล้ว (แต่ด้วยอายุน้อยเลยยังไม่คล่อง) ส่วนสายวาดนี่ห่วยมาก เราวาดรูปไม่ค่อยเป็น แต่ยินดีกัล จกขท.ด้วยนะคะ ^^ มีผปค.สนับสนุน

0
rikyo maika 28 มี.ค. 58 เวลา 21:50 น. 20
ของเราก็คล้ายๆกับ จขกท. นะคะ ทั้งพ่อและแม่สนับสนุนดีกับการเขียนนิยาย เพราะทั้งคู่ชอบอ่านนิยายกันทั้งบ้าน ที่บ้านเรานิยายเต็ม เราเรียนคณะมนุษย์ศาสตร์เกี่ยวกับด้านนี้อยู่แล้วเพราะตั้งใจจะเป็นนักเขียนจริงจัง ถึงญาติๆจะไม่ชอบและพูดจาดูถูกอาชีพแบบนี้ก็เถอะ = =
กระทั่งเราได้รับรางวัลจากการประกวดมาเท่านั้นแหละ ญาติกลับหน้ามือเป็นหลังมือ ชื่นชมเรากันใหญ่ ปัจจุบันเราก็เดินทางสายนักเขียนเต็มตัวแล้วค่ะ ถ้าจขกท.ชอบจริงก็ลุยเลยค่ะ สักวันต้องสำเร็จได้แน่นอน ^ ^


0