ครอบครัวไม่เข้าใจว่าเรียน มนุษย์/อักษร/ศิลปศาสตร์ จบไปทำงานอะไร
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
43 ความคิดเห็น
จากรุ่นพี่ที่เรียนมาทางนี้นะคะ...
หาข้อมูลไปบอกบุพการีอย่างเดียวมันไม่ได้ น้องต้องทำความเข้าใจด้วยว่า "ตัวน้อง" อยากเรียนไปทำไม เพื่ออะไร ต่อยอดได้อย่างไรในอนาคตค่ะ
เอาจริงๆ นะคะ มาสายนี้ครอบคลุมงานที่น้องกล่าวไว้หมดเลย
ทั้งรับราชการ ครูบาอาจารย์เลยค่ะ
อย่าทำแค่การตั้งคำถามและรอคนอื่นมาป้อนคำตอบอย่างเดียวค่ะ เราต้องค้นคว้าเองด้วย แนะนำให้ศึกษา bulletin ของคณะ ซึ่งแต่ละสถาบันมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยแล้วแต่วิธีการเรียนการสอนค่ะ
บางสถาบันยังมีเว็บไซด์และเพจของคณะให้เข้าไปอ่านได้ด้วย แนะนำให้ลองเข้าไปศึกษาดูนะคะ
สอบราชการก็ได้นะ ถ้าอยากรับราชการครูก็ต่อป.โท
"แค่ภาษาอังกฤษ ภาษาเดียวจะไปรอดหรอ"
ขอตอบว่า ก็แค่ภาษาอังกฤษภาษาเดียวนี่แหละ เอาให้ดีทำได้หรือยัง
เอกชนบริษัทใหญ่ที่ต้องการพนักงานใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
บางทีอาจจะมั่นคง ดูดีกว่าราชการอีกด้วยซ้ำไป
แต่ต้องยอมรับว่าเราเรียนเอกอิ้ง เราได้แค่เครื่องมือ ไม่ใช่วิชาชีพ อย่างพวก
วิศวะ ครุ บัญชี แพทย์ พยาบาล นิติ ดังนั้นเราต้องไปต่อยอดเอาเอง
แต่บอกเลยครับว่าไม่ตกงานแน่ ถ้าเราไม่เกี่ยงงาน
สู้ๆ นะน้องนะ ^^
จาก...รุ่นพี่มนุษย์อิ้ง
ชีวิตคล้ายกันเลยค่ะ ตอนนี้ขึ้นม.5 แล้วก็มีแต่คนถามเหมือนกัน นี่ก็ตอบจนไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงให้เข้าใจแล้วค่ะ ;-;
//อยากเข้าสายศิลป์เลยเพราะดันเลือกสายวิทย์ม.ปลาย รู้ตัวอีกทีก็จบม.4 แล้ว เกรดก็ 3.06 ..
เฮ้อ....... เด็กศิลป์นี่เจอพวกแบบนี้บ่อยก็เครียดนะคะ TT_TT
จับมือหน่อยยยย ปัญหาเดียวกันนน เราเรียนวิทย์แต่ถนัดภาษา เวรกรรม -.-
แงงงงง เหมือนกันเป๊ะเลยค่ะ ตอนนี้เค้าจะขึ้นม.6แล้ว เพิ่งมาชัดมากๆว่าชอบภาษาก็ตอนเข้าม.4 มาเรียนสายวิทย์ ทีแรกก็พอเรียนวิทย์ได้แต่สักปีสองปีก็เริ่มไม่อยากทน แต่ตอนนี้ต้องเรียนวิทย์ให้จบ ม.6ไปก่อน ㅠㅠ
เหมือนกันเลยTTคือตอนแรกที่เลือกสายวิทย์เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ตัวเองว่าอยากเรียนอะไรพอจบม.4ปุ๊ปรู้เลยสายนี้แม่งไม่ใช่
เหมือนกันเลย เกรดม.4 3.06เท่ากันเลย 555
ฮื้อ เหมือนกันเลยคาะ นี่คิดว่าจะย้ายห้องดีมั่ย
แต่แม่เราบังคับให้เราเรียนคณะนี้อ่ะ 555555
ตอนนี้เรียนทางสายมนุษย์ศาสตร์อยู่ จริงๆก็ไม่รู้จะทำงานอะไร เพราะสายงานเรากว้างมาก ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสายนี้ไม่ใช่สายวิชาชีพ แบบเรียนครูไปเป็นครู เรียนหมอไปเป็นหมอ เราจึงทำงานได้หลากหลายขึ้นอยู่กับทักษะที่เรามีกับสิ่งที่เราชอบประกอบกัน
พี่ๆจบไปก็มีอยู่แทบทุกวงการอาชีพ ตรงสายหน่อยก็ทำงานอยู่สถานีโทรทัศน์ สายการบิน สำนักพิมพ์หรือเรียนต่อเป็นนักวิจัย นักภาษาศาสตร์ อาจารย์มหาวิทยาลัย รุ่นพี่บางคนที่เก่งจริงๆก็ได้ทำงานร่วมกับหมอในโรงพยาบาลก็มี
แต่ถ้าครอบครัวน้องอยากให้ทำงานราชการก็สามารถสอบได้ ขึ้นอยู่กับว่าอยากเป็นข้าราชการแบบไหนก็ลองหาช่องทางสอบดู แต่เป็นครูไม่ได้นะ เพราะเราไม่มีวุฒิ
เรียนสิ่งที่ชอบและถนัดในระดับอุดมศึกษาจะดีที่สุด เพราะเราต้องอยู่กับสิ่งนี้ตลอดสี่ปี การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไม่ง่ายเลย ถ้าฝืนเรียนจะทำให้ยิ่งลำบากและเหนื่อยมากขึ้นไปอีก ถ้าต้องซิ่วเพราะเรียนแล้วไม่มีความสุขหรือโดนรีไทร์เพราะเรียนไม่ไหวก็ไม่คุ้มเลยนะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ไปทำงานเเบบเจ๊สมศรี555
พี่เรียนสายศิลป์ภาษาตามที่บ้านบอก ย้ายกลางภาคเลยตอนม.5เพราะครูไม่ให้ย้ายคะแนนเราดี พอม.5เทอม2 มาสายศิลปะเราชอบ พี่ก็สอบได้ที่1มาตลอด ทำให้ที่บ้านรู้ว่าเราเลือกถูก พี่ได้เป็นตัวแทนติดมหาลัยเอกศิลปกรรมเพียงคนเดียวในสายโควต้าพิเศษ ที่บ้านยังบังคับเรียนครู พี่ก็เรียน เชื่อมั้ยถ้าพี่ดื้อ ตอนนี้พี่ไปไกลกว่านี้เยอะ เพราะพี่จบมาทำงานออกแบบคอม หลายโรงเรียนอยากให้สอนแต่ใจเรามันบ่ใช่ ถ้าพี่เลือกเป็นครูเงินเดือนพี่ไม่พอกินหรอก พี่บอกไว้เลยคิดว่าตัวเองชอบด้านไหน เรียนด้านไหน ทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุดแต่อย่าลืมภาษาด้วยเพราะโอกาสเราก็มากขึ้น
ครอบครัวเค้ารับราชการทั้งพ่อทั้งแม่เลย ทำของเอกชนดีกว่าค่ะ ราชการเงินเดือนค่อนข้างต่ำกว่าเอกชน เบิกค่ารักษาพยาบาลหรือเรียนหนังสือได้แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ค่ะ ทำงานเอกชน+ทำงานเสริมน่าจะดีกว่าค่ะ เรียนที่ตัวเองชอบจะดีกว่าค่ะ ภาษาเก่งก็ถือว่าได้เปรียบมากแล้วค่ะ สู้ๆนะคะ
คณะนี้ครอบคลุมไปหลายคณะ ถ้าประยุกต์อะไรนิดหน่อย
ระหว่างนั้นมีเวลาให้คิดเยอะแยะเลยค่ะว่าอยากทำงานอะไร
แต่จำไว้อย่างเดียวว่า ภาษาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ถ้า! รู้จักใช้นะคะ รู้..แต่ไม่ใช้ ไม่ฝึก..ก็ไม่พัฒนา
หลายคนได้ดีเพราะภาษาค่ะ สู้ๆค่ะ
กรี้ดดดดดดดดดดด ตกใจจจจจ นึกว่าตัวเองละเมอมาตั้งกระทู้ จขกท. เราคนนึงนะที่เป็นเหมือน จขกท. เป้ะเลยยย ก่อนหน้านี้เราเครียดดดดมากกก แต่เราเลือกได้แล้ว ว่าเราจะเรียน มนุษย์อิ้งนี่แหละ ถึงมันไม่เป็นวิชาชีพเหมือนคณะอื่น แถมคณะอื่นก็เรียนภาษาอังกฤษได้เหมือนกัน แต่อย่าลืมว่า คณะมนุษย์ก็ไปต่อยอด เรียน ป.โท คณะอื่นได้เหมือนกัน แถมได้เปรียบภาษาแล้วด้วย แถม มีวิชาโทให้เลือกอีก สมัยนี้คนพูดภาษาอังกฤษได้เยอะ แต่มีน้อยคนที่พูดถูกต้อง ส่วนใหญ่ก็ได้แค่พื้นฐานแหละค่ะ พี่ที่เรารู้จักจบวิศวะมา ต้องไปช่วยบริษัทของครอบครัวที่อเมริกา เลยต้องไปเรียนภาษาอังกฤษที่นั่น 3ปี ค่าใช้จ่ายเกือบล้านค่ะ มนุษย์เกิดมาเพื่อเรียนรู้ อันไหนรักและถนัด เรียนไปเลยค่ะ งานก็คือผลพลอยได้ เดี่ยวมันมาเองแหละน่า อีกอย่างคนทำงานตรงสายสมัยนี้หายากน้าถ้าไม่ใช่หมอ เภสัชทันตะ พยาบาล ครูบลาๆๆไรงี้อ่า ไม่ต้องคิดมาก เรื่องงานเราก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน แต่รู้ว่าอยากเรียนภาษาก่อน ถ้าเก่งแล้วไม่ต้องเรียนถ้ายังก็เรียนเลย55 กว่าเราจะตัดสินใจเลือกได้เราก็เครียดดดด เสียน้ำตามาเยอะ เราเพิ่งตัดสินใจได้สองอาทิตย์เอง แถม เป็นเด็ก ม.6จะแอดระด้วยย 555555 สู้ๆนะ จขกท. เป็นกำลังใจให้
เหมือนเราเลยค่ะ เราก็กำลังรอแอดมิชชั่นเหมือนกัน ใจเราชอบคณะมนุษย์/ศิลปศาสตร์ มากๆ แล้วก็ไม่มีคณะไหนมาทำให้เปลี่ยนใจได้ แต่ของเราต่างกับของเธอตรงที่พ่อเรายอม พ่อจะพูดเสมอว่าอยากเรียนอะไรก็เรียน แต่! แต่พ่อเรากลับชอบพูดให้เราไปเรียนรัฐศาสตร์ เพราะพ่อเราเรียนด้านนั้นมา เลยอยากให้เราเรียน ทั้งๆที่เค้าก็บอกนะว่าอยากเรียนอะไรก็เรียน แต่ดันชอบพูดให้เราเรียนรัฐศาสตร์ ฮ่าาา เค้าคงคิดว่าราชการมันสบายตอนบั้นปลายชีวิต ยังไงก็เถอะ เราคิดว่าเรียนที่เรารักดีที่สุดนะ สู้ๆค่ะ อยากรู้จักจังเลย อยากแอดที่ไหนบ้างมาคุยกันได้นะ แอดไลน์เราได้นะ ID : nialls.nando
อื้ออหืออ เจอdirectionerมาตอบเลย5555
ถ้าเรียนครูอิ้งเหรอ แบบที่น้องว่าน้องไม่ได้อยากเป็นครูนิ
เรียนไป อาจจะไม่มีแรงสู้ต่อก็ได้
พี่เองก้ชอบภาษา
ไม่อยากเป็นครู
แต่ก็ได้มาเรียนครูภาษาจีน
ตอนนี้เริ่มหันเหแหละ เริ่มอยากเป็นครู ถึงจะไม่ไปเป็นครู จบออกมา เป็นล่าม ไกด์ ก็ได้ นิจ๊ะ ไม่เสียหาย
แต่ถ้าให้พูดจริงๆ ถ้ามนุษย์อิ้ง จบออกมา น้องอาจจะวางแผนระยะยาวด้วยว่า จะสามารถทำงานอะไร ต่อยอดที่ไหน
ทำยังไงถึงจะไม่โดนแย่งงาน
ปัจจุบัน ทุกอาชีพล้วนมีการแข่งขันสูง
##วางแผนชีวิตดีๆนะ## เปิดใจกว้างๆ
เลขานุการ(เลขามีหลายระดับCEO Plant manager Project manager Department manager ส่วน ฝ่าย ฯลฯ) ,ผู้ช่วยเลขา ,customer service, จัดซื้อต่างประเทศ, ประชาสัมพันธ์ ล่าม ไกด์ นักแปล ติดต่อต่างประเทศ, ฝ่ายลูกค้าต่างประเทศ, ฝ่ายบุคคล, clerk, audit, document control, BOI, General affaires หรือจะต่อโทไปสายนักวิชาการก็ได้ค่ะ งานพิเศษ ก็สอนภาษาอังกฤษ นึกได้แค่นี้ค่ะ
พ่อแม่ก็ถามเหมือนกันว่าจบไปจะทำงานอะไร มั่นคงหรือเปล่า
แต่ผมมั่นใจในตัวเองว่าจบมาต้องมีงานทำแน่นอน งานเกี่ยวกับภาษามันต้องมีดิ อยู่ที่ว่าวาสนาเราพอจะได้ทำงานดี ๆ หรือตามใจหวังหรือเปล่า
จขกท น่าจะเรียนภาษาที่สาม-สี่ เพิ่มเติมนะครับ ถ้าชอบด้านภาษา
อย่างเช่นพวก สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลี ฯลฯ เพราะมีคนเรียนภาษาพวกนี้ไม่ค่อยเยอะเท่า จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ เอาไว้เป็นภาษาหรือความสามารถพิเศษติดตัวไว้ ยังไงก็ได้เปรียบกว่าครับ ดีกว่าเราเก่งภาษาอังกฤษล้วน ๆ แม่น ๆ อยู่อย่างเดียว
เป็นเหมือนกันเลย จขกท. เรารู้สึกว่าพ่อแม่เราไม่อยากให้มาด้านนี่ด้วย ทั้งๆเวลาถามว่าจะเป็นอะไรดี พ่อก็บอกว่า เป็นอะไรก็ได้ที่ชอบแล้วก็เลี้ยงดูตัวเองได้ คือเราอยากเรียนคณะเดียวกับ จขกท. แต่เราไม่กล้าบอกเพราะเด่วแม่ก็พูดโน้ม ไปนู้นไปนี่ เหมือนไม่เห็นด้วย เถียงไม่ตกเลย เราก็เลยบอกไปว่าเราอยากเรียน รัฐศาสตร์IR แม่ก็ยังเถียงไม่ตก คือสรุป เราเป็นอะไรดีเนี่ยยยย เรียนอะไรดีเนี่ยยยยย แต่ตอนนี้ที่วาดฝันไว้นะ วาดไว้นานมากไม่รู้ว่ามีจริงรึเปล่า จะเป็นได้รึเปล่า แต่อยากไปทำงานที่อเมริกาเลย อาจจะไปอยู่นู้นเลย อาจจะเป็นฝ่ายติดต่อกับไทยหรือไรก็แล้วแต่ อยากได้อย่างเงี้ย 555555 // งงป่าว อิอิ
ผมเองก็อยากเรียนนะครับ พ่อแม่ก็สนับสนุนเลยอยากไปให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องงาน มันมีแน่นอนครับ สามารถไปทำงานได้ที่ต่างประเทศได้ ฝีกงานแค่ไม่กี่เดือนก็ได้ทำตริงแล้วต่างกับคนที่ไม่ได้เรียนภาษามาก่อนก็จต้องเสียเวลาเรียนภาษาเพิ่ม แลผมเคยได้ยินว่าคนเป็นไกด์เป็นล่ามในภาษาที่มีคนเรียนน้อยอย่าง โปรตุเกส รัสเซีย เวียดนาม พม่าอะไรอย่างนี้ ได้เงินเยอะนะครับ บางครั้งได้เป็นหมื่นเลยก็มี ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าไม่มั่นคงครับ ไม่ต้องกลัวว่าตกงาน เพราะยังไงถ้าเราตกก็ยังไปสมัครงานได้ที่ประเทศของภาษาที่เราเรียน เช่นเราเรียนภาษาญี่ปุ่น ก็ไปสมัครงานญี่ปุ่นได้นะครับ สุดท้ายผมขอให้กำลังใจเจ้าของกระทู้และสู้ๆ ต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจอีกแรงด้วยนะครับ
อยากให้น้องจขกทคิดดูดีๆนะคะ อันนี้แนะนำจริงๆ คุยกับที่บ้านให้เข้าใจตรงกันแบบสบายใจทั้งสองฝ่าย ถามตัวเองดีๆด้วย เพราะถ้าเราไปเรียนละเราไม่โอเค บวกกับยิ่งมาคิดเรื่องที่บ้านอยากให้เรียนอย่างอื่นด้วยมันจะทำให้น้องหวั่นไหวได้มากๆเลยนะจริงๆ แบบประมาณว่า เราไปเรียนแล้วมันไปได้ไม่ไกลเท่าที่หวังไว้ในตอนแรกอ่ะจ้ะ 555 จะไปเรียนสายอักษร/มนุยษ์ สายนี้เรื่องสถาบันสำคัญนะ พี่ว่าหลายคนก็อยากเข้าสถาบันดังๆอยู่แล้วแหละเน้อ พี่เดาว่ารวมถึงน้องด้วย :) แรกเราก็มีความฝัน อยากเรียนสายภาษานี้ให้ได้ดีๆ จะไปต่างประเทศ อยากเป็นทูตบ้าง ทำงานกระทรวงต่างประเทศบ้าง จะได้ประสบการณ์ดีๆ ใันสวยงาม บลาๆๆ แต่!น้องรู้มั้ยว่า พอไปเรียนจริงๆมันไม่ได้สวยงามขนาดนั้นนะ ยิ่งสถาบันดังๆก็มีคนเก่งๆเยอะมากๆเลย เด็กแลกเปลี่ยนก็เยอะ ที่เค้ามีประสบการณ์มาก่อนมากๆกว่าเรา บางทีเราคิดว่าเราโอเคในสายภาษาแล้วนะ(ก็ต้องคิดว่าตัวเราเรียนได้ดีและชอบอยู่แล้วเน้อถึงสนใจเรียน) แต่พอไปเจอเพื่อนๆรัวภาษาใส่นี่บางทีอาจจะแทบเป็นลมไปเลยก็ได้5555 คือจากที่เรารู้สึกตอนมัธยมชั้นก็โอเคนะ พอมามหาลัยนี่รู้เลยเหนือฟ้ายังมีฟ้า55555 พี่ไม่รู้ว่าน้องจขกทเรียนสายวิทย์รึสายศิลป์มา แต่พี่เองจบสายวิทย์นะ แต่แอดไปเรียนสายอักษรนี่ล่ะค่ะ ตอนนั้นก็คิดว่าตัวเองชอบแล้ว แน่ใจแล้ว ที่บ้านก็อยากให้เรียนคณะที่อาชีพมั่นคงแบบน้องนี่ล่ะค่ะ แต่พี่ก็คิดว่า พี่จะทำตามความฝัน จะเข้าอักษรให้ได้ เอาว่ะ!!! ประมานนี้5555 แต่พอไปเจอจริงๆมันทำให้รู้ว่า ตัวพี่เองชอบภาษานะ แต่ไม่ใช่ชอบพวกวิชาเกี่ยวกับความคิด การใช้เหตุผล ประวัติศาสตร์อันมากมาย555 วิชาละครไรพวกนี้ ละพอเราเรียนไปโดยไม่ได้ทำได้ดีมากๆอยากที่เราคาดไว้ มันก็เครียด มันก็กดดันอ่ะ แบบมันกลัว มันเคว้งคว้าง มันเหมือน เรียนก็ไม่รู้จะดีได้ขนาดนั่นรึป่าว ละเรียนจบแล้วเราจะต้องไปแข่งสมัครงานกับคนอื่นๆอีกเหรอนี่ พี่เองก็ไม่สวย เตี้ยเหมือนน้องจขกท.เลย 55555 พี่ก็แบบเครียดอ่ะ ที่บ้านก็เป็นห่วง แล้วพอใจมันไม่ไปมันก็กังวลอ่ะ ตอนนั้นร้องไห้เยอะมากๆเลย พี่ยังจำตอนที่แอดมิชชั่นติดอักษรได้นะ คือมันดีใจมาก ดีใจที่ตัวเองกล้าเลือก ละก็ติดจริงๆ แต่พอมาถึงตอนที่ร้องไห้เยอะๆอ่ะ มันก็ทำให้คิดนะว่า เราชอบการทำงานสายนี้จิงเหรอวะ หรือเราแค่รู้สึกว่านี่เป็นอีกทางที่ดี แบบชื่อเสียงคณะก็ดัง ??? มันเหมือนมืดมนนะ อยากเป็นอาจารย์ก็เหมือนจะยาก เพราะเพื่อนๆเก่งๆกว่าเรามีอีกเยอะ เกรดนี่จะเข้าเอกที่อยากเข้าได้รึป่าว? แล้วจะทำงานอะไรล่ะเนี่ย เป็นครูก็ไม่ได้ด้วย เพราะเด่วนี้ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเน้อ คนจบพวกศึกษาศาตร์/ครุศาสตร์ถึงจะได้ ถ้าอยากเป็นข้าราชการอ่ะ แล้วจะทำไร?เป็นเลขา?เป็นแอร์?(ก็ไม่ได้อีก บุคลิกภาพไม่อำนวย55555)?ทำงานในกรุงเทพเหรอ(พี่เป็นเด็กต่างจังหวัดนะจ้ะ) แล้วพอทำงานไปซักพักจะเป็นไง ต้องมีค่าที่พัก จะย้ายกลับบ้านได้มั้ย กลับบ้านจะมีสายงานที่รุ่งๆมั้ย? พอพี่คุยกับแม่ มันเหมือนพี่ได้กลับมาถามตัวเองว่า ทำไมมันถึงมีคำถามมากมาย มีความลังเล กังวลใจมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าท้อเพราะเรื่องเรียนมันยากอะไรงี้นะ แต่มันเหมือนพอถามตัวเองจริงๆแล้วพี่ไม่ได้ชอบการทำงานสายนี้อ้ะค่ะ ไม่ได้ชอบการที่มันกว้างๆมันเคว้งคว้าง555มันเหมือนเราต้องมีอะไรอีกสักอย่างแล้วเอามาบวกกับความรู้ที่ได้จากคณะอักษรแล้วถึงจะมาเป็นอาชีพของเรา อาจจะเป็นเพราะครอบครัวของพี่เองคุณพ่อคุณแม่ ญาติๆก็ทำงานข้าราชการกันส่วนใหญ่ เลยไม่คุ้นกับการทำงานสายภาษาอ่ะค่ะ เหมือนไม่รู้ช่องทางด้วย ตอนนี้พี่ก็เลยตัดสินใจว่าจะแอดมิชชั่นใหม่อ่ะค่ะ เป็นเด็กแอด58ด้วยกัน5555 พี่รู้นะว่ามันมีตัวอย่างของคนที่เรียนสายนี้แล้วประสบความสำเร็จเลยมาเป็นแรงบันดาลใจให้เรา แล้วก็บวกกับสิ่งที่เราคิดว่าเราเรียนได้ดี เราชอบมากกว่าวิชาอื่น น้องจขกท.เลยสนใจอยากเรียนสายอักษร/มนุษย์ แต่พี่อยากให้น้องคิดดีๆนะคะ คิดถึงตอนทำงานด้วยนที่สำคัญที่สุดเลย <3 เลือกดีๆน้า จะได้ไม่พลาดแบบพี่ ด้วยความหวังดีค่ะ :D สู้ๆนะนัองจขกท
ให้พ่อแม่ไปเสิร์ชและหาอ่านดูเองเถอะค่ะ จะเข้าใจอะไรมากกว่าเราอธิบาย
ปล.เราอ่านแค่ชื่อกระทู้ ไม่ได้อ่านข้อมูลที่พิมพ์มา
ชีวิตมันก็เป็นเเบบนี้เเหละ 55
ตอนเราเลือกคณะ เเม่เราชิงพูดก่อนเลยว่าอย่าไปเรียนนะ มนุษย์หนะ มันมีเเต่ขุดดิน เรานี้งงเลย ขุดดินอะไรว่ะ
ซึ่งจริงๆ คณะที่เราอยากเรียนจริงๆ ก็พวกมนุษย์ อักษรเเหละ เราอยากเรียนด้านภาษามากกว่า เเต่ว่าตอนนี้ตัดสินใจมาเรียน พวกสายการเงิน เพราะว่าอย่างน้อยมันก็มาครึ่งทางกับเเม่ เเล้วเราเองก็ชอบด้านนี้ (มากว่าสาย หมอ สายวิทย์อ่ะ)
เเต่ขนาดเราเลือกเรียนสายตรงนี้เรายังโดนญาติๆห้ามเลยว่าอย่าเรียน เรียนไปก็ไม่มีงานทำหรอก ตกงานซะเปล่าๆ เพราะสายงานมันกว้าง เเต่จะให้เรียนอะไรที่มันไม่อยากเรียนมันก็ไม่ใช่ป่ะ เห้อ เราเองเข้าใจ จขกท.นะเราเบื่อพวกค่านิยมเก่าๆ ของผใหญ่มากเลย
เป็นกำลังใจให้น้า สู้ๆ เรียนที่รักเต๊อะ
เราอยากเป็นเลขานุการตรี โท เอก เลขาทั่วไป
ติดต่อต่างประเทศ
เมื่อก่อนเราเองก้อชอบภาษาเลยคิดอยากเป็นฑูตแต่มันไม่ใช่ เราไม่ได้อยากขนาดนั้น แค่เลขาสำหรับเราก้อโอเคมากแล้ว
หาอาชีพและเป้าหมายให้เจอแล้วเลือกคณะ
***ตอบตัวเองให้ชัดเจน มีคำตอบให้กับพ่อีแม่***
จับมือๆ เราเรียนศิลป์จีน อยากเข้าอักษร/มนุษย์ เหมือนกัน
ที่บ้านเราอยากให้เรียนสายวิทย์ เพราะพ่อเราอยากให้เป็นพยาบาล ความจริงเราก็ชอบพยาบาลนะ แต่ไม่ชอบสายวิทย์ จบป่ะ =__= ! ตอน ม.ต้น เราเคยฝันอยากเรียนเภสัชฯหรือไม่ก็ทันตะฯ แต่ก็นะ...วิทย์ คณิต ไม่เคยเกิน 2.5 ตอนจบ ม.3 เลยรู้ตัวว่าคงไปไม่รอดแน่ๆสายวิทย์ เลยเลือกศิลป์ภาษาจีน
คือเรามีแรงจูงใจในภาษาด้วยแหละ เพราะเราชอบศิลปินอ่ะ >< เราชอบ exo ซึ่งในวงมีคนจีนและมีเพลงเวอร์ชั่นจีน แต่เราสนใจภาษาจีนมากกว่าเกาหลี
ตอนนี้การเรียนแฮปปี้ เรียนแล้วสนุกด้วยเพราะเราชอบ คิดไม่ผิดจริมๆ
ไม่ต้องคิดมากน้า เรียนภาษามันไม่มีอาชีพตายตัวหรอก แต่เชื่อดิไม่อดตายชัวร์
แต่ต้องขยันๆเอาให้คล่องจริงๆเลยนะ เรียนภาษาไม่จำเป็นต้องเป็นครูเสมอไปนะ ไปเป็นนักแปล เป็นล่าม หรือไปทำงานบริษัทต่างชาติก็ได้ถ้าอิ้งเก่งๆ สู้ๆนะ!!
ปล. จขกท เหมือนเราเลยไม่อยากเป็นครู แล้วก็ไม่อยากเป็นแอร์ฯด้วย เราเตี้ย =__=
ก่อนอื่น แอดแม่x เลยค่ะที่บ้านไม่รู้หรอก รู้อีกทีก็ติดแล้ว สวยๆ55555555555
คือผู้ใหญ่เจนพ่อแม่พวกเรา ช่วงอายุ45-60จะค่อนข้างอยู่ในยุคอยากให้ลูกเป็นข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ มั่นคงอะไรพวกนี้ (ถ้าเป็นาสมัยก่อนจะเป็นทหาร ครู) เพราะเขาผ่านยุคเศรษฐกิจตกต่ำมาอ่ะเนาะ ต้องเข้าใจด้วยว่าพวกท่านเป็นห่วง
เราสอบตรงติดศิลปศาสตร์/มนุษยศาสตร์ มาค่ะ แล้วก็โดนแม่แอนตี้เหมือนกัน ว่าจบไปจะทำอะไรได้ เราต้องแจกแจงให้ท่านเชื่อมั่นให้มหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้าก่อน ว่าเขาสอนอะไร
อักษร มนุษย์ ศิลปศาสตร์ แตกต่างกันเหมือนกันนะคะทั้งการเรียน การนำไปใช้
เช่น ถ้าเป็นอักษรจุฬา จะเน้นวิเคราะห์ภาษา เจาะลึกถึงราก จะได้อ่านหนังสือเยอะมาก และภาษาแน่นมาก อังกฤษนี่ยากระดับสุดๆ แต่สามารถใช้ได้จริงหมด เพราะทั้งแปลเอกสาร นักแปลนวนิยาย บทความ เป็นล่าม เป็นเลขา ฯลฯ ใช้ภาษาหมดเลย
ส่วนมากสาวอักษรจุฬาจะอยู่ในวงการนักวิชาการ การศึกษาระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยอะไรประมาณนี้ พี่เราที่รู้จักนางเป็นนักแปล
อย่างเราเรียนศิลปศาสตร์มธ. จะแตกต่างตรงที่ศิลปศาสตร์คือศิลปะของการใช้ภาษา จะเน้นการสื่อสาร การนำไปใช้ เราอยากเป็นนักเขียนจึงเลือกศิลปศาสตร์ จบไปก็เป็นพวกนักเขียนบทความ ทำงานวงการหนังสือ นักแปล ล่าม ครู
มนุษยศาสตร์จะมีศาสตร์ของสังคมผนวกเข้าด้วย เพราะงั้นก็จะไปทางศิลปศาสตร์ แต่อาจเรียนกว้างกว่า และรายวิชาเกี่ยวกับภาษาอาจไม่แยกย่อยถี่เท่าอักษร/ศิลปศาสตร์ เหมาะสำหรับคนชอบภาษาและก็ชอบอยู่กับผู้คนด้วยเนอะ
จบมาก็เป็นหลายอย่างมากเลย
ไกด์เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ได้สอบใบอนุญาตของไกด์ก็เป็นไม่ได้น้า
อาจบอกท่านไปก่อนว่า คณะพวกนี้จบไปสามารถเป็นครูได้หมดเลยตามเอกที่เลือกที่ถนัด แต่จะความรู้แน่นกว่าเลือกเรียนครุฯ
เพราะครุฯมีเรียนจิตวิทยาเด็ก กฎหมายเด็ก วิธีการสอน แถมมีฝึกสอน1ปี อะไรพวกนี้สำหรับจบไปเป็นครูเลย
ซึ่งถ้าจบมาแล้วอยากเป็นครูภาษา อาจต้องสอบใบประกอบวิชาชีพต่อ เราอาจมีความสามารถและประสบการณ์ด้านการสอนน้อยกว่าสาวครุศาสตร์ แต่อาจมีความรู้เจาะลึกกว่านิดหน่อยค่า
ค่อยๆคุยกับพ่อแม่นะว่าเรียนภาษาอ่ะ เจ๋งจะตาย มีหลายทางเลือก ^^ สู้ๆค่า
เห็นพี่ๆหลายคนมาแสดงความคิดเห็น เลยอยากแสดงบ้างค่ะ
ตอนนี้หนูกำลังจะขึ้น ม.3 (ซึ่งเรียนอยู่ในโรงเรียนเอกชน ค่าเทอมค่อนข้างเอาเรื่องเลย) แม่ก็มาคุยๆค่ะว่าอยากให้ย้ายไปเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด หนูก็ลองคิดๆดูแต่คงไม่ขัดอะไร แต่ว่า.....
แม่หนูทราบว่าหนูอยากเรียนต่อในคณะอักษรศาสตร์ (และในขณะนี้ก็เรียนสายอังกฤษ-จีนอยู่) แม่หนูก็ถามว่า เรียนจบไปแล้วทำอะไรได้ จะมั่นคงไหม ฯลฯ แล้วแม่ก็บอกว่าทำไมไม่เรียนพวกหมอ พยาบาล เภสัช จะได้มั่นคง
ซึ่งตัวหนูเอง ก็เคยพูดกับแม่ไปแล้วว่า ถ้าหนูไม่ได้เรียนที่ชอบ หนูก็ไม่มีความสุข แต่เข้าใจว่าแม่ห่วงอนาคต ก็เลยคิดว่าต้องยอมไป
และคาดว่าจะย้ายสายตอน ม.4 อาจจะไปเรียนวิทย์-คณิต และคงมุ่งเข้าเภสัชให้ได้ (เพราะแอบกลัวเลือดและของมีคมT^T)
อีกหนึ่งเหตุผลที่หนูแอบคิดว่า แม่คาดหวังว่าจะเข้าได้ และเรียนไหว คงเป็นเกรดเฉลี่ยมั้งคะ เพราะล่าสุดยัง 4.00 อยู่ (ครูประจำชั้นแอบกระซิบว่าได้ที่หนึ่งของทีมชั้น หนูยังแอบงงเลยว่าจริงไหมเนี่ย) ก็คิดว่าคงเรียนไหวคะจะไม่ค่อยชอบวิทย์ก็ตาม
ก็ต้องทนต่อไปน่ะค่ะ นี่แค่ ม.3 ยังโดนขนาดนี้เลย
สิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ใช่ หลายครั้งมันไม่คู่กันจริงๆนะคะ
เรางงนะ ที่พี่สาวจขกท. บอกว่าแค่ภาษายังไม่พอ แล้วแค่ไหนถึงจะพอ?
คือเอาจริงๆ ทุกอาชีพมันมีทั้งความมั่นคงและไม่มั่นคง แตกต่างกันไปค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรียนทางด้านภาษาแล้วจะไม่มั่นคง หรือไม่พอนี่ค่ะ ถ้าพิจารณากันจริงๆ ก็จะเห็นว่าตอนนี้ภาษากำลังบูมมาก เนื่องจากใกล้จะเปิด AEC แล้ว อีกอย่าง การทำงานทางด้านภาษา เป็นสิ่งที่ไม่ตายแน่นอนค่ะ เพราะมนุษย์จำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกัน
ทีนี้มาพูดถึงเรื่องที่พ่อจขกท. อยากให้รับงานราชการ ก็อธิบายให้ท่านเข้าใจไปสิคะว่าจบทางด้านนี้ก็ทำงานรับราชการได้ เยอะแยะไป ทีเห็นกันทั่วๆ ไป ก็คือครูสอนภาษา โดยเฉพาะครูสอนภาษาอังกฤษเนี่ย กำลังเป็นที่ต้องการเลยนะคะ นอกจากนี้ก็ยังมีงานอื่นๆ เช่นพวกงานในสถานฑูตค่ะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้จขกท. นะคะ ขอให้ตกลงกับครอบครัวได้อย่างไม่มีปัญหานะ
เราก้อเรียนศิลป์ภาษามาน่ะ...แรกๆเราก้ออยากเป็นครูคือมันเป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆครูที่สอนจะถามเสมอว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไรเราก้อบอก...อยากเป็นครูมาตลอดตอนจะขึ้นม.4เราจะต่อไทยสังคมน่ะ...พอคิดอีกทีเราจะก้าวสู้อาเซียนแล้วต้องมีงานทำด้านภาษาเยอะแน่ๆเราเลยเลือกเรียนภาษา.ตามจิงเราเคยเรียนพื้นฐานมามั่งแล้วตอนม.ต้นคือแบบเราชอบอ้าภาษาจีนเป็นอะไรที่เราอยากเรียนรุ้มากทั้งวัฒนธรรม ทุกอย่างเราชอบมากก...ตอนนี้ขึีนม.6เราก้อคิดกังวลเหมือนกันน่ะว่าจะมีงานให้ทำไหมแต่มาคิดดูอีกที.มีภาษาไว้ไม่น่าจะอดตายเพราะอนาคตเราไม่รุ้ว่าจะเป็นไง...ทางที่ดีอ่ะเราว่าเลือกในสิ่งที่เราชอบมันจะโอกว่าน่ะ...เชื่อสิถ้าไม่เลือกงานมันก้อมีงานทำเสมอน่ะ.สู้ๆ เราก้อมุ่งมั่นและตั้งใจไว้แล้วว่าจะเข้าคณะมนุษย์
Professional Interpreter
อยู่ที่มุมมองพ่อแม่จริงๆอะ เราเรียนศิลป์ภาษา แต่อยากเข้านิเทศ แต่พ่อแม่อยากให้เข้าอักษร เห้อออ
เรียนไปเถอะครับ ซักวันนึงเค้าจะเข้าใจเอง
ผมก็เคยถกเถียงกับครอบครัวเรื่องนี้มาก่อน เถียงกันยาวตั้ง 5 ปีแน่ะ
แล้ววันนึงผมก็พิสูจน์ให้เค้าเห็นโดยการเข้ารับการทดสอบวัดระดับภาษาและผ่านระดับกลางมาได้โดยการซื้ออหนังสือมาเรียนเอง ไม่ได้ไปเรียนพิเศษที่ไหนเลย(ผมเรียนสายวิทย์มาครับ)
ถ้าเค้าเห็นว่าเราตั้งใจจริงแล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่เค้าจะไม่ยอมรับการตัดสินใจของเราหรอกครับ
หวังว่าคงมีวันที่เราได้เดินผ่านกันที่คณะนะครับ
อักษรศาสตร์ยินดีต้อนรับคนแบบคุณเสมอครับ
เราก็เครียดเหมือนกันค่ะ. พอดีว่าเราอยากเรียนนิเทศแต่พ่ออยากจะให้เรียนพวก ครู รับราชการอะไรแบบนี้อ่ะค่ะด้วยสมองเราก็ไม่ได้ดีอีกอย่างเค้าบอกกันว่า คณะนิเทศจะมีโอกาศตกงานมากสุด งั้นขอพื้นที่ตรงนี้ถามด้วยเลยแล้วกันน้ะค้ะ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะเผื่อจะได้คุยกับทางบ้านได้ดี
ครั้งแรกลุงก็ตั้งคำถามแบบนี้กับลูกสาวเหมือนกัน เขาเรียนศิลป์-ฝรั่งเศส แต่ในเมื่อเขาบอกว่าขอให้เขาเรียนในสิ่งที่เขาชอบ ลุงก็ตามใจนะ ก็ลุงไม่ได้ไปเรียนกับเขาด้วยนิ สอบตรง 58 เขาก้ติดทั้งอักษรศิลปากร และ มนุษย์ ธรรมศาสตร์ แต่สอบสัมภาษณ์วันเดียวกัน ก็เลือกจะไปธรรมศาสตร์ สรุป ตกสัมภาษณ์ 100 รับ 20 ในช่วงรอแอด เขาเลยหักมุม จะเลือกเรียน BBA.Eng. ที่รามอินเตอร์ ด้วยเหตุผลใหม่ว่า ฝรั่งเศสพูดได้แล้ว เลยอยากจะเก่ง อิงค์อีกภาษา สำหรับลุงนะ อยากเรียนอะไรก็เรียนเถอะถ้าเราชอบและมีความสุขกับการเรียน วันข้างหน้าโอกาสจะมาหาเราเอง ขอให้โชคดีนะหนู
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
พี่เคยเป็นเหมือนกันค่ะตอนเลือกคณะ สุดท้ายก็เลือกตามความชอบของตัวเอง เลยเลือกเรียนภาษา แต่กลัวเหมือนกันค่ะว่าอังกฤษอย่างเดียวจะหางานยากรึเปล่า เลยเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วย
ตอนนี้จบมาเป็นล่ามญี่ปุ่นค่ะ เงินเดือนดีมากค่ะ ย้ายสายงานไม่ยากด้วย หลายที่รับเด็กจบใหม่ที่ได้ภาษาอย่างเดียวแล้วพร้อมสอนงานสายอื่นค่ะ มีเป็นเด็กอักษรจบมา ได้แต่ภาษา ตอนนี้ไต่ขึ้นไปทำงานความคิดเห็นส่วนตัวนะคะหลากหลายสาขา หลากหลายวงการมากเลย แล้วแต่ความชอบที่ค้นพบทีหลังค่ะ
มีเพื่อนที่ทำงานคนนึงเรียนขับร้องมาตอนป.ตรีค่ะ ตอนนี้เป็นผู้จัดการออฟฟิสธุรกิจประกันภัย...ไม่ได้เกี่ยวกันเลย 555 ป.ตรีไม่ใช่บทสุดท้ายของชีวิตค่ะ เลือกที่ชอบจะมีความสุขที่สุดค่ะ (ครอบครัวพี่คิดแบบนี้ จากที่เคยบังคับพี่สาวเรียนสายวิทย์ทั้งๆที่พี่สาวชอบภาษา แล้วชีวิตทำงานล้มเหลว เลยปล่อยพี่เรียนตามใจชอบ จบมาก็ได้งานดีชีวิตสบาย)
พี่เรียนอักษรค่ะ ปีสี่แล้ว กำลังจะจบ ทำงานเป็นนักแปลนิยาย หาเงินได้ตั้งแต่อยู่ปีสอง มีเวลาสอนพิเศษด้วยค่ะ ชั่วโมงละสามร้อยอย่างต่ำ นอกจากค่าแปลนิยาย แล้วพี่มีรายรับอาทิตย์ละอย่างน้อย 1,200 ค่ะ. อาจารย์และเพื่อนๆพี่ๆจะมีงานล่าม. งานแปล งานสอนพิเศษ มาโพสในกรุ๊ปเรื่อยๆค่ะเพื่อนคนอื่นๆก็ทำงานสอนพิเศษ แทบจะเป็นอาชีพหลัก เป็นที่รู้จักพอสมควรตามสถาบันสอนพิเศษ
บ้านพี่เป็นหมอและเภสัชกันทั้งบ้าน ตอบสอบเข้ามหาวิยาลัยก็เจอปัญหาแบบน้อง พูดไปก็ไม่มีใครเข้าใจค่ะ น้องต้องทำให้เห็น บอกเลยนะคะ ถ้านิสิตนักศึกษาจบมาแล้วตกงานกันหมดคณะคงปิดตัวเองไปนานแล้วค่ะ คนเราไม่เลือกงานไม่อดตายนะคะ แรกๆค่าแรงน้อยก็ทำเถอะค่ะ เก็บเป็นประสบการณ์ พี่เชื่อว่าถ้าเราทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เราจะทำมันออกมาได้ดีเสมอค่ะ
เรียนภาษาไม่ดีตรงไหน เห็นในประกาศรับสมัครงานอันไหนอันนั้นอยากได้คนที่มีความสามรถทางภาษา เรานะโคตรนับถือคนที่เก่งภาษาทั้งภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ มันยากนะเรียนได้นะเก่งแล้ว เพื่อนเราก็จบมนุษย์ศาสตร์ทำงานด้านโรงแรม โหยเงินเดือนเยอะแยะ
งานไม่มีอนาคต ลูก...
งานไม่มีเกียรติเท่าอาชีพอื่น ลูก...
งานค่าแรงต่ำ ลูก...
ลูกชอบอย่างนั้นเหรอ *ส่งสายตาเวทนามาให้*..
จบมาก็เป็นแค่ครู...
ไปเรียนคณะอื่นดีกว่านะ...
ไม่ได้ดูถูกนะ ลูก ที่พูดไปดูถูกตรงไหน ..
555555555555555555555555555555555555555555
ไม่ดูถูกเหยียดหยามเลยจริงๆ
อ่อ เรากะจะจบไปเป็นเมียLogan Lermanอ่ะ ยังไงผัวเรารวยอยู่เเล้วขอเกาะกินก็ไม่เป็นไร จบเเล้วก็จะเเต่งเเล้วเนี้ยะ เค้าให้สินสอดมาเเล้ว อิอิ
พี่แนะนำ อยากเรียนอะไรให้เรียนไปเลย
พี่เรียนอยู่คณะอักษรกำลังจะจบการศึกษาปีนี้
พี่ไม่เคยรู้สึกว่าสิ่งที่พี่เลือกมันผิด พี่ดีใจที่ภาษาที่พี่เรียนทำให้พี่ได้รู้จักคนมากมาย ทั้งคนไทย คนญี่ปุ่นและคนต่างชาติอื่นๆที่พี่เคยพบเจอ
พี่ไม่รู้ว่าภาษาอื่นเป็นยังไง แต่ถ้าเป็นภาษาญี่ปุ่นไม่ตกงานแน่นอน
มีงานให้เลือกมากมายจนเลือกไม่ถูก สายงานมันกว้างมาก
ดังนั้นถ้าน้องสอบวัดระดับภาษาได้ระดับสูงๆน้องสามารถเลือกงานได้เลย
พี่ว่างานมันมั่นคง ขึ้นอยู่กับว่าน้องจะเลือกที่จะเปลี่ยนงานรึเปล่า
ในการทำงานภาษาอย่างเดียวอาจจะไม่พอ แต่ในการสมัครงานภาษาอย่างเดียวพอค่ะ
น้องสามารถใช้ภาษาอย่างเดียวสมัครเข้าทำงานได้ และเมื่อเข้าไปแล้วน้องถึงจะไปเรียนรู้งานในบริษัทนั้นๆเพิ่มเติมอีกค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?