หลักจิตวิทยา : ถ้าเป็นคุณจะเลือกให้คนตายกี่คนดี
***ลองอ่านแล้วคิด สักแปปถ้าเพิ่งตอบทันที***
เหตุการณ์ที่ 1 สับไม่สับ!? : ลองจินตนาการว่าถ้าคุณเดินไปเห็นรถรางขนาดใหญ่ที่ไม่มีคนขับคันหนึ่งกำลังวิ่งไปตามรางรถไฟด้วยความเร็งสูง ซึ่งคุณมองเห็นว่าอีกประมาณ 100 เมตรจากจุดที่รถรางกำลังวิ่งอยู่ มีคนถูกจับมัดด้วยเชือกแล้วนอนอยู่บนรางรถไฟ 5 คน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าปล่อยไว้พวกเค้าจะโดนรถทับตายแน่ๆ
แต่ข้างๆ จุดที่คุณยืนอยู่ได้มีที่สังรางรถไฟตั้งเอาไว้ และคุณก็สามารถที่จะสับรางเพื่อให้รถรางวิ่งไปอีกรางหนึ่งก่อนที่จะทับคน 5 คนที่นอนอยู่ ทว่ารางใหม่อีกรางนั้นก็มีคนถูกจับมัดด้วยเชือกนอนอยู่บนรางรถไฟอีก 1 คน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าคุณเลือกที่จะสับราง คนที่นอนในรางใหม่ก็ต้องตายแทน
ดังนั้น ทางเลือกของคุณจึงมี 2 ทาง คือไม่ทำอะไรเลยและยอมให้มีคนตาย 5 คน หรือตัดสินใจสับรางเพื่อให้ 5 คนนั้นรอด แต่นอนนอนว่าคุณทำให้คน 1 คนที่นอนอยู่อีกรางต้องตาย สมมุติว่าคุณมองไม่เห็นเลยว่าคนทั้ง 6 คนนี้เป็นใคร เพศอะไร อายุเท่าไหร่ คุณว่าคุณจะเลือกสับรางหรือไม่!?
เหตุการณ์ที่ 2 ผลักไม่ผลัก!? : ลองจินตนาการอีกครั้งว่าถ้าคุณกำลังยืนชมวิวอยู่บนสะพานข้ามรางรถไฟ และในขณะนั้นคุณเหลือบไปเป็นว่ามีคน 5 คน ถูกจับมัดด้วยเชือกแล้วนอนอยู่บนรางรถไฟข้างล่าง เป็นเวลาเดียวกันที่รถรางขนาดใหญ่ไม่มีคนขับกำลังวิ่งมาอีกทางด้วยความเร็งสูง ซึ่งถ้าปล่อยไว้ 5 คนนี้ก็ไม่รอด
แต่ทันใดนั้นคุณก็สังเกตว่ามีผูัชายรูปร่างอ้วนมากๆ ที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนยืนอยู่ข้างๆคุณ ซึ่งถ้าคุณผลักเขาตกลงจากสะพานไปทับรางรถไฟข้างล่าง ก็จะสามารถหยุดยั้งรถรางคันนนั้นให้ไม่วิ่งไปทับคน 5 คนนั้นให้พวกเค้ารอดชีวิตมาได้ แต่แน่นอนว่าชายอ้วนคนนี้ต้องตายแน่ๆ
สมมุติว่า ณ ขณะนั้น ไม่มีใครเดินหรือยืนอยู่เลยแม้แต่คนเดียว นั่นหมายถึงคุณสามารถจะผลักผู้ชายอ้วนคนนี้ตกลงไปก็ไม่มีใครมาเอาเรื่องกับคุณได้เลย ซึ่งถ้าต้องให้เลือก คุณจะผลักหรือไม่!?
+++คำตอบของวิทยาเหล่านี้อยู่ที่เม้น 1 นะคะ+++
166 ความคิดเห็น
***นี้คือเม้น1 สำหรับคนที่หาไม่เจอ***
นี่คือการทดลองทางความคิด ที่นักปรัชญาฟิลิปปา ฟุต ได้คิดค้นขึ้นมาเมื่อ 50 ปีที่แล้วเพื่อวิจัยรากฐานและที่มาของจริยธรรมของมนุษย์ โดยผู้เขียนได้อธิบายความคิดของคนส่วนใหญ่ไว้ดังนี้..
เหตุการณ์ที่ 1 สับรางดีกว่า ตายคนเดียวดีกว่าตาย 5 เห็นๆ
หลักการคิดแบบนี้คือการคิดแบบ ‘ประโยชน์นิยม’ (utilitarianism) ที่เป็นบรรทัดฐานของคนในสังคมส่วนใหญ่ และที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าการยอมให้คนตาย 1 คน เป็นเรื่องที่รับได้ ก็เพราะว่าคุณไม่ได้มีความตั้งใจ (intention) ที่จะฆ่าคนๆ นี้นั่นเองจ้า
เหตุการณ์ที่ 2 ไม่ผลักดีกว่า ถึงตาย 5 ก็ยังดีกว่าฆ่าคนแบบจงใจ
หลักการคิดแบบนี้เแสดงให้เห็นว่า มนุษย์ทั้งหลายมักจะยอมทำในสิ่งที่ผิดจริยธรรม เพื่อแลกกันกับผลตอบแทนที่ดีกว่าสำหรับคนกลุ่มใหญ่ ก็ต่อเมื่อรู้สึกได้จริงๆ ว่ามันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เว้นเสียแต่ว่าจะมีเหตุผลอื่นๆ ที่มาช่วยรองรับในการตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรเลย เพราะถ้าไตร่ตรองกันจริงๆ การผลักผู้ชายอ้วนลงไปตาย ยังไงก็ต้องติดคุกแน่นอน ถึงแม้ว่าการผลักจะทำให้มีคนรอดตายถึง 5 คนก็เถอะ
ถ้าเราสังเกตกันดีๆ ปัญหา trolley problem ที่มีในเหตุการณ์ให้เราตัดสินใจจากสิ่งที่ขัดแย้งกับศีลธรรมแบบนี้ เกิดขึ้นได้เสมอในชีวิตประจำวันของเรานั่นแหละ ซึ่งผู้เขียนเค้าเสนอว่านี่ควรเป็นหนึ่งบทเรียนที่ครูควรจะสอนให้เด็กไทย เพื่อจะได้เข้าใจที่มาของปัญหา ฝึกการตัดสินใจไว้เนิ่นๆแหละ
เอาง้ายเลยนะคับถ้าเป็นจริงช่วยทางที่อยู่1คนแล้วโบกให้รถไฟไปทางนั้นก็จบละไม่ต้องมีใครตาย
เหมือนจะบีบให้เป็นไปได้แค่ 2 ทาง ทางที่เป็นไปไม่ได้มักเป็นทางที่ 3
เอาจริงๆถ้าอาศัยความจริงจากคำถามที่ 2 เรื่องที่คนอ้วนคนเดียวหยุดรถไฟไม่ให้วิ่งทับ 5 คนได้ ผมก็จะยอมเสียสละตัวเองนะ
ตอบคำถามข้อที่ 2 ก่อน ผมจะยอมโดดลงให้ไปทับตายเองถ้าผมอ้วนละนะ
ตอบคำถามข้อที่ 1 ผมจะนอนขวาง ไม่ว่ารางใดรางนึงถ้ารถฟจะวิ่งทับคนผ่านรางนั้น
สรุปเสียสละตัวเองนะ
ทางที่3จริงๆนะครับ
เหตุการณ์ที่1 วิ่งไปสับรางมาทาง1คน แล้วไปช่วยคนที่อยู่ทางสับไป (ทันไม่ทันไม่รู้)
เหตุการณ์ที่2 ผมว่าคนอ้วนนี่ละเป็นคนทำครับเพราะเขายืนมองเฉยๆ (ถ้าเกิดขึ้นจริงจะไม่ทำอะไรครับ)
เราคิดแบบบนี้นะ ไม่ได้เสแสร้ง
กำลังคิดอยู่ว่าในรถคันนั้นมีพู้โดยสารหรือไม่
ข้อแรกสับราง,ข้อสองโดดลงไปบังค้บรถเอง
แต่เขาบอกว่ารถรางมาด้วยความเร็วสูงนะ ถ้าโดดไปขับไม่ได้จะแก้ปัญหายังไงต่ออ่ะ
คือแบบ......เงิบแด๊ก แต่ก็เห็นด้วย บางทีคนที่เราช่วยห้าคนอาจจะไม่ใช่คนดีเสมอไปก็ได้
เราตอบ ไม่สับราง กับไม่ผลัก อ่านคำตอบแล้วงงๆ สงสัยเราเล่นเกมมากไป ไม่พักผ่อนสายตา
ไม่รู้จะทำยังไงแหละ แต่คิดว่าเราไม่มีสิทธิ์ตัดสินความเป็นความตายใคร
เหตุการณ์แรกโยกคันโยกแบบครึ่งๆ กลางๆ ให้มันตกรางได้ไหม ไม่รู้มี ผดล. ไหม
เหตุการณ์ที่สอง สวดบทแผ่เมตตาครับ
เหตุการณ์เเรกเราเลือกไม่ทำอะไรเลยนะ เหตุการณ์ที่สองก็เลือกไม่ผลัก -_-
เหตุการ์ณอันที่1
รางอันที่มีคนอยู่คนเดียว ทำไมเราไม่ไปรากเค้าออกมา แล้วให้รถไฟไปทางนั้นคะ อย่างนั้นก็จะช่วยชีวิตได้หมดใช่มั้ย? หรืออย่างไง?
ไม่ดราม่าน้าาา เค้าออกควาคิดเห็นเฉยๆ5555
คือเราก็คิดเเบบนั้นแลหะ
ผมก็คิดอย่างนั้นแหล่ะครับ
ปล.มีคนคิดเหมือนผมด้วยยย
ณ จุดๆนั้นคงคิดไม่ทันมั้งครับ แต่ ตั้ง100 เมตร อาจจะไปช่วยช้ากว่ารถไฟก็ได้ครับ
เหตุการณ์ที่ 1 ที่เราเลือกไม่สับราง เพราะ เราไม่รุ้ว่าคนพวกนัันเป้นใคร ถ้าอีก 5 คนเป็นผู้ก่อการร้าย และอีก 1 คน เป็นผุ้ที่ถูกข่มเหง? นั่นก้เพราะเราไม่รุ้
ถ้าเป็นไปได้ถ้าเบรกรถได้ก็คงดี ไม่ว่า 1 หรือ 5 คน ก็คนเหมือนกันมีความสำคัญพอๆกัน
ไม่สับรางและไม่ผลักครับ 555 =_=
แต่จะแปลงร่างเป็นเอ็กซาราเลซ แล้ววิ่งฉิวไปช่วยทั้ง 5 คนทั้งในสองเหตุการณ์มาอย่างทันทีทันใด
ทำไมไม่สับราง จะได้ช่วยคนเดียว เร็วกว่า โอกาสรอดมากกว่านะนั่น
ถูกทั้ง 2 อันเลยง่ะ เย้ๆๆๆ ชอบอ่ะคำถามเเบบนี้มีความรู้เหมือนนักสืบ 555
เป็นเราก็สับนะช่วยแก้เชื่อกคนเดียวอาจจะทัน
1. ไม่ต้องทำอะไรครับ การที่เราไปสับรางไม่ว่ายังไงก็มีคนตายเราก็ผิด ทางที่ดีอย่าไม่ยุ่งกับเหตุการณ์นี้ครับ
2. ไม่ต้องผลักเพราะเราจะเป็นฆาตกร
เราเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลยทั้ง2ข้ออ่ะ=-=
ถ้าอย่างนั้นในเหตุการณ์ที่1จะหมายความว่ายังไง~(?)
ไม่สับ ไม่ผลัก ไม่สน น่ากลัวสรุป ก็ตายยุดีป้ะ
ข้อแรกนี่ถ้าสับรางแล้วไปเอาคนที่นอนอยู่ออกได้ไหมคะ คนเดียวเอง น่าจะลากออกมาไหวอยู่
แต่ข้อสองนี่จนปัญญาจริงๆ ค่ะ
เราเลือกไม่ผลัก เพราะคนอ้วนนี่ไม่ผิด แต่คนที่ถูกจับอาจมีความผิดก็ได้ แต่กลับกันในสถานการณ์เปลี่ยวๆ เราก็กลัวมันเฉลยว่าคนอ้วนจะผลักเราเหมือนกัน 55
เหตุการณ์แรก: เราเลือกสับรางนะ เพราะว่าเค้าโดนจับมัดแสดงว่าทำอะไรไว้ก่อนป่ะถึงโดนจับ ก้เลือก1คนดีกว่า จะได้ช่วยชีวิตอีก5คน
เหตุการณ์สอง: ไม่ได้อยู่ที่ว่าผิดหรือถูกกฎหมาย เพราะไม่มีใครเห็นเรา จริงไหม? แต่คนที่ถูกจับ ก้อาจจะทำอะไรร้ายแรงน่ะแหละถึงมีคนอยากให้ตาย แต่คนอ้วนเขาไม่เกี่ยวอะไรเลยทำไมเขาต้องมาตายด้วย ดังนั้นเลือกไม่ผลักจ้า
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?