Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอคำปรึกษาค่ะ เกี่ยวกับ #afs #afs55 ตอนนี้รอสัมภาษณ์

ตั้งกระทู้ใหม่
มีเรื่องจะถามเกี่ยวกับสอบ AFS55 
ขอเกริ่นก่อนนะคะ
คือ ตอนนี้เราสอบข้อเขียนผ่านแล้วค่ะ เหลือสอบสัมภาษณ์
แต่ต้องมาชะงักค่ะ เพราะแม่พูดว่า ตอนนี้เรียน ม.5 แล้ว
จะไปแลกเปลี่ยนปีหน้าที่เป็น ม.6 กลับมาต้องมาดรอปซ้ำชั้นอีก
มันเสียเวลามั้ยแทนที่จะได้พร้อมเพื่อน อันนี้เราไม่แคร์เลยค่ะ
แต่ประเด็นที่แท้จริงมันอยู่ที่ เงินค่ะ!! คือ พอรู้เหตุผลจริงๆ
เรานี่น้ำตาปริมาก จากตอนแรกที่ตั้งใจมันไม่อยากสอบแล้ว
ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงคะ คือเราสมัครช่องนักเรียนทั่วไป
พ่อแม่เราเปิดร้านอาหาร ฐานะไม่ได้ดีไม่ได้แย่ค่ะ
ตอนนี้เรายังสามารถเป็นทุนขาดแคลนได้มั้ยคะ หรือทุนฟรี
คาดหวังมาก เพราะเราสมัครปีแรก และมันจะเป็นปีสุดท้ายแล้ว
 หรือว่าสิ่งที่เราทำมันเห็นแก่ตัว ที่ไม่สนใจความลำบากพ่อแม่

ถ้ามันแย่มากเราจะไม่ไปสัมภาษณ์ดีมั้ย 
ช่วยตอบเราหน่อยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

Mindsvk 14 มิ.ย. 58 เวลา 01:20 น. 1

หนึ่งปีที่น้องไปแลกเปลี่ยนมันเทียบไม่ได้กับจำนวนเงินที่น้องต้องจ่ายหรอกค่ะ มันมีค่ากว่าเงินพวกนั้นเยอะ
แต่ถ้าครอบครัวน้องไม่พร้อม ก็ถือซะว่าไปสอบสัมภาษณ์เป็นประสบการณ์ หรือไม่ถ้าติดแล้วบางทีพ่อแม่น้องอาจจะเห็นถึงความพยายามแล้วหาหนทางให้น้องไปก็ได้นะ
แต่ถ้าน้องไม่ได้ไปปีนี้ก็ไม่ต้องเสียใจ ตอนมหาลัยก็มีทุนอีกเยอะแยะให้น้องได้เลือก (ถึงแม้มันจะไม่เหมือนกับตอนแลกเปลี่ยนตอนมัธยม แต่ยังไงน้องก็ได้ประสบการณ์)
ที่น้องถามว่าเปลี่ยนไปเป็นทุนเต็มได้มั้ย อันนี้พี่ไม่แน่ใจแต่คิดว่าคงไม่ได้
เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ ยังไงก็ไปสัมภาษณ์เถอะ ไปเก็บประสบการณ์และหาเพื่อนใหม่ๆเนอะ :)

Mind svk #53

1
Eal'Ern 14 มิ.ย. 58 เวลา 12:57 น. 1-1

ขอบคุณค่ะ จะตั้งใจไปสอบสัมภาษณ์ดูนะคะ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
แต่ที่อยากไปก็อย่างที่พี่บอกเลยว่ามันจะได้ปรัสบการ์ณ
ปรกติที่บ้านเค้าก็จะไม่ปล่อยเท่าไหร่ด้วยค่ะ อยากจะลองพิสูจน์ให้เห็นดูซักครั้ง
แต่บทเรียนที่จะได้คงจะแพงไป

0
อัจฉราโสภิต 14 มิ.ย. 58 เวลา 06:31 น. 2
เรื่องเงินต้องเข้าใจพ่อแม่ครับ เงินหายากมากนะครับ ตอนยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ อาจจะไม่เข้าใจว่ากว่าจะได้เงินมาสักหมื่นสองหมื่นหรือแม้แต่พันสองพันมันยากเย็นแค่ไหน ผมเองก็เคยเป็น แต่พอมาถึงวัยทำงานแล้วจะรู้ครับ นั่งทำงานหนึ่งวันยังเหนื่อยเลย แล้ววันนึงถ้าอยู่ที่ไทยนี่ได้แค่ราวๆพันสองพันบาทเองนะครับ

และต่อให้สะสมเงินพอที่จะจ่ายค่าเริ่มต้นได้ (ไม่รู้ตอนนี้เท่าไหร่แล้ว แต่น่าจะอย่างน้อยสองสามแสนอยู่ดี) ตอนที่ไปนี่เงินอื่นๆเราออกเองหมดนะครับ ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากกินที่บ้านและนอนที่บ้าน หนังสือเรียนยังอาจจะต้องออกเองด้วยเลย ใช้เงินไม่ใช่น้อยๆครับ

เรื่องระเบียบการทุนขาดแคลนนี่อันนี้คงต้องถามพี่เก่าที่เพิ่งกลับมา เพราะผมเองก็ไปมาหลายปีแล้ว

แต่สุดท้ายขอให้คุณเข้าใจพ่อแม่ครับ ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่อยากให้ลูกได้ดี แต่ถ้าลูกได้ดีอยู่แป๊บนึงแล้วต้องกลับมากัดก้อนเหลือกินกับพ่อแม่ ไม่มีเงินให้ลูกเรียนต่อมหาวิทยาลัย มันคุ้มหรือเปล่าครับ

การไปแลกเปลี่ยนได้อะไรเยอะก็จริง แต่ถ้าต้องแลกมาด้วยอนาคตที่ไกลกว่านั้นผมว่ามันไม่ใช่นะครับ สุดท้ายมันก็คือประสบการณ์ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับคุณและเปิดโอกาสเพิ่มเติมให้กับคุณ แต่สิ่งที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองจริงๆ ขึ้นกับมหาวิทยาลัยเป็นหลักครับ ยกเว้นจะจับผลัดจับผลูได้งานหรือได้ทุนต่อที่โน่น ซึ่งพูดตรงๆว่ายากครับ ยากทั้งโอกาส และยากทั้งขั้นตอน

ลองคุยกับพ่อแม่ เกริ่นๆขึ้นมาก่อนก็ได้ว่าเข้าใจนะเรื่องการเงิน ให้พวกท่านรู้สึกว่าคุณเข้าใจปัญหาของพวกท่านครับ เพราะตอนนี้พวกท่านก็คงรู้สึกเสียใจไม่ต่างจากคุณที่ไม่สามารถส่งลูกไปได้ และถ้าลูกยิ่งมาน้อยใจมาโกรธพวกท่านอีก เป็นผมผมก็คงยิ่งเสียใจครับ

จากเยอรมัน ภาคพื้นทวีปเหนือ 45 ที่ตอนนี้กลายเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่อีกประเทศ

1
Eal'Ern 14 มิ.ย. 58 เวลา 13:03 น. 2-1

ใช่ค่ะ เสียใจทุกครั้งที่ต้องพูดเรื่องเงินกับพ่อแม่ค่ะ
คือ เคยเห็นพ่อแม่ตอนลำบากมากก่อน จำขึ้นใจเลยค่ะ บางที่ก็คิดว่าไปเพิ่มภาระหรือเปล่า หลายครั้งก็อยากจะทำงาน
พ่อแม่คาดหวังค่ะ ไม่ค่อยปล่อย ให้เที่ยวหรืออะไรเท่าไหร่นัก เค้าชอบพูดกับเราบ่อยๆ
ว่าพ่อแม่ต้องดิ้นรนมาก่อน เพื่อจะให้มีเหมือนคนอื่น บอกว่าเรียนจบให้ไวๆ ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงดูพ่อแม่
ดูแลตัวเองให้สบายชดเชยกับตอนเด็กที่เค้าไม่สามารถเลี้ยงดูให้สบายเหมือนลูกคนอื่น

0
-ปป.- 14 มิ.ย. 58 เวลา 08:31 น. 3

เรื่องเปลี่ยนเป็นทุนฟรีคาดว่าน่าจะไม่ได้นะคะ 
เรื่องค่ายใช้จ่ายขึ้นอยู่กับประเทศที่เลือกเนอะ อัพเดตแบบล่าสุดเลยคือรุ่นเรา 54 กำลังแลกเปลี่ยนเลย 5555 ตอนแรกต้องจ่าย 50,000 ละก็ช่วงไม่กี่เดือนอีก 100,000  หรือ 150,000 เราลืม 555555 คือต้องมีประมาณนี้พร้อมจ่ายเนอะถ้าจะไป
 ไม่ได้จะตัดกำลังใจให้ท้อถอยอะไรนะคะ แต่ถ้าไม่มีเงิน แล้วไม่ไปทุนเต็มมันก็ลำบาก ค่าใช้จ่ายตอนแลกเปลี่ยนอีก ยังไงก็คิดดีๆเนอะ สู้ๆแล้วกันค่า  :) 

1
Eal'Ern 14 มิ.ย. 58 เวลา 13:11 น. 3-1

ค่ะ รู้มาว่าตอนแลกเปลี่ยนจากค่าสมทบทุนมัน 300,000+ แต่พี่ที่รู้จักบอกว่าตอนไปอยู่จนครบปีจริงๆ
มันไม่ต่ำกว่า 500,000 พอได้ยินปุ๊บท้อเลยค่ะ แต่ความอยากลองมันมีมากกว่า
พอมาคิดๆดู เงิน 500,000 มันได้บ้านตั้งครึ่งหลังเลยนะ...
พอคิดว่าจะไปเอาทุนตอนหมาวิทยาลัยมันจะแก่ไปหรือป่าว ถึงเวลานั้นก็คงอยากจะอยู่แต่บ้านแล้ว 555

0
อัจฉราโสภิต 14 มิ.ย. 58 เวลา 13:27 น. 4
เห็นพูดว่าไปเอาทุนตอนมหาวิทยาลัยจะดีหรือเปล่า ช้าเกินไปหรือเปล่า

ในฐานะได้ทุนทั้งสองแบบ ขอบอกว่ามันต่างกันครับ

AFS หรือทุนแลกเปลี่ยนมัธยมปลายทั้งหลาย พูดง่ายๆ มันเหมือนไปเที่ยวเล่นซะมากกว่า จะเที่ยวเยอะเที่ยวน้อยก็แล้วแต่บ้าน (ส่วนตัวผมเที่ยวน้อย) การเรียนไม่จำเป็นต้องใส่ใจมาก โดยเฉพาะประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เพราะเขาไม่ได้คาดหวังให้เราเรียนกับเขารู้เรื่อง ขอแค่ตอนอยู่ในห้องเรียนความประพฤติดีก็พอ และในเมื่อเวลาว่างคุณเยอะ แถมได้ไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ คุณจะได้รู้วัฒนธรรมเขาค่อนข้างลึกและใกล้ชิด

สวนทุนมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นทุนแลกเปลี่ยน ทุนวิจัย ทุนฝึกงาน หรือทุนเรียนต่อปริญญา มันคือไปเรียนครับ หนักกว่าแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแน่นอน และคุณจะต้องอยู่ด้วยตัวเอง อยู่หอ ดังนั้นเรื่องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนั้นมีไม่เท่าทุนแลกเปลี่ยนมัธยมปลายอยู่แล้ว (อาจจะมีของมหาวิทยาลัยบ้าง)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุนเรียนต่อหรือทุนฝึกงานมันสามารถเป็นบันไดให้คุณทำงานต่อได้ครับ ต่อให้ไม่ได้งานที่ประเทศนั้นๆ คุณก็ได้เอาไปใสในประวัติสมัครงาน ในขณะที่ทุนแลกเปลี่ยนมัธยมปลายนั้นไม่ค่อยมีเครดิต เวลาสมัครงานหรือแม้แต่มหาวิทยาลัยบางทีเขาก็ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างเพราะมันค่อนข้างเกร่อ คนไปเยอะ แล้วบางคนกลับมาก็ดันประพฤติตัวไม่ค่อยดีด้วย

อีกอย่าง ที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายครับ ถ้าเลือกทุนดี (ซึ่งทุนมหาวิทยาลัยมักจะดีและให้พอสมควร) คุณมีเงินกินอยู่เที่ยวได้โดยไม่ต้องขอพ่อแม่ หรือถึงขอก็แค่บางส่วนตอนเพิ่งเริ่มต้นหรือตอนที่จำเป็นต้องใช้เยอะและฉุกเฉินจริงๆครับ และถึงจะบอกว่าไปเรียน งานหัก แต่ยังไงคุณมีเวลาเที่ยวแน่ครับไม่ต้องห่วง

สรุปคือ ถ้ามีปัญหาเรื่องเงิน เรียนให้ดีๆ เข้ามหาวิทยาลัยก็ทำเกรดดีๆ แล้วไปทุนมหาวิทยาลัยคุ้มกว่ามากครับ

0
pergluay 20 มิ.ย. 58 เวลา 12:00 น. 5

สู้ๆนะ เรื่องเงินเดี๋ยวนี้มันหายากมากๆเลยแล้วก็เข้าใจพ่อแม่ด้วย เราเป็นกำลังใจให้ เราก็สอบสัมภาษณ์เหมือนกัน AFS55 ลองไปสอบดูไว้เป็นประสบการณ์นะ
แต่มันขึ้นอยู่กับประเทศด้วยแหละว่าจะเสียเท่าไหร่กี่บาท

ยังไงก็สู้ๆๆๆนะ ประสบการณ์ฃีวิต เราเอาใจช่วย ^^ 

0
SWSW 21 มิ.ย. 58 เวลา 22:42 น. 6

เราก็เป็นค่ะ ปีที่แล้วเราก็สอบ ตอนแรกเราสอบเล่นๆนะคะ ไม่ได้อยากไปพี่ก็พูดเหมือนอยากให้ไปเราก็ไม่เอาไม่ไป พอเราสอบติดเท่านั้นแหละค่ะ เราก็อยากไปขึ้นมา เรามีปัญหาเดียวกับ จขกท.เลยค่ะ เงินค่ะ ใช้เงินหลายแสนที่บ้านเราไม่มี กู้ไม่ได้ เราพยายามหาทางว่ากู้อะไรได้ไหม มีทุนอะไรไหมเราหาของโครงการอื่นด้วย แต่ไม่มีสำหรับเราค่ะ มีแต่ที่ใช้เงินทั้งนั้น ที่บ้านเราไม่สะดวกเรื่องเงินค่ะ บอกเลยว่าเสียใจมาก แต่ก็เข้าใจว่าที่บ้านไม่มีเงินพอที่จะส่งเราไป พ่อแม่มาคุยด้วยเขาไม่มีเงิน แต่ที่เสียใจมากกว่าเดิมคือถึงมีเขาก็ไม่ให้เราไป เขาห่วง รู้ว่าห่วงนะคะแต่อยากไปจริงๆ จากประสบการณ์ที่เจอมาส่วนใหญ่ติดแต่ไม่ได้ไป เสียน้ำตาแทบทุกคนค่ะ ตอนนั้นเราเศร้าเสียใจจนไม่มีอารมณ์ไป รร.เลยค่ะ

จนวันนี้ผ่านมา 1 ปีแล้ว บางทีเวลาเราเห็นรูปพวกที่เขาไปเราก็ไม่อยากดูมากนะคะ เราดูทีไรเรารู้สึกอิจฉาเขาทุกที เรามีโอกาสที่จะได้ไป แต่เราไม่สามารถไปเหมือนพวกเขาได้ เราเห็นพวกติดประกาศแบบนี้ทีไรเรามักจะดูด้วยความเศร้าใจที่ตัวเองไม่มีโอกาสไปอยู่ตรงนั้นได้ค่ะ

ตอนนี้เรามีความหวังจะไป work and travel นะคะ หวังว่าจะได้ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน ถ้าเราไปก็เสียเวลาไปปีนึง ถ้าไปตอนโตเราน่าจะพร้อมกว่านี้

จขกท.คะ เราอยากให้จขกท.ไปสอบสัมภาษณ์นะคะ มันเป็นประสบการณ์นึงค่ะ ได้ความรู้ ได้แสดงความสามารถของเรา เวลาเราไปสอบสัมภาษณ์ที่อื่นเราจะได้ไม่ประหม่า ถึงจะต้องเสียใจว่าไม่ได้ไปแต่ก็อยากให้ลองไปสอบสัมภาษณ์ดูค่ะ อยากให้ได้ประการณ์การสอบสัมภาษณ์ค่ะ

จขกท.สู้ๆนะคะ วันพระไม่มีหนเดียวค่ะ ถ้าเราจะได้เดี๋ยวเราก็ได้เองค่ะ

0