Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ชื่อเสียงมหาลัยไม่มีผลต่อการสมัครงาน?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
จากกระทู้ที่มียอดแชร์สูง เรื่องธนาคารแห่งหนึงออกประกาศรับสมัครพนักงานใหม่โดยกำหนด "มหาวิทยาลัย" ที่ผู้สมัครงานต้องจบมา >> http://www.dek-d.com/board/view/3523581/

เราได้อ่านเนื้อหาใน comment บาง comment ที่ไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลควายๆ แล้วก็รู้สึกหงุดหงิด ซึ่งเหตุผลควายๆส่วนใหญ่เนี่ยมันจะวนอยู่แต่....

- มหาลัยไม่ได้บ่งบอกความเก่งของผู้ที่จบมา
อาจจะจริงนะในเรื่องของความสามารถในการทำงาน แต่นักศึกษาจบใหม่ ไม่มีประวัติไม่มีประสบการณ์การทำงาน ผู้รับสมัครเค้าจะเอาอะไรวัดนอกจากมหาวิทยาลัยที่จบมา ซึ่งพวกไม่ใช้สมอง comment ก็จะเถียงต่อว่า...

- "เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน"
เรามองว่ามันเป็นแค่คำปลอบใจตัวเองของคนบางกลุ่ม(ที่ไม่ได้เรียนมหาลัยที่มีชื่อเสียง) มันจะไปเหมือนกันได้ยังไง ตั้งแต่ตอนแอดมิชชัน ตอนสอบเข้าแล้วปะที่เค้าคัดเกรดนักศึกษา คนที่ได้คะแนนดีๆก็ได้เรียนมหาวิทยาลัยดังๆ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง โดยคะแนนดีๆนั้นมันก็มาจากความขยัน ความเก่งของแต่ละคน << แล้วองค์กรต่างๆอยากได้คนแบบไหนเข้าไปทำงานล่ะ

แล้วยังเรื่องระบบการเรียนอีก มหาลัยแต่ละมหาลัยมันจะไปสอนเหมือนกันได้ยังไง คณาจารย์ก็คนละคณะ ระบบการสอบ การสั่งงานก็คนละเรื่อง ความเข้มข้นของเนื้อหาอีก เยอะแยะ

พอไล่อ่านลงมาเรื่อยๆเจอประโยคหลายๆประโยคที่ทำเอาเรากุมขมับไปเลยอะ

- เรื่องสมอง มันเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าเราใช้สมองทำงาน ไม่ได้ใช้ชื่อมหาลัยทำงาน
แง่มๆอันนี้ให้ย้อนกลับไปอ่านตอนที่เขียนเกี่ยวกับการ คัดเลือกนักศึกษาเข้ามหาลัย

- เลือกคนจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง คุณดูถูกคนเกินไปป่ะคะ คนที่จบจากมหาวิทยาลัยอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ ใช่ว่าจะไม่มีความสามารถในการทำงาน ทำแบบนี้ คุณดูถูกคนอื่นเกินไปแล้วนะคะ
//เบ้ปากรัวๆ ไม่เข้าใจว่าการกำหนดคุณสมบัติของคนที่จะสมัครงานเนี้ยมันเป็นการดูถูก บัณฑิตมหาวิทยาลัยอื่นๆตรงไหน

-บริษัทอื่นมีเยอะแยะ ขนาดพนักงานยังเลือกที่จะปฏิบัติขนาดนี้ตัดสินใจดูถูกม.ที่ไม่ดัง การบริการลูกค้าก็คงจะเลือกปฏิบัติเช่นกัน
//เอามือทาบอก OH MY GOD ตรรกะนี้เหมือนแบบ ทำไมกูจะฆ่าคนไม่ได้ -ไม่เคยตบยุงตายหรอ =[]=!!


ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่านนะ ไม่มีไรอยากบ่นเฉยๆ
สุดท้ายนี้อยากบอกหลายๆคนที่ยังคิดว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกันอยู่ว่า "เลิกโลกสวยได้แล้วนะฮับ"ตลกจัง

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

เปรตในหมู่ปราชญ์ 28 มิ.ย. 58 เวลา 17:28 น. 1

ต้องให้คนอื่นคิดแบบคุณสินะ ถึงจะถูก แหมพ่อศูนย์กลางจักรวาล

ไม่ทราบว่าจบมาจากที่ไหน หรือศึกษาอยุ่ ม. ไหน คณะ ไหน ครับ??  ในอนาคตผมจะได้ไม่ส่งลูกเข้าไปเรียน เพราะผมไม่อยากเห็นลูกเรียนจบออกมาแล้ว มีความคิด ชอบดูถูกความคิดของคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับตน

คุณเองก็คงเป็นคนมีความรู้เรียนสูงสินะ แต่โทษเถอะว่ะ ดูแล้วไม่ได้ต่างอะไรกับ ก้อนกรวดชุบทองเลย

0
new new 28 มิ.ย. 58 เวลา 21:21 น. 2

ตั้งกระทู้มาให้คนทะเลาะกันป่าวๆ แล้วแค่คนจะคิด ในมุมมองบริษัท บริษัทไหนก็อยากได้คนที่จบที่ดีๆมาทั้งนั้น แต่ในมุมคนที่จบแบบธรรมดามา เก่งเยอะแยะ เกรดสูง แต่บริษัทไม่รับ มันก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม ก็เห็นด้วยครึ่งค้านครึ่งน้ะ
#ความคิดเห็นส่วนตัว
#แล้วก็ไม่ต้องไปด่าใครว่าโง่ หรือควายน้ะค้ะ คนดูถูกคน คิดว่าตัวเองเก่ง เห็นไปไม่รอดแทบทุกรายยิ้มฟันขาว

1
เปรตในหมู่ปราชญ์ 28 มิ.ย. 58 เวลา 22:32 น. 2-1

นั่นสินะครับเหมือนก้อนกรวดที่ชุบด้วยทอง ถึงแม้ภายนอกมันจะดูเปล่งประกาย แต่เนื้อแท้ก็ยังเป็นแค่หินกรวดไร้ซึ่งคุณค่าใดๆ

เช่นเดียวกันกับคนที่สำเร็จวิชา แต่ไม่รู้จักศึกษาธรรม ไม่รู้จักการวางตน และไม่รู้จักนำวิชาที่ร่ำเรียนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ น มักจะจองหองคิดว่าตัวเองมีอยู่เหนือผู้อื่น คอยดีแต่ยกตนข่มท่าน แล้ววิชาที่ร่ำเรียนมันก็ย่อมไร้ค่าใดๆไม่ต่างกับเพรียงที่เกาะอยู่บนหัว เพราะไปทำงานร่วมกับใครก็ยาก เพราะมีแต่คนรังเกียจ

สังคมไม่ได้ต้องการแต่คนเก่งอย่างเดียวครับ แต่ต้องการคนดี และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ครับ อย่างที่ท่านกล่าวไว้แหละครับ คนที่เก่งมีความสามารถแต่ชอบดูถูกผู้อื่น คนคนนั้นไม่มีทางเจริญในหน้าที่การงานใดๆได้ครับ เพราะไม่มีใครเขายอมรับ

0
cream 29 มิ.ย. 58 เวลา 13:05 น. 3

มาอีกละกระทู้นี้

ลองเปิดหูเปิดตา ไปตปท
เขาก็มีค่านิยมชื่อมอเหมือนกัน

อังกฤษ ก็ออกฟอด -บริดจ์

ญี่ปุ่นก็มี

เมกาก็มี

เขาก็เนรียนเอาชื่อทั้งนั้น เพราะรู้ๆกันดีว่า มัรเป็นสถาบันที่รวมตัวหัวกะทิเอาไว้อะ ใครๆกอยากเข้าร่วมสังคมดีๆ

0
ดรามาติค 29 มิ.ย. 58 เวลา 13:35 น. 4

พูดลำบาก สังคมไทย ดราม่า มาก่อนเหตุผล

ถ้าคิดในแง่ธุรกิจ ใครก็อยากรับ มดัง มากกว่าอยู่แล้ว
ไม่ใช่เพราะเป็น มดัง แต่มันคือความน่าเชื่อถือ มันเป็นเรื่องสถิติ เช่นรับมา 10 คน ทำงานได้ดี 9 คน มันก็โอแล้ว แต่ถ้าเป็นบางที่ ต้องมาลุ้นว่า คนนี้ที่รับมาจะหัวหรือก้อย ผมเข้าใจว่าคนเก่งมันมีอยู่ทุกที่ แต่สิ่งที่ต่างกันคือ-ส่วนของคนเก่งแต่ละที่เป็นเท่าไหร่

เหมือนซื้อมือถือ ยี่ห้อหนึ่งใช้ดีไม่มีปัญหา หรือมีปัญหาน้อย แต่อีกยี่ห้อต้องมานั่งลุ้น ตาดีได้ตาร้ายเสีย
วันดีคืนดีแบตระเบิดขึ้นมาถือว่าซวยไป

โลกที่มีการแข่งขัน องค์กรไหนจะอยากมานั่งลุ้นว่า คนที่รับมาจะเป็นยังไง ทำงานได้รึเปล่า จะอยู่นานไหม ในเมื่อเค้ามีทางเลือกที่ดีและเชื่อถือได้ องค์กรเค้าก็ไปได้เร็ว

ในแง่ดีคือ win-win ทั้งคู่ คนรับสมัครก็ไม่ต้องเหนื่อย คนสมัครก็ไม่ต้องเสียเวลา

ส่วนแง่ไม่ดีคือมันจะเป็นการสร้างค่านิยมจนเกินไป เพราะมดังๆ ทำไงก็ไม่สามารถรับเด็กทั้งประเทศได้ มันต้องมีอีกส่วนที่ไปอยู่ มไม่ดัง ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตาม ถามว่ามันเป็นความผิดเค้าเหรอที่ไม่เข้า มดัง หรือเข้ามดังไม่ได้ ก็ไม่ใช่ทั้งหมด

ทางออกที่เป็นไปได้แต่ต้องใช้เวลาคือ
ทำให้ ทุก ม มีคุณภาพใกล้เคียงกัน แน่นอนว่ามันฟังดูอุดมคติจนเกินไป แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ม ที่ยังไม่ดังก็เน้นคุณภาพให้มากขึ้น อย่าสนใจแต่ปริมาณ

0