อยากเขียนให้ดีกว่าเดิม ควรทำยังไงดี?
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเลยค่ะ อยากให้แนะนำมากในเรื่องนี้(พิมพ์ค่อนข้างยาวค่ะ)
ถึงแม้เราจะเขียนมาหลายเรื่อง และ มีเรื่องหนึ่งลงหลายตอนเป็นเรื่องหลักๆของเราแล้ว
แต่รู้สึกว่ามันยังดีไม่พอ อธิบายไม่ค่อยลื่นไหล อ่านแล้วงงๆ ภาษาไม่สวยงามเท่าไร แถมยังใช้คำผิดบ่อยมาก(ปัญหาหลักเลย)ถึงแม้เราจะเขียนมาหลายเรื่อง และ มีเรื่องหนึ่งลงหลายตอนเป็นเรื่องหลักๆของเราแล้ว
แต่เดิมเราเป็นนักวาดมากกว่านักเขียนค่ะ เลยอธิบายเป็นคำพูดไม่เก่ง _ _ (แถมเหตุผลเริ่มหัดเขียนแย่มากค่ะ เพราะกระดาษวาดรูปหมดเลยมาพิมพ์เป็นเรื่องราวแทน ถถถถ)
แต่อย่างน้อยเริ่มเขียน หรอ-เหรอ เด๋ว-เดี๋ยว ถูกแล้ว(เพิ่งรู้ว่าเขียนผิดมาตั้งนาน)
และเวลาเราจะอ่านนิยาย ปกติจะซื้อเอาอย่างเดียวค่ะ ไม่ค่อยอ่านในบอร์ดเเท่าไร พราะเราชอบดูภาพ(ลำดับ1) คำโปรย บทนำ ในรูปเล่มเดียว ถ้าเห็นมันน่าสนใจจะหยิบซื้อทันที(มือไวค่ะ เหะๆ)ที่สำคัญยังไงนิยายที่ออกเป็นเล่มมันต้องสนุกอยู่แล้วนี่เนอะ
ยังไงช่วยบอกวิธีทำให้ดีขึ้นหน่อยนะคะ ต้องการรู้จริงจังมาก เพราะเราอยากให้คนอ่านรู้สึกดีเวลาอ่านถึงที่สุดค่ะ (ขอบคุณล่วงหน้าที่อ่าน+ตอบนะคะ ><)
9 ความคิดเห็น
การเขียนให้เก่งให้ดีมันไม่เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อ่านคู่มือการใช้แล้วใช้งานได้เลยอะครับ ของแบบนี้มันต้องฝึก ต้องศึกษา ลองผิดลองถูกไป เหมือนการวาดรูปนั่นแหละ วาดบ่อยๆ ศึกษางานคนอื่น ใช้เซ้นส่วนตัวเพิ่มเข้าไป ความคิดสร้างสรรค์ใส่เข้าไป ทำบ่อยๆ เข้ามันก็พัฒนาไปที่ละนิดๆ ของมันเอง เรื่องประโยคไม่ลื่นไหล คำผิด พวกนี้เขียนแล้วเราก็กลับมาแก้ไขได้ อ่านทวนอ่านซ้ำ เวลาอ่านอ่านออกเสียงเลยก็ได้ จะรู้ว่ามันพูดออกมาแล้วมันฟังโอเคไหม
ผมก็อยากเป็นนักวาดนะ เริ่มวาดการ์ตูนมาก่อนจะเขียนนิยาย แต่หลังๆ หนักไปทางนิยายมากกว่า เทียบกับงานชิ้นแรกที่เขียนกับเรื่องปัจจุบัน ก็ถือว่าเป็นพัฒนาขึ้นเยอะ ยังไงผมเชื่อว่าการฝึกฝน ทำบ่อยๆ คือเหตผลหลักๆ ที่ทำให้เราพัฒนานะครับ
ขอบคุณที่แนะนำมากเลยค่ะ ^^
ของพวกนี้ยังไงก็ต้องใช้เวลาสินะคะ...จะรีบให้เก่งเลยก็ไม่ได้
เราจะพยายามให้เต็มที่ทำให้ดีที่สุด ถึงผิดก็จะแก้ไข ยังไม่ดีก็จะปรับให้ดีขึ้นค่ะ ><
มันทั้งง่ายและยาก
ง่าย - แค่เจ้าของกระทู้เขียนไปเรื่อยๆ พยายามแก้คำที่ผิด ไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย ฝีมือการเขียนจะดีเอง
ยาก - เพราะการเขียนคือศิลปะ ก็คล้ายการวาดรูป บางคนต้องวาดเป็น 4-5 ปี วาดมาตั้งแต่เด็ก ฝีมือจึงจะใช้ได้ การเขียนก็คล้ายๆกัน ต้องใช้เวลานาน กว่าฝีมือการเขียนจะใช้ได้ โชคดีที่การเขียนไม่ต้องใช้เวลาฝึกนานเท่าการวาด แค่ 1- 2 ปีก็เทพได้แล้ว จะไปยากตรงคิดพล็อตคิดเรื่องมากกว่า (ไม่ว่าจะเขียนมากี่ปี มีปัญหาเรื่องนี้กันทุกคน)
//แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องฝีมือมากเกินไป ข้อดีอีกข้อของการเขียนก็คือ เราสามารถปรับปรุงเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ แก้ง่ายไม่เหมือนการวาดรูป
อืม...นั่นสิค่ะ ทั้งง่ายและยากจริงๆ
บ้างทีลงไปเรารู้สึกยังไม่ดีเลย(แต่อัพช้าแล้วขอลงไปก่อน)แต่คนเขาบอก 'ชอบ' 'สนุกดี'
แต่-เรานี่สิ โอ๊ยยย มันดีตรงไหน มันยังไม่ดีเลยยย แทบร้องคร่ําครวญ TT_TT
แถมบ้างที คนบอกว่า 'รีบๆแต่งต่อนะ เรารออยู่' บอกเลยว่ากดดันมากค่ะ...สมองตัน คิดไม่ออก พิมพ์ไม่ถูก แต่งถึงไหนแล้ว เอะ เลยตอนนั่นแล้วเหรอ @_@ (มึนเลยทีเดียว)
อ่านเยอะ ๆ จ้ะ ฝึกเขียนบ่อย ๆ อายุยังน้อย มันต้องสะสมประสบการณ์เหมือนกันนะ แล้วก็อ่านนิคนิคต่าง ๆ เอามาพัฒนางานเขียนของเรา
ขอบคุณมากกค่ะ ^^
ส่วนเรื่องพัฒนา.....เคยพัฒนาการเขียนแล้วโดนบอกว่า บรรยาย แนวเรื่อง การเขียน เหมือนนิยายคนอื่นค่ะ อันนี้เสียใจมาก ถ้าเป็นเรื่องที่เราอ่่านมาจะไม่เป็นไรเลยยย ดันเหมือนเรื่องที่ไม่เคยอ่านชะงั้น !
ไม่เป็นไรหรอก เรื่องหลายเรื่อง เป็นไปได้ที่เราอาจจะคิดเหมือนคนอื่นนะ นั่นก็เป็นสิ่งที่เราต้องพยายามปรับปรุงไง แสดงว่า มันยังธรรมดาไปเท่านั้นเอง แนวเรื่องซ้ำ ๆ กัน พล็อตซ้ำ ๆ กัน มีเยอะแยะไปจ้า แต่มันอยู่ที่เราจะเอาเรื่องซ้ำ ๆ มาเรียงกันอย่างลงตัว กลายเป็นเรื่องใหม่ได้อย่างไร ต้องค่อย ๆ ฝึกฝนไปเนอะ
มันเป็นพล็อตที่ซ้ำได้ง่ายเลยละคะ เป็นแนวเกมออนไลน์ ที่เสียบเครื่องปุป เข้าไปอีกโลกหนึ่งปั๊ป
ง่ายๆแบบนี้เลย
พอเข้าไปก็ต้องสู้ จะต่างก็แค่สถานที่ เหตุการ ตัวละครนี่แหละ
แต่จะพยายามสร้างความต่างจากพล็อตช้ำให้ได้ อย่างน้อยขอให้ตัวละครแตกต่างมีเอกลักษณ์ละกันค่ะ
ถุงแนะนำให้อ่านเยอะๆค่ะ เพราะสไตน์การเขียนบทและบรรยายของนักเขียนแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน ถ้าเราจับจุดเขาเอาข้อดีนั้นๆมาใช้ ฝึกฝนเรื่อยๆจะดีขึ้นเองค่ะ
ถุงเองก็เป็นพวกชอบวาดมาก่อนเหมือนกัน เวลาที่เอามาเขียนก็จะพยายามมโนภาพออกมาในหัวก่อน พอรู้สึกจับจุดเด่นตรงไหนที่น่าเขียนบรรยายให้เห็นภาพได้ ก็จะเขียนวลีส่วนนั้นก่อนค่ะ ไล่ตามความสำคัญไป
ปล. เอาแนวที่เราชอบและสบายใจที่จะเขียนดีที่สุดค่ะ เพราะสไตล์การเขียนในแต่ละประเภทมันไม่เหมือนกัน สมมุติถ้าเราอ่านนิยายแฟนตาซีมาเยอะๆ แต่เราชอบเขียนนิยายรักใสๆวัยรุ่นชอบ ภาษาที่เราใช่้ออกมามันอาจจะขัดหูขัดตานักอ่านก็ได้เพราะผลพวงมาจากที่เราอ่านแฟนตาซีมากเกินไป ฉะนั้นเวลาเขียนนิยายแนวไหนก็ลองแอบส่องภาษาของนักเนียนแนวเดียวกันท่านอื่นๆดูได้นะคะ จะได้ปรับให้เข้ากับมือเราเองได้อย่างสละสลวย
/*ปล.2 ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ถุงเองก็ไม่ได้เก่งอะไร แต่เห็นว่าเป็นนักวาดมาก่อนเหมือนกัน ฮ่าๆๆ ^^a สู้ๆ
ขอบคุณมากเลยค่ะ ^0^ เราก็มักนึกภาพก่อนเช่นเดียวกัน เพราะรู้สึกมันเป็นวิธีที่บรรยายง่ายดีจริงๆค่ะ ฮ่าๆ(อย่างน้อยมาถูกทางแล้ว-..-)
งืม ส่วนสไตล์เหรอคะ..แต่เดิมเป็นนักวาดการ์ตูนที่ค่อนข้างหลายสไตล์เลยมักไม่ตายตัวเท่าไร แต่ที่ถนัดที่สุดอาจเป็นพวกดาร์ก เพราะงั้นเวลาถึงฉากต่อสู้จะดีเป็นพิเศษ(มันส์เลยละค่ะ)
เคยดูโฆษณาเกี่ยวกับวาทยากรคนไทยที่ไประดับโลกมั้ยครับ เขาบอกว่ากว่าเขาจะถึงจุดนั้นได้ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ แต่เป็นการฝึก ฝึก ฝึก และฝึก (ซ้อม ซ้อม ซ้อม และซ้อม)
หลายปีก่อนในรายการ TED เคยมีนักวิชาการมานำเสนองานวิจัยเกี่ยวกับความเชี่ยวชาญในแต่ละศาสตร์ เขาว่าสำหรับคนทั่วไปแล้ว การจะเก่งในศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งนั้นสามารถตัวชี้วัด 'เวลา' มาเทียบได้
"100" นาที ในการค้นหาตัวเอง
และ
"10,000" ชั่วโมงในการฝึกตัวเอง
ถ้าคุณผ่าน 100 นาทีแล้วพบว่าคุณชื่นชอบและสามารถอดทนจมจ่อมอยู่กับสิ่งที่ทำได้รอด นั่นก็พอบอกความเป็นไปได้แล้วว่าคุณมีความพร้อมมากพอจะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งกว่านี้ได้ แล้วเพื่อ 10,000 ชั่วโมงที่คุณจะเจอต่อไปนั้น คุณต้องมีการวางแผน ตั้งหลักไมล์เพื่อเช็คตัวเอง รวมถึงกำหนดขอบเขตการศึกษาเพิ่มเติมครับ
คนไทยส่วนใหญ่ชอบหาเส้นทางลัด คนนั้นคนนี้เขาว่าดีก็ทำตาม ไม่ได้คิดเลยว่าบริบทของแต่ละคนมันแตกต่างกัน ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยเชื่อครับว่าทางลัดมีจริง ใครที่เดินตามทางลัดที่คนอื่นเขาว่า ส่วนมากก็ฉิ.บห.า.ยกันทั้งนั้น
คุณนิยามคำว่าดีของคุณ เตรียมตัวให้พร้อม ค้นหาว่าตนเองยังขาดอะไร ศึกษาข้อมูล และมุ่งไปในช่วง 10,000 ชั่วโมง รวมถึงบันทึกข้อผิดพลาดทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพื่อเรียนรู้ที่จะไม่ผิดอีก ถ้าทำได้ก็การันตีได้ว่า ผลลัพธ์สุดท้ายต้องออกมาดีแน่นอนครับ
//เขียนจากประสบการณ์ปนกับทฤษฎีวิชาการเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะว่าตรรกะนี้ใช้ได้จริง
ว้าว..เป็นการแนะนำทฤษฎีที่มีหลักเหตุผลมากๆเลยค่ะ บ่งบอกได้เลยว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ 'เวลา' ในการพัฒนาตนเอง เพราะทำตามคนอื่นใช่ว่าจะดี...
ยอมรับว่าเพราะความเป็นเด็กส่วนหนึ่งเลยค่อนข้างใจร้อนอยากเก่งเร็วๆ แต่คำว่าเร็วๆคือคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ไม่ยอมพัฒนาต่อแน่ๆ _ _;;
อ่านผลงานดีๆ ให้เยอะๆ แล้วจึง
นำมาวิเคราะห์ว่ามันสนุกตรงไหน
ทำไมเราถึงชอบ ถึงสนุกกับเรื่อง
นั้นๆ
ลงมือฝึกฝนเขียนให้มากๆ ผิดบ้าง
ถูกบ้างก็แก้ไขได้อยู่นะครับ นานๆ
ไปก็จะผิดน้อยลงเอง ถ้าไม่แน่ใจ
เช็คในกุเกิ้ลก็ได้ครับ
อย่้างสุดท้ายที่สำคัญต้องมีความ
เอาใจใส่ ให้ความรัก แล้วก็ต้อง
มีความสุขกับงานเขียนที่เราแต่ง
ขึ้นมาครับ
ถ้าครบสามข้อนี้แล้วก็จะทำได้ดี
มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าปุบปับ
จะพัฒนาทันทีนะครับ ทุกอย่าง
ล้วนต้องใช้เวลา
สู้ๆ ครับผม ^^
ข้อสุดท้ายนี่เต็มร้อยแน่นอนค่ะ ที่ว่าให้ 'รัก' ในงานของตัวเอง ^^
ตอนนี้ยังลุ่นนิยายตัวเองอยู่เลย แปลกไหมคะ(ฮา)
ข้อสองกูเกิ้ลช่วยคุณได้จริงๆค่ะ เราใช้บ่อยมากจนเริ่มชินคำที่เขียนไม่เป็นแล้ว
ข้อหนึ่งส่วนใหญ่นิยายที่ใช่คือตัวละครนิสัยแปลกๆค่ะ(แบบนี้เราก็แปลกด้วยน่ะสิ 55)
และสุดท้ายเราขอขอบคุณกับคำว่าสู้ๆมากค่ะ มันคือกำลังใจที่ดีที่สุด
อย่าหยุดที่จะเขียนนิยายและปรับปรุงตัวเองค่ะ เพราะถ้าหากคุณหยุดเท่ากับคุณได้ปล่อยให้ความสามารถของคุณหลุดไปเช่นกันค่ะ
ไม่หยุดแน่นอนค่ะ เรากำลังสนุกไปกับมันอยู่จนหยุดไม่ได้เลยละ^^
การเขียนก็เหมือนการวาด ต้องฝึกไปเรื่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ จึงจะสำเร็จ
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ จะพยายามค่ะ
สู้สู้จ้าเป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณค่ะ ^+++^
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?