Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ปัญหาของเด็กที่คิดจะซิ่ว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ยาวหน่อยแต่โปรดอ่านหน่อยนะครับ ผมอยากได้ทางออกจริงๆ  

สวัสดีครับ ผมเรียนคณะทางสายนิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ผมเข้าคณะนี้ด้วยความรู้สึกที่คิดว่าตัวเองชอบ โดยที่พ่อแม่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก ตอนนี้กำลังจะขึ้นปี 2 คิดมาตลอดครับว่าอยากจะซิ่วหลังจากที่เรียนได้ไม่นาน เพราะหลังจากที่ได้เข้ามาเรียนทำให้ผมรู้ว่าบางครั้งความชอบกับการทำงานก็ไปด้วยกันไม่ได้ ตอนนี้ผมรู้ตัวว่าอนาคตจบไปผมไม่อยากทำงานด้านนี้เลย เพราะรู้สึกว่างานสายนิเทศ สื่อสารมวลชน เป็นสายงานที่กว้างเกินไป ไม่มีขอบเขตตายตัว โอกาสก้าวหน้าก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีหลายองค์ประกอบนอกจากความสามารถ แต่บุคลิกของผมส่วนตัวเป็นเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบวุ่นวายกับใครสักเท่าไหร่ แต่ชอบทำอะไรที่อยู่ในกรอบ ในกฎเกณฑ์ ชอบคิด ชอบวางแผน ชอบความเป็นระบบ ระเบียบ ทำให้รู้ว่าผมไม่เหมาะที่จะประกอบอาชีพทางสายนี้เลย

ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจช้าว่าจะซิ่ว เพราะก่อนหน้าตลอดเวลาที่ผ่านมาพ่อแม่ผมไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้เสียเวลาและเสียดายเงินที่เสียไป เพราะมันไม่ใช่แค่ค่าเทอมอย่างเดียว แต่รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่ากิน ค่าหอ เงินที่ลงทุนไปทั้งหมดต้องสูญเปล่า (เรื่องเงินเป็นปัจจัยที่ใหญ่ปัจจัยหนึ่งเลยครับ) แต่ผมก็เข้าใจที่พ่อแม่จะคิดแบบนั้น เพราะบ้านผมไม่ได้รวย พ่อแม่ทำงานโรงงาน ที่ผ่านมาพ่อแม่ส่งเสียให้ผมได้เรียนในที่ดีๆมาตลอด หมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน ค่าเรียนพิเศษต่างของผมไปก็เยอะ เมื่อเทียบกับอาชีพคนที่ทำงานโรงงานอย่างพ่อกับแม่ พ่อกับแม่จึงได้แต่บอกว่าในเมื่อเลือกแล้วก็เรียนให้มันจบๆไปเถอะ อย่าพึ่งไปคิดถึงอนาคตเลย การตัดสินใจจึงขึ้นอยู่กับพ่อแม่ครับ ถ้าพ่อกับแม่บอกแบบนี้ผมก็จะทำในสิ่งที่เรียนอยู่ให้ดีที่สุด แต่ในระหว่างทางความคิดที่ไม่อยากเรียนคณะนี้แล้ว ความคิดว่าอยากจะซิ่ว ก็มีผลุบๆโผล่ขึ้นมาให้คิดอยู่เป็นช่วงๆ

ล่าสุดพ่อโทรมาถามผมถึงเรื่องเรียน ว่าเป็นยังไงบ้าง ถามถึงปัญหาต่างๆ ว่าเป็นเพราะโน่นนี่หรือเปล่าที่ทำให้ไม่อยากเรียน และแนะนำให้ผมลองสอบถามจากรุ่นพี่ และปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาดูก่อน แต่ถ้ายังอยากจะซิ่วอยู่ก็จะลองคุยกับแม่ให้

ถึงตรงนี้ผมควรจะตัดสินใจยังไงต่อดี ความรู้สึกของผมมันก็อยากซิ่วอยู่แหล่ะครับ แต่พอปัญหาหนึ่งผ่านไปแล้ว ก็มักจะมีปัญหาใหม่ตามมาให้คิดอยู่เสมอ ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะตัดสินใจมันจะคุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไปหรือเปล่า

>>ทางเลือกกับสิ่งที่ผมต้องแลก<<
1.เรียนต่อคณะเดิม 
-อีกแค่ 2 ปีจบ 
-ไม่เสียเงินเพิ่ม
-ผมจะเรียนจบตอนอายุ 23(รับปริญญา 24) 
-อายุ 25 อาจจะยังไม่ได้เริ่มทำงานเพราะติดภาระเรื่องการเกณฑ์ทหาร (ผมไม่ได้เรียน ร.ด. ครับ)
ถ้าไม่ติดทหารทำงานได้เลย
ถ้าติดทหารก็อาจจะได้เริ่มทำงานจริงจังตอนอายุ 26 (มองในมุมว่าหางานได้เร็ว/งานหาง่าย)
***ข้อดี/ข้อเสียของทางเลือกนี้ก็คือ พ่อแม่จะได้หมดภาระเร็วๆในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องส่งเสียครับ แต่อาจจะไม่ได้ทำงานตามที่ตัวเองอยากทำ***

2.ซิ่วเข้าคณะใหม่ (บริหาร) ผมอยากเรียนบัญชี/การเงินครับ
-เริ่มปี 1 ใหม่ ในขณะที่เพื่อนจะขึ้นปี 3 เท่ากับผมเสียเวลา 2 ปี
-เสียเงิน
-ผมจะเรียนจบตอนอายุ 25 (รับปริญญา 26)
-อายุ 26 อาจจะยังไม่ได้เริ่มทำงานเพราะติดภาระเรื่องการเกณฑ์ทหาร
ถ้าไม่ติดทหารทำงานได้เลย
ถ้าติดทหารก็อาจจะได้เริ่มทำงานจริงจังตอนอายุ 27 (มองในมุมว่าหางานได้เร็ว/งานหาง่าย) 
*สิ่งที่ผมเห็นคือ งานธนาคารมักจะกำหนดอายุรับสมัครไม่เกิน 26*
!!!แต่ถ้ายังหางานไม่ได้ ก็เครียดนะครับ เพราะอายุจะ 30 แล้ว ยังไม่มีรายได้เลย ไม่รู้ว่าจะตั้งตัวได้เมื่อไหร่ เมื่อเทียบกับพ่อแม่ที่ไม่ได้เรียนหนังสือจบแค่ป.6 อายุ 20 ก็ต้องออกมาสู้ชีวิตด้วยตัวเองแล้ว!!!
***ข้อดี/ข้อเสียของทางเลือกนี้คือ ได้ทำงานตามที่อยากทำ(มองโลกในแง่ดี) แต่ภาระของพ่อแม่ถูกเพิ่มขึ้นจากเดิม

--ในสิ่งที่ผมคิด ในสิ่งที่ผมคาดการอาจมีข้อผิดพลาดหรือบกพร่อง เนื่องด้วยอาจจะยังขาดประสบการณ์ และความรอบรู้ หรือเป็นเพราะผมยังมองยังคิดไม่หมดเปลือก จึงอยากจะขอคำแนะนำจากทุกๆท่าน เพื่อนๆ และทุกๆคน ช่วยแนะนำและเพิ่มเติมผมด้วยนะครับ ผมจะได้มีทางเลือก และตัดสินใจอย่างแน่วแน่ซักที ผมไม่อยากอยู่ในสภาวะเอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ เพราะมันทำให้ผมเสียโอกาสในการตัดสินใจที่จะทำอะไรหลายๆอย่าง--


ขอบคุณมากจริงๆครับ.../\

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

momanddad 8 ก.ค. 58 เวลา 19:43 น. 1

เห็นใจน้องค่ะ ไม่อยากเรียนในสิ่งที่ไม่ใช่ แต่ก็เห็นใจพ่อกับแม่ของน้องค่ะ คงลำบากมิใช่น้อยกว่าจะหาเงินส่งเสียให้น้องได้ร่ำเรียน
จริงๆจะซิ่วก็ไปสอบได้เลยไม่จำเป็นต้องลาออก (พี่เข้าใจถูกใช่มั้ยค่ะ กฏระเบียบข้อนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลงใชมั้ย)
น้องก็ไปลองสอบดูก่อนสิค่ะ สอบติดก็ค่อยว่ากัน ไม่ติดก็เรียนที่เดิม อย่าเพิ่งคิดวุ่นวายไปกันใหญ่
แต่ถ้าน้องจะลาออกเพื่อรอซิ่ว พี่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง อะไรอะไรก็เกิดขึ้นได้ ความเครียดความกดดันจะเพิ่มทวีคูณ
ซึ่งค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเทอม ค่ากิน ค่าหอ ก็คงไม่ใช้น้อย แต่มันเป็นอะไรที่กันเหนียวไว้ก่อน น้องพอจะหางานพิเศษทำเพื่อช่วยแบ่งเยาภาระพ่อกับแม่ได้ไหมคะ
ถ้าสอบติดคณะบริหารและคิดจะเรียน น้องคงต้องหาทางช่วยผ่อนภาระพ่อกับแม่อีกเช่นกัน
เรื่องติดทหาร กับหางานทำ เรื่องนี้จริงๆ ก็ควรคิด แต่มันเป็นเหตุที่ไม่มีทางแก้เพราะมันยังไม่เกิด เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งคิดดีกว่า

ว่าแต่ว่า นิเทศมีตั้งหลายสาขา ไม่มีที่ถูกใจเลยจริงๆ หรือค่ะ แล้วน้องมั่นใจแน่ๆแล้วนะว่าอยากเรียนบริหาร
ไงก็พยายามเข้านะคะ สู้ๆ

2
kondin1 8 ก.ค. 58 เวลา 22:20 น. 1-1

ขอบคุณพี่มากนะครับ สำหรับคำแนะนำและกำลังใจ
ตอนนี้ผมคิดว่าจะเรียนปี 2 ไปเลย แล้วจะแบ่งเวลาอ่านหนังสือไปด้วย จากตอนแรกที่คิดว่าจะดรอปเรียนปี 2 เพื่อที่จะได้มีเวลาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบอย่างเต็มที่ และเพื่อที่จะช่วยพ่อกับแม่ประหยัดในส่วนของค่าเทอม (2 หมื่นกว่าบาท/เทอม) แต่มาคิดดูแล้วมันก็ไม่มีอะไรเป็นเครื่องยืนยันว่าผมจะสอบติดในคณะใหม่ คือถ้าผมสอบไม่ติดก็ต้องกลับมาเรียนซ้ำอยู่ดี พ่อกับแม่ก็กังวลในเรื่องนี้ เลยไม่เห็นด้วย ก็เลยบอกให้ผมเรียนไปเลย จะแอดใหม่ก็แอดไม่ห้ามแล้ว ถ้าสอบได้ก็ไป สอบไม่ได้ก็จะได้เรียนต่อปี 3 ไปเลย จะได้ไม่เสียเวลาซับซ้อน

ผมชอบนิเทศเพียงแค่จุดเล็กๆจุดหนึ่งครับ แต่สิ่งที่ผมไม่ได้ชอบและให้ความสนใจกับมันมีมากมาย ผมเข้านิเทศ เพราะตอนแรกตั้งใจอยากจะเป็นผู้ประกาศข่าวเท่านั้น แต่สิ่งที่ผมต้องเจอต้องเรียนในปัจจุบันจะเป็นงานเบื้องหลังส่วนใหญ่ ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่าทักษะทางการพูดการอ่านเป็นสิ่งที่ทุกคน ใครก็ได้สามารถที่จะเรียนรู้และพัฒนาได้ด้วยตนเอง และรู้แล้วว่าหนทางที่จะไปถึงการเป็นผู้ประกาศข่าวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องผ่านการแข่งขัน การประกวด การออดิชั่นต่างๆ และองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งผมไม่ชอบการแข่งขันลักษณะนี้เลยครับ

สิ่งที่พี่พูดก็จริงนะครับ อนาคตเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิด อย่าเพิ่งคิดดีกว่า เรื่องบางเรื่องมันแก้ไม่ได้ก็ต้องหันหน้าเข้าเผชิญกับมันสินะครับ

ขอบคุณพี่มากจริงๆครับสู้สู้

0
Nattawut Buangam 28 ก.ค. 58 เวลา 19:48 น. 1-2

เหมือนผมเลยครับ เป๊ะเลย เป๊ะมาก ผมอยากเป็นผู้ประกาศข่าว
ตอนนี้ผมที่นิเทศฯ แถวรังสิต ปี1 เพิ่งเรียนก็เริ่มรู้แล้วว่ามันไม่ใช่ล่ะ
คิดเหมือน จขกท เลยที่ว่า ทักษะทางการพูดการอ่านเป็นสิ่งที่ทุกคน ใครก็ได้สามารถที่จะเรียนรู้และพัฒนาได้ด้วยตนเอง และรู้แล้วว่าหนทางที่จะไปถึงการเป็นผู้ประกาศข่าวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ผมอยากซิ่วมากตอนนี้ เพราะความฝันของผมรองจากนิเทศฯ คือ ครู เครียดมากเลยครับเศร้าจัง

0
TASMRT 12 ก.ค. 58 เวลา 08:45 น. 3

ในฐานะเด็กซิ่วเหมือนกันนะคะ เปลี่ยนที่เรียนมา2ที่แล้ว
นี่กำลังจะเป็นที่ที่3 เราแนะนำว่าถ้าอยากซิ่ว ไม่มีใครจะตอบได้ดี
ไปกว่าตัวเราเอง ถ้าเราแน่ใจ ก็ลงมือทำเลยค่ะ
แต่ต้องเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น เช่น ถ้าเราคิดว่าจะซิ่ว ก็ต้องระวังค่าเทอม
ของเทอมต่อไป ที่จะต้องไม่เสียเปล่า คิดให้ดีๆว่าจะจ่ายหรือไม่
หรือการหาที่เรียนใหม่ ก็ควรจะเป็นที่ๆค่าเทอมถูกกว่าเดิม ถ้าไม่ฝืนใจอะไรก็ควรเลือกใกล้บ้าน

การอ่านหนังสือ อันนี้แล้วแต่ตัวบุคคลค่ะ เราอ่านประมาณครึ่งเดือน
ก่อนสอบแกทแพทครั้งใหม่ อ่านหนังสือไปประมาณ2-3เล่ม คะแนนออกมาค่อนข้างดี
ถ้าประเมินตัวเองแล้วว่าการเรียนที่คณะไปด้วยอ่านไปด้วยนั้น สามารถทำได้
ก็เลือกทางนั้นได้ค่ะ แต่เราประเมินตัวเองแล้วว่าเราทำไม่ได้ เพราะเราฝืนใจที่จะเรียน
ที่คณะด้วย เราเลยไม่จ่ายค่าเทอม เทอม2 แล้วใช้เวลาอ่านหนังสือแทน

ถ้าอยากเรียนจบเร็วๆ มหาลัยเปิดจริงๆแล้วก็เป็นทางเลือกที่ดีนะคะ
เราเข้าใจว่าถ้าเลือกได้ทุกๆคนก็อยากเรียนที่ที่มีชื่อเสียง เป็นความภาคภูมิใจ
พ่อแม่เราเองก็มีคนรู้จักในสังคมค่ะ แล้วลูกกำลังจะเรียนมหาลัยเปิด
เราเองก็เสียใจมาก ที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจไม่ได้
เรามีปัญหาเรื่องสังคมมหาลัยค่ะ ทุกๆที่มีระบบว๊าก เพราะเราไม่ยอม
เราเลยไม่อยากจะเสี่ยง ว่าที่ต่อไปจะมีอีกหรือเปล่า เราเลยตัดสินใจเลือกมหาลัยเปิดแล้วค่ะ
แม้ว่าอาจจะโดนดูถูก เพราะเราจบมัธยมปลายจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียง
มหาลัยสองที่ก่อนหน้านี้ก็เป็นมหาลัยดัง หลายๆคนก็กำลังมองว่าชีวิตตกต่ำลงเรื่อยๆ

สุดท้ายแล้ว ถ้าถามเรา เราคิดว่าควรจะซิ่วค่ะ แต่คิดให้รอบคอบ
วางแผนเรื่องต่างๆดีๆ อย่าเพิ่งเอาเรื่องอนาคตมาคิดค่ะ แค่เรียนจบให้ได้เร็วที่สุด
เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร ได้ปริญญามาก่อนจะดีกว่า
โชคดีค่ะ.

1
I_am_Kuslin 16 ก.ค. 58 เวลา 22:16 น. 4

เป็นเด็กซิ่ว 1 ปีค่ะ
จริงๆ อยากให้ซิ่วนะคะ แต่เข้าใจค่ะสำหรับปัญหาหลายๆ อย่าง
แต่คุณลองคิดดูนะว่าถ้าซิ่วแล้ว อนาคตดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น มีงานดีๆ ทำแน่นอนแล้วคุณจะรู้สึกเสียดายเงินและเวลาที่เสียไปไหม
การเรียนและทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบมันมีความสุขมากๆ นะคะ ลองเสี่ยงดูสักตั้ง ทุนฟรียังมี ไม่ก็กู้กยส. มีทางเลือกหลายอย่างนะคะ ลองคิดดูดีๆ 

1