ชอบโลกที่มีวิทยาการแบบไหนครับ (ถามทั้งคนเขียนกับคนอ่าน)

[Oregon Trail]

ตอนที่แล้ว
อาวุธ http://www.dek-d.com/board/view/3533848
เกราะ http://www.dek-d.com/board/view/3534189


โลกหนึ่งเป็นโลกที่มีวิทยาการเวทมนตร์ กับอีกโลกที่มีวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ โลก 2 ใบมีอารยธรรมและความเจริญก้าวหน้าเท่ากัน จะต่างกันที่วิถีสังคม วัฒนธรรม ประเพณี จริยธรรม การกีฬา สถาปนิก อุตสาหกรรม กฎหมาย การศึกษา การสื่อสาร การคมนาคม เศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง

ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องการสิ่งอื่น หมายความว่า โลกฝั่งเวทมนตร์ไม่ต้องการวิทยาศาสตร์ โลกฝั่งวิทยาศาสตร์ก็ไม่ต้องการเวทมนตร์

ชอบอย่างไหนครับ (ไม่นับแนวของนิยาย)

Comments

[♛รักหมอ♛]

เลือกเวทมนตร์เพราะอ่านแล้วนึกถึงอารมณ์แบบเมไจครับ ผมชอบแบบนั้นนะ ไม่ก็แบบแฮร์รี่ไปเลย ถ้าแบบออกแนวอนิเมะหน่อยรู้สึกไม่ค่อยโอ อนิเมะนี่น่าจะวิทยาการก้าวหน้ามากกว่าเนอะ ?

[SilverPlus]

ชอบโลกวิทยาศาสตร์ เพราะมี 7 ELEVEn //ดึกๆเวลาหิวจะได้ไม่ต้องไปไหนไกล

เอาจริงๆแล้วเพราะมันสะดวกสบาย จะทำอะไรก็ง่าย มีรถยนต์ โรงแรม มือถือ GPS และอะไรอีกหลายๆอย่างที่ช่วยให้ตัวละครดำเนินเรื่องได้ง่าย

[White Frangipani]

สวัสดีค่ะ

"ชอบอย่างไหนครับ (ไม่นับแนวของนิยาย)"

ช่วยๆๆ เม้นต์ค่ะ ชอบประเด็นแบบนี้ ช่วยเม้นต์นะคะ

 
กระทู้นี้บังเอิญมากๆๆเลยค่ะ มีอารมณ์อึนๆๆ (กำลังคิดๆอยู่ค่ะ)อยู่พอดี  เกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้นะคือมีอารมณ์ตรงกับตรงนี้พอดีค่ะ...

(ไม่นับแนวของนิยาย)

กำลังมีอารมณ์แบบนี้โดยบังเอิญนะคะ คือว่าเป็นคนช่างคิด แต่ไม่ไช่คนที่ซีเรียสหรือคนที่เครียดกับอะไรๆง่ายๆหรือบ่อยๆนั้นไม่ไช่นะคะ เป็นคนชอบคิดค่ะ ช่างคิด คิดมาก คิดไกล (คิดไปเรื่อยเปื่อยมีความคิดจิตแจ่มใส555 ใช้ความคิดเมื่อไรรู้สึกว่าเรายังมีชีวิตอยู่ ความคิดคือชีวิตและจิตใจนะคือความรู้สึกเพาะฉนั้นชอบปลดปล่อยความคิดค่ะ ปล่อยล่องลอยเล่นๆสนุกๆนะ)


และก็ไม่ชอบการคิดแบบนิยายหรือแฟนตาซีบ่อยๆนั้นไม่ชอบค่ะ หากคิดไปไกลๆแบบนั้นเมื่อไรนะ รู้ตัวสดุ้งสุดตัว มีอาการคล้ายสติตื่น ตกใจ ดึงกลับมาอยู่กับความจริง555 สติบอกเราคล้ายกับว่า..."บ้าแล้วนะนั้น ตื่นๆมาอยู่กับความจริงสิ"  (รู้ตัวแบบนี้เมื่อไรนะรู้สึกอายๆตัวเองทุกครั้งค่ะ ใกล้บ้าจริงหล่ะเรา ดีนะที่มีสติช่วยคอยเตือนเป็นได้เช่นเซ็นเซ่อร์  ไม่อย่างนั้นคงแย่แน่เลย555 )


คือไม่ชอบความเพ้อเจ้อหรือฝันเฟื่องค่ะ...เท้าความ(ไป)ยาวๆๆเลยขออภัยค่ะ กลับมาเข้าประเด็นของเจ้าของกระทู้ดีกว่านะคะ...

ไม่นับแนวของนิยาย

ที่จะเล่านี้ ไม่ไช่นิยายหล่ะ (ไม่ไช่นะคะ) วันนี้วันหยุด หลังจากที่หามงานเก็บเงินมาหลายปีตั้งใจอยากให้ของขวัญชิ้นใหม่ให้กับตัวเองค่ะ (ตั้งใจมาสองปีแล้ว จะต้องสอยลงมาให้ได้  มีความหวัง หวังคล้ายเด็กๆที่อยากได้ตุ๊กตาตัวใหม่แบบนั้นนะ ^__^)

คือวันนี้ได้ไปทดลองสิ่งที่เป็นเทคโนโลยี่ค่ะ (โดยส่วนตัวยอมรับศรัทธาความเป็นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ค่ะ)ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ม๊ากๆๆๆๆ ค่ะ  สิ่งแบบนี้(ในลิ้งค์ค่ะ)เกิดขึ้นไม่ได้หากเทคโนโลยี่ไม่มีการบังเกิดขึ้นหรือพัฒนามาจนถึงวันนี้ แบบนี้ค่ะ....ไปดูกันเลยค่ะว่าอะไร สนุกตื่นเต้นมากๆไปลองมาสดๆค่ะ (มีอยู่แล้วรุ่นก่อนหน้านี้แต่อยากได้ของใหม่ คนทันสมัยต้องเปลี่ยนเนอะ)
นี่ค่ะ ....

ฮ้า....สะใจมากชอบมากค่ะ วิ่งน่าดู  รูปแบบการออกแบบ สะใจถูกใจระบบขับเคลื่อนถูกใจจริงๆๆ กรี๊ดดด (ราคาก็น่าพอใจ) แต่.....แรงม้าไม่ถึงใจนี่สิ(กุมขมับผิดหวังเล็กน้อย) มีที่แรงสุดๆที่ 350 แรงม้า 


จึงไปต่อที่นี่ค่ะ(ลิ้งค์ข้างล่าง) ไปลองเลย...แต่คันนี้ต้องสั่งนะ เป็นอะไรที่พิเศษมาก มหัศจรรย์แห่งโลกวิวัฒนาการ หรือโลกแห่งเทคโนโลยี่ เป็นผลงานการสร้างจากสมองของคน เป็นอะไรที่น่าพิศวง(หรือเปล่า ดูนะคะ)

คนนะที่สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้อย่างไรกัน รู้สึกแบบนั้นค่ะ ชอบๆๆๆๆ กรี๊ดดดดด 500 แรงม้าสะใจ รูปแบบการออกแบบลงตัวสุดๆ  ตื่นเต้นและภูมิใจในวิวัฒนาการพัฒนาแห่งเทคโนโลยี่ เห็นได้สัมผัสได้เลยทีเดียวจับต้องได้ด้วย กรี๊ดดด  ชอบอะไรแบบนี้ค่ะ...ไปดูด้วยกันนะคะ



ฮ้า....ชอบอะไรแบบนี้ค่ะ ชอบๆๆได้สัมผัสได้เสพแล้วเป็นสุข คนเรานี่เก่งจริงนะ ทั้งสองคลิปนี้เป็นเพียงความรู้สึกภาคภูมิใจที่ยกมาเป็นตัวอย่างเท่านั้นนะคะ ทุกๆอย่างที่เป็น ไฮเทคหรือวิวัฒนาการแห่งเทคโนโลยี่นั้นชอบหมดค่ะ 

นี่ไม่ได้คิดในแนวนิยายนะคะ นี่เรื่องจริงค่ะ (ไปลองมาจริงค่ะวันนี้ บังเอิญจริงนะ มาเจอกระทู้นี้) อยากเปลี่ยนรถให้เป็นของขวัญตัวเองค่ะ ไปลองมาวันนี้สนุกมากเลย  แต่ต้องนับตังค์ที่ทุบออมสินก่อนนะว่าจะพอหรือเปล่า(นี่ไม่ไช่นิยายนะคะ ไม่ไช่นะคะ  จินตนาการก็ไม่ได้สิ่งที่อยากได้นี้มาหรอกนะ  จินตนาการไม่ได้นะ จินตนาการได้คงดีเนอะ อยากได้ อยากได้จริงนะ ฮื้อออ ) นี้เป็นเรื่องเล่าที่อยากให้ตรงประเด็นของกระทู้ค่ะ  (ไปลองมาจริงค่ะ สนุกมากเลย^__^)


แท้จริงเจ้าของเม้นต์นี้เชื่อว่า "โลกแห่งเวทมนตร์" หากคุณหมายว่า "เวทมนตร์"นั้นคือความเชื่อ เช่นความเชื่อที่มีต่อศาสนาเป็นต้นนะคะ (แบบนั้นไช่ไหมคะ) หากไช่ ดิฉันเข้าใจว่า


"โลกหนึ่งเป็นโลกที่มีวิทยาการเวทมนตร์ กับอีกโลกที่มีวิทยาการทางวิทยาศาสตร์"...คือโลกใบเดี่ยวกันค่ะ ความเชื่อ(ความเชื่อที่ว่าเกิดขึ้นได้)ก่อให้เกิดเป็นวิทยาศาสตร์ (เมื่อมีความเชื่อว่าเกิดขึ้นได้เป็นได้คนจึงพยายามทดลองและก็ทำสาเร็จมากมายด้วยความที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ เช่นสองสิ่งในคลิปเกิดขึ้นได้จากความเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้เขาทั้งหลายจึงทำให้เกิดขึ้นได้จนสำเร็จ  แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหรือจุดประกายจากความเชื่อค่ะ)


โลกแห่งวิทยาศาสตร์นั้นมีอยู่จริงในวันนี้ที่เราๆเห็น เป็นๆอยู่นี้ หลายสิ่งหลายอย่างที่สำคัญมากต่อการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อยู่ได้ต่อไปอย่างสุขสบายเพราะวิทยาศาสตร์ เช่นหลายๆคนรอดชีวิตจากการเจ็บป่วยด้วยเทคนิคและวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยเป็นต้น

เพราะฉนั้นแท้จริงสองสิ่งนี้คือสิ่งเดี่ยวกันค่ะ ไม่มีความเชื่อ วิทยาศาสตร์ก็ไม่เกิดขึ้นค่ะทั้งหมดนี้คือความจริงค่ะ

และ...วิทยาศาสตร์แท้จริงคือความจริงที่มนุษยชาติสามารถพิสูจน์ได้ว่า จิตนาการบางอย่างสามารถเกิดขึ้นได้จริงค่ะ ผลผลิตจากเทคโนโลยี่แท้จริงคือ หลักฐานแห่งปัญญาของมนุษยชาติค่ะ คือความจริง  และนี่คือ...ความจริงที่มหัศจรรย์และอภินิหารย์ของ คน ค่ะ  (ผลงานหรือเปล่าหล่ะ น่าภูมิใจนะคะที่เกิดมาเป็นคน)

(ในที่นี้การทดลองที่เกิดเป็นผลที่บางครั้งลองผิดลองถูกนั้นก็เกิดขึ้นได้เช่นกันนั้นก็เป็นธรรมชาตินะคะ ถูกบ้างผิดบ้างนั้นเป็นกฎแห่งธรรมชาติของโลกนี้ค่ะ)

และแน่นอนโลกที่เขาทั้งหลายสร้างจะเกิดเป็นทุกอย่างตามความต้องการที่เขาอยากจะให้เป็นในที่สุดค่ะ (คอยดูสิว่าจะเป็นเช่นไรในที่สุด...)


นี้คือความเชื่อของดิฉันค่ะ  ดิฉันมีความศรัทธาในความเชื่อและ...เช่นเดียวกับ มีความศรัทธาในเทคโนโลยี่ค่ะ  (เพราะเข้าใจว่าแท้จริงทั้งสองนี้คือสิ่งเดียวกันนั้นเอง)


โอยยยยยยยยยยยยยย (เหนื่อยๆๆ นิ้วหงิก พิมพ์ยาวๆๆ ) แต่ก็ชอบพิมพ์ค่ะ เพื่อนๆท่านใดอ่านไม่ไหวกรุณาข้ามไปนะคะ ^____^

[valerie[วิฬารี]]

ชอบวิทยาศาสตร์..มันดูเป็นไปได้..และไม่เพ้อหาผู้วิเศษผู้มีบุญ

แต่มันก็นึกสะท้อนใจ เพราะนิยาย-หนังแนวๆนี้..เสพได้จากสื่อตะวันตกเท่านั้นเอง
(เอเชียก็มีชาติเดียวที่ผลิตสื่อบันเทิงแนวไซไฟได้เข้าท่า...คือญี่ปุ่น)

ของแบบนี้มันสะท้อนได้จากสื่อบันเทิงเหมือนกันนะ
อย่างหนังฮอลลีวู้ด นำเสนอซูเปอร์ฮีโร่ที่มากับอุปกรณ์ไฮเทคล้ำยุค เช่น Iron Man
จริงอยู่ว่าหลายสิ่งเป็นแค่จินตนาการ แต่ฝรั่งเขาก็ถือว่าเป็นการปลูกฝังวิธีคิด
ใครจะรู้สักวันอาจมีเยาวชนที่ได้แรงบันดาลใจแล้วประดิษฐ์อุปกรณ์แบบในหนังขึ้นมาก็ได้
และนั่นจะเป็นการพลิกประวัติศาสตร์นวัตกรรมโลกไปเลย

แต่นิยาย-หนังของบ้านเรา..แทบไม่มีการปลูกฝังอะไรอย่างนี้เลย
มีนิยายเรื่องนึงดังพอควรและกำลังจะได้เป็นละคร 
ตัวเอกเป็นแนว Anti-hero ที่ใช้ไสยศาสตร์ในการล้างแค้นแทนพ่อ
เอิ่ม..มันสร้างแรงบันดาลใจตรงไหนคะ? 
คือจะให้ดื่มด่ำซาบซึ้งกับความงมงายแล้วจะพัฒนาประเทศไปสู่ไสยเวทเหรอ?

[ยมทูตสีขาว.!]

     อ่า... ไม่นับแนวของนิยาย
ปกติก็เลือกวิทยาศาสตร์อยู่แล้วแหละ
ชอบโลกที่มีทุกอย่างก้าวหน้า
มีเรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายได้
ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแฟนตาชีทำนองนั้นหรอกน่ะ
ชอบ.. มันแน่อยู่แล้ว
แต่มันก็เป็นไปไม่ได้จริงมั้ย
จะให้คิดถึงแต่โลกเวทมนต์งั้นเหรอ?
ล้อเล่นน่า จะพาโลกไปสู่ของที่ไม่มีเป็นไปไม่ได้หรอก ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก คงลำบากน่าดู.
มนุษย์ตอนนี้คงขาดเครื่องอำนวยความสะดวกยากเนอะ ไม่ว่าจะ แอร์ TV โทรศัพท์ ฯลฯ มันก็มาจากวิทยาศาสตร์ทั้งนั้นแหละ จะให้จมอยู่กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?? 

[v-kun]

ผมชอบทั้งคู่ และเขียนได้ทั้งคู่ครับ แต่เวลาเขียนโดยเฉพาะเวทมนตร์ ผมจะคำนึงเสมอว่า "เวทมนตร์ก็เป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง" นั่นคือในโลกที่ผมเขียนเวทมนตร์นั้นเกิดจากการที่ "กฏ" ของโลกนั้นไม่เหมือนโลกของเรา ทำให้เวทมนตร์สามารถถูกใช้ได้ และวิทยาศาสตร์อาจไม่ได้รับการพัฒนาเพราะมีเวทมนตร์อยู่แล้ว ถึงกระนั้นเวทมนตร์ก็ต้องมีขอบเขต การจะเก่งได้ต้องมีการเรียนรู้ ฝึกฝน 

[อรนามฤณ]

คุ้นชินกับวิทยาการ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ทำความเข้าใจได้ง่าย
แต่เวทมนตร์ก็ชอบ เพียงแต่ไม่ค่อยเข้าใจมากกว่า