Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เวลาเขียนนิยาย มีวิธีเขียนพล็อต การดำเนินเรื่องกันอย่างไรบ้างคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เริ่มเขียนหนังสือมานานแล้วค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเขียนเรื่องสั้นมากกว่า  แต่มีเขียนเรื่องยาวอยู่ 3-4 เรื่อง  แต่ก็เขียนไปแบบไม่มีแบบ ไม่มีแผนอะไรเลย เขียนไปเรื่อย ๆ ตามความชอบ แฮ่...

พอมาเข้าเด็กดี เพิ่งจะรู้ มันต้องมีการวางพล็อต วางแผนการเขียน กำหนดตัวละคร ซึ่งไม่เคยทำเลย ><

ก็เลยอยากรู้ว่า  เพื่อน ๆ มีวิธีเขียนกันอย่างไรบ้างคะ ^_^

แสดงความคิดเห็น

>

17 ความคิดเห็น

vanaya 26 ก.ค. 58 เวลา 20:16 น. 1

แฟนตาซีเรื่อง Rainbow's Curse ปริศนาสายรุ้งต้องคำสาป 
-เรื่องนี้เขียนไปได้ 1 บท แล้ว เราถึงจะเขียนพล็อตเรื่องได้ค่ะ พล็อตเรื่องเราก็ตั้งแต่ต้นจนจบเลย พอเขียนจบแล้วก็ไม่ได้ต่างจากพล็อตที่วางเอาไว้สักเท่าไหร่ค่ะ
แฟนตาซีเรื่อง The Puppet หุ่นเชิดจักรกลสังหาร
-เรื่องนี้มีพล็อตในหัวแบบเป็นเงาลางๆอะค่ะ คือแบบตอนเขียนก็แค่อยากจะเขียนเอามัน เขียนไปได้ 10 บท ถึงจะเพิ่งมีพล็อตในหัวอะค่ะ กว่าจะได้พล็อตเรื่องนี้เกือบตัน เกือบดองกันเลยทีเดียวค่ะ ฮ่าๆ

ปล.ขออภัยที่แอบขายของค่ะ (-*-')

2
Whiteflower Ri 26 ก.ค. 58 เวลา 20:28 น. 1-1

เก่งจังเขียนได้แบบไม่ออกทะเล ฮา...

ทั้งสองเรื่องได้แรงบันดานจากอะไรคะ

ขายได้ค่า แต่ต้องเก็บค่าโฆษณานะคะ ล้อเล่นนนนนน^^

0
vanaya 26 ก.ค. 58 เวลา 21:52 น. 1-2

เรื่อง ปริศนาสายรุ้งต้องคำสาป ได้จากการนั่งมองท้องฟ้าที่ระเบียงค่ะ
ส่วนเรื่อง หุ่นเชิดจักรกลสังหาร ได้จากนั่งอ่านพิน๊อคคิโอ้ให้ลูกสาวฟังทุกวันนะคะ 5555555 แต่เขียนออกมานี่คนละเรื่องกับพิน๊อคคิโอ้เลยค่ะ ^^

0
-Trix- 26 ก.ค. 58 เวลา 20:29 น. 2

ที่เราทำนะคะ  ก็มีกำหนด แก่นเรื่อง(Theme) พล็อต(Plot) ฉากและสถานที่(Setting) วิธีเล่าเรื่อง(Point Of View) ตัวละคร (Character) แล้วก็ฉากจบ (Ending)

จากนั้นก็ร่างโครงเรื่อง โดยลำดับเหตุการณ์ว่า จะให้มีเหตุการณ์อะไรจากจุดเริ่มไปจนจุดจบ เหมือนการตีกรอบไว้คร่าวๆ แต่พอลงมือทำแล้ว มันจะมีพลิกแพลง เปลี่ยนเหตุการณ์ไปบ้าง แต่ยังคงดำเนินตามรอยโครงเรื่องที่เราวางเอาไว้

ประมาณนี้ค่ะ หาอ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.dek-d.com/writer/tip/

1
Whiteflower Ri 26 ก.ค. 58 เวลา 21:15 น. 2-1

ขอบคุณค่า...แบบนี้ไม่มีทางออกนอกกรอบที่วางไว้เลยใช่ไหมคะ^^

0
อัจฉราโสภิต 26 ก.ค. 58 เวลา 20:51 น. 3
ถ้าจะเอาตั้งแต่ต้น สำหรับผม

ก่อนอื่นผมรวบรวมไอเดียครับ สิ่งที่อยากเขียนที่สุดมันมักจะมาในหัวก่อน แต่มันก็จะมีไอเดียอื่นๆปนมาด้วย ก็ค่อยๆรวบรวมเอาไิเดียที่มักจะไม่เขากันพวกนั้นเข้าด้วยกัน ตบๆ ให้มันเข้ากัน แปลงบ้าง บิดบ้าง

พอได้ไอเดียคร่าว ก็มาลงไอเดียละเอียด อยากเขียนตัวละครแบบไหน เนื้อเรื่องแบบไหน มีอะไรอยู่ในเนื้อเรื่องบ้างอย่างละเอียด ค่อยๆเชื่อมโยงมันเข้าด้วยกันด้วยเหตุผลของเรื่อง ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ พวกข้อมูลเฉพาะของแต่ละอย่างในเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน สภาพบ้านเมือง ลักษณะนิสัยของตัวละคร หรือถ้าเป็นแฟนตาซีก็รายละเอียดทางแฟนตาซีต่างๆ ก็จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาตอนนี้ครับ

พอได้ไอเดียละเอียด ทีนี้ก็มาเป็นพล็อต นั่นคือการวางว่าเรื่องเกิดขึ้นได้ยังไง และจะจบลงได้ยังไง (เงื่อนไขเริ่ม เงื่อนไขจบ) เหตุการณ์ต่างๆที่คิดเอาไว้มันจะมาตอนไหน มันจะส่งผลยังไงกับตัวละคร ส่งผลยังไงต่อเนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องโดยรวมจะเดินไปทางไหน

พอได้พล็อตหลัก ก็เป็นพล็อตหลักแบบละเอียด เหตุการณ์ใหญ่ๆแต่ละอย่างประกอบด้วยเหตุการณ์ย่อยๆอะไรบ้าง หรือต้องการจะใส่รายละเอียดอะไรลงไปในเหตุการณ์นั้นๆบ้าง ขั้นนี้อาจจะได้พล็อตของแต่ละตอนแล้วก็ได้ครับ แต่ถ้ายังไม่ได้ ผมก็จะเขียนพล็อตของแต่ละตอนต่อ ว่าตอนนี้มีแบบนี้ๆ ต้องเริ่มที่นี่และจบที่นี่ มีเหตุการณ์แบบนี้ๆ อยู่ในตอน

พอมาถึงขั้นมีพล็อตของแต่ละตอน ก็เริ่มเขียนได้แล้วครับ ละเอียดกว่านี้ก็เริ่มเรียกได้ว่าเสียเวลาแล้ว เขียนไปเลยดีกว่า ซึ่งพล็อตของแต่ละตอนนี่ เวลาเขียนจริงอาจจะเปลี่ยนก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องตรงเป๊ะ แต่ควรจะเป็นไปตามพล็อตหลัก ไม่ใช่เปลี่ยนทางไปจนกลับมาไม่ได้

ตัวอย่างพล็อตแต่ละตอนของผม


14
Whiteflower Ri 26 ก.ค. 58 เวลา 21:17 น. 3-1

หืม........สุดยอดเลยค่ะ วางอย่างละเอียดมาก ๆ ^^

ชอบการบรรยายตัวละครของคุณจัง เหมือนสัมผัสตัวตนนั้นได้จริง ไม่ใช่คนในเทพนิยาย แอบขำเลยค่ะ

0
อัจฉราโสภิต 26 ก.ค. 58 เวลา 21:34 น. 3-2

ที่เริ่มละเอียดมักจะเป็นตอนหลังๆครับ เพราะเงื่อนไขจะเริ่มเยอะ ปมเริ่มเยอะ ยิ่งบางตอนที่เป็นฉากต่อสู้หรือสงครามนี่ยิ่งรายละเอียดเยอะ ผิดไม่ได้ด้วย

แล้วผมก็มีเวลาเขียนค่อนข้างน้อย กว่าจะได้มาเขียนก็มักจะลืม เนื้อหาตอนก่อนหน้าก็ยังลืม ดังนั้นว่างเมื่อไหร่ต้องวางแผนแล้วจดให้ละเอียดกันลืม แต่ขนาดจดแล้วลืมจุดใหญ่ๆไปก็ยังมี

ตอนแรกๆนี่ไม่ได้ถ่ายมาให้ดู พล็อต 25 ตอนแรกนี่ แต่ละตอนบรรทัดเดียวทั้งนั้นครับ

0
Whiteflower Ri 26 ก.ค. 58 เวลา 21:39 น. 3-3

ดูนิยายของตัวเองแล้ว กลุ้มเลย ฮา...
แต่ก่อนเขียนเพราะชอบ ไม่เคยวางแผนอะไรกับเขาเลย ในนิยายมีแค่ 2 ตัวละครหลัก เอ๋...!! แบบนี้มันจะเป็นนิยายได้เหรอเนี่ย...>< ก็เลยคิดว่า จะต้องปรับปรุงตัวละครเพิ่มเข้าไป ให้มีบทบาทมากขึ้น

0
อัจฉราโสภิต 26 ก.ค. 58 เวลา 21:46 น. 3-4

จริงๆมันแล้วแต่คนครับ ว่าจะวางแผนหรือเปล่า ถ้าสามารถคุมเรื่องได้ ความจำดี ความคิดเป็นระเบียบ RAM เยอะ (คือสามารถประมวลผลเนื้อเรื่องไปพร้อมๆกับเขียนได้) แบบนี้ต่อให้ไม่ต้องวางแผนเลยก็อาจจะสามารถจบได้แบบไม่เละเทะไม่ออกทะเลครับ

แต่ถ้ารู้ตัวว่าคุมเรื่องไม่ค่อยอยู่ พอไม่มีพล็อตแล้วอะไรต่อมิอะไรโผล่มากันเต็มจนเรื่องยืดจบไม่ลง เขียนพล็อตแบบละเอียดเถอะครับ เพื่อความสบายใจของคนเขียนเอง

จำนวนตัวละครก็ไม่เกี่ยวครับ นิยายบางเรื่อง ตัวละครหลักๆแค่ตัวเดียว ตามติดชีวิตคนคนเดียว ก็สามารถเป็นเรื่องได้เหมือนกัน บางทีตัวละครถ้าออกมาเยอะไป แจกบทไม่ได้ มันก็ทำให้เรื่องเละและไม่น่าสนใจได้เหมือนกัน

0
vanaya 26 ก.ค. 58 เวลา 21:55 น. 3-5

สุดยอดวางพล็อตแต่ล่ะตอนด้วย (*0*) ของเราแต่ล่ะตอนมีแค่ชื่อตอนค่ะ เป็นไกด์ไลน์ว่าตอนนั้นจะต้องเขียนอะไรต่อเท่านั้นเองค่ะ ฮ่าๆ คุณอัจฉรา สุดยอด!

0
Whiteflower Ri 27 ก.ค. 58 เวลา 00:30 น. 3-7

3-4
ไว้จะต้องหัดเขียนบ้างแล้วล่ะค่ะแรมเริ่มเสื่อม อิอิ แต่ถ้าเขียนแบบคุณสงสัยแค่พล็อตก็อาจจะเขียนไม่จบนี่สิคะแย่แน่เลย

0
อัจฉราโสภิต 27 ก.ค. 58 เวลา 05:53 น. 3-8

จริงๆพล็อตย่อยในแต่ละตอนนี่ผมไม่ได้คิดมันทุกตอนตั้งแต่เริ่มนะครับ อย่างที่ว่า ตอนแรกมันเป็นแค่พล็อตคร่าว แล้วก็มาพล็อตละเอียด ว่าช่วงนี้ ตั้งแต่ตอนนี้ถึงตอนนี้จะต้องมีอะไรบ้าง พอเริ่มใกล้ๆ จะได้เขียนตอนนั้นจริงๆ (ราวๆอีกสัก 5-10 ตอน) ก็ค่อยคิดรายละเอียดของแต่ละตอนครับ

ถ้าให้เขียนละเอียดทุกตอนตั้งแต่ต้น นอกจากยากมากและเปลืองเวลาตอนต้นแล้ว ยังไงๆ ก็ต้องมาแก้อีกทีอยู่ดีโดยเฉพาะตอนหลังๆครับ เพราะระหว่างเขียนไป บางอย่างที่เคยคิดไว้มันก็เขียนไม่ได้ ไม่สมจริง ไม่เหมาะกับเนื้อเรื่องจริง หรือมีไอเดียใหม่ๆเข้ามาครับ

0
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 16:41 น. 3-10

3-2
สุดยอดเลยค่ะ เรื่องที่เขียนอยู่ได้แรงบันดาลใจมากจากอะไรหรือคะ แล้วถ้าเกิดคิดเหตุการณ์ได้ 2 อย่าง แล้วต้องตัดสินใจเลือกว่าจะเอาแนวไหนดี มีวิธีช่วยในการตัดสินใจเลือกไหมคะ เขียน ๆ ไปแล้วตัดสินใจไม่ถูก


3-9
น้องปลิ้น เดินรอยตามมืออาชีพเลยนะ ^^

0
อัจฉราโสภิต 28 ก.ค. 58 เวลา 19:44 น. 3-11

เรื่องปัจจุบัน แรงบันดาลใจอันดับแรกมาจากการ์ตูนครับ เรื่อง Kannagi - Crazy Shrine Maiden เนื้อเรื่องของเรื่องนั้นคือพระเอกไปเอาไม้จากที่เขาตัดต้นไม้ประจำศาลเจ้ามาแกะสลัก แล้วรูปสลักนั้นก็กลายเป็นนางไม้มาอยู่ในบ้าน

ก็เลยอยากลองแปลงเป็นเวอร์ชั่น (คล้ายๆ) ไทยดู เปลี่ยนนางไม้เป็นนางตานีแทน แต่นางตานีตามท้องเรื่องของไทยดูหื่นไปหน่อย (ตกดึกๆก็ย่องเข้าห้องชาวบ้านทำเป็นสามี) เลยเหลือไว้แค่มาจากต้นกล้วยและผูกพันกับต้นกล้วยเท่านั้น ที่เหลือคิดเองทั้งหมด

แรงบันดาลใจอีกเรื่องคือ Yozakura Quartet เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเมืองที่มีทั้งมนุษย์และปีศาจต่างๆอาศัยอยู่ด้วยกัน มีปีศาจหญิงเป็นเจ้าเมือง

ทีนี้ผมชอบเรื่องปืน เรื่องอาวุธสงครามแบบปัจจุบันอยู่แล้ว แล้วก็เคยคิดโครงเรื่องการปราบผีด้วยอาวุธสงครามเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่คราวนั้นไปไม่รอด

สุดท้ายก็เลยจับทั้งหมดมาผูกกันเป็น "ไอเดียคร่าว" ว่า ตานี เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีกำเนิดมาจากต้นกล้วย เป็น "วิญญาณผู้พิทักษ์เมือง" คือมีหน้าที่ปราบภูตผีปีศาจที่ก่อกวนชาวเมือง ปราบผีด้วยอาวุธสงคราม ใช้ปืนแบบปัจจุบันเป็นอาวุธหลัก แต่เพราะเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น นางเอกซึ่งเป็นตานีจึงต้องหนีมาอาศัยอยู่กับพระเอกซึ่งเป็นมนุษย์ และนางเอกมีนิสัยแข็งๆ คล้ายกับของ Yozakura Quartet ครับ

ที่ถามว่าคิดออกมาได้สองอย่างนี่ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจคำถามทั้งหมดครับ คงต้องยกตัวอย่างให้ละเอียดกว่านี้ เหตุการณ์เป็นยังไง สองอย่างนั้นเป็นทางเลือกของเหตุการณ์เดียว หรือว่าเป็นสองเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย หรือเป็นสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยกันไม่ได้เพราะขัดแย้งกัน ฯลฯ ทุกแบบผมใช้คนละวิธีหมดครับ

0
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 20:13 น. 3-12

โห...ไฮเทคมาก วิญญาณผีตานี ปกป้องเมืองด้วยอาวุธสมัยใหม่ สุดยอดเลยค่ะ ไอเดียบรรเจิดมาก ชอบจัง ตรงที่แปลงมาเป็นผีตานีแบบไทย ๆ

เรื่องแฟนตาซีที่เราเขียน ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนเหมือนกันค่ะ เป็นการ์ตูนที่ชอบมากกกก ในเรื่องพระเอกเป็นอสูร มีคนทำนายว่า จะมีผู้มาเยือนมาปลุกอสูรในตัวพระเอกให้ตื่น พระเอกเลยตั้งใจจะมาฆ่าผู้มาเยือน เราก็เอามาแปลงผู้คนจะตามหาดาบวิเศษ ดาบนั้นจะกลายเป็นดาบวิเศษได้ เมื่อมีผู้อ่านคาถาโบราณบนดาบ ดาบจึงจะกลายเป็นดาบวิเศษได้ พระเอกได้รู้คำทำนายว่า ผู้อ่านคาถาจะปรากฏตัว จึงตามไปฆ่าผู้อ่านคาถา แต่ว่า ผู้อ่านเป็นคนใจดีมีเมตตา พระเอกเลยฆ่าไม่ลง เลยกลายเป็นผู้ปกป้องผู้อ่านคาถา ทีนี้พระเอกมีพลังเย็นที่แฝงตัวอยู่ในร่างกาย เพราะปิศาจหิมะ เลือกพระเอกมาเป็นทายาท แต่พระเอกปฏิเสธ ไม่ยอมรับ ทีนี้เรากำลังคิดว่า อะไรทำให้ปิศาจหิมะถึงเลือกพระเอกเป็นทายาทดี ก็คิดไว้ 2 แนวทาง ทางแรก เพราะปิศาจหิมะเป็นพ่อพระเอก แต่พระเอกไม่รู้ จะรู้ตอนหลัง อีกทางที่คิดไว้ เพราะพ่อพระเอกเอาปิศาจหิมะไปขังไว้ด้วยคาถา และคาถานี้จะถูกปลดปล่อยได้ถ้ามีผู้ทรงคุณธรรมเท่านั้นที่จะเปิดประตูนี้ได้ ก็คิดไว้ในหัว ว่าจะเอายังไงดีหว่า

ก็เลยอยากถามว่า เราจะมีวิธีช่วยในการตัดสินใจยังไงดีคะ

0
อัจฉราโสภิต 28 ก.ค. 58 เวลา 20:41 น. 3-13

คิดเรื่องจากต้นจนจบก่อนครับ กำหนดให้แน่นอน (หรืออย่างน้อยก็ให้แน่นอนในตอนนี้) ก่อนว่าปีศาจหิมะจะมีบทบาทยังไง พ่อพระเอกมีบทบาทยังไง พระเอกมีบทบาทยังไงกับสองตัวนี้ และบทบาทนั้นส่งผลต่อเนื้อเรื่องยังไง เช่นว่าตอนท้ายพระเอกกับผู้อ่านคาถาต้องไปสู้กับปีศาจหิมะ หรือว่าต้องตามหาพ่อพระเอก หรือว่ายังไง

เมื่อรู้พล็อตเรื่องโดยรวมและบทบาทโดยรวมแน่นอนแล้ว

อันไหนที่เหมาะกับพล็อตมากกว่า เขียนอันนั้น

ถ้าเหมาะพอๆกัน เขียนอันที่คิดว่าน่าจะสนุกกว่า หรือผู้อ่านน่าจะชอบมากกว่า

ถ้าคิดว่าน่าจะออกมาสนุกได้พอๆกัน เขียนอันที่อยากเขียนมากกว่า

ถ้าอยากเขียนพอๆกันอีก เขียนอันที่เขียนง่ายกว่าครับ

เท่าที่ดู ผมค่อนข้างเอียงไปทางปีศาจเป็นพ่อพระเอกมากกว่า เพราะอันหลังมีจุดแปลกๆอยู่ครับ พ่อพระเอกจับปีศาจขังลงคาถา คาถานี้ต้องการคนมีคุณธรรมมาเปิด เท่ากับว่ากำหนดให้คนมีคุณธรรมเปิดประตูให้ปีศาจ (ซึ่งผมอนุมานว่ามันต้องไม่ได้มีคุณธรรมมากนัก ไม่งั้นพ่อพระเอกคงไม่จับขัง) ?

เอาจริงๆพล็อตที่ว่ามานี่ผมไม่รู้ว่ามันอยู่ในขั้นไหน แต่ผมยังรู้สึกงงๆแปลกๆ กับบางจุดอยู่นะครับ ที่งงที่สุดคือ ผู้คนตามหาดาบวิเศษ แต่ดาบจะกลายเป็นดาบวิเศษได้เมื่อมีคนอ่านคาถา แล้วคนทั่วไปอ่านคาถาได้รึเปล่า ถ้าอ่านไม่ได้ เขารู้รึเปล่าว่าใครอ่านได้ ถ้าเขารู้ เขาสามารถตามหาคนอ่านคาถาได้รึเปล่า ถ้าตามหาไม่ได้หรือไม่รู้ว่าใครอ่านได้ แล้วเขาจะตามหาดาบวิเศษทำไมในเมื่อต่อให้ได้มามันก็เป็นแค่ดาบธรรมดาอยู่ดี แถมยังกลายเป็นเป้าให้คนอื่นที่อยากได้ดาบเหมือนกันรุมทึ้งเปล่าๆด้วย เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งเอากระดูกมาแขวนคอเปล่าๆ (เหตุผลที่ง่ายที่สุดสำหรับข้อนี้น่าจะเป็น ผู้มีอำนาจหรือเงินสักคนเสนอเงินรางวัลหรือผลประโยชน์จำนวนมหาศาลสุดๆ ที่คุ้มต่อการฆ่าฟันหรือความยากลำบากในการตามหาดาบเล่มนั้น)

และอีกอย่าง พระเอกรู้คำทำนายเลยจะฆ่าผู้อ่านคาถา ทำไมต้องไปฆ่า ดาบนั้นเกี่ยวข้องกับพระเอกยังไงทำไมถึงกับจะต้องฆ่ากัน แล้วทั้งที่คนทั้งโลกตามหา แต่คนอ่านมีคนเดียว ต้องฆ่าคนเดียวหรือ หรือถ้าเกิดจะบอกว่าดาบวิเศษนั่นเป็นอาวุธอันตรายใครได้ไปจะเป็นอาวุธทำลายล้างหรืออะไรทำนองนี้ แล้วพระเอกแค่เห็นว่าผู้อ่านเป็นคนใจดีมีเมตตาหน่อยเดียวก็ฆ่าไม่ลงและปกป้องเลยงั้นหรือ มีอะไรรับประกันว่าผู้อ่านฯ จะไม่เกิดใช้ดาบเป็นอาวุธทำลายล้างขึ้นมา ?

คือมันค่อนข้างต่างจากแรงบันดาลใจ ที่พระเอกมีความจำเป็นจะต้องฆ่าไม่เช่นนั้นเดี๋ยวอสูรในตัวจะตื่นครับ ถ้าดาบกลายเป็นดาบวิเศษขึ้นมาพระเอกจะเกิดความเสียหายขนาดนั้นเลยหรือ ?

จุดเหล่านี้ต้องปิดให้ได้ หรืออย่างน้อยก็หาเรื่องแถให้ได้ก่อนที่จะใช้พล็อตนั้นเขียนครับ ต้องคิดให้ครบทุกมุม คิดให้นำคนอ่านไป หรืออย่างน้อยก็เตรียมทางแถตอบคนอ่านแบบที่ฟังดูโอเคเอาไว้ให้เรียบร้อยครับ เวลาผมคิดพล็อตหรือคิดเหตุการณ์ก็มักจะคิดแบบนี้ คือ "ทำไมต้องเป็นแบบนั้น" "ทำแบบนี้ไม่ได้เหรอ ถ้าทำได้ทำไมไม่ทำ" "มีทางที่สมเหตุสมผล/ง่าย/ดีกว่านี้หรือเปล่า" "ตรงนี้มันแปลกๆรึเปล่า" "ถ้าอยากจะให้เป็นแบบนั้นจริงๆ มีเหตุผลอะไร หรือต้องสร้างเนื้อหา/เงื่อนไขอะไรที่จะบังคับให้เป็นแบบนั้นได้บ้าง"

0
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 21:39 น. 3-14

เราเขียนเรื่องนี้เมื่อ 15 ปีก่อน เขียนไว้ 19 ตอน แล้วก็ไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ เพราะคนเขียนยังไม่รู้เหมือนกัน ดาบอยู่ที่ไหนฟระ! ฮา...ไปตามหาดาบมา 15 ปี &gt;&lt; ตอนนี้กะว่าจะเขียนต่อ พอมาเข้าเด็กดี เพิ่งจะรู้มันต้องมีการวาดพล็อตนะ ต้องสร้างตัวละคร มีบุคลิกยังไง ซึ่งแต่ก่อนเขียนเพราะชอบ อยากเขียนก็เขียนไปเรื่อย

ปิศาจหิมะในเรื่อง ไม่ค่อยมีบทบาท แต่ระดับผู้ครองแคว้น ผู้มีฝีมือจะรู้จักว่า ปิศาจหิมะนั้นมีพลังอาณุภาพมหาศาลแค่ไหน ต่างอยากเป็นผู้ถูกเลือกเป็นทายาทปิศาจหิมะ แต่ไม่ได้ถูกเลือก

พ่อพระเอกตายตั้งแต่ต้นเรื่องเลยค่ะ ไปปราบกฏบแล้วเสียชีวิต เพราะถูกลวงไปฆ่า ก็คิดอยู่เหมือนกันว่า พ่อพระเอก เป็นนักรบธรรมดา จะจับปิศาจหิมะขังได้เหรอ หรือยังไงดีหว่า...? มันต้องมีเหตุกลายปมอีก

เราคิดไว้ว่า ปิศาจหิมะถูกขังอยู่ แต่ปิศาจนี้จะคอยติดต่อกับพระเอกทางโทรจิตตลอดเวลา เขาจะเป็นคนคอยช่วยพระเอก เพราะถ้าพระเอกตายเขาจะออกจากที่ขังไม่ได้ และการที่ปิศาจหิมะได้อยู่ใกล้ ๆ คนดีมีคุณธรรม ทำให้เขาค่อย ๆ กลายเป็นคนดี ค่อย ๆ กลับใจไปเรื่อย ๆ จนถึงตอนสุดท้าย

แต่ที่คุณพูดมาก็ถูก ถ้าปิศาจหิมะเป็นพ่อของพระเอก เขาจะช่วยพระเอกก็สมเหตุสมผลเพราะความเป็นพ่อ

จะมีปิศาจอีกตัวที่มีพลังอาณุภาพร้ายแรงพอ ๆ กัน เกิดจากการทำชั่วที่ละนิด จนคุ้นเคย จนกลายเป็นความชั่วร้ายโดยปริยาย

ดาบนี้มันเป็นดาบที่มีตำนานเล่าต่อ ๆ กันมาถึงความวิเศษและมีอาณุภาพมหาศาล ระดับผู้ครองแคว้นจะส่งคนออกตามหาที่อยู่ของดาบ และตามหาผู้อ่านคาถาด้วยเช่นกัน มีผู้ทำนายบอกไว้ว่า ผู้อ่านคาถาจะปรากฏตัวที่ไหน จะมีสิ่งบอกเหตุค่ะ

ที่พระเอกต้องไปฆ่าผู้อ่านคาถา เพราะคิดว่า จะหยุดการฆ่าฟันกันของคนที่จะแย่งชิงผู้อ่านคาถา ถ้าผู้อ่านคาถาตายแล้ว ก็จบ ก่อนพระเอกจะฆ่าผู้อ่านคาถามีเหตุการณ์ร้ายที่ต้องต่อสู้ด้วยกัน และได้ช่วยเหลือพระเอกอย่างเต็มที่แม้ว่า จะไม่มีวิชา ไม่มีดาบ ไม่มีอาวุธ มีแต่ใจที่อยากช่วยจนตัวเองเกือบตายเช่นกัน ทำให้พระเอกจะฆ่าหลายครั้ง แต่ฆ่าไม่ลง และคิดว่า มันต้องมีทางอื่น ที่สำคัญดาบอยู่ที่ไหนก็ยังไม่มีใครรู้ ประมาณนี้ค่ะ

ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่เข้ามาช่วยแนะนำ ให้ข้อคิดเห็นดีดี ใจดีมาก ๆ เลยค่ะ ^^
ชื่อไอดีของคุณดูแปลกดีนะคะ ดูไทยมาก ๆ ในขณะที่หลาย ๆ คนตั้งชื่อเป็นภาษาอื่น

0
SilverPlus 26 ก.ค. 58 เวลา 20:55 น. 4

ผมเริ่มด้วยการสร้างโลกของนิยายขึ้นก่อน ต่อมาก็สร้างตัวละคร โดยเฉพาะตัวเอกที่บางครั้งสร้างก่อนสร้างโลกด้วยซ้ำ สร้างเป้าหมายซึ่งอาจมีได้สองสามอย่าง และสุดท้ายคือคิดตอนจบ(สำคัญมากสำหรับนิยายที่มีตอนจบ) เพราะตอนจบคือเข็มทิศควบคุมเรือไม่ให้แล่นหายไปในทะเลอันเวิ้งว้าง

หลังจากนั้นก็ไล่ลำดับเหตุการณ์ ว่าตัวเอกจะต้องเจออะไรบ้างจนกระทั้งไปถึงเป้าหมาย(ตอนจบ) ส่วนเหตุการณ์ย่อยๆ จะเตรียมแยกเอาไว้ ไม่ได้ใส่มาในพล็อตหลัก เมื่อได้โอกาส ก็จะใส่พล็อตย่อยเข้ามา และให้พล็อตย่อยนั้นเสริมพล็อตหลัก ให้สนุกขึ้น หรือไม่ก็เตรียมให้พล็อตหลักดูตื่นเต้นมากขึ้น

นิยายของผมไม่มีปม ไม่มีอะไรซับซ้อน จึงไม่จำเป็นต้องวางพล็อตลงกระดาษ หรือคิดเชื่อมโยงอะไรมากนัก แค่เก็บความลับไว้ในใจสองสามเรื่อง นอกนั้นก็ปล่อยให้ตัวละครดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั้งได้เวลาเหมาะสม จึงปล่อยความลับออกมา  

ส่วนที่เขียนลงกระดาษจริงๆ ก็มี ตัวละครที่จะโผล่มาในอนาคต (แต่ยังไม่รู้ว่าโผล่ตอนไหน เตรียมไว้ก่อน) กิจกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้นในโลกนิยาย (ยังไม่เกิด จดไว้ก่อน) ความบังเอิญที่จะเกิดกับพระเอก เช่น เจอสัตว์ประหลาด เจออะไรแปลกๆ เจอคนแปลกๆ จดไว้ เตรียมหาจังหวะลง... มุขตลกต่างๆ จดเตรียมไว้ จังหวะไหนได้ ก็ใส่ลงไป (มุขตลกคิดยากสุด ต้องจดไว้ ล้ำค่ามาก)

1
เด็กน้อยในวันฤดูใบไม้ผลิ 26 ก.ค. 58 เวลา 21:04 น. 5

ผมใช้การทำแบบแกทเชื่อมโยงอ่ะ สร้างเส้นตรงหั่นแบ่งเป็นตอน กำหนดตอนเริ่มตอนกลาง ตนจบ ใส่รายละเอียดเป็นแผนภาพ ลายเส้น ตัวอักษรเล็กน้อย (ทำแบบแผนที่อ่ะ) พอได้มาแล้วปุ๊ป ก็ทำสามเหลี่ยม เอาจากเส้นตรงไปใส่ ลงรายละเอียดมากขึ้น

ส่วนในเรื่องกำหนดตัวละครก็กำหนดตัวละครหลัก ตัวละครรอง ตัวละครเสริมเอาน่ะครับ ผมคิดว่าการเขียนแบบกำหนดพวกนี้มันง่ายกว่าลงมือเขียนทีเดียวเลย เพราะเรากำหนดตัวละครได้ จะเพิ่มหรือลดก็ได้ในตอนเขียน

1
Whiteflower Ri 26 ก.ค. 58 เวลา 21:22 น. 5-1

มีระเบียบแบบแผนในการเขียน ไม่ออกอ่าวแน่นอน ฮา...

0
ดาวดวงน้อยของท่านเทพ 26 ก.ค. 58 เวลา 22:14 น. 6

เราเขียนพล็อตคร่าวๆตั้งแต่ต้นจนจบก่อนค่ะ
จากนั้นก็ทำเป็นตาราง ตอนที่1-2-3 ไปเรื่อยๆ
ในตารางก็จะมีแค่แกนหลักสั้นๆ ประมาณบรรทัด
นอกจากนั้นก็ปล่อยให้สมองพาไปเองว่ามันควรจะดำเนินไปแบบไหนค่ะ
เพราะกลัวว่าบังคับมันมากๆ มันจะออกมาไม่ดี ^^

1
Whiteflower Ri 27 ก.ค. 58 เวลา 00:24 น. 6-1

แบบนี้ก็ง่ายดีเหมือนกันนะคะถ้าเขียนละเอียดเกินแใ้แต่พล็อตมันก็จะเขียนไม่จบเอา

0
Sleeping Fox 26 ก.ค. 58 เวลา 22:16 น. 7

ของผมคิดตอนจบก่อนครับว่าสุดท้ายแล้วอยากให้ตัวละครพัฒนาเป็นยังไง
แล้วค่อยคิดจุดเหตุการณ์สำคัญปักหมุดไว้ระหว่างทาง
จากนั้นจะเติมรายละเอียดลงไปตามใจชอบแต่จะไม่ให้หลุดจากเหตุการณ์หลักที่คิดไว้

ส่วนใหญ่เนื้อเรื่องจะเป็นสิ่งที่คิดอยู่ในใจครับ
ถ้าจดจะเป็นมุกที่จะใช้ในอนาคตแบบไม่เรียงลำดับ
และเป็นลักษณะนิสัยความสามารถและบทบาทของตัวละครใหม่ ๆ ในอนาคต
สำหรับผมพอได้พวกนี้เนื้อเรื่องจะตามมาครับ

1
Whiteflower Ri 27 ก.ค. 58 เวลา 00:54 น. 7-1

ถ้าคิดไว้หลายแบบมีวิธีตัดสินใจเลือกหรือเปล่าคะ

0
[S]ilver - VVing~* 26 ก.ค. 58 เวลา 23:41 น. 8

ผมชอบวีธีของคุณ K.W.E. นะ
(ลิงค์นี้ครับ กดเข้าไปดูตอนที่ 5 )

เริ่มต้นด้วย 

1. อยากให้เริ่มต้นเรื่องยังไง เปิดตัวแบบไหน?
2. ช่วงดำเนินเนื้อเรื่อง (ส่วนนี้เว้นไว้ก่อน)
3. อยากให้จบยังไง?


เอาแค่นี้ก่อนแล้วต่อยอดไปเรื่อยๆ จากพล็อตใหญ่ของเรื่อง สู่พล็อตย่อยของภาค  และของตอนลงไปตามลำดับ

ประกอบกับหลักการการวางโครงเรื่องแบบ สามเหลี่ยม (กดตรงนี้ครับ)

องศึกษาดูครับ

3
Whiteflower Ri 27 ก.ค. 58 เวลา 00:50 น. 8-1

ขอบคุณมากนะคะเวลาตัดสินใจไม่ถูกจะทำยังไงดีละคะ

0
[S]ilver - VVing~* 27 ก.ค. 58 เวลา 12:59 น. 8-2

ไม่เข้าใจคำถามครับ ตัดสินใจไม่ถูกในประเด็นไหนเหรอ ?

0
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 16:45 น. 8-3

หมายถึงว่า เช่น พระเอกจะได้รับพลังวิเศษจากใคร เราคิดได้ 2 แนวทาง ทำให้เลือกไม่ถูกน่ะค่ะ ว่าจะเอาตามแนวทางไหนดี แบบนี้จะมีวิธีช่วยในการตัดสินใจเลือกไหมคะ

0
mbth96 (จะออกไปแตะขอบฟ้า) 26 ก.ค. 58 เวลา 23:46 น. 9

เราจะใช้หลัก ใคร ทำอะไร ที่ไหน ยังไงน่ะค่ะ
จะเริ่มจากการมีไอเดียเรื่องราวก่อน หรือ คาแรกเตอร์ตัวละครก่อนก็ได้ 

จากนั้นหาแก่นของเรื่องให้ได้ว่าเราต้องการให้เรื่องของเราบอกอะไร ต้องหาโครงหลักให้ได้ต้องมีจุดเริ่มต้น ไคลแมกซ์ จุดจบ 

เราจะชอบวางหลวมๆ ไว้ก่อน แล้วหาเหตุการณ์เสริม 
เขียนสตอรี่บอร์ดเหตุการณ์สำคัญๆ แต่ละช่วงทามไลน์เอาไว้ ตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง จะทำให้มองภาพชัดขึ้นค่ะ มีจุดพีคขึ้นลง ดราม่า ผ่อนคลาย

เมื่อมีภาพหยาบในใจ เราก็หาอะไรใส่ได้เยอะค่ะ อย่างฉากที่อยากจะให้มี จะฟินหรือดราม่าต้องชัด เราสร้างทางเดินเลยค่ะว่าแต่ละตัวละครของเรากว่าจะจบเรื่อง เขาจะทำตัวแบบไหน การกระทำของตัวละครแต่ละตัวเวลาเอามารวมกันมันส่งกันอยู่แล้ว

ไม่แค่การกระทำตัวเอกที่ทำให้เรื่องเดิน ตัวประกอบในนิยายเราจะมีความสำคัญมากที่ทำให้ตัวเอกเดินต่อไปได้อย่างสนุก สำหรับเราการวางตัวละครจึงสำคัญมาก

สตอรี่บอร์ดเราจะเป็น สร้างคาแรกเตอร์ ใส่นิสัย ใส่คนรอบข้าง สร้างความสัมพันธ์ ใส่พลอต
จุดเริ่ม พีค1 พีค2 ไคลแมกซ์ พีคเล็กๆ ประปราย จุดผ่อนคลายแทรก คู่รองเสริมเพื่อลดความตึงเครียด จุดจบสรุปผลของตัวละครทุกตัว  

1
Reone 27 ก.ค. 58 เวลา 08:24 น. 10

ของเราไม่มากค่ะ คิด จุด ด้น จบ สี่อย่างพอ

คิด ทำยังไงให้ชื่อเรื่องน่าติดตาม ตอนแรกอ่านแล้วอยากอ่านต่อ 

จุด จุดหลักๆ ที่เราคิดว่าน่ะจะเป็นจุดเชื่อมต่อไปของเนื้อเรื่องได้

ด้น จัดไป นั่งคิด นอนคิด ให้เป็นตอนๆ เน้นสนุกเข้าว่า

จบ เนื่องจากเรามีจุด เพราะงั้น ด้นยังไงก็ถึงตอนจบ

งึม ใกล้จบแล้วล่ะนิยายเราสองเรื่อง เรื่องหนึ่งมีภาคต่อ เราเป็นคนไม่คิดมาก มั้ง...

แต่ชอบอะไรที่เป็นปริศนา 1 ปริศนาคือ 1 ด้นไปยังจุด และมันก็จะเป็นกระบวนการในสมอง

แบบนี้ ไปยันจบเลย ถ้าพล็อตหลวมหน่อย เดี๋ยวก็มีคนอ่านมาช่วยติง เราก็แก้ไปตามนั้น

คนเขียนเองไม่รู้หรอกว่าตรงไหนน่าแก้หากคนอ่านไม่บอก ล

เรื่องนิสัยตัวละคร ให้แปลงกายตัวเอง เป็นตัวละครนั้นๆ เราจะเขียนมันได้ไหลลื่นมาก

จบ จากคนเขียนผู้ขี้เกียจคิดมาก...

1
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 16:48 น. 10-1

แต่ก่อนไม่เคยคิดถึงคนอ่านเลยค่ะ คิดแต่ว่า เราอยากเขียนยังไง แตร่วววว!!
ดีเหมือนกันนะ ขี้เกียจคิดได้แบบนี้ ^^

0
นาคน้อยล่องลม 27 ก.ค. 58 เวลา 12:21 น. 11

เมื่อก่อนเราก็ด้นสดค่ะ 
แต่ตั้งแต่รู้ว่ามีการวางพล๊อตก่อน เราก็เริ่มเพ้อๆ นึกๆ อยู่คนเดียว คิดอะไรได้ก็จดไว้ก่อน แล้วค่อยเอาไปเรียงรวมกัน อาจจะมีปัญหาการตันบ้าง หรือออกนอกเส้นบ้าง แต่เป้าหมายของเนื้อเรื่องจะมีเพียงหนึ่งเดียวค่ะ 
แต่ถ้าถามว่าวางพล๊อตเยอะไหม...ด้นสด เป้นส่วนใหญ่ค่ะ แบบนึกอยากเติมก็เติม นึกอยากใส่ก็ใส่ ประมาณนั้น (เอาความสะใจส่วนตัวเป็นหลัก เขียนแล้วสนุก อ่านเองสนุกเอง รีดเดอร์อ่านแล้วสนุกด้วย ก็โอเคค่ะ)

1
Diosa 27 ก.ค. 58 เวลา 15:48 น. 13

ของเราผิดปกติชาวบ้านตรงที่จะนึกฉากที่อยากเขียนได้ก่อนแล้วค่อยย้อนไปวางโครงเรื่อง...

ถามว่าเขียนจบไหมมีจบค่ะ แต่ถ้าเทียบกับจำนวนพล๊อตแล้วถือว่าน้อยมาก

1
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 16:52 น. 13-1

เคยเป็นเหมือนกันค่ะ เขียนตอนที่ชอบก่อน แล้วค่อยเอามาต่อกัน แต่บางทีมันต่อกันลำบากก็มีนะ^^

0
27 ก.ค. 58 เวลา 17:43 น. 14

สำหรับเรานะ คิดว่า...

ต้องหาแนวว่าเราอยากเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ไปทางแนวไหน แล้วเขียนพล็อตเรื่องรวมๆไว้ ต่อมาก็มาคิดเป็นฉากๆ เราชอบคิดพล็อตออกเวลานั่งส่องไอจีแล้วดูรูปจากอนิเมะอ่ะ อย่างรูปแบบว่า กอดกัน หรืออะไรแนวนี้ เรื่องมันก็จะแล่นเข้าหัวทันที แต่! ไม่ได้จดไว้น่ะสิ T^T มันก็เลยลืม 

0
แก้วน้ำสีฟ้า 27 ก.ค. 58 เวลา 17:51 น. 15

ว่ากันตามตรงเคยเขียนพลอตนิยายตั้บแต่ต้นจนจบครั้งเดียวค่ะ 555555 ( ลองเขียนส่ง สนพ. ตอนเขาประกวด สรุปก็ไม่ผ่านอยู่ดี T.T )

ตอนนี้แต่งนิยายเหมือนไปเรื่อยๆ ค่ะ อารมณ์เหมือนร่องเรือรู้นะว่าหาปลาแต่ไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนได้แต่ขับไปเรื่อยๆ บางทีก็เจอโขดหิน โจรสลัด ปลาฉลามมาแทะเรืออะไรแบบนั้น มันก็เหมือนเนื้อเรื่องของเราที่แต่งสิ่งที่อยากแต่งก่อน ( เป็นการตกแต่งเรือหาปลา 555 ) ที่เหลือก็ไปตามเรื่องที่อยากจับมาเขียน เพราะพลอตที่ร่างไว้หลังจากออกแบบตัวละครได้นี่เจือจางมากคือมีเหมือนไม่มี ทำให้คิดว่าที่แต่งๆ อยู่ไม่เคยออกทะเลหรือเป็นการแถ เราพยายามให้การกระทำต่างๆ ของตัวละครมีผลต่อในการดำเนินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ ทำให้แต่งได้เรื่อยๆ จนกระทั่งวันไหนที่พิมพ์ต่อไม่ได้ก็จะรู้ว่าเรื่องนี้จบแล้ว เป็นการสิ้นสุดหน้าที่ของเรือประมงนี่ค่ะ 555555

# บ่นซะเยอะเลย 

1
yog-delphinus 27 ก.ค. 58 เวลา 20:10 น. 16

ปกติตอนเขียนจะเริ่มจากร่างพล็อตคร่าว ๆ ในหัวก่อน

ว่าเกิดเรื่องยังไง -> ตัวละครตัวไหนทำอะไร -> มีคีย์อะไร -> จบตอนยังไง 

เป็นวิธีซกมกและไร้ระเบียบ ปกติจะไม่ค่อยชอบจดชอบเขียนอะไรแบบนี้เลยเสี่ยงต่อการลืมพล็อตพวกส่วนยิบย่อยที่กะจะใส่ลงไปในตอนมาก 

แล้วเวลาแต่งอะไรแบบเนี้ย ตอนแต่งกำหนดให้ตอนนั้นเป็นแบบที่คิดไว้ แล้วจะใส่เติมอะไรอีกทีก็แล้วแต่อารมณ์หรือใจในตอนนั้น 

ก็ได้หนึ่งตอนแล้ว

1
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 16:55 น. 16-1

เป็นพวกเดียวกันเลย คิดไว้ในหัว แล้วก็ลืมไปมั่ง อิอิ

0
Miss.จ๊าบ 28 ก.ค. 58 เวลา 08:15 น. 17

สไตล์เราก็...เอาที่สบายใจของตัวเองก่อนเลย เขียนสนองความต้องการของตัวเองล้วนๆเป็นดีที่สุด เพราะจะทำให้เราเขียนได้จบเรื่อง นี่แหละประเด็นสำคัญ
หลังจากที่ค้นหาตัวเองพบแล้ว
นึกโครงเรื่องโดยรวม ลองเขียนๆ เอาไว้
นึกว่า อยากให้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้านในเรื่อง ไม่ต้องเป็นลำดับก็ได้ แล้วก็เขียนๆ เอาไว้
ลองคิดตอนจบดูอย่างให้เป็นแบบไหน แล้วก็เขียนๆ เอาไว้
ทีนี้...
ตั้งสติแล้วเขียนพล็อยย่อยดู อาจจะไม่ต้องมีพล็อตทุกตอนก็ได้ เพราะเราสามารถแทรกไอเดียได้ตลอด ขอให้มีเอาไว้เป็นบรรทัดฐานพอ เพื่อไม่ออกทะเล และวกกลับมาได้ถูก
พล็อตมันก็เหมือนการดำเนินชีวิตทั่วๆ ไปนะ แต่เนื้อเรื่อง มันคือสิ่งที่เราบังเอิญไปเผชิญกับมัน และอาจจะเปลี่ยนพล็อตของเราได้ มันไม่มีอะไรที่ตายตัวหรอก ถ้าคุณหาแนวทางของตัวเองเจอแล้ว คุณอาจจะเขียนไปแบบไม่ต้องมีอะไรเป็นบรรทัดฐานก็ได้ และสามารถเขียนจบได้
เขียนเอาที่เราสบายใจ นักอ่านจะบ่นไรก็ช่าง เพราะเขาอ่านฟรี ๕๕๕ เราเคยโดยแบบว่า เขียนนิยาย พระเอกนางเอกคือคู่นี้นะ แต่มีตัวละครรองที่ค่อนข้างมีคาแลคเตอร์เด่น คนอ่านบอกว่า ไม่ชอบคู่นี้แล้ว อยากอ่านคู่นั้น บลาๆๆๆ แล้วก็ถอนแอดไปเลย แอบช็อคอยู่เหมือนกัน แต่มาคิดดู คือเขาอินไง เลยมองแง่บวก 

ปล.เขียนสยองนีดตัวเองจงเจริญ

6
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 16:58 น. 17-1

เคยเป็นเหมือนกัน คนอ่านบอกอยากให้แต่งเรื่องนี้ต่อ ปกติเขียนเรื่องสั้นค่ะ แต่จริง ๆ เราต้องการให้เขาจบแบบนั้น มันเป็นวัตถุประสงค์ของเรื่องเลย ^^

ตอนนี้คิดว่า จะต้องร่างพล็อตกับเขาบ้างแล้วล่ะ ไม่งั้นความคิดมันจะแคบ และใส่ใจกับรายละเอียดหลายอย่างที่ขาดหายไป

0
Miss.จ๊าบ 28 ก.ค. 58 เวลา 17:22 น. 17-2

สู้ๆ ค่ะ จุดเริ่มมันก็ยากพอๆ กับจุดจบ แต่ถ้าไม่ลองทำดู เราก็ไม่รุว่าจะเป็นยังไง

เราเขียนมาก่อนหลายแนวมาก แฟนตาซีก็ลองเขียน รักหวานแหววก็เขียน ฟิคก็เขียน เหมือนหาแนวของตัวเอง และก็หายตัวไปหลายปี ไปค้นหาตัวเองที่โลกภายนอกมา ๕๕๕

และสุดท้ายก็กลับมาเขียนอีก และสามารถเขียนจบได้อีกเรื่องเป็นเรื่องที่สองหลังจากที่หายไปแล้วกลับมา

ตอนนี้ก็เริ่มเรื่องใหม่ ความพยายามใหม่
สู้กับตัวเอง พยายามจะไม่นอยด์เรื่องเม้นต์น้อย T^T รักกันน้อยๆ แต่รักกันนานๆ นะเธอ(นอกประเด็นแล้ว)

สู้ๆคร่า ลองทำดู
เราก็อยากเขียนสั้นๆ เหมือนกันนะ แต่เราเขียนทีไรมา ๕๐ + ตลอดๆ (เรื่องที่เขียนจบอะนะ) เล่นเอาลุ้นกันแทบตายทั้งคนอ่านทั้งคนเขียน ว่าจะได้เขียนคำว่า ตอนจบ หรือ บทส่งท้าย แบบชาวบ้านไหมนะ

0
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 17:50 น. 17-3

ปกติ เขียนเรื่องสั้นเป็นส่วนใหญ่เลยค่ะ เรื่องยาวมี 2 เรื่อง ยาวเรื่องแรก รู้สึกเหมือนไม่ใช่นิยาย มีตัวละคร 2 ตัวเอง อิอิ ประมาณ 60 หน้านะ ส่วนอีกเรื่องที่เขียนจบ 80 หน้ามั้ง ก็ค่อยดูเป็นนิยายขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง ถ้าคุณจะเขียนส่ง สนพ ต้อง 100 หน้าขึ้นไปนะคะ ถ้าของเราจะส่งเนี่ยก็ต้องมาเขียนเพิ่ม เฮ้อ...ปูนนี้แล้ว อายเด็ก ๆ เขาจริง ๆ เลย

ที่เขียนไม่จบคือ แฟนตาซี ค่ะ เขียนอยู่แล้วทิ้งไป 15 ปีเลย เพิ่งจะแงะออกมาดู ผ่านไป 15 ปีแล้วเหรอ เราเขียนเกี่ยวกับการตามหาดาบวิเศษ ไปตามหานานไปหน่อย 15 ปีเลย ฮา... แต่ก็มีปัญหาในการเขียน เพราะไม่ได้ร่างพล็อตเลย ทำให้บางทีรายละเอียดหลายอย่าง ใส่ไม่ครบ คือ เขียนไป 19 ตอน ไม่ค่อยตามหาดาบเลย หาไรไม่รู้ ฮา... ไม่ค่อยเกี่ยวกับการตามหาดาบเลย ตอนนี้มาเขียนต่อ เลยต้องปรับปรุงเพิ่มเนื้อหา ปรับให้มันไปตามหาดาบซะดีดี อย่าอู้ เขียนแนวแฟนตาซีมันก็สนุกดีไปอีกแบบ มันแปลกแหวกแนวดี แต่ต้องใช้สมองเยอะหน่อย

0
Miss.จ๊าบ 28 ก.ค. 58 เวลา 18:06 น. 17-4

ใช่ๆ แฟนตาซีมันก็สนุกดี รู้สึกได้ถึงจินตนาการอันแสนพุ่งพล่าน

จริงๆแล้วถ้าตั้งไว้ว่าจะไปดามหาดาบ แต่ถ้าไม่ได้ไปหาดาบเสียที เราอาจจะเปลี่ยนเป็นแฟนตาซีรั่วๆก็ได้นะ ที่แบบตัวเอกไม่เอาถ่าน 555+ ทำอะไรไม่ได้เรื่อง

คิดแล้วฟิน แต่เอาเรื่องปัจจุบันให้จบก่อน 555+

0
Whiteflower Ri 28 ก.ค. 58 เวลา 18:38 น. 17-5

ไม่ได้หรอก ขัดกับบุคลิกพระเอกของเรา ที่ดูเฉยชา เยือกเย็น ฮา... ตอนที่เขียนเรื่องนี้ ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนเรื่องโปรดเลย

เดี๋ยวตบ ๆ แก้บทหน่อย น่าจะเข้าเรื่องได้ ตอนแรกเขียนไป พอจบตอนที่ 19 เรียกว่า ภาค1 ปรากฏว่า ตายกันเกือบหมด ฮา... เรียบเลย ก็เลยว่าจะแก้ไขใหม่ ให้เขารอดชีวิตต่อไปดีกว่า

จะบอกว่า เรื่องที่เราเขียนก็มีคนอ่านจริง ๆ จนถึงตอนสุดท้ายอยู่ 10 คนเอง แต่แฟนคลับจริง ๆ มี 4 คน แต่แฟนคลับน่ารักมาก คุยกันประจำเลย คุยได้ทุกเรื่อง เข้าใจแนวความคิดที่เราสื่อได้ดีมาก เรียกว่า ไปทางเดียวกันเลย ถึงจะมีน้อย แต่เข้าใจกัน ทำให้คิดว่า การที่เข้ามาเด็กดี แล้วได้รู้จักน้อง ๆ ที่น่ารักแค่คนเดียวมันก็มีค่ามากที่สุดแล้วนะ เราก็ตั้งใจจะเขียนให้คน 4 คนนี้อ่านนี่แหละ ^^

0