ความฝันกับสถาปนิก
ลองวิเคราะห์ดูหน่อยว่าทำไม เราเป็นคนไม่รู้อะไรขนาดนั้น นึกไปสิ นึกไป ตอนเราเด็กๆเราไม่ได้คิดอะไร เพราะเค้าคิดให้เราแล้ว ตอนอนุบาล เค้าก็บอกให้เราขึ้นประถม ตอนประถมเค้าก็บอกให้เราขึ้นมัธยม ตอนจบ ม.3 เค้าเริ่มให้เราเลือกง่ายๆคือ จะขึ้น ม.4 หรือ ปวช(อาชีวะ) แต่ตอนนี้เค้าบอกว่าให้เราต้องเลือกคณะ เลือกชีวิตต่อไป ซึ่งเรียกได้ว่า อะไรวะเนี่ย!
ตอนเรา ม.3 ขึ้น ม.4 มีแค่2ชอยส์ ให้เลือก คือ ม.4-5-6 หรือ ปวช. ถัดมาแค่ปีเดียวต้องเลือกคณะที่จะไปซึ่งมันมีเป็นร้อยๆ ช้อยส์ บ้าไปแล้ว! แล้วเราจะเลือกถูกได้ไงวะเนี่ย จะปรึกษาใครดีเนี่ย? แบบวัดผลมันก็ไม่รู้ว่าใช้ได้หรือเปล่า เราคิดว่าเราจะเป็นอาชีพอะไร แบบทดสอบก็บอกว่าเราเป็นได้ทุกอาชีพที่เรานึกเลย ซะงั้น! ตกลงมันช่วยอะไรเราได้มั้ยเนี่ย แต่อันนี้เฉพาะตัวเราเองเท่านั้นนะ หรือจะหันไปปรึกษาพ่อแม่ พ่อเราก็เสียไปตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แม่เราก็ขายขนมหวาน จบ ป.4 มาแล้วก็รีบช่วยขายขนมหวาน ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นแม่ค้าทั่วไปคนหนึ่ง ที่มีความฝันอยากให้ลูกเรียนสูงที่สุด ที่เราจะไปได้ แต่ตอนนี้...เรายืนงงๆอยู่ในช่วงเวลา ม.4 ด้วยคำว่า “ โตขึ้นมาอยากเป็นอะไร ” คำที่มันก้องอยู่ในสมองของเราอีกแล้ว !
มันก้องอยู่ในหัวของเราเป็นปีๆ สับสนปนเปไปหมด แต่ก็ยังไม่คิดค้นหามันเพราะเราคิดว่าเป็นแค่เด็ก ม.4 คิดว่ายังมีเวลาให้คิดอีกเยอะ มันอาจมีอะไรโดนใจในเวลาที่เหลือก่อนขึ้นมหาวิทยาลัยได้มั้ง
เอ๊ะ!วิชาที่ให้สอบมาดูเลยว่าต้องเรียนอะไรบ้าง แล้วมุ่งไปข้างหน้า นี่คือนโยบายของเรา เรียกว่าไฟแรงมาก วิศวกรต้องสอบวิชาอะไรบ้างมาดูกัน- คณิต ฟิสิกส์ เคมี อังกฤษ พื้นฐานวิศวะ 5 วิชานี้ที่จะพาเราไปสู่ฝัน
ฟิสิกส์ – อืม! ยากเหมือนกันนะเนี่ย มันเยอะอะไรอย่างนี้
คณิต – ทำให้รู้สึกดี แต่ทำไมข้อสอบมันออกแต่ยากๆวะ
อังกฤษ – นี่กรูต้องท่อง Dic เยอะขนาดนี้เลยหรอ
เคมี – อันนี้นิ่งเลย -.-“ อันนี้นิ่งเลย ตารางธาตุ โถ่!ถุย!ไปไม่ถูกเลย
พื้นฐานวิศวะ – เหมือนกับเอาทุกอย่างที่เรียกว่า hereแน่ๆ..มารวมกัน
นี่คือ กำแพงยักษ์ เราเรียกว่า “ เขื่อนเลยดีกว่า”
ในขณะที่กำลังพยายามอยู่นั้น มันก็ดันคิดว่า” เรามาถูกทางป่าววะ” ทำไมมันยาก ทำไมมันเยอะ มันไม่สบายใจ แต่ส่วนอีกใจก็นึกว่า “ดื่มm100แล้วสู้ต่อไปเหอะ อย่าคิดมาก” ขณะเดียวกันมีเพื่อนคนนึงที่ชอบวาดรูป และวาดเก่งมากด้วย มาบอกกับเราว่า “เข้าถาปัดกันมะ เห็นนายชอบวาดรูป น่าจะไปได้นะ”
“ถาปัด ถาปัด ถาปัด” คำนี้เป็นคำคุ้นหูแต่ไม่รู้ความหมาย มันคืออะไรวะ ! มันเข้ามาในหัวเราแล้วตอน ม.5 คนเดียวที่ตอนนั้นคิดจะไปถาม คือพี่ที่สอนฟิสิกส์กับคณิตของเราที่โรงเรียนสอนะพิเศษ เค้าก็ให้คำตอบมา แต่ก็ยังงง เราเลยไปถามอาจารย์แนะแนว เค้าก็ให้คำตอบมา แต่ก็ยังงงเหมือนเดิม ในสมัยนั้นไม่มีกูเกิลไม่มีเน็ต แพร่หลายขนาดนี้ ตอนเรียนคอม ขนาดจอคอมยังเป็นสีเขียวอยู่เลย เรายังพิม ฟหกด สอบ วิชาคอมอยู่เลย
หมกมุ่นอยู่กับคำว่า "ถาปัด" อยู่นานมากๆจนเริ่มได้ยินคนเค้าพูดกันไปกันมาอยู่เป็นเดือน จนปะติดปะต่อกันเป็นเรื่องเป็นราวได้ ถาปัด คือ คำเรียกสั้นๆของ สถาปัตยกรรมศาสตร์ เวลาจะสอบเข้าต้องสอบวิชาวาดรูป ที่ชื่อว่า ความถนัดทางสถาปัตยกรรม วิชาที่ใช้สอบอื่นมี ฟิสิกส์-คณิตอังกฤษ โอ้ย!ค่อยยังชั่วแต่ก็ยังหนีไม่พ้น แต่ก็มีวาดรูปมาช่วย ก็โอเคนะ ที่สำคัญไม่มีเคมี เอ้อ! มันต้องอย่างงี้สิ่ พอเห็นปลายทางอยู่รำไร
ถ้าเป็นอย่างนี้เราน่าจะไปได้แน่ แล้วมีอะไรอีกละ จบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จะได้เป็นสถาปนิก รู้เรื่องเกี่ยวกับ”ถาปัด” แค่นี้จริงๆ ทั้งหมดเนี่ยเกิดขึ้นช่วง ม.5 กำลังจะขึ้น ม.6
วันนั้นเป็นวันแรกที่คำว่าสถาปนิก ได้เริ่มคืบคลานเช้าสู้จิตใจของเด็กผู้ชายคนนี้..... โดย-โง่คนนี้ยังไม่รู้เลยว่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มี6สาขา แยกย่อยไปต่างๆนานาอีกต่างหาก เรารู้แค่ว่า เราจะต้องเดินไปคณะนี้ให้ได้ เพื่อนเราจะได้เป็นสถปนิกแค่นั้น แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของเรา มันอาจไม่ใช่จุดที่ยิ่งใหญ่ แต่มันก็ได้เริ่มต้นอย่างจริงจังเสียที....กับ........ความฝันและคำว่า "สถาปนิก"
พี่ตึก อนวัช กล้วยไม้ ณ อยุธยา
2 ความคิดเห็น
ตอนแรกดูรูปก็คิดว่า ทำไม?การวาดเหมือนพี่ตึกจังว๊ะ พออ่านจบเท่านั้นแหละ 555 (กูเดาถูก)
เค้าอ่านหนังสือพี่อ่ะ555
ปลื้มอะ
ศิษย์พี่ตึกนะค้าบบบ5555 ติวออนไลน์บ้าง อ่านสือบ้าง. พี่ตึกทั้งน๊านนน เรียนแล้วเฮอ่านแล้วฮา ^^ไม่เบื่อ
ปลื้มๆๆๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?