ทำไมนักเขียนถึงไม่เขียนทีละเรื่อง
ตั้งกระทู้ใหม่
ระหว่างเขียนที่ละเรื่อง กับเขียนหลายๆ เรื่องพร้อมๆกันคิดว่าอย่างไหนจะดีกว่ากันค่ะ
37 ความคิดเห็น
เขียนละเรื่องดีกว่าค่ะ จบไปเป็นเรื่องๆ เคยทดลองเขียนสองเรื่องพร้อมกันแล้วไม่รอด มันมึนมาก และอารมณ์ของแต่ละเรื่องมันไม่ได้อย่างใจ เลยตัดสินใจเขียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งก่อนค่ะ และก็จบได้อย่างที่ตั้งใจ
ปล. แต่เวลามีพล๊อตใหม่มา เราก็มาเปิดเรื่องเขียนพล๊อตทิ้งเอาไว้ แต่ไม่ให้ใครอ่าน รอเรื่องเก่าเสร็จก็ค่อยกลับไปเขียนตามพล๊อตที่วางทิ้งไว้ค่ะ
มันก็แล้วแต่คนนะ แต่งหลายเรื่องไม่ใช่เรื่องผิด มันเป็นฟิลน่ะ แต่งนิยายเรื่องเดียวแล้วมันเบื่อๆ ก็เลยไปแต่งอีกเรื่อง เพราะเรานิยมอ่านนิยายของตัวเอง เเละนิยายทุกเรื่องเราก็อัพสม่ำเสมอด้วยนะ ก็เลยแต่งได้เรื่อยๆ ไม่มึน ที่เหลือเราก็จดพล็อตเอาไว้ในสมุด จะได้ไม่ลืม
แล้วเเต่คนเเล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัวค่ะ 555
สำหรับเรานะคะ พอเรื่องเก่าตันมากๆมันจะทำให้รู้สึกเบื่อๆ พอมีพล็อตใหม่เข้ามา พล็อตใหม่ที่ไหลลื่นกว่า เราก็จะไปให้เวลาทางนั้นก่อนค่ะ แต่ส่วนตัวเป็นประเภทเขียนกักตุนค่ะ ไม่ลงเว็บสักทีเพราะกลัวว่าจะดองยาวค่ะ 555
เรื่องตัวละครตีกันไม่ค่อยมีปัญหา จะมีก็แต่นิยายคนละเเนวเเล้วลืมโทน ลืมอารมณ์ของเรื่อง ก็ต้องย้อนกลับไปอ่านบิ้วอารมณ์ใหม่ค่ะ
สรุปคิดว่าถ้าไม่มีเวลาที่จะอัพลงเว็บบ่อย แต่งทีละเรื่องน่าจะดีกว่า ส่วนถ้าจะไม่ลงเว็บ แต่งแบบไม่มีเงื่อนไขเวลาก็ตามแต่ถนัดเลยค่ะ :D
เราแต่ง2เรื่องควบก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ
แต่ถ้าจะแนะนำเรื่องเดียวดีกว่า บางทีมันจะปนกันเรื่องนิสัยตัวละคร พล็อตหรือปมมันไม่เหมือนกันแน่นอนอยู่แล้ว
เราเขียนหลายเรื่องพร้อมๆกัน ทำไมไม่มีปัญหาอะไรเลย
กะ...เก่งมาก *0*
เขียนเพราะเครียดเรื่องเก่าอยู่แล้วจู่ๆ มันก็ผุดไอเดียพล็อตเรื่องใหม่ได้ แต่พอเขียนเรื่องใหม่ได้ซักพักเราก็ดองมาเขียนเรื่องเก่าต่อ(....?)
เราแต่งสลับเรื่องละตอน 5555555555555555
สนุกมาก อันนึงแฟนตาซีอันนึงไม่แฟนตาซี
โชคดีที่แต่งคนละวัน ไม่งั้นนิยายรักคงมีปล่อยพลังสู้กันแหงๆ
เราแต่งเรื่องเดียวค่ะ ถ้าจะเปิดเรื่องใหม่ก็คือแต่งไว้ก่อนแต่ยังไม่เอามาลงเว็บ บางทีถ้าแต่งเรื่องเดียวมันก็รู้สึกเบื่อๆ พอมีพล็อตใหม่เข้ามามันก็รู้สึกว่า เฮ้ย! อยากแต่งอ่ะ มันดูท้าทายดีมั้งคะ 555 แต่ก็จะทุ่มกับเรื่องหลักที่แต่งอยู่มากกว่าเพราะตอนนี้ฟีลมันกำลังได้ค่ะ ถ้าไปทุ่มกับเรื่องใหม่มากๆ บางทีเราจะลืมธีมของเรื่องเก่าที่เราต้องการจะสื่อให้นักอ่านรู้อ่ะค่ะ เราเป็นคนที่เวลามีพล็อตใหม่มาก็จะชอบลองแต่งก่อนสักตอนสองตอน เพราะเป็นคนใจร้อน 555 ไม่ใช่อะไรนะคะ คือมันอยากแต่งเฉยๆ อ่ะ พอได้แต่งแล้วก็จะกลับไปปั่นเรื่องเก่าต่อ อิอิ ก็ประมาณนี้แหละค่ะ เรียกง่ายๆ ว่าแต่งระบายอารมณ์นั่นแหละ 555
เคยแต่งสองเรื่องพร้อมกันค่ะ แต่สุดท้ายแล้วไปไม่รอด พับเก็บอีกเรื่องไว้ในไหได้ปีนึงแล้วค่ะ 555555
ตอนนี้ก็ถือคติที่ว่า แต่งเรื่องไหนต้องเอาเรื่องนั้นให้รอด
นักเขียนในเด็กดีมีหลากหลายนะครับ บางคนเขาก็เขียนแบบพล็อตไหนพุ่งก็เขียนๆ ไป ไม่ได้ซีเรียสว่ามันจะจบ หรือมีลำดับขั้นตอนอะไร แค่เขียนไปสนุกๆ เท่านั้น เรื่องหนึ่งตันคิดไม่ออก ก็ไปเขียนใหม่
ส่วนมากนักเขียนในเด็กดีเป็นประเภทเขียนตามใจตัวเองค่า บางทีเรื่องที่กำลังเขียนอยู่เกิดเบื่อขึ้นมา แล้วได้พล็อตใหม่ก็ไม่แปลกที่จะเปิดอีกเรื่อง ของเรายังไงก็ได้ขอให้อัพเรื่องเก่าด้วยก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ตอนนี้เราแต่งอยู่สองเรื่องควบ ใกล้จบแล้วค่ะ
คนละแนวชัดเจนและคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่เรื่องก่อนหน้านั้นด้วยความที่ไม่ได้เขียนพล็อตละเอียดเราก็เลยปล่อยดองค่ะ
ที่เลือกเขียนพร้อมกันก็เพราะว่ามีพล็อตขึ้นมาเยอะแยะมาก
แล้วด้วยความที่เขียนตามอารมณ์ มันก็เลยจะมีเรื่องนึงอัพถี่ เรื่องนึงนานๆครั้งบ้าง
แต่ก็แล้วแต่คนด้วยล่ะ บางคนอาจจะหลุดเอาตัวละครมายำกัน
สำหรับเราแล้ว ผลัดกันเขียนคนละวันก็ไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ
(ปัญหาใหญ่ของนักเขียนก็คือแอบอู้นี่แหละ จะเขียนกี่เรื่องนี่เราว่าไม่สำคัญเลย 5555)
เพราะพล๊อตนิยายเรื่องใหม่มันเข้ามาในหัวแล้วสลัดหลุดออกไม่ได้ค่า (ทำให้เกิดการดองอยู่บ่อยครั้ง)
เรื่องใหม่น่าสนใจกว่า บวกกับเรื่องเดิมคนอ่านอิ่มตัว(ไม่เพิ่มขึ้น) จึงอยากเปิดโอกาสให้เรื่องใหม่ๆในหัวได้ออกมาเป็นตัวหนังสือบ้าง
ปกติ แม้จะมีหลายเรื่อง แต่แต่งทีละเรื่อง และอีกอย่าง ตัวละครของผมมีนิสัยคล้ายๆกัน จึงดึงมาใช้ข้ามเรื่องได้ อย่างนิสัยซึนเดเระ แบ๊ว ขี้เล่น แม้จะคนละเรื่อง แต่ใช้นิสัยเดียวกัน ทำให้ไม่ตีกันมากนัก
บางทีพล็อตกับไอเดียมันก็มาตอนนั้นพอดี จะปล่อยให้มันหายไปก็เสียดายของค่ะ
สู้เขียนเลยดีกว่า
เราว่าไม่ตีกันลอง จะตีกันก็ชื่อนี่แหละ (เราเป็นบ่อย) ๕๕๕
แล้วแต่คนค่ะ ตอนนี้เราแต่งควบพร้อมกันห้าเรื่อง ไม่มีปัญหาเนื้อหาหรือนิสัยตัวละครตีกันนะ
ที่เปิดหลายเรื่องก็เพราะอยากแต่งสลับอารมณ์กัน ไม่น่าเบื่อดีค่ะ แนวนิยายเราค่อนข้างหลากหลาย
เราเขียนสองเรื่องพร้อมกัน แนวรักโรแมนติก กับ แนวสืบสวนฆาตกรรม สลับอัพบทใหม่ไปมา ปรับความคิดกับอารมณ์แบบวันต่อวัน มันก็สนุกดีนะคะ วันนี้รักพรุ่งนี้ฆ่า พอฆ่าแล้วก็ไปรัก (เหมือนเราจะโรคจิตนะ)
เราก็เขียนทีละเรื่องนะ เพราะเราเป็นประเภททำอะไรได้ทีละอย่าง
พอเขียนเรื่องหนึ่งจบ ก็จะพิมพ์ลงเครื่อง ระหว่างพิมพ์เราก็แก้คำผิดไปด้วย
เปลี่ยนประโยคที่อ่านแล้วไม่รู้เรื่องหรือที่มันขาดๆ เกินไปด้วย
แต่พอพิมพ์เหนื่อยแล้ว เราก็คว้ากระดาษเปล่ามาเขียนพอตเรื่องใหม่(แฮๆ)
พอดีพิมพ์เสร็จค่อยๆ ทยอยลงเว็ป ก่อนลงก็กลับมาอ่านทวนอีกรอบ
พอลงแล้วก็กลับมาอ่านอีกเพื่อปรับแก้ครั้งสุดท้าย
ส่วนเวลาที่เหลือระหว่างนั้นก็...ลุยนิยายเรื่องใหม่
สรุปแล้ว เราก็เขียนทีละเรื่องนะ เรื่องที่เสร็จปรับแก้ทยอยลงเว็ป
ส่วนเวลาที่เหลือก็เอามาเขียนเรื่องใหม่
อย่างเราเวลาเขียนนิยายเล่มนึง
แล้วจินตนาการมันพาไปเรื่อย แวะไปเจอใครคนนึงในโลกของเรา
เราก็ชวนเขามาแคสติ้งเลยค่ะ
มีหลายเรื่องที่วางพล็อตไว้ แล้วตั้งใจว่าจะต้องเขียนแน่นอน
แต่ถ้าเป็นเรา
เราเลือกที่จะเริ่มไว้แต่พล็อต แล้วเขียนให้จบทีละเล่มค่ะ
อย่างตอนนี้เราก็มีไตรภาคอยู่
ถ้าเขียนหลายเล่มพร้อมกัน พาลจะไม่เสร็จสักอย่าง
เพราะเราเป็นคนขี้เกียจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 55555555
ถือคติ ไอเดียดีมาต้องคว้าไว้ อย่าปล่อยให้มันเลยผ่านมาแล้วผ่านไปเน้อ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?