ทำอย่างไรได้เป็นหมอ อยากสอบติดต้องอ่าน(ตอนจบ)
ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ทำอย่างไรได้เป็นหมอ อยากสอบติดต้องอ่าน(ตอนที่1)
ช่วงชีวิต ม.ปลาย
พอขึ้น ม ปลาย พ่อกับแม่ผมทะเลาะกันทุกวัน จนในที่สุดครอบครัวผมก็แตกแยก ช่วงแรกเสียใจมาก ตอนไปเรียนไม่มีสมาธิเลย แต่สักพักผมก็คิดได้เราต้องไม่เอาเรื่องนี้มาทำให้เราเหลวไหล เราต้องทำให้อนาคตเราดีด้วยตัวเองให้ได้
ขึ้น ม ปลาย ผมก็เหมือนเด็กทั่วๆไปเรียนเสร็จก็กลับบ้าน โชคดีที่ตอนนี้พ่อผมมีรายได้มากขึ้นแล้วทำให้ได้ไปเรียนพิเศษวันเสา-อาทิตย์ แต่ผมก็ไม่คิดว่าแค่เรียนพิเศษจะทำให้ติดหมอกันทุกคนหรอกครับไม่งั้นคงเป็นหมอกันทั้งประเทศ
ตอนสมัยผมมีสอบตรงเข้า วิศวะ ลาดกระบัง ผมก็เลยไปสอบบ้าง
ผมก็เหมือนเคย มั่นใจฟิสิก ว่าตัวเองเจ๋งมาก สรุปว่า..........ก็สอบไม่ติดครับ 5555
"ตอนนั้นเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะสอบ admission แล้ว
การเตรียมตัวสอบ
1)ตอนเรียนก็ตั้งใจเรียนตามปกติ กลับบ้านมาสิ่งที่ที่ห้ามทำอย่างเเรกเลย คือห้ามเปิดคอมพิวเตอร์หรือเปิดมือถือเข้าfacebook
2)เสาร์-อาทิตย์ ผมไปเรียนพิเศษตามสถาบันชื่อดังต่างๆ เพื่อนบางคนเรียนไม่รู้เรื่องก็เดินออก ส่วนผม ไม่รู้เรื่องก็จะฟังๆๆๆจนจบ กลับมาทวนที่เรียนนั่นเเหละ
3)สำหรับผมนะ ไม่ต้องอ่านหนังสือเยอะหรอก ถ้าใครเรียนพิเศษก็เอาเนื้อหาที่เค้าย่อๆไว้เหลือนิดเดียวนั่นเเหละอ่าน พอเเล้ว ส่วนใครไม่เรียนพิเศษ ก็หาหนังสือที่เนื้อหาย่อที่สุดอ่าน (หรือไปยืมหนังสือที่เรียนพิเศษเพื่อนมาซีรอคก็ได้นะวิชาที่ไม่เรียนพิเศษผมก็ยืมไปซีรอคนี่เเหละ 555)
4)ดูน้ำหนักของวิชาที่สำคัญ เช่น ตอนผมให้วิชาคณิตศาสตร์ 20% ของคะเเนนสอบ ขณะที่สังคมให้5%ผมก้อ่านเลขเยอะๆหน่อย
5)เน้นที่การทำข้อสอบมากกว่าอ่าน เพราะยังไงข้อสอบก็ออกเเนวเดิมๆนี่เเหละ หลุดเเปลกๆใหม่มาไม่กี่ข้อหรอก ไม่งั้นคนออกโดนด่า
ผมเริ่มตะลุยทำข้อสอบเอนทรานซ์ตามปี พศ หรือ ตามบท ไล่ทำมันทุกวิชา วิชาที่ชอบก็ทำไปได้สักสิบ พศ วิชาที่ไม่ชอบก็ประมาณ 6-7 พศ ข้อสำคัญ อ่านเฉลยต้องเข้าใจทั้งหมด แล้วให้พยายามทำเองจนกว่าจะทำไม่ได้จริงๆค่อยดูเฉลย
4)ให้เอาหนังสือมาตัดแยกส่วน ให้เป็นชีทข้อสอบเเต่ละปี เราจะได้พกง่ายๆ พักเที่ยงที่ รร ก็หยิบมาทำสักห้าหกข้อ ทุกวัน
ไป อึ๊ ก็หยิบไปนั่งทวนข้อที่เคยทำไป พอเริ่มมั่นใจว่าเก่งขึ้น ให้ลองจับเวลาดูจำลองว่าสอบจริง ลอคห้องปิดมือถือซะ (พ่อมาเคาะห้องถามว่าทำไร 555)
5)ทำกระดาษ post it เขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อม part of speech กับ ตัวอย่างประโยค แปะไปเลยที่กำแพงข้างโถส้วม อึ๊ ไปก็นั่งดูไป (จะท่องออกเสียงก็ได้นะถ้าที่บ้านไม่สงสัย 555)
6)การติวเป็นกลุ่มกับเพื่อน ไม่ค่อยช่วยและช้า ติวไปข้อนึงนั่งเม้ากันอีกครึ่ง ชม สรุปกลับบ้านฮาอย่างเดียว ใช้ไปถามเพื่อนที่เก่งๆเป้นข้อไปดีกว่าว่าทำยังไง
7)ดูหนัง ดูการ์ตูน ฟังเพลง พักผ่อนบ้างนอนให้เพียงพอ สมองจะจำได้ดีขึ้น เพราะความจำที่ดี จะเกิดขึ้นตอนนอน เหมือนคอมพิวเตอร์ที่ได้จัดระบบข้อมูล จะโหลดได้เร็วขึ้น
ทั้งหมดข้างบนนี้ผมทำแค่ประมาณ6-7เดือนก่อนสอบกลางadmission โดยต้องทำอย่างต่อเนื่องมีระเบียบ และจริงจัง
"ผมทำได้ คุณก็ทำได้ อย่าโทษคนอื่น อย่าโทษว่าพันธุกรรมไม่ดีเกิดมาโง่ อย่าโทษว่าไม่ได้เรียนโรงเรียนดังๆ อย่าโทษว่าเพราะไม่ได้เรียนพิเศษ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง"
เพิ่งหัดเขียนบลอคเข้ามาอ่านมาให้กำลังใจเค้ากันบ้างน้าาา จะได้เขียนออกมาอีกเยอะ
http://drlifediary.blogspot.com/
2 ความคิดเห็น
หนูอ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้เอยะเลยค่ะ ขอบคุณพี่มากนะค่ะ หนูสัญญาว่าจะเป็นหมอให้ได้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?