การแต่งนิยายให้จบ ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ เพื่อนๆที่เป็นนักเขียนทุกท่านค่ะ เวลาเราแต่นิยายเนี่ยเราก็ต้องแต่ต่อไปจนกว่าจะจบใช่มั้ยค่ะเราอยากจะถามเพื่อนๆ พี่ๆ นักเขียนที่มีประสบการณ์ที่สามารถแต่งนิยายได้จนจบนะค่ะว่า"เรามีวิธียังไง หรือต้องวางแผนยังไงให้มันจบ" เพราะตอนแรกเราเองก็อยากจะให้นิยายของเราจบและมีจำนวนตอนแค่ 30 กว่าตอนแต่พอแต่งไป แต่งมามันเหมือนจุดฟินนิตี้อะ คือแต่งไปเรื่อยๆ นึกอะไรได้ก็แต่งไป แล้วเราก็เริ่มมาคิดว่าเราจะทำให้นิยายจบในตอนที่เท่าไรดี หรือจะแต่ต่อไปเรื่อยๆดี เพราะบอกตรงๆ ตอนนี้เราก็เหมือนแบบว่า ติดแฟนคลับอะ เวลาเขาคอมเม้นมาหรือเป็นคนที่เพิ่งจะเข้ามาติดตามแล้วเม้นใน ตอนแรกๆอะ เราก็ไม่อยากให้มันจบเลย และก็อยากให้เขาอ่านอย่างสนุกด้วย เราควรมีวิธีวางแผนหรือวิธ๊คิดยังไงดีค่ะ ในการแต่งนิยายให้จบแบบสมบูรณ์และมีคุณภาพ Marry Pink 3 ก.ย. 58 เวลา 22:53 น. 0 like 311 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
libbyScorpion 3 ก.ย. 58 เวลา 23:04 น. 1 ถามข้อเดียวค่ะ..... .ไม่ได้วางพล็อตไว้ใช่มั้ยคะเนี่ย? 55555 2 1 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Marry Pink 4 ก.ย. 58 เวลา 16:53 น. 1-1 5555 ใช่แล้วค่ะ เขียนแบบตามใจฉัน 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
ゆみご 3 ก.ย. 58 เวลา 23:05 น. 2 อ้างอิงบทความหนึ่งค่ะ การเขียนปิดเรื่อง 25% ลองเข้าไปอ่านดูค่ะ อาจจะช่วยให้มีแนวทางในการเขียนตอนจบได้ว่าอยากให้จบแบบไหนhttp://my.dek-d.com/guopinchaonat/writer/viewlongc.php?id=510919&chapter=11 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mad-girl2 4 ก.ย. 58 เวลา 20:40 น. 4 ต้องวางพล็อตค่ะ แต่ต้องวางเยอะๆ คิดกว้างๆ กันออกนอกกรอบ คิดให้เยอะๆ ไว้ก่อน (เราคิดว่ากว้างพอแล้วยังออกนอกกรอบเลย) แต่อย่าสับสน ซึ่งมันจะดีต่อคนเดินเรื่องเร็ว เพราะถ้าเนื้อหาน้อยแต่เดินเรื่องเร็วก็จะไม่รู้จะเขียนอะไรต่อไปอีก เรากำลังจะใช้วิธีนี้แหละ แต่เผอิญว่านิยายเราที่ดองไว้มันพล็อตสั้นเกิน บ้างก็เน่าไปแล้ว (ไม่อยากใช้พล็อตนั้นแล้ว) แถมไอเดียอื่นยังไม่ผุดมาเกิดใหม่ ใครก็ได้ช่วยด้วย!!! 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
whaticouldnevertell 4 ก.ย. 58 เวลา 21:56 น. 5 วางพล็อตค่ะ จบให้ลง คิดซะว่ามันไม่ใช่พันหนึ่งราตรีนะคะ ยังไงก็ต้องมีวันจบ ตอนนี้วางแผนก่อนค่ะว่าจะให้จบตอนที่เท่าไหร่ พยายามจบให้น่าประทับใจ (แบบที่คิดว่าดีสำหรับคนอ่านและตัว จขกท เอง) แล้วไปพัฒนาฝีมือต่อเรื่องอื่นค่ะ นิยายของ จขกท มี 41 ตอน เราก็จำนวนตอนก็พอรับได้อยู่นะคะ ไม่ได้ถือว่าเยอะมากมายอะไร แต่พยายามอย่ายืดเรื่องจนจนทำให้ยืดเยื้อนะคะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
กอใจ 5 ก.ย. 58 เวลา 10:37 น. 6 เนื่องจากไม่เคยเรียนการเขียน ไม่เคยได้รับคำแนะนำจากนักเขียนนิยายมืออาชีพ จึงมีวิธีในการแต่งนิยายในแบบของตัวเองซึ่งจะถูกต้องหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่มันทำให้เราเขียนนิยายทุกเรื่องจบ 1. ก่อนลงมือแต่งต้องตั้งจุดประสงค์ว่านิยายเรื่องนี้ต้องการจะบอกอะไรกับนักอ่าน วาง “แก่น” ของเรื่องให้ชัดเจน เวลาแต่งแม้จะมีออกทะเลไปบ้าง แต่ก็จะกลับเข้าฝั่งได้เพราะมี “แก่น” ของเรื่องเป็นหลักให้ยึด 2. เขียนพล๊อตคร่าวๆสักสี่ห้าหน้าตั้งแต่ต้นเรื่องจนเกือบจบ (ไม่เคยเขียนถึงตอนจบ เพราะชอบไปโซโลตอนที่ลงมือเขียนเรื่องเต็ม เพราะพอเขียนไปสักพักจะผูกพันกับตัวละคร ทำให้การเขียนตอนจบมันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบเรียล คือไม่ได้แพลนไว้ก่อน เอาอารมณ์มาเขียนล้วนๆ 555+) 3. เขียนแต่ละบทคร่าวๆสักหนึ่งย่อหน้าตั้งแต่บทที่หนึ่งไปจนถึงบทสุดท้าย ต้องรู้ว่าแต่ละบทต้องการจะบอกอะไร 4. ลงมือเขียน ถ้าคิดไม่ออก ตัน ก็หยุดเขียนไปหาแรงบันดาลใจ แล้วค่อยกลับมาเมื่อนึกออก แต่ถ้าให้ยังไงก็นึกไม่ออก ก็เขียนไปก่อน เขียนไปแบบไม่ต้องมีเหตุผล เขียนเพื่อเขย่าความคิด จากนั้นค่อยมาขัดเกลาเปลี่ยนแปลงแก้ไขทีหลัง 5. ไม่ลงในเว็บจนกว่าจะเขียนได้เกิน 80% เพราะบางครั้งอาจมีนักอ่านคอมเม้นท์มาบอกว่าอยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ ถ้าเราไม่เขียนไว้ก่อน ก็อาจไขว้เขวไปตามที่นักอ่านต้องการ แต่ต้องอย่าลืมว่านักอ่านแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน เราทำตามความต้องการของนักอ่านทุกคนไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเขียนในแบบที่เราวางพล๊อตไว้แต่แรก และค่อยๆอัพลงเว็บไปเรื่อยๆ พอตอนจบนักอ่านจะรู้เองว่าทำไมจุดนั้นเราถึงเขียนแบบนั้น ทำไมไม่ตามใจนักอ่าน เพราะเรามีพล๊อตที่วางมาแบบรัดกุมแล้ว 6. ท้ายที่สุดคือ เมื่อลงจบ ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่อาจมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ตรงนี้ก็แล้วแต่นักเขียนว่าจะทำยังไงต่อไป จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือไม่ แต่สำหรับเรา เรายึดหลัก เขียนในแบบที่ตัวเองชอบ เพราะรู้ว่าทำให้ทุกคนชอบไม่ได้แน่ๆ อย่างน้อยถ้าเราเขียนเองชอบเอง กลับมาอ่านนิยายตัวเองเมื่อไหร่ก็สุขใจเมื่อนั้น สำหรับเรา เราบ้ายอดวิว รอคอยคอมเม้นท์ ชอบดูคะแนนโหวต แต่ทั้งหมดนั้นไม่สำคัญเท่า เราต้องเขียนนิยายให้จบและต้องเขียนในแบบที่เราชอบด้วยค่ะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
MIND_D_D 10 ก.ย. 58 เวลา 20:14 น. 7 เป็นเหมือนกันเลยค่ะ คือเราไม่ได้วางพล็อตไว้แต่งไปเรื่อยๆ บางทีก็ตันแต่พอแต่งต่อได้ก็ ยาวไปๆ ไม่จบสักที ไม่รู้จะจบยังไง 555555 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
#Dek67 เคยเห็นยัง? 100 อันดับที่มีผู้สมัครมากสุดใน TCAS66 พร้อมจำนวนรับและสถิติคะแนนสูงต่ำ TCAS/รับตรง/แอดมิชชั่น
รวมเทคนิค! ม.4-5-6 เดินเที่ยวงาน Dek-D's TCAS Fair ให้ฟินและคุ้มที่สุด (เข้างานฟรี 27-28 เม.ย.นี้) TCAS/รับตรง/แอดมิชชั่น
7 ความคิดเห็น
ถามข้อเดียวค่ะ.....
.
ไม่ได้วางพล็อตไว้ใช่มั้ยคะเนี่ย? 55555
5555 ใช่แล้วค่ะ เขียนแบบตามใจฉัน
อ้างอิงบทความหนึ่งค่ะ การเขียนปิดเรื่อง 25% ลองเข้าไปอ่านดูค่ะ
อาจจะช่วยให้มีแนวทางในการเขียนตอนจบได้ว่าอยากให้จบแบบไหน
http://my.dek-d.com/guopinchaonat/writer/viewlongc.php?id=510919&chapter=11
ต้องวางพล็อตค่ะ แต่ต้องวางเยอะๆ คิดกว้างๆ กันออกนอกกรอบ คิดให้เยอะๆ ไว้ก่อน (เราคิดว่ากว้างพอแล้วยังออกนอกกรอบเลย) แต่อย่าสับสน ซึ่งมันจะดีต่อคนเดินเรื่องเร็ว เพราะถ้าเนื้อหาน้อยแต่เดินเรื่องเร็วก็จะไม่รู้จะเขียนอะไรต่อไปอีก
เรากำลังจะใช้วิธีนี้แหละ แต่เผอิญว่านิยายเราที่ดองไว้มันพล็อตสั้นเกิน บ้างก็เน่าไปแล้ว (ไม่อยากใช้พล็อตนั้นแล้ว) แถมไอเดียอื่นยังไม่ผุดมาเกิดใหม่ ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!
วางพล็อตค่ะ จบให้ลง คิดซะว่ามันไม่ใช่พันหนึ่งราตรีนะคะ ยังไงก็ต้องมีวันจบ
ตอนนี้วางแผนก่อนค่ะว่าจะให้จบตอนที่เท่าไหร่ พยายามจบให้น่าประทับใจ (แบบที่คิดว่าดีสำหรับคนอ่านและตัว จขกท เอง) แล้วไปพัฒนาฝีมือต่อเรื่องอื่นค่ะ
นิยายของ จขกท มี 41 ตอน เราก็จำนวนตอนก็พอรับได้อยู่นะคะ ไม่ได้ถือว่าเยอะมากมายอะไร แต่พยายามอย่ายืดเรื่องจนจนทำให้ยืดเยื้อนะคะ
เนื่องจากไม่เคยเรียนการเขียน ไม่เคยได้รับคำแนะนำจากนักเขียนนิยายมืออาชีพ จึงมีวิธีในการแต่งนิยายในแบบของตัวเองซึ่งจะถูกต้องหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่มันทำให้เราเขียนนิยายทุกเรื่องจบ
1. ก่อนลงมือแต่งต้องตั้งจุดประสงค์ว่านิยายเรื่องนี้ต้องการจะบอกอะไรกับนักอ่าน วาง “แก่น” ของเรื่องให้ชัดเจน เวลาแต่งแม้จะมีออกทะเลไปบ้าง แต่ก็จะกลับเข้าฝั่งได้เพราะมี “แก่น” ของเรื่องเป็นหลักให้ยึด
2. เขียนพล๊อตคร่าวๆสักสี่ห้าหน้าตั้งแต่ต้นเรื่องจนเกือบจบ (ไม่เคยเขียนถึงตอนจบ เพราะชอบไปโซโลตอนที่ลงมือเขียนเรื่องเต็ม เพราะพอเขียนไปสักพักจะผูกพันกับตัวละคร ทำให้การเขียนตอนจบมันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบเรียล คือไม่ได้แพลนไว้ก่อน เอาอารมณ์มาเขียนล้วนๆ 555+)
3. เขียนแต่ละบทคร่าวๆสักหนึ่งย่อหน้าตั้งแต่บทที่หนึ่งไปจนถึงบทสุดท้าย ต้องรู้ว่าแต่ละบทต้องการจะบอกอะไร
4. ลงมือเขียน ถ้าคิดไม่ออก ตัน ก็หยุดเขียนไปหาแรงบันดาลใจ แล้วค่อยกลับมาเมื่อนึกออก แต่ถ้าให้ยังไงก็นึกไม่ออก ก็เขียนไปก่อน เขียนไปแบบไม่ต้องมีเหตุผล เขียนเพื่อเขย่าความคิด จากนั้นค่อยมาขัดเกลาเปลี่ยนแปลงแก้ไขทีหลัง
5. ไม่ลงในเว็บจนกว่าจะเขียนได้เกิน 80% เพราะบางครั้งอาจมีนักอ่านคอมเม้นท์มาบอกว่าอยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ ถ้าเราไม่เขียนไว้ก่อน ก็อาจไขว้เขวไปตามที่นักอ่านต้องการ แต่ต้องอย่าลืมว่านักอ่านแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน เราทำตามความต้องการของนักอ่านทุกคนไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเขียนในแบบที่เราวางพล๊อตไว้แต่แรก และค่อยๆอัพลงเว็บไปเรื่อยๆ พอตอนจบนักอ่านจะรู้เองว่าทำไมจุดนั้นเราถึงเขียนแบบนั้น ทำไมไม่ตามใจนักอ่าน เพราะเรามีพล๊อตที่วางมาแบบรัดกุมแล้ว
6. ท้ายที่สุดคือ เมื่อลงจบ ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่อาจมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ตรงนี้ก็แล้วแต่นักเขียนว่าจะทำยังไงต่อไป จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือไม่ แต่สำหรับเรา เรายึดหลัก เขียนในแบบที่ตัวเองชอบ เพราะรู้ว่าทำให้ทุกคนชอบไม่ได้แน่ๆ อย่างน้อยถ้าเราเขียนเองชอบเอง กลับมาอ่านนิยายตัวเองเมื่อไหร่ก็สุขใจเมื่อนั้น
สำหรับเรา เราบ้ายอดวิว รอคอยคอมเม้นท์ ชอบดูคะแนนโหวต แต่ทั้งหมดนั้นไม่สำคัญเท่า เราต้องเขียนนิยายให้จบและต้องเขียนในแบบที่เราชอบด้วยค่ะ
เป็นเหมือนกันเลยค่ะ คือเราไม่ได้วางพล็อตไว้แต่งไปเรื่อยๆ บางทีก็ตันแต่พอแต่งต่อได้ก็
ยาวไปๆ ไม่จบสักที ไม่รู้จะจบยังไง 555555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?