Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

นี่ฉันเป็นส่วนเกินหรือเปล่า...?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกที่เราตั้งเกี่ยวกับปัญหาชีวิตของเราเอง...
นั่นคือปัญหาที่ว่าเราไม่ค่อยมีเพื่อนเลยค่ะ
ดังนั้นเราจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เผื่อว่าจะมีเพื่อนๆคนไหนจะพอให้คำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องนี้ได้บ้างค่ะ

...คือเราเนี่ย เป็นคนที่นิสัยออกจะบ้าๆไปสักหน่อยค่ะ จนบางครั้งก็อาจจะชอบทำเป็นเล่นเกินไปบ้าง แล้วบางทีก็ทำอะไรเปิ่นๆออกไปบ่อยๆด้วย เรียกสั้นๆก็คนขี้เล่นนั่นแหละ
เพียงแต่เราก็มีนิสัยอีกด้านหนึ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับความขี้เล่นของเราเลย นั่นคือเราเป็นคนชอบคิดมากค่ะ คิดมากแล้วก็ขี้น้อยใจมากๆเลยด้วย ยิ่งเวลาอยู่คนเดียวคือเป็นคนละคนกับคนขี้เล่นนั่นเลย บางครั้งถึงกับจิตตกก็มีค่ะ

และนี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยมีเพื่อนคบเราค่ะ
ที่จริงแล้วมันอาจไม่ถึงกับไม่มีเพื่อนเลย แต่เราไม่สามารถคุยกับเพื่นคนไหนได้อย่างสนิทใจเลยค่ะ เรียกง่ายๆก็จูนไม่ติดนั่นแหละ
เราเพียงแค่อยากมีเพื่อนสักคนที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง สามารถปรึกษาปัญหาได้โดยที่มั่นใจว่าความลับจะไม่รั่วไหล สามารถระบายความในใจอะไรออกไปก็ได้โดยที่เขารับฟัง
ทุกวันนี้แม้แต่จะโพสเรื่องที่กลุ้มใจลงในเฟสบุคเรายังไม่กล้าเลยค่ะ เรากลัวว่าเพื่อนๆในห้องจะเข้าใจผิดว่าเราไปว่าพวกเขา(เคยโพสลอยๆแล้วเป็นปัญหามาแล้ว)
แต่จะให้เราไปปรึกษาอะไรพวกเขาก็คงไม่ได้ค่ะ เพราะเราไม่รู้สึกว่าสนิทกับพวกเขาเลย...
เวลาเพื่อนๆในห้องเล่นอะไรเฮฮาๆ บางครั้งก็มีบ้างนะคะที่เราอยากจะเข้าไปร่วมวงด้วย แต่เมื่อเราเข้าไปเหมือนงานมันจะกร่อย...บางครั้งพวกเขาก็มองมาด้วยสายตาเหมือนรำคาญ บางทีก็เมินไปเลยค่ะ เหมือนเราเป็นส่วนเกินเลยเนาะ...
เวลาคุยกัน ถ้าไม่ใช่เรื่องงานนี่พวกเขาแทบจะไม่สนใจเราเลยค่ะ
บางทีเราก็ถามตัวเองนะว่า

'เราเล่นมากเกินไปหรือเปล่า?'

แต่ครั้นจะให้คุยแต่เรื่องซีเรียสจริงจัง เราก็คิดว่ามันไม่ใช่ตัวของเราเลย

'หรือว่าเราจะน่ารำคาญเกินไป?'

แต่ถ้าเอาแต่เงียบก็เท่ากับว่าเราไม่สามารถเข้าหาพวกเขาได้เลย

เราเป็นคนที่อ่อนไหวกับการคบเพื่อนมากค่ะ ครั้งหนึ่งเราเคยถูกเพื่อนเลิกคบ(ทำผิดทุกคน แต่เขาโทษแค่เราคนเดียว) ทำให้เราไม่กช้าคบใครเป็นเพื่อนไปพีกหนึ่งเลย กลัวความผิดหวัง(เราเคยทุ่มเทให้เพื่อนที่เลิกคบเรามากๆ แต่วันที่เลยคบเขาทำเหมือนเราไม่เคยเป็นเพื่อนเขามาก่อนเลย)
ดังนั้นจะให้เราทำอะไรแบบทุ่มเทเราก็ไม่กล้า

...เรารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเราเอง เรารู้ว่าสิ่งที่ควรจะเปลี่ยนคือตัวของเราเอง แต่เราก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นยังไง แก้ไขตรงไหนก่อนดี
เราจึงอยากจะขอรบกวนเพื่อนๆช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ เพราะถ้าไม่รีบแก้ไขเสียตั้งแต่ตอนนี้ มันคงจะเป็นปัญหาในระยะยาวแน่ๆ...



ปล.เราอายุสิบเก้าปีค่ะ ตอนนี้เข้ามหา'ลัยแล้ว แต่ก็จูนกับใครไม่ค่อยติดเลย(ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือรุ่นพี่)


เศร้าจัง

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

White Frangipani 5 ก.ย. 58 เวลา 00:34 น. 1

สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้

เป็นคำบอกเล่าที่ดิฉันต้องอ่านสามรอบก่อนที่จะตัดสินใจช่วยตอบค่ะ

ข้อความต่อไปนี้ที่ดิฉันจะช่วยตอบนี้หากคุณไม่เข้าใจหรือสงสัยอะไรคุณถามกลับมานะคะ เพื่อคุณเองจะได้สบายใจกับการที่เจ้่ของเมันต์นี้จะช่วยแนะนำ และการที่ดิฉันจะช่วยให้กำลังใจคุณนี้เป็นการส่งมอบจากดิฉันด้วยความบริสุทธิ์ใจค่ะ (คือยากให้คุณรู้สึกได้และเชื่อ และยอมรับให้ได้แบบนั้นค่ะ)


ช่วยแนะนำนะคะ...1 การแก้ปัญหาที่คุณเล่ามาว่าการ เป็น อยู่ และพบเจอ อยู่นี้ คุณต้องฝึกการทำสมาธิเพื่อสัมผัสให้ได้ถึงจิตใจของคุณเองก่อนค่ะ ว่าแท้จริงคุณยืนหรือมีหลักฐาน(จุดยืนอยู่ตรงไหน) และมากกว่าการรู้ถึงการเป็นอยู่ รู้สึกถึงจิตใจของคุณแล้ว ก้าวต่อไปคุณต้องพยายามฝึกที่จะรับรู้ถึงกฎแก่นสารของสัพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงบนโลกนี้ค่ะ


2สัพสิ่งต่างๆในที่นี้ดิฉันขอรวมเหตุการณ์ นิสัย ใจคอ ความแตกต่างทั้งหลายทั้งปวงของทุกๆคนรอบๆตัวคุณด้วยนะคะ คุณต้องรู้ให้ได้ทั้งข้อ 1 และ 2สองนะคะก่อนอื่นใดค่ะ และจงรักษาความรู้สึกของอาการรอบรู้นั้นไว้ให้ได้ ให้คงมั่น จนอาการที่จะรู้ได้ ถึง2 ข้อนี้เกิดเป็นอุปนิสัยใจคอของคุณค่ะ


ขอขยายความในข้อ1นะคะ ดิฉันเห็นภาพเหตุการณ์ของคุณตามที่เล่ามานั้น คุณเป็นคนที่คิดมากคิดเล็กคิดน้อย คิดจุกจิกกับตัวตนของคุณเกินไปจนเกิดอาการกดดันตัวคุณเองขึ้นมาค่ะ

ตามที่คุณเล่ามาคุณเป็นคนที่คิดมากเกินไปว่าตนนั้นจะไม่ดีพอ จนคุณขาดความมั่นใจและเกิดความกลัวและกังวลในเรื่องราวต่างๆนาๆ เช่นคุณเข้าใจและคิดว่าเพื่อนๆไม่ชอบคุณ

คุณไม่ดีพอ คุณเป็นส่วนเกิน คุณปรับตัวเข้ากับสงคมไม่ได้ คุณคิดมากกินไปค่ะ เหตุนี้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ค่ะ  (ทั้งหมดนี้เป็นไปได้นะคะที่คุณจะคิดไปเอง ในความจริงเพื่อนๆเขาอาจจะไม่คิดกับคุณแบบนั้นก็เป็นได้ค่ะ)

คุณต้องสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาให้จงได้ว่า...คุณเป็นคนปรกติธรรมดาซึ่งอาจจะมีความแตกต่างจากหลายๆคนเท่านั้น  และแน่นอนเขาทั้งหลายต่างจากคุณ คือความจริง

และตราบใดที่คุณไม่ทำให้ตัวคุณเองเดือดร้อนหรือใครๆต้องเดือดร้อน คุณต้องไม่ซีเรีสเกินไป ต้องไม่คิดมากหรือไม่กดดันตัวคุณเองมากเกินไปค่ะ เพราะฉนั้นดิฉันจึงแนะนำให้คุณฝึกทำสมาธิ เพื่อให้คุณมีสมาธิและสติที่รู้ถึงตัวตนของคุณและผู้คนรอบๆตัวคุณค่ะ

ข้อ 2 (ขยายความนะคะ) สัพสิ่งต่างๆในที่นี้ อยากจะช่วยชี้แนะคุณให้ฝึกเชื่อว่า คนเรามีความแตกต่างเป็นแก่นสารค่ะ เช่นวิธีพูด วิธีคิด วิธีเชื่อ/ศรัทธา วิธีทำ/ปฎิบัติ วิธีดำรงไปของคนรอบๆ ตัวเรานั้นมีความแตกต่างเป็นแก่นสารค่ะ คือความจริงที่คณต้องยอมรับให้ได้

คุณอย่าจับใจมอง จับตามองเขาทั้งหลายเพื่อนำมาเป็นกระจกส่องใจคุณสิคะ และยิ่งคุณมองตัวเองติดลบ กดดัน อยู่ก่อนแล้ว และยังนำความแตกต่างของผู้อื่นมาเป็นกระจกส่งตัวคุณ ทุกอย่างจึงเกิดเป็นอาการหรือความรู้สึกเช่นที่คุณเป็นอยู่นี้ไงคะ (ที่คุณเป็นอยู่นี้คือความทุกข์ทรมานค่ะ)

ในความเป็นจริงนะคะ คนเรา/เขาต่างกัน เรา/เขาจะพูด จะคุย จะแสดงออกอย่างไรซึ่งอาจจะแตกต่างจากคนอื่นนั้น คุณอย่าจับผิดตัวเองให้มากไปค่ะ ไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร จะมีความสุขสงบได้อย่างไรกันคะ คุณลองคิดดูนะคะ


เหตุที่เกิดขึ้นกับคุณนี้การทำสมาธิเพื่อให้สติรู้เพื่อตัวคุณเองจะมีจุดยืนเป็นของตัวคุณเอง เท่านั้นค่ะ คุณจึงจะหลุดพ้นจากความกังวลและทุกข์ทรมานนี้ได้ เรื่องที่คุณบอกว่าจูนกับเพื่อนๆไม่ติดอาจจะเป็นเพราะคุณคิดมากและคิดมากไปองค่ะ


เมื่อมีสติรู้คุณจะเข้าใจค่ะว่าการดำรงไปไม่ไช่เหตุที่ต้องทุกข์เสมอไป เช่นการมีเพื่อน หรือสังคมก็ตาม เมื่อคุณรู้คุณเข้าใจ คุณจะจัดการกับเรื่องนี้ได้ และอยู่อย่างเป็นสุข มีสังคมที่ดี มีเพื่อนๆที่ดีมากมายค่ะ  คุณอย่าคิดมากไปค่ะ ตราบใดที่คุณไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

เจ้าของเม้นต์นี้เชื่อว่าคุณไม่ผิดธรรมชาติหรือคุณไม่ไช่คนที่มีปัญหามากหรือน้อยไปกว่าผู้อื่นอย่างแน่นอนค่ะ


ขอเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ




ปล. ยาวๆๆ  อ่านเล่นๆนะคะ

0
ขอตอบนะคะ 5 ก.ย. 58 เวลา 12:29 น. 2

ตอนแรกนึกว่าตัวเองมาตั้งกระทู้ ฮา... เราชอบคิดมากเหมือนคุณเลย เรื่องคบเพื่อน แถมเรายังร่าเริงเกินเหตุสลับกับเคร่งเครียดเกินตัว จนเหมือนจะเป็นไบโพล่าร์ แถมยังไม่ค่อยรู้กาละเทศะ เวลาเพื่อนเครียดกัน เราก็ยังทำให้ขำ หรือทำให้สนุก กลับถูกดุตลอด เหมือนเราเป็นเด็ก แต่พอเพื่อนกำลังสนุกเฮฮา เรากลับตรงข้าม บางทีทำเสียบรรยากาศ เหมือนเราทำอะไรผิดซะงั้น

แอบเห็นด้วยกับคห.หนึ่งนะ เราต้องมีสติ เวลาจะทำอะไร จะผิดพลาดน้อยลง แล้วก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป หาเวลาอ่านหนังสือ ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ทำอะไรที่ทำให้สบายใจก็ผ่อนคลายความกังวลได้ แต่ถ้ามีปัญหากับเพื่อนคนไหน ก็ควรปรับความเข้าใจเสียแต่เนิ่นๆ นะคะ เดี๋ยวลืม เอ้ยไม่ใช่ เดี๋ยวจะเสียเพื่อน

ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ตัวเองแตกต่างจากคนอื่นหรอกค่ะ ในโลกนี้มีคนประหลาดอีกมากมาย เราไม่ใช่คนเดียวที่เพี้ยน หลุดโลกไปซะหน่อย เป็นกำลังใจให้เหมือนกันค่ะ

ตั้งใจ

1
White Frangipani 5 ก.ย. 58 เวลา 18:52 น. 2-1

สวัสดีค่ะ


เห็นคำบอกเล่าของคุณค่ะ...

" เราชอบคิดมากเหมือนคุณเลย เรื่องคบเพื่อน แถมเรายังร่าเริงเกินเหตุสลับกับเคร่งเครียดเกินตัว จนเหมือนจะเป็นไบโพล่าร์ แถมยังไม่ค่อยรู้กาละเทศะ เวลาเพื่อนเครียดกัน เราก็ยังทำให้ขำ หรือทำให้สนุก กลับถูกดุตลอด เหมือนเราเป็นเด็ก แต่พอเพื่อนกำลังสนุกเฮฮา เรากลับตรงข้าม บางทีทำเสียบรรยากาศ เหมือนเราทำอะไรผิดซะงั้น"


ดิฉันนั้นตรงข้ามกับคุณทั้งหมดค่ะ เป็นคนที่จริงจังและซีเรียสมากกับทุกเรื่องหากต้องเป็นหรือต้องทำนะคะ เป็นแบบนี้โดยปรกติเป็นธรรมชาติเลย เพราะมีความรู้สึกว่าชีวิตไม่ไช่ละครนะ จะขี้เล่นตลอดเวลาเป็นเด็กๆไม่ได้นะ

แต่ยามสนุกสนานก็ปล่อยเต็มที่ค่ะ ชอบด้วยนะทำให้สนุกสนาน ผ่อนคลายมีความสุขค่ะ

ตรงนี้หล่ะที่เพื่อนๆหลายคนหรือบางคนซึ่งมีอุปนิสัยที่ไม่มีจุดยืน คือเวลาเล่นไม่รู้เวลาจริงจังไม่รู้นะ เป็นธรรมชาติของเขาหล่ะ (มั่วตั้ว) เขาจึงบ่นออดแอดบ่อยๆว่าเรานั้นนะจริงจังเกินไป ซีเรียสเกินไป

คือต่อว่าเราแบบกลายๆนะคะ ไม่โกรธนะคะแต่รำคาญ รู้สึกว่าอุปนิสัยของเขาทำให้รบกวนความรู้สึกสงบของเราลึกๆตลอดเวลา คือจะเล่นอยู่ตลอดเวลา ไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้ไม่ยอมเป็นผู้ใหญ่ในคราวที่ต้องเป็น ไม่รู้เวลาไหนเล่น เวลาไหนจริงไม่ถือความจริงจังเป็นเรื่องสำคัญ (ดูคล้ายเขาไม่รู้ตัวว่าตนนั้นทำอะไรอยู่ บางครั้งเครียด และเป็นห่วงเพื่อนๆเช่นกันนะ)

มีบ้างค่ะที่บางครั้งดิฉัน สั่งสอน(แก้แค้น) โดยการ...เมื่อเขาบังเอิญต้องจริงจังต่อหน้าใคร(ที่ไม่ไช่เพื่อนที่รู้ใจ) ดิฉันก็แสดงอาการละครลิงใส่หน้าเขาทั้งหลายเลย5555 (กล้านะ คือตลกร้ายนะคะ ทำให้หน้าแตกไปเลย555 จริงนะ) นี้คือวิธีช่วยเหลือเพื่อนให้ประสบพบความจริง และรู้สึกตัวค่ะ ไม่พบเจอ ไม่สัมผัส จะไม่รู้สึกได้สิ คือต้องให้เจอค่ะ


โกรธมากนะ น้อยใจนะร้องไห้ฮื้ออ บอกว่าอายมากนะ (โอยเฉพาะเราซึ่งเป็นเพื่อนที่ใครๆก็รู้ว่าซีเรียสจริงจังตามปรกติ ใครรู้ใครเห็นที่เราทำแบบนี้ทำให้ทั้งอายและขายหน้า)คือต้องแบบนี้หล่ะจึงจะเข้าใจ เอาแต่เล่นๆ ไม่เห็นโลงไม่หลั่งนํ้าตา ต้องให้เห็นค่ะ

แต่เมื่อเห็นเขาอาการแย่ก็โอ๋ๆและอธิบายยืดยาวนะคะ ซึ่งหลังจากเขาพบเจอความรู้สึกนั้นจริงด้วยตัวเองเขาทั้งหลายจะเข้าใจง่ายขึ้นและจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีและเข้าใจกันมากขึ้นลึกซึ้งขึ้นมากอีกด้วย และนี่ที่จะเกิดเป็นเพื่อนตายในที่สุดค่ะ

บางครั้งการที่จะเป็นเพื่อนที่ดีเป็นเพื่อนตายต้องลงทุนเล่นละครลิง เฮ้ออ นี่คือการที่จะเป็นเพื่อนที่ดีได้ ต้องทำได้ทุกอย่างสิน่า...นะ


หากมีสติทำได้ทุกอย่างด้วยการที่จะไม่นำความผิดพลาดหรือล้มเหลวมาอย่างแน่นอนค่ะ(มีสติต้องรู้ได้รู้สิว่าทำอะไรอยู่)

ส่งเสริมการอยู่อย่างมีสมาธิและสติในทุกๆวันค่ะ เพื่อตัวเรา เพื่อเพื่อนๆ เพื่อสังคมที่ดีของเราด้วยค่ะ





รักเลย

0