ถ้ารู้ว่าอนาคตจะได้มาเขียนนิยาย ในอดีตคุณจะตั้งใจเรียนภาษาไทยไหม #ภาษาไทยยากมาก
ตั้งกระทู้ใหม่
ยังไม่พอ ตามมาด้วยอักษรต่ำคู่ ต่ำเดี่ยวอีก
ตอนนี้หน้าครูที่เคยสอนภาษาไทยลอยมาให้เห็นเลย ตอนครูสอนไม่สนใจ ตอนนี้เป็นไงล่ะ เศร้าซ้า
เข้ากูเกิลมาหลายวัน จนตอนนี้เราก็ยังไม่เข้าใจการผันวรรณยุกต์ เราเลยเครียดมากเพราะกลัวคำที่ต้องใช้ไม้ไต่คู้ แล้วเราใส่ไม้ตรีแทน
ใครมีวิธีจำแบบง่ายสุดๆ บ้าง ช่วยแนะนำที จะขอบคุณเป็นที่สุด
16 ความคิดเห็น
ฮา ผมเป็นอีกคนที่ "รู้อะไร ไม่เท่ารู้งี้"
รู้งี้ ผมจะตั้งใจเรียนภาษาไทยให้มากและลึกซึ้ง
ยอมรับว่าภาษาไทยเป็นอะไรที่ยากจริงๆ ครับ
อ่านให้เยอะแล้วจะจำได้เองว่าคำไหนเขียนถูก คำไหนเขียนผิด
ภาษาไทยยากก็จริง แต่ไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม
เอาแค่ไม้ไต่คู้กับไม้ตรีนะครับ คู่นี้ง่ายมากครับ
ไม้ตรีเป็นวรรณยุกต์ แต่เป็นวรรณยุกต์เรื่องมาก ใช้ได้กับตัวอักษรเฉพาะบางตัวเท่านั้น ตัวอื่นห้ามใช้ ตัวที่ใช้ได้คือ ก จ ด ต บ ป อ (มีวิธีท่องหลายวิธี รุ่นผมท่องว่า ไก่จิกเด็กตายบนปากโอ่ง)
ไม้ตรีใช้ทำให้คำออกเสียงตรี เช่น กิ๊ก จุ๊บ (เหมือน)เด๊ะ โต๊ะ บ๊อง ปี๊บ โอ๊ย (ลองออกเสียงดู เสียงพวกนี้เรียกว่าเสียงตรีครับ)
ถ้าเป็นตัวอักษรอื่นที่ไม่ใช่ 7 ตัวนี้ เวลาต้องการให้ออกเสียงตรี มักจะใช้ไม้โทแทน เช่น ค้า(ขาย) ช้าง ซ้อม เท้า น้อง ฟ้า ม้า ร้อง เล้า วุ้น เป็นต้น
(อักษรพวกนี้มีชื่อเรียกนะ แต่กลัวงง ไม่พูดแล้วกัน)
ส่วนไม้ไต่คู่ ไม่ใช่วรรณยุกต์ครับ ใช้ในกรณีเดียวคือ ทำสระเสียงยาวให้เป็นเสียงสั้น เช่น
เดน (เศษเหลือ) ออกเสียงยาว ส่วน กระเด็น ออกเสียงสั้น เพราะรูปสระเอะ (เดะ+น) มันเขียนแล้วอ่านไม่ออก เลยแปลงร่าง ะ กระเด็นขึ้นเป็น ็ ข้างบนแทนครับ
(คำที่ใช้สระเอะทั้งหลาย พอมีตัวสะกดก็เลยต้องมีไม้ไต่คู้กันหมด เช่น เก็บ เข็ด เค็ม เจ็บ เช็ด เด็ก เต็ม เป็ด เม็ด เร็ว เสร็จ เห็น ฯลฯ)
ทีนี้ คำที่มาจากภาษาอังกฤษ ถ้าเดิมเขาออกเสียงสั้น อย่าง พล็อต เขาออกสั้นๆ ไม่ออกยาวอย่าง พลอดรัก ก็เลยต้องใส่ไม้ไต่คู้ให้มันสั้นครับ
คำจากภาษาอังกฤษพวกนี้ ถ้าเป็นเสียงสั้นก็จะใช้ไม้ไต่คู้ทำให้สั้นครับ (แต่บางทีถ้ามันไม่สับสนกับคำที่ใกล้เคียง บางคนก็ชอบละไว้ ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ เช่น แม็ค หรือ แมค จะเห็นคนเขียนทั้งสองแบบ)
คำจากภาษาอังกฤษ ถ้าเสียงยาวและเป็นเสียงตรี ใช้ไม้ไต่คู้ไม่ได้ครับ ให้เลือกระหว่าง ไม้ตรี กับไม้โท โดยดูว่าตัวอักษรนั้นอยู่ในกลุ่ม 7 ดาวลูกไก่(จิกเด็กตายบนปากโอ่ง) หรือไม่ เช่น
ก๊าซ แจ๊ส (มีน้อยมาก นึกออกแค่นี้ นอกจากนี้นิยมละไว้ไม่ใช่เลย)
ประเด็นคือรู้สึกเหมือนสมัยนี้จะไม่ค่อยถูก
ในฐานะที่ได้เกรด 1 วิชาภาษาไทยเมื่อตอนม.ต้น
จนตอนนี้คิดว่าคิดถึงมากค่ะ สมัยก่อนอาจารย์ให้เขียนกลอน ประโยคแรกก็เขียนไม่ได้
เขียนคำถูก บอกเลยว่า เต็มสิบ เราได้ ศูนย์ คะแนน
คนเรามันก็ต้องมีการพัฒนาใช่ไหมคะ อย่างน้อยๆ สมัยก่อนเราอาจจะย้อนไปแก้ไม่ได้ แต่ตอนนี้เรามีการพัฒนา มีการเรียนรู้ อยากจะย้อนไปตั้งใจเรียนก็ทำไม่ได้แล้วเพราะเวลาไม่เคยย้อน แต่มีบอกอาจารย์นะว่า หนูอยากไปเรียนภาษาไทยอีก ตอนนี้หนูอยากให้อาจารย์สอน แกก็หัวเราะแล้วก็บอกว่า แหม่ๆ เห็นหรือยังว่าภาษาไทยของฉันมันมีประโยชน์
พูดแล้วก็คิดถึงนะคะ เราเปิดพจนานุกรมอย่างเดียวเลยค่ะ แต่คำผิดเนี่ยกระจายจนอายนักอ่านเลย
ยังไงก็พัฒนาไปด้วยกันนะคะ สู้ๆๆค่ะ
ผมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องไม้ตรีกับไม้ไต่คู้หรอก แต่ก็ยังมีคำง่ายที่น่าจะจำได้แต่ก็ยังจำผิดอยู่
อีกหลายคำ แนะนำว่าให้เปิดเว็บพจนานุกรมไว้เลยแล้วเขียนนิยายไปด้วย โอกาสผิดจะ
น้อยลงไปเยอะ รวมถึงคำที่มีความหมายคล้ายๆ กันแต่ไม่เหมือนกันด้วย แต่ก็มีข้อเสีย
ตรงที่ว่าถ้าชินกับการหาดูได้ง่ายๆ จนติดเป็นนิสัยก็จะจำไม่ค่อยได้
อย่าว่าแต่คนที่วิชาภาษาไทยไม่เก่งเลย ผมเองได้เกรดดีๆ ก็ยังต้องเปิดหาในเน็ตอยู่เลย
เป็นการตรวจทานเป็นเรื่องธรรมดาของนักเขียนที่ควรจะทำอยู่แล้ว
ก็ไม่นะขอรับ
ถ้าข้าน้อยพยายามกับภาษาไทยมากในตอนนั้น ก็คงไม่มีข้าน้อยในวันนี้เหมือนกัน
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เก่งภาษา เวลาไม่มั่นใจว่าถูกจะเปิด google ตลอด 555555555
ตั้งใจมาตั้งแต่เด็กละครับยังใช้ผิด ๆ ถูก ๆ อยู่เลย ต้องเปิดพจนานุกรมเอา
ปล.เรียนโรงเรียนสองภาษาและมหาวิทยาลัยที่ใช้ภาษาอังกฤษ ทำให้ภาษาไทยนี่กลายเป็นเรื่องเสียน้ำตาไปเลย คำง่าย ๆ บางคำก็ต้องเปิดพจนานุกรมเพราะไม่เข้าใจ 5555555
เข้ามายกมืออีกคน ภาษาไทยยากมาก TT
ไม่รู้ว่าเราโชคดีหรืออะไร แต่เราชอบภาษาอยู่แล้วค่ะ ._.
ความถนัดเราก็มาทางนี้ แค่จะเอียงไปทางอังกฤษเป็นหลัก
ส่วนไทยก็ได้นิยายนี่แหละค่ะช่วยฝึกมาโดยตลอด แอ๊
ตอนเรียนก็ไม่ตั้งใจเหมือนเด็กทั่วไปแหละค่ะ ถ้าเลือกตั้งใจได้
คงจะพยายามซีเรียสตอนครูสอนแต่งกลอน เพราะเวลาเขียนอะไรสักอย่าง
ถ้าแต่งกลอนมาเปิดหรือปิดงานมันจะเป็นอะไรที่ปังมาก ยิ่งแต่งเพราะนะ
อมก. กลายเป็นท่านเทพ-----
สอบตกภาษาไทยมาทุกเทอม รอดแค่บางเทอม ถ้ารู้ว่าอนาคตจะเป็นนักเขียน อยากจะกลับไปตั้งใจเรียนให้ดีกว่าเดิม... -_- เพราะมันต้องอาศัยโคลงกลอน นิราศ กาพย์ มาช่วยเรื่องการเขียนนิยายให้มากยิ่งขึ้น... เปิดอากู๋ Google ช่วยชีวิตประจำเลย...
เท่าที่จำได้ภาษาไทยผม ถ้าไม่ติดศูนย์ ก็ได้ เกรด 1 แถมเกรดหนึ่งนี่คือผ่านการแก้หรือไม่ก็ได้เพราะส่งงานกับจิตพิสัยล้วนๆ ไม่ได้ได้มาเพราะคะแนนสอบแต่อย่างใด =.,=
แล้วก็ผมผันวรรณยุกต์ไม่เป็นอะครับ เอก โท ตรี จัตวา อะไรนี้ คำเป็นคำตาย วิเศษอะไรพวกนี้ ไม่รู้เรื่องอะครับ
ถ้าจะว่าไปแล้ว ผมอ่านหนังสือออกช้ามากเลย คือ ป.4 ยังอ่านคำสระ ควบกล้ำ ไม่ออกเลย พวก เอือ เอีย เอาะ ฤๅ อะไรพวกนี้ (ไม่ต้องถามถึงภาษาบาลี สันสกฤตนะ)
เมื่อต้นปีผมสั่งพิมพ์หนังสือนิยาย แล้วให้ขนส่งเอาไปส่งให้ที่ห้องสมุด ตอนไปเอาหนังสือไปเจอครูสอนภาษาไทยสมัยประถมด้วย ครูเลยถามว่าทุกวันนี้ทำอะไร พอบอกว่าเขียนหนังสือขายงับ ประโยคแรกที่ครูพูดออกมาเลยคือ "เธอสอบตกวิชาภาษาไทยไม่ใช่เหรอ"...... คับ =__=
ถามว่าจะตั้งใจเรียนมั้ย?... คำตอบคือ "ไม่ครับ" ฮ่า...
การใช้ภาษาไทยพื้นฐานไม่ยากครับ เป็นเนื้อหาที่สอนในระดับประถม ค่อยๆย้อนกลับไปศึกษาค่อยๆทำความเข้าใจก็ได้ครับ หาได้ทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต ผมเองเรียนมาไม่ตั้งใจก็ยังใช้ผิดใช้ถูกอยู่ แต่ถ้าลองค่อยๆศึกษาเดี๋ยวก็ได้เองครับ แต่ไม่ต้องไปเจะลึกเรื่องของประโยคอะไรพวกนั้นนะครับ เรียนไปไม่ค่อยได้ใช้ มีแต่ทำให้มึนหัวมากขึ้นซะมาก เอาแค่การสะกดการใช้คำเบื้องต้นก็พอครับ ให้ไปเรียนขนาดนั้นผมก็ขี้เกียจ ฮะๆๆ
สำคัญเรา เราแต่งนิยายเพราะอ่อนภาษาไทยค่ะ ภาษาไทยไม่ใช่ภาษาพ่อแม่ เพราะงั้นเลยฝึกจากการแต่งนิยายนี่แหละ ใช้หลักการอ่านเยอะๆ เชื่อว่าฝึกฝนกันได้เรื่อยๆ ตอนเรียนก็ตั้งใจเรียนมากๆ แต่พอจะลงมือเขียนนี่ต้องขอเวลาสะกดคำแป๊บ
ของเราทุ่มสุดตัวค่ะตั้งใจทุกวิชา
สงสัยเพราะความมันส์มากไป(ไม่)หน่อยของเรา
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?