Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ระหว่างครอบครัว VS นิยาย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หากกำลังทำตามความฝันโดยการแต่งนิยาย ซึ่งไปได้สวย ทำงานไปด้วยแต่งนิยายไปด้วยจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว...

จนคนที่เรารัก (แม่) ขอให้ออกจากห้องออกมาพูดคุยกันบ้าง และเขาขอให้เลิกเขียนนิยาย ให้เวลากับเขาบ้าง กินข้าวด้านล่างบ้าง
แค่ทำงานก็แทบไม่มีเวลาให้กันแล้ว

จะทำยังไงต่อไป...

บางทีก็ควรอยู่ในโลกแห่งความจริง แต่ก็ทิ้งความฝันไม่ได้

จะเลือกอะไร

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

รถขนมปังกรอบ 7 ต.ค. 58 เวลา 23:14 น. 1

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นิยายค่ะ ปัญหาอยู่ที่การแบ่งเวลา

สิ่งที่คุณต้องทำ ไม่ใช่เลือกว่าจะต้องทิ้งอะไร แต่ต้องพยายามจัดการตัวเองให้ดีกว่าเดิม 

เวลาที่ต้องใช้กับครอบครัวกับคนรอบตัวก็ต้องใช้ และใช้อย่างมีคุณภาพที่สุด พูดคุย หัวเราะ กอดกัน กินข้าวด้วยกัน ดูทีวีด้วยกัน 

เวลาที่ต้องนั่งปั่นนิยายคนเดียวก็ต้องทำอย่างมีคุณภาพที่สุด คนเรามีเรื่องที่ทำไม่เหมือนกัน บางทีคุณอาจมีเวลาปั่นแค่วันละหนึ่งชัวโมง แต่ถ้าเป้นหนึ่งชั่วโมงที่เต็มที่ เตรียมตัวเตรียมพล้อตมาก่อนที่จะนั่งลงเขียน อาจได้มากกว่าวันละสี่ห้าหน้าเอสี่ 

คนเรามีเวลาจำกัดนะคะ อย่าเอาแต่ไล่ตามความฝัน โดยลืมคนรอบข้าง ลืมคนที่รักคุณ ซึ่งเป้นสมบัติที่มีค่าที่สุด

เพราะถ้าคุณเสียพวกเขาไปวันไหน คุณไล่ตามเขากลับมาเหมือนความฝันคุณไม่ได้นะ

เอวัง

 


1
B.R. 7 ต.ค. 58 เวลา 23:26 น. 1-1

เห็นด้วยครับ มันขึ้นอยู่กับการแบ่งเวลา

0
Sleeping Fox 7 ต.ค. 58 เวลา 23:44 น. 2

เป็นผมถึงจุดที่ต้องเลือก ผมเลือกแม่ครับ
แต่เท่าที่อ่านผมเข้าใจว่าที่เขาให้เลิกเขียนนิยาย คือเลิกแค่ชั่วขณะ แค่ลงมากินข้าวหรือพูดคุยกับเขาบ้าง ไม่ได้ให้เลิกเขียนแบบเลิกเลย

คงต้องถามตัวเองครับว่า ถ้าเราเจียดเวลาให้คนที่เรารักและเขาก็รักเรา ในปริมาณที่พอดี แล้วจะทำให้เราไปไม่ถึงความฝันอย่างนั้นหรือเปล่า

หรือต่อให้เราให้เวลากับคนสำคัญ เราก็ยังมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จอยู่ดี

มองให้ดีก็ไม่มีความจำเป็นต้องเลือก พูดคุยกับเขาบ้างทำความเข้าใจกัน คนที่เป็นห่วงเราจริง ๆ ไม่ได้อยู่ให้เราพูดคุยกับเขาได้ตลอดไปหรอกนะครับ

ผมเพิ่งเริ่มเขียนมาได้เจ็ดเดือนไม่ได้เป็นนักเขียนนิยายอาชีพ
แต่ผมก็ทำงานแล้วเข้าใจถึงความเหนื่อยยากจากการทำงาน
ปกติก็อาศัยบนรถตู้ที่โคลงไปเคลงมาตอนกลับจากที่ทำงานนี่แหละเขียนนิยายเอา
ถึงมึนหัวนิดหน่อยก็ยังเขียนอยู่เรื่อยมา
และก็ไม่ได้คิดจะทิ้งเวลาของครอบครัวก็ยังเฮฮากับแม่และน้อง ๆ อยู่

ผมเชื่อว่าเจ้าของกระทู้จะสามารถประสบความสำเร็จได้โดยไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งครับ พยายามรักษาทั้งสองอย่างไว้ครับเป็นกำลังใจให้

3
Sleeping Fox 8 ต.ค. 58 เวลา 20:52 น. 2-2

ไม่ค่อยได้เข้ามาในบอร์ดเท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่เข้ามาเพิ่มนิยายแล้วก็แวะดูแค่อันบนไม่กี่อันก็ออกครับ ^^ สบายดีนะครับ

0
Whiteflower Ri 8 ต.ค. 58 เวลา 21:46 น. 2-3

สบายดีค่ะ ^^

ดูแลตัวเองดีดีด้วยนะ อากาศเปลี่ยนแปลง

0
cute-ghost 8 ต.ค. 58 เวลา 00:21 น. 3

จากนี้ไปขอไม่แนะนำในฐานะผู้น้อยต่อผู้ใหญ่นะคะ ดิฉันขอพูดในฐานะเพื่อนร่วมโลก

คนเราไม่ได้กลัวตายเพราะมันเจ็บ แต่กลัวพลัดพรากจากทุกสิ่งที่สร้างไว้  กลัวว่าตายแล้วจะไม่เจออะไรเลย ความกลัวเหล่านี้ทำให้ทุกคนยังอยู่. บางครั้งดิฉันจะเห็นคนแก่ๆออกมาเดินหน้าบ้านคนเดียว มือเ-่ยวๆกุมไม้เท้าไว้อย่างนั้น นั่งมองรถสวนไปมาบนถนนจนค่ำ เพราะอะไร? เพราะหญิงแก่คนนั้นขาดสิ่งเติมเต็มชีวิต ทำไมเธอถึงไม่ฆ่าตัวตายไปซะเลย เพราเธอรอมันอยู่
รอฝันของตัวเองกลับมา

ในขณะที่คุณหาความฝันมาเติมเต็มจิตใจ. แม่ของคุณก็รู้สึกว้าเหว่จากสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต
เวลามันสั้นมากเพราะมนุษย์มีช่วงชีวิตที่จำกัด 
จนถึงตอนนี้ดิฉันยังไม่ได้จับปากกามาแต่งนิยายต่อทั้งๆที่ให้กำลังใจคนอื่นไว้มากมาย เพราะดิฉันส่องกระจกเห็นตัวเองกับปากกาหนึ่งเล่ม. 
แม่กับพ่อก็อยู่ข้างหลังด้วย  พอหลับตาแล้วลืมตามองอีกครั้ง ในกระจกสะท้อนภาพผู้หญิงแก่ๆกำลังถือปากกาอยู่. ใช่ ตัวดิฉันเอง.  แต่ในนั้นไม่มีใครยืนอยู่แล้วนอกจากตัวเอง

ความฝันอยู่กับเราได้ตลอดชีวิตนะคุณ แต่สิ่งที่มีชีวิต มีฝันเหมือนกับคุณเค้าไม่ได้อยู่รอคุณตลอดนะ สิ่งที่ฉันพิมพ์อาจจะน่าเบื่อและเหมือนเรื่องสั้น แต่คุณก็รู้นี่ว่าตัวเองควรจะทำอะไร  ไปทำซะ

0
Foxtailz 8 ต.ค. 58 เวลา 00:43 น. 4

เห็นด้วยกับ คห.1 เลยครับ
ยังไงก็ลองให้คุณแม่ ท่านได้อ่านนิยายของเราบ้างดีไหมครับ 
ท่านจะได้เข้าใจเรามากยิ่งขึ้น 
ความพยายามของคุณจะแสดงออกมาในนิยายของคุณเองครับ
คุณแม่ ท่านจะได้รับรู้ว่าคุณพยายามมากแค่ไหน
สู้ๆ นะครับ

0
ผู้รับใช้ซาตาน 8 ต.ค. 58 เวลา 05:20 น. 5
ขอโลภมากเลือทั้งสองอย่างค่ะ ใช้เวลาอยู่กับแม่มากๆเพราะแม่ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป และนิยายเขียนไปก็ต้องมีตัน มีพัก มีผ่อนคลาย เวลาออกมากินข้าวพร้อมแม่ นั่งเล่นกับ คุยกับแม่ก็เหลือเฟือ หรือไม่ก็นั่งเขียนนิยายนอกห้องให้แม่เห็นหน้าบ่อยๆจะได้ไม่ดูเป็นเด็กเก็บตัวเกินไปจนทำให้แม่คิดว่าเพราะนิยายทำให้ลูกเปลี่ยนไป สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเราจะเลือกวิธีใดที่จะถนอมทั้งสองอย่างไว้หรือเราจะพอใจแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง
0
Whiteflower Ri 8 ต.ค. 58 เวลา 09:56 น. 7

ต้องแบ่งเวลาให้เป็นนะ ไม่งั้นถึงเราจะประสบความสำเร็จ  มันจะมีประโยชน์อะไรเมื่อครอบครัวไม่เป็นครอบครัว  การที่เราใส่ใจครอบครัว จะทำให้เราเขียนนิยายได้ดีขึ้น เพราะเราจะเข้าใจความรักของครอบครัวมากขึ้น  เข้าใจความรักที่แท้จริงมากขึ้น  และอยากให้ใส่ความรักของครอบครัวลงไปในนิยายด้วย  เพราะหลายคนหลงลืมความรักของครอบครัวกันเกือบหมดแล้ว คิดถึงแต่ตัวเองเพียงอย่างเดียว  การคิดถึงแต่ตัวเอง  จะทำให้นิยายของเราขาดมิติที่คิดถึงคนอื่นไปอย่างน่าเสียดาย

การเขียนนิยายไม่จบ ก็อาจแค่ไม่ได้ดั่งใจเรา  การเขียนนิยายจบก็ไม่ได้หมายความเราจะได้ตีพิมพ์เสมอไป หรือประสบความสำเร็จได้ในตอนนี้ เราไม่ได้เสียอะไร เรายังคงต้องฝึกฝนต่อไป  แต่การละทิ้งครอบครัว  เราอาจจะต้องเสียครอบครัวที่เรารักไปนะ  ลองคิดถึงใจแม่ในมุมของแม่บ้าง  ถ้าเรามีลูกที่ทำตัวอย่างเรา  เราจะรู้สึกอย่างไร

ความฝันกับความรักของครอบครัวมันไปด้วยกันได้  แม้เราจะเขียนนิยายจนได้ตีพิมพ์ แต่เบื้องหลังของเรามีคนที่ต้องร้องไห้อยู่ข้างหลัง  มันจะเรียกว่า ประสบความสำเร็จได้จริง ๆ หรือ?

0
Death With Love 8 ต.ค. 58 เวลา 09:58 น. 8

อืม... ไม่น่าจะเกี่ยวกับการต้องเลือกอะไรนะครับ อยู่ที่การแบ่งเวลา บริหารจัดการให้เหมาะสม

เขียนเหมือนเดิมก็ได้ แค่แบ่งเวลาให้ครอบครัวบ้าง ตามที่คุณแม่ขอก็ไม่ได้มากไป
ใช้เวลาส่วนตัวมากจนไม่ปฏิสัมพันธ์กับใคร คนรอบข้างย่อมมองว่าหมุกหมุ่น

จขกท.ทำงานแล้วใช่ไหมครับ งั้นขอแนะนำ
ออกจากบ้านครับ หาที่อยู่ของตัวเอง ใช้เวลาทุ่มเทสิ่งที่ฝันไปให้เต็มที่
คุณแม่ไม่เห็น ไม่ได้รับรู้ ก็ไม่เป็นห่วง (แต่คุณก็ต้องพูดคุยทางอื่นอยู่ดี ไม่ว่าจะโทรศัพท์ ไลน์)

แต่ก็ขอเตือนเหมือนคห.อื่นๆ บางอย่างที่สูญเสียไปอาจจะไปแล้วไปเลย
ระหว่างครอบครัวกับความฝัน มันไม่จำเป็นต้องทิ้งสิ่งใดหรอกครับ

0
Valentinov. 8 ต.ค. 58 เวลา 11:07 น. 9

ความฝันไม่ใช่รูให้มุดเข้าไปแล้ว จะอยู่ในนั้นตลอดได้นะ อยู่กับความเป็นจริงบ้าง คนที่อยู่แต่ในความใันคือพวกที่สบายเกินไปนั่นแหละ

0