Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ชีวิตผมในแต่ละวันเป็นแบบนี้ถือว่าบ้าไหม...?แล้วเด็กวัยรุ่นทั่วไปเค้าใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างไงบ้าง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
.......สวัสดีครับก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนน่ะครับ ผมชื่ออัลเบิร์ต เด็กปี1 นิสิตวิศวะไฟฟ้า ถ้าใครได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วช่วยตอบกระทู้ผมหน่อยน่ะครับ ผมอยากรู้จริงๆ ว่าผมทำแบบนี้ในแต่ละวันเค้าเรียกว่าบ้าไหมและปกติแล้วเด็กวัยรุ่นทั่วไปทำอะไรกันบ้างในชีวิตแต่ละวัน วอนว่าที่จิตแพทย์และจิตแพทย์ด้วยน่ะครับ ผมไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไง
......คือโดยปกติแล้วผมก็เป็นแบบนี้มานานแล้วน่ะครับ ตั้งแต่ มอปลายแล้วผมก็มองตัวเองว่ามันเป็นปกติ ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองว่ายังไง ผมไม่เพื่อนสนิทอ่ะครับ ก็เลยไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของผม ผมชอบใช้ชีวิตลำพังถ้าไม่มีกิจกรรมอะไรที่ต้องเข้าสังคม และในเวลาที่ผมใช้ชีวิตในแต่ละวันตามลำพังนั้นผมก็จะชอบคิดถึงสมการคณิตศาสตร์ คิดถึงวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะฟิสิกส์ทั้งวัน ผมชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับฟิสิกส์มาก พอผมอ่านเยอะๆผมก็จะชอบทำอะไรแปลกๆท่ามกลางผู้คนที่อยู่ด้วย คือผมอยู่หอในจึงไม่ได้อยู่อย่างส่วนตัวเท่าไหร่ถึงแม้ว่าผมจะชอบใช้ชีวิตลำพังแต่ก็ไม่ได้อยู่คนเดียว ตัวอย่างสิ่งที่ผมทำแปลกๆ ก็เช่น....จู่ๆผมก็หงายมือขึ้นค้างไว้เกือบนาที เดินซิกแซกไปมา ยืนและหยุดเดินอยู่ข้างถนนสี่แยก กางร่มออกไปวิ่งตากฝนตอนดึกๆ ยืนอยู่ข้างถนนดูคนเดินไปเดินมา พอวันหยุดก็ได้เวลาที่ต้องไปซื้อของเล่น ผมหมายถึงอุปกรณ์เพื่อทำของเล่น ก็อย่างเช่น แผ่นอะคริลิค แม่เหล็ก อื่นๆ แล้วก็อยู่ในห้องนั่งอ่านทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์แล้วหาช่องโหว่ของทฤษฏีเหล่านั้นแล้วผมก็จะเก็บมานั่งคิดนอนคิดกินคิดเดินคิด คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆและก็คิด ดังนั้นทุกวันผมจะมีสมุดบันทึกเล่มหนึ่งผมจดทุกอย่างที่ผมคิด และผมก็จะพยายามหาข้อมูลรองรับในสิ่งที่ผมคิด ถ้าไม่มีข้อมูลผมก็ต้องพิสูจน์สิ่งเหล่านั้นให้ได้ ว่ามันเป็นจริงหรือเป็นไปได้หรือเปล่า
.......ทุกอย่างที่ผมทำหรือมีพฤติกรรมบ้าๆมันมาจากสิ่งที่ผมอ่านต้องการเรียนรู้และกำลังศึกษาล้วนๆ อยากรู้ไหมครับว่าตัวอย่างที่ผมยกไปมันมีเหตุผลอย่างไง ก็คือ....
จู่ๆผมก็หงายมือขึ้นค้างไว้เกือบนาที>> คือตอนนั้นผมกำลังจินตนาการถึงนิวตริโนที่กำลังทะลุผ่านฝ่ามือผมอยู่
       เดินซิกแซกไปมา>> ผมอยากรู้ว่าถ้าผมเดินทางในรูปของคลื่นได้จะเป็นอย่างไร ทำไมธรรมชาติต้องมีคลื่น
       ยืนและหยุดเดินอยู่ข้างถนนสี่แยก>> คือสี่แยกนั้นมันแปลกที่มันเป็นแยกคล้ายๆกับเส้นกราฟซึ่งสามารถใช้หลักของอนุพันธ์ในการหาจุดวิกฤต ผมก็คิดว่าจุดนั้นต้องเป็นจุดที่มีความน่าจะเป็นที่รถจะชนกันสูง
       กางร่มออกไปวิ่งตากฝนตอนดึกๆ>> ถ้าฝนตกแล้วอยู่ในสภาวะที่มีตัวแปรเข้าใกล้ทฤษฏีความเร็วสัมพัทธ์มากที่สุดมันก็ไม่แย่ที่อยากจะทดลองอยู่ในเหตุการณ์นั้นดู 
       ยืนอยู่ข้างถนนดูคนเดินไปเดินมา>> ผมถือว่าคนเป็นวัตถุที่เคลื่อนที่ไปยังอนาคต แต่ในขณะที่ผมยืนอยู่ผมคิดว่าผมเห็นอดีตและอนาคตของวัตถุชิ้นนี้และสามารถแสดงภาพได้ในรูปแบบของโฮโลแกรม โฮโลแกรมที่สัมพันธ์กับกาลเวลา(เรื่องนี้ผมกำลังศึกษาอยู่)
............จากความคิดแปลกนำไปสู่การกระทำแปลกๆผมอยากรู้ว่าผมเป็นแบบนี้ประมาณนี้ถือว่าบ้าหรือเปล่าครับ แล้วปกติแล้วเด็กวัยรุ่นที่กำลังเรียนอยู่เค้าใช้ชีวิตยังไงอ่ะครับ
 

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

drop 9 ต.ค. 58 เวลา 09:50 น. 3

เป็นคนเก่งมากๆหรือเปล่าาเลยคิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น แต่เราว่าก็ดีนะดูฉลาดอ่ะ เหมือนนักวิทยาศาสตร์เลย :) วัยรุ่นส่วนมากจะไม่คิดเรื่องพวกนี้หรอก5555ขี้เกียจ แต่เราว่าคงไม่ถึงกับบ้าหรอกมั้ง อาจจะแค่ชอบการคิดชอบทดลองอะไรที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อ่ะ ไม่แน่นะอนาคตคุณอาจจะเป็นคนเก่งที่ทำให้ประเทศก้าวหน้าก็ได้ เราแตกต่างไม่ได้แปลว่าเราผิดหรือบ้านะ แต่ว่างๆก็ลองทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นบ้าง อย่าหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้อย่างเดียวไม่งั้นอาจจะบ้าได้นะ ลองออกกำลังกายหรือไปเที่ยวกับเพื่อนดูก็ได้ ดูหนังฟังเพลงไรงี้แบบที่วัยรุ่นทั่วไปเค้าทำกัน ยังไงก็สู้ๆนะ เราเป็นกำลังใจให้
แต่ถ้ากลัวตัวเองไม่ปกติจริงๆลองไปปรึกษาแพทย์ดูก็ได้นะ :)

0
แค่คนที่ผ่านมา.. 9 ต.ค. 58 เวลา 18:03 น. 4

คำว่า 'อัจฉริยะ' กับ 'บ้า' มันมีเส้นบางๆกั้นอยู่

ถ้าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือว่าผิดกฎที่สังคมตั้งไว้
อะไรที่ทำแล้วมันดีก็ทำไปเถอะค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่าถ้าก้าวข้ามเส้นๆบางๆนั้น คนอื่นอาจมองว่า 'บ้า' ก็ได้

การพิสูจน์ทฤษฎีหรือการทดลองให้ได้ซึ่งผลลัพธ์ก็ดีนะคะ บางทีอาจจะคิดค้นทฤษฎีใหม่ขึ้นมาก็ได้

ปล.ถ้าคนเขียนกระทู้นี้เขียนขึ้นมาจากความจริง ก็เอาใจช่วยค่ะ :)
ปล2. การที่เราแตกต่าง ไม่ได้หมายความว่าเราบ้านะ

0
123456789 10 ต.ค. 58 เวลา 02:04 น. 6

นายเรียนผิดคณะ ซิ่วมาวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ดิ คนแบบนี้มีเยอะแยะ ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน

เราว่านายลองวิธีนี้ดีกว่า ถ้าชอบการค้นหาข้อมูล ที่ 4 แยกที่มีลักษณะคล้ายกราฟ ใช้ดิฟเฟอเรนเชียลหาจุดวิกฤตแล้วคิดว่าจะเป็นจุดที่รถชนมากที่สุดมันเดาไป ไม่เป๊ะ ทำไมไม่ใช้วิธีการทางสถิติหาเอาหละ จะได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่ากันเยอะ

นายไม่ได้เดนทางในรูปของคลื่น นายแค่เคลื่อนที่ในแนวแกน x เป็นการเคลื่อนที่หนึ่งมิติ ที่ทิศทางการกระจัดแปลกๆ แต่ก็ยังไม่ใช่คลื่น เดินแบบนั้นให้ตายก็ไม่รู้ว่าการเคลื่อนที่แบบคลื่นมันเป็นยังไง

ตัวแปรเข้าใกล้ความเร็วสัมพัทธ์กำหนดตัวแปรยังไงหละ คือ ตัวนายเข้าใกล้ความเร็วสัมพัทธ์แล้วไปสัมพัทธ์กับอะไร คือตัวนายสัมพัทธ์กับฝนงี้หรือเปล่า แต่ฝนเคลื่อนที่ตามแนวแกน y นายเคลื่อนที่ตามแนวแกน x ไม่น่าจะมาสัมพัทธ์กันได้ คือ นายต้องการศึกษาอะไรมีความเร็วสัมพัทธ์กับอะไรอะ

โดยทั่วๆไป การเคลื่อนที่ๆสัมพันธ์กับเวลาเราจะใช้ตัวแปรแค่ระยะทาง ความเร็ว ความเร่ง แต่ในที่นี้เราเข้าใจว่านายใช้ความเร็วมาเทียบนะ คิดว่าเห็นอนาคตไม่แปลก เพราะ อนาคตเป็นสิ่งที่พยากรณ์ไม่ได้ อนาคตมีโอกาสเกิดได้ทุกรูปแบบ แต่คิดว่าเห็นอนาคตในแบบโฮโลแกรมเนี่ย คือ เห็นเป็นสามมิติที่คนมีการกระทำในกราฟสามมิติเลยเหรอ สัมพันธ์กับเวลาด้วย คือ มองเห็นโฮโลแกรมแบบ 4 มิติเลยนะ ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไรเลยนะแบบนั้น เท่าที่เรียนฟิสิกส์มา ฟิสิกส์ไม่ได้สอนให้พยากรณ์อนาคตโดยที่ไม่มีสมการมารองรับนะ มองเห็นอดีตอันนี้แปลกๆอยู่ คือเวลาเป็นสิ่งไม่สมมาตรก็คือ เวลาไม่ย้อนกลับ การมองเห็นอดีตของวัตถุน่าจะเป็นจินตนาการมากกว่า ส่วนคนที่เป็นวัตถุที่เคลื่อนไปในอนาคตมันนี้มันแน่นอนอยู่แล้วนี่หน่า ก็เวลามุ่งข้างหน้าไม่มีทางย้อนกลับอะ

อ่อ เราเรียนเอกฟิสิกส์โดยตรงนะ เจอคนประเภทนี้เยอะแยะ ไม่แปลกหรอกนายอะ 5555555555555

0
Tipy 10 ต.ค. 58 เวลา 22:19 น. 7

Consciousness/Sub conscious
อยากเห็นไม่ได้อยากรู้พลังงานบวกและลบ เข้าไปดูบทความหรืองานของ Dr.ที่สอน ในฮาร์วาร์ท เป็นคนสิงคโปร์( Meditation, Pygmalion Effect act.)
จิตและวิญญาณที่สูงสุดไม่มีมาแต่กำเนิดพ่อแม่วงศ์ตระกูลไม่มีให้มาต้องไปเรียนรู้เสาะแสวงหาเหมือน สุขภาพที่แข็งแรงหรือความรู้

0