Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว มหากาพย์ ลดต้นขา ตอนที่ 1:: ดูดไขมัน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ ^___^ กระทู้นี้จะเล่าประสบการณ์ การลดต้นขา
ตอนที่ 1 : อยากสวยต้องอดทน อยากขาสวยเลยไปดูดไขมัน (ความเดิมก่อนใช้เจลร้อน)
คำเตือน : มีภาพน่ากลัวนิดหน่อยนะคะ ^^ เป็นตอนหลังจากดูดไขมันเสร็จจ้า
เพราะขาเบ้งมากหลังคลอด เลยตัดสินใจ "ดูดไขมัน" ที่ต้นขาทั้ง 2 ข้างตอนลูกอายุ 4 เดือนค่ะ (24/08/2014) เนื่องจากหลังคลอดลูกแล้ว มีนมแค่ 2 เดือน ...หลายคนคงทราบข้อมูลดี ว่า การให้นมบุตรหลังคลอด จะทำให้ นน. ลงไว ไขมันที่สะสมตามจุดต่างๆ จะถูกดึงมาใช้ในการผลิตน้ำนม... แต่เพราะมีนมให้ริน่าประมาณ 2 เดือนก็หมด -ส่วนที่สะสมนั้นก็ยังคงพอกพูนอยู่ที่ตัวเรา โดยเฉพาะต้นขาด้านนอก (หนอก) มันพองใหญ่กว่าสะโพกซะอีก และมั่นใจเลยว่ามันจะลดลงยากที่สุด เพราะส่วนตัวเป็นคนที่เวลาอ้วนจะออกตรงต้นขา (หนอก) นี้มากที่สุดแล้วค่ะ ขนาดเวลาผอมก็จะเห็นเนินหนอกน้อยๆ และเป็นคนลำต้นขาค่อนข้างใหญ่มาตลอด ... ตอนนั้นเลยเป็นจุดตัดสินใจว่า ดูดไขมันน่าจะช่วยให้ลดไวสุด เพราะจะใช้เจลร้อนตอนนั้นก็ไม่ได้ เดี๋ยวไปโดนเบบี๋ค่ะ ไปดูดออกแระกัน ตอนนั้นน้องที่ชวนบอกว่า เจ็บหนักๆแค่ 2-3 วันแล้วก็ปกติ...มันไม่ใช่เลยยย

ถ้าใครบอกว่า การใช้เจลร้อนของแมวดำแล้ว ทรมาน ไม่ไหว ... อยากบอกว่า ความร้อนของเจลร้อนนี่เด็กๆไปเลย ถ้าเทียบกับการดูดไขมัน "อยากสวย ต้องอดทน" ไม่มีทางที่เราจะอยู่แบบสบายๆแล้วจะผอมลงสวยขึ้น อันนี้นี่ความจริงเลย ความเจ็บ หรือทรมานนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ค่าใช้จ่ายนี่สิ 5555 การดูดไขมันสมัยนี้ โอเคมาก เห็นผลไวมากนะคะ ถ้าสู้ราคาไหว แนะนำเลย เค้าจะคิดราคาจุดละ 15-19000฿ แต่ละ รพ./คลีนิคราคาไม่เท่ากัน ที่เราไปทำ จุดละ 17000฿ คำว่า "จุดละ" ไม่ใช่ ต้นขา 17,000 ไรงินะคะ "1 จุด คือ 1 เจาะ" ... ต้นขา 1 ข้าง เจาะ 3 จุดค่ะ 17000x3 = 51,000฿/1 ข้าง ก็ต้นขา 2 ข้างก็ 102,000฿ และ จะมีค่ากางเกงสำหรับกระชับด้วย น่าจะ 7,000฿ นะคะ ถ้าจำไม่ผิด เพราะหลังจากที่เราดูดไขมันออกไป ผิวเราจะเหมือนตุ๊กตาที่ถูกดึงนุ่นออก คือ นิ่มๆย้วยๆ การกระชับผิวหลังดูดไขมันสำคัญที่สุดใน 3 โลกค่ะ เค้าเลยต้องให้ใส่กางเกงหนาๆรัดเอาไว้ตลอดเวลา 1 เดือน 
ความเจ็บระดับ 20+++ 555 นึกภาพเล่นๆ เนื้ออ่อนๆ 3 จุด 1.ขาด้านในตรงขาหนีบ 2.ขาด้านในตรงเหนือช่วงเขา และ 3.ขาด้านนอกตรงช่วงใต้ก้น ถูกเจาะด้วยแท่งเข็มขนาดประมาณหลอดกาแฟ ทะลวงเข้าไปดูดไขมันใต้ผิวหนัง  ของเราไขมันถูกดูดออกมารวม 2 ข้าง 3000cc ค่ะ (คุ้ม 555) ตอนทำเค้าฉีดยาชา เราขอยานอนหลับ มันเคลิ้มๆ ตื่นเพราะเหมือนถูกหยิกแรงๆเวลาเจาะมั้ง ไม่แน่ใจค่ะ ทำไม่นาน 1 ชม.มั้ง จำไม่ค่อยได้แระ

พอทำเสร็จเค้าจะปลุกๆให้เราลุกมาใส่-กางเกงสเตย์หนาๆเลย พอได้สติลุกกลับบ้าน คือ น้ำเลือดผสมน้ำเกลือก็ยังไหลโจ้กๆจากแผล ผ้าก็อตเอาไม่อยู่ ก็ตามเช็ดกันไป กลับบ้านวันแรกยาชายังไม่หมดฤทธิ์ดี ก็หลงคิดว่า เออ ไม่โหดอย่างที่คิดแฮะ... พอวันต่อมาเท่านั้นแหละค่ะ โหดดดร้าย เจ็บกว่าหลังผ่าคลอดอีก ระบมสุดริด ก็แผลเจาะ 6 จุดอ่ะเนอะ 555 ต้องทำแผลทุกจุด ทุกวัน กางเกงต้องใส่ตลอด คือ ถอดแล้วก็ต้องใส่ใหม่ จะใส่ทีจิเป็นลม หน้ามืด เข้าห้องน้ำทีก็ต้องถอด จะนั่งโถก็แสนจะยาก เพราะแผลที่เจาะอยู่ใต้ก้นพอดีๆ เปิดกางเกงออกมา ที่ผิวม่วงช้ำ ดำสุดพลัง เหมือนถูกใครเอาไม้หน้าสามมาทุบๆๆๆ ทั้งต้นขา (ความเจ็บปวดระบมก็ระดับนั้น) น่ากลัวมากพูดเลย และ 1-7 วันแรกยังมีน้ำขังบวมที่แผล เพราะมันมีช่องว่างใต้ผิวหนัง ม่วงๆเขียวๆบวมๆ ต้องไปให้ทางโรงพยาบาลเจาะเดรนน้ำออก เทียวไปเทียวมาจนมั่นใจว่าไม่มีน้ำขัง เป็นแบบนี้ยาวไปเกือบ 14 วันค่ะ ถึงเริ่มดีขึ้น ... และกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ รอยช้ำๆหายไปก็ประมาณ 1 เดือนค่ะ และจะเข้าที่ปกติเห็นผลที่สุดคือตอน 3 เดือนหลังวันที่ดูดไขมันค่ะ

โหดเนอะ 555 ตอนนั้นก็แบบมึนๆ งงๆ กล้าได้ยังไง แต่ผลมันก็โอเคเลยทีเดียวค่ะ กลับมาวันแรก คือ มันยังบวมมากอยู่ ประมาณ 2 อามิตย์แรก มันบวมอาจจะใหญ่พอๆกับก่อนดูดเลย แล้วค่อยๆยุบลง เข้าที่สุดประมาณ 3 เดือนหลังจากดูดค่ะ
(ภาพด้านบนนี้เป็นภาพต้นขาหลังดูดไขมันมาแล้ว 1 ปีค่ะ คือ นน.ลดให้กลับมาเท่าก่อนท้องแล้ว และที่ได้มาใหม่คือต้นขาที่ไม่มีหนอกค่ะ พอกลับมาผอมลง คือ ลดความอ้วน คุมอาหาร ออกกำลังกาย หุ่นโดยรวมเลยดูโอเคขึ้นค่ะ)

ผลการดูดไขมัน โอเคนะคะ หนอกหายไป ขาเล็กลงทันตาเห็นจริงๆ ใส่พวกเลกกิ้ง กางเกงยินต์หาไซส์ง่ายขึ้น ใส่เสื้อผ้าโชว์ตั้งแต่ต้นขาได้ง่ายขึ้น แต่ต้องยอมย้วยค่ะ ย้วยจีจี เพราะเอามวลไขมันใต้ผิวหนังออกไปตั้งเยอะแหนะเนอะ และเราก็อายุเยอะแล้วด้วย ผิวมันเลยกระชับเข้าไปไม่เด้งดี๋งเหมือนเด็กๆ ก็อาศัยเจลเย็นนี่แหละค่ะ อัดเช้าอัดเย็นยาวๆเลย 1 เดือน โดยรวมก็เฟริมเข้าไปไวอยู่ ไม่ต้องไปเข้าคอร์สเฟริมผิวเพิ่มค่ะ 
และนี่ค่ะ คือ อีก 1 สาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจไปดูดไขมันต้นขาออก ขออธิบาย เรื่องของไขมันใต้ผิวหนัง ที่กระจุกตัวเป็นหย่อมๆ ทำให้เวลาเราบิดดูที่ผิว จะเห็นเป็นคลื่นขรุขระ หรือที่เรียกว่า ผิวเปลือกส้ม ที่มันเป็นแบบนี้เพราะเจ้าไขมันเบา หรือ เซลลูไลท์ มันเกิดอยู่ในถุงไขมัน ทีี่เรียงเป็นถุงๆ (ตามภาพ) เวลาที่เราอ้วนขึ้น ทานเยอะ แต่ไม่ออกกำลังกาย โดยเฉพาะคนที่ส่วนมากทำงานกับที่ นั่งหน้าคอม บริเวณที่เกิดไขมันสะสมเยอะที่สุดก็คือ สะโพก ก้น ต้นขา เพราะเมื่อไม่มีการขยับ บริเวณนั้นๆก็ไหลเวียนไม่ดี เป็นปัจจัยหลักเลยค่ะ จุดนี้ คนผอมก็มีเซลลูไลท์เยอะได้ และถ้ายิ่งอ้วนขึ้นไขมันในถุงก็ถูกสะสมพองขึ้นได้ไวซะด้วย โดยที่ตัวมันเองมีน้ำหนักเบาค่ะ พูดง่ายๆดูอ้วนบวมขึ้น ทั้งที่ นน. ไม่ได้ขึ้นมากนั่นเอง ที่สำคัญ "ลดยากมาก" และเป็นที่มาของวลีที่ว่า "ลดแทบตาย นน. ลงนิดเดียว แต่กินเยอะแป๊บเดียว อ้วนพรึบพรับ นน.ขึ้นเอาๆ" เพราะใต้ผิวหนังเรามีถุงไขมันพร้อมรอสะสมอยู่แล้วค่ะ แค่เรากินเยอะ (+อายุที่เยอะขึ้น) ขยับตัวน้อย -ที่กินไปก็ Direct to สะสม เลยค่ะ สะสมตรงไหน?? ก็ตรงที่มีถุงไขมันรออยู่นั่นเอง เราจึงรู้สึกตัวแน่น เสื้อผ้าแน่นๆทันทีที่เริ่มรู้สึกว่าอ้วนขึ้น
การทะลวงเอาถุงไขมันพวกนี้ออก ให้ไขมันไม่มีที่อยู่ เป็นทางแก้ที่ "ใช่" ที่สุด เพราะถ้าถุงไขมันออกไปแล้ว ถ้าจะกลับมาอีกก็ต้องสร้างใหม่ เท่ากับว่าบริเวณไหนที่ถุงไขมันถูกตีแตกสลายไปแล้ว บริเวณนั้นจะกลับมาพองฟูช้ากว่าปกติค่ะ แต่ย้ำว่าไม่ใช่ไม่กลับมานะคะ ถ้าเราดูแลรักษามันไม่ดี ร่างกายก็จะค่อยๆสร้างถุงไขมันกลับมาค่ะ
อีกวิธีที่จะทะลายถุงไขมันที่ว่านี้ ที่โหดน้อยกว่า ไม่ต้องถึงกับเจาะแทงลงไปดูดเอามันออกมา และค่าใช้จ่ายก็แสนจะถูกกว่า ก็คือ ใช้เจลร้อน ของ แมวดำ VERYMWL นี่แหละค่ะ WORK และเห็นผลคือๆกันเลย หลังจากที่ดูดไขมันมา 1 ปีกับ 2 เดือนแล้ว รู้สึกว่าอ้วนขึ้น ขาเริ่มมา หนอกเริ่มมา จะจัดการกับมันยังไง เดี๋ยวมาเล่าตอนที่ 2 อีกครั้งนะคะ เอาภาพมาให้ดูก่อนเป็นน้ำจิ้มค่ะ ^^

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น