แต่งฉากต่อสู้ในนิยายยังไงให้สนุกคับ
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมเริ่มหัดแต่งนิยายมาได้สักพักแล้วคับเพียงแต่ติดปัญหาที่ไม่ว่ายังไงก็แก้ไม่หาย
นิยยายที่ผมแต่งส่วนมากในเรื่องจะมีฉากต่อสู้และสงครามค่อนข้างมาก(ในเนือเรื่อง)
เป็นจุดอ่อนที่ผมแต่งยังไงก็ไม่สนุกก็เลยอยากขอแนวคิดและเคล็ดลับที่สามารถช่วยได้บ้างใหม
คับ
ซึ่งก็มีมีท่านหนึ่งเคยเนะนำว่าให้เอาของคนอื่นมาแล้วเอามาปรับแก้เป็นของตัวเองแค่นี้ก็จบผมก็ได้ลองทำแล้วคับแต่ไม่ไหวแก้ได้แต่ไปต่อไม่เป็นเลยคับ???
(จำนวนคนโหวต 2 คน)
18 ความคิดเห็น
มีให้โหวตทำไม? ในเมื่อมันก็คำถามเดียวกัน
ผมก็ดันแต่งให้มีฉากต่อสู้เยอะ ทั้งที่ก็ไม่มั่นใจฝีมือ
ลองอ่านจากกลวิธีของนักเขียนท่านอื่นสิครับ ผมก็ใช้ตามนั้น
เขียนให้กระชับ ดำเนินเรื่องให้ไปเร็วๆ เพื่ออารมณ์ต่อเนื่องในการต่อสู้
// แต่หลายครั้งผมก็เผลอเวิ่นเว้อ ไว้รีไรต์จะไปตัดออก
คัาบบบ
แบบนี้ป่ะนิยายผมก็ประมาณไม่รู้ว่าจะมันรึป่าว
เอ๋..สนุกมากคับอย่างน้อยก็มากกว่าเรื่องที่ผมแต่งอีกหลายเท่าพอได้อ่านแล้วความมั้นใจเริ่มตกลงไปอีกแล้วสิคับ(ตัวผมหน่ะ!!)
จินตนาการถึงการเคลื่อนไหวอยู่ในหัว แล้วก็เขียนออกมาครับ
อ่านการ์ตูนต่อสู้ก็ได้ ดูภาพไว้แล้วลองเปลี่ยนภาพให้เป็นคำบรรยายแทน
A ใช้เท้าซ้ายเป็นฐาน ก่อนจะกระแทกเท้าขวาไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว ส่งแรงพุ่งไปยังดาบในมือหวังปิดบัญชีอีกฝ่ายด้วยการแทงในครั้งนี้
ถึงแม้ว่าระยะโจมตีของ A จะเข้ากระชั้นชิด B มากจากการย่อตัวอันรวดเร็วของเขา
แต่ B กลับไหวตัวทัน เขาก้าวถอยหลังลงหนึ่งก้าว เอี้ยวตัวหลบปลายดาบของ A ก่อนจะยกดาบในมือขึ้นมาหวังจะปัดป้อง ทว่ามันกลับไม่ทันการ เมื่อระยะเข้าทำของ A ไกลเกินกว่าที่เขาจะหลบพ้น ทำให้ปลายดาบยาวแหลมเล่มนั้น เสียบเข้ากลางหน้าอกของ B อย่างจัง
นี่เป็นวิธีที่ผมมโนขึ้นมาเองแหละ มันอาจจะมีอะไรที่ดีกว่าหรือเข้ากับสไตล์การเขียนของ จขกท. มากกว่านี้ก็ได้ครับ <3
ผมแนะนำตามตัวอย่างของท่านคห.นี้ครับ
เขียนกระชับ รู้เรื่องและตื่นเต้นน่าติดตาม เหมาะสมกับฉากต่อสู้
อืม..เป็นคำเนะนำที่ดีมากเลยคับผมยืมเอาไปใช้เลยแล้วกันคับ
ขอบคุณที่แนะนำคับชักจะมีไฟขึ้นมาหน่อยแล้วสิ
ครับผม ยินดีครับ ขอแนะนำเพิ่มเติมคือ ก่อนเริ่มการต่อสู้ เราต้องหาจุดเริ่มต้นของฉากทั้งหมดก่อน
เช่นในภาพตัวอย่างที่ผมยกมา จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจาก เท้าซ้ายของ A ผมจึงเริ่มบรรยายจากตรงนั้นครับ แล้วหลังจากนั้นคำบรรยายมันจะไหลตามมาเอง ลองดูนะครับ
ขอบคุณที่แนะนำคับ
ถนัดฉากต่อสู้บนเตียง :D
ล่ำลึกมากคับ ทำให้ผมได้เปิดโลกที่แคบออก ได้เห็นและรู้อะไรใหม่ๆที่ไม่เคยรู้อีกมากคับ
ฉากต่อสู้บนเตียงผมก็ไม่ถนัดคับ พูดไปแล้วรู้สึกกระดากปากคับตั้งแต่เกิดจนอายุปาเข้าไป
....แล้วยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนคับ
แค่ดูหนังAV ยังต้องปิดตาเหมื่อนดูหนังสยองขวัญแลยคับ
ชาตินี้คงได้เอาหนังสือเป็นเมียเท่านั้นคับ
ชื่นชมนะ ที่เอาตัวรอดมาได้ ฮา...
ถึงเวลาเขาก็มาเองล่ะ
แต่เป็นโสดก็สบายดีนะ ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวขึ้นคานเป็นเพื่อนนะ อิอิ
ด้วยความยินดียิ่งคับ
เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่สมาชิกใหม่(คนแรก)ผมขอเสนอโปรโมชั้นสุดเทพ
ตั๋วของสมาคม_เมือท่านใช้ตั๋วท่านสามารถค้างอยู่บนคานได้นานขึ้น
ในอนาคตทางเราสมาคมจะทำการออกตั๋วตลอดชีพให้แต่เนื่อด้วยตั๋วตลอดชีพได้มีบุคคลทั่วไปชื้อไปใช้มากมายทำไห้ขาดตลาดจึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เรียนมาเพื่อทราบ
Ghots Zero
อย่าลืมเสริมเสาคานด้วยนะจ๊ะ เนื่องจากสมาชิกเยอะอาจจะพังได้ ฮา...
พี่ไม่ต้องใช้บัตรสมาชิกนะ เป็นแบบกิตติมศักดิ์จ้ะ มันหาทางลงไม่เจอแล้วด้วย อิอิ
แนะนำ - ดูหนังแอคชั่นเยอะๆ อ่านนิยายแนวต่อสู้เยอะๆ //ออนไลน์กับแนวต่างโลกที่เห็นๆหลายคนก็เขียนฉากต่อสู้เยอะ ก็ลองไปสูบสกิลมาก็ได้
ทำไงให้สนุก - กระชับ อธิบายให้ชัดๆอ่านแล้วเข้าใจ ไม่เวิ่นเว้อยืดเยื้อ(1-2แผ่นกำลังงาม) และมีการหักมุมระหว่างต่อสู้ ชิงไหวชิงพริบกันตลอด
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคับ
เวลาที่ผมเขียนก็พยายามที่จะให้สั้นที่สุดคับด้วยความที่ไม่ชอบเขียนอะไรที่ยาวๆ
แต่พอเริ่มแต่งแล้วมันดันหยุดไม่ได้รู้สึกตัวอีกที่ก็ปาเข้าไป13-17 A4 แล้วคับ จะคัดออกก็เสียดายสุดท้ายก็ต้องเอาทั้งหมด
บางครั่งแต่งไปแต่งมาก็หาตอนจบของตอนนั้นๆไม่เจอเลยต้องกลับมาแต่ใหม่อีกรอบ
พอแต่งใหม่ก็ไม้เชื่อมโยงกับอีเว้นท์ที่จะต้องเกิดขึ้นในอนาคต
สุดท้ายก็ต้องพักเก็บเอามาเรียบเรียงในหัวใหม่กว่าจะได้ก็ปาเข้าเป็นเดือนเป็นอารมย์นี้ซะทุกครั้ง.....
คือบางทียาวเกินไปไม่อ่านไง ฉากต่อสู้บางคนยืดมาก แต่ถ้าบรรยายสนุกก็อ่านนะ วัดใจกันเลย 55555555
555 ผมกลัวว่าจะไม่มีคนอ่านมากกว่าคับ
ส่วนมากรวมตัวผมด้วยพอเห็นอะไรยาวๆก็มักจะเลื่อนข้ามเสียทุกครั่งคับ
ผม โดยส่วนตัวเขียนฉากแอ็กชันมาจนมือหงิก
อยากจะแนะนำว่า ให้เราอธิบายภาพที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน ลื่นไหล และเก็บรายละเอียดพอสมควร หรือไม่ละเอียดก็ได้ตามความชอบของเรา
แต่อยากให้เน้นที่ความลื่นไหลเป็นหลัก อธิบายการเคลื่อนไหวจะต้องประสานต่อกันอย่างลงตัว ใครทำอะไร ต่อจากนั้นทำอะไรกันต่อ และต่อจากนั้นทำอะไรกันอีก และจบด้วยใครเป็นฝ่ายชนะ
ตัดคำอธิบายของคนเขียนออกไปเลย <--- อันนี้สำคัญมาก เพราะคำอธิบายนี้แหละ ทำให้ฉากต่อสู้น่าเบื่อ ประมาณ อธิบายว่าพลังนี้มีระดับอะไรบ้าง ระดับที่ใช้อยู่ในระดับไหน ทำอะไรได้บ้าง --- ไม่ต้องอธิบายเรื่องพลัง เขียนแค่ว่า เมื่อพลังปล่อยออกไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นบ้าง ลักษณะรูปร่างพลังที่ปล่อยออกไปเป็นอย่างไร พอศัตรูโดนแล้วเป็นยังไง พื้นดินเป็นยังไง อากาศรอบๆเป็นยังไง ฝุ่นผง-ควันไฟเป็นยังไง
เรื่องนี้ ลอกกันไม่ได้หรอกครับ เอาของเขามาแปะ สุดท้ายมันก็จะไม่ลื่นไหล พอประโยคมันเชื่อมกับประโยคที่เราแต่งเอง มันจะกลายเป็นคนละโทนกัน (ประมาณพื้นต่างระดับ)
ที่จริงมีรายละเอียดที่จะต้องบอกกันอีกแยะ แต่ด้วยที่สไตล์เขียนมันเป็นแบบของใครของมัน ผมอธิบายไป ก็อาจไปซ้อนทับกับของอีกคน หรือไปขัดกับของคนอื่นเขา จนทำให้เจ้าของกระทู้สับสน
อยากจะให้เจ้าของกระทู้เลือกนิยายที่ชอบ ที่คิดว่าเขียนมันที่สุด ตรงตามที่เราอยากได้ เราก็นำนิยายเรื่องนั้นขึ้นหิ่ง (ไม่ต้องถึงขนาดนั้น) อ่านวนไปวนมาตรงจุดต่อสู้ อ่านแล้วอ่านอีก ไม่ต้องลอก แค่อ่านให้สัมผัสถึงความลื่นไหล การพรรณนาท่าทาง-พลัง การลำดับภาพของฉากต่อสู้ และอะไรอีกหลายๆอย่าง
มาถึงสุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่า ฝึกฝนเข้าไว้ เขียนฉากต่อสู้เยอะๆ แล้วเราจะทำได้ดีเอง ตอนนี้ยังมือใหม่ เขียนออกมามันก็แข็งๆ เหมือนกับการร่ายรำ หากได้ทำบ่อยๆ ได้เห็นแบบอย่างดีๆ มือไม้ของเราก็จะอ่อน และสุดท้ายก็รำได้สวยงามในที่สุด
เขียนฉากต่อสู้ให้สนุกนะครับ
ได้อ่านคำแนะนำของท่านแล้วน้ำตามันไหลไม่ยอมหยุดคับ
นิสัยจริงๆของผมคือไม่ชอบที่จะเอาผลงานของคนอื่นมาแปลงให้เป็นของตัวเองคับ(มันเป็นเพียงอดีตเมือนานมาแล้วคับ)
สุดท้ายก็เอาของคนอื่นมาเปลียบเทียบอยู่ดี แต่เดิมผมเกลียดนิยายของคนไทยที่เป็นคนแต่งที่สุดในโลกเลยคับผมไม่มีหนังสือของคนไทยเลยซักเล่ม(คำว่าน้ำเน่ามันลอยเข้ามาในหัวเสมอเวลาที่เข้าร้านแล้วหยิบหนังสือที่มีชือของคนไทยเป็นผู้แต่ง)
เลยอ่านหนังสือส่วนมากของนอกซะเป็นส่วนใหญ่คับเช่น โนเวลญี่ปุ่น นวนิยายของฝรั่ง หรือไม่ก็จีน ไต้หวัน เป็นต้น
เวลาที่แต่งผมก็มักจะฟืนให้มาในทางด้านนี้ให้มากที่สุดเพราะการเขียนมันอยาก
จากที่ท่านแนะนำผมเคยลองอยู่ครั่งหนึ่งคับฉากต่อสู้ที่สุดมันเรื่องหนึ่งเลย The Lord of the Rings
ก็จบลงในวันนันคับ ครั่งล่าสุดเป็นฉากต่อสู่จากโนเวลญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งคับสุดท้ายผมก็ลบตอนที่ผมเคยเขียนก่อนหน้าแล้วแต่งใหม่คับ
บางครั่งผมยังคิดเลยว่าตัวเองนั้นไม่มีสิ่งที่เรียงว่าพรสวรรค์
ผมอาจเป็นนักแต่งที่ไม่มีประสบการณ์อะไรจะแต่งให้สนุกเลยก็คงจะอยาก(แทบเป็นไปไม่ได้)
แต่ถ้าว่าเพือ่เอาประสบการณ์เพียงอย่างเดียวถ้าผมคิดแบบนั้นได้ก็คงดีกว่านี้ไม่น้อย
สำหรับผมต่อให้ไม่มีเมนต์หรือมแม้มีคนอ่านเพียงคนเดียวผมก็จะเขียนให้จบ
ผมไม่เคยหวังที่จะได้ตีพิมพ์ หรือคำชมเชย แต่พล็อตเรืองที่ร่วมกันคิดนานนับปีผมก็อยากให้คนที่ได้อ่านรู้สึกสนุกก็ยังดี(ผมรักตัวละครที่ผมแต่งคับ)
///ขออภัยที่นอกเรื่องซะยาวคับ@@ขอบคุณสูงที่สุดสำหรับคำแนะนำคับ///ผมชื้อนังสือของคนไทยแต่งแล้วนะ อาอาจารย์ นปภา ตุุ๊ดทะลุมิติเรื่องนี้ฮาดีผมซื้อเล่มหนึ่งเล่มเดียวสามเล่ม อ่าน แจกจ่าย เก็บสะสม แล้วอีกเรื่อง อาอาจารย์ sarofim อีกหนึ่งตำนานอัน... ซื้อทั่งสองภาคหกเล่มแล้วนักเขียนก็หายไปนานๆๆๆๆๆๆ ผมขอฝึกฝน ฝึกฝน ฝึกฝน ฝึกฝน ฝึกฝน แล้วก็ฝึกฝน แล้วให้กำลังใจตัวเองว่าซักวันคนอ่านจะสนุกคับ
การต่อสู้น่าจะเกิดในเวลาอันรวดเร็วนะครับ บางทีที่ฉากต่อสู้ดูน่าเบื่อนอกจากเยิ้นเย้อแล้ว
อาจจะขาดความสมจริง และหรือคำบรรยายที่ทำให้เห็นภาพตามเรื่องราว บางครั้ง
คำขยายความที่บ่งบอกถึงลักษณะของ อาวุธ ความเร็ว ท่าทางการโจมตีและอื่นๆ ก็อาจจะ
ช่วยได้บ้าง
ขอนำเสนอฉากบู๊เล็กๆ น้อยๆ เป็นตัวอย่าง
สุนัขตัวหนึ่งเห่าเสียงดังออกมา จากนั้นมันก็วิ่งเข้ามาหาแมวทั้งสองอย่างรวดเร็ว
เจ้าขาวหันไปเห็นเข้าจึงรีบเข้ามาขวางด้านหน้าลูกน้อยของมัน แมวน้อยรีบวิ่งหนีห่าง
ภัยร้ายที่กำลังใกล้เข้ามา เจ้าขาวร้องขู่สุนัขเสียงแหลมสูง มันก็เห่าขู่แยกเขี้ยวด้วย
ความโกรธเกรี้ยว
สุนัขจู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันหมายขย้ำเจ้าขาว เจ้าขาวพยายามเบี่ยงตัวหลบ
คมเขี้ยวมรณะของสุนัขอย่างว่องไว แล้วตอบโต้กลับตามสัญชาตญาณของแมวด้วย
กงเล็บทั้งห้าตะปบใส่ที่หน้าของสุนัขตัวนั้นในชั่วพริบตา ก่อนที่มันจะรู้ตัวว่าได้รับ
บาดเจ็บที่ขาหน้าจากฟันอันแหลมคมของสุนัขเสียแล้ว เมื่อเจ้าขาวรู้ว่าลูกของมันได้หนี
ไปไกลแล้วมันก็รีบวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดเช่นกัน แต่ทว่าสุนัขตัวนั้นก็ยังคงวิ่งไล่ติดตาม
อย่างกระชั้นชิดไม่ยอมลดละ
อันนี้คงเป็นสิ่งที่ผมขาดไปอยา่งมากเลย
//ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคับผมจะเอาไปปรับไช้กับเรื่องของผมคับ///
ขอโทษคับเรื่องนี้อ่านต่อได้ที่ไหนคับสนุกมาก
โทษนะครับ อ่านต่อไม่ได้เพราะผมกำลังรีไรท์อยู่ครับ ตอนที่เห็นนี้ยังไม่ลงนะอีกนานโขเลย
แมวกับสุนัขไม่ได้ตีกันทั้งเรื่องนะครับ เป็นแค่บางส่วนนิดเดียวจริงๆ
รวมๆ เรื่องนี้เป็นแนวดราม่าไม่ใช่แนวต่อสู้นะครับ
เรื่องสั้นใช่ไหมคับ
ผมเคยอ่านเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งเมือสิบปีที่แล้วได้มั่ง ฉันอยู่นี่ศัตรูที่รัก
ของ ส.เดชาวงศ์ ณ อยุธยา (ไม่มั่นใจว่าซือถูกหรือป่าวมันนานมากแล้ว)
เป็นเนื่อเรื่องเกี่ยวกับหมาสนุกดีคับตอนจบเรียกน้ำตาสุดๆๆ
รีไรท์เสร็จเมื่อไหร่จะติดตามคับ
ไม่ใช่เรื่องสั้นครับเป็นเรื่องยาว ชื่อเรื่อง ปาฏิหาริย์จากลูกแมว
ตอนนี้ลงถึงตอนที่6 อันนั้นอยู่ในตอนที่ 10 ลองอ่านตอนที่หนึ่งก่อนก็ได้ว่าชอบรึเปล่า
มีอีกเล่มที่ชอบมากๆ เกี่ยวกับการเขียนฉากต่อสู้ คือเรื่องมูซาชิ ฉบับท่าพระจันทร์ครับ เป็นการขับเคี่ยวกันทางสภาวะจิตของซามูไร น่าจะพอใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ดีทีเดียว
ปล. ส่วนตัวผมค่อนข้างถูกจริตกับการต่อสู้ทางด้านจิตวิทยาระหว่างการรบมากกว่าฉากต่อสู้อลังการอีกนะ ยังไงลองอ่านดูนะครับ น่าจะได้อะไรเยอะทีเดียว
มูซาชิ ฉบับท่าพระจันทร์ เรื่องนี้ผมมีเก็บไว้พอดีคับแต่ยังหาโอกาสที่จะอ่านยังไม่ได้
ตอนนี้ก็ของเริ่มเลยแล้วกันคับ
//ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆคับ//
อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ก็ต้องเคลื่อนที่สัมพันธ์กับท่าทางด้วยนะคะ
ถ้าไม่ถึงขั้นโอเว่อร์แอคติ้ง ก็ลองจำลองท่าทางเองก็ได้
แต่ส่วนตัว เราจะศึกษาอาวุธ น้ำหนักของมัน และแรงกระทำเพิ่มเติมไปด้วย
เพื่อให้เกิดความน่าจะเป็นของ บาดแผล หรือความเสียหาย อะคะ
*-*
อารมย์ประะมาณว่าทุกสิ่งต้องสัมพรรณใช้ว่าจะนั่งแต่งเพียงอย่างเดียว
เราต้องลองทศสอบด้วยตัวเองเพื่อความสมจริงในนิยายสินะคับ
ช่างล่ำลึกยิ่งนักคับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและเคล็ดลับนะคับผมจะขอรับเอาไปเพื่อใช้ในนิยายที่ผมแต่งคับ
//อยากจะพูดทิ้งท้ายว่าขอบคุณมากคับบบบบบ////
ก่อนอื่นมันต้องออกแบบฉากต่อสู้ก่อนนะ ซึ่งนั่นก็คือ เราต้องอ่านหรือเลียนแบบฉากต่อสู้แบบในหนังที่เราชอบก็ได้นะ อย่างเราชอบดูหนังจีน ฉากต่อสู้ของเราก็จะออกเหมือนหนังจีน
สิ่งที่จะทำให้เรื่องสนุกคือ เขียนให้คนอ่านลุ้นว่าจะรอดหรือเปล่า ซึ่งเราก็ต้องเขียนให้ฝ่ายที่ต่อสู้พลาด โดนทำร้าย หรือเฉียด ๆ ประมาณนี้จ้ะ
อืม...ประมาณว่าเหนือความคาดหมายสินะคับ
แนวทางที่คนอ่านไม่สามารถคาดเดาได้
แต่มันต้องสัมพรรณกับบรรยากาศที่กดดันของการต่อสู้ด้วยสินะคับ
อืม...เข้าใจแล้วคับ
//ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคับไม่มากก็น้อยผมขอเอาเคล็ดลับนี้ไปปรับเปลี่ยนใช้ในการแต่งเรื่องของผม..ขอบคุณที่สละเวลามาแนะนำเคล็ดลับคับ///
ยินดีจ้า^^
นิยายที่ผมแต่งอยู่ตอนนี้ เนื้อเรื่องก็กำลังอยู่ในช่วงสู้กันอยู่ครับ สู้กันมาตั้ง 30 กว่าตอนละ ผ่านไปได้แค่ 8 ชั่วโมงในเนื้อเรื่อง
ก่อนจะถึงตรงนี้ก็เคยเขียนฉากต่อสู้มาละ แต่ผมไม่เคยลองอ่านฉากบรรยายต่อสู้ของนักเขียนคนอื่นๆเลย มุ่งมั่นเขียนเองตลอด
สิ่งสำคัญคือ 'เราต้องสามารถบรรยายให้ผู้อ่านสามารถนึกภาพการต่อสู้เหมือนกับที่เราคิดเอาไว้ ไม่ว่าจะการเคลื่อนไหวอวัยวะ เอฟเฟคของท่า ความรู้สึกของตัวละคร เราต้องตีแผ่สิ่งเหล่านี้ให้เป็นตัวอักษรออกมาให้ได้'
ลองเอาของผมไปช่วยพิจารณาหน่อยครับ ว่าโอเคหรือเปล่า
(สปอยฉากต่อสู้นิดหน่อยเน่อ แฟนคลับคนที่อ่านไม่ถึงตอนปัจจุบันแล้วเข้ามาเห็นก็ขออภัย)
ก็ต้องบอกว่าสนุกอยู่แล้วคับเพราะผมเองก็เป็นนักอ่านเงาเรื่องนี้เหมือนกันอย่าน้อยตอนนี้ผมก็นำคนอี่นไปเก้าหนึ่งแล้ว555
//ขอบคุณที่สละเวลามาตอบกระทู่คับผมก็จะขอติดตามผลงานของไรต์แม้จะรู้สป่อยร่วงหน้าแล้วก็ตามขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่มีค่าคับสักวันหนึ่งผมจะไปให้ถึงไรต์แน่นอนคับ///
ไม่รู้สิครับ เวลาตัวละครสู้กันผมจะโฟกัสไปที่อารมณ์ในขณะนั้นๆของตัวละครด้วยอ่ะ จะแสดงออกทางแววตา สีหน้า หรือท่าทางก็ว่ากันไปครับ
ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้สนุกขึ้นไหม
แต่ถ้าแต่งแล้วอัฟลงถ้าคนอ่านเมนท์ว่าเมื่อไรจะลงตอนต่อไแล่ะคับกำลังมันเลย
หรือไม่ก็เม้นท์ติดต่ามของคนอ่านหมายความว่ามันสนุกมั่งคับ
อันนี้ในความคิดของผมนะ
ถ้าตอนไหนมีฉากต่อสู้เของเรื่องแล้วมียอดว่าคนเข้าอ่านตอนนั่นๆมากก็หมายความว่ามันสนุกมั้งคับ
ของเรื่องที่ผมแต่งแค่หลงเข้ามาเปิดดูหน้าแรกแล้วก็ไปคับ
อย่างน้อยก็ยากไห้คนอ่านเปิดเข้าไปอ่านบ้าง
//ขอบคุณที่แนะนำคับไม่ว่าท่านไดแนะนำอะไรผมก็จะเอาคำแนะนำไปปรับเปลี่ยนไช้คับส่วนตัวแล้วชอบทุกข้อแนะนำและเคล็ดลับคับ///
แหะ แหะเราก็เขียนแนวกำลังภายในแต่บรรยายไม่เก่ง ขอแอบดูกระทู้ด้วยคน
ไม่ต้องแอบดูเปิดเผยเลยก็ได้คับวินวินคับ
เน้นใช้ข้อมูลวิทย์เสริมก็ดีครับ
ไม่ค่อยเข้าใจคับแต่ถ้ามีตัวอย่างไห้อ่านจะดีมากคับ
ส่วนตัวผมไช้ความจำและด้นสดคับ
ส่วนมากหนังสือที่ผมอ่านจะเป็นแนวความเชื่อและโบราณคดีคับ
ส่านนวนิยายจะจำมาจากตอนที่ไปแอบอ่านจากร้านหนังสือตามห้างเอาคับจึงเอามาใช้ปรียบเทียบตอนแต่งไม่ได้
(ประมาณว่าราคากนังสือหนึ่งเล่มก็มากกว่าเงินค่าแรงที่ผมทำงานมาทั้งวันแล้วคับคงมีโอกาสน้อยมากที่จะได้มาใว้ในครอบครอง)หนังสือที่ผมเก็บสะสม90℅เป็นนังสือมือสองเราไม่สามารถรู้ร่วงหน้าได้เลยว่าวันไหนจะมีหนังสือที่เราต้องการมาบางครั่งในร้านมีหนังสือที่เราต้องการแต่เราไม่มีเงินซื้อก็บ่อยคับ
ส่วนมากเรื่องที่ชอบก็ไปแอบอ่านตามร้านเอาเพื่อจะจบเล่มก็ต้องเดินอ่านวนไปหลายๆร้านบางครังเค้าจำเราได้ก็ไล่เราออกจากร้านก็มีบ่อยคับ
//อย่างน้อยผมก็ได้เข้าไปตาดแอร์เย็นแล้วคับ//อ้าว...นอกเรื่องซะงั้นขอบคุณที่แนะนำคับ
ลองไปหาข้อมูลมาอ่านดูก็ดีนะค่ะ
เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ มวยไทย เทควันโด ยูโด
จะได้มีความรู้ประกอบการเขียน
ไม่ก็ดูละครที่มีฉากต่อสู้เยอะๆ
ผมจะขอลองไปศึกษาอย่างที่ว่าดูคับ
คงต้องศึกษาอีกมากเลยล่ะคับ
_ขอบคุณมากๆที่แนะนำคับได้เปิดมุมมองอีกอย่างอย่างแล้วคับ_
ด้วยความยินดีค่ะ ^^
ทั้งฉากสงคราม ฉากต่อสู้ ฉากแอคชั่น บลาๆๆ
บอกอย่างเดียวคือต้องศึกษาค่ะ ศึกษาผ่านหลายๆ ทาง หลายๆ อย่าง เช่น หนังสือสอนศิลปะการต่อสู้ หรือดูภาพยนตร์แนวต่อสู้ เป็นต้นค่ะ
แต่ว่าเราเป็นคนที่ดูภาพยนตร์แล้วมาแต่งจะนึกภาพไม่ออก จริงๆ ก็ชอบดูอนิเมะมากกว่า หรือไม่ก็ไปเล่นเกมออนไลน์ที่ภาพสวยๆ นำท่าสกิลมาประยุกต์ใช้ 55555
ป.ล นี่ไม่ได้ติดเมะไม่ได้ติดเกมนะ ไปศึกษามาเขียนนิยายทั้งนั้นค่ะ จริงจริ๊งงง
อืม~~เอาเป็นว่าผมเชื่อแล้วกันคับ..ผมเชื่อจริงๆนะ..จริงๆ
ตัวผมเองขอยอมรับเลยว่าเป็นโอตะคุขั้นหนักเลยคับ
มีanimeใว้ในครอบครองไม่ต่ำกว่าสองพันเรืองทั้งแท้และโหลด
และเป็นหนึ่งในสามเหตุผลที่ผมนั้นแต่งนิยายคับ
การดูanimeไม่ไช้เรื่องผิดแต่มักโดนคนอื่นดูถูว่าดูแต่ของปัญญาอ่อน
ผมไม่เคยอายที่ถูกเรียกว่าโอตะคุทุกเรื่องที่ผมมีผมดูไม่ต่ำกว่ายี่สิบรอบanimeก็เหมือนนิยายคนเเต่งมักจะแฟงแง่คิดต่างๆเอาไว้ในเรื่องเพียงแต่ว่าเราดูแล้วได้อะไร
คำถามคับละครที่ฉายหลังข่าวดูแล้วได้อะไรแฟงแง้คิดอะไรให้กับเรา
ทำไม่ละครบางเรื่องถึงไม่ให้เด็กดูทำไมถึงมี(ฉ)ล่ะ
ผมไม่เคยเล่นเกมออนไลน์เลยคับถ้าช่วยแนะนำด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงคับ
//ทั้งนี้ก็ขอบคุณคับที่เอาเวลาที่มีค่ามาแนะนำไม่เคยนึกว่าจะมีหลายท่านมาแนะนำเยอะอย่างนี้ทุกครั่งที่ดูanimeผมไม่เคยคิดอะไรมากเลยด้วยตอนนี้ผมคงต้องกลับไปดูแล้วคิดเสียแล้วสิคับ555
โอ้ว เจอคนจริงเข้าซะแล้ว โปรดรับข้าเป็นศิษย์ด้วย ดูได้ยังไงตั้งพันเรื่อง
เราไม่เคยโดนหาว่าปัญญาอ่อนนะคะ เวลาดูอนิเมะมีแต่คนหาว่าโรคจิต อนิเมะที่ดูก็ราวๆ School day , shiki , tokyo ghoul , corpse party , blood C , mirai nikki , another เท่านั้นเองค่ะ แค่ชอบดูหลายๆ รอบเท่านั้น ไม่ได้โรคจิตสักหน่อยเนอะ
ป.ล เกมออนไลน์ที่เราเล่นตอนนี้ก็เป็นเรื่อง fantasy frontia ค่ะ
ฮิ..ฮิ..เขินจัง~~เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นผมดูหมดแล้วท่านหมวกฟ้าคงชอบอะไรที่เถื่อนๆสินะคับแต่ล่ะเรื่องที่กล่าวมาเลือดสาดเต็มจอทั้งนั้น
โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายที่เคยติดอันดับanimeที่หลอนที่สุดตายแต่ล่ะทียังกะดูหนังผี แต่ผมชอบเพลงของเรื่องนี้นะเพราะดีผมชอบความหมายของเนื่อเพลง
ปล.ซายะหน้ารักมากๆ
Naother แบบโนเวลอ่านแล้วได้อารมย์มากว่าคับ
แต่ถ้าวันใดคุณหมวกฟ้าอยากเปลี่ยนแนวที่จะดูที่ต่างกันคนล่ะขั้วแล้วล่ะก็
ผมแนะนำสองเรื่องคับ(ถ้าวันใดนะคนเราต่างกันก็ชอบต่างกันโดยส่วนตัวแล้วชอบทั้งหมด)
เรื่องแรก A R I A The Animation สามภาค
เรื่องสอง Natsume. Yuujinchou สี่ภาค
ทั้งสองเรื่องมีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง...เพลงของทังสองเรื่องมีความหมายที่กินใจ ดูแบบสะบายๆๆ
Animeไม่ว่าเรื่องไหนก็ขอไห้ดูอย่างสนุกนะคับผมไม่ขอเขียนเยอะเดียวโดนเกลียดเอา
อ่ะ~เรื่องที่ว่าดูอย่างต่ำยี่สิบรอบนั้นเรื่องจริงไม่ได้อวดแต่อย่าใดถ้าพูดอีกอย่างคือเพียงแค่ฟังอย่างเดียวไม่ต้องดูก็รู้ได้ทั้นที่ว่าเรื่องเปิดอยู่นันเรื่องอะไร
//ขอบคุณเรื่องเกมด้วยนะคับผมจะลองศึกษาดูอยากจะบอกว่าขอบคุณอีกสักหลายๆครั้งคับ//
Another ยอมรับว่าในหนังสือมันได้อารมณ์กว่าจริงๆ นั่นแหละค่ะ มันดูหลอนกว่าด้วย แต่ว่าในอนิเมะหนูเมย์น่ารักกว่าเนอะ 55555
ฮุฮุฮุ อนิเมะเรื่องที่สองดูแล้วค่ะ ถึงเราจะสยอง (ไม่โรคจิตแต่สยอง?) แต่เราก็เป็นสาววาย เอิ้ก อ่าค่ะ ยอมรับว่าที่ดูเพราะมีคนสปอยมาว่ามันเป็นอนิเมะวาย แหม หนูนัตสึเมะน่ารักจะตาย ใครไม่หลงก็แปลกขนาดเรายังหลงเลย อิอิ (ส่วนตัวชอบผู้ชายเคะ) มันก็สบายๆ ดีนะคะ ดูไป 2 - 3 รอบทุกภาคเลย ว่าแต่ว่าหนูนัตสึเมะคือเรย์โกะกลับชาติมาเกิดใช่ไหมคะ คนบ้าอะไร หน้าเหมือนย่าตัวเองอย่างกับฝาแฝด!
เคยเอารูปหน้าปกเรื่องนี้ไปให้คนอื่นดู เป็นภาพนัตสึเมะกับเรย์โกะอยู่ข้างๆ กัน มีคนไม่รู้มาทักด้วยว่า อ้อ ฝาแฝดกันเหรอ 55555
ป.ล ตอนแรกดันอ่านผิดจากหมวกฟ้าไปหมวกฟางค่ะ สตั้นอยู่นาน นึกว่าท่านรู้ว่าติดวันพีซ
ใช่คับหน้ารักจริงๆนั่นแหละอย่างน้อยผมก็มีโปสเตอร์ขนาด1.5เมตรเก็บไว้เลย
รู้สึกว่าจะมีเรื่องหนึ่งที่ผมดูอยู่ชื่อเรื่องว่าอะไรนี่แหละที่ตัวละครเป็นนักเรียน หกคน ผู้หญิงหนึ่งคนผู้ชายห้าคน มีแฝด หนุ่มแว้น หนุมหน้าหวานที่ชื่อชุน หัวทอง เด็กผู้หญิงที่หลงรักชุน..
นัตสึเมะกับเรย์โกะเห็นเพื่อนที่ญี่ปุ่นเขาว่าเป็นคนล่ะคนไม่ใช่กลับชาติมาเกิด(อันนี้เขาว่ามาผมไม่รู้นะ)
ครั้งหนึ่งผมเคยเดินทางไปญี่ปุ่น(เรื่องงานน่ะถึงแม้จะไปเรื่องงานแต่ความรู้สึงที่ไปมันอีกอย่าง)กะว่าอย่างน้อยๆก็ขอไห้ได้ลายเซ็นของนักวาดการ์ตูนสักคนแต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาด้วยลายเซ็นของเพื้อนตัวเอง
อ่อ..เพื่อนผมวาดโดจิชิน่ะต้อนนี้เห็นว่าจมกับเรื่องที่ตัวเองแต่งแล้ว..ชาตินี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว(เพื่อนผมเป็นสิ่งที่เขาเรียกว่า Fujoshi อันนี้ผมเรียกได้คนเดียวคนอื่นเรียกแล้วจะโกรธ)เวลาส่งของมาให้แต่ละอย่างคงไม่ต้องบอกนะว่ามีอะไรบ้าง เฮ้ย..ผมเลยได้รับผลมาไม่รู้ว่ามากหรือน้อยก็เลยเป็นระเภทว่าอะไรก็ได้...
อ่ะ..นอกเรืองอีกแล้วถ้าเรื่องนี้คุยกันคงอีกยาว(ผมไม่ค่อยมีเพื่อนด้วยสิไม่ว่าจะเป็นโลกฝั่งไหน)
แต่ผมก็มีความสุขทุกวันก็พอแล้ว
ปล.ผมชอบคนพากษ์พอนตะมากว่าเสียงพากได้อารมย์ดี
ปล.ไม่ว่าคุณจะสายมืดหรือสว่างขอเเค่คุณมีความสุขก็พอแล้ว (พูดทำเท่)
ประมาณว่าตัวเอกยิงตัวร้ายด้วยกระสุนเงิน แล้วสายฟ้าลงมาผ่าตัวร้าย ใช้ไฟฟ้าทำให้เส้นประสาทบิดเบือน หรือเผาสสารสร้างพิษก็โอเคครับ
ก็คือถ้ามีเหตุคือ: กระสุนเงินที่ถูกยิง
ผลก็คือ: สายฟ้าหรือสิ่งที่ตามมา
บทสรุปคือ: เส้นประสาทบิดเบือน
แบบนี้สินะคับสรุปคือสิ่งที่บทสรุปของผลที่ตามมาสินะคับ
เพียงแค่เราใส่ผลที่เป็นอย่างอื่นบทสรุปก็จะปลี่ยนไปสินะคับ
ช่างล่ำลึก
///ขอบคุณที่อุตส่าห์แนะนำคับ///
ผมใช้ Inner ตัวเองเป็นหลักครับ
เหมือนเราฟังเพลงร็อค มันจะมันส์อยู่ที่จังหวะกับความดุดันและอัตราความเร็วครับ
ทุกอย่างมันต้องพอดีแต่แรง ผมคิดว่างั้น
ทำให้มันต่อเหนื่อง ลื่นไหล แต่ดุดันครับ จะมันส์มาก
บิ้วตัวเอง ส่วนมากผมมองเป็นภาพ แล้วเขียนออกมา
แต่เราต้องลงรายละเอียดครับ ให้มันเข้าใจง่ายๆ
แต่อ่านแล้วต้องลื่น เหมือนอ่านแล้วตามัน Continue ได้จนจบอ่ะครับ
แต่งเสร็จ รอสัก 10-15 นาที ไปทำนู่นนี่ก็ได้
แล้วกลับมาอ่านไหม มันจะมีสะดุด เราจะรู้เองครับ แล้วมาแก้ใหม่ให้มันดี
แล้วค่อยเอาลงดู feedback ต่อไป เราจะรู้เองว่าตลาดชอบแบบไหน
ัขอบคุณคับที่เเนะนำแนวคิดดีดีมาให้คับ
ช่วงนี้ผมก็พยายามแต่งบางตอนในนิยายของผมเอาที่มีฉากต่อสู้ก่อนเพราะยังติดปัญหาอยู่ส่วนที่ว่าสนุกไหมนั้นคำตอบคือไม่เฉียดเลยคับ
ซึ่งผมขอรับเคล็ดลับนี้ไปใช่ดู
//ขอบคุณคับที่แนะนำมาเป็นประโยชน์มากเลยคับขอบคุณ_//
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?