เวลาที่รู้ว่าตัวเองต้องลบแก้ไขต้นฉบับใหม่และอาจต้องลบทั้งตอนเพื่อเขียนใหม่ เคยทำใจไม่ได้กันไหมคะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
คือตอนนี้เราก็กำลังแก้ไข ปรับปรุง ต้นฉบับนิยายของตัวเองอยู่ แต่ในบางฉากเรารู้สึกว่ามันดีแล้ว อยากเพิ่มเติมบางจุดเข้าไปในบทเดียวกัน แต่ก็ต้องลบฉากที่เราคิดว่าดีแล้วอออกเพื่อเชื่อมต่อพลอตเรื่องให้ไปต่อได้ ซึ่งเรา 'ตันคิดฉากเชื่อมไม่ออก' และทำใจไม่ได้ที่จะลบฉากที่คิดว่าดีแล้วออกด้วย
เฮ้อ...ใครเคยเป็นบ้างคะ อารมณ์แบบนี้ "รู้นะว่าจะต้องไปยังไง แก้ยังไง แต่ทำใจไม่ได้ที่จะทำ"
พอมานึกๆ ดูแล้วนักเขียนคนอื่นที่ต้องตัดตัวละครทิ้งนี่ เสียใจหรือทำใจกันไม่ได้บ้างไหมค่ะ? (เพราะผูกพันกันมาจนจบเรื่อง ประมาณนี้)
แล้วจัดการกับความรู้สึกของตัวเองกันยังไงคะ ถึงกล้าลบและเขียนใหม่?
หรือจริงๆ แล้วมันคือเรื่องที่เราต้องชิน ถ้าคิดจะเป็นนักเขียนอาชีพจริงๆ เพราะนักเขียนคนอื่นก็เป็นใช่ไหมคะ?
24 ความคิดเห็น
ผมขออนุญาตจองพื้นที่ครับ แต่ขอยังไม่แสดงความเห็น เพราะผมด้อยประสบการณ์พอสมควร มาร่วมฟังก็แล้วกันนะครับ ขออภัยที่บ่นครับผมเพิ่งทานข้าวมันไก่มา
เชิญนั่งเลยค่ะ
คราวนี้ใช้ข้าวมันไก่จริงๆ ด้วย ฮ่าๆๆ
ปล. มานั่งฟังด้วยคนค่ะ ไม่ค่อยมีแรงจะพูดจะพิมพ์อะไรเลยค่ะ รออ่านอย่างเดียวละกัน
พูดเหมือนเด็กเสริฟร้านข้าวมันไก่เมื่อกี้!! นี่สินะที่เขาเรียกว่า เดจาพนม!!!
สู้ๆ ค่ะ คุณหมอก เชิญนั่งค่ะ ^^
มาขอนั่งด้วยค่ะ ถถถถถ
ถ้าเป็นผม อยากให้ตัดจบตัดละครที่จะลบด้วยฉากหักมุมสั้นๆ เช่นเดินไปโดนรถชนตาย หรือ ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นตัดเพื่อน
แต่ผมก็ยังเป็นแค่ไรท์หน้าใหม่คงจะแนะนำได้แค่นี้ แปะด้วยคน
เราก็หน้าใหม่ค่ะ ยินดีรับฟังความเห็นที่แนะนำค่ะ ขอบคุณค่ะ
ส่วนตัวเราคิดแค่ว่าถ้าไม่ยอมตัดใจลบ ก็เดินหน้าไปต่อไม่ได้ เลยเลือกจะลบทิ้งซะน่ะค่ะ ถามว่าผูกพันมั้ย? ก็ผูกพันนะคะ แต่ถ้าผูกพันแล้วทำให้งานไม่ก้าวหน้า ไม่สมบูรณ์ ก็ตัดมันทิ้งเถอะค่ะ อันนี้แนวคิดส่วนตัว ไม่รู้มีคนคิดเหมือนกันหรือเปล่า
เราก็เคยได้ยินมาประมาณนี้แหละค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยสำหรับเรา ขอบคุณค่ะ
เคยทำมาแล้วทุกสิ่งอันที่ท่านกล่าว ตั้งแต่ตัดตัวละครที่ชอบทิ้งไปเพราะเป็นส่วนเกินของเรื่อง ตัดบางตอนที่ชอบทิ้งไป ที่ทำให้เรื่องเวิ่นเว้อเกินเหตุ
ข้าน้อยมักบอกเสมอว่าการเขียนคือ การเลือก และการตัดใจ เป็นเส้นทางหนึ่งที่คนเขียนทุกคนจะต้องเรียนรู้ขอรับ
อา....ท่านไป่หนิง เราเพิ่งจะได้เผชิญประสบการณ์นี้เป็นครั้งแรก ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
เราเคยตัดตอนทั้งตอนทิ้งออกไปด้วยเหตุผลว่า "มันทำให้เราเขว" มาแล้วค่ะ
คือถามว่ารู้สึกว่าตอนที่จำต้องตัดออกไปนั้นรู้สึกว่ามันดีไหม
ก็รู้สึกว่ามันดีนะ แต่หากสุดท้ายมาถึงทางตันเพราะสิ่งที่คิดว่าดีแล้ว
นั่นแปลว่าสิ่งนั้นมันดี แต่มันก็แค่ไม่ใช่สำหรับเนื้อเรื่องของเราเท่านั้น
ก็เหมือนความรักค่ะ คนที่ดีอาจไม่ใช่คนที่ได้เดินไปต่อกับเราก็ได้ (?)
ตัดทิ้งที่ว่าของเรานี่ไม่ใช่ลบทิ้งไปเลยนะคะ
คือเราเป็นคนที่ชอบเขียนลงสมุดก่อนแล้วค่อยมานั่งพิมพ์ในคอม
ดังนั้นบางฉาก/บางตอนที่เราตัดออก เราก็แค่กากบาททิ้ง
แต่ถ้าไปๆมาๆ เอ้า ฉากหรือตอนที่ตัดทิ้งมันมาจำเป็นในภายหลัง
เราก็จะกลับไปหาน้ำพริกถ้วยเก่า เอ้ย เอาสิ่งที่ทอดทิ้งไปแล้วมาใช้อีกครั้งค่ะ
ส่วนเรื่องตัดตัวละคร...เรามีความคิดว่าถ้าหากต้องการตัดตัวละครออก
ต้องคิดค่ะว่าจะให้เขาอยู่ในความทรงจำผู้อ่านแบบไหนเมื่อจากไป
ถ้าอยากอยู่ในความทรงจำแบบแค่ถูกเอ่ยชื่อถึงในตอนอื่นก็น้ำตาตื้นขึ้นมาในอก
คงต้องเขียนฉากจากลานั่นให้ซึ้งใจ
ถ้าอยากให้หายไปเงียบๆ ก็อาจเป็นการค่อยๆลดทอนบทบาทของตัวละครนั้นลง
ซึ่งการลดบทตัวละครนี่ยากอยู่อย่างหนึ่งนะ
คือถ้าเกิดนั่นเป็นตัวละครที่ผู้อ่านชอบกันเยอะๆแล้ว
มันมักจะตามมาด้วยคำถาม "ทำไมคนนี้ไม่มีบทเลยล่ะ?"
คนเขียนก็ต้องทำใจกับคำถามประเภทนี้และไม่ไขว้เขวไปกับข้อเรียกร้องผู้อ่านมากนัก
ไม่อย่างนั้นมันก็จะกลายเป็นเขียนตามใจคนอ่านไป
(เราถือคติเขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากจะอ่านค่ะ เหอเหอ)
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ เราจะนำไปปรับใช้ค่ะ
สู้ๆค่ะ ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ แต่ลองแล้วจะติดใจ #ห๊ะ
อะ เอิ่ม ไม่อยากเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ เลยค่ะ เครียด (-*-')
แทบอยากจะบ้าตายเลยล่ะครับ คือผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องแก้ไขเรื่องเกือบทั้งเรื่อง ซึ่งผมเขียนเรื่องนี้ตั้งสามเดือน แต่ผมเขียนใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าผมต้องใช้เวลามากกว่าสามเดือนแน่ หงุดหงิดและก็โมโหตัวเองด้วย แต่สุดท้ายก็มีหน้าที่เขียนต่อไปจนกว่าจะจบ
เราเขียนแค่เดือนเดียว แต่เราแก้มาสองเดือนแล้วค่ะ และคาดว่าอีกเดือนจะแก้เสร็จรึเปล่าก็ชักไม่มั่นใจ เราก็จะพยายามแก้ต่อไปจนจบค่ะ ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ
แล้วผมแต่งอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งต้องหาข้อมูลอีก ไหนจะต้องแก้ให้ตรงตามความเป็นจริงอีก เหนื่อยครับ
งานหนักเลยนะคะ เรามาพยายามด้วยกันเถอะค่ะ สู้ๆ
เคยลบ 1000กว่าแผ่น เพื่อเขียนใหม่ด้วยค่ะ
ที่เยอะเพราะว่าหลังจากรีไรท์ ก็ลบรีไรท์ไปอีกเลยเยอะขนาดนี้
ถามว่าทำใจได้มากแค่ไหน... มากจนร้องไห้เลย 555555
แต่ถ้าเรื่องความคุ้ม...ฝึกวาดรูป รู้ว่าคนตามอ่านจริงจังเยอะแค่ไหน ทำให้เรารู้สึกโอเคขึ้น
สำนวนรู้เรื่องมากขึ้น ตัวละครเข้าที่เข้าทางมากขึ้น เพราะตอนแรกแทบไม่อ่านนิยายเลยฝึกซุ่มอ่านนิยาย ยอมเปลี่ยนสำนวน เปลี่ยนพล็อต ตัดตัวละคร เปลี่ยนการดำเนินเรื่อง
รู้สึกว่าตัวเองก็ทุ่มทุนกับนิยายเรื่องเดียวได้มากจริงๆเน้อ
แต่ตอนนี้...เสียจนไม่มีอะไรจะเสีย ไม่ชอบอันไหนเลยทิ้งแบบไม่เสียดายไปซะงั้น //เพื่อนบ่นหลายรอบล่ะ 5555
เราคงต้องฝึกจิตสักพักสินะคะ ถึงจะสตรองได้แบบนี้ T^T ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์กันนะคะ ทึ่งมาก 1000 กว่าแผ่น (*0*) เราก็จะพยายามให้มากกว่าเดิมค่ะ
จริงๆบ่งบอกถึงความง่อยด้วยล่ะ แบบเขียนยังไงนิยายถึงเสียเป็นพัน 555555
แต่เรื่องนี้ก็เขียนมาตั้งแต่ ม.1-2ได้มั้ง ระยะเวลาด้วยที่ทำให้มันเยอะ - -...
ยังไงก็สู้ๆนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ จะพยายามค่ะ ^^
ผมยอม ถ้ามันทำให้เราก้าวต่อไปได้ครับ
ดีกว่าทำใจไม่ได้เเละยืนอยู่ที่เดิม
ขอทำใจสักพักนะคะ เราจะตรองลบและแก้ฉากให้ได้เลยค่ะ !! ขอบคุณค่ะ
ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยเจอปัญหานี้ค่ะ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าควรทำยังไง5555
เราชอบจะยืดต่อไปอีกหน่อยเพื่อให้เรื่องมันเชื่อมกันได้ ไปๆมาๆมันก็เชื่อมกันได้เองแหละถถถถถ ซึ่งก็อาจจะใช้เวลานานนิดนึง เราเองก็คิดตั้งนานว่าควรจะเชื่อมยังไง
แต่ถ้ามันคิดไม่ออกจริงๆ มันตันมาก ลบไปเลยก็ได้ค่ะ เพื่ออะไรบางอย่างที่ดีกว่าเดิม
ส่วนเรื่องตัวละครที่อยากลบ เราอาจจะให้มันโผล่มาช่วยตอนมีปัญหาแล้วดันเจ็บหรือตาย(??) ไปเรียนต่อเมืองนอก มีคู่หมั้น หรืออาจจะทำให้ธุรกิจหรืออะไรที่เกี่ยวกับเขาถูกทำลาย การที่ไม่กล่าวถึงก็รู้กันกลายๆว่าหายสาบสูญ หรือตัวเอกไม่รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับเขาอีก
เราก็แนะนำอะไรได้ไม่มากหรอกค่ะ เรามีปัญหากับการเปิดเรื่องมากกว่า T^T
เปิดเรื่องก็ยากนะคะ เอาใจช่วยค่ะ สู้ๆ
ไม่อยากได้กำลังใจเท่าคำแนะนำนะคะ555555
ศาสตร์เปิดเรื่องช่างละเอียดอ่อน ลองตั้งกระทู้ใหม่ให้ผู้มีวิชามาถ่ายทอดดีกว่าค่ะ เอาใจช่วยค่ะ สู้ๆ ^^
รับทราบค่าาาา ยังไงก็ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะค ะ^^ เราแค่พูดไปงั้นแหละฟฟฟ
ทำใจไม่ได้ค่ะ เคยตั้งกระทู้แบบนี้เหมือนกัน แต่เราก็กลั้นใจลบนะ เพราะสุดท้ายแล้ว เราจะคิดได้เองว่า ถึงเราจะชอบมันมากๆๆๆๆ แต่มันเป็นฉากที่ทำให้ภาพรวมนิยายแย่ลง ทำลายความสมบูรณ์ของนิยาย หรือความไหลลื่นของพล็อต ก็ตัดใจลบได้ค่ะ 5555 //ในเลข5มีน้ำตาซ่อนอยู่
เราสัมผัสได้ค่ะ ถึงน้ำตาในเลข 5
ถ้าเรารู้ว่าจะไปต่อไม่ได้ เราจะกลับไปหาสมุดที่วางพล็อตไว้ แล้วเริ่มต้นวางพล็อตเสริมขึ้นมาใหม่ เพราะเสียดายที่แต่งไว้ ลบไปไม่ได้ค่ะ จะพยายามคิดหาฉากเชื่อมพล็อตให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม 555 ก็มันรักนี่นา การลบไม่ใช่ทางแก้ปัญหาทางเดียวสักหน่อย
ปกติเราจะวางพล็อตใหญ่ก่อนเลยเวลาจะเขียน คือวางละเอียดมาก ๆ ใช้สมุดเป็นเล่ม ๆ เพียงแค่วางพล็อตค่ะ พอพล็อตละเอียดแล้วก็เหมือนว่ามันจะถูกล็อกไว้อย่างนั้น ไม่มีอะไรให้เสริม ให้แก้อีกแล้ว ดังนั้นอาการอยากเพิ่ม อยากจะปรับปรุงใหม่เลยไม่เคยเกิดขึ้นน่ะค่ะ
เราจะลองทำแบบคุณดูบ้างค่ะ บางทีทางออกเราน่าจะดีขึ้น ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
ถึงผมจะเคยเขียนเรื่องแรก แต่ผมก็ทำมาหมดแล้วละครับ
ตัดตอนทิ้ง 3-4 ตอน เขียนดีในระดับที่พึงพอใจ แต่ยังไม่เหมาะจะใส่ในช่วงเวลานั้น จำใจตัดออก
(งงเหมือนกันที่ทีแรกคิดว่ามันโอเค แต่พอศึกษาหลักการเขียนทำให้รู้ว่า มันไม่เหมาะ)
ตัวละครก็ทิ้ง แต่โยกย้ายไปใส่ที่อื่น ลักษณะอื่น
ถามว่าทำใจได้ไหม ตรงไปตรงมา ทำใจไม่ได้แต่ก็ต้องทำ เพราะต้องการเขียนเรื่องให้ดีที่สุด
ถ้าปล่อยผ่าน ก็เท่ากับเราปล่อยสิ่งที่คิดว่าไม่ดีออกไปครับนั่นเอง
แต่ผมตัดทิ้ง แล้วเก็บไว้อ่านนะครับ ยังไม่ลบทิ้งไปทันที
อ่านพิจารณาทบทวนเพื่อบทเรียน จำให้ขึ้นใจแล้วค่อยปล่อยมันไป (ฮา)
ขอบคุณมากค่ะ เราบันทึกไว้เป็นอีกไฟลนึงน่ะค่ะ เผื่อมันแย่ก็ยังมีต้นฉบับแรกให้เอามาแก้ใหม่ได้อยู่
ทาง สนพ ขอมาเหรอคะ
ยังไม่เคยโดนเลยค่ะ เพราะยังไม่เคยผ่านซักที (โดนตบ!)
แต่ที่ผ่านมา เราไม่เคยลบทิ้งเป็นตอนนะ เพราะเสียดายนี่แหละ เราจึงใช้วิธีเขียนแทรกเข้าไปค่ะ
ไม่ใช่ สนพ หรอกค่ะ ตัวเราเองนี่แหละค่ะ อ่านแล้วรู้สึกได้ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์นะคะ ^^ (อยากมีโอกาสผ่านงาน สนพ เหมือนกันค่ะ)
เขียนจบหลายเรื่องแล้วนี่ รีไรท์เสร็จก็ลองส่งดูเลยเนอะ
จะพยายามค่ะ แค่เรื่องแรกยังรีไรท์ไม่ไปไหนเลย T^T
ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ ขอให้สนุกกับมันค่ะ
เคยลบ 183 หน้า (จบเรื่อง) ทิ้งแล้วเขียนใหม่ค่ะ
เพราะมันต้องแก้ไขหลายจุด แก้จุดนั้นกระทบจุดนี้ เลยลบทิ้งแล้วตั้งต้นใหม่เลย
สะ สุดยอด!!! กล้าหาญมากค่ะ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์นะคะ ^^
ที่ต้องล้างกระดานเลยเพราะว่า ถ้าลบๆ แทรกๆ เป็นบางจุดแล้วมันหลุด ไม่ครอบคลุมทั้งหมดค่ะ ต่อให้มาร์กเอาไว้แล้วก็ตาม
พอใช้วิธีเขียนใหม่ มันก็ไม่เรียกว่าเขียนใหม่เสียทีเดียว เพราะเรายังมีของเก่าในหัว มันก็จะเขียนไปได้ไว และเก็บจุดที่ตกหล่นและต้องการปรับปรุงได้ครบหมดกว่า
แต่ตอนทำใจลบนี่ลบทั้งน้ำตาเลยค่ะ และปัจจุบันนี้ก็ติดนิสัยชอบแก้ๆ ลบๆ ล้างกระดานไปเสียอย่างนั้น
ก็ได้รับคำแนะนำมาแบบนั้นเหมือนกันครับ ว่าการเขียนใหม่โดยมีโครงในใจนั้นจะทำให้นิยายออกมาดีกว่าแบบเก่า
แต่ส่วนตัวแล้ว ตอนรีไร้ท์ ผมก็ผสมๆไปนะ คือส่วนที่ตัดก็ตัดไป ส่วนที่เขียนใหม่ก็เขียนไป
แต่อะไรที่เป็นแก่น อ่านแล้วยังใช้ได้ เอาแค่เกลาก็พอแล้วครับ จะทุ่นเวลากับลดพลังงานสมองไปพอตัวเลย
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ เราจะเอาไปปรับใช้ดูค่ะ
ผมยังไม่เคยนะ(ก็ยังไม่เคยรีไรท์ ...ยังไม่เคยเขียนจบจริงๆเล้ย!)
แต่พูดถึงเรื่องนี้อยากให้ลองไปอ่านเรื่อง "ล่าอสุรกาย"
เสร็จแล้วไปดูอนิมเะ Ushio to Tora
แบบอนิเมะมันตัดไปเยอะเลย ตัวละครหายหลายตัว แต่ทำออกมาสนุกมาก!
เนื้อเรื่องกระชับขึ้น รวดเร็วทันใจ เด็ดทุกตอน
ไว้มีโอกาสเราจะไปหามาดูนะคะ ขอบคุณค่ะ
//เรื่องนี้คุณพีทจะไม่ยุ่ง
แบบว่าผู้กำกับขี้เกียจม้ากมาก ถ้าเขียนจบก็จะโห่สามลา ไชโยสามครั้ง แปะฝาปิดผนึกเรียบร้อย แล้วผู้กำกับก็ไปฉลองสามวันเจ็ดคืนครับ
ไหน... อะไรนะ... รีไรต์?... อะไรยังไง ไม่รู้ไม่ชี้ //จกข้าวเหนียวไก่ย่างส้มตำ
ตำปูปลาร้าด้วยหริอเปล่าคะ? ขอทานด้วยคน เอารสจัดๆ นะคะ ^^ // พูดแล้วหิวววววววว
แย่แล้ว! ชวนกันอ้วนแน่ๆ!
ไม่เป็นไรค่ะ เราอ้วนอยู่แล้ว ฮ่าๆ ^^
เคย ต้องลบตอน 40 ตอนออกและ ไปแก้ตอนแรกๆ ประมาณ 10 ตอนแรกใหม่เกือบหมดเพื่อให้สอดคล้องกันตอนหลังๆ แล้วอัพตอนต่อไปอีกที ก็แก้ราวๆ เดือนหนึ่งละมั่งครับ
เรืองตัดตัวละครทิ้งนี้ ส่วนใหญ่ถ้าแก้จะไม่่ตัดทิ้งครับ แต่จะแต่งเรื่อยๆ แล้วฆ่า =v= ไม่ปวดตับหรอกมั้ง แค่ตัวประกอบนะ ก็ทำนองนี้แหละครับ
อ่อ ตอนที่แก้บ้างทีก็ยาวประมาณ 8 หน้า ตอนไหนที่น้อยกว่า 8 ก็ต้องเพิ่มให้ถึง ไม่ก็ จับสองตอนมารวมกัน แล้วก็แก้มันสะเลย ตอนจะได้น้อยลงด้วย และพยามรวบให้ได้มากที่สุดเพื่อให้คนที่อ่านแล้ว ไม่จำเป็นต้องกลับมาตามอ่านมา
แล้วเมื่อลงตัวก็อัพตอนต่อไป จากนั้นก็ค่อยไปเสริม จุดๆ ต่างใหม่อีกครั้งเพื่อเรียกคนอ่านหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยได้อ่าน
แต่ละตอนเราก็ไม่ถึงแปดหน้าค่ะ นั่นก็เป็นปัญหาของเราเหมือนกัน
ผมเคยนะแต่ทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ผมจะคิดแบบนี้ครับ
"นิยายเล่มนั้นเขาแก้ไปแล้วกี่รอบกัน?"
ผมก็มีแรงเขียนต่อครับแปลกเนอะ
สั้นๆ แต่จริง ขอบคุณมากค่ะ โดนใจเราดังปัก!
สำหรับเราไม่เคยตัดแค่บางฉาก ถ้าต้องตัดแบบจัดจริง 'ตัดทั้งตอน' ไม่ว่าจะแต่งไปกี่สิบหน้าก็ยอมค่ะ เราถือคติว่าถ้าแต่งไปแล้วรู้สึกไม่ดีก็ล้างมันซะ แล้วสิ่งที่ดีจะมาเอง หนักที่สุดก็ 'ทั้งเรื่อง' ประมาณ30กว่าตอน เพราะเรามารู้สึกตอนแต่งว่ามันขัดๆ การบรรยายช่วงแรกมันแย่ เนื้อหาง่ายไป เลยลบให้หมดเลย ตอนลบนี่ก็ลังเลนิดนึง แต่พอทำแล้วรู้สึกสบายใจ เพราะถึงเราจะรักตัวละคร ถึงเราจะลบพวกเขาออกไปจากหน้ากระดาษ แต่พวก้ขาก็ยังอยู่ในความทรงจำ ยังสามรรถออกมาโลดแล่นได้เสมอ ตราบใดที่เรายังไม่ลืม ก็เลยถือซะว่าเราสร้างพวกเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นไม่ต้องเสียดายหรือลำบากใจ แค่ทำในสิ่งที่คิดก็พอ
ขอบคุณที่แชร์ประสบการค่ะ ^^
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?