Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ร่วมวิจารณ์:เเบบนี้อาชีพอะไรดี?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราเป็นคนที่รักอิสระมากๆเเต่ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ในกรอบที่ถูกกำหนดไว้ไม่ได้(ถ้าจำเป็นนะ=3=) เราชอบทำอะไรคนเดียวไม่ใช่ว่าเป็นคนเก็บตัวไม่มีเพื่อนหรือว่าอะไรทำนองนั้นเเต่ตรงกันข้ามเลยเเหละ เราเป็นพวกอาร์ตติสที่อยู่กับคนอื่นในสังคมใหญ่ก็ชอบ เเต่อยู่คนเดียวมันก็ได้เเถมสบายใจด้วย เราสนใจภาษาวรรณกรรมโดยเฉพาะงานเขียนที่ตอนนี้ตัวเองก็เขียนอยู่ในเว็บนี้เหมือนกัน เเต่รู้สึกว่าอาชีพนักเขียนมันไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ถ้าจะให้จริงจังยึดติดเป็นอาชีพเพราะความไม่เเน่นอนเเละยิ่งอิสระต่อความคิดเเบบนั้นเราเลยกลัวว่าตัวเองจะเตลิดไม่เป็นหลักเป็นเเหล่งไปกันใหญ่ เเต่ถ้าให้เป็นงานอดิเรกยามว่างหรือเขียนจริงจังบ้างครั้งคราวก็ได้ เเต่ถึงเราจะชอบภาษาเราก็ไม่เเน่ใจว่าจะเป็นอะไรกันเเน่เพราะขึ้นชื่อว่าภาษามันเลยครอบคลุมมากๆ เราสนใจเรื่องความสวยความงามด้านเเฟชั่นนี่ก็ยิ่งชอบ เรารู้ว่าใส่อะไรกับอะไรเเล้วมันจะเด่นขึ้นมา ถ้าใสเสื้อขาวกางเกงยีนธรรมดาเราก็ต้องคลับให้เด่นด้วยไอเทมสีสด หรือใส่อะไรที่เป็นพื้นธรรมดาที่อยู่ในธีมเดียวกันเเต่ตัดด้วยไอเทมอื่นที่เเตกต่างกัน(อะไรของเเกวะ-=-) เราเลยคิดว่าทำธุรกิจอยู่ในวงการเเฟชั่นนี่ก็สนุกดีนะ เพราะช่วงนึงที่เราอยู่ประมาณตั้งเเต่ป.4มั้งที่เริ่มออกเเบบชุดลงเเผ่นกระดาษเเล้วตัดให้บาบี้ใส่(เป็นเรื่องเป็นราวค่ะ==)เเบบไปหาผ้าที่ไม่ใช้เเล้วมาตัดๆเเล้วใช้เข็มกับด้ายเย็บค่อยๆวัดกับตัวตุ๊กตาไปด้วย(เคยทำกันไหม?) เราคิดว่าอยากทำธุรกิจพวกนี้กับต่างประเทศจะได้สิ่งที่ชอบหลายต่อ ทั้งภาษา เเฟชั่น การบริหารควบคุมคน(เราชอบนะ เเบบบอสใหญ่อ่ะ)หรือวาดรูป เเต่อีกใจนึงด้วยความที่เป็นติ่งเกาหลีเลยติดซีรีย์ด้วยมั้ง บางเรื่องที่มี(มาตั้งเเต่ยุคโชซอน)เกี่ยวกับเรื่องหมอกับคนไข้เข้ามาเนี่ย มีผ่าตัดนู่นนี่เราก็ดูได้นะเเบบตื่นเต้นอ่ะ ผ่าท้องไรงี้ เพื่อนด่าเราว่าโรคจิตอ่ะที่เราออฟไลน์คลิปผ่าคลอดในยูทูปมาดู(มันเเปลกหรอคะ-0-?)  มีครั้งนึงที่ครูเค้าให้เปิดคลิปเกี่ยวกับการคลอดเด็กทั้งเเบบผ่าเเละเเบบธรรมชาติ เราเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ดูเเล้วเเสดงอาการในด้านบอกออกมา เเบบเพื่อนคนอื่นจะร้องอี๊โอ๊ยอ๊าวกันไป สีหน้าเหมือนจะอ้วกไม่อ้วก เเต่เรากับลุ้นเเบบออกมาเเล้วๆ ด่าหมอว่าดึงเเรงไปนะหัวเด็กไม่เป็นไรหรอมันยังอ่อนอยู่เลยเเบบนี้ เเล้วเราก็ไม่เเบบปิดตาปิดปากเหมือนคนอื่น เเต่กลับกันเราเปิดตากว้างมากเหมือนดูหนังเเอคชั่น ปากนี่ยิ้มไม่หุบเลย(คือไรวะ๏~๏) เรารู้สึกดีทุกครั้งเลยที่ช่วยเพื่อนทำเเผลที่ห้องพยาบาล(?)เวลาเพื่อนป่วยอะไรๆเราก็จะอธิบายได้หมดเลยว่าอย่าทำเเบบนี้ต้องทำเเบบนั้น ถ้าทำเเล้วมันจะเป็นอะไรอันตรายยังไงจนเพื่อนบอกว่า ' อีเอ*เป็นหมออีกเเล้วว่ะ' เพราะเราห่วงเพื่อนเเละดุเพื่อนบ่อยเรื่องสุขอนามัย เเล้วคิดว่าถ้าตัวเองเป็นหมอก็จะอยู่วอร์ดสูติฯดูเเละคุณเเม่ตั้งท้อง ฟิคที่เราเเต่งก็มีเรื่องเเบบนี้ที่พระนางป่วยออดๆเเอดๆเป็นโรคร้ายเเรงบ้างเราก็อยากให้เรื่องมันเรียลเเหละเนาะเลยไปหาข้อมูลในเน็ตอ่านเข้าๆออกๆหลายเว็บมากเพื่อข้อมูลเรื่องเดียวจะได้สรุปเเละไปเขียนได้ถูกจนเรารู้ข้อมูลนู่นนี่นั่นเยอะมากเกี่ยวกับโรคนู่นอาการนี่หรือเเม้เเต่การรักษาเเละเรารู้สึกตื่นเต้นมากเหมือนอ่านกาตูนเลย(?) ความชอบของเราก็เหมือนจะวนเวียนกันไปเป็นวัฏจักรเลยค่ะ




(*เอ = นามสมมุติ)




ชอบเขียนนิยาย >> ชอบเที่ยวเพื่อหาเเรงบันดาลใจมาเขียนเรื่องต่อ(ครอบครัวพาตะลอนด้วยค่ะไม่ใช่ไร- -) >> ชอบถ่ายรูปเวลาไปเที่ยวเอาไว้(เเละเพื่อนกับครูหลายคนที่เห็นก็บอกว่าถ่ายสวยด้วย:อย่าโม้ค่ะดอก=3=) >> พอเรามองรูปเเล้วก็เหมือนได้ไอเดียมาเป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้า จริงๆตอนไหนที่ความรู้สึกมันถึงขั้นสุดจริงๆ เเบบผ่อนคลายสุดๆหรือว่าโกรธสุดๆ หรือเเม้เเต่เศร้าสุดๆ เราก็มองของรอบตัวเป็นไอเดียได้หมดอ่ะ นั่งๆอยู่เห็นปากกาเราก็วาดตาม มองภาพนั้นไปมาสักพักเเล้วก็กลายเป็นว่าเอามาวาดเป็นลายกระเป๋าไปเลยค่ะ(งงกับตัวเอง -..- กระเป๋าลายดินสอ?) อาจจะไม่บ่อยที่หยืบสมุดหยิบปากกามาวาดเป็นชุดได้สวยพอก็เถอะ- - > อีกในนึงที่เรามองภาพมี่ถ่ายมาเเล้วนึกถึงสภาพเเวดล้อมหรือคนที่นั่นค่ะ บางทีตอนเราไปเที่ยวเราก็เจอคนเจ็บคนป่วยเราก็อยากจะเข้าไปช่วยดูเเลเค้า คือซื้อยาให้ก็ยังดี(เเต่ไม่เคยทำได่เลยค่ะ:ยิ้มสู้) คนท้องคนชราหรือว่าเด็กเห็นเรื่องราวของพวกเค้า ทั้งเรื่องที่ดีหรือไม่ดี ทั้งที่เจอกับตัวเเละคนอื่นที่เรารับฟังมาอย่างชีวิตของเพื่อนของคนรู้จักเราก็เอามาเขียนนิยายอีกครั้ง(?)




งงกับตัวเองค่ะเอาจริงไหม? จากที่อยากเข้าอักษรฯเเล้วมาคิดทบทวนตอนนี้เเล้วรู้สึกสับสนค่ะ =_= 




-เราเรียนภาษาอังกฤษค่อนข้างได้ดีนะ ทั้งเเกรมม่าเเล้วก็สำเนียง
-เเถมไปทะลุเก่งวิทย์มาจากไหนไม่รู้ (ตอนป.2จำได้ว่าโรงเรียนเคยคัดจากคะเเนนให้ไปเเข่งกับโรงเรียนอื่นในตัวเมืองจังหวัด เราได้ไงเเต่ไม่ได้ไป #เสียดายจังยู=3=) เราเคยเรียนพิเศษเเนววิทย์-คณิตฯมากับครูคนนึงเเล้วเค้าพูดกับเราบอกว่า ' ทำไมไม่ไปเรียนห้องวิทย์-คณิตฯล่ะ ไปเรียนสายศิลป์ทำไม?' เอ้า สาระไหมเนี่ย-_-*
-งานออกเเบบเราก็ถนัดนะถึงจะไม่ค่อยเก่งอะไร(ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประคับ เเม้เเต่ออกเเบบบ้านภายนอกเราก็เคยวาด มาเเล้วเเบบเด็กน้อยบ้านในฝันอ่ะ
-เราค่อนข้างถนัดพวกเต้นๆร้องๆด้วย อย่างว่าติ่งเเหละเนาะ(ตอนม.1เคยถูกส่งไปร้องเพลงสากลให้โรงเรียนด้วย เเต่เสียงเราเหมาะเเต่เเบบร้องเล่นไปวันๆมากกว่า ไม่ใช่ทางหรอกที่จะไปหัดร้องเเข่งเเบบนั้น เอาจริงๆไม่เพราะ555) เราเคยลองเขียนเนื้อเพลงเองด้วย เหมือนตอนนั้นอกหักอยู่กำลังเฮิร์ทเลยระบายมันกะกระดาษ- อ่านไปอ่านมาฟังเพลงไปด้วยโยกหัวไปได้เป็นเพลงเฉย เเต่ก็เเค่ชั่ววูบบนะ เหมือนบ้านไฟไหม้เเล้วเเบกโอ่งหนีอ่ะ555
-เราสนใจนอกเหนือจากที่บอกมาคือการทำขนม เราบอกส่วนผสมขนมให้เพื่อนฟังเเบบเพื่อนมันซื้อมาเเล้วก็พูดว่า 'นี่นะมันน่าจะมีเเป้งสาลี ไข่ ...' ให้เพื่อนฟังเเต่มันก็ไม่ฟังกันหรอกค่ะ=0= เราดูรายการทำขนมไงเเล้วมันจำได้ประกอบกับความชอบกินหรือตะกละ555 หลายครั้งนะที่เราอยากเปิดร้านขนมเป็นคาเฟ่กับเพื่อน ความคิดเด็กน้อยอีกเเล้วค่ะ555








ปล.(1)เราไม่ใช่ว่ารีบเลือกอนาคตนะ(เพิ่งจะจบม.2)เเต่เราก็อยากมองไว้เเต่เนิ่นๆก่อนเเหละ เราจะได้มีเป้าหมายชี้เข็มไว้ให้เเน่ๆ อนาคตเป็ยยังไงก็ค่อยมาเปลี่ยนเเปลงกันได้




ปล.(2)ด่าความเวิ่นเว้อได้เเต่อย่าเเรงนะคะ




ปล.(3)ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเเละเเนะนำเรานะ(จะมีไหม?)

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

สุกิต 7 มี.ค. 59 เวลา 09:41 น. 1

ทำไมหนูเก่งหลายอย่างจัง แสดงว่า

เป็นคนมี ไหวพริบ ดีนะ


แต่น้าว่า ถ้าหนูเป็นหมอ เรื่องอื่น ๆ ต้องพับเก็บไปเลยนะ

เพราะหนู จะไม่มีเวลาแน่นอน


แต่ถ้าหนู จะทำธุรกิจ ติดต่อต่างประเทศ

น่าจะเข้ากับหนูมากกว่า เพราะมีหัวทางศิลปะ

แล้วก็ การใช้ภาษา รวมถึง การบริหาร ก็น่าจะทำได้


ส่วนทำธุรกิจด้านไหน น้าว่า

เสื้อผ้าแฟชั่น คงเหมาะนะ ยิ่งเป็นติ่งเกาหลีด้วย

ลูกสาวเจ้านายน้า เค้าก็ประกอบอาชีพนี้ล่ะ

น้าว่า ก็ไปได้นะ ก็ดูเค้าตั้งใจทำงานดีด้วย


คือ น้าว่าทำงานที่ตัวเองชอบ แล้วก็มีเวลา

หาความสุขได้ด้วย นั่นน่าจะดีที่สุด


เป็นหมอ ต้องทุ่มเทเวลาเยอะมาก มันจะหาความสุข

จากอย่างอื่นได้ยากนะ

0