Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แนะนำ 7 หนังเงิบ โคตรหักมุม !!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
Hello เพื่อน ๆ ชาวเด็กดี อันนี้เป็นกระทู้ที่ 3 ของเราแล้ว ขอบคุณสำหรับการอ่านและติดตาม 2 กระทู้ที่ผ่านมาค่า
(กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์) 

สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นคอหนังเหมือนเราแล้วละก็ เวลาที่ดูหนังเคยคิดหรือเดาตอนจบของหนังแต่ละเรื่องที่ดูกันไหม ? เราว่าเป็นเกือบทุกคนแหละ และส่วนมากบางเรื่องมักจะมีสูตรสำเร็จของมัน แต่! ก็จะมีบางเรื่องที่ ตอนจบเป็นแบบทำเราเงิบและแบบ
เอ่า !! เฮ้ย !! ทำไมเป็นแบบนี้อ่ะ !?! 

นี่แหละวันนี้ เราจะมานำเสนอ 7 หนังเงิบ โคตรหักมุม!! ลองให้เพื่อน ๆ ได้เดาตอนจบของหนังแต่ละเรื่องกันเล่น ๆ 
ปล. เราขออย่างเดียว อย่าสปอยล์ตอนจบเด็ดขาด เสียอรรถรสกันพอดีนะจ๊ะ :P 

เราขอเริ่มจากเรื่องที่ 7 กันเลยแล้วกันนะคะ


7. The Boy (2016) 
ระดับความเงิบ = 2.5 ดาว 

(Trailer: https://www.youtube.com/watch?v=SC6pJ21Mn8E )
 ว่ากันด้วยเรื่องของตุ๊กตาผีสิง (รึเปล่า) กันก่อนเลยดีกว่า The Boy เป็นภาพยนตร์สยองขวัญ- ไซโค (Psychological horror) สัญชาติ อังกฤษ – จีน และ แคนาดา เป็นเรื่องของ ครอบครัวเก่าแก่ครอบครัวหนึ่ง ประกาศรับสมัครพี่เลี้ยงเด็กจนวันหนึ่ง นางเอกของเรา เกรต้า ได้ถูกรับเลือกให้เป็นพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งครอบครัวนี้ตั้งรกรากปักฐานของบ้านอยู่ในดงป่าใหญ่ที่ห่างไกลชุมชน ตอนแรกเกรต้าก็เข้าใจว่าจะให้มาดูแลเด็กน้อย เบบี๊ น่ารัก แต่แล้วไม่เป็นไปอย่างที่คิด ครอบครัวนี้กลับให้เธอมาดูแลตุ๊กตาดินเผา (แค่ตั้งไว้เฉย ๆ ก็น่ากลัวแล้ว ดูได้จากรูปด้านล่าง) ที่มีชื่อว่า บาล์ม (ชื่อออกแนวน่ารักกุ๊งกิ๊งเชียว) ซึ่งในการเลี้ยงดูตุ๊กตาหนูน้อยบาล์มนั้นจะ มีฎอยู่ 10 ข้อในการเลี้ยงดู และที่สำคัญห้ามละทิ้งข้อใดข้อหนึ่งเป็นเด็ดขาด วันเวลาผ่านไป เกรต้าก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงต้องมานั่งดูแลตุ๊กตาที่มีน่าตาน่ารักซะเหลือเกินตัวนี้ด้วย (ประชด!) แต่แล้ววันหนึ่ง เกรต้าก็เจอเหตุการณ์แปลกๆ ชวนหน้าขนลุก ขึ้นเรื่อยๆ และตั้งแต่นั้นมา เกรต้าก็เริ่มเลี้ยงดูตุ๊กตาหนูบาล์มอย่างตั้งอกตั้งใจ 


(Source: http://gruesome.decadesofhorror.com/wp-content/uploads/sites/6/2016/01/Gruesome-Banner-TheBoy-Review-820x410.jpg )  


เราเล่ามาจนถึงตอนนี้ เพื่อน ๆ อาจจะคิดว่า เอ้! ก็ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกไปจาก พล็อตเรื่องของตุ๊กตาผีทั่วไปใช่ไหม แต่ ! เดี๋ยวค่ะคุณขา !! มันมีอะไรมากกว่านั้น ในช่วงเวลาที่เกรต้าอยู่บ้านหลังนี้ เกรต้าแอบมีความรักครั้งใหม่กับพ่อหนุ่มคนส่งของ (หุ่นแซ่บเฟ่อร์) และเพราะความรักในครั้งนี้แหละ ความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผยค่า เอาตรง ๆ กับความรู้สึกเลยนะ ตอนไปดูหนังเรื่องนี้ ถ้าพูดถึงเนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรน่ากลัวเลย แต่ Sound Effect ต่าง ๆ ชาวน่าลุ้นไปหมด และที่สำคัญตอนจบพาเงิบทุกราย 



6. แฝด (2009)
ระดับความเงิบ = 3 ดาว

เราขอส่งหนังผีสัญชาติไทย เรื่องนี้เข้าประกวดด้วยอีกเรื่อง เนื่องจาก ตอนจบเงิบพอกัน "แฝด" หนังผีสร้างชื่อ ของค่าย GTH (ตอนนี้เปลี่ยนเป็น GDH 559เรียบร้อยแล้ว) ที่นำแสดงโดยนักแสดงหญิงมากความสามารถอย่าง มาช่า เป็นเรื่องราวของ พิม ผู้หญิงที่ดูเหมือนเพียบพร้อมในทุก ๆ อย่าง ทั้งหน้าที่การงาน ชีวิต ครอบครัว เธอแต่งงานและย้ายไปอยู่เกาหลีกับสามีของเธอ ที่ชื่อว่า วี แต่แล้ววันหนึ่ง พิมได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลว่าแม่ป่วยหนักมาก พิมและวีจึงตัดสินใจกลับมาอยู่ไทยเพื่อดูอาการแม่ แต่แล้ววันเวลาก็เหมือนหวนคืน ทุกท่วงความทรงจำที่พิมเคยสัมผัส ล้วนวนกลับเข้ามาอีกครั้ง พิมได้กลับไปพักอยู่ที่บ้านเดิมที่พิมเกิด และในช่วงที่พิมอยู่ที่บ้านนั้น พิมเกิดภาพหลอนเห็นฝาแฝดของตัวเอง พลอย ที่ตายไปแล้ว นานวันเริ่มหนักขึ้นทุกที วี ซึ่งเป็นห่วงอาการนี้ของพิม จึงตัดสินใจปรึกษาเพื่อนชื่อ ดนัย เป็นหมอจิตแพทย์ ดนัยเริ่มสอบถามเรื่องราวในอดีตของพิมและพลอย เธอจึงเล่าว่า เธอกับพลอยตอนเด็ก ๆ เป็นฝาแฝดที่ตัวติดกัน และวันหนึ่งทั้งสองทะเลาะกัน จึงเป็นเหตุที่ทำให้ต้องผ่าตัดแยกกัน และทำให้พลอยตาย ดนัยจึงเข้าใจว่า พิมเครียดจากความรู้สึกผิดในอดีตจึงเกิดภาพหลอน 



(Source: http://sv6.postjung.com/picpost/data/160/160075-24-1340.jpg )


เล่าจากตรงนี้ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไร แต่ ! (เล่าต่อ) อาการภาพหลอนของพิมก็ยังหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้พิมป่วยและเข้าโรงพยาบาล แต่ในขณะที่เข้าโรงพยาบาลนั้น พิมไม่รู้เลยว่า วีพยายามตามหาความจริงในเรื่องนี้ และวีก็ได้รู้ความจริงที่ไม่คาดคิดจากปากของแม่พิมซึ่งเป็นเหมือนลมหายใจสุดท้าย อย่าว่าแต่วีรู้ความจริงเลย พอเรารู้ความจริงเราก็อึ้งไปเล็กน้อยเหมือนกันนะ เหมือนมันพลิกล็อคไปหมด เอาเป็นว่า หนังผีเรื่องนี้ น่าดูและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่องเลยจริง ๆ

ปล. หนังผีเรื่องนี้ดีจริง ดีจนต่างชาติขอซื้อลิขสิทธิ์ ไปทำต่อด้วยน่ะเอ่อออ

 


ต่อ Comment ด้านล่างกันเลย

แสดงความคิดเห็น

>

50 ความคิดเห็น

Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 12:27 น. 1
5. Orphan (2009) 
ระดับความเงิบ = 3 ดาว 

(Trailer: https://www.youtube.com/watch?v=WgxVIB2WuHU )


ขอบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องโปรดปรานของเราอีก 1 เรื่องในบรรดาหนังเงิบแนวจิตวิทยา - สยองขวัญ Orphan ว่าด้วยเรื่องของ ครอบครัวโคลแมน เป็นครอบครัวที่อบอุ่น (แต่แอบมีเบื้องหลังเล็กน้อย) เคท คุณแม่ลูก 2 ที่ดูเหมือนว่าชีวิตเธอยังขาดอะไรไป เธอจึงต้องการสิ่งที่มาเติมเต็มในชีวิตของเธอ นั้นก็คือลูกสาวอีกคน เคทและสามีของเธอ จอห์น จึงตัดสินใจรับเด็กบุญธรรมคนหนึ่งมาเลี้ยง เด็กคนนี้เป็นเด็กหญิงหน้าตาน่ารักจุ๋มจิ๋ม เธอชอบแต่งตัวคล้ายเจ้าหญิง ใส่ชุดกระโปรงยาว มีผ้าลูกไม้ เธอรักการวาดรูป และเป็นเด็กฉลาดเรียนรู้ได้ไว (อาจจะไวมากกว่าเด็กคนอื่นๆ) เธอมีชื่อว่า เอสเธอร์ หลังจากที่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ไม่นาน ช่วงแรก ๆ ก็ดูเหมือนจะเข้ากับคนในบ้านได้ดีโดยเฉพาะกับ แม็คซ์ น้องสาวคนสุดท้อง ที่มีปัญหาทางด้านการฟังจากอุบัติเหตุตอนเด็กอีกทั้งทำให้พูดไม่ได้เพราะอาการช็อค แต่แล้วเวลาผ่านไป เริ่มมีเรื่องราวแปลก ๆ เกิดขึ้นในบ้านของครอบครัวโคลแมน ไม่ว่าจะเป็นการเกิดอุบัติเหตุของเด็กข้างบ้าน การตายของแม่ชีผู้เป็นคุณครูในโรงเรียนเด็กกำพร้า ลูก ๆ ทั้ง 2 คนเกือบโดนอุบัติเหตุที่ไม่ทราบสาเหตุอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทุก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอสเธอร์มักอยู่ในเหตุการณ์นั้นเสมอ 


(Source: http://43vapp2ojjm1f6pyd32k2szp.wpengine.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2015/10/04_orphan__blu-ray.jpg ) 


(ใครที่ดูแล้วห้ามสปอยล์เชียวนะ) เราเล่ามาจนถึงตอนนี้ เพื่อนๆ หลายๆ คนคงคิดว่า เฮ้ย! เอสเธอร์ นางอาจจะเป็นเด็กโรคจิต เก็บกดจากปมในอดีตรึเปล่า (ซึ่งดูจากหน้าตาน่ารักของเธอแล้วไม่น่าจะมีอะไร) แต่มันไม่ใช่เลยค่า เพราะตอนแรกเราก็คิดแบบนี้ แต่หลังจากที่ เคท เริ่มสงสัยในเหตุการณ์อุบัติเหตุต่าง ๆ และพฤติกรรมที่เกินเด็กของเอสเธอร์ ทำให้เธอเริ่มขุดคุ้ยหาที่มาที่ไปของเอสเธอร์ไป ๆ ว่า เธอก็ได้รู้ว่า เอสเธอร์ไม่ได้ย้ายมาจาก โรงเรียนเลี้ยงเด็กกำพร้าทั่วไป แต่เธอย้ายมา(หรือหลบหนี) จาก โรงพยาบาลจิตเวชที่ใหญ่ที่สุดที่ขึ้นชื่อเรื่องผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นรุนแรง และยังไม่พอ …… เธอยังงงงงง (ไปดูต่อกันเอาค่า ) สปอยล์แล้วจะหมด Mood ในการดูกันพอดี เอาเป็นว่า อย่าหลงเชื่อในน่าตาน่ารักของสาวน้อย เอสเธอร์คนนี้เป็นพอ  




4. Drag Me to Hell (2009) 
ระดับความเงิบ = 3.5 ดาว

(Trailer: https://www.youtube.com/watch?v=BUZTybLlWKI)
Drag Me to Hell กระชากลงหลุม เราละชอบชื่อไทยของหนังเรื่องนี้จริงๆ หนังเรื่องนี้ดูผิวเผยจาก Trailer ก็คิดว่าเป็นหนังผีทั่วไปนั้นแหละ ก็ใช่! มันก็คือหนังผีทั่วไป แต่เราดูและเราไม่กลัวกลับขำแทน ฮ่า ๆ ว่าด้วยเรื่องของ คริสติน พนักงานธนาคารสาว ต้องการจะเลื่อนขั้นขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ แต่ก็อย่างว่า การแข่งขันค่อนข้างสูง เธอจึงขยันทำผลงานให้โดดเด่น แต่แล้ววันหนึ่ง มีหญิงชราคนหนึ่ง เข้ามาขอพบเธอเพื่อให้เธอช่วยอนุมัติการผ่อนผันค่าผ่อนส่งบ้านให้ ในขณะนั้นเองเธอลังเลระหว่างความเป็นมนุษย์ด้วยกัน กับ ตำแหน่งหน้าที่การงานของเธอ และแล้วเธอจึงเลือกความเจริญในหน้าที่การงานแทน เธอปฏิเสธการผ่อนผันค่าผ่อนส่งบ้าน จึงทำให้หญิงชราคนนั้นโกรธแค้นเธอมาก และในคืนนั้นเอง หญิงชราได้แอบทำร้ายเธอแต่ที่แปลกคือในขณะที่คริสติน และ หญิงชรากำลังต่อสู้กันอยู่ หญิงชราได้ดึงกระดุมเสื้อของเธอออกมาพร้อมกับท่องมนต์อะไรสักอย่าง และ พูดคำส่งท้ายได้อย่างน่ากลัวทีเดียว ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของคริสตินก็เริ่มเปลี่ยนไป มีแต่เรื่องวุ่นวายและไม่ดีเข้ามาในชีวิต 


(Source: http://www.nerdist.com/wp-content/uploads/2014/03/Drag-Me-to-Hell-horror-movies-8500366-1280-884.jpg ) 


แต่แล้วเหมือนฟ้าดลใจให้เธอเจอกับหมอผีที่มีชื่อเสียง เธอแนะนำให้คริสติน ส่งคืนของต้องสาปนั้นให้กับไปอยู่ที่ตัวผู้สาป ภายใน 3 วันไม่อย่างนั้น เธอจะต้องตาย เมื่อคริสตินรู้อย่างนั้นจึงทำทุกวิถีทางที่จะคืนกระดุมที่หญิงชราคนนั้นได้สาปเอาไว้ และแล้วก็คืนสำเร็จ เพื่อน ๆ คง งง ว่า แล้วมันเงิบยังไง ก็เรื่องราวต่อจากนี้ไม่ถึง 15 นาทีนี้แหละที่มันเงิบ เงิบยังไงหน่ะเหรอ?? บอกไม่ได้หรอกต้องลองดูเอาเอง เราพูดได้เลยว่า หนังผีเรื่องนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แอบตลก(ร้าย) ด้วยซ้ำไป 


ต่อ Comment ด้านล่างได้เลยค่ะ 

0
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 13:17 น. 2
3. The Mist (2007) 
ระดับความเงิบ = 4 ดาว
(Trailer: https://www.youtube.com/watch?v=LhCKXJNGzN8 )


The Mist ภาพยนตร์ Sci-Fi horror ที่สร้างมาจากนิยายที่ใช้ชื่อเดียวกันโดยนักเขียนชื่อดังแนว Sci – Fi horror สตีเฟน คิง (นักเขียนคนโปรดของเราเลย) The Mist เป็นเรื่องราวของบ้านเมืองเราในปัจจุบันที่ต้องการหาความจริง พิสูจน์ความจริงตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ที่ว่าโลกเรามีเรื่องโลกอื่นๆ ที่เราไม่รู้จัก มิติอื่น ๆ ว่ามันจะมีจริงหรือไม่ จึงทำให้เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งเต็มไปด้วยหมอกปริศนา และ ภายใต้หมอกนั้นเต็มไปด้วย สัตว์ประหลาดที่เราไม่รู้จัก และ มันพร้อมจะฉีกเราเป็นชิ้น ๆ  



(Source: http://media.theiapolis.com/d4/hU0/i1VQF/k4/l1WBL/w1HC/thomas-jane-david-drayton-and-laurie-holden.jpg ) 


ต้องขอบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ เป็น 1 ในหนังโดนใจตลอดกาลของเรา เพราะมันไม่ใช่แค่หนังที่ให้ความระทึกขวัญตื่นเต้นเพียงอย่างเดียว แต่มันยังบอกถึงจิตใจของมนุษย์ในด้านความเห็นแก่ตัว การดำเนินชีวิตเพื่อความอยู่รอด และ สิ่งที่มนุษย์ในปัจจุบันเป็นเมื่อเวลาเจอเรื่องคับขัน ได้เป็นอย่างดี และความเงิบมันอยู่ตรงฉากสุดท้าย ที่พระเอกของเราและพักพวกอีก 3 คน กำลังจะหลบหนีจากซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนที่กบดาน ของคนในเมือง เพื่อออกตามหาคนมาช่วย แต่ในขณะที่พระเอกของเรากำลังขับรถไปเรื่อย ๆ นั้น จู่ ๆ รถเกิดดับ ความหวังสุดท้ายของพระเอกก็เหมือนดับสูญไปด้วย และหลังจากนั้นก็เงิบเลย 


คำเตือน : คนที่ชอบดูหนังแนวจบ Happy ending สวยงามตามท้องเรื่อง เราแนะนำอย่าดูหนังเรื่องนี้ เพราะนอกจากคุณจะเงิบแล้วคุณอาจจะไม่เข้าใจกับการกระทำของพระเอกเราไปอีกนาน



ต่อมาเรามาที่ รองชนะเลิศ อันดับ 1 กันบ้าง
2. The Six sense (1999) 
ระดับความเงิบ = 4.5 ดาว 
(Trailer: https://www.youtube.com/watch?v=Jnpe0OuGAOY )



เราบอกได้เลยว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังผีฉบับคลาสสิกที่ยอดเยี่ยมเลยก็ว่าได้ ไม่ได้ใช้เทคนิค 3D 4D หรือ Sound Effect ที่น่ากลัวแต่อย่างใด แต่เน้นความระทึกขวัญฉบับเนิบ ๆ ชวนให้เราคอยลุ้นและติดตามไปเองมากกว่า 

The Six Sense ว่าด้วยเรื่อง มัลคอม จิตแพทย์เด็กชื่อดัง ที่มีความคิดว่า เขาจะทำการรักษาเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งที่ชื่อว่า โคล โคลเป็นเด็กที่ไม่สุงสิงกับใคร ชอบเก็บตัว บางครั้งก็มีอาการหวาดกลัว และหลบซ่อนตัวในที่ใดที่หนึ่งที่เขารู้สึกว่าปลอดภัย (ส่วนมากจะเป็นโบสถ์)  มัลคอมพยายามศึกษาเขา ตั้งแต่พยายามดูอยู่ห่าง ๆ และ ใกล้ชิดโคลไปเรื่อย ๆ จนวันหนึ่ง โคลได้บอกความลับอย่างหนึ่งให้กับมัลคอม ว่า เขาสามารถมองเห็นคนตาย (ผี) ได้ เขามองเห็นในทุก ๆ ที่ และพูดคุยกับมันได้ 


(Source: http://wheresthejump.com/wp-content/uploads/2015/06/the-sixth-sense-1.jpg) 


เราว่าใครหลาย ๆ คนคงดูหนังเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว และเชื่อว่าก็คงสตั๊นไม่แพ้กับเราเท่าไร บอกก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้ดีงามพระราม 8 ตรงที่ว่าเป็นหนังหักมุมที่เล่นด้วยการให้การเล่าเรื่องแบบ Flashback (คือการเล่าเรื่องจากอดีตมาปัจจุบัน) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ความเงิบมันอยู่ตรงที่พอ คุณหมอมัลคอมรู้ความจริง และเริ่มช่วยเหลือหนูโคลนั้น เลยทำให้คุณหมอรู้ความจริงบางอย่างที่สำคัญด้วยเช่นกัน 

ต่อที่ Comment ด้านล่างเลยค่า 
0
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 13:25 น. 3
และเราก็มาถึง อันดับ 1 ของเรากันบ้าง (มีใครคิดเรื่องอะไรในใจกันไหม ? )
1. Gone Girl ( 2014) 
ระดับความเงิบ = 5 ดาว 

(Trailer: https://www.youtube.com/watch?v=2-_-1nJf8Vg )


Gone Girl เป็นหนังที่เราถือว่า โคตรเงิบ เพราะ เราเดาทางของหนังเรื่องนี้ไม่ถูกเลยสักนิด พอเดา ๆ ต้องใช้แน่ ๆ ก็เอ่า ไม่วะ! ไม่ใช่! พอเดาอีก ก็ไม่ใช่อีก สุดยอดจริง ๆ โดยเฉพาะตอนจบนี้ เจ็บแสบสุด ๆ และทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนัง จิตวิทยาที่เราเลิฟมาก ๆ อีกหนึ่งเรื่อง 


Gone Girl ภาพยนตร์แนว Mystery Psychological Thriller (สืบสวนจิตวิทยาระทึกขวัญ)  ที่สร้างจากนักเขียนชื่อดังนามว่า Gillian Flynn (ผลงาน Gone Girl / Dark Place)  เรื่องราวของ 2 สามี ภรรยา ที่ชื่อว่านิค และ เอมี่ นิคได้แต่งงานกับเอมี่ คนดังจากหนังสือนิยาย เรื่อง “Amazing Amy” โดยพ่อแม่เธอเขียนอ้างอิงจากไดอารี่ของเอมี่ในวัยเยาว์ เลยทำให้ใครหลาย ๆ คนเข้าใจว่าเธอเป็นเหมือนผู้หญิงเพอร์เฟ็คและเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง แต่แล้วในวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันครบรอบแต่งงาน นิคซึ่งออกไปข้างนอกบ้านและกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกลับเห็นสภาพห้องนั่งเล่นที่รกเละเทะ ห้องครัวที่เหมือนมีคราบเลือดกระเด็น พร้อมกับภรรยาของเธอที่หายตัวไป ทิ้งไว้เพียงปริศนาที่เหมือนเกมส์หาสมบัติเพื่อให้ นิค ค้นหาตัวเธอ ที่กำลังเล่นซ่อนหาอยู่เท่านั้น 

(Source: http://cdn3.whatculture.com/wp-content/uploads/2014/10/Gone-Girl-Rosamund-Pike-Amy.jpg



หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวจิตวิทยาที่เราปลาบปลื้มสุด ๆ ขนาดที่ว่า พอดูหนังจบและอยากรู้ฟีลของนิยายเลยไปซื้อนิยายมาอ่านเลยค่า คือจะอธิบายยังไงดีอ่ะ หนังส่วนใหญ่มักเงิบตอนจบ แต่หนังเรื่องนี้ เงิบทุก Scene ที่มีอยู่ ในแต่ละฉากที่ดำเนินเรื่องไป มันถ่ายทอดความรู้สึกของพระเอกออกมาได้อย่างดี ทำให้เราเหมือนเป็นพระเอกที่ออกตามหาภรรยา มีเพียงเบาะแสคำใบ้ปริศนาเท่านั้น และ ตอนสุดท้ายที่ พีคมากกกก เอาแบบนั่งอ้าปากค้าง และได้แต่อุทานว่า “เฮ้ย ! เอาแบบนี้เลยหรอ” หรือไม่ก็ “โหวววว สุดยอดอ่ะ !” เลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้นหนังเรื่องนี้ยังแอบบอกเหตุผลในทุก ๆ การประทำของเอมี่ ว่าเพราะอะไรเธอทุกทำแบบนี้ไว้ในเรื่องอีกด้วย  


เอาหมดแล้ว เป็นยังไงกันบ้าง มีใครคิดเรื่องเดียวกับเราบ้างไหม ?
หากใครมีเรื่องอะไรแนะนำ หรือ นำเสนอก็มา Share กันได้เลย
 

หรืออยากจะพูดคุยเรื่องหนังก็ Comment ด้านล่างได้เลยค่ะ Inbox กันมาก็ได้นะจ๊ะ



สุดท้ายนี้ขอบคุณอ่านกันนะคะ



เจอกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ บ๊ายบายย :) 


0
miwb2uty 9 มี.ค. 59 เวลา 19:57 น. 4-2

ช่ายๆ คือเรื่องนี้คือแบบ เอิ่มมมม ชอบๆๆ ฮ่าๆๆๆ

0
Lady-Victoria 17 เม.ย. 59 เวลา 03:38 น. 4-4

4-3 orphan ไม่น่ากลัวเลย ไม่มีผี ไม่มีปีศาจ แต่มี.....

0
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 20:17 น. 5-1

นั่นสิ่ ๆ เราเลยให้เรื่องนี้แค่ 3 ดาวเท่านั้นเอง ^^

0
Natchakan Tawee 7 มี.ค. 59 เวลา 20:15 น. 6
Gone Girl ก็เงิบใช้ได้ แต่นะผมว่า memeto ของ Christopher Nolan น่าจะเงิบกว่านี่อีก ตอนจบตบหน้าได้แบบสุดๆอารมณ์ช็อคประมาณ the mist เลย แต่เราว่าสะเทือนใจและนานกว่ามาก

อีกเรื่องโคตรหักมุมต้อง

The Usual Suspects (1995)

หนังหักมุมระดับตำนาน ที่ตัวบทถูกเขียนไว้ได้ฉลาดและน่าทึ่งมาก ว่าด้วยเรื่องของ อาชญากร 4 คน ที่บังเอิญมาพบเจอกันและทำงานร่วมกัน จนพวกเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลลึกลับนาม Keyser Soze

แนะนำว่าอย่าดูพากย์ไทย ยุคนั้นเทคโนโลยียังไม่เจริญมาก อาจจะเสียความอิน
1
Ciuffi_. 7 มี.ค. 59 เวลา 20:16 น. 7

คือ ยังไม่ดูทุกเรื่อง ยกเว้น เด็กนรก(Orphan นั่นแหละ) แบบว่า ตอนที่เฉลยนี่แบบ เฮ้ยยย เฮ้ยย เฮ้ยยยย!!! จริงหรอวะ เฮ้ยย แบบบ ฮะะ ไรวะ แบบ...พีคว่ะ อืม พีคค แล้วเพื่อนมาเล่าเรื่อง The Boy ต่อ พีค...แต่พีคน้อยกว่า Orphan หรือเพราะว่าเรายังไม่ดูก็เป็นได้... ค่ะ #คหสต #ใครดูเรื่องไหนว่าพีคสุดมาเล่ากัน 

1
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 20:21 น. 7-1

แนะนำให้ตามตาม Level ของความเงิบไล่ไปเรื่อย ๆ ค่า ><

0
ชื่นชม จขกท 7 มี.ค. 59 เวลา 20:19 น. 8

จขกท เขียนเก่งนะ แถมสปอยเบาๆได้น่ารักด้วย 55555
ตืดตรงคำผิดที่ผิดแบบไม่น่าให้อภัยนี่แหละ ช่วยแก้ไขแล้วจะน่ารักมากๆเลย

1
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 20:20 น. 8-1
รักเลย อู๊ยย ขอบคุณมาก ๆ เลยค่า จะรีบหาคำผิดและแก้ไข เดี๋ยวนี้เลยค่าา
0
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 20:58 น. 9-1

แก้ไขพล็อตเรื่อง และ เพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วค่า ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ เยี่ยม

0
คะไม้เอก 7 มี.ค. 59 เวลา 20:20 น. 10

เคยดูแฝดกับorphan แฝดค่อยข้างที่จะลืมเนื้อเรื่องไปแล้ว แต่ orphan แบบจำได้แม่นเลยค่า คือก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ แบบสุดๆอะ อิเด็กนี่มัน... ชอบมากจนต้องแนะนำให้เพื่อนดู!!
ส่วนเรื่องอื่นๆจะหาเวลาดูนะคะ ขอบคุณที่มาแนะนำค่า

1
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 20:59 น. 11-1

แนะนำให้ลองดูเรื่อง Gone girl เลยค่า ไม่น่ากลัวเลย ^^

0
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 20:59 น. 12-1

ของเราตอนที่อ่านหนังสือยังไม่อินเท่าดูหนัง บอกเลยว่า ดูจบแล้ว ?? เต็มหัวไปหมด ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ เศร้าจัง

0
THANA 8 มี.ค. 59 เวลา 10:07 น. 12-2

ตอนจบเป็นงี้ครับ คือมีคนด่ากันเยอะมากเรื่องพระเอกทำไมต้องยอมแพ้ ยิงคนอื่นๆ ตาย ... คือเอาง่ายๆ สภาพตอนนั้นมันสิ้นหวังแล้ว ยิ่งหนีออกมา ปรากฏว่าเจอสัตว์ประหลาดวิจิตรพิศดารเกินจินตนาการกว่าที่อยู่ในร้านมาก แถมน้ำมันก็หมด ขับมาไกล ไม่มีน้ำ อาหาร .. อาวุธก็ไม่มีทางพอที่จะต่อกรกับสัตว์พวกนั้นได้เลย สภาพบรรยากาศมันสะท้อนให้เห็นว่าโลกมัน "จบสิ้นแล้ว" --- ทางเดียวที่เหลือคือ ยังไงก็ไม่รอด และประเด็นก็คือ ในเมื่อไม่รอดอยู่แล้วจะเลือกตายแบบไหน ??

ตายแบบถูกสัตว์ฉีกเป็นชิ้นๆ
ตายแบบโดนกินทั้งเป็น
หรือตายแบบมีแมงมุมมาไข่ในตัวแล้วออกลูกในท้องกินเครื่องในจนหมด
หรือว่าจะตายแบบ--- ยิงโป้งเดียว ทุกอย่างจบ โดยไม่รู้สึกคือเข้าใจอ่ะ ถ้าเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์นั้น แถมคนสำคัญเช่น เมีย ก็ตายไปแล้ว
คนทุกคนไม่มีใครอยากตาย แต่ที่กลัวมากกว่าคือ ไม่มีใครอยากตายอย่างทรมาน ...

แล้วก็มีคนให้ข้อคิดว่า หนังเรื่องนี้สอนให้ "รู้จักรอ" --- จริงๆ ผมอยากบอกว่า ในสถานการณ์แบบนี้ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ จริงถ้าสังเกตุในหนังดีดีเหมือนเขาจงใจให้เราเห็นว่าในโลกเหมือนโดนปกคลุมไปด้วยหมอกหมดเเล้วอ่ะครับ

0
namsuphan 7 มี.ค. 59 เวลา 20:31 น. 13
เราเป็นคนหนึ่งที่กลัวหนังแนวๆนี้มากๆอะ   แต่ชอบดู  กลัวแต่ดูจนจบและเงิบ 555+
 The Mist  เราชอบเรื่องนี้น่ะ  มันสนุกดี
 แต่เราว่ามันไม่เงิบเท่าเรื่อง 
  Drag Me to Hell  น่ะ  เรื่องนี้เราลุ้น และกลัว พอตอนสุดท้ายเท่านั้นแหละ หึหึหึ   อเมซิ่ง 
1
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 22:34 น. 13-1

Drag me to hell นี่ดูแล้วขำ ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือขำนางเอกดี ตลกจัง

0
คนชอบดูหนังหักมุม 7 มี.ค. 59 เวลา 20:40 น. 15

กำลังจะบอกว่าเรื่องThe Usual Suspects เรื่องนี้นร่เรายอมใจจริงๆ หักมุมได้แบบเงิบมากตอนจบนี่คือแบบถึงกับสบถออกมา55555555555555 เราแนะนำอีกๆเรื่อง


shutter island

เป็นแบบตำรวจสองคนไปสืบสวนในโรงพยาบาลบ้าที่อยู่บนเกาะอะ สนุกดีตอนจบหักมุมแบบ โอ้วว(แต่เราว่าหักมุมมันยังไม่หักหน้าเท่าThe Usual Suspects)

2
Calara. 17 เม.ย. 59 เวลา 21:27 น. 15-2

Shuttet Islandคือหักมุมมากจริง ตอนเฉลยแล้วเรานั่งคิดอยู่เลยว่าพระเอกโดนหลอกรึเปล่า พอตอนจบถึงได้อ๋อ555555

0
puplb 7 มี.ค. 59 เวลา 20:50 น. 17

ดูหมดแล้วทุกเรื่อง ชอบทุกเรื่องด้วย ส่วนตัวเงิบThe mistที่สุด
พอถึงตอนสุดท้ายปุ้บความรู้สึกคือ "....wtfหนังเ-ี้ยไรเนี้ยยยยยยยยยยยยยยย!!!"
#ไม่ได้ตั้งใจจะหยาบแต่มันfeelนี้จริงๆ5555

3
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 22:35 น. 17-1

เราเข้าใจนะ เพราะเราก็ได้แต่สงบนิ่งและไม่เข้าใจพระเอกเลยจริง ๆ เศร้าจัง

0
puplb 8 มี.ค. 59 เวลา 16:48 น. 17-2

คงไม่อยากให้คนอื่นทรมานมั้ง5555 โถ ชีวิต มันเงิบแบบขำๆนะ555555

0
อินนนนน 17 เม.ย. 59 เวลา 13:32 น. 17-3

ไม่ได้ผิดที่พระเอกเลยยย เพราะพระเอกยอมตาแบบทรมาน(ให้สัตว์ประหลาดกิน)แต่.....................................!!!!!!!!เห้ยยยทหารรรรรร มาช้าไปแปปเดีวเองงงงงWTF!!!!!

0
Charlienna 7 มี.ค. 59 เวลา 20:55 น. 18

ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ด้วยนะ
the boy in the striped pyjamas
ทั้งหักมุมทั้งหดหู่ #คหสต นะคะใครดูแล้วบ้าง

3
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 21:01 น. 18-1

เรื่องนี้ตอนแรกเราคิดว่าเหมือนจะหักมุม นิด ๆ แต่เหมือนเราพอเดาทางออกแบบเบา ๆ เลยไม่ได้เอาลงมาด้วยค่า แต่ขอบคุณที่แนะนำมานะคะ รักเลย

0
IndyGirl151 8 มี.ค. 59 เวลา 11:22 น. 18-2

เรื่องนี้เป็นหนังในดวงใจเราเลย คือมันดีมาก ชอบตัวละครเด็กสองคนมาก เด็กยิวนี่เเค่เห็นหน้าก็จะร้องไห้ละ ส่วนเด็กอีกคนเล่นถึงบทมาก ชอบบ
ตอนเเรกเห็นโปสเตอร์หนัง นึกว่าเรื่องจะน่ารักใสๆ พอดูจริงๆ โอ้ววววว ข้านี่หดหู่ไปนานเลยT T

ถ้าถามว่าหักมุมมั้ย ไม่ค่อยนะสำหรับเรา คือรู้อยู่เเล้วล่ะว่าหนังเเนวนี้ต้องมีคนตาย เเต่มันพีคตรงที่คนตายมันเป็นสองคนไม่ใช่คนเดียว ฮรือออ

ถ้าชอบหนังเเนวนี้ เเนะนำ Life is beautiful ค่ะ ดีมากเหมือนกัน

0
Charlienna 8 มี.ค. 59 เวลา 16:28 น. 18-3

ใช่ค่ะ คือหักมุมมั้ย(ก็ใช่) แต่ก็ไม่เท่าไหร่ เพราะแค่เห็นว่าถูกพาให้ไปยังห้องหนึ่งนี่เรารู้เลย รมแก๊สแน่ เพราะเคยอ่านเกี่ยวกับค่ายกักกันมา แต่มันมาพีคที่ว่าเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แถมเป็นลูกชายของทหารไรนั่นน่ะ (ยศไรไม่รู้จำไม่ได้ TT เพราะดูนานแล้ว 5555) มันทำให้ใจหดหู่มาก ไปหลายวันด้วย 55555

Life is beautiful อยู่ในลิสต์ของเราเหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่ได้ดูสักที เดี๋ยวต้องหาดูซะละ 555

0
Mycap 7 มี.ค. 59 เวลา 21:23 น. 19

เกลียดตอนจบเรื่องThe Mist มาก หลังจากดูจบนี่หดหู่มาก ไม่เข้าใจทำไมหักมุมได้ทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ แต่โดยรวมคือสนุกแต่ตอนจบก็นะ..เยี่ยม

1
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 22:36 น. 20-1

เรื่องนี้เราเฉย ๆ แหะ ขอโทษด้วยน่าตัวเอง อมยิ้ม

0
คอหนังสืบสวน 7 มี.ค. 59 เวลา 21:47 น. 21

เคยดูเรื่อง The mist ครับ บอกเลยว่าเรื่องนี้ผมชอบ มากกกกกกก แต่ตอนจบผมบอกเลยครับเงิบฝุดๆ เงิบจนอยากหยิบแผ่นออกมาหักทิ้งเลยหละครับ 5555+

มันเป็นหนังที่ดีจริงๆๆนะ แค่ตอนจบมันทำเอาคิ้วขมวดเป็นปมเลยหละ เหอๆโกรธแล้วนะ

0
คอหนังสืบสวน 7 มี.ค. 59 เวลา 21:47 น. 22

เคยดูเรื่อง The mist ครับ บอกเลยว่าเรื่องนี้ผมชอบ มากกกกกกก แต่ตอนจบผมบอกเลยครับเงิบฝุดๆ เงิบจนอยากหยิบแผ่นออกมาหักทิ้งเลยหละครับ 5555+

มันเป็นหนังที่ดีจริงๆๆนะ แค่ตอนจบมันทำเอาคิ้วขมวดเป็นปมเลยหละ เหอๆโกรธแล้วนะ

1
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 22:37 น. 22-1

คอหนังสืบสวนอย่างนี้ต้องลองดู Gone Girl เลยค่า

0
Lovely Dobi 7 มี.ค. 59 เวลา 22:40 น. 23

Gone Girlหักมุม+ช็อคมาก เรายกให้เป็นหนังอันดับ1ในดวงใจ
ปล. ท้ายๆเรื่องนี่จิตมาก

1
Chutamas T 8 มี.ค. 59 เวลา 01:06 น. 23-1

1 ในใจเลยเรื่องนี้ อยากแนะนำเรื่อง Dark Place ให้ดูด้วยจังเลย ><

0
count-ps 7 มี.ค. 59 เวลา 22:57 น. 24

ดูไม่กี่เรื่องนะ แต่เรื่อง the mist นี่แบบ ถ้าพระเอกรออีกนิดนึง นิดนึงเองงงงงงง. 
ส่วนเรื่องorphan. นี่ดูแล้วคันมือมากกก อยากมอบสักผัวะสองผัวะให้ตัวเอก 55555

1
Chutamas T 8 มี.ค. 59 เวลา 01:09 น. 26-1

ขอบคุณนะคะ ไว้จะลองดู The Fight Club นะ ปล. Exam เราดูแล้วละ ตอนแรกลังเลว่าจะเอาลงดีไหม แต่ก็ไม่เพราะกลัวหลาย ๆ คนไม่ค่อยเข้าใจ

0
Chutamas T 8 มี.ค. 59 เวลา 01:10 น. 27-1
ตกใจ เราว่า Funny Game นี่เงิบแค่จุดเดียว รีโมทในตำนาน อันนี้ไม่เข้าใจจริง ๆ

ปล. ที่ไม่ได้เอามาลงเพราะว่ากลัวมันจิตเกินไปค่า
0
suffertae 8 มี.ค. 59 เวลา 01:10 น. 28

ตอนดู The mist ตอนแรกก็เห้ย สนุกดี ใกล้จบแล้วลุ้นมาก พอถึงฉากจบปุ้ป อ่าวเงิบ คือจุดๆนั้นเหมือนโดนทิ้งไว้กลางทางมาก จะไปก็ไปไม่สุด จะถอยก็ถอยไม่ได้ #กรีดร้อง 

ส่วนตัวคิดว่า ender's game ก็หักมุมนะ แต่เป็นการหักมุมที่น้อยมากกกกกกกกกก แต่ก็สนุกดีนะ

1
Ostily De Acanedflow 14 มี.ค. 59 เวลา 15:08 น. 29-2

หักจนแตกสลายไปเลยตั้งแต่ฉากที่
.
.
.
.
.
.
*สปอยล์*
.
.
.
.
ขับรถข้ามเขาแล้วชนกำแพง คือมาอย่างลั่น ตอนนั้นนั่งช็อคเป็นไก่ตาแตก

ช็อค

0
พงศ์ 8 มี.ค. 59 เวลา 09:13 น. 30

เสียดายอดเข้ารอบอีก2เรื่องคือ Skeleton Key และ OThers 2เรื่องนี่เราว่าเงิบกว่ากอนเกิลอีก เพราะกอลเกินมันเป็นแค่ความเจ้าเล่ห์ของนางตัวร้าย แต่2เรื่องนี้หักแบบตะลึงมาก อย่างเรื่องแรกฉากจบอยากเอาถุงป็อปคอร์นขว้างคนแต่งเรื่องนี้ ส่วนเรื่องหลังดันไปเล่าเรื่องในอีกด้านหนึ่งแต่คนดูนึกว่าเล่าด้านเดียวกัน

1
Missy Luna 8 มี.ค. 59 เวลา 09:18 น. 31

Gone girl เราแนะนำให้อ่านแบบนิยายด้วยค่ะถ้าชอบ เพราะระดับความเงิบจะยิ่งกว่านี้อีก โดยเฉพาะบทสุดท้าย(จริงๆมันเงิบตั้งแต่ช่วงกลางๆเรื่องนะ) อ่านจบนี้เราอารมณ์แบบสติ๊กเกอร์อันด้านล่างเลย555


ป.ล.จริงๆจะมาแนะนำเรื่องfight club แต่เห็นมีคนแนะนำไปเเล้วเนอะ~

1
Chutamas T 8 มี.ค. 59 เวลา 15:07 น. 31-1

จริงงงงง เราดูหนังก่อนที่จะอ่านหนังสือ พออ่าหนังสือแล้วแบบ ดีเทล กิมมิค ลูกเล่นเยอะไปหมด

0
มัณทนา 8 มี.ค. 59 เวลา 14:33 น. 33
1.The Others ที่นิโคล คิดแมนเล่น
-ตอนท้ายเรื่องนี่หักมุมมาก
ฝ่ายที่โดนเข้าใจผิดคิดว่าเป็น "ผี" กลับเป็น "คน"
ฝ่ายที่คิดว่าตัวเองเป็น "คน" มาตลอดกลับกลายเป็น "ผี" เสียเอง
2.เปนชู้กับผี หนังผีไทยหักมุมระดับตำนาน
-ตัวละครเป็นผีทั้งเรื่อง
1
ผู้ไม่มีชื่อ 8 มี.ค. 59 เวลา 15:30 น. 34

ผมว่าบางเรื่องมันหักมุมแบบไม่ค่อยหักหลังนะ อย่างกอนเกิร์ลก็หักมุมมันแหละ แต่อาจจะติดอยู่อันดับ 4-5 ซักหน่อย บางเรื่องหักมุมกว่านี้อีก เช่น se7en , fight club , momento , the others , Take Shelter , saw , oldboy , american psycho , Identity , shutter island พวกเนี้ย

1
Chutamas T 8 มี.ค. 59 เวลา 19:55 น. 34-1

ขอบคุณที่แนะนำหลาย ๆ เรื่องค่ะ แต่เราก็มีเหตุผลบางอย่างที่เลือกสิ่งนี้มาอยู่ใน Ranking

1.เรื่องบางเรื่อง Plot เรื่องเข้าใจยาก (เกินไป) สำหรับผู้อ่านบางคนที่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่
2. เรื่องบางเรื่อง เนื้อหามีความรุนแรงค่อนข้างชัดเจน เช่น SAW , Funny Game , American Psycho และหนัง Horror อีกมากมาย

3. และเรื่องบางเรื่องที่เรายังไม่ได้ดู เราก็ไม่สามารถเอามาบอกได้ค่ะ ว่าอันนี้จะหักมุมเปล่า

ส่วนเหตุผลว่ามันหักมุมยังไงระดับไหน เราอธิบายไปใน Review เรียบร้อยแล้วค่ะ

ยังไงก็ขอบคุณมาก ๆ นะคะ

0
Chutamas T 9 มี.ค. 59 เวลา 11:45 น. 35-1

ถ้าคุณคิดว่ามันคือการสปอยล์ เราก็คงห้ามคุณไม่ได้ค่ะ ^^
แต่ที่เราบอกว่าตอนจบมันไม่ใช่อย่างที่คิด เพื่อเป็นการบอกกับคนอ่านว่า มันคือหนังหักมุม และ เป็นการเชื่อเชิญให้คนอื่นไปดูต่อ ว่าตอนจบที่มันไม่ใช่อย่างที่คิดเป็นอย่างไร

สุดท้ายอยู่ที่คนอ่านจะพิจารณาว่า คำว่า สปอยล์คืออะไรเน่อะ :)

ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านและ Comment ค่ะ

0
napatd 9 มี.ค. 59 เวลา 02:48 น. 36

เห้ย จขกท.คอเดียวกันเลย เราชอบดูหนังแนวนี้มากก ตอนดูหนังชอบเดาตอนจบ ชอบคิดไปก่อน ชอบเดาว่ามันต้องหักมุมแบบนี้ๆแน่ ถ้าหนังเรื่องไหนทำให้การเดาของเราผิดหรือเดาไม่ถูกแม้แต่นิด หรือถูกหักหลังนะ จะแบบ เห้ยยย คือ ตบมือในใจเลย หรือถ้าดูคนเดียวจะลุกขึ้นตบมือให้เลย คือที่จัดอันดับมานี่คือชอบหมดอะ บางเรื่องก็หักมุมแบบ...ต้องอุทานออกมาว่า...ถ้าแกไม่หักหนังแกสนุกกว่านี้นะเว้ยย แต่ก็สนุกมากทุกเรื่องอะ

แต่อยากแนะนำให้จขกท.ลองดูอีกสัก2เรื่องอะ ไม่รู้ว่าจะเคยดูหรือเป่า ถ้าเคยดูแล้ว ก็ขอโทษด้วยนะ
คือ มันเป็นหนังที่ไม่ค่อยดังมากเท่าไหร่ แต่พอดูแล้วมันแบบสุดยอดอะ เป็นหนังหักมุมที่เราชอบอีก2เรื่อง คือ
เรื่องที่1คือ The Illusionist(2006) เรื่องนี้เป็นหนังที่ในความคิดเราตอนดู เราว่ามันสนุกดี ดูได้เรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะมีหักมุมอะไร และตอนดูเราก็ยังคิดฉากหักมุมไปเองเลย55555 คิดไปเรื่อยว่ามันต้องมีงี้ๆแน่เลย ดูไปจนใกล้จบ ถอดใจละว่าคงมีแค่นี้แหละ จนถึง2นาทีสุดท้ายของเรื่องเท่านั้นแหละ เงิบครับ เงิบมากด้วย แบบเกินคาดอะ ที่เข้าใจมาทั้งหมด ที่ดูทั้งหมด มันจบด้วย2นาทีสุดท้ายอะ จนเราตาโตปากค้างเลยอะ แบบ เห้ย แกร แกรเล่นยังงี้เลยหรอ 

เรื่องที่2คือ FightPlan(2005) เรื่องนี้เป็นหนังที่อยากแนะนำมากกว่าเรื่องแรก ถ้าจขกท.ชอบแบบgone girl จขกท.ก็ต้องชอบเรื่องนี้ด้วย เเต่เรื่องนี้จะจิตวิทยาน้อยกว่าgone girl แต่เรื่องหักมุมพาเงิบนี่ไม่แพ้แน่นอน คือตอนเราดูอะ ก่อนจะดูรู้ก่อนว่าเป็นหนังหักมุมแหละ แต่เราเดาทุกฉากไม่เคยถูกเลย แบบตอนแรกหนังจะทำให้เราเชื่อแบบนี้ๆ พอสักพักเรื่องก่อนหน้าไม่ใช่เรื่องจริงเลย สักพักหนังจะทำให้เราเชื่อใหม่แล้วต่อมาอีกสักพักเรื่องที่เราเชื่อใหม่ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอีกอีก เป็นอยู่แบบนี้จนแบบ เห้ย จะหักมุมบ่อยไปไหน หักมุมแบบคาดการไม่ได้ด้วยนะ หักมุมพาเงิบ เงิบแบบสนุกมากด้วย พาลุ้นมากด้วย คือเราลุ้นและสนุกกับหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ฉากแรกจนฉากจบอะ คือสนุกมากกก เงิบมากกก เงิบแบบไฟไหม้บ้าน เงิบแบบต้องลุกขึ้นตบมือให้อะ ถ้าจขกท.ยังไม่ดู ลองหาดูนะ จะไม่ผิดหวังเลย  แต่ถ้าดูแล้วก็ต้องขอโทษล่วงหน้านะครับ ที่สปอยหนักมาก ไม่รู้ว่าจขกท.จะรู้สึกเหมือนกะเรามั้ย

1
Chutamas T 9 มี.ค. 59 เวลา 11:47 น. 36-1

โอววว เจอพวกเดียวกันแล้วววว ขอบคุณมาก ๆ เลยค่า

เรื่อง The illusionist (2006) เรายังไม่เคยดูเลย เดี๋ยวยังไงเราหาเวลาดูนะคะ

ส่วน Fight Plan ดูแล้วค่ะ ชอบเหมือนกัน :)

รักเลย

0
miwb2uty 9 มี.ค. 59 เวลา 20:02 น. 37

เดอะริงงงง the ring คำสาปมรณะ  ใครดูแล้วบ้างง เรื่องนี้อย่าง เอิ่มมม เราได้ดูแค่ภาคแรกภาคอื่นยังไม่ได้ดูแต่ภาคแรกที่ดูไปกลับมานั่งทะเลาะกับตัวเองตั้งสามวัน คือหาจุดจบไม่ได้ เรานั่งนอนก้คิดว่ามันเป็นยังไง โหววว สุดท้ายกูก้งง-ตลอดไปปปป ฮ่าๆๆๆๆๆ

สำหรับหนังไทยเราว่าเยอะนะที่หักมุมอ่ะ แต่คนที่มีประสบการณ์มาเยอะก้เลยเดาทางถูกไว้ก่อน เช่นเลาว์เป็นต้น ฮ่าๆๆๆๆๆ

1
Chutamas T 14 มี.ค. 59 เวลา 11:44 น. 37-1
ตกใจ จำไม่ได้เลยแหละ The Ring ดูนานมากเลย ขอบคุณที่มา Sahre กันค่า
0
Ostily De Acanedflow 14 มี.ค. 59 เวลา 15:11 น. 38

ยังมีอีกเรื่องๆ ! ลืมไปเลย หักมุมหน่อยๆ ไม่ได้มาก 
แต่สตอรี่เนื้อเรื่องดีมาก 

" Before I go to Sleep " 


ไม่เล่าเรื่องย่อละกันนะหาดูเองดีกว่า
หักมุมพอสมควร ไม่ได้มากมาย 
ที่ดูตอนนั้นดู Gone Girl บนเน็ตได้วันนึงเห็นเข้าโรงพอดี
เลยรีบแจ้นไปดู ชอบมาๆ 

2
Being good 14 มี.ค. 59 เวลา 15:57 น. 39

Six sense กับGone girlยอมรับว่าเงิบจริงๆค่ะ แต่ว่าorphanเนี่ย ก็เงิบนะคะ แต่พอหมอฟีลเงิบปุ๊ปอยากจะเอาอีเด็กเปรตนั่นไปถ่วงน้ำจริงๆเลย!! #อ้อ #อีกเรื่องที่เราว่าหักมุมมากนะคะ
Now you see meค่ะ #ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนกันรึเปล่า แต่เราเงิบมากกกก ถ้ารู้ตอนจบก่อย หนังเรื่องนี้จะไม่ระทึกตอนสุดท้ายเลย จะเป็นหน้าแบบนี้>>-_- #เว่อรๆ555

2
Ostily De Acanedflow 14 มี.ค. 59 เวลา 21:34 น. 39-1

ใช่ครับๆ Now you see me เชียร์อีกเรื่องนะ หักมุมในดวงใจ

มันหักตอนหลังคือแบบเงิบจริงๆ นั่งงในโรงคือแบบ ห้ะ WTF

ช็อค

0
Chutamas T 16 มี.ค. 59 เวลา 10:52 น. 39-2

เราเข้าใจในส่วน Orphan ดีมาก ๆ ค่า 5555 อารมณ์เดียวกัน ส่วน Now you see me เราเฉย ๆ เหมือนพอเดาออกหน่อย ๆ เลยไม่ได้อะไรมากค่า

0
YoOJi-San 16 มี.ค. 59 เวลา 02:36 น. 40
7. The Boy ส่วนตัวไม่หักมุมเท่าไหร่เพราะแอบโดนสปอยมาว่า เป็นหนังหักมุมและไม่ใช่หนังผี กลายเป็นเดาได้ตั้งแต่ต้นๆเรื่องซะงั้น หมดสนุกกันเลยทีเดียว
6. แฝด อันนี้จำไม่ค่อยได้แล้ว ดูนานแล้ว แต่จำได้ว่าพอดูไปเรื่อยๆก็พอเดาได้อยู่นะ
5. Orphan เคยคิดจะดูนานแล้วแต่ยังไม่ได้ดูซะทีเพราะคิดว่าหนังคงไม่อะไรมาก แต่เห็นจขกท. แนะนำว่าหักมุม เลยหามาดูซะเลย 55555 แอบเดาได้ว่าหักมุมยังไงเลยไม่เงิบเท่าไหร่ แต่ตอนท้ายๆมันส์มากชอบ ><
4. Drag Me to Hell (อันนี้ก็เพิ่งหามาดูเพราะจขกท.แนะนำ เหมือนกัน)สำหรับเรารู้สึกผิดหวังนะ นึกว่าจะหักมุมอะไรที่น่าประหลาดใจมากกว่านี้ซะอีก แอบเซ็งเบาๆ คือเดาได้ตั้งแต่...หล่น
3. The Mist เรื่องนี้ดูแล้วหงุดหงิดตั้งแต่ต้นจนจบ แอบมีสะใจตรงอิป้านี่แหละ 5555 ถ้าถามเราว่าหักมุมไหม เราเฉยๆอะ หนังเรื่อยๆไม่เงิบเท่าไหร่ อาจเพราะโดนสปอยมาด้วยแหละว่าจบไม่สวย
2. The Six sense (แก้ไขข้อความเพิ่มตรงนี้) เพิ่งดูจบตะกี้เลย อยากบอกว่าเดาได้ตั้งแต่นาที 50 ที่เริ่มเข้าเรื่องจิงจัง คือถ้าจับสังเกตได้นะเดาตอนจบได้จริงๆเรื่องนี้ แต่ถ้าไม่รู้มาก่อนเราว่าหนังเรื่องนี้หักมุม ก็น่าจะเป็นหนังที่เราน่าจะเงิบ(มั้ง)  
1.Gone Girl อันนี้เงิบมาก เงิบจริงๆ คือปกติเป็นคนชอบเดาเนื้อเรื่องอยู่แล้ว อันดับก่อนหน้านี้คือเดาถูกหมด เลยไม่เงิบเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้คือเดาพลาดแล้วพลาดอีก เงิบจริงๆ เป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องที่ปลื้มสุดๆ
ปล. สำหรับเรานะ แค่บอกว่าหนังเรื่องนี้หักมุมก็ถือว่าสปอยแล้วล่ะ เพราะเราเป็นพวกชอบดูหนังแล้วสังเกต เรื่องไหนที่มีปมไว้ให้เงิบ ส่วนใหญ่หนังจะบอกเป็นนัยๆไว้แล้วล่ะว่าจะหักมุมประมาณไหน ดูๆไปแล้วมันจะเริ่มเดาได้  
ปล 2. ขอบคุณที่มาแนะนำหนังนะคะ ชอบหนังเงิบๆแบบนี้แหละค่ะ ดูไปเดาไปจับสังเกตไปสนุกดี
1
Chutamas T 16 มี.ค. 59 เวลา 10:55 น. 40-1

ขอบคุณมาก ๆ ค่า ที่มาแชร์ความคิดเห็นกัน

- The Sixsense เราอยากลองให้ดู เพราะเป็นหนัง Flashback และ หนังผีคลาสสิกมาก ๆ
- ถ้าชอบเรื่อง Psychological twist plot เราแนะนะ Exam / Side Effect / The girl with dragon tattoo และอีกมากมาย หากถ้านึกออกจะมาบอกเพิ่มนะค

อมยิ้ม

0
Kluy 15 เม.ย. 59 เวลา 07:42 น. 41

พี่ครับเรื่อง six sense ผมเคยได่ยินเรื่องเล่าคล้ายจนน่าจะใช้
คือ เรื่องเหมือนเปี๊ยบแต่ในหนังเป็นงี้เปล่า
คือหมอเห็นภรรยาไปมีชู้
ภรรยาถอดแหวนทิ้งหน้าหลุมศพใครสักคน
หมอไปดูป้ายแล้วถึงกับเงิบ

1
Chutamas T 17 เม.ย. 59 เวลา 20:22 น. 41-1

โอวววว อันนี้ไม่แน่ใจเลย แต่ The six sense ที่เราดูไม่ใช่แบบนี้เลยค่าาา

0
Helloitsme 16 เม.ย. 59 เวลา 16:29 น. 42

อยากดู Gone girl ขึ้นมาเลย เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกันแต่ไม่ได้ดู ต้องดูซะแล้วว ขอบคุณนะคะ^^

1
Chutamas T 17 เม.ย. 59 เวลา 20:23 น. 43-1

อันนี้ว่าจะจัดแต่รู้สึกเหมือนวันนั้นไปดูเรื่องอื่นแทน 5555

0
ิbeam 22 เม.ย. 59 เวลา 22:27 น. 47

เรามา Who Am I ก็เงิบนะ ดูจบปุ๊ป ต้องนั่งนึกย้อนเรื่องราวกันเลยทีเดียว ที่คิดว่าใช่มันดันไม่ใช่อ่ะ 55555555

0
i-TooD_meuk 27 ส.ค. 59 เวลา 14:55 น. 49

เราว่าเรื่อง The visit กับ The Other นี่ก็เงิบนะ เงิบแบบเล่นงี้เลยหรอ แนะนำใให้หาดูคือแบบดีมากเรายังชอบเลย

0